เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

ฝึกมโนมยิทธิไม่ได้
ไปนิพพานได้ไหม

ผู้ถาม : “หลวงพ่อครับ คือสงสัยว่า
คนที่ทำทานก็ดี รักษาศีลก็ดี แต่ว่า
ทำเล็กๆน้อยๆ แต่ก็ทำเป็นประจำ
แต่มาฝึก มโนมยิทธิ ไม่ได้สักที ตั้งใจ
จะไปนิพพานชาตินี้ กระผมไม่มีโอกาส
จะไปได้แน่ เพราะไม่ได้ มโนมยิทธิ ขอให้
หลวงพ่อช่วยให้กำลังใจหน่อยเถิดครับ”

หลวงพ่อ : “การไปนิพพาน นี่นะ
มโนมยิทธิ นี่ก็เป็นหมวดที่ ๓ ที่เรียกว่า
ฉฬภิญโญ ไปนิพพานจริงๆ เขาไปได้
ทั้ง ๔ หมวดนั่นแหละ
สุขวิปัสสโก ก็ไปได้
เตวิชโช ก็ไปได้
ฉฬภิญโญ ก็ไปได้
ปฏิสัมภิทัปปัตโต ก็ไปได้ ได้เหมือนกัน
คนที่เขาไม่ได้ฝึก มโนมยิทธิ เขาไม่ได้
อภิญญา เขาสามารถไปได้เยอะแยะไป
มันขึ้นอยู่กับ..กำลังใจที่ตัดกิเลส…”

ตอบปัญหาธรรม
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือ ทุกคนอยากรู้ หน้า ๘๒



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

นิมิตเป็นที่หมายก่อนตาย
และการต่อบุญบารมี

ทีนี้เวลาที่จะตายให้สังเกตตามนี้ ถ้าหากว่าจะไป
นิพพานได้ทุกคนจะเห็นพระพุทธเจ้าสวยงามมาก อยู่ใกล้ท่านหรือเห็นพระอรหันต์อยู่ใกล้ อันนี้ต้อง
เห็นทุกคน ขอยืนยันว่าเห็นทุกคน

ถ้ายังไม่เห็นพระพุทธเจ้า ยังไม่เห็นพระอรหันต์
หรือเทวดาหรือพรหมก็ตาม เวลานั้นมันยังไม่ตาย
ป่วยหนักอย่างไรก็ยังไม่ตาย ถ้าเวลาจะตายจะ
ต้องเห็น

ถ้าเห็นพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์อยู่แนวหน้า
ด้านหน้า ข้างหลังเป็นเทวดากับพรหมอย่างนี้ท่าน
ไปนิพพานกันแน่ ถ้าบังเอิญมีเทวดาหรือพรหมอยู่
ข้างหน้า อย่างนี้ยังไม่ไปนิพพาน อย่างนี้ถ้าตาย
แล้วต้องเป็นเทวดา เป็นพรหม เป็นนางฟ้า
แต่ก็ไม่ใช่ของแปลก ถ้าเป็นเทวดาก็ตามเป็นนาง
ฟ้าก็ตาม เป็นพรหมก็ตาม อีกไม่นานนักพระ
ศรีอาริย์ ก็ตรัส เราก็ฟังเทศจาก พระศรีอาริย์ เพียงแค่จบเดียวอย่างต่ำก็เป็น พระโสดาบัน

แต่ความจริงถ้าบำเพ็ญบารมีมาแบบนี้ เขาไม่เป็น
พระโสดาบันกันหรอกนะ ถ้าสมมติว่าเรายังไม่
ได้นะ ตายจากความเป็นคนเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า
ฟังเทศน์จาก พระศรีอาริย์ แล้วเป็นพระโสดาบัน
ก็ซวยเต็มที อย่างนี้อย่างเลวต้องเป็นอนาคามีเป็น
อย่างน้อย เพราะบารมีถึงแล้ว หลังจากนั้นก็ต่อ
บุญบารมีของเราเรื่อยขึ้นไปจนถึงนิพพาน
เป็นอันว่าร่างกายประเภทนี้ที่เราไม่ต้องการ
ไม่ต้องพบมันอีก

จาก : หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๔
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

สำคัญที่กำลังใจ

ถ้าเกิดมาแล้วพบพระพุทธศาสนายังบอกว่า
บารมี อ่อนอีก ก็แสดงว่าขี้เกียจมากเกินไป
ไม่รู้จักควบคุมกำลังใจ ปล่อยไปตามสภาวะ
ของกิเลสมันจะมีผลอะไร ชาวบ้านเขาทำได้
เราทำไม่ได้จะมานั่งบ่นว่าทำไม่ได้
ก็เพราะว่าเรามันดีไม่พอใช้ กำลังใจเป็นสำคัญ
การจดจำแนะนำสั่งสอน การมีวิริยะอุตสาหะ
มีสติ มีปัญญาควบคุม อันนี้เป็นของสำคัญ
การเจริญสมถภาวนาตอนต้น หรือตอนปลายมี
สภาวะเหมือนกัน นั่นคือ
๑. ทรง ศีล บริสุทธิ์
๒. ระงับ นิวรณ์ ๕ ประการได้เด็ดขาดใน
ขณะที่ทรงสมาธิ
๓. ทรง พรหมวิหาร ๔ ได้

โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๑ หน้า ๕๒



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ท่านปรีชาทรงธรรม

ท่านปรีชาทรงธรรม ท่านช่วยงานของวัด
ท่านเป็นห่วงเป็นใยมาก อาตมาก็ขอบคุณท่าน
ท่านช่วยแบบหลังฉากหลังม่านนะ ช่วยตลอดเวลา
และก็ไม่ปรากฏตัว คนอย่างนี้เห็นจะหาได้ยากที่
สุดในโลก คือเหน็ดเหนื่อยเกือบตายสนับสนุนทุก
อย่าง ช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่เคยหวังผลตอบแทน

ฉะนั้น ในบางตอนจึงใช้คำว่าท่านปรีชาทรงธรรม
ที่เคารพ เคารพกันที่ความดี ความบริสุทธิ์ของใจ
ความเมตตาปราณี ความหวังดีของใจ ก็รวมความ
ว่า เดี๋ยวจะหาว่ายกยอปอปั้นมากเกินไป องค์นี้ไม่
ต้องปั้นอ้วนอยู่แล้ว ท่านอยู่ชั้นดุสิต

ท่านปรีชาทรงธรรม ท่านเป็นพระโพธิสัตว์
พระโพธิสัตว์นี่ฉันเองยังเคารพนับถือเลย
ท่านคือพระศรีอาริย์ เวลานี้ท่านให้ชื่อท่านว่า
“ท่านปรีชาทรงธรรม” ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าจึงมี
นามว่า “พระศรีอริยเมตไตรย์” นะ เราเรียกเสีย
ก่อน เขายังไม่ได้ตั้ง การสร้างวัดท่าซุงท่านมีส่วน
ช่วยเยอะ ท่านอยู่ข้างบน อยู่สูงกว่านะ เอามือ
เอื้อมไม่ถึง ก็เอาเท้าเขี่ยเอาก็ได้ (หัวเราะ) ไม่พอ
ใจโดดลงมาช่วยก็ได้

ความจริง งานของฉันทั้งหมด และงานของทุก
คนที่นั่งอยู่ที่นี่ ข้างบนช่วยกันเยอะ เยอะกว่าข้าง
ล่าง มันง่ายกว่า เอาความเป็นทิพย์ใช้ แค่กำลังใจ
นิดเดียว ไม่ต้องใช้อะไรมาก

ที่มา : จากหนังสือ พ่อสอนลูก
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
(ท่าซุง) จ.อุทัยธานี



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

หลวงพ่อเนียม วัดน้อย จังหวัดสุพรรณบุรี

ก่อนนี้เคยพบพระที่เป็นอาจารย์ ท่านได้เคยเป็น
อาจารย์อยู่สิบองค์ฉันมาทีหลัง อาจารย์สิบองค์น่ะ
ท่านไปแล้ว ถึงรู้ว่าเป็นพระที่ไม่ยอมเปิดออก
แล้วก็ถ้าไปดูจริยาท่าน ไอ้หนูไปยังไม่ยอมไหว้เลย
ดีไม่ดีนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว ผ้าอาบน้ำ อย่างหลวง
พ่อเนียม น่ะท่านนุ่งผ้าลอยชายผืนหนึ่ง คล้องคอ
ผืนหนึ่ง ตรวจวัดก๊อกแก๊ก ท่านก็เดินของท่านเรื่อย
ไป คุยกับหมาบ้างกับแมวบ้าน คนไม่ค่อยอยากคุย
กับท่าน คนไม่คุยกับท่าน ท่านก็เลยคุยกับหมากับ
แมว ถามท่านบอกว่าสบายใจ คุยกับคนคนมันขัด
คอ หมาแมวไม่ขัดคอ นะ นั่นท่านดีมาก
ท่านดีมากเท่าไร

เมื่อไปเรียนธรรมะกับท่านฉันไปสามวันแรกฉันถูก
ด่า แต่ท่านไม่ได้ด่าฉันหรอก ท่านด่าโคตรพ่อ
โคตรแม่ ไม่ถึงฉันนะโยม จริงไหม ไม่ได้ด่าโยม
ท่านด่าโคตรพ่อ โน่นท่านตายไปแล้วช่าง ด่าไปสิ คนแก่ด่าคนตาย ด่าไปเถอะ ด่าโคตรพ่อโคตรแม่
ตามสบาย ด่าเสียงดังด้วยสิ แต่หลวงพ่อปานท่าน
บอกไว้แล้ว ไปถูกด่าไม่รอดหรอก แต่ต้องตาม
ธรรมเนียม ต้องด่าสามวัน พอถึงวันที่สี่เลิกด่า
เหนื่อย หันหน้ามาถามฉันว่า เฮ้ย มึงไม่โกรธกูหรือ
ถามท่านทำไมกูด่ามึง บอกอ้าว หลวงพ่อเผลอไป
แล้วนี่ หลวงพ่อไม่ได้ด่าผมนี่ครับ กูด่ามึงนี่หว่า
บอกเปล่า หลวงพ่อด่าโคตรพ่อโคตรแม่
ไม่ถูกผมหรอก

หัวเราะกั๊กๆ ไอ้ แม่ ไอ้คนเมืองกรุงเก่า โคตรแม่มึง
ดื้อ ทั้งลูกศิษย์ทั้งอาจารย์ อ้าว ด่า โคตรแม่สิ เรา
ไม่เกี่ยว ใช่ไหม (หัวเราะ) แล้วก็เลยนัด วันนี้สอง
ทุ่มแกไปหาฉันในโบสถ์ อีตอนนี้ผิดรูปเลยโยม
เข้าไปทรงสบงจีวร สังฆาฏิ เรียบร้อย เราเข้าไปที่
ประตูโบสถ์ นี่ใช่หลวงพ่อเนียม หรือเปล่า หนุ่ม
ดูอายุประมาณ ๓๐ ปี สวยด้วย อาจารย์..ฉันก็
นั่งมอง ทั้งสามองค์มอง เอ๊ะอย่างไรกันแน่หว่า
หลวงพ่อเนียม ท่านก็หาย พระอะไรมานั่งก็ไม่รู้

ท่านก็ยิ้มๆ ถาม จำไม่ได้หรือ เสียงจำได้แฮะ ถาม
ท่าน ท่านก็เลยบอก ไอ้เรื่องร่างกายขันธ์ห้า อย่า
ไปสนใจมันเลย มันไม่แน่ อนิจจัง มันแก่ได้ หนุ่มได้
ซวยเลย เราแก่อย่างเดียวไม่หนุ่ม (หัวเราะ) ไอ้ของ
เราเป็นอย่างนั้นไม่ได้ เป็นจะหลอกคนให้เข็ดใช่
ไหม เข้าไปจะกราบท่าน ท่านชี้ไปที่พระพุทธรูป
กราบพระพุทธรูปก่อน อย่ากราบฉันก่อนจะขาด
สรณคมน์ แล้วก็มากราบท่าน

การสอนพระกรรมฐานวันนั้น โอ้โห ท่านสอนดี
จริงๆ เข้าใจง่าย ไม่พูดภาษาที่เราไม่รู้เรื่อง แล้ว
ท่านก็บอกว่าการจะปฏิบัติกรรมฐานให้เข้าถึง
มรรคผล จะต้องตีรวมหมดไม่ใช่แยก เขาทำ
พร้อมกันทั้งศีล สมาธิ ปัญญา แล้วใช้อารมณ์
ง่ายๆ ไม่ยาก ฟังไปๆ คล้ายๆ เหมือนเราจะไปเสีย
อย่างนั้น ต่อมาถึงเวลาพอควร ท่านก็บอกให้ไป
พักนะคุณ

หลังจากนั้นพอตีสองเศษๆ ท่านลุกขึ้น เอ๊ย ไอ้ห้อง
ที่สามน่ะ ตึงมากไปหน่อยนะลูกนะ ลดมาสักนิดสิ
นั่นแน่ เครื่องวัดไวบรรลัยเลย ท่านก็บอกห้องนั้น
เป็นอย่างไร ห้องนั้นพอดีๆ อย่าให้หนักไป พอ
ดีละๆ แหม ดูอย่างไรเอาอะไรมาวัดก็ไม่รู้ ฝรั่งมัน
มีขายหรือยังเครื่องพรรณนี้ (ไม่มีครับ) นั่นนะสิ
หลวงพ่อเนียม มีใช้แล้ว ไม่รู้เอามาจากไหน
อันนี้ท่านดี แปลว่าพวกเรามัวไปมองเปลือก ไม่มี
ใครอยากไหว้ท่าน เพราะอะไรรู้ไหม ใครไม่รู้จัก
ท่าน ท่านเลยสบายใช่ไหม ก็เขาไม่ต้องการท่านนี่
ไม่ไหว้ก็แล้วไป ท่านก็แก่แล้วจะตายเมื่อไรก็ช่าง
ไอ้บ้านนี้ไม่ดี บ้านใหม่ดีกว่า

จาก : หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๐
หลวงพ่อเล่าให้ฟัง โดย…หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

พระพุทธเจ้าในพุทธกัปนี้

ว่ากันตามแบบของตำรา แต่พูดกันตามเนื้อแท้
จริงๆ กัปนี้ไม่ใช่มีพระพุทธเจ้า ๔ องค์ กัปนี้มี
พระพุทธเจ้าจริงๆ ๑๐ พระองค์ งวดแรก ๕ องค์
มีพระศรีอริยเมตไตรย์เป็นองค์สุดท้าย แล้วก็เริ่ม
ต้นใหม่มีพระรามเป็นองค์ต้น แล้วต่อไปอีก ๔ องค์
ตามตำราที่อ่านมา ที่ผ่านมาแล้วทั้งหมด ไม่เคยพบ
ว่ากัปไหนมีพระพุทธเจ้ามากเหมือนกัปนี้ บางกัปมี
องค์เดียวบ้าง สององค์บ้าง สามองค์บ้าง อย่างนี้
เป็นต้น ถึง ๕ องค์ยังไม่พบ แต่ว่ากัปนี้มี ๑๐ องค์
ถือว่าเป็นกัปพิเศษ

ฉะนั้นคนที่มีความดี ตายจากความเป็นคนไปใน
ช่วงนี้ ไปเกิดเป็นเทวดา หรือพรหม ในระหว่างที่
ท่านเป็นเทวดาหรือพรหมนี่แหละ ยังไม่ทันสิ้น
อายุของความเป็นทิพย์ พระศรีอริยเมตไตรย์ก็
มาตรัส คนที่มีความดีแก่กล้า พบพระพุทธเจ้าองค์
ใดองค์หนึ่งตรัสพระธรรมเทศนา ฟังพระธรรม
เทศนาจบเดียวก็เป็นพระอรหันต์ไปนิพพาน
ถ้าไปนิพพานเสียได้ก็มีความสุข

จาก : หนังสือ พ่อสอนลูก
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม
(ท่าซุง) จ.อุทัยธานี



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

เรื่อง…ทำจิตก่อนตายจะทำอย่างไร ?

ความจริงคนที่ไม่เคยทำการค้า ก็คุยได้ว่าถ้าฉัน
ทำการค้าบ้าง ฉันจะรวย ดีไม่ดีทำเข้าจริง อาจจะ
ขาดทุนมากกว่าชาวบ้านก็ได้ ถ้าเรายังไม่ตาย
ก็ทำท่าว่าจะไปสวรรค์ ฉันจะไปพรหมโลก ฉันจะ
ไปนิพพาน มันก็ไม่แน่นักเหมือนกันนะ ใช่ไหม

เวลาจะตายถ้าอกุศลมันครอบงำนิดเดียวมันแถ
ลงข้างล่าง ที่พระพุทธเจ้าให้ถือ “อนุสสติ” หรือ
เจริญพระกรรมฐานให้ยึดถือความดีเรื่องของบุญ
เป็นเกณฑ์จนชิน

คำว่า “ฌาน” ก็คือ อารมณ์ชิน

“วสี” แปลว่า คล่อง คือคล่องในการเข้าสมาธิ
การเข้าสมาธิไม่จำเป็นต้องหลับตา

ท่านจึงสอนว่า “ท่านทั้งหลาย จงอย่าตามนึกถึง
ความชั่วที่ผ่านมาแล้ว” “บาป” มันแปลว่าชั่ว
บาปฆ่ามดฆ่าปลวกอะไรก็ตาม มากก็ตาม
น้อยก็ตาม อย่านึกถึงมัน ให้นึกถึงเฉพาะ
ความดีไว้อย่างเดียว

อย่างเราเคยถวายทานกับพระ ให้ทานกับคนและ
สัตว์ เคยรักษาศีล โดยเฉพาะอย่างยิ่งซ้อมการ
ภาวนา คำภาวนานี่เป็นเรื่องของบุญ ตั้งใจอยู่ใน
ด้านของความดีให้ชิน คำว่าชินก็คือฌาน จิตว่าง
จากอย่างอื่นนึกได้ทันทีทันใดให้คล่องตัว นึกเมื่อ
ไหร่ใช้ได้เมื่อนั้น

ตามศัพย์ภาษาบาลีเรียก “วสี” แปลว่า คล่อง

ถ้าเป็นอย่างนี้ ถ้าเวลาเราจะตายจริงๆ เมื่อจิตมัน
หมดที่พึ่ง ถ้าจับคำภาวนา การภาวนาไม่จำเป็น
ต้องมาก จิตมีความเคารพในพระไตรสรณาคมน์ก็
ดี หรือพอใจในพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม
พอใจพระสงฆ์องค์ใดองค์หนึ่งก็ตาม หรือคิดถึง
บุญอย่างใดอย่างหนึ่งในขณะนั้น ถ้าจิตคิดถึงเรื่อง
ที่เป็นบุญแม้แต่นิดเดียว ตายเวลานั้น ไปนรกไม่ได้ ไปสวรรค์ทันที

ถ้าจิตออกจากร่าง ถ้าภาษาปฏิบัติเขาเรียก “อทิสสมานกาย” ออกไปจากร่างปุ๊บ บุญที่ทำทั้ง
หมดจะรวมตัว แล้วพาไปตามจุดกุศลที่จะพึงมี

ฉะนั้น พระพุทธเจ้าท่านจึงให้ภาวนาหรือ
พิจารณาไว้ จะได้ไม่ประมาท ให้จิตมันชิน
เวลาจะตายจริงๆ จิตมันไม่หมดที่พึ่ง
คว้าอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วมันก็ไปเกาะ

สมมติว่า ถ้าคนป่วยแล้วเอาพระพุทธรูปตั้ง
ไว้ก็ดี หรือให้พระมาให้ศีลถวายทานก็ตาม
จิตจะเกาะตลอดเวลา อันนี้ไม่ตกนรกแน่ !

ฉะนั้น จึงไม่ต้องสงสัยว่าแถวบ้านนอก เวลาคน
ใกล้จะตาย เขามักจะเอาพระพุทธรูปไว้ที่หัวนอน
คนตาย แล้วให้ภาวนา “อะระหังๆ” ทั้งนี้ก็เพื่อให้จิต
จับพระก่อนตายนั่นเอง แต่ว่าถ้าหากไม่ซ้อมไว้
ก่อนตอนมีชีวิตอยู่ก็ไม่แน่นักนะ (หลวงพ่อเคย
บอกเสมอว่า)
“จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคคติ ปาฏิกังขา”
ก่อนตายจิตเศร้าหมองก็ไปนรก

จาก : หนังสือ หลวงพ่อเล่าให้ฟัง เล่ม ๒ หน้า ๙๒-
๙๓-๙๔ โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ธรรม..โอวาทหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค

เวลาเผาศพ อย่าตั้งหน้าตั้งตาเผาเขา
เวลาเราไปเผาศพ ก็เผากิเลสในใจของ
เราเสียด้วย กิเลสส่วนใด ที่มันสิงอยู่ที่เรา
คิดว่า เราจะไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายน่ะ
เผามันเสียให้หมดไป เราคิดว่า วันนี้เราเผาเขา
ไม่ช้าเขาก็เผาเรา คนเกิดมาแล้วตายอย่างนี้
เราจะเกิดมันทำไมต่อไปข้างหน้า เราไม่เกิด
ดีกว่า เราไปพระนิพพานนั่นละ ดีที่สุด..



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ไฟโทสะ พยาบาท
เผาผลาญตั้งแต่เริ่มคิด

คนใดก็ตาม เขาทำให้เราขุ่นเคือง
ทำให้เราไม่ชอบใจด้วยกรณีใดๆ ก็ตาม
ถ้าหากเราคิดพิจารณา เข่นฆ่าจองล้าง
จองผลาญ ถ้าเขาด่าเรา เราคิดว่า
โอกาสสักวันหนึ่งข้างหน้าเราจะด่าตอบ
เขาลงโทษเรา เราจะลงโทษตอบ เขาตีเรา
เราคิดว่าเราจะตีตอบ แต่โอกาสมันยังไม่มี
คิดเข้าไว้ในใจว่า เราจะทำอันตรายตอบ

อย่างนี้พระพุทธเจ้ากล่าวว่า เป็นอาฆาต
คือพยาบาท เป็นไฟเผาผลาญดวงจิต
เพราะคนที่เรากำลังคิดจะฆ่าก็ดี
คิดจะประทุษร้ายก็ดี นี่เขายังไม่ทันรู้ตัว
เขามีความสุข เราคนที่คิดจะทำเขานั่นแหละ
ตั้งแต่แรกหาความสุขไม่ได้
มันเป็นไฟเผาผลาญคนคิดนี่แหละ
กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
เพราะอำนาจโทสะเข้าสิงใจ
นี่คือผลแห่งอำนาจโทสะหรือพยาบาท
มันเริ่มเผาผลาญตั้งแต่คิดทีเดียวเลย

พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดํา)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

อัตตา หิ อัตตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อัตตนา หิ สุทันเตนะ นาถัง ลภติ ทุลลภัง
พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ตนแลย่อมเป็นที่พึ่งของตน
บุคคลอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้ เมื่อเราฝึกฝนตน
เองดีแล้ว เราก็จะได้สิ่งที่บุคคลอื่นได้โดยยาก

โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ความสำคัญของพรหมวิหาร ๔

การที่เราทำอะไรไม่ดีในด้านสมาธิจิต
หรือวิปัสสนาญาณ เริ่มแต่การรักษาศีล
ให้บริสุทธิ์ไม่ได้ก็แสดงว่าเราขาด
พรหมวิหาร ๔

ถ้าอารมณ์จิตของเราตั้งอยู่ใน
พรหมวิหาร ๔ ตลอดเวลา เรื่องฌาน
สมาบัติเป็นเรื่องเล็กจริงๆ เพราะฌาน
สมาบัติจะมีขึ้นมาได้ และศีลบริสุทธิ์ได้
เพราะความเยือกเย็นของจิต

เมื่อจิตมีความเยือกเย็นไม่เร่าร้อน
ไม่กระวนกระวาย ไม่กระสับกระส่าย ไม่มีความโหดร้าย ไม่คิดอิจฉาริษยาทำ
ร้ายใคร ใจก็เป็นสุข อารมณ์ก็เป็นกุศล

รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๓
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ศีล ๕ เป็นสิ่งสำคัญ

ศีลห้า เป็นของสำคัญที่สุด จะใช้คำว่า
ไม่สามารถไม่ได้ เราต้องเป็นผู้สามารถ
เสมอในการทรงศีล จะมาเอาสาเหตุใดมา
อ้างว่ามันจำเป็นอย่างนั้นจำเป็นอย่างนี้
อันนี้ไม่ใช่ เพราะทางการเจริญพระกรรมฐาน
มองไม่เห็นความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องละเมิดศีล

หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ทำ ๔ ข้อนี้ให้ได้ไปนิพพานหมด

ชาตินี้พวกเราควรจะพอเสียที เกิดทุกชาติก็ตาย
ทุกชาติ เคยเป็นใหญ่เคยเป็นกษัตริย์มีสมบัติมาก
มายเอาติดตัวมาไม่ได้เลย

๑. ให้นึกถึงมรนัสสติกรรมฐานไว้เพราะเป็นสมถะ
และตัดสักกายทิฏฐิไปด้วยเพราะคิดถึงความ
เสื่อมคือตายเป็นปกติ

๒. มีอนุสสติครบ เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม
พระอริยสงฆ์

๓. ทรงศีลบริสุทธิ์

๔. นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์

พวกเราทำ ๔ ข้อนี้ไห้ได้ไปนิพพานหมด ไม่ต้อง
ทำอะไรมากมายไปกว่านี้ เพราะเราทำทุกอย่าง
มาเต็มหมดแล้ว

ธรรม..โอวาทหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

การสวดมนต์ทำความดี
ก็อย่าได้ใจร้อน อย่าโลภทำไปเรื่อยๆ
ถึงคราวบุญกุศลที่ทำไว้ก็จะจัดสรร
ให้ร่ำรวย เป็นสุขเอง
โดยไม่ต้องอ้อนวอนขอให้เหนื่อย

…หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

…”เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่
พระองค์ (ในหลวง) ปรารถนามานาน..เท่าที่
ทราบ..พระองค์ปรารถนามานาน..แต่เวลานี้
บารมีเป็น “ปรมัตถบารมี” ก็เหลืออีกเพียง
๕ ชาติ และที่พระองค์ปฏิบัติมานี่มันเลยแ
ล้ว ไม่ใช่ไม่สำเร็จ
พุทธภูมินี่ต้องบำเพ็ญบารมีกันมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็น “วิริยาธิกะ”
ต้องบำเพ็ญถึง ๑๖ อสงไขยกำไรแสนกัป
นี่บำเพ็ญบารมีเกิน ๑๖ อสงไขยแล้ว
“แสนกัป” อาจยังไม่ครบ จึงต้องเกิดอีก ๕ ชาติ…”

พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดํา)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

หาความบกพร่องของจิตเพื่อทรงความดี
ที่ถูกต้อง:

ข้อสำคัญจงจำไว้ว่า จงอย่าคิดว่าเราดีไว้เสมอ
มองดูความบกพร่องของจิต ว่าจิตเราบกพร่อง
ตรงไหนบ้าง พยายามแก้ไขให้สู่ระดับความดี
อย่างนี้เป็นความดีที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัม
พุทธเจ้า ทรงต้องการ บรรดาลูกรักของพ่อทุกคน
ปฏิปทาใดที่องค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดา
สัมมาสัมพุทธเจ้ามีความชนะในมารฉันใด
ขอบรรดาลูกรักทั้งหลายจงชนะในมารฉันนั้น
ด้วยกำลังใจ ที่ทรงความดี

คำสอน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

คนที่อ้างว่าบารมีไม่พอ แสดงว่าขี้เกียจมาก
กำลังใจไม่ดี นี่ไม่มีอะไร บารมีมันเป็นของ
สร้างใหม่ได้ ไม่ใช่จะต้องเป็นของสร้างมา
แต่ชาติปางก่อนเสมอไป ไม่อย่างนั้นก็ไม่มี
ใครบรรลุมรรคผล

คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดจันทาราม (ท่าซุง)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ถ้าว่าจะเอากันให้ดีจริงๆ ภาวนาให้หลับจะดีมาก
ก็ถือว่าเราเป็นผู้ทรงฌานทุกวัน ถ้าถามว่าภาวนา
ใช้เวลาเท่าไหร่ ถ้าพุท ไม่ทันโธ หลับยิ่งดีใหญ่
จิตเข้าถึงฌานเร็ว

คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดจันทาราม (ท่าซุง)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

พ่อรักลูก…

ลูกรักทั้งหลาย..ธรรมส่วนใดที่องค์สมเด็จพระ
ประทีปแก้วสอน ที่พ่อปกปิดไว้ไม่มี พ่อสอนหมด
ทุกอย่าง เมื่อพ่อตายแล้ว ขอลูกแก้วของพ่อจง
ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยส่วนนี้ทั้งหมด
ในเมื่อขันธ์ ๕ มันทนไม่ไหว พ่อก็อยู่ไม่ได้ พ่อสอน
ลูกอยู่เสมอว่า ขันธ์ ๕ เป็นของธรรมดา มันเกิด
แก่ เจ็บ และในที่สุดมันก็ต้องตายเหมือนกันหมด
ลูกจะเกาะขันธ์ ๕ ของพ่ออยู่อย่างนี้ตลอดกาล
ตลอดสมัยไม่ได้ ความดีที่จะเกิดมีขึ้นนั้นไซร้
ก็คือการปฏิบัติตนเอง ฟังแล้วก็จำ จำแล้วก็คิด
คิดแล้วก็ปฏิบัติตาม ถ้าสามารถทำได้ ในที่สุด
ไม่ช้าก็จะบรรลุมรรคผลเป็นพระอริยบุคคล

จาก : หนังสือ พ่อรักลูก ๓
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ศีลบริสุทธิ์มีผลดีอย่างไร

คนที่มีศีลบริสุทธิ์ย่อมเป็นที่รักสำหรับคนเหมือนกัน
โดยเฉพาะคนเหมือนกันเขาก็รักคนที่มีศีลบริสุทธิ์
แม้แต่สัตว์เดรัจฉานที่ไม่รู้จักภาษามนุษย์ ก็รักคน
ที่มีศีลบริสุทธิ์เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นเทวดาก็ยัง
รักคนที่มีศีลบริสุทธิ์

ฉะนั้น คนที่มีศีลบริสุทธิ์นี่จึงกล่าวว่าเป็นคนที่มี
ความสำคัญ ศีลเป็นปัจจัยกันอบายภูมิด่านแรก
ถ้าศีลของเราบกพร่องแสดงว่าเราเปิดโอกาสให้
เราลงอบายภูมิ ถ้าศีลบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าเรายังไม่
เป็นอริยเจ้า ถ้าจิตมีความมั่นคงในศีลก็แสดง
ว่าชาตินี้ละ ที่เราไม่ลงอบายภูมิมีนรกเป็นต้น

พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง