รู้อะไร ให้รู้ตรงๆ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 2 มกราคม 2012.

  1. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    รู้ตรง ๆ รู้เท่าทันการปรุงแต่งทั้งหลาย อนุโมทนา สาธุครับ
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    แปลว่าธรรมมีอยู่ตลอดเวลาอย่างนั้นหรือ

    ยกตัวอย่าง เปิดสิ่งที่ปิดละอวิชา

    ทำไมถึงรู้ว่านั้นคืออวิชา จิตมันบอกเองหรือ มีเสียงมากระซิบหรือ

    ก็ในเมื่อ อวิชาเป็นสมมุตติบัญญติ แต่เมื่อทิ้งสมมุตติ มันก็เป็นทางของปรมมัตถ์

    ซื่งไม่มีอะไรบอกว่า นี่อวิชาซักหน่อย
     
  3. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เป็นไปตามภูมิครับ

    แม้เห็นสิ่งเดียวกัน อาจไม่ใช่สิ่งเดียวกันก็ได้ :cool:
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เพราะเอ็งยังไม่เกิดปัญญานะสิ เอ็งจึงไม่รู้ว่าอะรไแจ้งอะไรมืด
    ความไม่รู้ เมื่อเอ็งรู้ จะต้องมีใครมากระซิบบอกเอ็งหรือ ก็สติปัญญาที่เอ็งเห็นแล้วว่าเอ็งไม่รู้นั่นแหละคือตัวบอกว่า อะไรคืออวิชชาที่เอ็งดองเอาไว้มานาน
     
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    สติปัญญาที่จะมาถามยังไม่มี สติยังระลึกไม่ได้ เอ็งต้องไปศึกษาใหม่
    ไปขอเป็นศิษย์ จินนี่ ก็ได้
    เอาหละนะขอตัวก่อน
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    แปลว่าคำถามคงง่ายไป เลยบอกปัดไป ๗ ถำถามในเรื่องเดิม ^^
     
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ชอบให้ถามคำถามอภิธรรมหรือ

    งั้นถามใหม่ รูปนามพิจารณาอย่างไร ^^
     
  8. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ................. ขอยืนยันครับ ต้อง เห็นไตรลักษณ์ อย่างเดียว.... ต้องเห็นโทษ(อาทีนวะ)(ความไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป)ของสิ่งที่เห็น ของสภาพธรรม ของมันเท่านั้น .....เพื่อ การละ ตัณหา นันทิ ราคะ เป็นเป้าหมาย:cool:.....จริงจริง ไม่มีอะไรหรอกพี่หลง ผมว่าเห็นความไม่เที่ยง(โทษ(อาทีนวะ)ของสภาพธรรม)....มันเวิร์ค ครับ:cool:แค่ ชวน คุย หน่า
     
  9. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ที่จินนี่อนุโมทนา ๓ ข้อนั้น คิดว่ารู้ตรงๆนั้น ใครเป็นผู้รู้หรือ
     
  10. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ........ อนัตตา(ไม่มีตัวตนที่เที่ยง) จะปรากฎแก่ใจของผู้ภาวนา ที่ถึงพร้อมด้วย อินทรีย์ พละ ที่ปฎิบัติตาม มรรค นะครับผมว่า:cool:
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เคยอธิบายไปแล้วนี่ครับ เป็นไปตามลำดับซื่งก็เข้าใจตรงกันแล้ว

    จู่ๆจะมารู้สึกตัว แล้วเห็นว่ามันมั่นเที่ยงนั้น เป็นไปไม่ได้

    เรื่องปัญญาเห็นโทษเกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช่ปัญญาเห็นไตรลักษณ์

    เพราะขณะนั้น ปัญญาเห็นอนิจัง ทุกขัง อนัตตา ในลักษณะสมมัญลักษณะนั้นดับไปแล้ว

    ลองสังเกตุดูครับ
     
  12. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    จะพูดไงดีหว่า

    เอาเป็นว่า มาถึงจุดที่เห็นโทษ รู้ว่ามันหลุดจากธรรมชาติเกิดดับนี้ไม่ได้

    ซึ่งเป็นวัฏฏะหมุนวลอยู่อย่างนั้น ตรงนี้ ความเร่าร้อนจะแรง ความดิ้นรนอยากพ้นจะประทุออกมา

    บางคนเข้าใจว่านี้คือ ทุกขสัจแล้ว

    บางคนน้ำตาตก เพราะเบื่อหน่าย แต่หาทางออกไม่ได้

    ก็ธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

    ทีนี้ ในวิปัสสนามีสภาพธรรมหนึ่งคล้ายๆกับ สมาธิที่เพิ่งคุยมา

    แต่มันต่างกันตรงปัญญารู้ กับ ไม่รู้

    ถึงภาวะที่แยก เวทนาออกมา เข้าจะเข้าใจว่าจิตอิสระจากขันธ์ ผ่องใสท่ามกลางความเร่าร้อน ก็ว่าไป

    แต่ภาวะนั้น มันยังเป็นเรา มีเรา เรารู้อยู่อีก ให้พิจารณาต่อไป
     
  13. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ถูกต้องครับ รายละเอียดลองไปค้นเอานะครับ
     
  14. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ........... อันนี้ ใกล้เคียง ครับ แต่ที่คุยกัน นี่มีประโยชน์ บางอย่างที่อาจจะไม่ใช่วันนี้...อาจจะเป้นวันหน้าก็ได้ ครับพี่หลง....มันยังไม่จบง่ายง่ายหรอก 555!!!:cool:
     
  15. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .....ถ้าพูดตามการปฎิบัติ ใช่ครับ มันคล้ายคล้าย อินทรีย์สังวรณ์(สำรวมอินทรีย์)....แต่มันจะมีสิ่งที่ใจเชื่อ(เห็น)ใน อนิจจัง...ยกตัวอย่างการเลิก เหล้า เลิก บุหรี่ นั้น ต้องเห็นความไม่เที่ยง(โทษ อาทีนวะ)ของ สุขเวทนา(สภาพธรรม) ที่เกิดจากการเสพ เหล้าบุหรี่ แล้วมัน ก็ละได้ แต่ยังไม่อยากพูดว่า มันจะละขาดผึงได้เลย เผื่อไว้หน่อยนึงละกันครับ:cool:
     
  16. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ถ้าประจักษ์ธรรมซักครั้งนึง มันก็เป็นปัญญาแล้วครับ

    เกิดอีก ปัญญาก็รู้เร็วขึ้น ตัดเร็วขึ้น

    ที่ตัดครั้งต่อๆไป เป็นสติที่ระลึกได้ถึงสภาพธรรมนั้นๆ

    เข้าใจรึยังว่า สติ ทำไมถึงเป็นกุศล

    เปรียบเหมือนคนไม่รู้จักไฟ แล้วแสบร้อนเพราะเอามือไปแหย่ไฟ

    เมื่อเห็นกองๆไฟอีก ก็รู้ถึงความแสบร้อน

    ต่างกับ รู้สึกตัว ระลึกได้ทั่วๆไป ซึ่งยังเป็นอกุศลอยู่

    เช่น เวลาโกรธ รู้สึกตัวไหม แน่นอนย่อมรู้

    แต่รู้ไหมว่าเป็นสภาพธรรมที่ไม่ใช่เรา แน่นอน โทสะย่่อมไม่รู้ธรรม ^^


    ส่วนอินทรีย์สังวรณ์ มีคนเข้าใจผิดว่า ต้องเจี่ยมเจี้ยม ไม่เอาหู ตาไปหากิเลส

    หากเข้าใจธรรมชาติอารมณ์ที่กระทบทางทวารทั้ง ๖ แล้ว

    ย่อมรู้ชัดว่า มันเป็นอนัตตา ห้ามไม่ให้เห็น ห้ามไม่ได้ยิน ไม่คิดนึกย่อมไม่ได้

    เพราะธรรมชาติย่อมต้องมีผัสสะอยู่ตลอดเวลา

    การสำรวม คือ การมีสติระลึกรู้สภาพธรรมที่ปรากฏขณะนี้จริงๆ เกิดขึ้นจริง

    ไม่มานั่งคิดย้อนหลัง ในสิ่งที่เกิดขึ้นอีกแล้ว


    นึกออกไหม เวลาสำรวม สติไประลึกอยู่ที่ธรรมที่เป็นสภาวะธรรมที่ปรากฏ

    ในสภาวะนั้นก็ไม่ใช่ คนสัตว์ เรา ของเรา ถูกไหม

    ส่วนการเห็นเป็นเรื่องราวในขณะนั้น มันลดความสำคัญลง

    เป็นสักว่า เป็นสมมุตติที่ถูกข้ามไป ด้วยปัญญาไปรู้ปรมัตถ์ธรรมที่เด่นอยู่ ^^
     
  17. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    แพททริก เห็นโทษแล้ว ถูกไหม เบื่อหน่ายไหม ^^
     
  18. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    การเห็นอย่างเดียว ไม่ทำให้กิเกลสหายทันทีหรอกครับ

    ยังอยู่ครบด้วยซ้ำ

    ปัญญาระดับนี้ทำได้ ที่คลายความเห็นผิด คลายความยึดมั่นผิดๆ

    สังเกตุถึงความสำคัญของ อินทรีย์สังวรณ์ไหม

    เมื่อก่อนอาจรอให้มันลงใจ แต่พอแก่รอบ ไม่ต้องไปรอมันแล้ว ไปดักเจอที่หน้าประตูทั้ง ๖ เลย

    เอาสติไปรับวิบากมาเดินเที่ยว จูงมือดู โลกอายาตนะ โลกผัสสะ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

    แล้วเชิญออกสวยๆด้วยปัญญา
     
  19. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...................ตรงนี้ ถ้า ตามด้วยการเห็นความ ไม่เที่ยง(อนิจจัง)ละแจ่มเลย...:cool:
     
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    บางทีไปแนะนำอะไรมากๆไม่ได้ ส่วนมากจะให้น้ำหนักไปที่รูปนามก่อน

    แล้วแต่ว่าขณะนั้นมีอะไรเป็นอารมณ์ มันเป็นปัญญาของเขาเอง



    ทีนี้ เห็นย้ำบ่อยเหลือเกิน เรื่องอนิจจัง เกิดจากปัญญาประจักษ์สภาพธรรม ถูกไหม

    เพราะเห็นว่ามันเปลี่ยนรูปไปอีกแล้ว

    ส่วนความเบื่อหน่าย มันมาพร้อมกับขยัน กระสันเร่งความเพียร

    ไม่ใช่มองอะไรๆก็เซ็งชีวิต อะไรๆก็ไม่เที่ยงไปหมด

    เป็นแบบไหนเอ่ย :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...