สมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดใหม่บ้านดอน และครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัตดีปฏิบัติชอบ

ผมคิดเล่นๆเอาเองนะครับ ว่าถ้าใครจะสร้าง เหรียญหรือรูปหล่อลอยองค์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 รูปเหมือนองค์นี้น่าจะสามารถนำมาเป็นองค์ประธานได้เลยครับ

มาถึงวันนี้พอได้นึกถึง ผมก็อยากจะขอเข้าไปไหว้อีกรอบนึงเลยครับ แต่คงยากมากถึงมากที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานทหาร เป็นกองบัญชาการของ กองพันทหารราบที่ 1 รอ. ถ้าไม่รู้จักกับใคร ไม่มีทางจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปอย่างแน่นอนครับ

 

สมาชิกท่านใดมี สมเด็จนางพญางิ้วดำ ปี2516 มาลงโชว์หน่อยนะครับ เห็นว่าสร้างน้อย 2500 องค์

 

ผมมีอยู่หลายองค์ องค์ที่แขวนก็นำไปบรรจุไว้ในพระพุทธรูป หลวงพ่อโสธรขนาดหน้าตัก ประมาณ 19 นิ้ว เพราะวันนั้นช่างเขามาส่งพระ ผมไม่ได้เตรียมอะไรไปนึกขึ้นมาได้เลยถอดสมเด็จนางพญางิ้วดำปี 16 บรรจุไว้

ส่วนเรื่องจำนวนสร้างนั้นผมก็เพิ่งจะทราบจากคุณธีรนโมนี่เป็นครั้งแรกจริงๆครับ ขอบพระคุณมากครับสำหรับข้อมูลดีๆ

 

ผมไม่ได้เข้ามานาน...มาก

วันนี้มีประสบการณ์จากพระอาจารย์ที่ผมจะไปบวชอยู่กับท่านที่จ.ตาก
ท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนสมัยเป็นเด็กนักเรียนประถม ท่านแขวนพระของหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี ท่านบอก ตอนไปโรงพยายาบาล พยาบาลฉีดยาไม่เข้า จนต้องถอดพระที่แขวนออกก่อน

ท่านบอกมาว่าเป็นเหรียญรุ่นสร้างศาลา ท่านบอกไม่รู้เหรียญหายไปไหนแล้วเสียดายที่ทำหาย
ท่านบอกรุ่นอื่นท่านก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร แต่รุ่นนี้เหนียวจริงท่านเจอมากับตัวของท่านเองสมัยเป็นเด็ก



*** ขอขอบคุณเจ้าของภาพด้วยนะครับ

 

ก่อนหน้านี้ผมเห็นเขาลงในเว็บประมูลพระ ส่วนมากราคาไม่แรง เลยนึกว่าท่านไม่เท่าไหร่

ลูกกราบขอขมาลาโทษต่อคุณพระรัตนตรัยต่อพระคุณของหลวงพ่อจวน และต่อพระคุณของครูบาอาจารย์ ที่ลูกได้สบประมาทพลาดพลั้ง ได้ปรามาสล่วงเกิน ท้ั้งทาง กาย วาจา ใจ ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา ขอท่านได้โปรดอดโทษให้แก่ลูกด้วยเถิด

 

ผมได้พูดคุยกับพระอาจารย์ ท่านได้เมตตาเล่าเรื่องประสบการณ์ทางวิญญาณหลายเหตุการณ์ต่อเหตุการ์ณให้ฟัง ผมฟังท่านตั้งแต่ 11โมงครึ่งจนถึงบ่าย 3 โมงเย็น

ผมขอเล่าแบบเล่าสู่กันฟัง รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหามนะครับ

เรื่องผีเด็กกระโดดลงมาจากขื่อกุฎิพระ ในวัดร้างแห่งหนึ่ง

ท่านเล่าให้ผมฟังว่า ท่านเข้าไปจำวัดที่กุฎิในวัดร้างอยู่แห่งหนึ่ง ท่านกำลังนั่งสมาธิ จิตกำลังจะรวมใกล้ ท่านบอกว่าจะรวมแบบที่ว่าหูใกล้จะดับอยู่ร่อมร่อ ทันใดนั้นก็มีเด็กกระโดดลงมาจากขื่อ ลงมาโดนกลดท่านกระเด็นกระดอน ท่านบอกว่าตอนที่มีเกิดเสียงดังนั้นจิตท่านก็เตลิดไปไกลแล้วเหลือแต่ตัวของท่านที่ยังคงนั่งอยู่

ท่านบอกว่าท่านก็ระลึกถึงคำของครูบาอาจารย์ของท่านอยู่เสมอว่า เวลาทำสมาธิอยู่นั้น ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นห้ามลุกวิ่งหนีเป็นอันขาด

พอท่านระลึกคำบูชาอาจารย์ของท่านได้ ท่านก็เลยเรียกสติของท่านกลับมาด้วยการ ใช้มือตบที่เข่าของท่านแล้ว ก็เริ่มตั้งสติพยายามรวบรวมสติที่แตกกระจัดกระจายกลับเข้ามาจนเป็นปกติ ท่านบอกว่า พอตอนเช้าท่านเลยถามชาวบ้านว่าที่นี่มีอะไร ชาวบ้านก็บอกว่าหลังกุฎิ เขาเอาศพเด็กมาฝังไว้ พระอาจารย์ท่านก็เลยถึงบางอ้อ ท่านบอกผมว่าด้วยความเป็นเด็กเขาก็มาหยอกพระอาจารย์เล่น

 

หลวงพ่อประดับ วัดไผ่สีซอ อ.เมือง จ.ตาก



พระอาจารย์ท่านเล่าให้ฟังว่า คนผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ท่านฟังว่า มีคนสุโขทัยเห็นท่านไปเดินบิณฑบาต ทั้งๆที่วัดไผ่สีซออยู่ไกลจากตัวเมืองสุโขทัย ประมาณ 77 กิโลเมตร ถ้านั่งรถยนต์ก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที

พอผมได้ฟังเลยคิดว่า ท่านคงสำเร็จอภิญญา เพราะเรื่องไปบิณฑบาตแบบนี้ เคยได้ยินว่าหลวงพ่อเกษม ไปบิณฑบาตถึงภูเก็ต ส่วนหลวงพ่อชม วัดทุ่งยาว จ.ปราจีนบุรี มีคนเห็นท่านไปบิณฑบาตอยู่ที่กรุงเทพๆ

 

สรีระของท่านอยู่ในโรงแก้วที่กุฎิของท่าน ตอนนี้มีพระหลานชายที่เป็นรองเจ้าอาวาสวัดไผ่สีซอท่านคอยดูแลกุฎิของหลวงพ่อประดับอยู่ครับ

 

ผมขอเปลี่ยนชื่อกระทู้ เป็น
สมเด็จนางพญางิ้วดำ วัดใหม่บ้านดอน และครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัตดีปฏิบัติชอบ

เพราะผมดูแล้วน่าจะมีโอกาสที่จะได้นำเรื่องราวของครูบาอาจารย์องค์อื่นๆมาเล่าสู่กันฟังกันอีกครับ

 

ผมไปค้นประวัติท่านมาครับจากเวบคุณกร เมืองตาก ครับ

พระครูนิพัทธ พิริยคุณ หรือหลวงพ่อประดับ ชาคโร วัดไผ่สีซอ ต.ตลุกกลางทุ่ง อ.เมือง จ.ตาก

..อย่างคร่าวๆมานำเสนอ หลวงพ่อ ชื่อ นายประดับ พึ่งทองคำ เกิดวันอาทิตย์ 1 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2467 บิดาชื่อ นายต้อ พึ่งทองคำ มารดาชื่อ นางสุข พึ่งทองคำ มีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ต้วหลวงพ่อเองเป็นบุตรคนที่ 2 ตอนเป็นเด็กเริ่มเรียนหนังสืออยู่ที่วัดบ่อหว้า เรียนจบแล้วได้มาช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำนาทำไร่ จนครบอายุที่จะบวชเรียนได้ก็ได้เข้าอุปสมบทที่วัดโบสถ์มณีศรีบุญเรือง อ.เมือง จ.ตาก เมื่อปี พ.ศ. 2487 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บวชได้ 6 พรรษา ก็ได้เดินทางมาอยู่ที่วัดหนองพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2493 หลังจากนั้นท่านได้มาจับจองที่ดินแห่งนี้ไว้ เรียกกันว่าวัดอรัญญาวาสหรือวัดใหม่ซึ่งแต่ก่อนท่านได้สร้างกุฎิศาลาหลังเล็กๆ ไว้ เป็นที่พักและไว้ให้ญาติโยมทำบุญ ต่อมาท่านได้ตั้งชื่อวัดนี้เป็นวัดอรัญญาวาส ต. น้ำรึม อ. เมือง จ.ตาก ซึ่งแต่ก่อนที่ดินตรงนี้เป็นป่ารกมีสัตว์นาๆ ชนิดเต็มไปหมด ก็ได้พัฒนาอยู่จนทุกวันนี้ หลังจากนั้นญาติโยมก็ทำบุญที่วัดมากขึ้นจนเป็นที่รู้จักกันดีและหลวงพ่อได้ปลุกเสกเครื่องรางของขลังไว้แจกให้ญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ ในตอนแรกได้ทำเป็นรูปภาพขาวดำมีความกว้างประมาณ 1 นิ้วครึ่ง หลังจากนั้นท่านมีปัจจัยพอที่จะสร้างวัดใหม่ให้ใหญ่ขึ้นและสร้างศาลาหลังใหม่ให้ใหญ่โตขึ้น หลวงพ่อได้เริ่มสร้างวัดใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2521 โดยเปลี่ยนชื่อเป็นวัดใหม่ไผ่สีซอ หรือ วัดไผ่สีซอ จนทุกวันนี้ ที่อยู่เป็น เลขที่ 12 หมู่ 4 ต. ตลุกกลางทุ่ง อ. เมือง จ. ตาก 63000 และมีพระลูกวัดมาจำพรรษากันมาก พร้อมความสามารถที่โด่งดังเครื่องรางของขลังจนเป็นที่รู้จักขอลูกศิษย์ในนามหลวงพ่อประดับวัดไผ่สีซอ หลวงพ่อได้พัฒนาวัดไผ่สีซอเรื่อยมาตลอดจนท่าชราภาพและหลวงพ่อได้มรณภาพลง วันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2553 รวมสิริอายุ 86 ปี 65พรรษา

 

เรื่องตีหวยจากยันต์ของหลวงพ่อ

พระอาจารย์ท่านเล่าว่า มีคนที่กำแพงเพชรนิมนต์ไปทำบุญเลี้ยงพระที่บ้านหรือสำนักงานอะไรสักอย่างผมไม่แน่ใจ ท่านก็เขียนยันต์ให้ ชาวบ้านก็ไปตีเป็นหวยถูกกันเป็นสามสี่แสนบาทเลย ตามมากราบหลวงพ่อที่วัดกันยกใหญ่

 

เรื่องราวที่ผมได้รับรู้มาจากพระอาจารย์ผมจะค่อยทะยอยลงให้อ่านนะครับ ตอนนี้ผมนำเรื่องของท่านมาแบบแอบเล่าไปพลางๆก่อน เพราะผมยังไม่ได้ขออนุญาตจากท่านเลยครับ ดังนั้นจึงขอหลีกเลี่ยงเรื่องชื่อของท่านไปก่อนครับ...แต่ถ้าจะสอบถามหลังไมค์ก็พอได้ครับ ที่จริงมีบางเรื่องที่ผมก็อยากจะเล่าแต่ยังไม่กล้าเท่าไหร่ ครับ

 

พระอาจารย์ท่านเป็นลูกศิษย์ของพระคุณอาจารย์ใหญ่ (หลวงพ่อแป้น วัดไทรงามธรรมธราราม)




ท่านเล่าให้ผมฟังว่า ตอนที่พระอาจาย์อายุครบบวช 20 ปี ท่านตั้งใจจะบวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ แค่ 15 วัน แต่คืนสุดท้าย ท่านได้สัมผัสกับสมาธิคือนั่งสมาธิในกุฎิแล้วมันสว่างไปทั้งกุฎิ ท่านก็เลยไม่สึก เลยอยู่ต่อ ผมจำไม่ได้แล้วว่าท่านบวชตอนไหน แต่คิดว่าน่าจะก่อนเข้าพรรษา ท่านบอกว่าตอนเข้าพรรษา วัดที่ท่านบวชอยู่ ต้องทำงานจนไม่มีเวลาปฏิบัติ หลังจากออกพรรษาท่านจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานขอพบกับครูบาอาจารย์ที่จะสอนท่านได้

ท่านบอกว่า พออธิษฐานเสร็จมันมีลำแสงพุ่งขึ้นจากพื้นขึ้นมา ลำแสงนี้อยู่ทางทิศใต้ ตอนนั้นท่านอยู่จังหวัดกำแพงเพชร ท่านเลยมุ่งหน้าลงมาทางทิศใต้ จนมาพักอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี

ท่านเล่าว่า ท่านได้ฟังเทศน์เป็นเทป ท่านบอกว่าท่านฟังแล้วท่านเข้าใจ ท่านเลยถามพระที่วัดว่า พระองค์นี้คือใคร พอท่านรู้ท่านก็มุ่งหน้ามาที่วัดของหลวงพ่อ คือวัดไทรงามธรรมธราราม จ.สุพรรณบุรี

 

เคยมีคนรู้จัก นำวัตถุมงคลเป็นพระเนื้อไม้สีดำมาถามว่า พระองค์นี้ดีไหม
คนถามมีวัตถุมงคลเยอะ สงสัยจะเลือกแขวนคอ

ทราบในกำลังของสมาธิว่า ถูกปลุกเสกด้วยวิชาเสาร์ห้า เมตตาออกโชคลาภ
และสัมผัสได้อีกว่า วัตถุมงคลนั้นจัดเป็นของทนฤทธิ์ คือมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองถึงไม่ปลุกเสกครับ(ขอโทษ ถ้าล่วงเกินครับ)

 

ขออนุโมทนาสาธุครับ ไม่ล่วงเกินใดๆหรอกครับ

ผมก็เคยอ่านมาจากหนังสือ ว่าเป็นของทนสิทธิ์ แต่ผมก็ไม่เคยถามสมเด็จนางพญางิ้วดำ หรือพระอาจารย์ของผมเลยครับ

แต่เมื่อเร็วนี้ผมเจอเฟซเขาขายไม้งิ้วดำ รับแกะเป็นพระ ผมเลยว่าจ้างให้เขาแกะเป็นหลวงปู่ทวด แบบพระนาคปรก 120องค์ ตั้งใจจะนำไปถวายวัดใหม่บ้านดอน เพื่อไว้ให้คนมาบูชาเงินจะได้เข้าวัด สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆน่ะครับ

 

ผมสั่งให้ช่างแกะเป็นหลวงปู่ทวด ช่างเขามีแบบเป็นหลวงปู่ทวดนาคปรก ผมก็เลยตามเลยครับ เพราะที่จริงอยากได้เป็นลอยองค์ แต่ช่างบอกเป็นแบบนูนต่ำดีกว่าง่ายกว่า และตอนแรกไม่อยากได้ใหญ่มาก แต่ด้วยรายละเอียดเลยทำให้ต้องมีขนาดใหญ่ประมาณเหรียญ 10 บาทน่ะครับ ส่วนรูปเหรียญที่ถ่ายเทียบนั้นเป็นเหรียญ 1 บาทครับ ตั้งใจ จะสั่ง 120 องค์ แต่ตอนนี้มีทุนสั่งไป ล็อตแรก ที่ 33 องค์ก่อนน่ะครับ เดี๋ยวรอเก็บตังค์ ต้องสั่งต่อให้ครบ 120 องค์

รูปข้างล่างนี้เป็นท่อนไม้งิ้วดำที่ร้านช่างครับ

 

อภินิหารของไม้งิ้วดำที่ร้านช่างแกะไม้งิ้วดำมีหลายเรื่องเลยครับ ช่างเขาเล่าให้ผมฟังทางไลน์

 

ประสบการณ์ลูกอมหลวงปู่หมุน



ผมบูชามาจากในเวบประมูลพระแห่งหนึ่ง ดูเทียบกับรูปในเวบพระเครื่องชื่อดัง เห็นมีเนื้อหาโดยรวมเหมือนกัน ก็คิดว่าใช่

เขาส่งมาพร้อมกับเบอร์ที่เขาส่งประกวด xxx03 ผมได้ลูกอมนี้มาตอนต้นเดือนตุลาคม พอได้มาก็คิดเล่นๆไป เบอร์ที่ติดมาอาจจะออก

พอวันที่ 16 ตุลาคม 2561 เงียบ

พอถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 ผมก็ซื้อ ลตร. เลข ท้าย 30 กับ 03 อย่างละ 2 ใบ ผลปรากฎเงียบ

พองวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561 สองวันก่อนออก ผมก็นึกไปว่า ถ้าเลขหลวงปู่ไม่ออก ผมจะเลิกแขวนแล้วนะครับ แต่ไม่ได้ซื้ออะไหรอกครับ แค่อยากรู้ว่า จะมีเลขออกไหม พอประกาศ รางวัลที่ 1 xxx903

สรุปผมเลยต้องแขวนลูกอมหลวงปู่ต่อ

 

ถ้าใครเคยได้อ่านเรื่องที่ผมเคยลงไว้ ผมเคยให้พระอาจาย์ช่วยดูลูกอมหลวงปู่หมุนให้ ตอนประมาณปี 2555 ท่านบอกมาว่า เป็นพระแก่ๆ รูปร่างเล็กๆ ถือไม้เท้า คือลักษณะของหลวงปู่หมุน
ท่านบอกว่า หลวงปู่ยังไม่ไปยังอยู่โปรดลูกหลาน คือท่านไปได้แต่ท่านยังไม่ไป

พระอาจารย์บอกผมว่า กระแสพลังประจุอยู่ข้างในลูกอม ท่านก็อธิบายเปรียบเทียบกับพระกริ่งของหลวงปู่อีกองค์นึงว่า กระแสพลังของพระกริ่งจะวิ่งวนอยู่รอบๆผิวของพระกริ่ง ซึ่งก็ไปตรงกับที่เคยได้อ่านเรื่องของลูกศิษย์ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแกมาก่อนเขาลงไว้ว่า หลวงปู่ดู่ท่านเคยบอกว่า พวกชานหมากของครูบาอาจารย์ที่มีลมหายใจของท่านผ่านอยู่ตลอด เวลานำไปสร้างเป็นวัตถุมงคลแล้วจะมีความขลังสูง (ผมเข้าใจจากที่อ่านมาประมาณนี้ครับ)

***ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ***ถ้าให้เลือกของของครูบาอาจารย์ ผมก็ติดใจที่จะเลือกลูกอมก่อนน่ะครับ พี่ชายผมตอนหลังเริ่มมีศรัทธาในองค์หลวงปู่หมุน ก็พยายามหาเช่าของที่ทันจากร้านสายตรงที่เขารับประกัน ร้านก็เป็นสมาชิกอยู่ในเวบพระเครื่องที่มีชื่อเสียงของประเทศ แต่ราคาก็แรงกว่าตามหาเช่าเอาเอง ผมยังบอกกับพี่ชายว่า ถ้าให้ผมเลือกระหว่าง รูปหล่อ กับลูกอม ผมเลือกลูกอม ดูพี่ชายผมไม่ค่อยเชื่อผมเท่าไหร่เพราะค่านิยมรูปหล่อนั้นสูงกว่ามาก

 

ของผมเก็บไว้ที่ำทำงาน