เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

บารมีเต็มไปนิพพานหมด

ทุกคนที่เกิดมานี้มันต้องไปนิพพานทุกคน
สัตว์ทุกตัวในโลกต้องไปนิพพานหมด
แล้วแต่ใครจะไปช้าไปเร็วเท่านั้น สัตว์นี่ก็คือคน
เพราะอาศัยทำบาปอกุศล
ตายแล้วตกนรกมาเป็นเปรต มาเป็นอสุรกาย
ต่อมาเป็นสัตว์เดรัจฉานขั้นสุดท้าย แล้วก็
กลับมาเกิดเป็นคน
แล้วความดีของนิพพานมันแสนจะยาก
ถ้าเราจะพูดว่ายาก ถ้าเราพูดตรงตามแบบ ตรง
ตามความเป็นจริงมันก็ไม่ยาก
ความดีเรา สั่งสมทุกชาติ
การไปนิพพานหวังชาติเดียวไม่ได้
มันต้องบำเพ็ญบารมีคือกำลังใจดีมาตั้งแต่ต้น
ตั้งแต่กำลังใจยังอ่อน ค่อยเข้มข้นไปทีละน้อยๆ
ถึงขั้นเข้มข้นมากที่สุด ที่เรียกว่าบารมีเต็ม เรียกว่า
ปรมัตถบารมี

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๓ หน้า ๑๖๓



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

การบำเพ็ญกุศลอย่าให้มีบาป

ถ้าเราจะบำเพ็ญกุศลบุญราศีให้ปรากฏเป็นผลดี
ก็ขอให้การนั้นเป็นการที่บำเพ็ญกุศลจริงๆ ขอท่าน
บรรดาพุทธบริษัทชายหญิง
จงงดเว้นกรรมที่เป็นอกุศลเสียให้หมด
งดสิ่งที่เป็นกรรมชั่วทุกประการ อย่าให้ปรากฏมี
เวลาเริ่มงานขึ้นมาสักที
กรรมใดที่เป็นอกุศล เช่น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็ดี
การเลี้ยงสุราก็ดี อย่างนี้จงงดไว้
ตั้งใจไว้เฉพาะบำเพ็ญกุศลบุญราศีเท่านั้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุก
ท่าน ได้นำกุลบุตรของท่านเข้ามาอุปสมบท
บรรพชาในพระศาสนา
ในงานคราวนี้ท่านจะเห็นว่าการจัดงานครั้งนี้
ไม่มีสิ่งเนื่องด้วยสิ่งเป็นอกุศล
คือการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตของเราก็ไม่มี การจะเลี้ยง
สุรา เบียร์ ของเราก็ไม่มี
นี่การบำเพ็ญกุศลในครั้งนี้ จึงได้เต็มไปด้วยความ
บริสุทธิ์ผุดผ่อง

เป็นอันว่าอานิสังสคุณบุญราศรีเป็นประการใด
ที่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายจะพึงได้
ตามที่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมา
สัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้
ก็เป็นอันว่าท่านทั้งหลายได้ผลนั้นโดยสมบูรณ์

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๓ หน้า ๓
เครดิตภาพ : จาก วัดถ้ำเขาวง สระบุรี



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ขอลูกรักทุกคน จงทำกำลังใจให้เป็น
อุเบกขาจิต ถ้าจะเรียกเป็นวิปัสสนาญาณ
เขาเรียกว่า สังขารุเปกขาญาณ คนที่มีกำลัง
ใจถึงสังขารุเปกขาญาณ บุคคลประเภทนั้น
ไปนิพพานไม่ยาก

ธรรมโอวาท หลวงพ่อฤาษีลิงดํา



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

พระมหาลาภ

ทำยากเหลือเกินนะ ต้องเสกข้าวถึง ๓ เดือน
เลือกกับข้าวที่อร่อยจริงๆ
ในวันนั้น ท่านสั่ง เดี๋ยวนี้ไม่คำเดียวแล้ว ๕ ถ้วย
แล้ว บอก ไม่จำเป็นต้องเคี้ยว
คือว่าให้ตักข้าวมา ๕ ถ้วย ถ้วยแก้วนะ
แล้วท่านชี้กับข้าว กับข้าวท่านชี้ของ
ท่านเองนะ ไอ้นี่ อร่อยๆๆๆๆ
แล้วเสก เสกคาถายาวมาก
กว่าฉันจะได้กินข้าวเพล พระเขาอิ่มแล้ว
ต้องเสกเดี่ยวนั้นอย่างนี้ ๓ เดือน แล้วก็ไปทำผง
แล้วก็มาเสกใหญ่อีกครั้งหนึ่ง เข้าพุทธาภิเษก

พระรุ่นไหนก็เท่ากัน คนเสกคนเดียวกัน
บางคนเคยบอกว่า รุ่นแรก หลวงพ่ออมจากปาก
คายมาเลย เคี้ยวๆ หน่อยคายมาเลย
ฉันก็เลยบอกพระถ้าใครเขาถามรุ่นหลังนะ
บอก อมตั้งแต่เช้ายันเย็น (หัวเราะ)
วานซืนมาบอกคาถาให้ ๔ ตัว ให้อ่าน
บอกอ่านไม่ออก ท่านเลยอ่านให้ฟัง บอกใช้เสก
ตอนเช้าตอนเย็น นี่หนักกว่าอีก
รุ่น ๒ นี่หนักเพิ่มคาถาให้

ปลุกพระนี่แสงไม่เหมือนกัน ถ้าปลุกแก้วเหมือน
กันทุกครั้งนะ
มาปลุกพระคำข้าวแสงหนาทึบขาว แสง
ขึ้นหนามาก
แต่พระหางหมากนี่แสงเหมือนกับดวงเทียน ดวง
เทียนกับไฟฟ้าใหญ่ๆ นะ
แต่ละองค์สว่างมากไม่เหมือนกัน อานุภาพต่างกัน
และท่านก็บอกว่าเพราะหางหมาก นี่หนักในทาง
ป้องกันและต่อสู้ ก็ห้อย ๒ องค์
ตอนเสกต้องเต็มอัตรา คุมอยู่นี่ คุมเลย
อารมณ์นี่พลาดนิดไม่ได้ ได้ผลเร็วเป็นอัศจรรย์นะ

จาก : หนังสือ พ่อสอนลูก ปกสีทอง หน้า ๙๐
โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

คำนินทาและคำสรรเสริญทั้งสองประการ
ทุกคนอย่าถือเป็นสาระ
แต่ถ้าจะพูด ให้ใช้คำสรรเสริญให้มากกว่า
คำนินทา จะได้ปลอดภัย

ธรรมโอวาทหลวงพ่อ พระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

อารมณ์คิดเพื่อการเข้าถึงอรหันต์

ทางไปพระนิพพานเขาทำอย่างไร
ก็ไปตัดร่างกาย เอาจิตตัดร่างกายให้รู้สภาพตาม
ความเป็นจริงด้วยปัญญา
คิดว่าโลกนี้เราไม่ต้องการ
ร่างกายพังแล้วรึ เชิญพังจ๊ะ เธอจะป่วยก็เชิญป่วย
ฉันห้ามเธอไม่ได้
เธอจะแก่ก็เชิญแก่เป็นเรื่องของเธอ
จะมีทุกขเวทนาใดๆ เกิดขึ้น ก็ถือว่านั่นมันเป็นเรื่อง
ของเธอฉันห้ามไม่ได้
เธอพังเมื่อไรฉันพร้อมที่จะไปพระนิพพาน
เธอกับฉันมีชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ไม่มีอะไรที่เรา
จะมีการผูกพันกันอีก
ถือว่าเรามีสัญญาหย่ากันเด็ดขาด
ฉันโง่มาแล้วหลายแสนชาติ แต่ชาตินี้ขอ
ฉลาดสักชาติหนึ่ง
แล้วก็เธอจะใช้ฉันได้แต่เพียงชาตินี้ชาติเดียว
ชาติต่อไปเธอกับฉันไม่มีความหมายสำหรับฉัน
นี่ ตัดแค่นี้ก็เป็นอรหันต์
คิดแค่นี้หน่อยเดียวเป็นอรหันต์ เป็นแน่นอน
แต่ให้มันได้จริงๆ อย่าสักแต่ว่าคิด
อย่าสักแต่ว่านึก จงจำไว้ให้ดี

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔ หน้า ๑๕๒



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

อย่าอวดเก่งกับผี อย่าอวดดีกับพระ

คำสอน หลวงพ่อฤาษีลิงดํา



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ทำได้แล้วหรือยัง…?

องค์ของ พระโสดาบัน คือ
๑. เคารพในพระพุทธเจ้า
๒. เคารพในพระธรรม
๓. เคารพในพระสงฆ์
๔. มีศีลบริสุทธิ์
๕. มีจิตรักพระนิพพานเป็นอารมณ์
เท่านี้ทำกันได้แล้วหรือยัง ถ้ายัง
ไปที่ไหนก็ไปเจอะนรกที่นั่น
เท่านี้ทำได้หรือไม่ได้ ถ้าทำไม่ได้
ก็แสดงว่าหมดหนทางแก้หมดหนทางช่วย

โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๑ หน้า ๑๐๘



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

อย่าทะนงตน คิดว่าเราเป็นคนดี
ถ้าคิดว่าดีเป็นผู้วิเศษเมื่อไร
เมื่อนั้นแหละกรรมใหญ่อันตรายใหญ่จะมา
ถึงท่าน ที่เราเรียกกันว่า ความประมาท

คำสอน พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

พระพุทธเจ้าบอกว่า ภาราหเว ปัญฺจกฺขนฺธา
ขันธ์ทั้ง ๕ เป็นภาระอันหนัก
อันนี้ในเมื่อมันหนัก เรารู้ว่ามันหนัก
แล้วเราจะต้องกลับมาแบกมันอีกหรือ เราก็โง่ซิ
เราก็เลิก ไม่แบกทำยังไง
ตอนนี้เราก็ใช้ช่างมัน ใช่ไหม
มันจะแก่ก็ช่าง ธรรมดาของมัน
มันจะป่วยก็ช่างมัน มันจะตายก็ช่างมัน
อีตอนที่มันจะเกิดนี่ไม่ช่างมันแล้ว
ถ้าไม่เกิดอีกเพราะอะไร ข้าบังคับแกไม่ได้
เอ็งนี่มันหัวดื้อหัวด้าน อกตัญญูไม่รู้คุณ
เลี้ยงเท่าไรๆ มันไม่จำ อยากจะให้กินเปรี้ยว
หาเปรี้ยวให้ อยากจะนั่งรถก็ซื้อให้
มันก็ยังแก่ ยังป่วย ไอ้นี่คบไม่ได้ เลิกกัน
เตสํ วูปสโม สุโข
นึกถึงความดีที่พระพุทธเจ้าทรงเตือนว่า
การเข้าไปสงบกายนั้นชื่อว่าเป็นสุข
เป็นอันว่าความปรารถนาในกายไม่มีสำหรับเรา
นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

จาก : คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่มที่ ๖



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

จะมีฌานสมาบัติได้ขั้นไหนก็ตาม
ถ้าท่านไม่มุ่งความเป็นพระอริยเจ้า
จิตของท่านก็ถือว่ายังเป็นทาสของ
โลกต่อไป

หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

เรื่องกระดูก

ไม่ช้าวิญญาณก็ออกจากร่าง ร่างกายนี้ก็
ต้องทอดทิ้ง
แต่อาศัยที่พระท่านสั่งว่า จงอย่าเผาร่างของเธอ
ด้วยเหตุผลก็มีอยู่ว่า ลูกศิษย์มาก จะทะเลาะกัน
เรื่องกระดูก
เรื่องกระดูกนั่นเป็นปัจจัยให้คนทะเลาะกันเยอะ
แล้ว เอาไปแล้วไม่ได้ทำอะไร ไปวางทิ้งที่บ้าน
ไปวางทิ้งไว้ที่วัด ลืมการสนใจ
มีหลายอาจารย์แม้แต่กระดูกหลวงพ่อปานเองก็
เหมือนกัน เวลาเผาแย่งกันเกือบตาย
พอได้ไปแล้วเปล่า ลืม บางคนก็ให้คนอื่นต่อไป
แต่เวลาจะเอา แย่งกัน

ทีนี้ ของอาตมา คณะเวลานี้เวลานั้นต่างกัน
กำลังใจคนต่างกัน เวลานั้นว่ากันหยุด
ขอร้องกันได้ แต่เวลานี้ไม่แน่ใจนักว่าจะว่ากัน
หยุดขอร้องกันได้
ท่านจึงหาทางป้องกันเรื่องร้ายเกิดขึ้น
พระท่านบอกไม่ให้เผา ด้วยการชดเชยของท่าน
ท่านก็บันดาลให้ชานหมากเป็นพระธาตุบ้าง
บันดาลให้ผมเป็นพระธาตุ
บันดาลให้หางพลูเป็นพระธาตุบ้าง
ตามที่ปรากฏกับบรรดาท่านพุทธบริษัทแล้ว
นี่เป็นพุทธบารมี ไม่ใช่อาตมา
ไม่ใช่บารมีของอาตมา

ทั้งนี้เพราะว่าท่านสั่งไม่ให้เผา ถ้าไม่เผาธาตุ
กระดูกก็ไม่ปรากฏขึ้น ไม่เป็นที่แย่งกัน
ฉะนั้นท่านจึงบันดาลให้ ชานหมากก็ดี ผมก็ดี
หางพลูก็ดี เป็นพระธาตุขึ้นมา
นี่เป็นอำนาจพุทธานุภาพ ไม่ใช่อาตมาเสก ไม่ใช่
ความดีของอาตมา
เป็นความดีของพระพุทธเจ้าท่าน
อันนี้ของใครจะเป็นหรือไม่เป็นก็เป็นเรื่องที่ท่าน
บูชา และพระท่านสงเคราะห์
จะโทษอาตมาหาว่าลำเอียงก็ไม่ได้ อาตมาไม่
ลำเอียง รักเหมือนกันทุกคน เห็นใจทุกคน

ที่มา : จากหนังสือ พ่อสอนลูก ปกสีทอง หน้า ๓๘
โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

◎ ถ้าจิตอยากไปนิพพาน
แสดงว่า จิตใจปรมัตถบารมีแล้ว

◎ ชีวิตนี้ ฉันใช้หนี้แกแค่นี้ ตายจากนี้ไม่เอาแล้ว

◎ ทุกข์มากกว่าผู้อื่นแสดงว่า จะไปได้ก่อนคนอื่น
ถ้าสุขมากก็ไปไม่ได้

◎ คนเราเมื่อยังเสียดายร่างกาย
ไม่มีทางสำเร็จอรหันต์

◎ จิตวุ่นวาย เป็นอารมณ์ของอบายภูมิ

◎ คนไม่ถวายทาน ตายไป ต้องไปอาศัยที่คน
อื่นเขาอยู่

◎ อยากเป็นขี้ข้าเขา
คอยรอให้เขายกย่องสรรเสริญ

จาก : หนังสือ ปฐมธรรมยาน
โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
่



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

เรื่อง มองคนให้เป็น

อย่ามองคนด้วยฐานะ
อย่ามองคนด้วยศักดิ์ศรี
อย่ามองคนด้วยความรู้ ความสามารถ
มองคนแต่เพียงว่า
สภาพของเขาเป็นวัตถุเหมือนสภาพของเรา
จิตใจของเราพร้อมในการเมตตาปราณี
ไม่ถือตน
เขาจะมาในฐานะเช่นใดก็ช่าง
ถือว่าเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกันหมด
การกำหนดอารมณ์อย่างนี้
เราก็สามารถจะกำจัดตัว มานะ การถือตัวถือ
ตนเสียได้

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๑ หน้า ๑๐๕



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ถ้าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทชายหญิง
ทำอย่างนี้ก่อนหลับหรือตื่นนอนใหม่ๆ
ไม่ต้องนั่งทำ นอนคิดใช้ปัญญา
เวลานี้เกิดอารมณ์เบื่อชั่วขณะจิตเดียว
ไม่หวังร่างกายเพียงแค่ขณะจิตเดียว
จิตก็กลับฟื้นคืนสภาพคงที่ตามเดิม
เพียงเท่านี้บรรดาท่านพุทธบริษัท
ขอยืนยันว่าชาตินี้ก่อนท่านจะตาย
ท่านเป็นพระอรหันต์ไปนิพพานแน่

ที่มา คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๔๕



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

ความเข้าใจ

การเจริญพระกรรมฐาน ความสำคัญที่
สุดอยู่ที่ความเข้าใจ
ถ้าหากว่าเราเข้าใจ การปฏิบัติก็มีผล
สำหรับส่วนใหญ่ในการเจริญกรรมฐานนี่
ไม่ค่อยจะสร้างความเข้าใจกัน จึงไม่มีผล
มักจะเอาเวลาหลับตาภาวนาเป็นสำคัญ

เราจะเห็นได้ว่า ในสมัยองค์สมเด็จพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าทรงชีวิตอยู่
เวลานั้นองค์สมเด็จพระบรมครูเทศจบ
ปรากฏว่ามีท่านส่วนใหญ่ได้บรรลุมรรคผล
แล้วก็ยังไม่ปรากฏว่าในสถานที่ใดที่รับฟังคำ
สอนขององค์สมเด็จพระจอมไตรแล้วไป
ขะมักเขม้นเรื่องการหลับตามากกว่าการคิด

ความจริงธรรมะขององค์สมเด็จพระธรรมสามิสร
จะมีผลจริงอยู่ที่ความเข้าใจ
เมื่อท่านทั้งหลายเหล่านั้นฟังเทศน์จาก
พระพุทธเจ้า ฟังแล้วท่านก็คิดตาม
ใช้ปัญญาพิจารณาไปด้วย เมื่อความเข้าใจเกิดขึ้น
จิตก็ตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน

ฉะนั้น ต่อแต่นี้ไปก็เช่นเดียวกันจะถือเอาแนวที่
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเป็นสำคัญ
จะพยายามสร้างความเข้าใจให้มากที่สุด
เมื่อเราเข้าใจแล้ว
ใช้อารมณ์นี้ไปพิจารณาใคร่ครวญอยู่ตามปกติ
ไม่ช้าอารมณ์ก็สามารถจะตัดกิเลส
เป็นสมุจเฉทปหานได้

คำสอน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

พระพุทธเจ้าจริงๆ ที่มีความลำบากมากคือ องค์ต้น
เพราะไม่เคยมีพระพุทธเจ้าเป็นครูมาก่อน
ต้องลำบากบุกมาทั้งๆ ที่ไม่มีแบบเป็นเหตุดลใจให้
ตั้งใจคิดจะเป็นพระพุทธเจ้า
ต้องใช้เวลาถึง ๔๐ อสงไขยกัปเศษ
จึงจะได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ

โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

คนที่ติดตามหลวงพ่อมาไม่พลาด
พระนิพพาน

คนที่มาทุกคนนี่ ถ้ามาด้วยความเต็มใจ
ไม่สักแต่ว่ามาดูเขา หรือสักแต่ว่ามาลอง
คนที่มาด้วยความเต็มใจจริงๆ พวกนี้เป็นคนที่มี
บารมีเต็มแล้ว
เพราะว่าคนที่มีบารมีเต็มจริงๆ ฉันจะช่วยได้แค่
แสนคนเศษๆ เฉพาะกลุ่มของเรา
ถ้าหากว่าคนที่มาลองก็ดี หรือมาลองดูบ้าง
มาดูเขาบ้าง ลองทำบ้าง
จะสังเกตได้ว่าประเภทมาลองหรือมาดูนี่พูดไม่รู้
ภาษาคน พูดแล้วไม่รู้จักจำ จำแล้วก็ไม่คิดตาม
พวกนี้ไม่มีโอกาส จะมาสักกี่แสนชาติก็ไม่มีโอกาส
พวกที่ติดตามมาตั้งแต่ชาติก่อนจริงๆ พวกนี้
บารมีเต็มหมด
แล้วก็มีโอกาสไปนิพพานชาตินี้เหมือนกันทุกคน

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕ หน้า ๒



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

แก้สงสัยอารมณ์ฟุ้ง

สำหรับอารมณ์คิดในด้านของกุศลอย่างใดอย่าง
หนึ่ง เขาไม่เรียกอารมณ์ฟุ้งซ่าน
และอารมณ์ฟุ้งซ่านจริงๆ หมายความว่าซ่านไป
ในด้านของอกุศล
จะเป็นอกุศลจุดใดจุดหนึ่งก็ตาม ก็เรียกว่าฟุ้งซ่าน
ซ่านน้อยก็ซ่าน ซ่านมากก็ซ่าน อกุศลใหญ่
อกุศลเล็กก็ซ่าน
นี่เป็นการแก้ความสงสัยของบรรดาท่าน
ศาสนิกชนทั้งหลาย
ฉะนั้น จงจำไว้ว่าถ้าเรายังไม่ถึงพระอรหันต์เพียง
ใด อารมณ์ฟุ้งซ่านที่น้อมไปในด้านของอกุศลยัง
พอมีอยู่

จาก : โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๒ หน้า ๙๙



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

 

สภาวะของพระนิพพาน

นิพพาน นิพพะ เขาแปลว่า ดับ
คือดับความชั่ว ได้แก่ โลภะ ความโลภ
โทสะ ความโกรธ โมหะ ความหลง
เป็นอารมณ์จิตที่บริสุทธิ์ไม่มีความชั่วเจือปน
เขตของพระนิพพานไม่มีความตาย
ไม่มีการป่วย ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ฉะนั้น ถ้าท่านพุทธบริษัทสงสัย
ก็พยายามฝึกมโนมยิทธิหรือทิพจักขุญาณให้ได้
และทำวิปัสสนาญาณได้พอสมควร
ท่านจะได้รู้จักสภาวะของพระนิพพาน
ดีกว่าอ่านหนังสือแล้วก็เดากัน

จาก : รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑
โดย : หลวงพ่อฤาษี วัดจันทาราม (ท่าซุง)



ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง