พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

935. พระปิดตา มหาลาภ (จัมโบ้) ปี35 ผงใบลาน แช่น้ำมนต์ สมเด็จญาณฯ อธิฐานจิตปลุกเสก ออกวัดบวรฯ หลังลายเซ็น " ญสส" รุ่นแรก เลี่ยมเงินกันน้ำพร้อมบูชา
ให้บูชา 899 บาท

​

ประสบการณ์เล่าขาน ของผู้ที่นำไปบูชา คุณวิเศษทางด้านเมตตา โชคลาภ โดยเฉพาะทางด้านการเงิน ช่วยให้หลายๆคน ปลดหนี้ได้สำเร็จ จึงขนานนามรุ่นนี้ว่า.. "พิมพ์ปลดหนี้"

 

​

 

936. พอเจอน้อย หายากมากครับ เหรียญเม็ดกระดุมหลวงปู่เอี่ยม วัดโคนอน 2514 ให้บูชา 1550 บาท

​

สุดยอดพระเกจิอาจารย์ดังแห่งบางขุนเทียน ที่เหรียญพระเครื่องติดอยู่ในทำเนียบ “เบญจภาคี” เหรียญ คือ หลวงปู่เอี่ยม สุวัณณสโร แห่งวัดหนัง บางขุนเทียน กับวัดโคนอน เขตภาษี เจริญ หลวงปู่เอี่ยม มีสายสัมพันธ์อันแน่นซึ้ง เนื่องเพราะเป็นวัดที่ท่านได้ติดตามพระกรรมวาจาจารย์ของท่าน คือ หลวงปู่รอด วัดนางนอง ไปจำพรรษาจนได้เป็นเจ้าอาวาสวัดโคนอน ก่อนย้ายมาครองวัดหนังเมื่อปี พ.ศ.2441 จึงกล่าวได้ว่าเป็นวัดที่มีความผูกพันกับหลวงปู่เอี่ยมเป็นอย่างมาก
วัดโคนอนเป็นวัดเก่าที่หลวงปู่เอี่ยมอยู่ก่อนที่จะย้ายไปอยู่วัดหนัง เหรียญหลวงปู่เอี่ยมสร้างสองปีติดต่อกันเมื่อสร้างโบสถ์เสร็จคือ ปี 2514 สร้างในงานยกช่อพ้าพระอุโบสถ์ และปี 2515 สร้างในงานฝังลูกนิมิตฉลองโบสถ์ การสร้างเหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงปู่เอี่ยม ปี 2514-2515 มีชนวนแผ่นทองจารอักขระของพระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้น
เช่น
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว
หลวงพ่อมิ่ง วัดกก
หลวงพ่อกรับ วัดโกรกกราก
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อเต๋ คงทอง
หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
หลวงพ่อโด่ วัดนาตูม
หลวงพ่อพัฒน์ วัดบ้านบึง
หลวงพ่อหอม วัดชานหมาก
หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร
ในพิธีพุทธาภิเษกและชัยมงคลภิเษก มีหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นประธานร่วมกับพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณอีก 55 รูป อาทิ หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา สมุทรสาคร หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว กรุงเทพฯ หลวงพ่อมิ่ง วัดกก กรุงเทพฯ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม ชลบุรี หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธินิมิตร กรุงเทพฯ
หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี หลวงพ่อแจ๋ วัดคลอง 20 ฉะเชิงเทรา หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี หลวงพ่อเปรื่อง วัดบางคลาน พิจิตร หลวงพ่อผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิฯ กรุงเทพฯ หลวงพ่อหอม วัดชานหมาก ระยอง พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปัตตานี หลวงพ่อมุม วัดนาสัก ชุมพร หลวงพ่อมุม วัดปราสาท ศรีสะเกษ พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พัทลุง พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช หลวงพ่อเพิ่ม วัดจักรวรรดิฯ กรุงเทพฯ หลวงพ่อช้วน วัดหนัง กรุงเทพฯ หลวงพ่อเล็ก วัดหนองดินแดง นครปฐม ฯลฯ

 

937.เกจิอาจารย์ดังแห่งลุ่มแม่น้ำท่าจีน พระเนื้อดิน หลวงพ่อเฮง วัดบ้านขอม สมุทรสาคร ปี249X....2500 ให้บูชา 1550 บาท

​

​

วัดโสภณาราม(บ้านขอม)..ประวัติหลวงพ่อเฮงวัดบ้านขอม ....หลวงพ่อเฮง” พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งวัดบ้านขอม หรือวัดโสภณาราม ท่านเป็นพระที่ชาวบ้านทั้งย่านตำบลโคกขามและชาวมหาชัยต่างก็ให้ความเคารพศรัทธากันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาผู้ที่ประกอบกิจการประมง เกี่ยวกับเรือหาปลา เวลาจะออกเรือหรือเจิมเรือก่อนลงน้ำเป็นต้องมาบอกกล่าวหลวงพ่อเฮง เพื่อความเป็นสิริมงคล มีเถ้าแก่เรือปลาเป็นจำนวนมากร่ำรวยเพราะหลวงพ่อเฮงมาแล้ว หลวงพ่อเฮงท่านเป็นพระอาจารย์ ผู้ขมังเวทย์อีกรูปหนึ่งของจังหวัดสมุทรสาครเลยทีเดียว หลวงพ่อเฮง ฉายา อินทโชโต ท่านเป็นชาวกัมพูชาบวชเป็นพระธุดงค์รอนแรม จากกัมพูชาเข้ามาประเทศไทย ร่ำเรียนวิชาอาคมจ แก่กล้า ฝ่าอุปสรรคภยันตรายนานาประการ จนกระทั่งมาปักกลดธุดงค์รุกขมูลที่วัดบ้านขอม หรือ วัดโสภณาราม ตั้งอยู่ในเขตตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ขณะนั้นที่วัดมีหลวงตาแฉ่งรักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดบ้านขอม ตอนนั้นทรุดโทรม มีพระจำพรรษาไม่กี่รูป และเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสงครามโลกครั้งที่ 2 พอดี วัดบ้านขอม หรือวัดโสภณาราม สันนิษฐานว่าตั้งขึ้นมาประมาณเกือบ 200 ปีแล้ว เล่ากันว่าพระอธิการสะ เป็น เจ้าอาวาสรูปแรกและเป็นผู้ก่อตั้งวัด ประวัติความเป็นมาแรกเริ่มเป็นวัดไม่มีใครทราบแน่ชัด หลังจากสิ้นพระอธิการสะลงไปพระอธิการอ่อนก็เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน พอหมดยุคพระอธิการอ่อนวัดก็ว่างเจ้าอาวาส ทางการคณะสงฆ์ จึงแต่งตั้งพระสงฆ์ขึ้นมารักษาการณ์สมภารเจ้าวัดอีกหลายรูปด้วยกัน เท่าที่ทราบก็มีหลวงตาเจิม หลวงตาสา แล้วก็มาถึงยุคของหลวงตาแฉ่งขึ้นรักษาการณ์ ในวันที่หลวงพ่อเฮงมาที่วัดบ้านขอมนั้น เล่ากันว่าสภาพวัดทรุดโทรมเต็มที่ วัดมีพระอยู่ 2 รูปคือหลวงตาแฉ่ง กับหลวงตาจ๋อง สำหรับหลวงพ่อเฮงเท่าที่ทราบท่านเป็นชาวจังหวัดพระตระบอง ประเทศกัมพูชาหรือเขมร ท่านบวชเณรตั้งแต่ยังเด็กๆ ศึกษาเล่าเรียนอักขระเลขยันต์ และวิชาอาคมต่างๆ จนกระทั่งอุปสมบทเป็นพระภิกษุมี วิชาอาคมแก่กล้า จากนั้นท่านก็ออกธุดงค์จากประเทศเขมรเข้ามายังประเทศไทย การธุดงค์ของท่านเป็นการธุดงค์แบบรุกขมูลคือ จะต้องพักปักกลดอยู่ที่โคนไม้เท่านั้น ท่านรอนแรมบุกป่าฝ่าเขา ฝ่าอันตรายทั่วทิศา จนกระทั่งมาถึงที่วัดบ้านขอม การที่ท่านมุ่งตรงมาที่วัดบ้านขอม เล่ากันว่าท่านอาจจะมาหาพรรคพวกที่เป็นชาวเขมรด้วยกันเอง เพราะเห็นว่าชื่อวัดเรียกขานว่าวัดบ้านขอม ท่านคงเข้าใจว่าหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านชาวขอมหรือเขมรอาศัยอยู่ ด้วยตัวท่านเองก็เป็นเขมรเช่นกัน แต่จริงๆ แล้วบรรดาชาวขอมหรือเขมร เคยมาอยู่ที่หมู่บ้านและวัดโสภณารามจริง ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านเล่าว่า ในสมัยโบราณพวกขอมมาขุดคลองไว้ที่หน้าวัด จึงเรียกว่า “คลองบ้านขอม” หรือ “คลองขอม” และพวกขอมก็เข้ามาอยู่อาศัยจึงเรียกว่าบ้านขอม แต่วันที่หลวงพ่อเฮงเดินทางมา ถึงวัดบ้านขอม ขณะนั้นไม่มีชาวขอมหรือเขมร หลงเหลืออยู่แล้ว วันแรกที่หลวงพ่อเฮงมาถึงวัดบ้านขอมท่านพูดภาษาไทยไม่ได้ ท่านเข้ามาถามเด็กด้วยภาษาเขมร เด็กวัดก็ฟังไม่รู้เรื่องสอบถามใครๆ ก็ฟังไม่รู้เรื่อง ชาวบ้านเมื่อทราบว่ามีพระธุดงค์ชาวเขมรมาปักกลดอยู่บริเวณวัดพูดภาษาไทยไม่ได้ก็ ไปตามตาพุ่ม ซึ่งมีเชื้อสายชาวเขมรพอพูดภาษาเขมรได้มาเจรจากับหลวงพ่อเฮง ตอนนั้นท่านอายุราว 30 ปี ท่านบอกว่าจะขอพักที่วัดและจำพรรษาอยู่ด้วย ทางหลวงตาแฉ่งเองก็ไม่ขัดข้องจะได้มีเพื่อนจำพรรษาด้วย ที่วัดบ้านขอมสมัยนั้น พระที่ไหนจะไปจะมาพักไม่ขัดข้องไม่เข้มงวดกวดขันแต่อย่างใด ชาวบ้านเองก็ยินดีต้อนรับและให้ความเคารพพระอาคันตุกะทุกรูป หลวงพ่อเฮงอยู่จำพรรษาแรก ที่วัดบ้านขอม ท่านหัดพูดภาษาไทยกับเด็กวัดบ้างกับหลวงพ่อแฉ่งและหลวงตาจ๋องบ้าง จนสามารถพูดภาษาไทยได้ดีในเวลาอันรวดเร็ว หลังออกพรรษาท่านก็หายไปจากวัด 1 พรรษา แล้วก็กลับมาอีกครั้งหนึ่งคราวนี้เป็นการกลับมาอยู่อย่างถาวรจวบจนกระทั่งมรณภาพเลย หลวงพ่อเฮง เป็นพระนักปฏิบัติ ท่านเคร่งครัดในพระวินัยมาก ฉันอาหารมื้อเดียว ท่านเคยเล่าให้กับพระเณรฟังว่า ท่านบวชมาตั้งแต่เป็นสามเณรที่พระตระบองเรียนวิชาคาถาอาคมต่างๆ มากมาย นอกจากนั้นยังเรียนบาลีสันสกฤตอีก เวลาเรียนตอนกลางคืนไม่มีไฟฟ้าต้องใช้ธูปดอกใหญ่ๆ จุดพอมีแสงสว่างให้ท่องอ่านตำรับตำราได้ นับว่าท่านเป็นภิกษุผู้มีความเพียรเป็นเลิศ นอกจากนี้ท่านยังมีความอดทนชอบแสวงหาความสงบ โดยการออกธุดงค์แบบรุกขมูลไปตามท้องถิ่นต่างๆ ร่ำเรียนวิชาไปเรื่อยๆ เจอพระอาจารย์รูปไหนกลางป่าเขาก็ถ่ายทอดวิชาซึ่งกันและกัน จนกระทั่งท่านเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้าหลวงพ่อเฮง ท่านพูดภาษาฝรั่งเศสเก่งมากเนื่องจากประเทศกัมพูชา สมัยนั้นยังตกเป็นเมืองขึ้นแก่ฝรั่งเศส ประชาชนต้องพูดภาษาฝรั่งเศสตามผู้ปกครองไปด้วย ความเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่าน จำพรรษาที่วัดบ้านขอมมาหลายปี ชาวบ้านก็ให้ ความเคารพศรัทธากันมาก พอหลวงตาแฉ่ง มรณภาพลง ผู้ใกล้ชิดท่านก็พาไปพบกับหลวงพ่อเชย หรือพระครูมหาชัยบริรักษ์ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลในสมัยนั้น หลวงพ่อเชยก็พาท่านไปฝากตัวกับหลวงพ่อชด วัดคอกกระบือ พระอาจารย์ทั้งสองรูปมีความเห็นต้องกันคือให้หลวงพ่อเฮงขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านขอมสืบแทนหลวงพ่อแฉ่ง ท่ามกลางความยินดีปรีดาจากชาวบ้านที่ให้ความเคารพนับถือ ท่านเป็นอย่างมาก แต่แล้วก็มีเรื่องขึ้นมาจนได้ เมื่อมีเสียงร้องเรียนไปยังท่านเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวหาว่าหลวงพ่อเฮงเป็นเพียงแค่พระปฏิบัติถือศีลบำเพ็ญเพียรเพียงอย่างเดียว ไม่มีความรู้ความสามารถอะไร ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าอาวาสที่จะปกครองวัดได้ อีกทั้งเป็นพระที่ไม่พัฒนาอีกด้วย ซึ่งทางท่านเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครก็เรียกหลวงพ่อเฮงไปทดสอบความรู้ ขอให้ท่านสอบนักธรรมให้ได้ ซึ่งหลวงพ่อท่านก็รับปฏิบัติ แถมยังข้ามขั้นจากนักธรรมตรีไปถึงนักธรรมโทเลยทีเดียว ปรากฏว่าท่านเจ้าคณะจังหวัดต้องให้ท่านสอบผ่าน แต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส วัดบ้านขอมอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา กาลต่อมาหลวงพ่อเฮงท่านก็ได้รับ แต่งตั้งให้เป็นประธานคุมสอบนักธรรมจังหวัดสมุทรสาครอีกด้วย หลวงพ่อเฮงท่านเป็นพระที่แปลกมาก คือท่านจะห่มจีวรอยู่เสมอ ไม่ว่าอากาศจะหนาว จะร้อนอบอ้าวสักเพียงใดก็ตาม ท่านก็จะห่มจีวรอยู่ตลอดเวลาไม่มีใครเคยเห็นท่านคลายจีวรหรือ เปลี่ยนจีวรมาเป็นลดไหล่เลย แม้แต่ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดก็ไม่เคยเห็นร่างกายของท่าน และยิ่งไปกว่านั้น ท่านไม่เคยสรงน้ำ แต่ร่างกายก็ไม่มีกลิ่นเหม็นคราบเหงื่อไคลแต่ประการใดจากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ เวลาเอาจีวรแช่น้ำในถังน้ำถึงกับเน่าเหม็นเลยทีเดียว แต่เนื้อตัวท่านกลับไม่มีกลิ่นเหม็น ใครเข้าใกล้ชิดจะได้กลิ่นร่างกายท่านหอมเหมือนดอกพิกุล เป็นเรื่องที่ชวนสงสัยมากว่าท่านไม่เคยสรงน้ำเลยยังอยู่สุขสบายดี สมัยที่หลวงพ่อเฮงเป็นสมภารปกครองวัดบ้านขอม ชาวบ้านย่านบ้านขอม ย่านโคกขาม ย่านบ้านฝาง บ้านโคก และย่านมหาชัยต่างก็ให้ ความเคารพเวียนไปกราบท่านมิได้ขาดบรรดา เถ้าแก่เรือประมง พอต่อเรือเสร็จก่อนนำเรือลงน้ำ หาปลา จะต้องเอาเรือไปให้หลวงพ่อเฮงเจิมทุก ครั้งไป พุทธคุณจากคาถาที่หลวงพ่อบริกรรมภาวนานั้นศักดิ์สิทธิ์นัก เรือลำนั้นจะโชคดีทำมาค้าขึ้นใครต่อเรือเสร็จจึงมักไปให้หลวงพ่อเฮงเจิมก่อน และเวลาออกเรือหาปลาก่อนออกปากอ่าวมหาชัย เรือผ่านวัดโกรกกรากลูกเรือจะต้องจุดธูป บอกกล่าว พร้อมทั้งจุดประทัดขอความเป็นสิริมงคลจงบังเกิด และให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงในท้องทะเลกับหลวงพ่อปู่ วัดโกรกกรากทุกลำ นี่ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่ชาวประมงมหาชัยให้ความเคารพนับถือกันมากเพราะมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กัน ในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อเฮงทำเสื้อยันต์และผ้ายันต์ออกมาแจกจ่ายทหารหาญ ตลอดจนชาวบ้านประชาชนทั่วไป เมื่อครั้งสงครามอินโดจีนมีชาวบ้านบ้านขอมไปเป็นทหารจำนวนมาก หลวงพ่อท่านเป็นห่วงก็เลยทำเสื้อยันต์และผ้ายันต์แจก การทำเสื้อยันต์ของท่านจะพิถีพิถันมากปลุกเสกเดี่ยวอยู่นานจนมั่นใจ จึงนำออกแจกจ่าย ซึ่งประสบการณ์ในเวลาต่อ มาเล่ากันว่า เสื้อยันต์และผ้ายันต์ของหลวงพ่อเฮงวิเศษยิ่งนัก อยู่ยงคงกระพันเป็นเลิศชาวมหาชัย และชาวบ้านบ้านขอมที่ไปเป็นทหารออกรบไม่มี ใครเป็นอะไรเลย เป็นที่เล่าลือโจษขานกันมาก หลังจากทำเสื้อยันต์ ผ้ายันต์ครั้งแรกไปแล้ว หลวงพ่อเฮงก็ไม่ยอมทำวัตถุมงคลอะไรอีกเลย ทิ้งช่วงประมาณ 10 ปีเห็นจะได้ท่านก็ทำวัตถุมงคลครั้งที่สองออกมาอีก เป็นเหรียญสี่เหลี่ยมเนื้อทองแดงผสม ด้านหน้าเป็นรูปพระประธานมีรัศมีรูปไข่ครอบ ประทับบนกลีบบัวสองชั้น เหรียญยกขอบนูน จารอักขระขอมทั่ว ด้านหลัง เป็นยันต์ และเหรียญพิมพ์น้ำเต้าเนื้อทองแดง ด้านหน้าเป็นรูปพระประธาน ด้านหลังเป็นยันต์ เป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกของหลวงพ่อเฮง นอกจานนี้ ก็มีพระเมฆพัด และผ้ายันต์ ทั้งหมดสร้างในปี 2497 ในการจัดทำวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อเฮงทำเองทั้งหมด ไม่มีใครทราบว่าหลวงพ่อไปให้ใครทำ และตอนทำท่านก็ไม่บอกใครด้วย พุทธคุณวัตถุมงคลของท่านจะแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพันเป็นเลิศ ต่อมาปี 2498 ท่านก็ทำวัตถุมงคลออก มาเป็นรุ่นที่สองมีตะกรุดทองแดง เหรียญสมเด็จ เนื้อทองเหลือง และผ้ายันต์ ปี พ.ศ.2499 หลวงพ่อทำวัตถุมงคลรุ่นสาม โดยทำตะกรุดทองแดงหนา ทำพระสมเด็จเนื้อผงถือว่าเป็นรุ่นแรกของพระเนื้อผง และ ผ้ายันต์ นับจากนั้นท่านก็ไม่ได้ทำวัตถุมงคลอีกเลย จวบจนกระทั่งมรณภาพเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2508 ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของชาวบ้านขอม และชาวมหาชัยเป็นอย่างมาก เล่ากันว่างานพระราชทานเพลิงศพของท่านนั้น มีผู้คนแห่แหนกันไปร่วมงานจนแน่นวัด ขณะที่สัปเหร่อเปิดดูศพหลวงพ่อครั้งสุดท้าย บรรดาลูกศิษย์ลูกหาต่างก็ยื้อแย่งเอาผ้าจีวรที่ห่มร่างอสุภท่าน เพื่อนำไปเก็บไว้บูชา เล่นเอาโกลาหลเป็นที่สุด แม้แต่ตายไปแล้วร่างของท่านก็แทบไม่เหลืออะไรเลย ก่อนจะถูกไฟเผาผลาญมอดไหม้ไป หลวงพ่อเฮงจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ เหลือไว้แต่เพียงชื่อให้สาธุชนรุ่นหลังได้รับทราบถึงคุณงามความดี เมื่อครั้งที่ท่านมีชีวิตอยู่ ต่อมาทางวัดได้หล่อรูปของท่านไว้ให้สักการะ กราบไหว้กัน ในแต่ละวันจะมีผู้คนเดินทางไป กราบไหว้ขอพรกันมิได้ขาด หลังสิ้นบุญหลวงพ่อเฮงไปแล้ว ทางวัดก็ ได้พระอาจารย์สง่า จากวัดราษฎร์รังสรรค์ (วัดคอกควาย) มาเป็นเจ้าอาวาสแทนเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2509 และได้รับแต่งตั้งเป็น “พระครูสมุทรธรรมโสภณ” ในเวลาต่อมา พระครูสาครธรรมโสภณ มาอยู่วัดบ้านขอม ก็พัฒนาวัดจนรุ่งเรือง จัดหมู่กุฏิสงฆ์ให้เป็นระเบียบ สร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้นมาแทนหลังเก่า จัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตในปี พ.ศ. 2536 การเฉลิมฉลองปิดทองฝังลูกนิมิตของ แต่ละวัดมักจะสร้างวัตถุมงคลออกมาเป็นที่ระลึก สำหรับผู้ที่ไปร่วมงานทางวัดบ้านขอมก็เช่นกัน ท่านพระครูสาครธรรมโสภณท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบมี พระสมเด็จเนื้อผง, พระเหรียญสี่เหลี่ยมเนื้อทองแดง ด้านหน้าย้อนยุค เหมือนเหรียญรุ่นแรก แต่ด้านหลังใต้ยันต์ระบุชื่อวัด, เหรียญพิมพ์น้ำเต้าด้านหน้ารูปพระประธาน ใต้องค์พระระบุชื่อวัดโสภณาราม (บ้านขอม) ด้านหลังเป็นยันต์ นอกจากนี้ก็มีผ้ายันต์ รูปถ่ายหลวงพ่อเฮงกับเหรียญใบสาเกเนื้อทองแดง ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อเฮงนั่งสมาธิ บนฐานด้านล่างมี อักษรเขียนว่าหลวงพ่อเฮง รอบเหรียญเป็นลายกนก คมชัดสวยงาม ด้านหลังเหรียญเป็นลายกนก คมชัดสวยงาม ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์มีข้อ ความด้านล่าง 3 แถว เขียนว่า “งานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิต วัดโสภณาราม (บ้านขอม) จังหวัดสมุทรสาคร วันที่ 21-29 มกราคม 2536 สำหรับเหรียญใบสาเกนี้ ทางวัดแจกฟรีให้กับผู้ไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนทองปิดทองลูกนิมิต พอเริ่มงานวันแรกมีทหารเรือเกณฑ์เป็นลูกบ้านละแวกวัดนั่นแหละ ได้เหรียญหลวงพ่อเฮงมาเกิดนึกสนุกเอาเหรียญไปลองปืนที่ข้างวัด ปรากฏว่ายิงไม่ออก หลายๆ คนไม่เชื่อทดลองดูบ้างผลก็เหมือนกันยิงไม่ออก แต่พอทดลองยิงปืนขึ้นฟ้าปืนลั่นตูม ทำอย่างนี้หลายครั้งเล่นเอาผู้ที่พบเห็นขนลุกซู่ไปตามๆ กัน ข่าวคราวเหรีญยในสาเกหลวงพ่อเฮงแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว บางคนได้ฟังไม่เชื่อลองดูบ้างก็จริงดังนั้น เพียงแค่ 3 วันเท่านั้นเหรียญที่ทำออกมาแจกมากพอสมควรเกลี้ยงไม่เหลือติดวัดเลย บางรายพอได้เหรียญไปเกิดไม่มั่นใจอีกเอาปืนมาลองยิง ลั่นปากกระบอกแตกถึงกับส่งโรงบาลช ครั้งนั้นเป็นข่าวเกรียวกราวมาก นักเลงพระวิ่งหาเช่ากันสดๆ 1,000 บาทต่อเหรียญ ตอนนั้นยังแทบหาคนเอามาปล่อยไม่ได้เลย แม้ปัจจุบันนี้เหรียญใบสาเกหลวงพ่อเฮง งานปิดทองฝังลูกนิมิตก็ยังเป็นที่นิยมกันอยู่ ที่วัดบ้านขอมนั้น นอกจากจะมีรูปหล่อหลวงพ่อเฮงแล้วยังมีหลวงพ่อโตพระประธานเก่าแก่ในโบสถ์เก่า ปัจจุบันเป็นวิหารประดิษฐานหลวงพ่อโตโดยเฉพาะ อันว่หลวงพ่อโต วัดบ้านขอมนั้น ชาวบ้านนับถือกันมากจัดว่าเป็นพระประธานที่ศุกดิ์สิทธิ์อีกองค์หนึ่งของจังหวัดสมุทรสาครเลยทีเดียว ใครจะไปจัดงานรื่นเริงอะไรในวัดถ้าไม่ไปจุดธูปบอกกล่าวหลวงพ่อโตก่อนรับรองงบานล่ม ถ้าเป็นหน้าฝนจุดธูปบอกหลวงพ่อโตระงับฝนหรือปัดเป่าได้ ขณะงานฝนจะตกบริเวณรอบๆ ข้างหรือตำบลใกล้เคียงหมดพองานเลิกเสร็จพิธีฝนเป็นตกทันที เห็นมามากต่อมากงานแล้ว หลวงพ่อโตวัดขอมศกดิ์สิทธิ์ไปบอกกล่าวขอโชคลาภขอความเป็นสิริมงคลจะประสบความสำเร็จ ..

