เทคนิคการรวม ธรรม เทพ จักรวาล ครั้งที่ 1

เราถือว่าเราโชคดี ที่เดียว
ที่มีมิตรหลายแบบ บางครั้งคำพูด สบประมาท ดูถูกดูแคลน ให้ชอกช้ำ ก็คือมิตรที่เรามาพิจารณาว่า เราเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ถ้าเป็นก็ลองเปลี่ยนหรือไม่ก็ปรับให้สมดุลย์ขึ้น เราจะไม่ค่อยเอาคำพูดในด้านไม่ดีของคนมาทำให้สิ้นหวัง แต่เรากลับทำตรงกันข้าม ว่าจริง ๆ ทุกคนทำได้ ถ้าทุกคนมองในด้านบวก
การพิจารณาตนเองในหลายมุมมอง ในหลาย ๆ ด้าน และเลือกที่จะเอาด้านที่เราเบาสบายที่สุด แต่ด้านที่เราเลือกต้องไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน แต่การทำงานหลายอย่างเมื่อเราทำด้วยความตั้งใจ จนลืมมองผู้อื่นที่อยู่รอบด้าน เราก็มองไม่เห็นว่าไปกระทบด้านไหนกับใคร
เราแค่รู้ว่า ทำเต็มกำลังและทำให้ดีที่สุดที่เราทำได้ และผลจะออกมาอย่างไรก็ค่อยไปแก้ไขไปปรับปรุงอีกครั้งหนึ่ง ในประสบการณ์ ไม่มีความสมบูรณ์ อะไรเลย ที่จะเกิดขึ้นแค่เพียงหนึ่งครั้งของการทำงาน และเช่นเดียวกับการเรียนรู้ด้านสมาธิ

แต่คำพูดของคนบางคน ที่มีอะไรพิเศษสำหรับจิตของเรา มันเหมือนน้ำทิพย์ ที่หยดลงเพียงหนึ่งหยดในเวลาที่จิตวิญญาณมันแห้งผาก มันกลับทำให้ความรู้สึกมันชุ่มชื้น เหมือนต้นไม้ที่เติบโตออกจากเมล็ด เพื่อรอการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ มันเป็นพลังงานแฝงที่สามารถดึงจิตวิญญาณแห่งเทพทั้งปวงมามอบให้ ............

และหากว่าเราจะเดินนำหน้า และมีหน้าที่ดึงรั้งให้พวกท่านลดการเสียดทาน เพื่อ ให้พวกท่านเบาสบาย เราก็ไม่ได้อยากนิ่งเฉยเลยแม้แต่วินาทีเดียว

เพราะคำพูด ดีและไม่ดี มันก็คือ สิ่งภายนอกทั้งปวง (ฝึกอยู่ยังไม่สำเร็จเลย.....555++)

 

ขอถามคุณ J-shaman ค่ะ
ตอนนี้นิ้วบวม ระบม ผสมปูนทราย ทุกวัน สนุกสนานกับการลองผิดลองถูก.....และแล้วระดับมันไม่พอดี รถขึ้นมาเครื่องมอเตอร์ไซด์ มันครูด จะแก้อย่างไงดีค่ะ

เอาพลังจิต ไปฉีด ๆ ปี๊ด ๆ ให้มันพอดีได้ไหม...555+++

แต่เราใช้พลังจิต ในการที่ มีความสุขกับการได้ทำเพื่อความไม่ประมาทและครอบครัวช่วยกัน หัวเราะกับการทำถูกทำผิด...........แค่นี้.........น้ำก็ไม่มาแล้ว

เพราะน้ำมา ทำให้ครอบครัวมีกิจกรรมทำรวมกัน

 

ง่ายๆก็เอาสมาธิไปแปะที่มือซิ น้ำท่วมจะเริ่มดีขึ้นแต่ที่ตามมาคือมลพิษไหลลงทะเลมีผลกระทบต่อชีวิตที่กำลังเติบโตในท้องทะเลแบบเกือบสูญพันธ์ ทีนี้รอดูพลังนำ้เค็มที่จะดันขึ้นมาบ้าง เฮ้อ

 

คนจิตใจสูง อันนี้ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมการกระทำไม่ต้องถูกบอกให้ทำอะไรใจพาไปเอง คนเราต้องดูที่การกระทำ

 

กะไว้เหมือนกัน แปะบ้านเสร็จ ก็จะไปช่วยงาน ไปด้วยกันไหม
ไปไกล ๆ เลย.....555++++

 

ต้องขอออกตัวก่อนครับหลายคนยังเข้าใจผิด คือผมกับคุณเดมีดีไม่ใช่คนเดียวกันและผมก็ใช้ j_shamanมาตลอดไม่มีชื่ออื่น ผมไม่มีอาจารย์ที่หลายคนอาจนำไปอ้างอิงในเว็บนี้ และผมไม่ใช่อาจารย์หรือผู้รู้อะไรมากมายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่ม full moonทั้งสิ้น
สั้นๆ ง่ายๆ สบายๆ

 

คุณเดมีดี
ดิฉันพูดภาษาญี่ปุ่นมาได้สักสองอาิทิตย์แล้ว
ชื่อ พานะยังคึ

 

แหม....อาจารย์ มามุขไหนเนี่ย

เอาแบบตรง ๆ แปลว่า พหานะยังคึกคักอยู่หรือเปล่า.....555+++

เดมีดี มีแค่คนเดี๋ยว ก็แย่แล้ว อย่ามีหลายคนเลย.........เดี๋ยวบอกว่าเค้าไม่เตือน555++

สำหรับเรา มีอาจารย์เป็นร้อย แต่ละท่านก็มีเทคนิคต่างกัน เราก็แอบดูหมด แค่สนุก ๆนะ ของเราเองมันต้องออกมาจากข้างในล้วน ๆ และจะออกมาก็ต่อเมื่อใช้งานทันที เลยไม่คิดมาก ไม่อยาก

แต่มีอย่างหนึ่ง ถ้าเรารู้สึกว่าเราคือธรรมชาติ ธรรมชาติก็แจ้งข่าวสารแก่เรา..........

 

ต้องขอออกตัวก่อนครับหลายคนยังเข้าใจผิด คือผมกับคุณเดมีดีไม่ใช่คนเดียวกันและผมก็ใช้ j_shamanมาตลอดไม่มีชื่ออื่น ผมไม่มีอาจารย์ที่หลายคนอาจนำไปอ้างอิงในเว็บนี้ และผมไม่ใช่อาจารย์หรือผู้รู้อะไรมากมายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่ม full moonทั้งสิ้น
สั้นๆ ง่ายๆ สบายๆ<!-- google_ad_section_end -->

ผมแค่เป็น น้องมาร พญามาร นายมาร ประตูมาร แล้วก็มารผจญ แล้วก็เสาโทรเลขมาร...............ขำ ขำ ดี ไม่ใช่ขำ j-shaman นะ ขำคนเรียกนะ

มารอยู่คู่กับบารมี มารไม่มีบารมีไม่เกิด และ ร้อยเอา 0.2 เลย ไม่มีใครไม่มีมารในตัว เมื่อออกอาการ มารเข้าแทรก ถามจริง รู้ตัวหรือเปล่า...........ถ้าตอบว่ารู้....นั่นเรียกว่า ช้าไปแล้ว ต้องรู้ก่อนที่มารจะเกิด ถึงเรียกว่า ได้ฝึกเป็น....

 

หายไปหลายวัน.....มั่วแต่ไปอ่านข่าวน้ำท่วม และเตรียมตัว
ใจหนึ่งก็อยากให้น้ำมาไว ไว แต่อีกใจก็ลองดูว่า น้ำมาไม่ถึงเรา ก็เพียงหวังเล็ก ๆ ไว้เท่านั้น แต่จริง ๆ ท่านก็มาหมดทุกทิศทุกทาง

รู้ไหมค่ะ ท่านมาทำไม

น้ำ ในกาลนี้ มาเพื่อ เปิดที่ลับให้แจ้ง เปิดที่แจ้งให้แจ้งขึ้นไปอีก มาเพื่อดูว่า ในยามนี้ พวกเราเลือกที่จะเป็นคนประเภทไหน ได้วัดค่าสังคมและวัดค่าตนเองเช่นไร

ในเวลานี้ น้ำ ที่กำลังมา ได้วัดค่า ของความพร้อมของจิตใจว่า เรากลัวหรือ ที่จะอยู่รวมกับน้ำ เรากลัวหรือ ความคาดการณ์ที่จะกลัวลำบาก ถ้าเรายังมีความกลัว ความกังวล ความตกอกตกใจจนควบคุมสติไม่ได้ ที่เกิดจากการสูญเสีย หรือ อะไรร้อยแปด

ข้อบอกได้เลยว่า เริ่มฝึกจริง ๆ เถอะค่ะ เวลาเหลือไม่มากแล้ว ที่เราจะควบคุมสติ ให้เกิดปัญญา และหาหนทาง ให้เป็นผู้รอด ในเสี้ยววินาทีที่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนแปลง

เราไม่ได้อยากจะพูดนำว่าสิ่งนั้นจะเกิดหรือสิ่งนี้จะเกิด แต่เราภาวนาให้ทุกท่านรอดปลอดภัย และสามารถละได้ซึ่งสิ่งสมมติ เช่นกันและขอความปรารถนาดี ได้แผ่ออกไป เพื่อปกป้องคุ้มครอง ให้ท่านทั้งหลาย พ้นจากทุกข์ทั้งปวง อย่างมีสติ

น้ำไม่ใช่สิ่งน่ากลัว กิเลสของเรามันน่ากลัวกว่า ลด ละ เลิก กันวันนี้เถอะ...........

 

สิ่งล้ำค่าของคนไทยในกรณีน้ำท่วมครั้งนี้ คือ บทเรียนของดาวอาทิตย์
คาดหวัง หรือเข็มขัดสั้น

 

อิอิอิอิ นิม มาราติ ติมาราติ๊ อิอิอิอิ

 

หลายวันมานี่ เรียนอยู่เรื่องเดียว ในกับนอก ให้ตนเองประคองสติอยู่กับจิตภายในทั้งหมด

แต่ก็มีหลายครั้ง ที่ถูกหลอกล่อให้รีบกระโจนออกไปข้างนอก แต่ก็เริ่มไหวตัวทัน ...ไม่ให้โดนหลอกง่าย ๆ เช่นที่ผ่านมา

การเข้าสู่ฐานจิตภายใน ก็คือ การที่เรามีสติอยู่ตลอดเวลาว่า จิตอยู่ที่ใดกำลังทำอะไรและจะดูแลบริหารจิตให้ควบคู่ไปกับลมหายใจได้อย่างสมดุลย์อย่างไร

ตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนมาดึงเราอย่างแรงเราไม่ทันตั้งตัวก็ไปตามแรงนั้น ๆ เพราะสติตั้งรับไม่ทันในชั่ววินาที ที่เริ่มต้นการดึง แต่ถ้าเราฝึกการตื่นตัวบ่อย ๆ และเฝ้าจับตาดู สติ ให้อย่าวางตา เราก็จะเริ่มเข้าใจมากขึ้น ถึงการมีสติตั้งมั่นที่ฐาน ฐานที่อยู่ภายในจิต จิตใน จิตที่เป็นบ่อเกิดของความรู้สึกนึกคิด

และการบริหาร ลมหายใจ ที่มีเพียงเข้าและออก เท่านั้น ที่เป็นเรื่องของตัวเราที่ควรจะบริหารการเข้าออกของลมหายใจ อย่างมีสติ

และผลของการบริหารที่ดี มันก็คือคำตอบว่า เราไม่มีเวลาที่จะส่งจิตออกนอกไปไหนได้บ่อย ๆ มากขึ้น เพราะเราเอาเวลาส่วนใหญ่ที่มี มาดูลมหายใจ

.............เอามาบอก เพื่อมีประโยชน์บ้าง

 

หลายวันเลยที่ไม่ได้เอาอะไรใหม่ ๆ มาเล่าสู่กันฟัง ในฐานะคนเพ้อเจอแบบเรา

การเรียนรู้ในด้านสมาธิ กรรมฐาน และจิตวิญญาณ ของรูปธรรม ในแต่ระดับขั้นของการวิวัฒน์นั้น เป็นความเชื่อโดยส่วนตัวมาตลอดว่า มันน่าจะเกิดขึ้นจากภายในและมันจะเกิดขึ้นเองตามเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น และมันก็มีขั้นมีตอนของการเกิดขึ้นเพื่อการเรียนรู้แห่งจิต จิตพุทธะ จิตจักรวาล และแม้แต่ จิตแห่งธาตุทั้ง 4 และเลยมารวมถึง จิตเราที่เป็นผู้เชื่อมต่อและนำวิถีที่สร้างสรรค์ในทางที่เหมาะสมออกมา

และมันเป็นประโยชน์แก่ตัวท่านเอง ที่การเรียนรู้และผลแห่งการเรียนรู้ ได้เกิดขึ้นจากภายในเท่านั้น และท่านเองอีกเช่นกัน ที่จะหลงไปกับสิ่งนั้นเพื่อการอันใด

ดังนั้น การเสพข้อความที่มีหลากหลายข้อความ และอารมณ์ร่วมขอผู้แสดงข้อความ มันได้บรรจุเอาพลังแฝงบางอย่างแทรกไว้ และนั่นเองก็เป็นตัวอย่างของพลังที่แตกต่างด้วยเช่นกัน ดั้งนั้น เพื่อการเสพที่ถูกในความเห็นของเรา และเพื่อความบันเทิงที่เหมาะสม

ท่านควรเรียนรู้ดังนี้
1. ไม่มีตัวท่านและตัวอื่นอันใด
2. ไม่มีอะไรที่ดีกว่าอะไร
3. ไม่มีสิ่งสมมติใดที่เที่ยงกว่าอะไร
4. ไม่มีอะไรที่ควรเป็นอะไร
5. และไม่มีอะไรที่จะเป็นผู้กำหนดทุกข์และสุขได้มากกว่าอะไร

และ สุดท้าย มันคือดัชนีที่บอกว่า ท่านเสพอะไร ดี หรือชั่ว สุขหรือทุกข์ เพราะท่านเป็นผู้ที่กำหนด สิ่งนั้นนั่นเอง

 

หมดเวลาไปกับการตามล่าหาความจริงเสียนาน.........
ด้วยความสงสัย ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจากวิวัฒนการ หมุนเป็นวัฎจักร ที่กำลังเกิดขึ้นอีกรอบหนึ่ง
มีหลาย ๆ ๆสิ่ง หลาย ๆ คำบอกเล่า จากผู้รู้ หลาย ๆ แขนง เราเองเอามาเปรียบเทียบ วิเคราะห์ ถึงผลอันจะเกิดขึ้น และความเป็นมาของสิ่งที่ต้องเป็น

มาวันนี้ ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมต้องเป็นสิ่งนี้ หรือสิ่งนั้น เป็นเพราะ การสร้างได้เริ่มขึ้น มาแต่นาน และยังคงสร้าง โดยมีการทำลายไปในวิวัฒน์ นั้นด้วย เพียงเพื่อการสนองตอบ ทดลอง ค้นหา สิ่งที่ มนุษย์ไม่พยายามเข้าใจ ในธรรมชาติ จริง ๆ นั่นเอง

เมื่อ ธรรมชาติ ที่มีจิตวิญญาณ ต้องดิ้นรน ให้ ห่างจากสิ่งที่ไม่ดี ไม่ถูก กับระบบ ทั้งปวงที่ควรจะเป็น ก็เลยเกิดการต่อต้านขึ้น นั่นเอง

เหตุและผล ....................

มีเวลาที่เรา จะได้ช่วยเหลือตนเองให้ รอด พ้น จาก กิเลส และสามารถช่วยบุคคลอื่น ๆ ได้ด้วย คือ การหยุดนิ่ง ในความคิด ลบ อคติ เปรียบเทียบ เทียบชั้น หรือหาสิ่งทดแทน ใด ใด เพื่อสนองตอบ ความกลัว กลัวอะไร กลัวความไม่รู้ เมื่อรู้แล้ว ก็ยังคงค้นหาความรู้อยู่เสมอ ๆ เพื่อสามารถตอบคำถามในใจตนนั่นเอง
และถ้าเราคิดในแง่บวก ก็เป็นสิ่งที่ดีสำหรับตนเอง และ ถ้าคิดลบ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ดี หรือดีสำหรับตนเองอีกเช่นกัน

เพราะคนเราต่างมี การเดินทางที่แตกต่าง กันโดยสิ้นเชิง นั่นเอง เมื่อมาบรรจบพบเจอ ถึงเวลาหนึ่งก็แยกย้าย ไม่มีที่สิ้นสุด.................

จงทำตนเอง ให้ สว่างไสว ไร้ที่ติ .............