พุทธภูมิ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ธรรมะ

มีผู้ใจบุญจากกรุงเทพฯ ได้ติดต่อพูดคุยกับผม ขอร่วมบุญสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ภูดานไห เป็นจำนวน 3,000บาท โดยได้โอนเข้าบัญชีทางวัดแล้วในวันนี้ ได้ทราบนามท่านคือ คุณสมสุข ผิวพรรณ
ขออานิสงค์ผลบุญนี้ เป็นพลวปัจจัยหนุนนำท่านและครอบครัวให้ได้พบแต่ความสุข ความเจริญก้าวหน้า และประสบแต่สิ่งที่ดี สว่างไสว เจริญในธรรม จนถึงที่สุดแห่งนิพพานด้วยเทอญ.

และผมขอโอกาสนี้มอบพระพุทธปฐวีธาตุ(ส่วนตัว) ให้แก่ท่านเพื่อเป็นพุทธานุสติ ระลึกถึงพระพุทธคุณ เพื่อน้อมนำแก่การปฏิบัติ และระลึกถึงการสร้างบุญของท่าน



ขออนุโมทนาบุญครับ
ภูเบศวร์

 

โมทนาสาธุกับทั้งสองท่านด้วยนะครับ

กระผมยินดีมอบพระพุทธปฐวีธาตุแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
แด่ท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพุทธสถานภูดานไหฯ และมีความศรัทธาจะรับไว้
เป็นปัจจัยร่วมบุญตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป

และมอบพระพิมพ์สายวัง (ตาม Link) แด่ท่านที่ร่วมทำบุญฯ 1,000 บาทขึ้นไป

ขอทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญ
IT Man/15.06.55<!-- google_ad_section_end -->

 

วันนี้วันพระขออนุญาตนำภาพพระพุทธปฐวีธาตุชุดพิเศษมาให้ทุกท่านได้ชม.....
ชุดโลกุตรธรรม องค์พิเศษ...​

ด้านหน้าขององค์พระพุทธปฐวีธาตุ

ด้านข้างองค์พระขององค์พระพุทธปฐวีธาตุ

ด้านล่างขององค์พระพุทธปฐวีธาตุ....

ฝากให้ท่านสมบัติพิจารณาด้วย...สวยงามบ่....
คงคุณค่าสวยงาม ปราณีต ขอน้อม กราบ กราบ กราบ องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พระผู้มาโปรดโลก ซึ่งเป็นผู้สร้างพระพุทธปฐวีธาตุ ผมเคยได้ยินคุณแม่ชมกล่าวว่าพระพุทธปฐวีธาตุทุกองค์มีเพียงรุ่นเดียวคือ รุ่น 1 เนื่องจากหินที่นำมาสร้างเป็นพระพุทธปฐวีธาตุมีลักษณะสัญฐานเฉพาะ ซึ่งธรรมชาติเป็นผู้เจียรนัย ซึ่งหินแต่ละก้อนก็มีลักษณะแตกต่างกันไป ดังนั้นพระพุทธปฐวีธาตุทุกองค์จึงมีลักษณะ และเอกลักษณ์เฉพาะ แต่ละองค์จึงเป็นรุ่น 1 ทั้งหมด ซึ่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้เมตตาสร้างพระพุทธ ลงไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ เพื่อช่วยในการเจริญภาวนา และคุณของพระพุทธ คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์ ไม่มีประมาณพระพุทธปฐวีธาตุทุกๆ องค์จึงมีพลานุภาพแบบไร้ขีดจำกัดและช่วยส่งเสริมการเจริญภาวนา....ดั่งที่นักรบธรรมทุกท่านได้ประจักษ์....ขอให้ทุกๆ จงเจริญในธรรม....

 

สรุปรายนามท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพุทธสถานภูดานไห

และร่วมสร้างหลังคาศาลาปฏิบัติธรรมหลวงปู่ศรีสุทโธ
น้อมถวายองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโชมีดังนี้
1. คุณนงค์เนตร ต๋าคำ บริจาค 10,000- (7 มิ.ย.55)
2. คุณสมบัติ เพ็งพล บริจาค 10,000- (11 มิ.ย.55)
3. พระอาจารย์รูปหนึ่งที่ กทม. บริจาค 7,999- (รับถวายพระพญาเหล็กจากท่านภูเบศวร์)
4. คุณธีรภัทร พิสุทธิสกุลชัย บริจาค 6,119- (รับมอบพระพญาเหล็กจากท่านภูเบศวร์)
5. คุณคุณมานิตย์ บูรณเจริญกิจ บริจาค 10,009- (รับมอบพระพิมพ์สายวังจากท่านพิเชฐ 2 องค์)
6. คุณนคร เรืองรุ่งรัตนกุล 18,000- (11 มิ.ย.55)
7. บ้านสวนสันติธรรม 30,000- (11 มิ.ย.55)
8. คุณฉันทะธรรม 5x,xxx- (13 มิ.ย.55)
9. คุณสมสุข ผิวพรรณ 3,000- (14 มิ.ย/รับมอบพระพุทธปฐวีธาตุจากท่านภูเบศวร์)
10. คุณครูสมลักษณ์ 10,000- (15 มิ.ย.55)
11. ด.ต.อนาวิล บุญเทาว์ 5,000-* (รับมอบบ่วงนาคบาศจากท่าน ดร.นนต์ 1 วง)
12. คุณธฏฬษ วงศ์เหรียญ 10,000-* (รับมอบบ่วงนาคบาศจากท่าน ดร.นนต์ 1 วง)
13. คุณพจน์ ครองสิริวัฒน์ 5,000-* (รับมอบบ่วงนาคบาศจากท่าน ดร.นนต์ 1 วง)
14. คุณเฉลิมชัย นุโนชา 5,000-* (รับมอบบ่วงนาคบาศจากท่าน ดร.นนต์ 1 วง)
15. คุณอภิชน ประมุข 3,000-* (รับมอบพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ท่านสมาชิกธรรม 1 องค์)
16. คุณธฏฬษ วงษ์เหรียญ 6,000-* (รับมอบพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ท่านสมาชิกธรรม 2 องค์)
17. คุณเอกวิรัชต์ ลิ่มจิรวงศ์ 6,000-* (รับมอบพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ท่านสมาชิกธรรม 2 องค์)
18. คุณไพบูลย์ จงจิรวิศาล 3,000-* (รับมอบพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ท่านสมาชิกธรรม 1 องค์)

รวม 19x,xxx-*

* = ประมาณการ
................................................................
กรุณาโอนปัจจัยร่วมทำบุญมาที่:
ชื่อบัญชี : นางบุญชม ยางธิสาร
เลขที่บัญชี: 4160396194
ธนาคาร : กรุงไทย สาขากุฉินารายณ์
ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
................................................................

พระพุทธปฐวีธาตุ องค์พระอริยสัจจธรรม มอบแด่...
ท่านที่ร่วมทำบุญมามากที่สุดลำดับที่ ๑
................................................................

พระพุทธปฐวีธาตุ องค์พระโลกุตตรธรรม 9 มอบแด่...
ท่านที่ร่วมทำบุญมามากที่สุดลำดับที่ ๒
................................................................

พระพุทธปฐวีธาตุ รอยพระพุทธบาท มอบแด่...
ท่านที่ร่วมทำบุญมามากที่สุดลำดับที่ ๓
................................................................
ขอมอบ...
1. พระพุทธปฐวีธาตุวาระอื่นๆ (ทำบุญเริ่มต้น 3,000-)
2. พระพิมพ์สายวังฝีพระหัตถ์วังหน้ายุค ร.4 (ทำบุญ 3,100-)
3. พระพิมพ์สายวัง (ทำบุญเริ่มต้น 1,000-)
4. บ่วงนาคบาศ (ทำบุญเริ่มต้น 5,000-)
แด่ท่านที่ประสงค์จักรับไว้เป็นพุทธานุสติและเจริญภาวนาในลำดับถัดไปครับ
................................................................
ขอโมทนาสาธุในบุญกับทุกท่านทุกประการ
ธรรมรักษ์ผู้รักษ์ธรรม
IT Man/18.06.55
................................................................

 

ขอบคุณครูชาติหลายๆ
งดงามทรงคุณค่าหลายขนาด..........สาธุ
IT Man/18.06.55​

 

สวยงามมากครับ
ดีใจกับครูชาติด้วยครับ
ขอให้เจริญในธรรม ในปัญญา ในบุญบารมี
สาธุ ด้วยทุกประการครับ

 

ขอบคุณคุณสมรชัยมากครับสำหรับคำอวยพร ก็ขอให้คำอวยพรนั้นจงมีแด่คุณสมรชัยด้วยเช่นกันครับ เดินทางไปด้วยกันเพื่อจุดหมายเดียวกันคือมรรคผลนิพพาน...สาธุ...
ขอเรียนให้ทุกๆ ท่านที่ได้รับพระพุทธปฐวีธาตุจงเข้าใจไว้ว่าพระพุทธปฐวีธาตุทุกๆ องค์ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเพียรสร้างขึ้นมานั้น องค์ท่านเป็นด้วยมือสร้างด้วยมือของท่านเอง โดยเริ่มตั้งแต่เลือกหินเพื่อมาสร้างพระ ขั้นตอนกันเคลือบเงา และขั้นตอนการสร้างพระ ไม่ว่าจะเป็นปฐวีธาตุก้อนเล็กๆ องค์ท่านก็สร้างพระองค์เล็กๆ ลงไป หรือปฐวีธาตุก้อนใหญ่ๆ ท่านก็สร้างพระให้ใหญ่ ได้เหมาะสมกับปฐวีธาตุก้อนนั้นๆ และที่สำคัญไม่ว่าพระพุทธปฐวีธาตุองค์ไหน จะได้รับก่อนหรือ รับหลังคนอื่น พระพุทธปฐวีธาตุทุกองค์มีเพียงรุ่นเดียวคือ รุ่นที่ 1 เท่านั้น และมีพลานุภาพแบบไร้ขีดจำกัดทุกองค์ ดังที่พวกเราได้ประจักษ์มากันมาแล้ว....
ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ทุกๆ ท่านด้วยเทอญ...สาธุ

ปล.ลืมบอกไปช่วงระหว่างวันที่ 1-3 เดือน สิงหาคม 2555 วาระวันเข้าพรรษาแจ้งไว้แต่เนินๆ หากทุกๆ ท่านว่างก็ขอเรียนเชิญที่วัดภูดานไห นะครับร่วมกันถวายพระพุทธรูปศิลานาคปรก (นาค 9 เศียร) รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกนะครับ.....

 

58: ปาฏิหาริย์องค์พระพุทธปฐวีธาตุแสดงฤทธิ์ ​

​

เป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มนักรบธรรม (นรธ.) แห่งภูดานไห ต่างได้ครอบครองพระพิมพ์สายวังชุดพิเศษและสำคัญๆเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่พบเจอประสบการณ์ในด้านที่ดีเป็นมงคลและกุศลยิ่ง จนต่างอัญเชิญออกมาให้ญาติธรรมร่วมทำบุญสร้างวัด ได้รับรู้สัมผัสในพลานุภาพที่มีอยู่จริง เพราะองค์อธิษฐานจิตก็ของจริง แถมยังเก่าจริงๆอีกด้วย

วัตถุมงคลที่ได้รับการกล่าวขวัญในกลุ่ม นรธ. และเป็นที่ยอมรับของผู้ทรงญาณอย่างต่อเนื่อง จนลงใจให้แล้วแขวนเดี่ยวอย่างเดียวก็คือ "พระพุทธปฐวีธาตุ" แห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช นามขององค์ท่าน ก็เกี่ยวข้องกับความหมายทางด้านฤทธิ์ ด้านเดช อยู่แล้ว ทว่าองค์ท่านกลับไม่ได้แสดงหรืออวดฤทธิ์ ซึ่งเป็นสมบัติของโลกให้คนลุ่มหลงมัวเมา หรือศรัทธาในทางนี้เลย องค์ท่านกลับแสดงปาฏิหาริย์ทางด้านธรรมเทศนา ให้เหล่าผู้มาศึกษาธรรมะด้วยความเคารพนบนอบต่อองค์ท่านอย่างจริงจัง ได้เข้าใจในการศึกษาปฏิบัติ ตามภูมิธรรม ตามจริตของแต่ละคน บ้างก็แตกต่าง บ้างก็เหมือน จนทำให้แต่ละคนพบว่าตัวเองมีจิตใจที่ค่อนข้างละเอียด รู้การควร การไม่ควร มีความเจริญงอกงามในทางธรรมและมีกำลังใจในการปฏิบัติ เห็นแสงสว่างในทางอริยมรรคธรรมอย่างต่อเนื่อง

พระพุทธปฐวีธาตุเป็นมงคลธาตุสิ่งหนึ่งที่องค์ท่านเพียรหา เพียรสร้าง เพียรอธิษฐานจิตเพื่อมอบให้กับเหล่าศิษย์ผู้ที่เคารพรักและศรัทธาในองค์ท่าน ได้รับไว้เป็นอนุสสติ* ประกอบในการทำความเพียร วิปัสสนากรรมฐาน ผู้ที่ได้รับไปต่างก็พบเจอประสบการณ์แตกต่างกันไปตามภูมิจิต ภูมิธรรม ตามกรรมของแต่ละคนไป แยกเป็นสองส่วนดังนี้

​

1. พลานุภาพในทางโลกธรรม: พระพุทธปฐวีธาตุทุกองค์ มีพลานุภาพหนักแน่นไร้ขีดจำกัดแบบครอบจักรวาล มีดีทุกด้าน เกินกว่าจะวัดหรือหยั่งได้ (พุทโธอัปปมาโน) เช่น พลานุภาพด้านเมตตามหานิยม ความอยู่เย็นเป็นสุข บรรเทาอุบัติเหตุเพทภัยพิบัติต่างๆ จากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นไม่มีหรือแคล้วคลาดปลอดภัย อีกทั้งกันคุณไสย คุณคน คุณผี เป็นต้น ฯลฯ

เบี้ยแก้ : หากดูดซับพลังฝ่ายไม่ดีแทนเจ้าของไว้มากๆจนเต็ม สีจะเปลี่ยนเป็นสีดำๆ ก็จะกันคุณไสย คุณผี คุณคน ไม่ได้เต็มที่หรือไม่ได้เลย ทว่า พระพุทธปฐวีธาตุนั้นกลับมีพลังงานใช้ไม่มีหมดสิ้น สามารถดูดพลัง และผ่องถ่ายพลังที่ดีจากวัตถุมงคลอื่นๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ให้กับผู้ครอบครองที่สามารถสัมผัสพลังได้เป็นอย่างยิ่ง

​

2. พลานุภาพในทางโลกุตรธรรม: โดยคำสั่งแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้บอกกล่าวสั้นๆแก่เหล่า นาค เทพ ฝ่ายสัมมาทิฏฐิ ผู้อาสารับใช้องค์ท่านเพื่อพิทักษ์รักษาพระพุทธปฐวีธาตุ สั่งสมบุญบารมีว่า "ไปเด๊อ...หมู่เจ้า ไปแสดงให้เขาเห็นว่า พระพุทธศาสนายังมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่"

​

ดังนั้น ท่านผู้มีตาในของจริงจึงเห็นพระพุทธปฐวีธาตุส่องแสงสว่างสีขาวประกายเรืองรองไปทั่วทั้งจักรวาล เห็นมีพญานาคสีขาว หรือเทวดาสวมชุดขาว สถิตอยู่ภายใน ส่วนนักปฏิบัติธรรมทั่วไปที่มีจิตเชื่อมั่นและศรัทธา ก็สามารถสัมผัสพลานุภาพอันเป็นรูปธรรมได้ เช่น พระพุทธปฐวีธาตุย้ายตำแหน่งวางได้ ขยับองค์ได้ ขยายองค์ได้ เสียดสีกันไปมาได้ (กรณีมีสององค์ขึ้นไป) สามารถทรงอารมณ์แห่งความเย็นใจ สบายใจได้ แม้จักไม่ได้อัญเชิญนานเป็นวันๆ (ผู้ครอบครองต้องมีสมาธิและพลังจิตในการซึมซับพลังงานได้) จนสงสัยว่า องค์ท่านสามารถจับพลังความเย็นใจ สบายใจ (อารมณ์พระนิพพาน) มาใส่วัตถุธาตุนี้ แล้วส่งต่อมาให้ผู้ครอบครองสามารถสัมผัสได้ ได้อย่างไรหนอ?

พระพุทธปฐวีธาตุสามารถผ่องถ่ายพลังกระแสเย็นได้:
นอกจากนี้แล้วพระพุทธปฐวีธาตุ ยังเป็นเหมือนสิ่งที่มีชีวิตจิตใจจริงๆ คือเป็นธาตุรู้ที่สัมผัสได้ทางความรู้สึก เช่น หากผู้ครอบครองเกิดอาการหดหู่ เสียใจ ท้อแท้ หมดกำลังใจในการปฏิบัติธรรม สาเหตุอาจจะเกิดจากการสูญเสียวัตถุ สิ่งของ สัตว์เลี้ยง บุคคล อันเป็นที่รักไป พระพุทธปฐวีธาตุก็จักสำแดงพลังให้ผู้ที่ครอบครองและเกิดอาการอันไม่สบายใจข้างต้น ให้กลับมีความเย็นกว่าปกติ จนผู้อัญเชิญมีอารมณ์เป็นปกติ จึงจะหยุดในการส่งถ่ายพลังเย็น (ถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้มีกระแสจิตที่ละเอียดลึกซึ้ง)

​

ดังนั้น พระพุทธปฐวีธาตุ ถือเป็นตัวแทนขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ที่สามารถจับต้องสัมผัสได้จากแดนไกล พระพุทธปฐวีธาตุจักสำแดงพลังให้ท่านผู้ครอบครองอาราธนาอัญเชิญด้วยจิตที่เคารพนบนอบ อย่างบริสุทธิ์ใจ องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาบอกว่า "พระพุทธปฐวีธาตุ จักแสดงฤทธิ์ของเขาเอง ไม่ต้องไปป่าวประกาศ ไม่ต้องไปโฆษณา แต่ผู้ที่สัมผัสได้นั่นแหละ เขาจะป่าวประกาศให้เอง" สมกับคำที่องค์ท่านสั่งมาว่า

"ไปเด๊อ...หมู่เจ้า ไปแสดงให้เขาเห็นว่า พระพุทธศาสนายังมีความเจริญรุ่งเรืองอยู่"



พระพุทธปฐวีธาตุ จึงเป็นวัตถุธาตุกายสิทธิ์อันมงคลเลิศในมุมมองของข้าพเจ้า ฉะนี้
ธรรมรักษ์ผู้รักษ์ธรรม
IT Man/20.06.55
................................................................................​

*อนุสสติ แปลว่า “ตามระลึกถึง” กรรมฐานกองนี้ เป็นกรรมฐานที่ตามระลึกนึกถึง มีกำลังสมาธิไม่เสมอกัน บางหมวดก็มีสมาธิเพียงอุปจารฌาน บางหมวดก็มีสมาธิถึงปฐมฌาน บางหมวดก็มีสมาธิถึงฌาน 4 และฌาน 5 กำลังของกรรมฐานกองนี้มีกำลังไม่เสมอกันดังนี้ อนุสสติทั้ง 10 อย่างนี้ ก็เหมาะแก่อารมณ์ของนักปฎิบัติไม่ใช่อย่างเดียวกันบางหมวดก็เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในสัทธาจริต บางหมวดก็เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในวิตกและโมหะจริต บางหมวดก็เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในราคจริต กองใดหมวดใดเหมาะแก่ท่านที่หนักไปในจริต อนุสสตินี้มีชื่อและอาการรวม 10 อย่างด้วยกัน จะนำชื่อแห่งอนุสสติทั้งหมดมาเขียนไว้เพื่อทราบ ดังต่อไปนี้

1. พุทธานุสสติ ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
2. ธัมมานุสสติ ระลึกถึงพระธรรมเป็นมารมณ์
3. สังฆนุสสติ ระลึกถึงคุณพระสงฆ์เป็นอารมณ์
4. สีลานุสสติ ระลึกถึงศีลเป็นอารมณ์
5. จาคานุสสติ ระลึกถึงผลของทานการบริจาคเป็นอารมณ์
6. เทวตานุสสติ ระลึกถึงความดีของเทวดาเป็นอารมณ์
   (อนุสสติทั้ง 6 กองนี้ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในสัทธาจริต)
7. มรณานุสสติ ระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์
8. อุปสมานุสสติ ระลึกถึงความสุขในนิพพานเป็นอารมณ์
   (อนุสสติ 2 กองนี้ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในพุทธจริต)
9. กายคตานุสสติ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในราคจริต
10. อานาปานานุสสติ เหมาะแก่ท่านที่หนักไปในโมหะและจริต

กำลังสมาธิในอนุสสติทั้ง 10
กำลังสมาธิในอนุสสติทั้ง 10 มีกำลังสมาธิแตกต่างกันอย่างนี้
พุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ จาคานุสสติ เทวตานุสสติ มรณานุสสติ อุปสมานุสสติ อนุสสติทั้ง 7 นี้ มีกำลังสูงสุดเพียงอุปจารสมาธิ
ลีลานุสสติ มีกำลังสมาธิถึงอุปจารสมาธิ และอย่างสูงสุดเป็นพิเศษ ถึงปฐมฌานได้ ทั้งนี้ถ้าท่านนักปฎิบัติฉลาดในการควบคุมสมาธิจึงจะถึงปฐมฌานได้้ แต่ถ้าทำกันตามปกติธรรมดาแล้ว ก็ทรงได้เพียงอุปจารสมาธิเท่านั้น
กายคตานุสสติกรรมฐานกองนี้ ถ้าพิจารณาตามปกติในกายคตาแล้ว จะทรงสมาธิได้เพียงปฐมฌานเท่านั้น แต่ถ้านักปฎิบัติฉลาดทำ หรือครูฉลาดสอน ยกเอา สีเขียว ขาว แดง ที่ปรากฎในอารมณ์แห่งกายคตานุสสตินั้นเอามาเป็นกสิณ ท่านกล่าวไว้ในวิสุทธิมรรคดังนี้ กรรมฐานกองนี้ก็สามารถทรงสมาธิได้ฌาน 4 ตามกำลังสมาธิในกสิณนั้น
อานาปานุสสติ สำหรับอานาปานุสสตินี้ มีกำลังสมาธิถึงฌาน 4 สำหรับท่านที่มีวาสนาบารมีสาวกภูมิ สำหรับท่านที่มีบารมี คือปรารถนาพุทธภูมิแล้วก็สามารถทรงสมาธิได้ฌาน 5 ฌาน 4

................................................................................​

อ่านต่อ...
08: พลานุภาพพระพุทธปฐวีธาตุ
36: ทำไม "ปฐวีธาตุ" จึงมีความแตกต่างจากพระเครื่องมากมายนัก
141: เทวตานุสติ

 

เทวตานุสติ
โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรํสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย​

คำว่า “ เทวตานุสติ ” หมายความว่า ระลึกถึงธรรมอันทำบุคคลให้เป็นเทวดา คนเราทุกคนย่อมอยากเป็นคนดี หรืออยากเป็นเทวดา เป็นเอินทร์เป็นพรหม หรืออยากบริสุทธิ์ พ้นจากทุกข์จะต้องมีความปรารถนาด้วยกันทุกคน แต่เมื่อมาได้เพียงมนุษยสมบัติ ก็นับว่าดีอักโขแล้ว เพราะมันเป็นพื้นฐานที่จะตกแต่งให้มนุษย์ไปเป็นเทวดา อินทร์ พรหม ต่อไป มนุษย์ที่มีสมบัติ คือมีอวัยวะครบครันบริบูรณ์ ไม่บ้าใบ้เสียจริตผิดมนุษย์ นับว่าดีอยู่แล้ว ขอให้ตั้งหลักฐานมนุษย์ที่ได้แล้วนี่ให้มั่งคงเถิด
เกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์แล้วไม่ใช่จะเป็นมนุษย์ทีเดียวมันเป็นมนุษย์แต่ชื่อ หรือไม่มนุษย์สมบัติมาเฉย ๆ ยังไม่สมบูรณ์ ถ้าเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์จะต้องมี “ มนุษยธรรม ” ด้วย

มนุษยธรรม คือคุณธรรมที่เป็นมนุษย์ ซึ่งมีมากที่เป็นเบื้องต้น ได้แก่ การเอ็นดู เมตตา ปรารถนาหวังดีต่อกันและกัน แล้วก็มีกตัญญูกตเวที อันเป็นพื้นฐานของมนุษย์
คนเราถ้าหากไม่มีเมตตาหวังดีต่อกันแล้ว มันก็ไม่ผิดแผกจากสัตว์เดรัจฉานเลย เอาแต่ได้เอาแต่ดี เอาแต่ประโยชน์ส่วนตัว ไม่คิดถึงความทุกข์ ความเดือดร้อนของคนอื่น ก็เหมือนสัตว์ทั่ว ๆ ไป สัตว์มันไม่มีเมตตาปรานีแก่กัน เช่นอย่างวัวควาย เมื่อเกิดมาก็มีแม่ของมันเลี้ยง พ่อของมันไม่ทราบไปไหนต่อไหนแล้ว แม่เลี้ยงลูกโดยสัญชาตญาณของมัน รักและเอ็นดูซึ่งกันและกัน แต่เวลาเติบใหญ่แล้วก็ลืมหมด ไม่ทราบว่าใครเป็นพ่อเป็นแม่ ใครเป็นลูกเป็นเต้า ไม่มีการสงเคราะห์กันนั่นแหละที่เรียกว่ามันไม่มีมนุษยธรรม

ส่วนคนเราไม่เป็นอย่างนั้น เรายังมีเมตตาปรานีโอบอ้อมอารีซึ่งกันและกัน หวังหาความสุข ความเจริญต่อกันรู้จักบุญคุณของกัน เหตุนั้นมนุษย์จึงมีพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ เป็นเครื่องแสดงความแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉาน

นอกจากมนุษยธรรมแล้ว ยังมีข้ออื่นอีก คือ มีศีล 5 เป็นเครื่องอยู่ ศีล 5 เป็นเครื่องปกปักรักษามนุษย์ให้เจริญต่อไป เมื่อเว้นจากฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดมิจฉาจาร กล่าวมุสาวาท ดื่มสุราเมรัยแล้ว มนุษย์จะอยู่ด้วยกันอย่างผาสุก

ชุมชนใดถ้ามีศีล 5 เป็นเครื่องปกปักรักษาคุ้มครองอยู่ ชุมชนนั้นจะค่อยเจริญงอกงามขึ้น ถ้าไม่มีศีล 5 ก็นับวันจะเสื่อมลงไป จะมีแต่คิดอิจฉา มีแต่เบียดเบียนพยาบาทอาฆาตจองบ้างจองผลาญซึ่งกันและกัน ชุมชนใดไม่มีศีล 5 ก็เป็นสัตว์ไป

ลองคิดดูเถิด กฎหมายบ้านเมืองซึ่งท่านตราออกมาเป็นพระราชบัญญัตินั้น ล้วนแล้วแต่อนุโลมตามศีล 5 กฎหมายมาตราต่าง ๆ ต้องมีศีล 5 อยู่ทั้งนั้น ศีล 5 นี้เป็นพื้นฐานของชาวโลก โลกมีศีล 5 แต่ไหนแต่ไรมาก่อนพระพุทธเจ้าประสูติก็มีอยู่อย่างนั้นเหตุนั้นเมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาแล้วจึงทรงสอนศีล 5 อนุโลม ตามของอันมีอยู่แต่ก่อน ศีล 5 ประการนี้เป็นเหตุให้อยู่เย็นเป็นสุขปราศจากอุปัทวันตราย
ฉะนั้น เบื้องต้นที่จะเป็นเทวดา ก็ต้องเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ด้วยมนุษยธรรมเสียก่อน เหตุนั้นท่านจึงเรียกว่า “ มนุสฺโส ” เกิดขึ้นมาเป็น มนุสฺโส แล้วจึงค่อยเป็น “ มนุสฺสเทโว ” ต่อไปถ้าไม่เป็น มนุสฺโส ก็เป็น มนุสฺสเทโว ไม่ได้

การที่จะเป็นมนุสฺสเทโวได้ ก็ต้องมีธรรมะเป็นครื่องอยู่ เปรียบเหมือนกับพวกพ่อค้าแม่ค้า ถ้าทำการค้าขาย ก็เรียกพ่อค้าแม่ค้า ถ้าทำไร่ทำนา ก็เรียกว่าชาวไร่ ชาวนา ถ้าทำราชการ ก็เรียกว่าข้าราชการ ฉะนั้น การที่เป็นเทวดาได้ ก็เพราะ มีธรรมอันทำให้เป็นเทวดาธรรม นั้น คือ “ หิริ ” ความละอายแก่ใจ และ “ โอตฺตปฺป ” ความเกรงกลัวต่อบาป
ธรรมะ 2 ข้อนี้ มีความสำคัญผู้มีความละอายต่อบาปกลัวต่อบาป จะงดเว้นการทำชั่วทุกประการ เพราะระลึกได้อยู่เสมอ จึงละอายและกลัว การกระทำทางกายก็ดี ทางวาจาก็ดี ทางใจก็ดี แม้แต่เพียงคิดเฉย ๆ ว่าจะทำความชั่ว เป็นต้นว่าคิดจะขโมยของเขา ก็ให้คิดละอายขึ้นมาในใจแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำ ไม่มีใครรู้ใครเห็น แต่เรารู้ตัวเองอยู่ จึงละอายต่อบาปไม่กล้าทำ เช่นนี้เรียกว่ามี หิริ โอตฺตปฺป

หิริ โอตฺตปฺป นี้เป็นธรรมที่สำคัญ เพราะเป็นพื้นฐานของศีล เป็นต้นตอของศีล ผู้จะมีศีลได้ ไม่ว่าจะเป็นศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 หรือศีล 227 ก็ตาม ต้องมีหิริ และ โอตฺตปฺป เนื่องจากได้เห็นจิตของตน เห็นความนึกความคิดความปรุงของจิตของตน แล้วก็กลัวบาป ละอายบาป จึงไม่อาจจะทำความชั่วได้ ฉะนั้น ศีลก็บริสุทธิ์

ธรรม 2 ข้อนี้จึงได้ชื่อว่าธรรมที่ตกแต่งมนุษย์ให้เป็นเทวดา ฟังดูคล้ายๆ กับว่าธรรมทำบุคคลให้เป็นเทวดา อันที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น ท่านพูดอุปมาอุปไมยฟัง แต่เราสามารถทำให้เกิดมีขึ้นในตัวของเราได้ด้วยการตั้งสติ กำหนดดูให้รู้จักจิตของตนเสียก่อน เมื่อมันคิดนึกแส่ส่ายไปทางอกุศลก็รู้จักละอายและกลัวต่อบาปแล้วงดเว้นเสียนี่แหละเป็นธรรมซึ่งมีอยู่ในตัวของเรา
ธรรมไม่มีตนไม่มีตัว เป็นนามธรรม เปรียบง่าย ๆ เหมือนกับคนค้าขาย คนกระทำการค้าขาย จึงได้ชื่อว่าเป็นพ่อค้าแม่ค้า ไม่ใช่การค้าขายทำให้เป็น เราเป็นคนทำต่างหากจึงค่อยเป็น อันนี้ก็เหมือนกัน เราระลึกขึ้นมาได้ เราเห็นใจของตนอยู่เสมอ จึงมี หิริ โอตฺตปฺป ช่วยให้มีศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 สมบูรณ์บริบูรณ์หมดทุกอย่าง ท่านจึงว่า

หิริโอตฺตปฺปสมฺปนฺนา สุกฺกธมฺมสมาหิตา

สนฺโต สปฺปุริสา โลเก เทวธมฺมาติ วุจฺจเร
เทวธรรม คือ หิริ โอตฺตปฺป เท่านั้น ทำมนุษย์ให้เป็นเทวดา

คนเราเมื่อเป็นมนุษย์แล้ว ถ้าอยากดีขึ้นไปเป็นเทวดาต้องมีคุณธรรม 2 อย่างนี้จึงจะเป็นเทวดาได้ ถ้าหากอยากดีอยากเป็นเทวดาแต่ไม่มีคุณธรรม มันก็เป็นไปไม่ได้ เหตุนั้นจึงควรที่จะสร้างคุณธรรมนั้นให้มีขึ้นในตนเมื่อมีขึ้นแล้วก็เพิ่มพูนให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้น

การมีหิริโอตฺตปฺป และรักษาศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 ได้อาจสามารถเป็นพรหมได้ เรียกว่า พรหมจรรย์ การรักษาศีล 10 ศีล 227 เรียกว่า พรหมจรรย์โดยแท้ ก็อาศัย หิริ โอตฺตปฺป นั่นเอง หากเป็นโดยลำดับ
เพราะฉะนั้น ควรที่จะรักษา ควรที่จะระลึกถึงธรรมอันที่ทำให้เป็นเทวดาอยู่เสมอ ๆ ก็จะเป็นอนุสติรักษาตนอยู่ด้วยความสงบได้ ไม่เป็นไปเพื่อความกำเริบวุ่นวายมีความสุขความสบายตลอดเวลา

จากหนังสือ ธรรมลีลา ปีที4 ฉบับที่42
พิมพ์ สุวิภา กลิ่นสุวรรณ์

 

วันนี้.....ร่วมรำลึกครบรอบ 140 ปีแห่งการล่วงลับ ของท่าน"สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี" กันนะครับ คำเทศนาของท่านยังใช้เตือนสติได้อยู่เสมอๆ.....ร่วมกันเชิดชูเกียรติคุณและสำนึกในพระคุณสมเด็จท่านที่ได้สร้างพระสมเด็จอันล้ำค่าไว้เป็นมรดกให้เราและลูกหลานได้สืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวนานตราบ 5000 ปี.....

กราบ กราบ กราบ
สมาชิกธรรม/นรธ.พิเชฐ
22 มิถุนายน 2555

 

ขอนอบน้อมกราบ กราบ กราบ องค์หลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จฯโต ด้วยเศียรเกล้านะมัตถุ พุทธานัง ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลายนะมัตถุ โพธิยา ความนอบน้อมของข้าพเจ้าจงมีแด่พระโพธิญาณธรรมรักษ์ผู้รักษ์ธรรมกราบ กราบ กราบjokky/นรธ.ณฐนน22 มิถุนายน 2555

 

ขออนุโมทนาสาธุครับ...
...หันหลังคืนฝั่ง พ้นจากทะเลทุกข์...
...ทุกสิ่งอยู่ที่จิต ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า...
...ปลูกพืชฉันใด ย่อมได้ผลฉันนั้น...

 

สวัสดีครับท่านนักรบธรรมและญาติธรรมของชาวภูดานไหทุกท่านและเหนือสิ่งอื่นใดขอ กราบ กราบ กราบ บูชาไว้เหนือเศียรเกล้าคือองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีวาสนาได้มากราบบูชาและปฎิบัติธรรมกับองค์ท่านฯพร้อมกับครอบครัวนับได้ 3 ครั้ง 3 วาระซื่งแต่ละวาระมีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจทั้งจากอง์ท่านที่อบรมสั่งสอนธรรมต่อญาติโยมที่มาปฎิบัติธรรมด้วยความมีเมตตาอย่างสูงและจากที่ได้ประสบกับเหตุการณ์ต่างๆที่ผมและครอบครัวรวมทั้งญาติธรรมที่ได้มาปฎิบัติธรรมร่วมกันในแต่ละวาระได้รับรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่และจากองค์ท่านฯซื่งถ้าในโอกาสหน้าจะขออนุญาตนำมาเล่าสู่กันฟังตามภาษาของผู้มีภูมิธรรมอันน้อยนิดแต่ครานี้จะขอเล่าเรื่องบารมีขององค์ท่านและพระพุทธปฐวีธาตุ สืบเนื่องจากวาระครั้งที่3ที่ผมได้มาปฎิบัติธรรมที่ ภูดานไห ในช่วงวันวิสาขบูชาพุทธชยันตีที่ผ่านมานี้โดยในครั้งนี้ทางครอบครัวผม(คุณสมรและลูกสาว)ติดภาระกิจไม่สามารถมากราบองค์ท่านได้ผมจึงชักชวนนัดหมายกับท่านภูเบสซึ่งได้รูัจักกันเมื่อคราววาระที่ 2 ที่ผมได้มาที่ภูดานไห(5-10 พ.ค. 2555)ซึ่งถึงแม้จะได้รู้จักกันในช่วงระยะเวลาสั้นๆแต่ก็คุยกันได้ถูกคอถูกอัธยาศัยของผู้มีแนวทางเดียวกัน(ซึ่งผมได้พบอีกหลายท่านที่ณ.ภูดานไหแห่งนี้)โดยออกเดินทางจากกรุงเทพฯวันที่ 3 มิ.ย. 2555 เวลา 19.30 น มาถึงที่ กุดหว้า ประมาณ03.30 น.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชม. ต้องเปิดห้องพักนอนเอาแรงกันก่อนจนเวลาประมาณ 9.00 น.จึงได้เดินทางขึ้นมาถึงบนภูดานไห ทันใส่บาตรกับองค์ท่านฯพอดีตามที่ท่าน IT MAN ได้ post ไว้ก่อนหน้านี้แล้วส่วนเหตุการณ์อื่นจะยังไม่ขอกล่าวถึงจะขอข้ามมาวันที่ 6 มิ.ย. 55 ซึ่งเป็นวันที่จะเดินทางกลับได้ทราบว่าศาลาปฎิบัติธรรมที่องค์ท่านกำลังสร้างเพื่อให้ญาติโยมที่จะมาปฏิบัติธรรมที่ภูดานไหได้ใช้กันแดดกันฝนและพักแรมได้นั้นยังขาดปัจจัยอยูุ่จำนวนมากแต่ท่านไม่มีเจตนาที่จะบอกบุญหรือเรี่ยไรเงินผ้าป่าหรือกฐินแตอย่างใดเนื่องจากท่านเป็นพระนักปฎิบัติธรรมอย่างแท้จริง ประจวบเหมาะกับวันนี้(6 มิ.ย.55)ท่านได้สร้างพระพุทธปฐวีธาตุขึ้นมาใหม่หลายองค์ซึ่ง ผมกับท่านภูเบสและท่านสันติกับคุณมน(แม่บ้านคุณสันติ)ได้มีบุญวาสนามีส่วนร่วมด้วย(เล็กน้อย) ทางท่านภูเบสจึงได้อาสานำองค์ที่พิเศษมามอบให้กับผู้ร่วมทำบุญสร้างศาลาปฎิบัติธรรมกับพุทธสถานภูดานไห ตามลำดับศรัทธา หลังจากเดินทางกลับมาแล้วผมได้เห็นผู้มีจิตศรัทธาอันเป็นกุศลได้ร่วมกันบริจากปัจจัยเป็นจำนวนมากพอสมควร ส่วนตัวผมนั้นคิดอยู่ว่าจะนำพระพุทธปฐวีธาตุองค์ที่แม่ชมเคยได้รับจากท่านและแม่ชมไดัถวายให้องค์ท่านมอบให้กับผมและครอบครัวเมื่อคราววาระแรก(14-15 เม.ย.2555)ที่ได้มาปฎิบัติธรรม(ตามรูปนำมาเลียมกรอบภายหลัง)จึงเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2555 ผมได้โทรปรึกษากับท่านภูเบส ๆจึงเสนอว่าให้นำมามอบให้กับผู้ร่วมทำบุญในวาระครั้งต่อไป ซึ่งในวันนั้นผมได้นำติดตัวมาที่ทำงานด้วย(ตั้งใจว่าจะนำมามอบให้ท่านภูเบสไว้เลย)ในระหว่างช่วงที่อยู่ที่ทำงานมีน้องผู้ชายที่ทำงานคนหนึ่งแต่ว่าอยู่คนละกอง คนละชั้นกัน ชื่อคุณนพพร ศิริกันรัตน์ ปกติเมื่อเจอกันก็จะทักกันนิดหน่อยตามประสาคนที่อยู่ที่ทำงานเดียวกันแต่มาวันนี้กับเดินมาทักทายและพูดคุยกันอย่างสนิทสนมส่วนมากจะคุยเรื่องฟุตบอลยูโรที่กำลังแข่งขันกันอยู่แล้วก็แยกย้ายกันไป สักพักนึงคุณนพพรได้โทรมาชวนผมไปทานข้าวเที่ยงกันอยู่ใกล้ๆที่ทำงาน ในระหว่างที่ทานข้าวนั้นมีอยู่ช่วงนึงได้คุยกันถึงเรื่องที่ผมได้ไปปฎิบัติธรรมที่ภูดานไหซึ่งปกติก็จะไม่ได้คุยกับใครในเรื่องนีเป๊นเรื่องเป็นราวนักซึ่งทางคุณนพพรก็ดูท่าทางมีศรัทธาแสดงออกให้เห็นถึงว่าเป็นผู้ที่ชอบทำบุญและปฏิบัติธรรมมาบ้าง(ทราบภายหลังว่ามีคุณแม่ชอบปฎิบัติธรรม)ผมจึงนำพระพุทธปฐวีธาตุองค์ที่นำติดตัวมาด้วยออกมาให้ชม ทันทีที่คุณนพพรได้ชมและสัมผัสองค์ฯนั้นรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกและอยากได้ไว้ครอบครองบูชาแต่ก็ทราบอยู่ว่าผมจะนำออกมาประมูลร่วมทำบุญเมื่อเห็นคุณนพพรมีปิติอยากได้องค์ฯไว้บูชาผมจึงได้โทรแจ้งท่านภูเบสว่าองค์ที่ผมจะให้ร่วมทำบุญมีผู้ศรัธาได้ไว้ครอบครองแล้ว ซึ่งคุณนพพรได้ร่วมทำบุญสร้างศาลาฯด้วยจำนวน 10000 บาท(คุนพพรได้โอนเข้าบัญชีแม่ชมแล้ว25มิ.ย.2555)เมื่อคุณนพพรได้รับแล้วก็ได้นำขึ้นห้อยไว้ที่คอทันทีดังที่เห็นในรูปถ่าย ขออนุโมทนาสาธุกับคุณนพพรขอให้เจริญในธรรม และเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ขอคุณพระศรีรัตนะตรัยจงคุ้มครองคุุณนพพรและครอบครัวให้สุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์พูนสุขทุกเรื่องราวเทอญสาธุ สาธุ สาธุ

 

ขออนุโมทนาสาธุกับคุณ จีรังจิต และคุณนพพร ด้วยนะครับ ขอให้มีความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลกและทางธรรม จนถึงที่สุดแห่งธรรมด้วยเทอญ...
ปล.เห็นคุณจีรังจิตบอกว่ามีเหตุการณ์อื่นจะยังไม่ขอกล่าว พวกเราก็รอฟังเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณจีรังจิตและครอบครัวอยู่นะครับ ...
ขอให้เจริญในธรรม....

 

สรุปรายนามท่านที่ร่วมทำบุญสร้างพุทธสถานภูดานไห
และร่วมสร้างหลังคาศาลาปฏิบัติธรรมหลวงปู่ศรีสุทโธ
น้อมถวายองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโชมีดังนี้
1. คุณนงค์เนตร ต๋าคำ บริจาค 10,000- (7 มิ.ย.55)
2. คุณสมบัติ เพ็งพล บริจาค 10,000- (11 มิ.ย.55)
3. พระอาจารย์รูปหนึ่งที่ กทม. บริจาค 7,999- (รับถวายพระพญาเหล็กจากท่านภูเบศวร์)
4. คุณธีรภัทร พิสุทธิสกุลชัย บริจาค 6,119- (รับมอบพระพญาเหล็กจากท่านภูเบศวร์)
5. คุณมานิตย์ บูรณเจริญกิจ บริจาค 10,009- (รับมอบพระพิมพ์สายวังจากท่านพิเชฐ 2 องค์)
6. คุณนคร เรืองรุ่งรัตนกุล 18,000- (11 มิ.ย.55)
7. บ้านสวนสันติธรรม 30,000- (11 มิ.ย.55)
8. คุณฉันทะธรรม 5x,xxx- (13 มิ.ย.55)
9. คุณสมสุข ผิวพรรณ 3,000- (14 มิ.ย/รับมอบพระพุทธปฐวีธาตุจากท่านภูเบศวร์)
10. คุณครูสมลักษณ์ 10,000- (15 มิ.ย.55)
11. ด.ต.อนาวิล บุญเทาว์ 5,000-* (รับมอบบ่วงนาคบาศจากท่าน ดร.นนต์ 1 วง)
12. คุณธฏฬษ วงศ์เหรียญ 10,000-* (รับมอบบ่วงนาคบาศจากท่าน ดร.นนต์ 1 วง)
13. คุณพจน์ ครองสิริวัฒน์ 5,000-* (รับมอบบ่วงนาคบาศจากท่าน ดร.นนต์ 1 วง)
14. คุณเฉลิมชัย นุโนชา 5,000-* (รับมอบบ่วงนาคบาศจากท่าน ดร.นนต์ 1 วง)
15. คุณมิกกี้ 5,000- (รับมอบบ่วงนาคบาศจากท่าน ดร.นนต์ 1 วง)
15. คุณอภิชน ประมุข 3,000-* (รับมอบพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ท่านสมาชิกธรรม 1 องค์)
16. คุณธฏฬษ วงษ์เหรียญ 6,000-* (รับมอบพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ท่านสมาชิกธรรม 2 องค์)
17. คุณเอกวิรัชต์ ลิ่มจิรวงศ์ 6,000-* (รับมอบพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ท่านสมาชิกธรรม 2 องค์)
18. คุณไพบูลย์ จงจิรวิศาล 3,000-* (รับมอบพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ท่านสมาชิกธรรม 1 องค์)
19. คุณไพบูลย์ จงจิรวิศาล 1,000-* (25 มิ.ย. รับมอบพระพิมพ์ฝีพระหัตถ์(2411)ท่านพิธิชัย 1 องค์)
20. คุณกิตติศักดิ์ ปัญญาธนโชติพงศ์ และครอบครัว 200-
21. คุณกิตติ โค้วสมบูรณ์ 200-
22. คุณนพพร 10,000- (25 มิ.ย/รับมอบพระพุทธปฐวีธาตุจากท่านจีรังจิต(คุณเผอิญ))
23. คุณสมศักดิ์ ประดับทอง 3,000- (26 มิ.ย/รับมอบพระพุทธปฐวีธาตุจาก IT Man 1 องค์)
24. คุณณัฐพัชร์ จิตต์วีระโชติ 18,xxx- (24 มิ.ย.55)
25. คุณณัฐพัชร์ จิตต์วีระโชติพร้อมครอบครัว 70,000- (26 มิ.ย.55)
26. คุณมยุรี บ่อทรัพย์ 3,000-(26 มิ.ย.55)

รวม 3xx,xxx-*
* = ประมาณการ
................................................................
กรุณาโอนปัจจัยร่วมทำบุญมาที่:
ชื่อบัญชี : นางบุญชม ยางธิสาร
เลขที่บัญชี: 4160396194
ธนาคาร : กรุงไทย สาขากุฉินารายณ์
ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์
................................................................

พระพุทธปฐวีธาตุ องค์พระอริยสัจจธรรม มอบแด่...
ท่านที่ร่วมทำบุญมามากที่สุดลำดับที่ ๑
................................................................

พระพุทธปฐวีธาตุ องค์พระโลกุตตรธรรม 9 มอบแด่...
ท่านที่ร่วมทำบุญมามากที่สุดลำดับที่ ๒
................................................................

พระพุทธปฐวีธาตุ รอยพระพุทธบาท มอบแด่...
ท่านที่ร่วมทำบุญมามากที่สุดลำดับที่ ๓
................................................................
ขอมอบ...
1. พระพุทธปฐวีธาตุวาระอื่นๆ (ทำบุญเริ่มต้น 3,000-)
2. พระพิมพ์สายวังฝีพระหัตถ์วังหน้ายุค ร.4 (ทำบุญ 3,100-)
3. พระพิมพ์สายวัง (ทำบุญเริ่มต้น 1,000-)
4. บ่วงนาคบาศ (ทำบุญเริ่มต้น 5,000-)
แด่ท่านที่ประสงค์จักรับไว้เป็นพุทธานุสติและเจริญภาวนาในลำดับถัดไปครับ
................................................................
ขอโมทนาสาธุในบุญกับทุกท่านทุกประการ
ธรรมรักษ์ผู้รักษ์ธรรม
IT Man/27.06.55
................................................................

 

อนุโมทนาบุญ กับคุณนพพร ที่ได้ถวายปัจจัยร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรม และยินดีกับบุญวาสนาของท่านที่ได้รับพระพุทธปฐวีธาตุ องค์ที่มีความงดงามยิ่ง
และขออนุโมทนาและขอแสดงมุทิตาจิตต่อคุณเผอิญ(จีรังจิต) ในความเจริญในธรรม และจิตอันเป็นบุญกุศลได้สละสิ่งมีค่าอันหวงแหนส่วนตัว ยังประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่
ด้วยจิตอันเป็นกุศลและการประกอบบุญของท่านทั้งสองนี้ ขออานิสงค์นั้นส่งผลให้ได้รับความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ทั้งครอบครัวประสบแต่ความสุข เจริญรุ่งเรืองสว่างไสวในทางธรรม สืบไปจนถึงที่สุดด้วยเทอญ..

 

แผนที่การเดินทางมาปฏิบัติธรรมภูดานไห ​

เนื่องจากวันนี้เวลา 12.50 น. ผมกำลังเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปต่อไฟฟ้าเข้ากุฏิคุณแม่ชม ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณแม่ชมให้เอาแผนที และเส้นทางการเดินทางฟังธรรมและปฏิบัติธรรมกับพ่อแม่ครูอาจารย์ ณ พุทธสถานภูดานไห จึงขออนุญาตนำแผนที่การเดินทางมาโพสต์อีกรอบครับ....

แผนที่เส้นทางตาม Map Of Google​

แผนที่เส้นทางจากบ้านกุดหว้าไปยัง พุทธสถานภูดานไห.....(เดินทางตามเส้นประสีส้ม)​

ดาวน์โหลดเส้นทางการเดินทางมายังพุทธสถานภูดานไห เอกสาร Word ได้ที่นี่ครับ...
ดาวน์โหลดเส้นทางการเดินทางมายังพุทธสถานภูดานไห เอกสาร PDF ได้ที่นี่ครับ...
สอบถามเส้นทางการเดินทาง
ครูชาติ 089-5694002 หรือ 086-4563108
คุณแม่ชม 080-1765282
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพและโชคดีในการเดินทาง...
สอบถามเส้นทางการเดินทางมายังวัด

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นนต์

ขอเชิญบูชาบ่วงนาคบาศเพื่อสร้างพุทธสถานภูดานไห​

ขอเชิญบูชาบ่วงนาคบาศและแหวนนาคบาศเพื่อร่วมสร้างพุทธสถานภูดานไห กับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ตามลิงค์ http://doctornond.blogspot.com/2012/06/001.html

ข้อความเดิม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐนนต์ สิปปภากุล

[FONT=Verdana, sans-serif]ขอเชิญบูชา บ่วงนาคบาศและแหวนนาคบาศเนื้อทองเหลือง อายุมากกว่าร้อยปี จำนวนจำกัดอย่างละ 3 วง (รวม 6 วง) เพื่อร่วมทำบุญสร้างพุทธสถานภูดานไห กับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ต.กุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ราคาบุญวงละ 5,000 บาท โดยจะนำถวายแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ทั้งหมด[/FONT]


ติดต่อ ดร.นนต์ 0857678008
dr.natdhnond@gmail.com
dr.natdhnond@hotmail.com ​

[FONT=Verdana, sans-serif]หมายเหตุ มีแหวนนาคบาศเนื้อทองเหลืองอีกหนึ่งรุ่นคล้ายกันมาก แต่พลังน้อยกว่ารุ่นแรกนี้ครับ[/FONT]

ข้อความเดิม
[FONT=Verdana, sans-serif]บ่วงนาคบาศแสดงฤทธิ์[/FONT]​

[FONT=Verdana, sans-serif]บ่วงนาคบาศ ก็นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งสำหรับผู้คนเชื้อสายพญานาคที่กำลังค้นหากัน เมื่อก่อนไม่มีใครรู้จัก แต่ประมาณสองสามปีที่แล้ว บังเอิญผมได้ไปพบเห็นบ่วงนาคบาศเสด็จมาทางอากาศที่อำเภอบรบือ จึงทราบเรื่องราวว่า เป็นสิ่งมงคลและมีความเชื่อเกี่ยวกับการป้องกันภัยพิบัติทั้งหลายที่กำลังจะเกิดขึ้น และที่เป็นไฮไลท์ก็คือ ผู้ใดมีบ่วงนาคบาศแล้ว จะมีกินมีใช้ไม่รู้จักหมด ส่วนรวยแค่ไหนผมไม่ทราบ ผมทราบแต่ว่า ขณะนั้น เจ้าของบ่วงนาคบาศสัมฤทธิ์ให้คนบูชาหลักแสน ขณะนั้นแพงมากสำหรับผม ก็เลยวางเฉย จนเมื่อปีที่แล้ว มีเหตุให้ต้องพบกับบ่วงนาคบาศหลายแบบอย่างบังเอิญ จึงได้นำออกมาเผยแพร่ จนมีผู้ติดต่อและติดตามมาขอแบ่งที่ผมจำนวนมาก รวมทั้งผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง(คุณหมอ)จากโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าก็ได้ขออัญเชิญจากผมไปหลายชิ้น และล่าสุด คุณอลิศาจากจังหวัดฉะเชิงเทรา ก็ได้ขอแบ่งจากผมไป 1 อัน เป็นบ่วงนาคบาศเนื้อทองเหลืองโบราณอายุมากกว่าร้อยปี ซึ่งท่าน ดร.ณัฐชัย บอกว่า หลวงปู่โตอธิษฐานจิต ก็แปลกดี (ผมไม่ขอรับรอง) แต่ที่รู้ๆคือ เมื่อคุณอลิศาได้รับเมื่อวาน ถึงกับทำให้เธอปีติมือไม้สั่น มีพลังมหาศาลวิ่งไปทั่วร่างของเธอ เธอได้โทรศัพท์มาขอบคุณผมพร้อมทั้งระล่ำระลักออกมาด้วยความปีติ ความจริงเกินกว่านั้นมันเกินวิสัยของผมครับ[/FONT]

[FONT=Verdana, sans-serif]ปล. ผมรู้แล้วว่า ผมจะมอบบ่วงนาคบาศเนื้อทองเหลืองโบราณแก่ท่าน "ฉันทะธรรม" ตามที่ผมตั้งใจว่า จะมอบสิ่งมงคลแก่ท่านเพื่อเป็นการตอบแทน เนื่องจากท่านเป็นผู้สนับสนุนการสร้างวัดภูดานไหรายหลักนับแสนบาทในคราวสร้างถนนและไฟฟ้า และอีกหลายแสนบาทก่อนหน้านั้น[/FONT]

[FONT=Verdana, sans-serif]ขอเจริญในธรรม[/FONT]
[FONT=Verdana, sans-serif]ดร.นนต์[/FONT]
[FONT=Verdana, sans-serif]20 เมษายน 2555[/FONT]

[FONT=Verdana, sans-serif]ข้อความของคุณ "ฉันทะธรรม" จากเว็บพลังจิต http://palungjit.org/threads/หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร-ฝัน.231506/page-429เขียนว่า[/FONT]

[FONT=Verdana, sans-serif]ต๊กกะใจ อ่านบรรทัดแรกแล้วเกิดกิเลสว่า อยากจะได้ใว้ครอบครองเพราะว่าผมเห็นท่านบ่วงฯมาหลายครั้งที่เป็นรูปภาพ แต่ของจริงนั้นยังไม่ได้ชม แต่พออ่านมาถึงย่อหน้าที่สองก็เลย โอ้โหไม่น่าเชื่อเลยว่าท่าน ดร.จะมอบให้จริงๆ คงจะถึงวาระแล้วกระมัง[/FONT]


[FONT=Verdana, sans-serif]โมทนาบุญกับท่าน ดร. ด้วยครับ สาธุ สาธุ[/FONT]​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขออนุโมทนาผู้บูชาบ่วงนาคบาศ
27 มิถุนายน 2555​

เรียนทุกท่าน ขณะนี้มีผู้ร่วมทำบุญบูชาบ่วงนาคบาศและแหวนนาคบาศ ซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัวของ ดร.นนต์ โดยมีผู้บูชาครบจำนวนทั้งหมด 6 วงเรียบร้อยแล้ว ดังรายนามของผู้ร่วมทำบุญดังนี้
1. ด.ต.อนาวิล บุญเทาว์ 1 วง
2. คุณธฏฬษ วงศ์เหรียญ 2 วง
3. คุณพจน์ ครองสิริวัฒน์ 1 วง
4. คุณเฉลิมชัย นุโนชา 1 วง
5. คุณมิกกี้ 1 วง

พร้อมกันนี้ ผมได้โอนเงินน้อมถวายพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เข้าบัญชีคุณแม่บุญชม ยางธิสาร เลขที่บัญชี 4160396194 ธนาคารกรุงไทย สาขากุฉินารายณ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (โอนสองครั้งเนื่องจากบัตร ATM สามารถโอนได้ครั้งละไม่เกินสองหมื่นบาท) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2555 เวลา 07.37 น. จำนวน 30,000 บาท


จึงขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง
ขอผลานิสงส์ทั้งหลายที่ทุกท่านได้กระทำแล้วในครั้งนี้ ได้โปรดส่งผลไปสู่ตัวท่านและครอบครัว จงประสบแต่ความสุขความเจริญ สงบร่มเย็น มั่งมีศรีสุข แลสว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมจนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรมทุกท่านเทอญ


จึงแจ้งมาให้ทราบโดยทั่วกัน
ดร.นนต์
27 มิถุนายน 2555

​

 

สวัสดีครับคุณ IT Man<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ผมได้ไปกราบบูชาพ่อแม่ครูอาจารย์ มาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากเหตุเหมือนบังเอิญหรือถึงเวลา ที่จะได้พบครูที่เอื้ออาทรก็เป็นได้ เรื่องของเรื่องก็คืออยู่ๆ ผมก็พิมพ์คำว่า
‘บารมีสมเด็จโต’<o></o>
กูเกิลก็พามาพบเว็บบร็อก ของคุณนนท์ แล้วก็ได้มาพบเรื่องราว ของพ่อแม่ครูอาจารย์
ต้องขอบคุณนนท์เป็นอย่างสูงมาในที่นี้ด้วย ที่เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้
วันนั้นวันศุกร์ 22 มิถุนายน อยู่ไม่ได้แล้ว ต้องไปหาท่านแล้ว กาฬสินธ์ อยู่ที่ใหน ไม่เคยไป ชวนแฟนและเพื่อน หนึ่งคนไปด้วย<o></o>
ได้ความอนุเคราะห็เป็นอย่างดีจากคุณครูชาติ ในการบอกเส้นทาง <o></o>
ไปถึงวัดภูดานไห ประมาณสามโมงครึ่ง ได้รับการต้อนรับอย่างดี จากครูชาติ และแม่ชม<o></o>
กราบขอบคุณเป็นอย่างสูงมานะที่นี้ด้วย
และสิ่งสำคัญก็คือได้รับความเมตตาและเอื้ออาทรอย่างสูง<o></o>
จากพ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านให้ธรรมอันลึกซึ้ง ตามจริตของแต่ละคนอย่างยอดเยี่ยม<o></o>
หาประมาณไม่ได้ ตั้งแต่เย็นจนถึงห้าทุ่มครึ่ง แถมรอบเช้าอีก และเป็นบุญอย่างมากที่<o></o>
ได้เดินตามพ่อแม่ครูอาจารย์ไปบิณฑบาตร โดยมีครูชาตินำหน้า ไมทราบว่าความปิติ<o></o>
มันมาจากไหน อยากจะร้องไห้ท่าเดียว ขนนี้ลุกซู่ตลอด อัศจรรย์จริงๆ<o></o>
วันอาทิตย์ต้องรีบกลับกรุงเทพมารับลูกสาวที่กลับจากเข้าค่าย
เลยลาหลวงพ่อกลับหลังจากท่านบิณฑบาตรเสร็จแล้ว
<o></o>
ผมได้ร่วมทำบุญสร้างศาล ร่วมสร้างหลังคาศาลาปฏิบัติธรรมหลวงปู่ศรีสุทโธ<o></o>
กับแม่ชม ไปประมาณ 18,xxx บาท<o></o>
และเมื่อวานนี้ได้โอนเงินไปให้แม่ชมอีก 73,000 บาท เพื่อร่วมสร้างหลังคาปฎิบัติธรรมอีก<o></o>
70,000 เป็นของครอบครัวผม แต่อีก 3,000 บาทเป็นของเพื่อนที่ฝากมา เธอชื่อ มยุรี บ่อทรัพย์<o></o>
ขอโทษลื่มบอกชื่อตัวเองไป ผมชื่อ ณัฐพัชร์ จิตต์วีระโชติ
ขอฝากเนื้อฝากตัวกับศิษย์พี่ทั้งหลายด้วย <o></o>

 

ลืมแนบใบโอนเงินมาให้