 

.........

 

938. พระอริยเจ้าผู้ทรงอภิญญาจิตศิษย์เอกหลวงปู่ดุลย์ เหรียญกตัญญู หลวงพ่อโชติ คุณสัมปันโน วัดวชิราลงกรณวรารามวิหาร ปี 2516 ให้บูชา 899 บาท

​

เหรียญรุ่นนี้ท่านอธิฐานจิตให้ 3 เดือน (ไตรมาส) ปี 2516 ภายในถ้ำราชสุทธาจารย์ จนถึงตี 3 ทุกคืนไม่ขาดสักวันเดียว เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์อภินิหารมาก ทั้งทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม ค้าขาย และ แคล้วคลาด
หลวงพ่อโชติ คุณสัมปันโน (พระเทพสุทธาจารย์) วัดวชิราลงกรณ์ ลูกศิษย์ของหลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์และหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
หลวงพ่อโชติ คุณสัมปัณโณ วัดวชิราลงกรณวรวิหาร ปากช่อง นครราชสีมา ท่านเป็นศิษย์สายพระกรรมฐาน ท่านสร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง ซึ่งแต่ละอย่างก็มีไม่มากนัก

1.เหรียญระลึกชาติ จำนวนการสร้าง 9,999 เหรียญ เป็นเหรียญเนื้อเงินสร้างไม่ถึง50เหรียญ พอปั๊มครบจำนวน บล็อกด้านหน้าก็แตกชำรุดใช้การไม่ได้
เหรียญรุ่นนี้ท่านอธิฐานจิตให้ 3 เดือน (ไตรมาส) ปี 2516 ภายในถ้ำราชสุทธาจารย์ จนถึงตี 3 ทุกคืนไม่ขาดสักวันเดียว ท่านตั้งใจนำเหรียญรุ่นนี้ขึ้นทูลเกล้าถวายในหลวงและพระราชินี เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์อภินิหารมาก ทั้งทางด้านโชคลาภ แคล้วคลาด
2.เหรียญกตัญญู เนื้ออัลปาก้า ปี 2517
3.พระนิรันตราย พิมพ์ใหญ่ ปี 2506 แจกผู้ชาย
4.พระนิรันตราย พิมพ์เล็ก ปี2506 แจกผู้หญิง

ส่วนพระสมเด็จของท่านที่ขึ้นชื่อมากก็คือ พระสมเด็จเสด็จมาเอง ซึ่งประวัติว่ามีผู้นำมาถวายให้ท่านที่โบส์ถ ประมาณ2กล่อง ถวายแล้วก็ลงจากโบส์ถเดินหายไปในป่า ท่านว่า ช่วงที่นั่งวิปัสนาในถ้ำราชสุทธาจารนั้น ท่านได้นิมิตว่า องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)มาบอกให้ท่านสร้างพระสมเด็จ ท่านก็บอกไปว่า สร้างไม่เป็น สมเด็จโตจึงบอกว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะเอามาให้ จึงเป็นที่มาของ พระสมเด็จเสด็จมาเอง เรื่องนี้ผมเคยอ่านหนังสือประวัติของหลวงพ่อโชติไม่แน่ใจว่าเป็นเล่มใด แต่เสียดายที่หนังสือหายไปซะแล้วครับคลาดเคลื่อนประการใดก็ขออภัยนะครับ
ท่านเป็นลูกศิษย์รักของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ อดีตชาติของหลวงพ่อโชติเป็นพี่ชายมารดาของท่านในชาติปัจจุบัน เมื่อถึงแก่กรรมแล้วด้วยความรักเป็นห่วงน้องสาว จึงเกิดมาเป็นลูกน้องสาวของท่านในชาติปัจจุบัน ท่านสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตชาติของท่านได้จนหมดสิ้น จนมีผู้เรียกขานว่า “ หลวงพ่อโชติ ระลึกชาติ” ท่านมรณะภาพเมื่อ ๒๔ มีนาคม ๒๕๑๗
สมณศักดิ์ครั้งสุดท้ายของหลวงปู่โชติ ก็คือ พระเทพสุทธาจารย์ เรื่องราวเกี่ยวกับคุณธรรมของท่านมีมากมาย ท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ได้เมตตานำพาสังขารวัย ๘๘ ของท่านเดินทางไปเผาศิษย์รักของท่านเมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๑๘ ที่วัดวชิราลงกรณ์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ในครั้งนั้นด้วย

 

รายการแนะนำครับ เหรียญหลวงปู่โต๊ะ รุ่น3 ปี12

​

​

ปลุกเสกในพิธี เสาร์ 5 ขึ้น 5 ค่ำเดือน 5 พ.ศ.2512 มี 2 บล็อค บล็อคสระอิ 4 ตัว และ บล็อคนิยมสระอิ 5 ตัว คือ คำว่า วิริยกิตติ ถูกแกะบล็อคเป็น วิริยกิติติ (มีสระอิ นับรวมกันได้ 5 ตัว) เหรียญรุ่นนี้ มีการสร้างออกมา 3 ลักษณะคือ
1. เหรียญกลมใหญ่ ไม่มีหู หลังยันต์ ยันต์สุกิตติมา มีการลงเหล็กจารทุก เหรียญ จำนวนการสร้างแค่ 2,512 เหรียญ (มีการสร้างเสริมปี 2516 อีก 2,000 เหรียญ)
2. เหรียญกลมกลาง หลังยันต์ยันต์สุกิตติมา จำนวน 30,000 เหรียญ
3. เหรียญกลมเล็กหลังยันต์นะ (ขนาดเท่าเหรียญ 1 บาท ) จำนวน 10,000 เหรียญ
ทุกรูปแบบการจัดสร้าง มีเพียงเนื้อเดียวคือเนื้อทองแดง ด้านหลังของเหรียญ คือ ยันต์สุกิตติมานี้ (เป็นยันต์ดวง หนุนดวง) ถือเป็นสุดยอดของยันต์วิเศษชนิดหนึ่ง ส่งผลให้มีพุทธคุณด้านหนุนดวงพลิกฟื้นดวงชะตาให้กลับร้ายกลายเป็นดี

พุทธคุณสุดยอดแห่งการค้าขาย พลิกดวงชะตา ร้ายกลายเป็นดี
ประสบการ์ณจริง รุ่นพี่ท่านหนึ่งล้มละลาย ได้ไปกราบหลวงปู่ และบูชาเหรียญรุ่นนี้ไป แกกับมาค้าขายพลิกสถานการณ์ จนพลิกชีวิตกลับขึ้นมาได้ครับ

 

939.พระผงพิมพ์อู่ทอง สามเหลี่ยม วัดอ่างทองวรวิหาร ปี พ.ศ.2491 มวลสารสมเด็จเกศไชโย ที่ชำรุด จำนวนมาก หากยาก ให้บูชา 1450 บาท

​

มวลสารที่ใช้ในการสร้าง ใช้พระสมเด็จเกษไชโย ของสมเด็จฯโต ที่ชำรุดนำมาบดรวมกับมวลสารอื่น ๆ ตาม
กรรมวิธี โดยวัดไชโยวรวิหารเป็นผู้ทำการผสมเนื้อหา ซึ่งในการสร้างพระแต่ละครั้งต้องใช้กำลังคนมาก พระ
เณร ที่ต้องศึกษาพระธรรมวินัย ชาวบ้านต้องประกอบสัมมาอาชีพ เด็กวัด ก็ต้องเรียนหนังสือ เมื่อได้เนื้อหา ตามความต้องการ ก็แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
สำหรับวัดไชโยวรวิหาร 1 ส่วน ของวัดอ่างทองวรวิหาร 1 ส่วน
เนื้อหายุคแรก ๆ จะออกวรรณเหลืองนมข้น ส่วนผสมครั้งต่อ ๆ มา จะออกเหลืองอ่อน ถึงขาวนวล เข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ วิหารหลวงวัดไชโยวรวิหาร ราวต้นปี พ.ศ.2490 เพื่อให้ทันงานฉลองเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพและทำบุญอายุครบ 64 ปี ของพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระโพธิวงศาจารย์ ที่จะมาถึงในไม่กี่เดือนข้างหน้า สำหรับพระพิมพ์ของวัดไชโยวรวิหาร ได้ออกให้เช่าบูชา ในปี พ.ศ.2491 ในวาระครบรอบ 160 แห่งชาตะกาลของสมเด็จ ฯ โต
ต่อมาราวปี พ.ศ.2495 ช่วงฤดูน้ำ เกิดน้ำเซาะตลิ่งหน้าวัดพัง ท่านเจ้าคุณพระมหาพุทธพิมพาภิบาล โสภโชติเถระ(วร อินทรสมบูรณ์) เจ้าอาวาสสมัย นั้น ได้ดำริที่จะสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งหน้าวัดไชโยวรวิหาร ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ.2496 ก่อนที่ฤดูน้ำหน้าที่จะมาถึงอีก แต่เนื่องจากเหรียญที่ระลึกและวัตถุมงคล ที่จัดสร้างไว้ ลดจำนวนลง ไม่เพียงพอที่จะหาปัจจัย พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระโพธิวงศาจารย์ สุนธรมหาเถระ (แผ้ว อัมพชาติ) ท่านได้ปรารภต่อท่านเจ้าคุณพระมหาพุธพิมพาภิบาล โสภโชติเถระ(วร อินทรสมบูรณ์) ซึ่งหลวงปู่วร มีอายุและกาลพรรษา มากกว่า 2 ปี ว่ามีความประสงค์ขอให้ทางวัดไชโยวรวิหาร จัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหารายได้ในการสร้างเขื่อน ทางวัดไชโยวรวิหาร จึงได้จัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จขึ้นอีกครั้งราวปี 2498 โดยใช้แม่พิมพ์เดิมทั้งหมด วรรณจะออกขาวนวล ถึง ขาว และเข้าพิธีพุทธาภิเษก ราวต้นปี พ.ศ.2500
(นี่คือที่มาของเขื่อนเหลือง และ เขื่อนขาว ของวัดไชโยครับ) และนำออกให้เช่าบูชา ในวาระครบรอบ 170 ปี แห่งชาตะกาลของสมเด็จฯ โต ท่าน ในปี พ.ศ.2501

 

940. ยอดเกจิ วาจาสิทธิ์ แห่งเมืองอ่างทอง พระสมเด็จสามชั้น หลังปั๊มเหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี อ.วิเศษฯ จ.อ่างทอง พระผู้มีอภินิหาร และวาจาสิทธิ์ ให้บูชา 1250 บาท

​

หลวงพ่อกร่าย สังขาร ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อกร่ายแห่ง วัดโพธิ์ศรี อ.วิเศษฯ จ.อ่างทอง พระผู้มีอภินิหาร และวาจาสิทธิ์ ท่านได้รับการอุปสมบทจาก พระอุปัชฌาย์ภักตร์ แห่งวัดโบสถ์ พระเกจิอาจารย์อันดับหนึ่งแห่งเมืองอ่างทองเจ้าของเหรียญหลักแสนทีผู้คนต่างแสวงหา หลวงพ่อกร่าย ท่านเป็นที่เคารพของศิษยานุศิษย์ ทั่วไปในจังหวัดอ่างทอง วัตถุมงคลของท่านสร้างชื่อเสียงให้กับท่านเป็นอย่างมาก ทั้งทางด้านแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม กันไฟ และปัดลมฝน เป็นทีประจักษ์แก่สายตาผู้คนในย่านวิเศษชัยชาญมานาน ทำให้หลวงพ่อเป็นที่รักและศรัทธาแก่ผู้คนเป็นอย่ามาก จนวัตถุมงคลเป็นที่เล่นหากันโดยทั่วไปใน อ.วิเศษฯ หลวงพ่อท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยและปฎิบัติดีปฎิบัติชอบมาโดยตลอด จวบจนกระทั่งท่านละสังขารก็ยังเป็นที่อัศจรรย์ โดยร่างกายของท่านไม่เน่าเปื่อย เพียงแต่แห้งลงไปเท่านั้น ซึ่งเป็นเหตุเกินวิสัยของธรรมชาติอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงเป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่าท่านเป็นผู้อยู่เหนือโลกโดยแท้ พระสมเด็จ หลังกดเหรียญรุ่นแรก (นิยม) หลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี อ. วิเศษฯ จ. อ่างทอง หลวงพ่อกร่ายท่านเป็นเกจิอาจารย์องค์สำคัญอีกองค์หนึ่งของ อ.วิเศษฯ ท่านมีวาจาสิทธิ์มีชื่อเสียงมาก เป็นที่ยอมรับของวงการพระท้องถิ่น สังขารท่านมรณะภาพแล้วไม่เน่าเปื่อย แม้แต่ภาพแจกงานศพท่านก็ไม่ไหม้ไฟ อันนี้คนพื้นที่ทราบกันดี หลวงพ่อกร่ายท่านได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อพัก วัดโบส

 

941.พระดีพิธีใหญ่ น่าบูชา พระปิดตาพิมพ์ใบโพธิ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่ฉิ่ง วัดบางพระ ปี2506 จ.ชลบุรี เนื้อผงวัดป่า วัดอ่างศิลา หลวงปู่เฮี้ยง เจ้าคุณศรีวัดอ่างศิลา ร่วมปลุกเสก ให้บูชา 1250 บาท

​

พระผงรุ่นนี้ ไม่ทันหลวงพ่อฉิ่ง ปลุกเสก แต่จัดสร้างได้ดีเยี่ยม ทั้งมวลสาร และ พิธีพุทธาภิเษก จัดสร้างโดย พระครูวรกิจคณาภรณ์ (ปราณี) อดีตเจ้าอาวาส วัดบางพระฯ โดยเริ่มดำเนินการสร้างเมื่อเดือน มกราคม พ.ศ.2506 โดยจัดสร้างเป็น
๑. พระปิดตา ๒ พิมพ์
๒. พระผงรูปเหมือน หลวงพ่อฉิ่ง ๒ พิมพ์คือ พิมพ์เล็ก และ พิมพ์ใหญ่

มวลสารที่ใช้ในการัดสร้าง ประกอบไปด้วย.
๑. ผงกรุเก่าของ วัดบางพระ ที่ขุดพบในปี พ.ศ.๒๔๙๘
๒. ผงใบลาน จาร ด้วยอักขระ ขอม เก่าแก่
๓. ผงอิทธิเจ
๔. ผงหลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา
๕. ผงพระสมเด็จ ที่แตกหักชำรุด ของ วัดบางขุนพรหมฯ
๖. ผงพระปิดตา หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์
๗. แร่เกาะล้าน และ แร่สะเก็ดดาว
๘. ผงว่าน และ ผงเกสร 108 ชนิด
๙. ผงศักดิ์สิทธิ์ ต่างๆ อีกมากมาย เป็นต้น

สำหรับพระเกจิ อาจารย์ที่มาร่วมพิธีปลุกเสก ได้แก่
๑. หลวงปู่นาค วัดระฆัง
๒. หลวงปู่ศรี วัดอ่างศิลา
๓. หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่าอรัญญิกาวาส
๔. หลวงพ่อหอม วัดซากหมากฯ
๕. หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
๖. หลวงพ่อหลาบ วัดบางเป้ง
๗. หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเฌอ
๘. หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม เป็นต้น
ถือเป็นพระดี มวลสารยอด พิธีเยี่ยมอีกรุ่นหนึ่งของภาคตะวันออก ... "

 

942. พระขุนแผนผงพระจันทร์ครึ่งซีก เป็นเมตตา,มหาเสน่ห์,บังเกิดลาภ หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี ปลุกเสกเดี่ยว ณ วัดตาลกง ปี44 ปิดรายการครับ

​

ผงจินดามณี ผงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ผงพระธาตุ และอื่นๆ... ผมอ่านจากหนังสือพุทธามหาเวทย์ ที่ไปสัมภาษณ์หลวงพ่อ
แต่ที่สำคัญท่านบอกว่า พระท่านดีเหมือนกันทุกรุ่น เสกเหมือนกัน แต่มีปลีกย่อย เหรียญ โลหะ เน้นไปทางคุ้มครองป้องกันภัย #พระผงไปทางเมตตา ค้าขาย...รุ่นไหนก็ได้

พระขุนแผน เพชรยอดขุนพล เนื้อผงพระจันทร์ครึ่งซีก หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี ปลุกเสกเดี่ยว ณ วัดตาลกง วันเสาร์ที่ 16 มิย. 2544 เวลา 15.19 น. มวลสารเด่นชัด สภาพสวยสมบูรณ์
ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองขนมหม้อแกงหวาน เป็นผู้มีเวทวิทยา คมสูงด้วยเป็นศิษย์สืบพุทธาคม ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติจาก หลวงปู่ผิว อดีตเจ้าอาวาสวัดตาลกง, หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง, หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง, หลวงพ่อจัน วัดมฤคทายวัน และ หลวงพ่อชัน วัดมาบปลาเค้า

หลวงพ่ออุ้น สำเร็จวิชาสำคัญโบราณมากมาย จากหลายคณาจารย์ เช่น วิชาทำผงพระจันทร์ครึ่งซีก ซึ่งเป็นผงทางเมตตามหานิยม สูตรเดิมของหลวงพ่อแก้ว วัดปากทะเล ที่เชื่อกันว่า แค่เพียงละอองผงปลิวไปตามแรงลม ตกต้องผู้ใดแล้ว จะเกิดรักใคร่เมตตาเราอย่างสุดประมาณ, สำเร็จผงนะปัดตลอด วิชาทำผงพระ และวิชาสักยันต์คงกระพัน จากหลวงปู่ทองสุข วัดโตนดหลวง, วิชาเสกลิงลม ขับคุณไสย ทำตะกรุดจากหลวงพ่อชัน วัดมาบปลาเค้า, สำเร็จวิชาสะกดชาตรี คือการสะกดสัตว์ร้ายให้หยุดการเคลื่อนไหว คล้ายโดนนะจังงัง จากหลวงพ่อจัน วัดมฤคทายวัน และอีกมากมายหลายสิบวิชา ที่ท่านดั้นด้นร่ำเรียนมาตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่ม

พระขุนแผนเนื้อผงพระจันทร์ซีก
ปลุกเสกที่อุโบสถเก่าวัดตาลกง เป็นพิธีใหญ่ หรือ ปลุกเสกหมู่ มีพระเกจิร่วมปลุกเสกด้วยกัน
- หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
- หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
- หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
- หลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ
- หลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม

ประสบการณ์ส่วนนึงจากลูกศิษย์หลวงปู่ครับ
เมื่อคืนนี้ที่ผ่านมา ( 20 ต.ค.53 ) หลังจากอาบน้ำสวดมนต์เสร็จเรียบร้อย และเข้านอน ช่วงหลับไปหมู่เอกฝันครับ
ในฝันนั้น จำได้ว่า ไปช่วย ลพ.อุ้น ( ในฝันร่างกายท่านแข็งแรงมาก ) กวาดใบไม้และเก็บขยะบริเวณโบสถ์หลังเก่า
ระหว่างที่กวาดใบไม้อยู่นั้น ท่านเอ่ยถามว่า " เฮ้ย ไอ้เสือ พระที่กูให้ไว้ที่ใต้ยังอยู่ไหม " ( พระพุทธรูปที่ ลพ.เมตตาให้นำไปให้
ชาวไทยพุทธกราบไหว้ครับ ในพื้นที่ จ.ปัตตานี้ ที่หมู่เอกไปตั้งฐานปฏิบัติการสมัยก่อนนั้น เป็นสำนักสงฆ์
มีพระสงฆ์จำพรรษเพียง 3 รูป
ยังอยู่สิครับ ลพ. ชาวบ้านเขากราบไหว้กันอยู่....... ลพ.ท่านยิ้มๆ ก่อนพูดออกมาอีกครั้งหนึ่ง " วันรุ่งพรุ่งนี้จะมีคนเอาพระ
มาให้มึงนะ ให้มึงเก็บให้ดีๆ " ( ขณะนั้นในความฝัน ) หมู่เอกก็หัวเราะออกมา ก่อนกล่าวสัพยอก ลพ.อุ้น แหมๆๆๆ
ใครจะเอาพระมาให้ผมอ่ะ มีแต่ผมต้องไปเช่าบูชา หากเขาไม่ให้จริง ลพ.จะผิดคำพูดนะ
ท่านยิ้มๆ ให้หมู่เอกก่อนพูดอีกครั้ง " เออ !! เดี่ยวมึงจะเห็นจริงตามคำกู "
จนมาวันนี้ 21 ต.ค.53 เวลาประมาณ 1630 รุ่นพี่ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ 3 จชต. เดินทางกลับมาพักที่หน่วย ได้เรียกหมู่เอกไป
ช่วยดูวัตถุมงคลที่รถให้หน่อย ด้วยความที่เราชอบอยู่แล้วก็รีบเดินตามไปดู รุ่นพี่ค้นรถอยู่สักพัก ก่อนหยิบมาให้หมู่เอก
ผมหยิบมาดูด้วยตาเปล่า โดยที่ไม่ต้องใช้แว่นส่องขยาย ก่อนส่งคืนให้กับรุ่นพี่ และบอกว่า เป็นรูปหล่อพระอาจารย์ผมเองครับ
ท่านชื่อ ลพ.อุ้น รุ่นพี่หมู่เอกซึ่งเป็นคนภาคอีสาน ไม่ค่อยรู้จักพระสงฆ์ทางนี้สักเท่าไร หยิบไปพิจารณาสักครู่ ก่อนยื่นคืนให้
" เอ้า พี่ให้เราไว้บูชา ในเมื่อเป็นครูบาอาจารย์ก็เก็บไว้นะ " หมู่เอกขนลุก และ น้ำตาคลอเบ้า
ขึ้นมาทันทีครับ นึกถึงความฝันเมื่อคืน อยากจะบอกตอนนี้เลยครับ หาก ลพ.อุ้น รับทราบด้วยญาณวิถีใดๆ แล้ว
อยากจะบอก ลพ.อุ้น ว่า ส.อ.กิตติพร โตใหญ่ หรือ ไอ้เสือ ของ ลพ.อุ้น รักและเคารพ ลพ.อุ้น มากๆ ครับ

 

943.พระดีประสบการณ์สูง พระเนื้อว่านพิมพ์กลีบบัว หลวงพ่อเหลือ วัดสร้อยทอง เนื้อว่านผสมผงพุทธคุณ สร้างแจกช่วงสงครามอินโดจีน โดย หลวงพ่อรวย วัดสร้อยทอง ปี ๒๔๘๕ ให้บูชา 1550 บาท

​

พระเนื้อว่านพิมพ์กลีบบัว หลวงพ่อเหลือ วัดสร้อยทอง เนื้อว่านผสมผงพุทธคุณ
สร้างแจกช่วงสงครามอินโดจีน โดย หลวงพ่อรวย วัดสร้อยทอง ปี ๒๔๘๕
ปลุกเสกโดย พร้อมกริ่งหลวงพ่อเหลือรุ่นแรก พระเกจิอาจารย์ ที่มีชื่อเสียงสมัยนั้น
พระกริ่งองค์เป็นหมื่นแล้ว พระเนื่อว่านพิธีเดียวกันถูกอย่างไม่น่าเชื่อ
ส่วนหนึ่งเพราะคนรู้จักกันน้อยเพราะทำไม่มากและไม่มีข้อความหรือตัวหนังสือบอกเหมือนพระกริ่ง

 

944. พระดีเมืองชล พระแก้วมรกตพิมพ์ใหญ่ ลงรักปิดทอง หลังยันต์ดวงประสูติพระพุทธเจ้า หลวงพ่อเริ่ม วัดบางพระ จ.ชลบุรี พิธีใหญ่ ปี 2513 ให้บูชา 1450 บาท

​

หลวงพ่อเริ่ม วัดบางพระ หรือพระอาจารย์ทองเริ่ม ท่านเป็นเกจิที่มีวิชาอาคมในยุคสมัยนั้น ของพื้นที่ อ.ศรีราชา พระเครื่องที่ท่านสร้างมีความสวยงามตามยุคสมัย รูปแบบการสร้างพระเครื่องแบบลงรักปิดทอง พิมพ์พระออกแบบได้สวยงามละเอียด วิจิตรตระการตา พื้นที่เมืองชล เป็นทราบกันทีว่าพระเครื่องที่นั้นมีราคาสูง และหายาก นี่ยังไม่นับรวมถึงความสวยงามด้านศิลปะและพุทธคุณพระเครื่องที่ครบครันแบบที่ว่าแขวนขึ้นคอได้สนิทใจ
วัตถุมงคลชุดนี้ สร้างราวๆปี 2512-13 พิธีสร้างถือว่าไม่ธรรมดา เริ่มตั้งแต่ช่างที่ออกแบบและแกะพิมพ์ได้สวยงดงามมาก คนแกะพิมพ์คือ ช่างเกษม ที่แกะพระแก้วมรกตชุดไตรภาคีของท่านเจ้าคุณนรฯ นั่นเอง
พิธีปลุกเสก มี
หลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ เป็นประธานเจ้าพิธีปลุกเสก
หลวงปู่บู๊ (พระครูวรกัณฑราจารย์) วัดบางพระวรวิหาร,
หลวงพ่อฉิ่ง วัดบางพระวรวิหาระ,
หลวงพ่อทองเริ่ม วัดบางพระวรวิหาร
และเกจิที่มีชื่อเสียงเมืองชล ร่วมพิธีปลุกเสก
(ข้อมูลหลายที่ ว่า ท่านเจ้าคุณนรฯ ร่วมอธิฐานจิตปลุกเสก)

 

945. พระดีแห่งเมืองนครปฐม ประสบการณ์มากมาย พระสมเด็จซุ้มกอ เนื้อว่าน รุ่นแรก หลวงพ่อม้วน วัดไทร จ.นครปฐม ให้บูชา 1950 บาท

​

ท่านสร้างแจกทหารไปรบสงครามเวียดนามเรื่องประสบการณ์เรื่องเหนียวต้องยกให้ครับ ซุ้มกอท่านเป็นของหายากซึ่งพื้นที่คนที่มีจะหวงกันมาก

หลวงพ่อม้วน วัดไทร จ.นครปฐม เป็นศิษย์เอกหลวงพ่อห่วง วัดท่าใน จ.นครปฐม ที่หลวงพ่อห่วงให้ความเมตตาเป็นอย่างมาก เดิมชาวบ้านเรียกท่านว่า กวน ชาวบ้านในละแวกวัดไทรและนครชัยศรีจะรู้จักท่านในนาม อาจารย์กวน น้ำมนต์แข็ง เป็นหนึ่งในสุดยอดเกจิอาจารย์นครปฐมหลังจากยุคหลวงพ่อเต๋ หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อน้อย ท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม และอาจารย์ปิ่น วัดศีรษะทอง
พลเอกฉลาด หิรัญยศิริ มีศักดิ์เป็นน้องเขยของท่าน เนื่องเพราะว่าภรรยาของท่านเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลวงพ่อ พลเอกฉลาดมีความนับถือหลวงพ่อม้วนมาก ได้ขอให้หลวงพ่อสร้างพระขึ้นเพื่อนำไปแจกให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไปรบเวียตนาม จนเป็นที่เลื่องลือในพุทธคุณของหลวงพ่อ ทำให้ชื่อของหลวงพ่อม้วน วัดไทร โด่งดังในหมู่ทหารหาญเป็นอย่างมาก ต่างก็ขนานนามพระที่หลวงพ่อแจกว่า สมเด็จซุ้มกอ

 

946.ประสบการณ์เด่นมาก ด้านเมตตา ค้าขาย พระปิดตาชุตินธโร (พระปิดตามหาลาภ) ออกวัดซับลำใย หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน ปลุกเสก พ.ศ.๒๕๔๑ ให้บูชา 1950 บาท

​

พระปิดตามหาลาภชุตินธโร ลอยองค์ วัดซับลำใยสามัคคีธรรม พิธีมหาสมปรารถนาหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ปลุกเสก ตั้งแต่ปี 2541 ชนวนมวลสารนั้นพระอาจารย์ตั้วได้เก็บเอาไว้เป็นหลายร้อยคณาจารย์หนึ่งในนั้นย่อมมีชนวนมวลสารที่แตกหักของหลวงพ่อกวยเป็นแน่ พระอาจารย์ตั้วทำขึ้นบูชาคุณหลวงพ่อกวย.โดยหลวงปู่หมุนท่านเป็นประธานเสกให้หลายวาระตั้งแต่ ปี 2542 พระอาจารย์ตั้ว สร้าง ผสมผง ๓๕๐ คณาจารย์ หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 106 ปี เสก รุ่น “#มหาสมปรารถนา” เพื่อสมทบทุนสร้าง ศาลาเทิดพระเกียรติฯ วัดซับลำไยสามัคคีธรรม ต.ซับจำปา อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี จัดสร้างทั้งหมด 2 เนื้อ คือ 1.เนื้อ ผงว่านผสมผงพุทธคุณ ฝังตะกรุดทองคำใต้ฐาน ตอกโค๊ดด้านหลัง สร้างน้อยหายากมาก แทบไม่มีเห็น เพราะอยู่ในกลุ่มลูกศิษย์พระอาจารย์ตั้วเป็นสวนใหญ่ 2.เนื้อผงพุทธคุณ 108 ตอกโค๊ดด้านหลัง ไม่ฝังตะกรุด
จัดได้ว่าเป็นของดีพุทธคุณสูง ที่พระอาจารย์ตั้ว จัดสร้างไว้ และหลวงปู่หมุนปลุกเสกให้อย่างเต็มที่ นับเป็น พระดี พิธีเยี่ยมเจตนาการสร้างบริสุทธิ์ มวลสารดี ราคาเบาๆ ทั้งสวยงามและเข้มขลังอีกพิมพ์หนึ่ง ของหลวงปู่หมุน ราคายังไม่แพง เป็นอีกรุ่นอีกพิมพ์ที่ไม่ควรมองข้าม น่าเก็บน่าใช้อีกละคราฟ
#พิธีพุทธาภิเษกอย่างเข้มขลังและยิ่งใหญ่ ถึง ๒ วาระ ครั้งที่ ๑ ณ วัดซับลำใยสามัคคีธรรม ต.ซับจำปา อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี เมื่อ ๕ พ.ย. ๒๕๔๓ ครั้งที่ ๒ ณ วัดระฆังโฆษิตาราม เมื่อ ๑๐ ธ.ค. ๒๕๔๓ พระอาจารย์ สมุห์ภาสน์ มงคลสงโฆ ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร ผู้บุกเบิกสร้าง วัดซับลำไย จนมีที่ดินของวัดเกือบร้อยไร่ สร้างวิหารถวายหลวงพ่อกวย ผู้เป็นอาจารย์ จนใกล้เสร็จ และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล จนได้รับความเมตตาจากหลวงปู่หมุนหลาย ๆ อย่าง และด้วยความกตัญญูในครูบาอาจารย์ หลวงปู่หมุน ที่พระอาจารย์ให้ความเคารพมาก ในวันที่ 3 กันยายน 2543 ที่วัดซับลำใยจะได้ทำพิธีเททอง เบิกฤกษ์ สร้างรูปหล่อหลวงปู่หมุน เท่าองค์จริงขึ้น พร้อมสร้างพระกริ่ง วัตถุมงคลอื่น ๆ ในเอกลักษณ์ของหลวงปู่หมุน ตามที่หลวงปู่หมุน #ท่านได้กล่าวกับพระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ผู้เป็นศิษย์ก่อนสร้างวัตถุมงคลรุ่นมหาสมปรารถนาว่า “ นี่คุณสมุห์ภาสน์ ฉันจะอนุญาตให้คุณ ได้สร้างวัตถุมงคลของฉัน เพราะฉันเห็นแก่คุณสมุห์ฯ ที่สร้างวิหารเทิดพระเกียรติยังไม่เสร็จ อีกอย่างคุณสมุห์ฯ อยู่เบื้องหลังสร้างพระให้คนอื่นเขาสำเร็จมามากแล้ว ถึงตัวเองบ้างก็ยังไม่ทำอะไรขึ้น ” หลวงปู่หมุนกล่าวเมื่องานยกช่อฟ้า วิหารที่วัดซับลำใย ซึ่งในตอนนั้น พระอาจารย์สมุห์ภาสน์ ก็ได้กราบเรียนหลวงปู่หมุน ไปว่า “หลวงปู่ขอรับ กระผมไม่มีเงินทุนพอที่จะจัดสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ ตามที่หลวงปู่เมตตาแนะนำให้เลยขอรับ “มีซิฉันจะให้เธอสมปรารถนาทุกอย่างนั่นแหละ” (หลวงปู่หมุนกล่าวอย่างมั่นใจ) และนี่คือเป็นที่มาของการจัดสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระผู้มีประกาศิตต่าง ๆ ในตัว
รายนามคณาจารย์ที่เจริญอธิษฐานจิตภาวนาในวัตถุมงคล รุ่น "มหาสมปรารถนา" ๕ พฤศจิกายน ๔๓
๑. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน จ.ศรีสะเกษ ประธานในการเททอง นั่งปรก
๒. หลวงปู่ลมัย ฐิตมโน จ.เพชรบูรณ์
๓. หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
๔. พระครู อุทัยธรรมกิจ (หลวงปู่ตี๋) วัดหลวงราชาวาส จ.อุทัยธานี
๕. พระครูชัยคณาทร (หลวงพ่อกริช) วัดอรัญญาวาสี อ.หันดา จ.ชัยนาท
๖. พระครูปุริมารักษ์ (หลวงปู่พูล) วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม
๗. พระครูโชติคุณ (หลวงปู่ไสว) วัดปริดาราม (ยายส้ม) อ.สามพราน จ.นครปฐม
๘. พระครูปราการลักษณาภิบาล (พระอาจารย์สมพงษ์) วัดใหม่ปีนเกลียว อ.กำแพงเสน จ.นครปฐม
๙. พระครูนนทกิจพิบูลย์ (หลวงพ่อเก๋) วัดปากน้ำ อ.เมือง จ.นนทบุรี
๑๐. พระครูนนทสิทธิการ (หลวงพ่อประสิทธิ์) วัดไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
๑๑. หลวงพ่อสิริ สิริวัฒฑโณ วัดตาล อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
๑๒. พระครูสังวรสมณกิจ (หลวงพ่อทิม) วัดพระขาว อ.บางบาล จ.อยุธยา
๑๓. พระครูธรรมคุณ (พระอาจารย์วิชัย เขมิโย) วัดถ้ำผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย
๑๔. หลวงปู่ฤทธิ์ รัตนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์
๑๕. พระครูพรหมเทพาจารย์ ผล กาญจโณ วัดเนินทองวราราม อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี
๑๖. พระครูพรหมเทพาจาย์ (พระอาจารย์เทพ ถาวโร) วัดท่าแค อ.เมือง จ.ลพบุรี
๑๗. หลวงปู่หลุย วัดราชโยธา อ.มีนบุรี กทม.
๑๘. พระอาจารย์ สินชัย วัดถ้ำ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี
๑๙. พระครูสโมธวานวรกิจ (พระอาจารย์ไพรินทร์) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
๒๐. เจ้าคุณเทพวราลังการ (หลวงปู่เคน) วัดประชาบำรุง
๒๑. หลวงพ่อเพี้ยน อคคธมโม วัดกริ่นกฐิน อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
๒๒. พระอาจารย์ เกษมสุข วัดประคู่ธรรมธิปัตย์ อ.ดุสิต กทม. และ เจ้าคุณเมธีรัตโนดม รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี
จุดเทียนชัยเวลา 19.19 น. ดับเทียนชัยเวลา 21.39 น. มวลสารสำคัญต่างๆ ของพระเนื้อผงชุดนี้ก็คือ ผงทั้ง ๓๕๐ คณาจารย์

​

 

.........

 

947. พระสมเด็จ หลวงปู่เทียมหลังลายเซ็นต์ วัดกษัตราฯ ยุคแรกๆ สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2506 - 09 ให้บูชา 1250 บาท

​

พระสมเด็จหลังลายเซ็น หลวงปู่เทียม วัดกษัตราฯ อยุธยา เนื้อผงพุทธคุณ มีส่วนผสมของสมเด็จบางขุนพรหม ที่แตกหักขำรุด รวมทั้งผงมวลสารและเกษา ของหลวงปู่เองอีกมากมาย เป็นวัตถุมงคลยุคแรกๆ ของท่าน สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2506 - 09 ด้านหลังมีตราปั๊มแบบลายเซ็นต์ คำว่า " เทียม " เป็นพระที่ น่าใช้ น่าเก็บ น่าบูชา ไม่แพ้รุ่นอื่นๆเลย เด่นทางแคล้วคลาดและเมตตามหานิยม เป็นสิริมงคล เป็นของดีที่ราคายังไม่แรงมาก แต่พุทธคุณดีเกินราคา

 

948. เทพเจ้าแห่งเขาพลอง พระผงว่าน 108 หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม เทพเจ้าแห่งเขาพลอง จ.ชัยนาท ปี18 ให้บูชา 1650 บาท

​

พระผงว่าน 108 หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม เทพเจ้าแห่งเขาพลอง จ.ชัยนาท พระผู้ทรงอภิญญา พระผงเเละเหรียญวัดเขาพลอง ชัยนาท ปี๒๕๑๘ นับเป็นพระเครื่องที่ดี มีพิธีปลุกเสกอย่างดี น่าเก็บบูชาเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญ หลวงพ่อกวย ท่านก็ได้ไปร่วมเสกด้วย ในความเป็นจริงเเม้ว่า หลวงพ่อกวยท่านไม่ได้ไปร่วม เเค่พระเกจิในย่านนั้นที่มาเสก ก็ล้วนเป็นเกจิเก่งๆทั้งนั้น ท่านใดพบเจอพระเครื่องรุ่นนี้ อย่ามองข้าม เป็นของดีราคาเบา คุ้มครองตัวได้อย่างดี เเทนพระเเพงๆได้เลยครับ

พระผงว่าน 108 พิธีปลุกเสกใหญ่ที่วัดเขาพลอง เกจิอาจารที่เข้าร่วม
ได้แก่
- หลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
- หลวงพ่อเชื้อ สุกกวัณโณ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท
- หลวงพ่อกล่อม วัดเขาแก้ว
- หลวงพ่อประเทือง วัดโพธาราม
- หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
- หลวงพ่อพุฒ วัดศรีวิชัยวัฒนาราม
- หลวงพ่อชม วัดอินทาราม (ตลุก)
- หลวงพ่อชื้น อริยธัมโม

หลวงพ่อชื้น ได้รับการกล่าวขานว่า เป็นพระอภิญญา เล่าเรียนคาถา วิธีลงอักขระเลขยันต์ ศึกษาธรรมะมายาวนานตั้งแต่เป็นฆาราวาสจนบวชเป็นพระภิกษุ ซึ่งท่านจำเป็นต้องหาทุนทรัพย์สร้างวัด สร้างเสนาสนะ จึงอนุญาตให้คณะศิษย์ สร้างวัตถุมงคลไว้เป็นที่ระลึกหลายแบบและหลายวาระ มีทั้งเหรียญ พระสมเด็จ พระผง รูปหล่อบูชาหลวงพ่อกบ หลวงพ่อโอภาสี และตัวท่านเอง รูปบูชา รูปถ่าย แจกญาติโยมที่มาทำบุญและลูกศิษย์ ก็เลยขอเปิดกรุนำมาให้ชมกันครับ ทุกรุ่นมีข้อมูลยืนยันจากบุคคลที่เชื่อถือได้ คือ พระอาจารย์พุด ฐิตะสีโล เจ้าอาวาสวัดปฐมเทศนาอรญวาสี (เขาพลอง) และลูกหลานที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนใครมีข้อมูลนอกเหนือจากนี้เชิญแชร์ความคิดเห็นกันได้ครับ

เหรียญอาร์ม ปี พ.ศ.2514 รุ่นแรก จำนวนการสร้าง 500 เหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อชื้นครึ่งองค์ ด้านหลังเป็นยันต์ 3 หรือยันต์ใบพัด (พัดโบก) กำกับด้วยอักขระ มะ อะ อุ สุดยอดพระคาถามหาอุต แคล้วคลาด คงกระพัน มีเนื้อทองแดงกะไหล่ทองและทองแดงผิวไฟ บางท่านว่ามีทองแดงรมดำด้วย (ตรวจสอบแล้วลูกศิษย์เอาไปรมดำกันเองในภายหลัง) รุ่นนี้ผสมชนวนโลหะสตางค์ขวัญถุง หลวงพ่อกบ และหลวงพ่อโอภาสี บางมด โดย หลวงพ่อชื้น ปลุกเสกเดี่ยวตลอด 1 ไตรมาส ก่อนให้เช่าบูชาช่วงออกพรรษาปี 2514

เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์ท่วมท้น ลูกศิษย์คล้องติดตัวไปเที่ยวงานวัดถูกยิงถูกฟันไม่ระคายผิว แต่คนรุ่นเก่าๆจะนิยมเรียกกันว่า เหรียญฟ้าผ่า มากกว่า เพราะมีลูกศิษย์ชื่อ ตาพวง บ้านอยู่สรรคบุรี ให้ลูกชายคล้องคอไปเลี้ยงควายกลางทุ่งนา ฝนตกหนักและเกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา ควายตายเกลี้ยง 7 ตัว ลูกชายตาพวงสลบเหมือด ฟื้นขึ้นมาไม่เป็นอะไรเลย รอยแผลสักนิดก็ไม่มี ตาพวงรีบมาหาเช่าเหรียญเพิ่มที่วัดเขาพลอง ยอมซื้อถึงเหรียญละ 5,000 บาท (สมัยนั้นประมาณ พ.ศ.2529) แต่ไม่มีเหลือแล้ว ลูกศิษย์คนอื่นแย่งบูชาไปจนหมด ปัจจุบันยังพอเห็นหมุนเวียนในสนามพระบ้าง ส่วนใหญ่ใช้มาโชกโชน สวยๆเดิมๆค่อนข้างหายาก ปัจจุบันราคาขยับแพงขึ้นทุกวัน สภาพแชมป์ผิวไฟวิ๊งๆหรือกะไหล่ทองสวยเดิมต้องว่ากันเป็นหมื่น รูปหล่อบูชา พระอริยธัมโม (ร.ท.ชื้น ธรรมชัย) รุ่นแรก สร้างพร้อมกับเหรียญรุ่นแรกในปี พ.ศ.2514 นอกจากนี้ยังมีรูปหล่อบูชา สมเด็จพระบรมครู (หลวงพ่อกบ) และหลวงพ่อโอภาสี สร้างในวาระเดียวกันด้วย จำนวนการสร้างรวมไม่เกิน 100 องค์ ให้เช่าบูชาช่วงออกพรรษาปี 2514 เป็นเนื้อทองเหลือง ไม่ค่อยเห็นหมุนเวียนในสนามพระมากนัก ส่วนใหญ่ลูกศิษย์เก็บกันหมด เพราะประสบการณ์สูงเช่นเดียวกัน มีข้าราชการครูแถว อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ไฟไหม้บ้านหมดเกลี้ยง เหลือแต่รูปหล่อบูชาของหลวงพ่อชื้นและพระผงว่าน 108 ใส่ห่อผ้าวางอยู่ ไม่เป็นอะไรเลยและเปลวไฟไม่ระคายให้เสียหายแม้แต่น้อย น่าอัศจรรย์มาก ปัจจุบันแกก็เลยแขวนเดี่ยว พระผงว่าน 108 องค์เดียว มั่นใจเต็มร้อย

 

949. สุดยอดพระดี มวลาสารเยี่ยม พระปิดตาหลวงพ่อโอด วัดจันเสน จ.นครสวรรค์ รุ่นแจกทาน รุ่น ๒ ปี ๒๕๒๒ ให้บูชา 850 บาท

​

พระปิดตาแจกทานหลวงพ่อโอด วัดจันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยพระปลัดบุศย์ ติกขปุญโญ นามสกุลเดิม แก้วปู่ อดีตรองเจ้าอาวาสวัดจันเสน และพระฐานานุกรมของหลวงพ่อโอดในขณะนั้นมีจิตศัทธาที่จะสร้างวัตถุมงคลใว้อย่างหนึ่งในชีวิตเพื่อเป็นพุทธบูชา เป็นกตเวทิตาบูชาแด่ท่านเจ้าอาวาสวัดจันเสน และเพื่อเป็นที่ระลึกแก่ญาติโยมที่มาในงานฌาปนกิจศพของตัวท่านเอง

ในขณะที่เริ่มสร้างพระปิดตา พระปลัดบุศย์ มีอายุได้ ๖๐ ปี ต่อจากนั้นอีก ๒ ปี พระปลัดบุศย์ก็มรณะภาพเหมือนกับท่านรู้ตัวล่วงหน้า สังขารของท่านได้รับการฌาปณกิจที่วัดจันเสน พระปิดตาที่ท่านมีจิตศัทธาสร้างขึ้นได้นำมาแจกแก่ญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาที่มาช่วยในงาน สมดังเจตนาที่ท่านได้ตั้งใจใว้ก่อนมรณภาพ

เตรียมการสร้างถึง ๒ ปี

ในราวปี พ.ส. ๒๕๒๐ พระปลัดบุศย์ ติกขปุญโญ ได้รวบรวมมวลสารที่ศักดิ์ศิทธิ์ต่างๆ ด้วยตัวของท่านเอง และไหว้วานให้ศิษย์ตลอดจนผู้ใกล้ชิดออกรวบรวมสิ่งที่เป็นมงคลหายากต่างๆ เพื่อมาผสมเป็นองค์พระปิดตาเพื่อให้เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ ต้องใช้เวลานานถึง ๒ ปี กว่าจะได้สิ่งที่ต้องการจากทั่วประเทศจนครบ

มวลสารต่างๆ มีไม้มงคล ว่านมงคล ว่านมหาอำนาจ ว่านมหาโชค เกสรดอกใม้ ดินที่ศักดิ์สิทธิ์ ผงพระศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ มีดังนี้
๑.ยอดต้นกาหลง
๒.ยอดต้นรักซ้อน
๓.ยอดต้นสวาด
๔.ยอดต้นหิ่งหาย
๕.ยอดต้นคูณ
๖.ยอดต้นราชพฤกษ์
๗.ยอดต้นโพธิ์
๘.ยอดต้นจิก
๙.ยอดต้นมะม่วง
๑๐.ว่านดาบนารายณ์
๑๑.ว่านดาบหลวง
๑๒.ว่านพญากาสัก
๑๓.ว่านพญาพิชัยดาบหัก
๑๔.ว่านมหาจักรพรรดิ์
๑๕.พญาว่านฟ้าทลายโจร
๑๖.ว่านพญาหอกหล่อ
๑๗.ว่านมหาปราบ
๑๙.ว่านพญาว่าน
๒๐.ว่านไชยมงคล
๒๑.ว่านเทพรำลึก
๒๒.ว่านเทพรำพึง
๒๓.ว่านเทพประชุมพร
๒๔.ว่านสาริกาลิ้นทอง
๒๕.ว่านห้าร้อยนาง
๒๖.ว่านปัดตลอด
๒๗.ว่านสาวหลง
๒๘.ว่านดอกทอง
๒๙.ว่านขมิ้นขาว
๓๐.ว่านช้อยนางรำ
๓๑.ว่านช้างผสมโรง
๓๒.ว่านนางล้อม
๓๓.ว่านกระแจะจันทร์
๓๔.ว่านเสน่หา
๓๕.ว่านมหาอุดม
๓๖.ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว
๓๗.ว่านเสน่ห์จันทร์แดง
๓๘.ว่านเสน่ห์จันทร์เขียว
๓๙.ว่านเสน่ห์จันทร์ดำ
๔๐.ว่านมหาบัว
๔๑.ว่านเศรษฐีนางกวัก
๔๒.ว่านกาหลง
๔๓.ว่านกวักพุทธเจ้าหลวง
๔๔.ว่านกวักนางพญาใหญ่
๔๕.ว่านมหาลาภ
๔๖.ว่านมหาโชค
๔๗.ว่านพุทธกวัก
๔๘.ว่านมหากวัก
๔๙.ว่านกวักทอง
๕๐.ว่านกวักพระพรหม
๕๑. ว่านกวักแม่จันทร์
๕๒.ว่านกวักโพธิ์เงิน-กวักโพธิ์ทอง
๕๓.ว่านรางเงิน ๕๔.ว่านรางทอง
๕๕.ว่านขอทอง
๕๖.ว่านเฒ่านำโชค
๕๗.ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์
๕๘.ว่านเศรษฐีเรือนนอก
๕๙.ว่านเศรษฐีเรือนใน ๖
๖๐.ว่านขุนแผน
๖๑.ว่านแสงอาทิตย์
๖๒.ว่านช้างเผือก
๖๓.ว่านกุมารทอง
๖๔.ว่านหางช้าง
๖๕.ว่านกำแพงเจ็ดชั้น
๖๖.ว่านเพรชนารายณ์
๖๗.ว่านงาช้าง
๖๘.ว่าน๔ทิศ
๖๙.ว่านนาคุ้ม
๗๐.ว่านหนุมาน
๗๑.ว่านหนุมานนั่งแท่น
๗๒.ว่านธรณีสาร
๗๓.ว่านกวนอิม
๗๔.ว่านมหาหงส์
๗๕.ว่านพญากาเผือก
๗๖.ว่านเกาะเพชร
๗๗.ว่านกลิ้งกลางดง
๗๘.ว่านพระฉิม
๗๙.ว่านมเหศวร
๘๐.ว่านมะอะอุ
๘๑.ว่านสบู่เลือด
๘๒.ว่านลิงดำ
๘๓.ว่านเขาควาย
๘๔.ว่านไพลขาว
๘๕.ว่านรางจืด
๘๖.ว่านกระชายดำ
๘๗.ว่านเพชรม้า
๘๘.ว่านท้าวชมภูหนังแดง
๘๙.ว่านทิพย์เนตร
๙๐.ว่านคันธมาลา
๙๑.ว่านทรหด
๙๒.ว่านมหาเมฆ
๙๓.ว่านนางคำ
๙๔.ว่านพญาลิ้นงู
๙๖.ว่านสเลดพังพอน
๙๗.ว่านพญาจงอาง
๙๘.ว่านร่อนทอง
๙๙.ว่านพญามือเหล็ก
๑๐๐.ว่านเพชรสังฆาต
๑๐๑.ว่านหางจรเข้
๑๐๒.ว่านขันหมาก
๑๐๓.ว่านนํ้าเต้าทอง
๑๐๔.ว่านเฒ่าหนังแห้ง
๑๐๕.ว่านกำบัง
๑๐๖.ว่านปราบสมุทร
๑๐๗.ว่านกวักแม่ทองใบ
๑๐๘.ว่านพญานกคุ้ม
๑๐๙ว่านนิลพัตร
๑๑๐.ว่านพลับพลึง
๑๑๑.ว่านเพชรฉลูกันต์
๑๑๒.ว่านนันทวิศาล
๑๑๓.ว่านเศรษฐีดาวดึงส์
๑๑๔.ว่านอุมาวดี
๑๑๕.ว่านสบู่เหล็ก
๑๑๖.ว่านสบู่ล้อม
๑๑๗.ว่านพัดโบก
๑๑๘.ว่านสิงหโมรา
๑๑๙.ดอกไม้บูชาพระแก้วมรกต
๑๒๐.ดอกไม้บูชาหลวงพ่อโสธร
๑๒๑.ดอกไม้บูชาพระพุทธชินราช
๑๒๒.ดอกไม้บูชาพระชินสีห์
๑๒๓.ดอกไม้บูชาพระศาสดา
๑๒๔.ดอกไม้บูชาหลวงพ่อเพชร
๑๒๕.ดอกไม้บูชาพระพุทธสิหิงค์
๑๒๖.ดอกไม้บูชาหลวงพ่อวัดบ้านแหลม
๑๒๗.ดอกไม้บูชาหลวงพ่อมงคลบพิตร
๑๒๘.ดอกไม้บูชาหลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง
๑๒๙.ดอกไม้บูชาหลวงพ่อโต วัดกัลยาฯ
๑๓๐.ดอกไม้บูชาหลักเมือง กทม.
๑๓๑.ดอกไม้บุชาหลักเมือง นครสรรค์
๑๓๒.ดอกไม้บูชาพระกาฬลพบุรี
๑๓๓.ดอกไม้บูชาพระประธานวัดช่องแค
๑๓๔.ดอกไม้บูชาหลวงพ่อนาควัดจันเสนนครสรรค์
๑๓๕.ไคลเสมา วัดพระแก้ว
๑๓๖.ไคลเสมา วัดพระพุทธชินราช
๑๓๗.ไคลเสมา วัดเบญจมบพิตร
๑๓๘.ไคลเสมา พระปฐมเจดีย์
๑๓๙.ไคลเสมา ภูเขาทอง
๑๔๐.ไคลเสมา วัดมหาวัน
๑๔๑.ไคลเสมากำแพงเพชร
๑๔๒.ไคลเสมา เจดีย์ใหญ่นครศรีธรรมราช
๑๔๓.ไคลเสมา วัดจันเสน
๑๔๔.ดินกรุ เก่าเมืองจันเสน
๑๔๕.ดินก้นกรุวัดราชบูรณะ อยุธยา
๑๔๖.ดินก้นกรุวัดบางขุนพรหม
๑๔๗.ดินก้นกรุวัดบ้านกร่างสพรรบุรี
๑๔๘.ดินก้นกรุท่ากระดาน กาญจนบุรี
๑๔๙.ดินก้นกรุวัดนางพญา พิษณุโลก
๑๕๐.ดินก้นกรุเจดีย์ทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร
๑๕๑.ดินก้นกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุผงสุพรรณ สุพรรณบุรี
๑๕๒.ดินก้นกรุวัดมหาวัน ลำพูน
๑๕๓.เศษถ้วยชาม ตุ๊กตาดินเผา สมัยทราวดีจากเมืองจันเสนโบราณ
๑๕๔.เศษพระกรุ เศษพระเก่า เศษพระโบราณ เศษพระวัดระฆัง เศษพระวัดบางขุณพรหม เศษพระวัดสามปลื้ม ฯลฯ
๑๕๕.ผงอิทธิเจ ผงปัทมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณต่างๆของหลวงพ่อโอด ๑ บาตรใหญ่
นอกจากนี้ยังมีสิ่งของวัตถุมงคลต่างๆอีกเป็นจำนวนมากที่ชาวบ้านแถบวัดจันแสนบดมาถวาย

เมื่อได้มวลสารมาครบแล้วได้ผสมนํ้าพระพุทธมนต์..นํ้ามันงาหลวงพ่อรุ่ง นํ้ามันตังอิ้ว พิมพ์เป็นคราวๆไป โดยหลวงพ่อโอด มากดแม่พิมพ์เป็นปฐมฤกษ์ หมดมวลสารพอดีได้พระปิดตาประมาณหนึ่งหมื่นองค์ เนื้อพระจะออกสีนํ้าตาลอ่อน นํ้าตาลแก่ จนถึงนํ้าตาลไหม้

เมื่อตกมาถึง พ.ศ.๒๕๓๒ เนื้อพระมีความแห้งหดตัว ผิวพระบางองค์มีรอยย่นยางของนํ้าว่านผุดขึ้นมา

ปลุกเสก

หลวงพ่อโอด ปลุกเสกให้ในพระอุโบสถ วัดจันเสน เมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๒๑

พิธีพุทธาภิเษก
วันที่ ๕ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๒ มีพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลของ หลวงปู่สี วัดถํ้าเขาบุญนาค จังหวัดนครสรรค์ พระปลัดบุศย์ พระสุนันท์ พระครูใบฎีกา สิทธิพันธ์ นายจตุรงค์ นายอุดม และคณะศิษย์วัดจันเสน จึงนำพระปิดตาเนื้อว่านชุดนี้เข้า พิธีพุทธาภิเษก ที่วัดถํ้าเขาบุญนาค จ.นครสรรค์ด้วย

ในพิธีครั้งนั้นมี หลวงพ่อโอด เป็นเจ้าพิธีจุดเทียนชัย พระเกจิอาจารย์ที่ได้นิมนต์เข้าร่วมพิธพุทธาภิเษก มี
๑. หลวงปู่คำมี วัดถํ้าคูหาสวรรค์ ลพบุรี
๒.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
๓.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
๔.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู ลพบุรี
๕.หลวงพ่อสด วัดหางนํ้าสาคร ชัยนาท
๖.หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดบางเลน นครปฐม
๗.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง สมุทรสาคร
๘.หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพ นครสวรรค์
ฯลฯ

เมื่อเสร็จพิธีเล้ว พระปลัดบุศย์ได้นำพระปิดตา ออกแจกเป็นครั้งแรกให้แก่ พระเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่มาเข้าร่วมพิธีองค์ละถุงใหญ่ๆจากนั้นจึงนำกลับ วัดจันเสน มอบให้แก่หลวงพ่อโอด ไว้แจกใน งานทำบุญวันเกิด ปี พ.ศ.๒๕๒๒ ซึ่งคณะกรรมการวัดจัดขึ้นทุกปีในวันอาทิตย์แรกของเดือนมกราคม ของทุกๆปี ซึ่งวันอาทิตย์แรกของเดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๓๒ ตรงกับวันที่ ๗ เดือนยี่ ขึ้น๑๐ คํ่า...มีประชาชนไปสรงนํ้าหลวงพ่อโอดและรับแจกพระปิดตา กันมาก...หลวงพ่อโอดตั้งชื่อให้ว่า พระปิดตารุ่นแจกทาน

เมื่อเสร็จพิธีแล้ว พระปลัดบุศย์ ได้ขอหลวงพ่อโอดมาเก็บไว้จำนวนหนึ่ง เพื่อแจกในงานวันฌาปนกิจศพของตัวเอง ส่วนที่เหลือทางคณะกรรมการวัดได้นำออกให้ประชาชนได้เช่าบูชา ในงานวันสงกานต์ และงานวันเพ็ญเดือนสิบสอง ได้ปัจจัยมาซ่อมแซมกุฏิวิปัสสนา สำเร็จถึง ๕ หลัง และหลวงพ่อโอด ท่านยังใจดี พระวัดใดในจังหวัดนครสวรรค์ มาขอวัตถุมงคลเพื่อสมณาคุณแก่ผู้มาทอดกฐิน ผ้าป่า ท่านก็จัดพระปิดตาเนื้อว่านรุ่นแจกทานให้ไป

พุทธลักษณะพระปิดตา

รุ่นแจกทาน เนื้อว่าน พ.ศ. ๒๕๒๒

พิมพ์ สามเหลี่ยมหน้าจั่วปลายมนครึ่งซีก
ด้านหน้า เป็นองค์พระควัมบดี นั่งขัดสมาธิราบ พระวรกายอวบอ้วน พระเศียรกลมโต ยกมือทั้ง ๒ ขึ้นปิดตา ฝ่ามือทั้ง ๒ คลุมเต็มใบหน้า เห็นนิ้วมือทั้งสิบชัดเจน เห็นพระกรรณกางยาวจรดไหล่ ช่วงต้นแขนอวบโค้งมน ปลายแขนวางคํ้าพุง ซึ่งนูนเป็นรูปสามเหลี่ยม พระนภีโบ๋กลม พระชานุโค้ง ปลายพระบาทแหลม พระบาทขวาซ้อนพระบาทซ้าย องค์พระห่มจีวรแนบพระวรกาย ไม่แลเห็นชายจีวรหรือผ้าสังฆาฏิ แม่พิมพ์ตัดชิดองค์พระ

ด้านหลัง เรียบ มียันต์นูนเส้นบางๆ ๒ ยันต์ ยันต์บนเป็น ยันต์เฑาะขัดสมาธิ หางไขว้ขดสูงขึ้นไปคล้ายฉัตร ๕ ชั้น ด้านล่างเป็นยันต์อุ

 

950.สุดยอดเมตตามหานิยม พระปิดตามหาเสน่ห์ หลวงพ่อเกิด วัดทัพหลวง จ.นครปฐม ราวๆปี 2495-2500 ให้บูชา 2550 บาท

​

หลวงพ่อเกิด จันทสโร วัดทัพหลวง จ. นครปฐม หลวงพ่อเกิด จันทสโร หรือท่านเจ้าคุณ พระวิหารการโกวิท ท่านเป็นสุดยอดเกจิของเมืองนครปฐมอีกองค์ และท่านยังเป็นศิษย์ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง มากมาย เช่น หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก หลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง ครั้งเมื่อท่านได้เข้ามาเยี่ยมเยียนสหธรรมมิกของท่านในกรุงเทพ คือ ท่านหลวงพ่อเงิน วัดอินทรวิหาร ท่านได้ขอเอาผงเก่าที่พบในองค์หลวงพ่อโต วัดอินทร์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผงเก่าที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)ท่านสร้างและบรรจุไว้ในองค์หลวงพ่อโต ซึ่งหลวงพ่อเงิน ท่านก็ได้มอบให้ไป ในการนี้หลวงพ่อเกิด ท่านได้นำผงที่รับไปนั้น ผสมกับผงวิเศษของพระอาจารย์ของท่าน คือ ผงมหาเสน่ห์หลวงปู่ศุข ผงปัทมังหลวงพ่อเดิม ผงมหาอุตย์หลวงพ่อทา ผงอาถรรพย์หลวงปู่จันทร์ ผงมหาเมตตาหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม มากดเป็นพิมพ์พระปิดตา
พิธีปลุกเสกมีพระเกจิเข้าร่วมดังนี้
หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง
หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
หลวงพ่อแตง วัดดอนยอ
หลวงพ่อส่วน วัดป่าไก่
และหลวงพ่อเกิด วัดทัพหลวง
หลังพิธีการปลุกเสกเสร็จสิ้นลง ท่านได้แจกพระปิดตารุ่นนี้ให้กับลูกศิษย์ลูกหาในงานนั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วหลวงพ่อเกิดได้เก็บรักษาพระชุดนี้ไว้ พระจึงได้แพร่หลายสู่สนามในเวลาที่ผ่านมาได้ไม่กี่ปีนี้เอง นับเป็นของดีที่น่าสะสมและบูชาอีกหนึ่งองค์ ประสบการณ์พระชุดนี้มีมากที่สุดในเรื่องมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามเพราะมีผงวิเศษหลายประการ