เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    เหรียญเสมา ๘ รอบหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ปี ๒๕๑๘
    ๑) เนื้อทองแดง โค็ด นะ แดงแปร็ด
    ๒) เนื้อนวโลหะ ดำปื้ด
    ยังไม่แยกพิมพ์เลย ลงโชว์ครับ ยุคโควิด
    wv02hC9q8VI7tKV_O7MJkeV5q_6UgfLHc0nWSH4vDao-&_nc_ohc=wAmM0PI_NfAAX-sjBkG&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg

    YkrAd2VIKfK6yFDbYqpfthlIryB7snRNdfbXujiblZgX&_nc_ohc=lFe3KJxLxV8AX_IweLK&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg

    8ENKh8cZPDTpyYqoxdPMFQ8dguVNDZwPMS7UWNgdG-M4&_nc_ohc=UtQZerRshU0AX8izrTV&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    vF0aKZ0qLFbkYsNJGlBv2lJP&_nc_ohc=rpJ-uOjNjPUAX9KbRCF&tn=U1gkrpPW1RKkOILB&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    เหรียญนาคปรก รุ่น 8 รอบ ( โชว์ )
    ได้จัดสร้างพร้อมกับเหรียญเสมา และเหรียญห่วงเชื่อม เป็นที่ระลึกในงานทำบุญฉลองอายุ 8 รอบ 96 ปี ของหลวงปู่ทิมในปี พ.ศ. 2518 จัดสร้างขึ้น 3 เนื้อ คือ
    1.เนื้อทองคำ สร้างจำนวน 7 เหรียญ
    2.เนื้อเงิน สร้างจำนวน 397 เหรียญ
    3.เนื้อทองแดง สร้างจำนวน 20000 เหรียญ
    มีสามพิมพ์ จะเป็นพิมพ์ไหนผมยังไม่ได้แยก ต้องจัดห้องสมุดใหม่ด้วย ตอนนี้หาหนังสือยาก ผมยังไม่ได้แยก เก็บไว้ก่อน ขี้เกียจแกะซองน่ะครับ ชมแก้เซ็ง ยุคล็อคดาว์นโควิด

    อ้างอิง
    http://www2.g-pra.com/webboard/show.php...
    ท่านนี้แยกไว้ ๕ บล็อค ก็ตามศึกษาจากพวกท่านน่ะครับ ผมเก็บเก่า ตอนนั้นเขายังไม่แยกบล็อค
    https://www.facebook.com/GuaranteePra/posts/549308088564883

    IMG_029ๅ5.jpg IMG_029ๅ6.jpg
     
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    เหรียญห่วงเชื่อม 8 รอบหลวงปู่ทิม ( โชว์ )
    จัดสร้างในงานฉลองอายุครบ 8รอบ 96 ปีของหลวงปู่ทิมในปี พ.ศ. 2518
    ยังไม่แยกพิมพ์น่ะครับ โชว์เฉยๆ ผิวยังแดง เดิมๆ มาจากเฮีย จ ก็ไม่ได้ถูกมือใครอีก นอนกล่องมา สามสิบกว่าปีขึ้นไป

    IMG_029ๅ7.jpg IMG_029ๅ8.jpg
     
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ของที่ระลึกในการหล่อรูปหลวงปู่ทิม ( โชว์ครับ )
    ขออนุญาตไม่แกะกระดาษใสน่ะครับ กลัวเปื้อนมือ แหะๆ
    23 ม.ค.19 ลงเลขฝรั่งน่ะครับ ข้างในมีผงตะไบพระกริ่งและเส้นเกษาหลวงปู่ทิมหลายเส้น เส้นใสๆ และ เส้นออกทองๆก็มี อาจจะเป็นปประกายมาจากผงตะไบ ซื้อมาจาก เฮีย จ. หรือ อาจารย์ พ. เมื่อ กว่าสามสิบปีมาแล้วที่ พันธ์ทิพย์ประตูน้ำ แต่ขออนุญาต ไม่เอ่ยชื่อจริงอ้างท่านเข้าใจครับว่าวงการนี้ มันชอบอ้างกัน ผมไม่มีความจำเป็นต้องอ้าง เพราะเกิดทัน ซื้อมาจริงๆ แต่ไม่ทันได้จากมือหลวงปู่ ท่านมีล่ะสังขารปี ๒๕๑๘ ผมก็อายุ ๒๐ กว่าแล้ว แต่เรียนหนังสืออยู่ น่าเสียดายมากที่ไม่รู้จักท่านตอนนั้น มาทำงานแล้วจึงมารู้จัก สิบปีให้หลัง ก็ยังดี
    เอาว่า ซื้อมาจากแผงสายตรงยุคนั้นแล้วกัน เพราะเห็นมีเส้นเกศาและ ผงตะไบ ผมหาในเน็ทไม่มีแบบนี้น่ะครับ เข้าใจว่าชุดแบบนี้แจกกรรมการ ในงานพิธีหล่อรูปหลวงปุ่มั้ง เพราะถ้ามีให้บูชาน่าจะแพร่หลาย มีคนเอาออกขายบ้าง จัดเป็นของ limited ก็แล้วกันครับ
    ฟังท่านเซียนใหญ่ท่านหนึ่ง คงไม่ใช่สายหลวงปู่ทิม ท่านบอกว่า หลวงปู่ทิมผมไม่เล่น เพราะเป็นพระสายดันกัน ( น่าจะดันจริงๆอย่างท่านว่า เพราะแรงเหลือเกิน คนฮ่องกง คนจีนชอบ ) ผมก็เห็นด้วยน่ะครับ เกิดถูกลงมา บางพิมพ์ผมก็อยากได้มานานจะได้ซื้อมั่ง 55555555555
    ผมมีประสบการณ์กับเหรียญนั่งพาน และ ล็อกเก็ต หลวงปู่ทิมมานาน สามสิบกว่าปี คับขันไปบอกท่านเอาล็อกเก็ต หลวงปู่ทิมมาห้อยคอ ที่เคยโชว์ไป ข้างหลังมีตะกรุดมหาปราบ และ สงบอธิษฐาน ก็รอดมาทุกที ไม่อับจน ขัดสนแต่อย่างใด จัดว่าเป็นของทีเด็ด เหมือนปลัดจานบิน หลวงพ่อกวยที่ผมติดกระเป๋ามาตลอด สามสิบกว่าปีเหมือนกัน

    เส้นเกศา.jpg IMG_0291.jpg IMG_0292ๅ.jpg
     
  5. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ล็อคเก็ตหลวงพ่อลี วัดอโศการาม แบบตัวถังอลูมิเนียม
    ล็อกเก็ตแบบนี้ ทำกันมากยุค ๒๕๐๐ น่ะครับ หลายพระคณาจารย์ ตัวถังเคยส่องบางยี่ห้อมาจากเยอรมันก็มี จากญี่ปุ่นก็มี มีหนามเตยแบบ ๔ ตัวและ มีกระจกพลาสติกปิด สองด้านมาเอารูปหลวงพ่อใส่ และ อีกด้าน เป็นรูป พระพุทธ พระสมุทรเจดีย์ เขาวงพระจันทร์ก็มี มีหลายแบบ น่าจะสั่งทำมา
    ประเด็นคือ หลัง ๒๕๐๔ หลังท่านพ่อล่ะสังขาร น่าจะมีทำมาเรื่อยๆจนหมดความนิยม ผมมีแบบ ข้างหลังเป็นรูปพระธรรรมจักรด้วย
    เซียนสายตรงเขาไม่เล่นกัน ราคาจุ๋มจิ๋มมากแค่หลักร้อย คนไม่สนใจ และเข้าใจด้วยว่าทำไม แนวพิมพ์ใช่ เนื้อใช่ แต่ไม่ใช่
    แต่ ล็อกเก็ตในภาพ ฉากเขียวน่ะทันท่านพ่อจริงๆ แต่ก่อนเคยเป็นอันเดียวกัน แต่การใช้ของพี่ชายผม น้ำเข้า เกิดสนิมและ อลูมิเนียมกินตัวเอง เลยเก็บ จนตกทอดมาถึงผม จะเอาไปเลี่ยมก็แทบจะป่นแล้ว
    นอกนั้น ผมเคยเห็นล็อกเก็ตทำนองเดียวกันเป็นรูปท่านพ่อ หลังพระสมุทรเจดีย์ ล็อกเก็ตเขาวงพระจันทร์ที่เชื่อว่าท่านพอเคยแจก และล็อกเก็ต หลังเป็นรูปพระธรรมจักร
    แต่ไม่เคยเห็นแบบอันที่มีรูปพระพุทธตามรูป นั่งสมาธิ ทาทอง ฉากสีแดง แบบของผม ถ้าเจอผมซื้อแน่ และ แก่แล้วถึงเวลาเปิดเผยเลย ใครไปเจอแบบนี้คว้าไว้น่ะครับ ผมก็มีแค่อันเดียว เพราะหายาก ไม่ซื้อไม่ขายเด็ดขาด
    วันหนึ่งผมไปเดินท่านพระจันทร์น่าจะ เกือบสามสิบพ.ศ. มาแล้ว บริเวณร้านปากทางเข้า เจอล็อกเก็ตรูปท่านพ่อ อันปัจุบันที่เลี่ยมเงินนี่แหละ สภาพยังดี แต่ด้านหลังหลุดหายไป ผมสนใจ จึงไปถามต่อรองซื้อมา น่าจะแถวมากร้อย ประมาณ ๗ ถึง ๘ ร้อยบาท เพราะมีรูปท่านพอ่ลี แต่ ราคาแบบชำรุด กลับบ้านมา ผมเอารูปพระพุทธเข้าใส่ ใส่กันได้เป๊ะ จึงเอาใส่ กรอบ ไว้ ดีใจว่าซ่อมล็อกเก็ตท่านพ่อได้ ครึ่งหนึ่งก็ยังดี
    ล็อกเก็ตอันเดิม เป็นล็อกเก็ต ข้างหนึ่งมีรูปพระพุทธ นั่งบนดอกบัว สองชั้น มีฐานล่างตามรูป พระมีสังฆาฏิ แต่ปลายพระเศียร ขึ้นมาคล้ายๆหมวกพระฤาษี กระจกเป็นกระจกนูนแต่มีเหลี่ยมคล้ายๆ เพชร ไม่ใช่แบบนูนหลังเต่า หลังพลอยโดยทั่วไป ด้านหลังมีรูปถ่ายท่านพ่อลี เป็นรูปถ่ายน่ะครับ ตัดแบบ รูปไข่เลี่ยมพลาสติก ใส่อีกด้านโดยหนามเตยสี่ตัวล็อค ล็อกเก็ตเป็นอลูมิเนียม กะหลั่ยทอง น่าจะทำมาจากต่างประเทศ แต่การมาติดรูป น่าจะติดในประเทศไทย โดยช่าง คล้ายๆแถวงานช่างพยุหะ ที่เป็นที่แพร่หลายในยุคนั้น
    ล็อกเก็ตถ้าแบบนี้ ทันท่านพ่อลีน่ะครับ ผมยืนยัน แบบอื่นผมไม่แน่ใจ รู้ไม่พอ
    ผมเป็นคนเกิดต้นปี ๒๔๙๘ พอ ๒๕๐๐ น่ะ ผม ได้เกือบสามขวบ พอวิ่งได้แล้วด้วย และ ซนมาก
    คุณตาผม พระชัยปริญญา อดีตเป็นผู้พิพากษา ปลดเกษียณแล้ว เพราะป่วยเป็นอัมพฤต พำนักอยู่ที่อยุธยาครับ จะเล่าสั้นๆ ไม่งั้นยาว เพราะเรื่องเยอะ ตอนเช้าท่านตื่นมา จะคว้าไม้เท้า พกปืนบราวนิ่งกระบอกเล็กที่เอว แล้วเดินออกกำลัง ท่านจะมีเส้นทางของท่านตัดวัดร้างแถวๆนั้นแล้ว วกกลับมาแถว วัดหน้าพระเมรุ ก็ไกลหลายกิโลเหมือนกัน ท่านจะพูดโก้ๆ ว่าเดินรอบเกาะออกกำลัง จริงๆไม่รอบหรอกครับ แค่ส่วนเดียว แต่คนแก่แล้วคุยว่าเดินรอบเกาะ มันโก้ดีประมาณนั้น สายแล้ว จึง กลับมาทานข้าวที่บ้าน ยายผมเป็นแม่บ้าน ทำกับข้าว ฝีมือ น่าติดอันดับ ๑ ใน ๑๐ ของเมืองไทย ทำกับข้าวอร่อยมาก แค่ เอาผักมาผัด โช้งเช้งๆๆๆ มีต้มยำกุ้งและ หมูแดงซื้อมาจากหัวรอ กินข้าวกันหมดหม้อ ต้มยำกุ้งถึงขั้นขอดน้ำกินกันจนเกลี้ยงทำอร่อยจริงๆ คนพื้นเดิมอยุธยา ทำกับข้าวไทยอร่อยมาก ตอนผมไปบวชที่วัดหน้าต่างนอก สองครั้ง อาหารที่เขาใส่บาตร อร่อย จริงๆ ฝีมือจริงๆ รสชาด ฝีมือ ไม่ใช่แนวหวานทุกชนิดแบบคน กทม
    ปูพื้นให้ว่า นั่นเป็นกิจวัตรของคนแก่ กินบำนาญ เดือนล่ะ ห้าร้อยบาท ยุคนั้นเยอะมาก พอกินสบาย
    ก่อนไปเล่า ประโยคต่อไป จะบอกว่า ตาผม เป็นคนไม่นับถือพระเลย พระมาบิณฑบาต ท่านเห็นจะไล่เลย ไล่แบบไล่จริง ของใส่บาตร โยนทิ้งข้างทางน่ะแหละถ้าท่านเห็นพระแวะมาหน้าบ้าน ยายและแม่ผมต้องไปแอบใส่อีกด้านของสวน แถวที่ผมอยู่เขาเรียกหัวแหลม เลยจากตลาดหัวรอมาสัก สองสามกิโล ไม่ไกลมาก
    แต่ปลก ตาผม ดัน มีเพื่อนเกลอ เป็นพระอยู่องค์ ไม่ใช่นับถือแบบพระ แต่ มีคารม โต้เถียงกันได้ทันกัน เลยชอบประคารมกัน เป็นเจ้าอาวาส วัดหน้าพระเมรุ ( ท่านชื่อสนธิ์ ยิงกระสุนแม่นมาก ) แต่ถ้าพระองค์อื่น มาบิณฑ์ ท่านจะไล่เลยว่าพระขี้เกียจ มาขอเขากิน และเป็นมานานแล้ว ไม่ใช่มาเป็นตอนแก่ เพราะไปเป็นผู้พิพากษาที่ลพบุรีและ สุรินทร์ ก็แบบนี้แหละ ตกเย็น จะมาก๊งกัน ยายผมดึกแค่ไหนก็ต้องตื่นมาทำกับแกล้มให้กิน ตากินเหล้ามาก ทำงานก็เครียด เพราะขยัน จนเส้นเลือดสมองแตกเป็นอัมพฤต เขาให้ลาออกมีบำนาญมารักษาตัวอยู่หลายปี ไปหลายที่เช่นชุมพร กรุงเทพ ปากน้ำ หาที่อากาศดีๆรักษาตัว จะสรุปว่าตาผมเป็นคนไม่มีศาสนาประจำใจ แต่มีกษัตริย์ประจำใจแทน มีชื่อพุทธตามทะเบียนเกิด น่าจะตายไปแบบนั้นตอนแก่ๆ แต่ ...... ไม่ครับ
    เรื่องมีอยู่ว่า เช้าวันหนึ่งท่านเดินไปรอบเกาะตามปกติ ผ่านเจดีย์ร้างน่าจะแถววัดราชบูรณะ เป็นวัดใหญ่ แต่ยุคนั้นรก มีแต่ต้นไม้และทางเดิน ถนน คุณตาผมไปเห็นพระธุดงค์ครับ สามรูป กางกลด ในเจดีย์ร้าง ยายผมเล่าว่าตั้งแต่เกิดมา ตาผมไม่เคยเห็นพระธุดงค์ครับ เคยแต่ได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเห็นกับตา เห็นแต่พระบ้าน แนวคาถาอาคม ยุคนั้น พระธุดงค์ธรรมยุต น่าจะหาตามเมืองยาก พระบ้านมหานิกายที่เคร่งๆ จะธุดงค์ ท่านก็ไปเดินในป่า ไม่มาปักกลดในเมือง
    แต่พระธุดงค์ มากางกลดตรงนั้น ท่านมีเจตนาครับ สามรูป ผมจำชื่อได้ สองรูปตามที่ยายและแม่เล่า
    ๑) หัวหน้า คือ ท่านพ่อลี
    ๒) อีกท่านคือ หลวงปู่เจี้ยะ จุนโท ลูกศิษย์ท่านพ่อลี
    ๓) อีกรูป จำไม่ได้ ขออภัย มันนานก่อนผมเกิด
    ความที่ตาผมไม่เคยเห็นพระธุดงค์มาก่อน พระที่ไหนตัวดำๆ มีมุ้งมากาง เอ......สงสัยว่าเป็นคนร้ายหรือไม่ มาแอบขุดสมบัติ สงสัยเลยเข้าไปสืบสวน สังเกตุการณ์ ปืน มี ไม้เท้ามี 5555555 แต่แก่แล้ว แต่ใจสู้ ประมาณนั้น
    ข้อความในการพูดคุยไม่เป็นที่เปิดเผยหมดจากตาผมและท่านพ่อ แต่ประมาณว่า สงสัยเลยเข้าไปถาม ท่านพ่อบอกมานั่งมาคุยกัน คุยกันไปมา ที่ตาผมนึกท่านพ่อดักถูกหมด และเรื่องที่คิด อะไร ท่านพ่อรู้ ท้าวความลึกไปจนถึงไส้พุง ยายผมบอกว่าตาผม เหงื่อแตกทีเดียว ใครหว่า หน้าตายังเด็ก ๆไม่รู้จัก ดันมารู้เรื่องของตาผมไปหมดในอดีต เกิดมาไม่เคยเจอใครแบบนี้ ( คู่นี้น่าจะมีบุพกรรมกันมา และคงถึงเวลา ไม่งั้น จะตายไปคงลงนรกแน่นอน เพราะปรามาสพระท่านไว้เยอะ ท่านพ่อเลยมาโปรด ช่วยให้พ้นนรก หรือพ้นจากมิจฉาธิฐิ แต่ตาผมท่านเป็นคนตรงน่ะครับ ตรงเป๊ะเป็นไม้บรรทัด แค่ไม่นับถือพระแค่นั้นเอง ว่าจะคุยกันแป็ปเดียว ตกลง คุยกันนานทีเลยจนสาย ไม่กลับบ้าน นัยว่าคุยกันแบบถึงพริก ถึงขิงมาก เพราะตาผมเป็นนักกฎหมาย สอบได้จากกรุงเทพ ไม่แน่ใจว่าธรรมศาสตร์ตั้งหรือยัง เป็นผู้พิพากษามาหลายสิบปี ถือตัวว่ามี ปัญญา มีความรู้ หลงตัวเอง ประมาณนั้น ....แต่ ไปเจอ พระผู้มีปัญญากว่า หน้าตาชาวบ้าน มาจากอีสานตัวดำๆ แต่รู้ไปหมด จนตาผมหมด ทิฐิคลาย มาเจอคนจริง พระจริงเข้า ต้องยอม
    ตากลับมาบ้านบอกยายผมตัดชุดขาวทันที แล้วเตรียมของใส่ย่าม ยายถามว่าทำไม ตาบอกฉันจะไปธุดงค์ตามพระท่านไป
    ยายผม อุทาน ฮ้า แทบช็อค แก่ก็แก่แล้ว จะไปรอดหรือนี่ ตอนนั้นน่าจะอายุประมาณ ๖๐ กว่าๆ อยู่บ้านยังต้องหาข้าวหายาให้กิน ทัดทาน แต่ตาผมจะเอาให้ได้ ยายผมและ น่าจะมีพวก ลุง น้าผม เลยมากับตา แห่ไป หาพระ ไปคุยกับท่านพ่อ ท่านพ่อท่านก็รอยังไม่ธุดงค์ต่อ จะรอ พระชัยปริญญานี่แหละ จะะเอา ตัวไปด้วย ไปเป็นลูกศิษย์ ( จะได้พ้นนรก ) .......... เรื่องนี้โคตรดราม่า แต่ตาผมประเภท คนมุทะลุ ใจถึง ไปเจอท่านพ่อลี หลวงปู่เจี้ยะที่เป็นพระนักเลงด้วย แบบเอาไง เอากัน คงถูกใจสุดๆ
    หลังจากคุยกันพักใหญ่ ยายผมให้เหตุผลว่า พระชัยปริญญาแก่แล้ว เป็นอัมพฤต เดินป่าก็ไม่เคยไปเอง ไม่เคยอดข้าวกินมื้อเดียวหรือ สองมื้อก็ตาม ไปไม่น่าจะรอดหรอก ต่อรองท่านพ่อว่าจะไปที่ใด สรุปว่าท่านพ่อบอกกำลังจะไปวัดป่าคลองกุ้งที่ จันทบุรี ประมาณ วันนั้น วั้นนี้ ถึงเป็นเดือนๆน่ะแหละ ( ไกลน่ะยุคนั้น ) เลยตกลงว่าจะพา ตาผม ไปกราบท่านพ่อ ไปอยู่ด้วยกันที่วัดตามเวลา นั้นๆ ...และเป็นไปตามนั้่นเลย จะสรุปว่า ตาผมไปเป็นศิษย์ท่านพ่อ เรียน สมาธิ วิปัสสนา กับท่านพ่อ จนท่านพ่อให้กลับบ้าน แต่ก็ไปหามาสู่ไปกราบท่าน เป็นระยะ พอคิดถึง มีปัญหา จนท่านย้ายมา วัดอโศการาม แต่ตาผม ตายไปซ่ะก่อน ยายเล่าว่า กลับมาตาเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน นั่งสมาธิ เดินจงกลมอย่างเดียว แบบทั้งวัน ทั้งคืน ถือศีลแปด เลิกพูดจาเพ้อเจ้อ พูดนอน นอนน้อย ปฏิบัติเยอะ แบบเอาเป็นเอาตาย ......จนมีจิตรู้ รักษาคนได้ที่เป็นญาติ เช่นป้าผมป่วย ท่านเพ่งจนเหลือจุดแดงๆนิดเดียว ตามภาษาท่าน ท่านว่า คงเป็นกรรมรักษาได้แค่นี้แหละ ที่เล่ามาไม่ได้คุย แต่ ท่านเอาจริงมาก หลังจากตาผมตายไป งานศพเสร็จ
    คืนหนึ่งยายผมเห็นตาผมเดินมาในอากาศ กับ น้องชาย อีกคนที่ตายไปก่อนหน้าแล้วเหมือนกัน เดินมาเยี่ยมแบบเห็นด้วยตาเนื้อนี่แหละ ตัวใสๆ มีแสง แต่งตัวอย่างดี ใส่หมวก ถือไม้เท้า เดินมาทางทิศตะวันออก ผ่านบ้านไป ยายผมเห็นยกมือไหว้ บอกไปเถอะ ไม่ต้องห่วงอะไร ที่เหลือจะดูแลเอง เขาโตๆกันแล้ว ตาผมและน้องชายก็เดินลับหายไป แล้วไม่เห็นอีก ( ป.ล. ยายผมจิตดี เก่งด้านคาถาอาคม ดับพิษไฟได้ชงัด และไม่กลัวผี )
    ที่เล่ามาเพื่อท้าวความว่า ตระกูลผมรู้จักท่านพ่อมาตั้งแต่รุ่นตา พอรุ่นแม่นี่ ท่านพ่อ มาอยู่ที่วัดอโศการามแล้ว มาสร้างวัด ทุกเช้ามืดวันเสาร์ แม่ผมจะเอาพระเหรียญ ท่านพอมากลัดที่เสื้อทั้งยังหลับๆอยู่แล้วอุ้มขึ้นรถไป ไปสว่างที่ใกล้ๆวัด ไปใส่บาตร ทำบุญที่วัดอโศการาม มีลูกน้องตามไปทุกครั้งหลายคนเอารถตู้ ฟอร์ดไป จะไปกราบท่านพ่อกัน ที่ไปขอหวยก็มีน่ะครับ แฮ่...... ได้ซ่ะด้วย แต่ต้องแอบแม่ผมไม่งั้นโดนดุ น่าจะไปเมียงๆดูอาการท่านพ่อ ว่าหวยออกอะไรประมาณนั้น มีเยอะยุควันใกล้หวยออก จะไปกราบท่านพ่อ ผมเคยคุยกับคนได้ด้วย เป็นคนอีสาน ขับรถให้แม่ผม ไม่รู้ไปอ้อนท่าไหน ท่านเขียนใส่กระดาษปาให้ ตรงๆไม่ต้องกลับ เลยเอามาเล่าให้กันฟัง ท่านพ่าอยิ่งดังเข้าไปอีก เพราะคนบ้าหวยก็เยอะ .... ผมไปวัด จะหนักไปทางกินและเล่นส่วนใหญ่เพราะยังเด็ก หลังพระฉันแล้ว ของเหลือมากด้วยบารมีท่านพอ ของดีๆทั้งนั้นทุเรียน แอบเปิ้ล กับข้าว ขนม ......แต่พระป่าน่ะ ท่านฉันหน่อยเดียว ข้าวของจะเหลือ เมื่อพระอนุญาต ก็ทานกัน และเอาเลี้ยงหมา หมาที่วัดท่านเยอะมาก เพราะอาหารดี แต่จะมีหลายฝูงแบ่งกัน กินอิ่มแล้วผมจะไปวิ่งแถวๆ กุฏิ พระ แม่ชีที่ทำยื่น ออกไปในทะเล ไปดู ปูและปลาตีนชุกชุมมากครับ
    ท้าวความมา ผมเจอท่านพ่อลีตั้งแต่จำความได้ จะบอกเหตุการณ์บางตอน ที่จริงมีหลายตอน ไม่ได้โม้ เกิดทันท่านจริงๆ
    ๑) ท่านจะให้นั่งสมาธิทั้งโยม ทั้งเด็ก พอฉันเสร็จ กินข้าวเสร็จ มีเทศ ไม่พูดมาก ท่านให้ เด็กเล็กแบบผมท่านก็จับนั่ง พุทโธ ๆ ๆ เจอประจำ บ่อยมากซึ่งท่านก็น่าจะทราบผมแค่ สามสี่ขวบ ท่านพ่อล่ะสังขารผมแค่ ๗ ขวบเอง ยังชอบเล่นมากกว่า
    ๒) แจกพระ บางทีไปกราบท่าน ถ้าวันไหน แวะไปสายหน่อย ( แม่ผมไปบ่อยมาก ด้วยนับถือท่านพ่อ ) สายๆหน่อยเลยไปกราบท่านที่กุฏิ ท่านกำลังกดพระอยู่เองครับ ผมจำแม่พิมพ์ได้ด้วย เป็นแม่พิมพ์ อลูมิเนียมสองอันประกบกัน มีหลายอัน พอกดเนื้อ เอาหัวแม่มือดัน ติด จะปลด แม่พิมพ์ขอบออก จากอีกตัวที่แกะเป็นรูปพระ พระจะติดมาแล้วเอาวางที่ถาด เอาน้ำมันทาพิมพ์ ปั้นเนื้อพระกดอีก และไม่ได้โม้ ผมเคยไปช่วยกดด้วย ที่ ใต้ศาลาพระเจดีย์ จุฬามณี ตอนนั้น เพราะท่านทำเยอะ เป็นล้านองค์ กดกันไปเรื่อย พอไปกราบท่าน ท่านถามได้พระหรือยังหรือเอาอีก ท่านจะกอบพระที่แห้งหมาด ให้ทีล่ะกำ ท่านพ่อลีไม่แจกทีล่ะองค์น่ะครับ แจกที่ล่ะกำ ให้ ผมยังเก็บไว้อยู่และที่ใส่เอาไปเรียน ตปท จนป่นแตกไปองค์เป็นพระว่านที่เขาเรียกกันช็อกโกแล็ตนี่แหละ ขอบทาทอง
    ๓) ท่านพ่อเป็นคนพลังจิดแรงมากๆ บารมีจิตของท่านสะสมไว้เป็นขุมพลังอันมหาศาล ทำน้ำมนต์ ที เขาเอาน้ำใส่ เป็นถังๆมา ท่านเป่า พ้วงๆ ๆ ใช้ได้ ไม่ต้องมานั่งหลับตา เสกให้เสียเวลา เอาไปตักแจก กรอกใส่ขวดกัน รูปถ่ายมา เอามาขอท่านเป่า ท่านเอาปากกาเซ็นต์ชื่อให้ เอาไปติดร้านค้าขาย เฮงๆๆ
    ตัดให้สั้นจนมาถึงล็อกเก็ตอันนี้ แม่ก็ได้แจกจากโยมกันเองมา แถวๆนั่งกันนั่นแหละ จะมาจากโย หรือจากพระผมไม่แน่ใจ เพราะมันนานจัด เอาแบบให้มั่นใจ แม่ผมให้ เอาพระใส่ถาดให้ผมคลานไปหาท่านพ่อ ยกให้ท่านเสก ท่านเห็นหัวร่อเลย ปากยังเคี้ยวหมากอยู่น่ะครับ เอามือขวามากำพระล็อกเก็ต อันนี้ แล้วเป่าพ้วงดังลั่นศาลาครับ แล้วว่าคืนให้ในถาด ตอนเป่า น้ำหมากกระเด็นมาถึงผมด้วย และ บางครั้งท่านเป่าหัวให้ ล่ะหัวแดงเลยเพราะน้ำหมาก ติดมาด้วย แต่น่ารักครับ ชอบด้วย รักท่านพ่อมาก ท่านตัวไม่ใหญ่ คล้ำเพราะน่าจะโดนแดด ลมมาเยอะ แต่เป็นท่านคนคล่องแคล่ว อัทธยาศัยดี ยิ้มแย้ม แจ่มใส เป็นคนที่มีโหวงเฮ้งและบารมีสูงมาก ไปที่ไหน คนจะไปรุมท่าน เท่าที่ผมพอจำได้ แบบหลวงพ่อคูณน่ะครับ เหมือนกันเลย มีงานที วัดแทบแตก
    เพราะฉนั้นล็อกเก็ตอันนี้ยิ่งว่า ที่มาที่ไปดีซ่ะอีก ได้กับมือเลย เสกให้ด้วย ท่านพ่อลี เสกของไม่นานน่ะครับ น่าจะแนว หลวงพ่อจงเลย เป่าพ้วงเดียวเอาไปรบได้่
    เล่าต่อ ก็น่า จะถึงเที่ยงคืนเอาว่า ล็อกเก็ตอันนี้ผมลองเอาไปแหย่ๆ ในเว็บสายตรง เขาบอกไม่ทันครับ หรือ เก๊ไปเลย เขาไม่เล่น ผมฟังไม่ได้โมโหอะไร แต่ดูหน้าตา คนพูดจากรูป น่าจะเกิดไม่ทันท่านพ่อหลายสิบปีทีเดียว
    เซียนพระจะแบบนี้แหละ เล่นที่ขายได้ ที่ขายไม่ได้ หรือไม่แน่ใจ ตีพระเก๊ หรือไม่ทัน ง่ายดี
    ผมมาเล่าเรื่องแบบนี้ จะบอกว่าลุงนี่โม้ไปเลย ไม่ทันก็ไม่ทัน แต่เป็นคนคลานเอาไปให้ท่านเสกกับมือ ใกล้แบบจับจีวร จับเท้า จับขาท่านได้น่ะแหละ ..เอ ผมจะเชื่อใครดี
    ยังมีต่อน่ะครับ ถ้าสนใจ เดี๋ยวค้นพระมาจะเล่าต่อ แต่จะบอกว่าแม่ผมเป็นหมอ ลูกน้องเยอะ คนไข้มาเจาะเลือดเยอะมาก พวกทหารมีเพียบ ทั้ง จปร และ นายสิบ พลทหาร แฟนคลับเพียบ ท่านก็แจกแหลก ผมไปเรียน อเมริกากลับมา พระท่านพ่อไปซ่ะเกือบหมด กล่อง บางองค์ผมต้องไปตามไถ ลูกน้องเก่า คนที่เคยขับรถให้แม่ผม ชื่อน้าน้าว คนอีสาน มีเหลือแจกไหมขอองค์ ขนาดนั้นน่ะครับ ... เลยมีไม่มากจริงแต่พอมีครับ
    ปัจฉิมวัย ของพระชัยปริญญา
    ตาผมท่านออกไปเดินรอบเกาะตามปกติ แต่มายุคนี้น่าจะเดินภาวนาไปด้วย แบบ เดินจงกลม เดินธุดงค์ กำหนดสติไปตามย่างเก้า กลับมาถึงบ้านบ่นกับยายผม วันนี้เหนื่อยจัง เลยล้มตัวลงนอน ( ไม่ทราบทานข้าว ท่านน้ำก่อนไหม ครุ้เรื่อง ก็ยายผม แม่ผม น้าผม ตามตาไปหมดแล้ว ) จนยายผมเห็นนอนนาน เลยไปปลุก ปรากฎว่าตาผมกลับไปทางช้างเผือกแล้ว ไปง่ายๆแบบนี้แหละครับ ขนาดมีหลายโรคไม่ได้นอน โรงพยาบาลแต่อย่างไร
    .....................................................................................................
    เอาพระท่าานพ่อลี ที่พอมี และถ่ายรูปไว้แล้วมาโชว์ต่อท้ายน่ะครับ
    บางรายการซื้อมาเพิ่มทีหลัง บางรายการเก็บไว้ เซียนเขาไม่เล่น เช่นพระกริ่งประทานพร ซึ่งยุคนั้นทรงคล้ายๆกันออกมาหลายวัด มีไปแก้แบบเป็นกุมารทองของวัดดังก็มี ไม่รู้ใครล้อใครน่ะครับ

    111121.jpg IMG_0261 (2).JPG IMG_0262 (2).JPG IMG_0270 (2).JPG IMG_0271 (2).JPG IMG_0272 (2).JPG IMG_0273 (2).JPG IMG_3864.JPG IMG_3865.JPG IMG_3973.JPG IMG_3974.JPG IMG_4181.JPG IMG_4182.JPG IMG_4183.JPG IMG_4184.JPG IMG_4186.JPG IMG_4187.JPG IMG_4188.JPG IMG_4189.JPG IMG_4190.JPG IMG_4191.JPG IMG_4192.JPG IMG_4193.JPG IMG_4194.JPG IMG_4195.JPG IMG_4196.JPG IMG_4197.JPG IMG_4198.JPG IMG_4199.JPG IMG_4200.JPG IMG_4201.JPG IMG_4202.JPG IMG_4203.JPG IMG_4204.JPG IMG_4205.JPG IMG_4206.JPG IMG_4207.JPG IMG_4208.JPG IMG_4209.JPG IMG_4210.JPG IMG_4211.JPG IMG_4212.JPG IMG_4213.JPG IMG_4214.JPG IMG_7164 (2).JPG IMG_7165 (2).JPG
     
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ล็อกเก็ตหินอ่อนท่านพ่อลี พิมพ์แบบปากแดง และ พิมพ์ยืนถือพัดยศพระราชาคณะ
    พิมพ์ที่ท่านคล้าย อมอะไรน่ะ เป็นหมากน่ะครับ ท่านฉันหมากปากแดงประจำ แบบคนโบราณ ล็อกเก็ตแบบหินอ่อนแบบโบราณ เก่าถึงยุค
    ท่านพ่อใจดี พลังจิตสูงมาก จะเคี้ยวหมากไป คุยไป ผมเด็กไปแย่งไม่ทัน ชานหมากท่านน่ะ เขาจ้องกัน แต่เห็นมีคนขอไว้ก่อน ท่านจะคาย เป่าแล้ว ส่งให้ แต่หายาก เล่นยากน่ะครับ
    พระนี่ เป็นพระเก็บสะสม เดี๋ยวอีกพิมพ์ผมมีเรื่องเล่า แบบรูปไข่ พิมพ์ปากแดง รูปไข่มาตรฐาน น่ะเป็นของทำมาเยอะ จากร้านทอง ลูกศิษย์ใกล้ชิด น่าจะทั้งสายสมุทรปราการและ จันทบุรี เป็นของ เฉพาะกลุ่ม เล่นยาก ราคาแพงติดลมบนหลักหลายแสน ทำมาแบบเฉพาะตัวก็มี
    ของพวกนี้ ถ้าทำมา มาขอให้ท่านเป่าให้ ท่านเป่าพ่วงเดียวแหละ ไปตีกับเขมรได้เลย ให้เซียนท่านเล่นกันไปเถอะครับ ผมแค่เกิดทัน และ ไปกราบท่านพ่อกับคุณแม่ แทบทุกอาทิตย์ จนท่านล่ะสังขารไปด้วยอากาศ หัวใจโต ในปี ๒๕๐๔ ตอนนั้น ผมก็ ๗ ขวบแล้ว เอาเล่นที่ทันท่านก็พอน่ะครับ
    ปี ๒๕๐๐ ยังร่วมสร้างพระเจดีย์จุฬามณี และ หลวงพ่อเศียรกับท่าน เคยไปงานกฐินวัดป่าคลองกุ้งครั้งหนึ่ง ไกลโคตรๆ และ มืดมากตอนกลางคืน ท่านเป็นพระบารมีมาก คนรุมกันแบบ หลวงพ่อคูณ ไม่มีเวลาว่าง เดี๋ยวยกไปเล่า ในช่วงหน้าเอาเท่าที่จำได้
    ..........
    JVeccEx2JeaUwuaZuLHofGgH8M3W0OD6VermIeO1OhRR&_nc_ohc=flCBB0_XPxcAX8mGGxL&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg

    p3koPcjDwzK8TPGjZ9y5nc6ArwGp8_reCvlWyezzu_ww&_nc_ohc=nbZduPWUxs0AX-cAa2K&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg

    J1DrR1EhpuAR2VemqrMdXNtuKjN5VKuC0VvKBU9dRAy1&_nc_ohc=zpp4R652gRYAX-5TXmM&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    nuLOsnVTz0tP0-A0hHrYv0REbit9nBQQhYZPyo_x8069&_nc_ohc=YYXKtOUiKVsAX9FDHVL&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    เหรียญนั่งพานหลวงปู่ทิม พิมพ์เสมา ผิวแดงมันปู มีจาร
    ไปค้นๆกล่องเก่าๆ เอามาโชว์นิดไม่โชว์มาก ยังไม่ได้เวลา เพราะเหรียญนี้เป็นของใช้บูชา ยุคหนึ่งห้อยตลอดมาหลายสิบปี จนเลี่ยมปลาสติกเก่า
    ยุคนั้นเขื่อว่าเหรียญนี้ แก้กรรมได้ เพราะ เขาว่ากัน หลวงปู่ทิมเสกก่อนเข้า โรงพยาบาล สมเด็จ ณ ศรีราชา แล้วเอามาแจก น่าจะมีการเสกใน โรงพยาบาลด้วย ท่านแจกให้ หมอและพยาบาล และคนที่ไปเยี่ยม สรรพคุณ ไปในทางรักษาโรค แก้โรคเวร โรคกรรม ที่ไม่เกินกรรม และ ท่านก็เมตตาโปรดให้ทุก สรรพคุณเพราะเป็นเหรียญสุดท้ายของชีวิตท่าน แบบทิ้งทวน คนทำเป็นศิษยืก้นกุฏิ ว่ากันว่า แนว มหาอุด แคล้วคลาด และมหาอำนาจ อัดให้เต็มที่ เพราะพอกลับวัดได้ไม่นาน ท่านก็ล่ะสังขาร ไม่ได้มีรุ่นเสกพระแบบเป็นทางการอีก
    คนขออนุญาตสร้างเหรียญ คนจารหลัง คนขายผมก็คนเดียวกัน เจอต้นตอเลยล่ะ เป็นศิษย์สายตรงจริงๆของหลวงปู่ทิม กิน นอน ปรนนิบัติ หลวงปู่ทิม ที่กุฏิน่ะแหละครับ ใกล้ชิดกว่านี่คงหายาก
    พอ ยุคเฮียเขามาเปิดแผงที่พันธ์ทิพย์ประตูน้ำ กับแฟนของเฮียเขา ขาวๆ หน้าตาดี น่าจะเป็นคนเมือง ผมๆได้ยิน พี่สาวเขาพูดแว็บๆแต่ผมไม่ได้ทักภาษาเมืองกลับ คุยธรรมดาภาษษไทย จัดว่าเป็นผู้จัดการ คอยเป็นมือสอง จำหน่ายพระแทนเฮียเขา ..... ปัจจุบัน ผมเคยทักไปเฮียเขาในเน็ท แต่ เฮียเขา อาจจะจำไม่ได้ หรือ พระหลวงปู่ทิมการเมืองเยอะ มีราคาแพง มีเซียนเก่า เซียนใหม่ น่าเวียนหัว ....อาจจะมีคนไปอ้างเฮียเขามาก เฮียเขาอาจจะรำคาญ ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยว อันนี้ รับทราบและเข้าใจตามนั้นครับ
    พระอยู่ในเลี่ยมมา สามสิบกว่าปี ยุคนั้นผมทำงานในทะเล มา กทม ทีไรเจอควัน เจอฝุ่น กทม แพ้อากาศอย่างแรง ถึงขั้นป่วย ( ยุคนั้นน่าจะ มลพิษเยอะ ) ต้องรักษาทั้งยาฝรั่งและยาไทย พอทุเลา เขาว่าเหรียญหลวงปู่ทิมแก้โรคกรรม เลยเช่าหามาติดตัวก็ได้ผลน่ะครับ บรรเทา ลงไปเยอะ เอาจากแผงเฮียเขา ใน พ.ศ. ราคาจำได้ ๗๐๐ บาท ตอนนี้ราคาน่าจะถีบไปร้อยเท่า เพราะเหรียญรุ่นนี้ ประสบการณ์เยอะจริงๆ เป็นเหรียญหลวงปู่ทิมที่เอาไว้ห้อย รุ่นแพงๆกว่านี้ เอาไว้ขาย
    พ.ส. นั้นแฟนผมทำงานตรงราชเทวี พอขึ้นฝั่ง ผมไปรับแฟน หาเรื่องไปสนามพระพันธ์ทิพย์ ประตูน้ำ ไปส่องตลาดพระติดแอร์ พอมีเงินจะอุดหนุน พระจากแผงเฮียเขาประจำ ตามกำลัง เสียดาย ไม่ตัดใจเช่าพระกริ่ง ชินบัญชร ยุคนั้นราคาประมาณ ๗๐๐๐ บาท น่าจะกัดฟันมาสักองค์
    เอาเหรียญนี้มาโชว์เพราะจะโชว์สมเด็จหนึ่งองค์ให้ดูน่ะครับ เช่ามายุคนั้นแหละ เลยถ่ายรูปเหรียญนี้มาโชว์ด้วย ถ่ายในเลี่ยมอาจจะไม่คมชัด แต่เหรียญ สภาพเดิมๆ มีจารหลังชัดเชน และโค็ด ท กลมๆ ด้านซ้ายมือของหลวงปู๋ติดชัดเจนครับ
    ......................................................................
    อ้างอิง
    https://siamrath.co.th/n/170099
    ik5jjJ4xjaYBaDP-mnGpEyFtqz9wiOOvymzCS4s8Rg4s&_nc_ohc=IpZouZsjrcQAX9wFGif&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg

    OJV_-LE9fdjs9HcpEZgFgpp1Ax1-mU183AlASaZ7IxqC&_nc_ohc=GW8LlGm6PzoAX8INKSx&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg
     
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    สมเด็จผงพรายกุมารหลังเรียบ หลวงปู่ทิม เนื้อเหลือง
    ซื้อมา เฮีย จ. หรือ อาจารย์ พ. จากพันธ์ทิพย์ ประตูน้ำ เมื่อ สามสิบกว่าพ.ศ. ประมาณ พ.ศ. ๒๕๒x ปลายๆ หรือ ๒๕๓๐ ต้นๆ แผงเดียวกับเหรียญนั่งพานน่ะแหละครับ
    ผมเคยไปทักท่านในเน็ท ใน FB ท่าน เพราะเห็นว่ารู้จักกันมาก่อน ผมเป็นลูกค้าขาประจำเลยล่ะ ซื้อทุกอาทิตย์ แต่ไม่ซื้อแรงเพราะยุคนั้นกำลังตั้งตัว สร้างบ้าน ผ่อนรถ เอาพระไปโชว์ท่าน จำได้ว่าล็อกเก็ตหลวงปู่ทิม แต่เห็นท่านเงียบ แต่ผมเข้าใจน่ะ ว่าพระหลวงปู่ทิม ทะลุเพดาน เป็นพระหลักไปแล้ว ถึงหลักล้านก็มี คงมีคนไปอ้างท่านมาก เพราะเป็นคนใกล้ชิดหลวงปู่ทิมตัวจริง แต่ศิษย์ หลวงปู่ทิมต่อมา ก็มีแตกคอกันอีก ว่างๆจะเล่าให้ฟัง นอกนั้นยังมีศิษย์ใหม่อีก เขียนตำราขายซ่ะด้วย ผลประโยชน์มันเยอะมาก ขนาดพระเล่นกันไป ตปท เดินดีมาก เพราะพระของท่าน แรงด้วยพุทธคุณ ดันแล้วขึ้นดี พระมีประสบการณ์สูง ......... โอ้ย มันน่าปวดหัว ล่ะ ถ้าที่ไหนมีผลประโยชน์เยอะ ผมเลยเข้าใจท่าน ไม่รบกวนท่านล่ะ
    ยุคนั้น พันธ์ทิพย์ประตูน้ำเป็นห้องพระติดแอร์ คึกคักมากเลยครับ เซียนใหญ่ มาอยู่กันเพียบ ระดับเซียนใหญ่ก็ เช่าห้อง รองลงมาก็มีแผง มีตู้ ผมมารู้จักเฮีย จ. และ อาจารย์ เจิมเกียรติ ศิษย์ หลวงปู่โต๊ะก็ที่นี่แหละครับ ผมจะเล่าเรื่องอาจารย์เจิมเกียรติต่อไป ท่านน่าจะกลับทางช้างเผือกไปแล้ว เป็นคนอัทธยาศัยดีมาก
    พระสมเด็จองค์นี้ เฮียเขาไม่วางโชว์ โชว์แต่พระสมเด็จหลังยันต์ห้า ( รู้สึกมีแบบยันต์สามด้วย ) ซึ่งนิยมมาตราฐาน องค์นี้ นัยว่าหวง หรืออาจจะมีคนรู้จัก จองไว้ แต่ยังไม่มา แต่ถ้าได้ราคาก็ขายได้ ลักษณะคนเล่นพระอยู่แล้ว คุยไปคุยมา ท่านเลยควักใต้เก๊ะมาให้ดู บอกองค์นี้ เส้นเกศางอกด้วย ( ตามสำนวนท่าน ) ผมชักเลือนๆเรื่องต้นตอพระ จะเป็นพระของหลวงปู่แก้ว กดมา หรือ ศิษย์สายนั้นกดมา ถวายหลวงปู่ทิมเสก หรือ ของวัดเองน่ะแหละ ศิษย์หลวงปู่ทิม กดทำใช้บูชากันเอง เอาว่าผมเชื่อว่าเป็นของหลวงปู่ทิม ยุคนั้น หลวงปู่ทิม ยังไม่ได้แรงเหมือนยุคนี้ ของยังมีเยอะ หาได้ กริ่งชินบัญชร ราคาประมาณ ๗ พันบาทและแรงด้วย ) ผมน่าจะตัดใจเก็บไว้มั่ง 555555
    เฮียแกยังทักไม่เอาแบบหลังยันต์ล่ะ นิยมกว่า ผงเยอะ แกว่างั้น แต่คุยกันติดลม เลยควักองค์นี้มาให้ดู เฮียแก่เป็นคนอัทธยาศัยดี แม้เป็นคนพูดไม่ชัดในบางคำ ลิ้่นมันคับปากแบบนั้น แต่ คุยเก่ง คุยสนุก นั่งฟังแกล่ะเพลินเลย
    ผมเลยซื้อมาจำได้ว่าประมาณ ๕ หรือ ๗ ร้อยบาท เก็บมาจนบัดนี้ ลืมเอาไปเลี่ยมทอง เพราะไม่ได้แขวนอยู่ดี เอาไปเลี่ยมกันกระแทกรองฟองน้ำ รอไว้แล้ว
    ยุคแถวๆ พ.ศ. ๒๕๑x สมเด็จพิมพ์นิยม ฐานสามชั้น พิมพ์พระประธาน เศียรเม็ดพริกไท เป็นที่นิยมมาก เห็นมาหลายวัดล้อๆพิมพ์กันมา เช่น วัดระฆัง หลวงปู่นาค ( หลวงปู่หินมารู้จักทีหลัง ) วัดช่องแค หลวงพ่อกวย ของหลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ก็ล้อพิมพ์มา แต่ท่านจะชอบพิมพ์เทวดา เอาว่าหลายวัด ที่ผมไม่รู้จักคงทีอีกเพียบ พิมพ์คล้ายๆกัน เป็นต้น
    เป็นพระเล่นแค่ชอบ แต่ขอบอกว่าขึ้นคออย่างเดียว

    a1N0_jEGXxPL_XtT0sPIkE-99mpGWqnrp98HbtXOkj_B&_nc_ohc=hdivZTQ-iXsAX_rcAJB&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg

    GJc-9cnMu32tO9HjQ_Pnx2XQ4icMFgN4xpxVkIlgQIsI&_nc_ohc=eefK3RFthpcAX8xGUzX&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg
     
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    เหรียญพระพุทธชินราช หลวงปู่เพิ่ม ปี 2518
    ไปโชว์เหรียญในห้องพี่เขาคุยกัน เลยเอามาโชว์ที่นี่บ้าง
    เหรียญพระพุทธชินราช หลวงปู่เพิ่ม ปี 2518 วัดกลางบางแก้ว เป็นเหรียญหายาก ตามข่าวว่าแค่ ๑๐๐๐ เหรียญ คงทำตามที่โลหะที่มี เอาทองมาต้มแล้วรีดใหม่ กว่าจะผมได้ไปหอพระที่ วัดกลางประมาณ ปี ๒๕๒x ก่อนหลวงปู่เพิ่มล่ะสังขาร สภาพนี้เหลือดีที่สุด ดูน่าจะเป็นเนื้อโลหะผสมที่เป็นโลหะเก่าเอามาผสมทองแดงแล้วต้มใหม่ ยางโลหะหายไปบ้างแล้ว ที่ทางวัดเรียกนวะ ถ้าเป็นทองแดง จะไม่ขัดผิว เนื้อเหรียญจะเหนียวกว่าไม่แตกร้าว
    เป็นเหรียญที่มีจำนวนการสร้างน้อยครับ แต่จำนวนไม่ทราบแน่ชัด คาดว่าราวๆ1,000 เหรียญเท่านั้น
    ลักษณะเหรียญเป็นรูปเสมาคล้ายเหรียญชินราชของหลวงปู่บุญ แต่ฝีมือการแกะแตกต่างกันมาก
    ด้านหน้าเหรียญเป็นองค์พระพุทธชินราช มีอักษรขอมเขียนด้านบนอ่านได้ว่า “พุทโธ”
    ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์สี่อ่านได้ว่า “นะ มะ พะ ทะ” ตรงมุมทั้งสี่ของยันต์
    และตรงกลาง อ่านได้ว่า “อะ ระ หัง” และ “อัง อึ อะ” ขอบสุดท้ายด้านบนมีอักษรขอมอ่านได้ว่า “พ พ พ”
    หมายถึง “เพิ่ม พงษ์อัมพร” อันเป็นชื่อและนามสกุลเดิมของหลวงปู่ บรรทัดถัดมาอ่านว่า “พุทธะสังมิ”
    และสองบรรทัดใต้ยันต์อ่านได้ว่า “อิ สวา สุ” “ปุญญวสโน”
    คาถาอาราธนาและพระพุทธชินราชของหลวงปู่เพิ่มมีความว่า “กาเยน วาจาย เจตสา วา ชินราชพุทธะ รูปัง สิริธัมมะติปัฏกราเชน กะตัง นะมาหัง สัพพะ โสตถี ภวันตุเม”
    เหรียญรุ่นนี้ได้รับความนิยมสูงเพราะเมื่อหลวงปู่ แจกหมดไปแล้วก็มีประสบการณ์กับผู้นำเหรียญไปบูชา เนื้อนี้น่าจะหายากมากครับ ในเว็บส่วนใหญืจะเป็นเหรียญทองแดง
    FIG-V4weSSEIB3BHl5P1qlPC&_nc_ohc=WzibpIEPYcIAX_XpKy4&tn=UbfWHzb7eFIvk3mM&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg

    AUReIzl5RVh51vvHDG6alBNm&_nc_ohc=VpUCleSNT7UAX_aKpVf&tn=UbfWHzb7eFIvk3mM&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    พระมงคลมหาลาภ วัดสัมพันธวงศ์ เนื้อว่านยา
    เจ้าคุณนรรัตน์ อธิษฐานจิตเดี่ยว 2513
    สุดยอดมวลสารวิเศษทั้งผงเก่าพระมงคลมหาลาภปี99 และอีกมากมายพระมงคลมหาลาภ วัดสัมพันธวงศ์ กทม. เนื้อผงน้ำตาลว่านแก่เกศา มวลสารหลักคือ ผงพระมงคลมหาลาภปี2499ที่แตกหัก, ผงพระชำรุดกรุวัดใหม่อมตรส, ผสมผงที่ทำด้วยเอาคัมภีร์เก่าๆทั้งใบลานและสมุดข่อยมาเผาบด และผสมว่านต่างๆอีกหลายรายการ บรรจุเส้นพระเกศาของท่านเจ้าคุณพระมหารัชมังคลาจารย์ (อดีตเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของ คุณแม่ชีบุญเรือน)จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2510
    เพื่อแจกในงานพระศพ ท่านเจ้าคุณพระมหารัชชมังคลาจารย์(เทศ นิสฺเทสกเถระ) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ สร้างโดยพระครูชินเทพ ชินเทโว ซึ่งเป็นหลานชายของพระมหารัชชมังคลาจารย์ จำนวนการสร้าง 2,000องค์ เนื้อหยาบและมีเกศาโรย ขนาดองค์1.7*2.8ซ.ม. แบบพิมพ์ด้านหน้า ใช้พิมพ์หน้าบล็อกเดียวกับ พระมงคลมหาลาภ ชุดวัดสารนารถธรรมารามปี2499 พิมพ์กลางมากดพิมพ์แบบพิมพ์ด้านหลัง ประทับยันต์รูปเฑาะว์ดอกบัว (ไม่มีกรอบรูปไข่ล้อมรอบ) ใต้ล่างมีอักษร 2 แถว แถวบน คือ อ.อุ.ม. แถวล่าง คือ ท.น.ม. บรรจุเส้นพระเกศาของท่านเจ้าคุณพระมหารัชมังคลาจารย์ ซึ่งเป็นพระอาจารย์สอนพระกรรมฐานแก่คุณแม่บุญเรือน
    โดยเมื่อสร้างสำเร็จเป็นองค์พระแล้ว พระครูชินเทพก็ได้นำถวายให้พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต( ท่านเจ้าคุณนร ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรุ่นพี่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทำการอธิษฐานจิตเดี่ยวเมื่อวันที่ 5 มค. 2513 ประวัติการจัดสร้างพระมงคลมหาลาภรุ่นนี้มีบันทึกและประวัติการจัดสร้างชัดเจน ดังปรากฎตามหนังสือรวบรวมพระเครื่องและประวัติของท่านเจ้าคุณนร
    อ้างอิง : หนังสือกิตติคุณ พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิตย์ วัดเทพศิรินทราวาส โดย ท.สิริปัญโญ หน้า 194-195
    ตามเรื่องที่บันทึก แต่ที่ผมสืบเพิ่ม มีการจัดพิธี สายพระธรรยุต พระนี่ก็เขาพิธี นอกจากนั้น ยังมีหลวงปู่แหวนและพระสายพระป่าเสกให้อีก เช่นหลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่ชอบ พระอาจารยืวัน พระอาจารย์จวน ฯลฯ เพระาเป็นพิธีสำคัญของพระองค์สำคัญ คือท่านเจ้าคุณพระมหารัชชมังคลาจารย์(เทศ นิสฺเทสกเถระ) อดีต เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์
    ....................................................
    9lxZJquEhhzq36jPPNVVFTxs5CaMaduNr2h7lgiIgyYd&_nc_ohc=m03CYBuupLkAX8qlDv1&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
    J2COTtshXpS_bzhNQh1h611ybWlBrMuA6EUeHinl4-PU&_nc_ohc=h6d401MKKJ0AX8ndQgP&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
     
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    พระมงคลมหาลาภ วัดสัมพันธวงศ์ เนื้อว่านยา พิมพ์ใหญ่
    ซื้อมาจากเฮีย จื.....จากสนามพระพันธ์ทิพย์ ประตูน้ำเมื่อ สามสิบกว่าปีก่อน หายากมาก ไม่เคยเห็นอีกเลย
    vlXJuO62dpZjMwsBnKLsCVSf2YnbVSsiWKBuPQGNn1qg&_nc_ohc=whqioAHehGQAX9-wenM&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg

    ee-sePvv6eBlnlsry0Qj9n3O&_nc_ohc=sjh3p5MrpSQAX9y8t5L&tn=UbfWHzb7eFIvk3mM&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg
     
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ตะกรุดโทนรวมยันต์ ลูกสะกด หลวงพ่อทรง
    มีตะกรุดอีกชุดหนึ่งไม่เขียนถึงไม่ได้เพราะสร้างยากเหลือเกิน ทำ 83ชุดเท่าอายุหลวงพ่อตอนนั้น แต่มีมือดี แอบไปทำมาอีกสองชุด ตกลงมีทั้งหมด 85ชุด ตกลงมีปริมาณพอสมควร
    แต่ผมไม่เคยเห็นใครเอามาวางขายเลยน่ะครับ สงสัยมีคนละเอว กำกันแน่น
    เป็นตะกรุดโทนรวม บนแผ่นทองแดงจากตลาดน้อย ยาว 6 นิ้วครึ่ง ดอกอ้วนใหญ่มีสายคาด ใส่ลูกสะกด 12 ลูก 12 ราศรีมีลูกใหญ่สองลูก และเล็ก 10 ลูกในนั้นมียันต์ ที่พอจำได้น่ะครับ เพราะมีหลายยันต์ มียันต์มหาจักรฯ อรหันต์แปดทิศ เทพรัญจวน ยอดกัณฑ์พระไตรปิฎก ยันต์ตะกรุดโทน มหาบุรุษแปดจำพวก จตุโรพระเจ้าห้าพระองค์ ยันต์ตะกรุดโทนตะกรุดลงและ ถัก โดยพระสวัดดิ์ หลวงพ่อเสกแล้ว ให้ออกทำบุญ **ถ้าจำไม่ผิด 1,999 บาท ต่อชุด **แผล็บเดียว เกลี้ยง เรียบไม่เหลือครับผมก็มีแค่ชุดเดียว
    ลูกสะกดน่ะ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ผมก็ซื้อไปถวายจากร้านเดิมแถววัดสัมพันธวงศ์และลูกใหญ่แถวโบ้เบ้พระสวัดดิ์ฝากเงิน ห้าร้อยบาท บอกอยากได้ลูกสะกดผมไปถามแล้วเขาไม่แบ่งขาย ต้องขายทั้งถุง จำได้ว่า 50 กิโลเกือบสามพันบาทผมเลยเหมามาทั้งถุง นายหมีแบกมาแทบตายเพราะหนัก ผมอ้างว่า เล่นกอล์ฟแล้วปวดหลัง เลยไม่ได้ช่วยแบกที่เหมามาทั้งถุงเพราะเห็นหลวงพ่อชอบทำสายคาดลูกสะกดท่านไปซื้อสำเร็จรูปมาแล้วเอามาลง ผมมีรูปให้ดูในตอนต่อไป
    ลูกสะกดนี่ทำออกมาพอสมควร ตอกโค็ด ท ไม่มีหัวล่ะเล่นได้ครับ
    n08aA58-L0bnt75pJazJQYt0lD7A7-cDwM87zSNnoAfs&_nc_ohc=PbKIzcJPhVMAX-zClQx&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg
     
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    โรงหล่อ แถว วัดไผ่แหลม
    จะแนะนำพี่น้อง โรงหล่อ มีฝีมือ โรงหนึ่ง มีช่างปั้น ช่างหล่อ พร้อมฝีมือดี ราคาย่อมเยาว์ ผมน่าจะมีนามบัตร หาไม่เจอ เลยลืมว่าชื่อโรงหล่ออะไร มันนานสิบกว่าปี ชักลืมๆ แต่จำสถานที่ได้ไปถูก
    โรงหล่อนี้หล่อ พระ บูชา ๕ นิ้วของวัด รุ่น ๑ ๒ ๓ ฐานเหลี่ยม และ รุ่น ๔ ฐานกลมให้ หลานหลวงพ่อ และ วัด
    หล่อ พระบูชารูปหล่อหลวงพ่อทรง ๙ นิ้ว
    หล่อพระกริ่ง พระชัย เหรียญจอบเศรษฐีใหม่ พระประจำวันบูชา ๑๒ นิ้ว พระนาคปรกบูชา ๙ นิ้ว พระนาคปรก พระนอนวันอังคาร ฐานพระพุทธชินราช และ ซุ้มพระพุทธชินราช ๒๔ นิ้ว บาตรน้ำมนต์
    พระรูปหล่อโบราณ ห้อยคอ ๔๒ และ ๔๗ ถึง ๔๙ ของโรงเรียน พระกริ่งอุ้มบาตรเนื้อทองแดง ฯลฯ เท่าที่นึกได้น่ะครับ มีเนื้อเงินด้วยในรูปหล่อ รูปเหมือนปี ๔๒ และ กริ่งอุ้มบาตร
    นอกจากนั้นยังเคยรับงานของหลวงพ่อ กร่าย วัดโพธิ์ศรี รูปหล่อมีซุ้ม เท่าที่ผมจำได้น่ะครับ
    มีลูกชายเป็นผู้จัดการ คล่องแคล่วมากครับ ผมไม่ได้เก็บเบอร์ไว้ แต่เป็นที่รู้จักกันดีแถวๆนั้นครับ มีชื่อเสียงมานานครับ
    ลองไล่ดูรูปกันน่ะครับ เห็นแล้วคิดถึงหลวงพ่อ
    แต่รูปนี่จะเป็นฝีมือของโรงหล่อนี้ทั้งนั้นครับ ผมใช้บริการหล่อไปหลายรายการน่าจะเป็นสิบรายการ หมดเงินไปหลักหลายแสน ท่านว่าผมจะรู้จักโรงหล่อนี้ไหมครับ ไปมาไม่รู้กี่เที่ยว แต่ยุคนั้นมีโทรแล้ว ผมจะโทรให้มาคุยที่วัดต่อหน้าหลวงพ่อมากกว่า ว่าผมจะจ้างหล่ออะไรหน้าตาอย่างไร
    ยกเว้นของที่ หลาน หลวงพ่อ และ โรงเรียนหล่อ ที่หล่อที่ โรงงานเดียวกัน เขาก็ว่าของเขาไปน่ะครับ
    ฝีมือเขาดีครับ
    ...............................................................
    6cQA_8QQ9ioYlKU6qmhENEtLQoBwg6Fc9kTMjsrRgFGZjC30gbNI6oMLV5V7eyKv-rEJs442&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    nLs62HxZDo8NChHCu11xqM5Cz0-MwJO8vAtU96JknkJ_&_nc_ohc=_GlbHsMQZZ0AX8FlFv3&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg

    ACNqCuW4_KzCWPYruhRm1QdR&_nc_ohc=gVbKH0YdFu8AX--0ngq&tn=U1gkrpPW1RKkOILB&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg

    IRYvMOFJkNzqxlXcz_-PLePe3xUlhDkvou2A57Y2IKuC&_nc_ohc=ocHaPY8sjckAX93UD9M&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    _WiY41zB5EwADh8rozJWm4wq&_nc_ohc=81al6RZKu2EAX9Oh2Xi&tn=U1gkrpPW1RKkOILB&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2021
  14. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    หลวงพ่อทวด เหรียญบิน - แพโบสถ์น้ำ
    คอมฯ ตัวหลักผมถ้าจะ ไวรัสเข้า น่าจะหลายวัน เลยใช้ แล็บท็อบของลูกไปพลางๆ แต่ช้ามาก เมมฯแต่งรูปก็ไม่ได้ เลยไม่ได้ถ่ายพระลงใหม่
    แต่มีส่วนดี ผมไปนั่งจัดไฟล์เก่าเจอภาพเหล่านี้ ขอเอามาลง วันที่ ที่บันทึกไว้ในภาพจากเครื่องคือ ปี ๒๕๕๗ ผมร่วมสร้างกับเขา และเอาชื่อกระทู้ เหรียญบิน-แพโบสถ์น้ำมา ใส่ไว้ข้างหลัง กันสับสน ประวัติถ้าสนใจจะดึงมาให้ชม แต่ผงและ พลอย เหรียญ ปลุกเสกมาหลายสิบหลวงพ่อ หลวงปู่ ทั่วประเทศไทยมั้ง เขาตระเวณเสกของบารมีพระท่านไปเรื่อยๆ
    พอได้ส่วนแบ่งมา ตามรูปน่าจะ ถุงล่ะ ๑๐๐ องค์ ตามรูปผมเอาไปถวา่ยท่านพระครูมานิตย์ ๔ ถุง น่าจะ สี่ร้อยองค์ เอาไปถวาย หลวงพ่อสวง ๑ ถุง ๑๐๐ องค์ ยังจำได้ ท่านบอกดีเลย จะเข้าพรรษาพอดี กำลังหาของมาเสก
    ขอบันทึกไว่น่ะครับ ว่าสร้างประมาณ ปี ๒๕๕๗
    ตามหลักฐาน ตามรูปว่ามีที่มาที่ไปแบบนี้น่ะครับ
    dDJnJw271Xbs3Vw3Tc4DYJtQ&_nc_ohc=FVTl88dMMz0AX8HjHPv&tn=QarTyQ0xMwktAiXK&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    4h9_QOyCe5omjQnlXzC-2fKwRNlt2NqsvQf-Ol3sQ0I1&_nc_ohc=bKSlzbF0bxwAX-pkUir&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg

    gD94FfgAQEq4ll-F0rsf9hFy4mSvtJIJhQhaS1vvZ0KC&_nc_ohc=T_fhrmyYviEAX-iSXLk&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg

    kHWe-WGnB3l_95FiqA6lLIIP&_nc_ohc=BxkM8vEuJCYAX_7bnoF&tn=QarTyQ0xMwktAiXK&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg

    ktJMblOi8YPd1sMOHNLWf2bZcsJFQ4kRJdnoUFJO3ogh&_nc_ohc=VXNMGrhTRswAX-YMJlT&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    มีดพับด้ามงา หลวงพ่อทรงปลุกเสก
    เมื่อแรกผมซื้อมีดพับใบเหล็กดามัสกัส ด้ามงา ฝีมือช่างทิน แห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง มาให้หลวงพ่อทรงท่านลง ท่านเห็นแล้ว บอกว่าสวยดี ไปซื้อที่ไหนมา ( อันนี้ลีลาน่ะครับ บอกว่าชอบ ) อันนี้โชว์ในรูปซ้าย ท่านก็ลงให้อย่างดี
    ต่อมาผมก็ไปซื้อมาอีกเล่มในรูปขวา ขอให้ท่านลงให้อีก ทั้งสองเล่มมีลายมือของท่านลงไว้ให้บนด้ามงา ด้วยเหล็กจารหัวเพชรที่ผมซื้อไปถวายท่าน ผมเก็บสะสมไว้เพราะเป็นของดี ทั้งวัสดุ คือ เหล็กดามัสกัส ด้ามงา ( งาตอนนี้แพงมากครับ ขึ้นราคามาประมาณ สามเท่า คือ ประมาณ กิโลล่ะ ๑๕๐๐๐ บาท มิ.ย ๒๕๕๑ ) และทั้งยังลงจากหลวงพ่อที่มีวิชาอาคมสูง
    มีดพวกนี้ทำจากร้านช่างทิน ช่างทินนี้เป็นช่างสมัยใหม่ ทำมีดสมัยใหม่ เคยเป็นลูกมือช่างตุ่ม คนแรกที่ดังมาก่อน ช่างตุ่มน่ะอ่านภาษาอังกฤษออกเก่ง อ่านนิตยสารต่างประเทศ และค้นคว้าได้ เป็นคนเก่ง มีอารมณ์ศิลปิน ไม่ค่อยชอบอาบน้ำ...แหะๆ สามารถออกแบบมีดสวยๆได้ ผมเคยบุกไปหาทั้งช่างตุ่มและช่างทิน ที่บ้านหรือโรงงาน มีคนดังๆไปสั่งทำมีด และมีมีดสวยๆโชว์รูปให้ดูมากมาย แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงหน่อยน่ะครับ
    หลังบ้านช่างทินน่ะ เต็มไปด้วยเศษเหล็กที่แกซื้อมากองเต็มหลังบ้าน จะเป็นเหล็ก ประเภท สแตนเลส 4140 ซึ่งเป็นเหล็กมาตรฐาน ที่ไม่เกิดสนิม และแข็งพอที่จะทำคมมีดให้แข็งแกร่งได้( ผมพูดผิดขออภัยผู้รู้ ) ในการใช้ทำมีด ช่างทินมีลูกหลานลูกมือเยอะ มีพรสววรค์ในการออกแบบมีด และ ชุบเหล็กให้แกร่ง ใบมีดสวยงาม
    ผมเองมีมีดที่ใช้โลหะพิเศษเรียกว่า F6MN เป็นโลหะที่ใช้ทำหัวบ่อเจาะน้ำมัน นั้นมีหลายเล่ม ฝีมือช่างนวย โลหะนี้วางทิ้งไว้ตากแดดตากฝน ๒๐ ปีก็ไม่ขึ้นสนิม จึงเอาไปทำหัวบ่อเจาะแก็สและน้ำมัน ยังมีเหลืออีกแท่ง แต่ยังหาช่างเก่งๆไม่ได้ แต่คิดว่าจะเจอซักวัน คนดีศรีอยุธยา ไม่มีสิ้น
    แต่ได้ข่าวว่าช่างทินเสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว แล้วเหลือแต่ผลงาน และลูกหลานสืบทอดทำมีดสืบต่อกันมา
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2008
    8wWFDc-4O6KjRi2ql0y1iN4HfaPVblbBfW96wDpVBfAX&_nc_ohc=UaZn7pNiBl8AX9ydnZx&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg

    WyKnI8lkgKgioNakyPIcWcVqE_0EDJKiSf2iyAmDP7Zl&_nc_ohc=1fPotyvBClAAX-kQj0q&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ไม่ได้ลงเขียนมานาน เชียนต่อครับ ยกมาจาก พลังจิต แล้วจะเขียนเพิ่ม
    อย่างที่เคยเกริ่นไว้ ว่าหลวงพ่อทรงท่านจะพก เหรียญ และรูปหล่ออยู่ ในอังสะ และพกมีดอีกเล่มหนึ่ง บางทีที่อังสะหรือในย่าม มีดนี้ท่านบอกว่าเอาไว้ทำน้ำมนตร์โดยเอามีดเข้าไปแกว่งในน้ำขณะว่าคาถา
    ตอนผมได้กลับไปพบช่างนวยและช่างดิษฐ์ ( ตอนนี้นอนเป็นอัมพาต ๒๕๕๑ - ๒๕๖๔ ผมเห็นใน FB ท่านหายดีแล้ว ) ครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายปี เพราะหลังจากอาจารย์ผมหลวงปู่พระครูบุญศรี ท่านล่ะสังขารตอนปี ๒๕๔๔ ผมแทบไม่ได้กลับไปอีกเลย อย่างมากแค่ขับรถผ่านไป จนมาเจอหลวงพ่อทรง และอยากได้มีดของท่านเพราะว่าเจออาจารย์ดีแล้วจะพลาดของชิ้นนี้ไม่ได้ ทำให้ผมกลับไปที่พยุหะคีรี ไปหาช่างนวยและช่างดิษฐ์ที่บ้าน เรียกว่าตามหลังคุณ ชช ไป คุณ ชช เองก็คอเดียวกัน รู้จักคบหากับช่างนวยแบบสนิทสนม เป็นคนที่ช่างนวยเกรงใจมากคนหนึ่งทีเดียว ส่วนคุณ ชช จะรู้จักกับช่าง ดิษฐ์หรือ ปล่าว อันนี้ผมไม่เคยถามท่าน
    ส่วนเล่มบนสุดเป็นมีดฝีมือ คือช่างดิษฐ์ เข้าด้ามและฝักให้ ส่วนใบเป็นใบเก่าของอาจารย์ผม ช่างดิษฐ์เป็นช่างแกะสลักที่มีฝีมือพอตัว ทำงานใหญ่มามากจากในอดีตนับไม่ถ้วน เพราะมีอัทธยาศัย ใจดี จะทำงานแกะ พวกงาช้างพวก สิงห์งา พระงา พระปิดตางา ปลัดงา นางกวักงา แกะไม้ งิ้วดำ พระปิดตา งิ้วดำ ชูชกไม้ พวกไม้มีชื่อแปลกๆ เช่นพญาเดินดง ไม้ปรู ไม้กาฝากต้นมะยม กาฝากต้นรัก ไม้กาหลง ไม้ตะเคียน และไม้ชื่อแปลกๆอีก ผมลืมไปซ่ะแล้วเพราะแก่ลง ช่างดิษฐ์ทำงาน ให้วัดใหญ่ๆในอดีตหลายวัดเช่น วัดหลวงพ่อกวย วัดหลวงพ่อเชื้อ วัดสะพานสูง นนทบุรี ฯลฯ เพราะเป็นคนมีฝีมือดี ซื่อสัตย์ มีสัจจะ ตัวช่างดิษฐ์ นี้ทันช่างฉิม ช่างใหญ่มีดหลวงพ่อเดิม มีดช่างฉิมเป็นมีดแบบที่แพงที่สุดในบรรดามีดด้ามงาของหลวงพ่อเดิม
    ช่างดิษฐ์เคยเล่าให้ผมฟังว่า ช่างฉิมเคยชวนไปอยู่ด้วยกันเพราะชอบนิสัย แต่แกไม่ได้ไป เพราะไม่ชอบตีมีด ถนัดแต่การแกะสลัก เลยไม่ได้วิชาตีมีดมามากจากช่างฉิม แต่แกบอกเคล็ดวิธีที่ช่างฉิม ตะไบมีดของท่านมาให้ผมทราบ วิธีตะไบมีดของช่างฉิม จะแปลกกว่าคนธรรมดาเราๆ ท่านๆ ทำให้ใบมีดของช่างฉิม มีเอกลักษณ์ ใช้ดูมีดของหลวงพ่อเดิมได้อย่างหนึ่ง ผมออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญมีดด้ามงาของพยุหะน่ะครับ เพียงแต่ใกล้ชิดช่างชั้นครูพวกนี้ มาระยะหนึ่งในชีวิต และนิสัยช่างถามของผม ก็ได้ความรู้มาประดับ สติปัญญาบ้าง แต่ผมไม่บอกวิธีตะไบในนี้หรอกครับ อยากรู้ถ้าเจอกัน ผมอาจจะบอกท่าน
    ช่างดิษฐ์ ยังเล่าอีกว่า ตอนช่างฉิมเสีย ผมจำไม่ได้ว่าอายุท่านเท่าไหร่ แต่เป็นคนอายุยืนมากคนหนึ่ง ความที่ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีอาวุโสมาก อายุมาก อัทธยาศัยดี มีคนนับถือเยอะ ทำให้มีคนไปช่วยงานศพเยอะ คนโบราณ แบบบ้านนอก จะจัดงานศพ งานทำบุญที่บ้าน พวกไปช่วยงานก็ช่วยกันทุกอย่าง นอกจากเอาข้าวปลาอาหารมาช่วย ก็มาช่วยทำครัว แบบมีน้ำใจมา แต่ปรากฎว่า หลังเลิกงาน มีดของช่างฉิม ในครัว ที่ใช้ทำครัว หรือ ไม่ว่าจะเป็นมีดแบบไหน เช่นมีดดายหญ้า อีโต้ มีดเหน็บ มีดปอกผลไม้ มีดเล็ก มีดกลาง มีดใหญ่ เครื่องมือทำเกษตร ถ้าเป็นของช่างฉิมหรือคิดว่าเป็นของช่างฉิม ที่อยู่ในบ้านช่างฉิม จะอันตรธานหายไป คือ คน “ ยืม “ ไปหมด
    ด้วยความที่ช่างฉิม เป็นช่างมีดเอกของนครสววรค์ มีสัจจะ และมีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่ง เล่าว่า แม้ของใช้ในบ้านพวกมีด พวกเหล็ก พวกเสียม พวกชะแลง พวกเครื่องมือการเกษตร ท่านก็จะตีเอง ทำขึ้นใช้เอง พวกรุ่นหลังก็อยากได้ไปเป็นของที่ระลึก จะไปขอเจ้าของบ้าน เขาคงไม่ให้ และเจ้าของบ้านคงคิดไม่ถึง เลยไม่ได้เก็บซ่อนไว้ก่อน ทำให้มีดประจำบ้านของช่างฉิม พวกมีดใช้งาน จะถูกยืมไปหมดบ้าน เจ้าของหรือทายาท รุ่นหลังมารู้ก็คงทำอะไรไม่ได้ เลยต้องปล่อยเลยตามเลย ผมเรียนถามช่างดิษฐ์ว่า เอามาบ้างหรือปล่าว ผมอยากเห็น ( ที่จริงอยากได้ ขายเท่าไหร่ก็เอา ) ช่างดิษฐ์บอกผมเปล่า ไม่กล้าเอาหรอก ของครูบาอาจารย์ เราก็จะเห็นนิสัยของช่างดิษฐ์ได้อีกทาง
    ผมรู้จักกับช่างดิษฐ์และภรรยา ป้าธีร์ แบบลุง-ป้ากับหลาน แบบญาติผู้ใหญ่ ไปเยี่ยม นอน อาบน้ำกินข้าวบ้านแกได้ ผมได้ของดีมาจากลุงก่ะป้านี้เยอะเหมือนกัน เช่น แหวนแขนขนหางช้างหลวงพ่อเดิม มีดหลวงพ่อกัน งาแกะหลวงพ่อกัน เขากระทิงแกะ ไม้งิ้วดำแท้ๆ แกะหลายแบบ และผมก็ตอบแทนแบบที่แกพอใจ ตอนพวกท่านสองคน short ๆ ทางเศรษฐกิจ จะโทรมาหาผม ผมก็ช่วยพวกท่านแบบญาติกัน แบบไม่ต้องการอะไรตอบแทน
    มีดเล่มบนนี่ ลุงดิษฐ์เข้าด้ามอันนี้ให้ผมและใช้ฝักเป็นไม้งิ้วดำแท้ๆมอบมาให้ผมเป็นที่ระลึก ถึงกัน
    ส่วนช่างนวย ตอนผมไปพบ ช่างนวยมีมีดอยู่ในสต็อกสี่เล่มพอดี มีออเดอร์ไว้แบบว่าสั่งเผื่อไว้ เป็นขนาด ๒.๕ นิ้ว สามเล่ม และ ๒ นิ้ว ๑ เล่ม (ในรูป นับจากเล่มที่สองจากบนลงมา) เป็นมีดยังไม่ได้เข้าด้าม ผมเลยเหมามาหมด
    ท่านที่ไม่คุ้นกับมีดพยุหะคีรี ควรทราบว่าที่กั่นมีดนี้มีของดี คือช่างที่ครอบครู ครอบมือ จะ ตอกคาถา นวหรคุณ อะสังวิสุโลปุสะภุพะ เก้าตัวแล้วตอกบนกั่นมีด ยกเว้นเล่มเล็กมากทำไม่ได้ อันนี้เป็นบังคับของครู ทำกันมาในแต่ยุคโบราณ ที่กั่นเล็กมากจะตอกไม่ได้ ก็อาจจะฝังตะกรุดที่ลง นวหรคุณ หรือ ย่อ เอาลงบนตะกรุดดอกเล็กๆ ส่วนมีดอย่างใหญ่ใช้ตอกเอา หรือในยุคที่ยังทำมีดน้อยๆ อาจจะเอาไปให้หลวงพ่อลงจารที่กั่นได้ แต่พอทำมากๆ อาจจะไม่สดวก
    อันนี้ผมคิดว่าเป็นที่มาของการฝังตะกรุดที่ด้าม เพราะไม่สดวก เอากลับไปมา เลยให้หลวงพ่อลงตะกรุดมาซ่ะที่เดียว อาจจะมาพร้อม ผงอิทธิเจ เส้นเกศา มาซ่ะทีเดียว ส่วนช่างที่ได้รับการครอบครู หรือครอบมือมา จะลงใส่แทนหลวงพ่อ และจะกรอกครั่งไปจนแน่นพอสมควร
    บางท่านที่ไม่เคยเข้าด้ามมีด อาจจะนึกว่าง่าย แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด ผมเองเคยลองผิดลองถูกมาหลายครั้งตั้งแต่รู้จักกับช่างนวยใหม่ๆ และผมไม่ได้ผิดครูเพราะได้รับการครอบมือมาจากหลวงปู่บุญศรีแล้วก่อนหน้าแล้ว
    ก่อนเข้าด้าม ช่างจะลองจนแน่ใจ ว่ากั่นกับด้าม เข้ากันดี ระยะได้ มีช่องหลวมพอสมควร จากนั้น ถ้าจำเป็นต้องใส่ตะกรุดดอกเล็กๆ เขาอาจจะยัดไปจนล่างสุด เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เขาจะเอาเกศา และผงวิเศษผสมเข้ากับครั่งที่บดละเอียด เรียกว่าผสมกันไปเลย อย่างช่างนวยนี้มีเป็นกระป๋องพิเศษเนื่องจากทำให้หลายอาจารย์ ใครให้อะไรมา แกเลยใส่รวมกัน เรียกว่าทุกอาจารย์ก็ปนอยู่ในกระป๋องนี้ เพราะการมาแยกใส่แต่ล่ะอาจารย์ จะทำให้งานแกยุ่งยากขึ้น
    หลังจากอัดครั่งจนแน่นพอสมควร อย่าแน่นมาก เอาว่าพอดี อันนี้ขึ้นอยู่กับทักษะของ ช่าง จากนั้นเอาปลอกมีดครอบ บนด้ามงา เอาคีมคีบใบมีด เอาด้านกั่นมีดออก แล้วลนไฟจนแดง เรียกว่าได้ขนาดพอดี กับขนาดของมีด แล้วแทงลงอย่างเร็ว แม่นและมั่นคง ไปบนในรู ปลอกมีด เหล็กร้อนแดงๆ จะละลายครั่ง ช่างเขาจะแทงลงไปจนลึกสุด การทำนี้ต้องพอดี เพราะถ้าแทงไม่ลึกสุด แล้วกั่นเย็นตัว มีดจะไม่เข้าที่ เช่นอัดครั่งแน่นเกินไป ครั่งทะลักออกมาไม่ทัน เลยอุดตัน ทำให้ใบมีดเข้าได้ไม่เต็ม เพราะฉนั้นงานนี้เป็นงานทักษะ เพราะถ้าใบมีดไม่เข้าที่ จะเสียต้องเริ่มใหม่ ครั่งที่ละลายจะเปรอะงา เปรอะปลอกมีดเงิน และเปรอะกั่น ต้องเอานั่งแซะออกให้หมด ให้สะอาดพอสมควร แล้วเริ่ม ทำกันใหม่ ตามวิธีเดิม ผมลองผิดลองถูกมาจนเข้าใจดี เป็นงานที่ดูง่ายแต่ยากมากพอสมควรสำหรับผู้ที่ไม่มีทักษะทางช่าง
    อาจารย์ผมหลวงปู่พระครูบุญศรีบางทีใช้ หลอดดูดน้ำอัดลม มาตัดเป็นชิ้นเล็กแทนครั่ง แล้วเข้าด้ามแทน ส่วนกรรมวิธีอื่นเหมือนเดิม ก็ใช้ได้เหมือนกัน
    ผมเคยลองกาวอีป็อกซี่ ก็ใช้ได้ แต่ มีดเล่มที่ใช้กาวจะไม่สามารถ ถอดออกได้อีก การใช้ครั่งนี้ถ้าไม่พอใจ ต้องการถอดใบมีดออกได้ โดยสามารถเอาไปต้มในน้ำเดือด จนครั่งละลาย แล้วถอดใบออกจากด้ามได้โดยจากช่างผู้ชำนาญ
    ผมรู้เคล็ดลับอันนี้ดี จึงซื้อเหมามาทั้งหมดสี่เล่มแบบไม่เข้าด้าม เอามาอาราธนาให้หลวงพ่อทรง ลงนวหรคุณบนกั่นมีด นอกจากนั้นยังขอท่านลงตะกรุดทองแดงดอกเล็กๆให้ ผมเอาผงอิทธิเจเดิมจากอาจารย์ผม ผสมเส้นเกศาของหลวงพ่อทรงเข้าไปอีกปนกับเส้นเกศาหลวงปู่พระครูบุญศรี เอาให้หลวงพ่อลงอีกครั้ง ท่านลงกำกับให้อย่างตั้งใจและนานมาก เจตนาผมจะเอาไปเข้าด้ามทั้งสี่เล่มแล้วมาถวายหลวงพ่อ
    แต่หลวงพ่อบอกจะเข้าด้ามเอง ผมจึงถวายท่านไปเล่มหนึ่ง ส่วนที่เหลือ ผมเอาไปให้ช่างนวยเข้าใบให้ มีดทุกเล่มได้รับการประจุจาก หลวงพ่อก่อนเข้าด้าม อันนี้เป็นเจตนาของผม
    แต่ตอนหลังเนื่องจากหลวงพ่อยุ่ง ไม่มีเวลาเข้าด้ามเอง ผมจึงขอแลกเอาคืนมาโดยถวายของผมแทน โดยเอาของผมที่เข้าด้ามเสร็จแล้ว แลกกับของท่านมา ซึ่งเป็นเล่มที่สองจากบน แล้วผมจึงเอาไปให้ช่างนวยเข้าด้ามให้ เล่มที่ผมถวายนี้เป็นเล่มที่ท่านจะพกติดตัวประจำ หลังจากท่านล่ะสังขาร ผมถามใครๆ แต่ไม่มีใครทราบว่ามีดเล่มนี้หายไปไหน แต่ผมพอจะรู้ว่าอยู่ที่ใคร
    จากโบราณท่านว่าไว้ ว่ามีดนี้ เป็นปฏิปักษ์กับของต่ำ ห้ามนำไปในที่ต่ำ หรือ อโคจร ห้ามให้ผู้หญิงมีประจำเดือนจับต้อง เพราะถ้าผ่าฝืน ด้ามจะแตกและอาคมที่ประจุไว้จะหนีไป
    เนื่องจาก โบราณว่าครูบาอาจารย์ท่านจะลงและเสกด้วย คาถาอาวุธสี่อย่าง ของเทพและยักษ์ เป็นอาวุธที่ไม่มีใครสามารถต่อต้านได้ ทำให้บางทีเรียกว่าเทพศาตราวุธ ผู้มีคาถาอาคมและภูติผีปีศาจตลอดจนไสยดำ ไม่สามารถทนทานต่อความแหลมคมของเทพศาตราวุธนี้ได้ เป็นเคล็ดในการแก้ทางกัน บรรดาอาจารย์รุ่นเก่าๆ ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนก็มักจะมีมีด อาคมนี้ติดตัว ไว้ป้องกันตัวและประกอบพิธีต่างๆ
    ทุกเล่มหลวงพ่อปลุกเสกให้อย่างดี ผมเอาใส่กระเป๋าไปปลุกเสกอีกหลายสิบครั้งจนจุใจ ตามสไตล์ของผม
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2008
    มีดหลวงพ่อทรง น่าเสียดาย ทำมาน้อยมาก นอกนั้นจะมีพวกของส่วนตัวที่ไปขอท่านลง ซึ่งจำนวนไม่มากแค่ไว้ใช้ประจำตัว เป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก
    เดี๋ยวผมค้นเรื่องที่ลงไว้ก่อน ถ้าเจอจะเอามาลงประสบการณ์แต่ถ้าไม่มีจะเขียนใหม่เพราะไม่มีทางลืมได้

    มีดด้ามงาๅ.jpg มีดปากกา ทรง1 ไม้พะยุง.JPG
     
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    ปลัดขิก หลวงพ่อดำ วัดใหม่นภาราม นราธิวาส
    พี่น้องที่เล่นพวกเครื่องราง เห็นคงจะแปลกใจ เพราะไม่ค่อยเห็นพระสายใต้ทำปลัดขิก แปลกเหมือนกัน คงมีแต่น้อย จะเป็นแถบภาคกลางและภาคตะวันออกมากกว่า
    แต่ตัวนี้แหละใช่เลยครับ เพื่อนผม เสี่ย พ. ทำร้านทองที่โกลก เป็นศิษย์ท่านเคยไปช่วยท่านสร้างวัดอยู่หลายปีจนท่านล่ะสังขาร ที่ท่านดังน่ะจะเป็นไม้ครู พระปิดตา และ เหรียญ
    ผมมีปลัดทำจากกระดูกช้างกลึงได้ที่พอดีเลยฝากไปลง หายไปหลายเดือน ท่านลงให้อย่างดี ผมใช้ติดตัวอยู่หลายปี จนมาเจอหลวงปู่พระครูบุญศรีพระอาจารย์ ที่ท่านลงปลัดงาให้ อันนี้เลย เอาเก็บแต่ใช้ดีมาก
    และอีกอย่างที่ผมทราบว่า เขาไม่เขียนลงในหนังสือ หรือบันทึกไว้ ส่วนใหญ่ อาจารย์ของท่านจะเป็นสายใต้ เช่นหลวงพ่อครน วัดบางแซะ ตามฟอร์มภุมิประเทศ แต่หลวงพ่อดำแปลกไปกว่านั้นน่ะครับ ท่านเป็นศิษย์ หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ด้วยครับ ท่านเคยธุดงค์ตระเวรไปหลายปี เหนือ ใต้ ออก ตก และไปเรียนวิชาจากหลวงพ่อคูณหลายอย่าง เช่นการลงตะกรุด เรื่องนี้ยืนยัน เพราะท่านเล่าให้เสี่ย พ. เพื่อนผมฟังเอง เสี่ยเขายังแปลกใจ เพราะตอนนั้นหลวงพ่อคูณดังระเบิดมาตั้งแต่ปี ๒๕๓x แล้ว ไม่คิดว่าท่านจะเกี่ยวข้องกัน พระสายใต้ ถ้าไม่แน่ ไม่ออกวัตถุมงคลน่ะครับ เพราะเขาลองกัน
    ท่านลงด้วยเหล็กจารทั่วตัวและลงปิดท้ายปลัดด้วยครับ
    b1uHpbxI4OvUCs0RGsMgPDc4&_nc_ohc=sd2Ig-GDDVkAX_LcFwV&tn=qQUXFBhysK3yQYJa&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg

    N8NE_JMsA-mE8v7rvvdbJQknx_HnkUDTXoPUtkgfVuKx&_nc_ohc=hvmXN5yoa0MAX_Crf_d&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg

    pNiDS7vE0kuroXYyKbXKCB3gpQBRLMrWtUutS1iuLsdY&_nc_ohc=cSf0M9VEX6MAX8yzaVx&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg
     
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    สมเด็จหลวงปู่นาควัดระฆัง
    ยุคผมยังหนุ่มน้อยขาสั้น นั่งนับนิ้วจะประมาณ ๒๕๐x หรือ ๒๕๑x ต้นๆ เท่านั้น ก่อน ยุค น้ามิตร ชัยบัญชาท่านเสียชีวิตแน่นอน ( ๒๕๑๓ ) .....
    จำได้ ยุคนั้น มีพระดังๆแจกฟรีๆเยอะ เช่นของหลวงปู่นาค วัดระฆัง หลวงพ่อมิ่ง วัดกก หลวงพ่อพระครูพิชัย วัดคอกหมู ( สมเด็จ วัดคอกหมู ) พระครูสงัด วัดโพธิ์ ( แจกพระแก้วมรกต หลวงพ่อทวด ) วัดไร่ขิง ( ถ้าลืมชื่อหรือจำชื่อท่านผิด กราบขอประทานโทษน่ะครับ มันนานจัด มี ห้าสิบปีขึ้นไป ) ที่ไหนฟรีหรือย่อมเยาว์ เจอผมมาหมด เสียดายยุคนั้นไม่ได้ไปกราบ หลวงปู่โต๊ะ ทั้งที่ไม่ไกลเท่าไหร่ นั่งรถเมล์อย่างมาก สอง สามต่อ
    แต่สำหรับพระเดชพระคุณ หลวงปู่นาค ไปบ่อยหน่อย ด้วยว่าท่านใจดี และ ไม่มี ปีเตอร์ กันน์ ( พระเอกนักสืบดังยุคผมเด็กๆ รุ่นนี้เกิดไม่ทันแน่นอน แต่ยุคผม ยุคจอขาวดำ ท่านดังโคตรๆ หล่อสุดๆ ) หลวงปู่นาคนี่ถ้านับรุ่นกัน ท่านเป็นสายตรงของสมเด็จพุฒาจารย์โตเลยน่ะครับ คือท่านเป็นลูกศิษย์สายตรงของลูกศิษย์ของลูกศิษย์อีกที่ สืบสายสมเด็จมาแบบ ถูกต้องที่สุด ( ท่านเป็นลูกศิษย์ของ พระอาจารย์เลื่อม ที่วัดระฆังโฆสิตาราม พระอาจารย์เลื่อนท่านเป็น ปรมาจารย์ด้านวิปัสสนากรรมฐาน โดยในยุคนั้นวัดระฆัง มีเจ้าอาวาสคือ พระธรรมไตรโลกาจารย์ ซึ่งต่อมาได้เป็น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (หม่อมราชวงศ์เจริญ อิศรางกูร) โดยท่านผู้นี้เป็นศิษย์เอกของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี .....สาย ตรงๆไม่มีเลี้ยว วัดเดียวกัน นับต่อกันมา ท่านเป็นรุ่นที่ ๓ เหลนศิษย์ของสมเด็จพุฒาจารย์โตเลยครับ )
    เนื่อง หลวงปู่นาคไปกราบบ่อย เพราะท่านเมตตาสูงใจดี ได้เอาแป้งเจิมหัว ได้รด น้ำมนต์ ได้แจกพระฟรีตามรูป เป็นพระสมเด็จเนื้อปูนล้วนๆ ขาวจั้วะ อยู่ในบาตรหรือโถ ข้างๆท่านนั่งรับแขก แจกฟรี ส่วนพระที่ขายนะอยู่อีกห้องติดๆกัน กุฏิท่านหลังใหญ่พอสมควร ใส่พานแก้วไว้หลายพาน บริการโดยลูกศิษย์ มีหลายพิมพ์มาก แต่ที่ดังๆคือรูปสมเด็จโต นั่งแบบทรงเตารีดบริกรรม จำได้ว่ามีทั้งผงชานหมาก ผงขาว และ สมเด็จทรงเทวดา ทรงปรกโพธิ์ แบบ ฝังตะกรุดทอง เงิน นาคก็มี ( ราคาหลักห้าร้อย พันยุคนั้น จึงได้แต่ชะแง้ แลมอง ) สมเด็จซุ้มระฆังสมเด็จทรงเทวดา และเหรียญรูปสมเด็จโต สี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน เหรียญรูปท่านกลมๆ เอาเท่าที่จำได้ แม่ผมยังบ่นๆ จำหนังสือเรียนได้เหมือนจำพระก็ดีน่ะ ดีที่แม่เคี่ยวเข็ญให้เรียน ไม่งั้นผมอาจจะกลายเป็นเซียนพระในตลาดสามย่าน หรือ เป็นหมอผี ตามท่านอาจารย์ วรกันต์ ศรีสมบัติ ( ครูพราหมณ์ ฆราวาสยุคก่อน ) ที่ผมไปกราบท่านบ่อยเหมือนกัน ยุคคนยังคาดปูน อาพัดเหล้าขาว แต่ที่ไปหาท่านอาจารย์วรกันต์ น่ะส่วนใหญ่ จะเอาพระให้ท่านดู ท่านชอบดูให้ บอกว่าดีอย่างไร พระที่ อาจารย์ วรกันต์บอกดี คือ พระสมเด็จไม่ทราบวัด กับพระ ตะไกร หน้ามงคล ผมยังเก็บไว้จนถึงบัดนี้ มี ๕๐ ปีขึ้นแน่นนอน
    หลวงปู่นาค ท่านจะเป็นพระอ้วนๆ ขาวๆ หน้าตาจะยิ้มแย้ม ตลอดเวลา มีรังสีแผ่ออกมา ไปนั่งแอบดูท่านก็เย็นใจ แต่ถ้าไปเมียงๆท่านเห็นเมื่อไหร่ ท่านจะกวักมือเรียกมาเจิมแป้งที่หัวทุกทีแล้วบางที มีน้ำมนต์ แจกพระสมเด็จขาวๆ สามชั้นนี่อีกองค์ บางทีถ้าคนไม่เยอะ หรือเยอะก็แล้วแต่ รดน้ำมนต์แถมให้ครบ เราก็ไปนั่งแจก ต่อหลัง ได้น้ำมนต์อีกช็อต กลับบ้านสบายใจ
    พระที่บูชามา แปลกที่หายไปหมด หลังจากผมไปเรียนไกลบ้านไกลเมือง แต่ที่ยังอยู่คือพระสมเด็จ ของแจกนี่ เหลืออยู่สององค์ เพราะหวงมาก เก็บแยกไว้อย่างดี พระสมเด็จของแจกนี่ ถึงไปบูชาพระ เอาไปให้ท่านประสิทธิ์อีกที ท่านก็จะหยิบแถมมาให้ แบบแจกไม่อั้น เลยกลายเป็นของหวงไป ของที่ซื้อ กับเสด็จไปธุดงค์ไปหมด
    นั่งนับนิ้วดู มี ห้าสิบปีขึ้น สมเด็จเนื้อขาวอีกองค์รุ่นน้องที่นับถือกัน ( ตอนนี้ท่านไปบวชที่อีสานหลายปีแล้ว ยังไม่สึกเลย ) ขอไปใช้ดื้อ ก็หยวนๆ เหลือแต่องค์นี้
    ยุคไปกราบท่านพระอาจารย์เจือ ไปขอทำเบี้ย ซื้อด้าย รักถวายท่าน ร้านรักนี้เขาจะแยกใส่ขวด อยู่เยื้องๆวัดกลางบางแก้ว มาหน่อย เป็นรักอย่างดีตามรูปที่ทาพระสมเด็จไว้ ไม่ดำสนิท แต่ ดำแดง ไม่แน่ใจเป็นรักผสมจากของจีนหรือ รักดำจากลาว ผมเลยซื้อแบบขวดติดบ้านไว้ ใช้ทาพระ ทาตะกรุดที่ไว้ใช้ประจำตัว เป็นรักเนื้อดีมาก ทามาประมาณไป สามสิบ สี่สิบปีขึ้น ปิดทอง ยังสวยงามอยู่เลยครับ
    เป็นพระที่ท่านหยิบแจกให้ด้วยเมตตา แจกฟรีไม่มีราคา แต่ถ้าจะทำบุญ เขามีพานไว้ ใส่ หนึ่งบาท ห้าบาท ๑๐ หรือ ๒๐ บาท แล้วแต่ศรัทธา เอาไปใส่ขันสาครใบใหญ่ได้ ไม่เห็นท่านเรียกร้องหรือสนใจเงินน่ะครับ แม้จะเหลือบมอง ยังไม่มอง เหมือนไม่ใช่ของท่าน ( ผมชอบแอบดู พระตอนเผลอ ดูว่านิ่งจริงไหม แววตาอย่างไร หลังบ้านอย่างไร เป็นนิสัยมาตั้งแต่เด็กจนเป็นช่าง วิศวกร อาชีพ ) น่าจะเป็นมุขของลูกศิษย์ท่านมากกว่า เรื่องเงินบริจาค ก็ของมันมีทุน เข้าใจครับ
    ต่อมาผมสนิทกับลูกศิษย์ ก้นกุฏิท่านคน ชื่อ พี่จ่าสง่า อดีตทหารอากาศ หรือพี่หง่า ด้วยว่าทำงานด้วยกันในเรื่อเจาะแก๊สในทะเลกลางอ่าวไทย แบบขึ้นเรือลำเดียวกัน เลยทราบเรื่องของหลวงปู่นาคเยอะขึ้น และมาทราบเรื่องของหลวงปู่นาคจาก ปากหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ท่านเทศนา หลายครั้ง ขนาดว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เอ่ยปากบอกเองว่า งาน พุทธาภิเษกงานไหน ถ้าเขานิมนต์ไปเจอหลวงปู่นาค ท่านบอกงานนี้ สบาย ไม่เหนื่อย ไม่ต้องทำอะไรเลย หลวงปู่นาคทำหมด นั่งสมาธิกับแอบดูเขาเฉยๆ หรือแอบดูหลวงปู่นาคเสกของก็พอ
    ท่านบอกว่า ตอนปลุกเสก พอท่านแอบดูหลวงปู่นาค จะมีแสงจากอกท่านหลวงปู่นาค พุ่งไปวัตถุมงคล อาบไปทั้งกอง วัตถุ สว่างแบบแสงกัลปพฤษ์สว่างจ้า ไปทั้งสถานที่ สว่างแบบสามโลกธาตุ เราไม่ต้องทำอะไรไปแทรก เพราะของหลวงปู่นาคคลุมไปหมดแล้ว ท่านเชิญมาครอบ ครบทั้งพระใหญ่ ครูบาอาจารย์ สมเด็จโต พระอรหันต์เจ้า เช่นพระสิวลี เทพ เทวดา ฯลฯ มากันครบ นั่งดูเฉยๆและสวดมนต์สมโภชให้ก็พอ พอเสร็จพิธีกรรม ก็ออก ไม่ต้องทำอะไรอีก ไปกราบลาหลวงปู่นาคเป็นมงคล แล้วลากลับเท่านั้น
    ขนาดหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ยังว่าแบบนี้ จะมาเหลือรอดมือผม ใครที่หาพระสมเด็จดีๆ ไม่ต้องหาแพงๆ ของหลวงปู่นาคนี่แหละ ครบเครื่องแล้ว แต่เน้นทางเมตตา ที่ทำยากที่สุด
    พระแจกจะเป็นพระที่ทำแบบไม่แพง แทบไม่มีมวลสาร ด้วยลดต้นทุนในการแจกฟรี แต่ผมสรุปว่าเป็นของที่ดีที่สุดของหลวงปู่นาค ด้วยเข้าม็อตโต้ ของฟรีดีที่สุด ใครไปเจอ ทรงแบบนี้ เนื้อขาวจั้วะ เก่าตามอายุ มี ห้าสิบปีขึ้น ให้คว้าไว้ทันที ไปเจอก็ราคาขนมๆ แต่ พุทธคุณหลักล้านแน่นอน
    รูปหลวงปู่นาค ยืมจากในเน็ท อ้างอิง ขอบคุณครับ
    https://song-pra.com/.../%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0.../13-2-2021/
    6Q8T9AbEXuLFTtXP3o9aIyyA&_nc_ohc=-ZU-opfCt5sAX8bmfbb&tn=qQUXFBhysK3yQYJa&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg

    uxCZxmL6Zww6Kp7uYIgC43F74SxvfjR4ZL-4ivUqyXFa&_nc_ohc=RQtggr5EcfMAX-zpYgS&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg

    0Z9WWWYY3oZsysEo1rBdd4OEBSesgzAIRCNyPQSCrexL&_nc_ohc=CxYH7RO6t6EAX_pEX1h&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    แนะนำพระกริ่งดีๆ รุ่นหนึ่งน่ะครับ
    ถ้าถามว่าไปหาที่ไหน ก็คงตอบไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ก็ได้กันคนล่ะ องค์สององค์
    แต่ยุคโควิด มันไม่แน่ เผื่อหลุดออกมา พอรับได้ จะได้คว้าไว้น่ะครับ
    พระกริ่งบางพรหมจิาดามณี ของท่านพระครูมานิตย์
    ประวัติเดี๋ยวหามาเติมให้เต็มว่าสร้างเท่าไหร่ ปีไหน แต่แค่ intro สำหรับนักนิยมพระเครื่องก็อยากได้แล้วครับ
    ....วันนี้ผมจึงอยากขอย้อนเอารูปเนื้อหา ชนวนมวลสาร ของพระกริ่งบางพรหมที่นำหลอมและรีดเป็นแผ่นนำมาทำเหรียญยันต์ครูมหาถิริโย เนื้อชนวนพระกริ่งบางพรหมนี้ อีกครั้งนะครับ
    ตัวอย่างแผ่นยันต์ 108 และ นะ 14 ตามตำราการสร้างพระกริ่งอย่างครบถ้วน และแผ่นยันต์จินดามณี อีก 9 แผ่น
    แผ่นยันต์ส่วนหนึ่งจากแผ่นยันต์ 108 แผ่น 108 ยันต์ตามตำราการสร้างพระกริ่ง
    แท่งชนวนสร้างเหรียญพระไภสัชคุรุพุทธเจ้า ซึ่งรวบรวมชนวนและแผ่นยันต์มาจากทั่วประเทศกว่า 2000 ชิ้น ซึ่งถือได้ว่าชนวนมวลสารเนื้อพระเข้มข้นมาก อาทิเช่น
    -แร่โคตรเศรษฐี คุณแม่ประทุม
    -แผ่นจารลายมือหลวงปู่ฝั้น
    -ปรอททะเล หลวงพ่อภัทร วัดโคกสูง
    -ชนวนหล่อพระวิสาขะ หลวงปู่ทรง วัดศาลาดิน
    -ชนวนหล่อพระหลวงพ่อองคืตื้อ จ.หนองคาย อายุเป็น ร้อยปี
    -ชนวนพระหลวงพ่อกุ่ม วัดฝาง จ.อ่างทอง
    -ฆ้องเนื้อทองโบราณ
    -ชนวนหล่อพระหลวงปู่หงษ์ จ.สุรินทร์
    -ชนวนพระหลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง
    -ชนวนพระปิดตาหลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร
    -ฯลฯ
    ชนวนเนื้อเงินแท้ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม ที่นำมาหลอมเทพระกริ่งบางพรหมจินดามณี
    -แหวนเงิน หลวงปู่ดู่ วัดสะแก จ.อยุธยา
    -พระเนื้อเงินหลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม
    -ตะกรุดมหาปราบเนื้อเงินหลวงพ่อพระอธิการใจ วัดพระยาญาติ จ.สมุทรสงคราม
    -ตะกรุดมหาระงับเนื้อเงินหลวงพ่อพระอธิการใจ วัดพระยาญาติ จ.สมุทรสงคราม
    -ตะกรุดลูกอมโลกธาตุเนื้อเงินหลวงพ่อพระอธิการใจ วัดพระยาญาติ จ.สมุทรสงคราม
    -ตะกรุดเนื้อเงินพระครูปลัดมานิตย์ วัดเงิน ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
    -ตะกรุดนะหน้าทองเนื้อเงินหลวงปู่ดี
    -ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ฯ เนื้อเงินหลวงปู่เสียน วัดมะนาวหวาน จ.อ่างทอง
    -เหรียญหล่อเนื้อเงินหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม
    -เหรียญหล่อองค์พ่อจตุคามฯ รุ่นศิริสมบัติ เนื้อเงิน
    -เหรียญสิบสองราศีหลังแผนผังพลังจักรวาลเนื้อเงิน
    -เหรียญเงินเนื้อเงินแท้สมัยรัชการที่ ๕
    -เงินพดด้วงโบราณ
    -แหวนยันต์เนื้อเงิน วัดประดู่ทรงธรรม จ.อยุธยา
    -เหรียญพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเนื้อเงิน
    -กำไลเงิน ตลับใส่สตางค์เนื้อเงิน ทัพพีเนื้อเงิน สร้อยเงิน แหวนเงิน ที่ล้วนแต่มีความหมายที่ดีและผ่านการอธิฐานมาแล้ว
    รวมน้ำหนัก 1 กิโลกรัม
    กำไรสัมฤทธิ์โบราณ ใส่เป็นชนวนมงคล สัมฤทธิ์ มีความหมายว่า สำเร็จด้วยอิทธิฤทธิ์ พระอาจารย์ท่านให้นำมาใส่เป็นชนวน
    สร้อย แหวน ทองคำน้ำหนัก 2 บาท
    กราบขอบพระคุณข้อมูล จากพี่ๆคณะศิษย์วัดเงิน
    Hmlt5w8tRl5lzDgK5odNrdXcxu21HQt5MJJzcUkWIOyu&_nc_ohc=mu2W_bNG0mQAX9YSAvW&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg

    NTIAoml2I-9m91sfRmmXraLp3_lAGJAjYolumji0YwgC&_nc_ohc=gvhjJubtn9AAX_rUWCo&_nc_ht=scontent.fbkk2-5.jpg

    VAWuWzZD7t8Ds9DEi7fpbzqVRPQM87YwZ6wtG1OTyxpN&_nc_ohc=IAG9n67KOYEAX9c6u91&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg

    LxS9lIV93HtW2r4NQq7L_0XSd5IHlO40tgLE6Lj4YWqQ&_nc_ohc=HknyhW8AiUEAX8CHvoS&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg

    gxddDf1g-hY4X-4mkgiBQgGC3hbkmPFDOSC0uoaSm6K9&_nc_ohc=S0VCiXGKpTkAX9BICIr&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg
     
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,289
    มีดโบวี่ ๗ นิ้ว
    ผมค้นไปตามลังต่างๆมาเจออันนี้ เลยนึกเรื่องราวในอดีตได้ น่าจะประมาณ ปี ๒๕๔๐ เสี่ย ท หรือ ผมเรียกเขา ไอ้เปีย มาตั้งแต่เด็กๆ เรียน เซนด์ดอฯ มาด้วยกัน ตอนนี้ล่วงลับไปแล้ว พึ่งเผาไป ผมได้แต่ช่วยงานไปกล้าไปเผาด้วย เดี๋ยวได้ตามมันไปด้วยโควิด เสี่ยผู้นี้ บ้านฐานะดีมากๆ และเป็นจอมคาถามาตั้งแต่เด็ก เขารู้คาถาอาคม วิธีการ โองการต่างๆมาตั้งแต่เด็ก ยุคขาสั้นก็ไปนั่งปลุกพระบ้านเขานี่แหละที่แถวสี่แยก เจริญผล เสี่ย เขาเป็นคนแนะนำให้ผมไปรู้จัก ท่านอาจารย์ วรกันต์ ศรีสมบัติ ( ท่านน่าจะเป็นมอญ และเป็นครูสายพราหมณ์ ) ที่พระประแดง และเข้าสู่วงการแนวลึกลับ พลังจิตมาตั้งแต่นุ่งขาสั้น พวก อาพัดเเหล้า คาดปูน แต่ดูแนวแล้ว อาจารย์วรกันต์ ท่านจะถนัดแนวเมตตามากกว่า ท่านไม่ชอบเน้น เรื่องบู๊ๆ แม้จะทำได้ดี ลูกศิษย์ก็จะแนวนี้มาให้ท่านช่วย ด้สนเมตตา ค้าขาย เอาของออก แนวๆนี้แหละครับ
    เสี่ยเปียเขาไปซื้อมีดมาหลายเล่ม เอามาให้ หลวงปู่พระครูบุญศรี เมตตาปลุกเสก นัยว่าจะเอาไว้ป้องกันตัวไล่ผี ประมาณนั้น ผมเลยขอแบ่งเขามาเล่มเป็นมีดโบวี่ ๗ นิ้ว ( ใบยาว ๗ นิ้ว ) ผมมาขอหลวงปู่ ท่านลงเพิ่ม
    ท่านลง อุ ที่ใบ ด้านหนึ่ง ตัวนี้จะยืนเป็นพื้น ในมีดหมอ หลวงปุ่ท่านบอกใช้ได้หลายอย่าง แต่หนักๆไปทางไล่ผี นี่แหละ
    ลง นะ ที่ใบอีกด้านหนึ่ง เน้นแคล้วคลาด ปลอดภัย
    และ ลงปิดด้าม ด้วย มะ อะ อุ ขึ้นอุณาโลม
    อุณาโลมของหลวงปู่พระครูบุญศรีท่านจะลงไม่เหมือนใคร ท่านจะประจุด้ามด้วยวิชาปัจจุขาด วิชานี้ถ้าท่านลงให้ รับรองคุณภาพ ส่วนวิชานี้ ใครสงสัยว่าเป็นอย่างไร หาอ่านเอาในเน็ท หรือ ตำราของท่านอาจารย์ เทพย์ สาริกบุตรน่ะครับ คล้ายๆกัน ต้นตอเดียวกัน
    เอาใส่ลังไปเสกน่าจะหลายที แต่ไม่ถึงร้อยครั้ง เพราะหนัก เปลืองเนื้อที่ในลัง เอาว่าเสกจุใจแล้ว ท่านลงจารให้ด้วยเหล็กจารก็หายากแล้ว ที่จะลงเยอะ ขนาดนี้ ปกติ ลงแค่ตัว สองตัวก็ไป ผจญภัยได้แล้ว
    เจตนาผมว่าจะใช้เข้าป่าทำงาน ลงทะเล ในยุคนั้น แต่พอจริงๆ เขาไม่ให้ เอามีดขึ้นเครื่องบิน จะยึดของเราไว้ซ่ะอีก เลยต้องเก็บที่บ้าน นานจนลืม มาค้นเจอก็จำเรื่องราวได้ครับ
    ลายมือ หลวงปู่ ลงเหล็กจารแบบนี้น่ะครับ ไม่ขยุกขยิกเหมือนคนอายุ ร่วม ร้อยปี ลายมือท่านสวยเลยล่ะครับ
    .................................................

    210327.jpg 210328.jpg 210325.jpg 210327.jpg 210328.jpg IMG_2053.JPG IMG_2054.JPG 210323.jpg IMG_2053.JPG IMG_2054.JPG 210323.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...