พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet626, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    884. ชุดพระนอกวัดที่ดีที่สุดอีกชุดนึง พระสมเด็จ วัดท่าทอง ปี18 ปิดรายการครับ

    upload_2022-10-4_14-34-12.png

    upload_2022-10-4_15-9-18.png

    สมเด็จวัดท่าทอง สุพรรณบุรี พระชุดนี้สร้างปี 2518 มีการสร้างวัตถุมงคลหลายเเบบ ในพิธีมีเกจิมาปลุกเสกพระสามรูปคือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ,หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ,หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ โดย พระมหาจ้อย วัดประดู่ในทรงธรรม เป็นคนนิมนต์หลวงปู่โต๊ะมาร่วมพิธี พระมหาจ้อยนี้ น่าจะเป็นคนพื้นเพเเถววัดท่าทอง นั่นเอง ส่วนหลวงพ่อกวยนั้น อาจารย์ผ่อง วัดท่าทอง ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อ ได้นิมนต์หลวงพ่อไปเสก ว่ากันว่า ขณะทำพิธี เกจิทั้งสามอาจมีการลองวิชากันด้วย ขณะพักครึ่งปลุกเสกพระ หลวงปู่โต๊ะ ได้ถามนายทนง เหล่ากอดี คนบ้านปากน้ำว่า "พระครูองค์นี้อยู่วัดไหน ชื่ออะไร" พร้อมกับทำมือบุ้ยไปทางหลวงพ่อกวย หลวงปู่ยังพูดอีกว่า "เเปลกมาก ทำไมฉันถึงไม่รู้จัก อาคมเเก่กล้าเหลือเกิน"
    วันรุ่นขึ้นหลังพิธี มีคนนำพระบางอย่างไปลองยิง ยิงไม่ออก คนเลยเเห่มาเช่า จนทางวัดต้องระงับการจำหน่ายพระ พระในพิธีได้ถูกเช่าไปหมด หลังจากพิธีปลุกเสกไปไม่นาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2022
  2. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468

    upload_2022-10-4_15-19-15.png
     
  3. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    885. สุดยอดเกจิ 5 แผ่นดิน รูปหล่อปั๊มรุ่น3 หลวงพ่อปุย วัดเกาะ จ.สุพรรณบุรี สร้างปี 2522 ให้บูชา 1650 บาท

    upload_2022-10-4_15-25-24.png

    upload_2022-10-4_15-25-48.png

    พระครูวรนาถรังษี หลวงพ่อปุย ปุญญสิริ วัดเกาะ ถนนศรีประจันต์-ดอนเจดีย์ ตำบลวังหว้า อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    ชีวประวัติหลวงพ่อปุย วัดเกาะ“เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำสุพรรณ ๑ ใน ๔ สิงห์แห่งลุ่มน้ำท่าคอย” ขมังเวทย์ผู้มีอายุยืนยาว ๕ แผ่นดิน

    หลวงพ่อปุย พระคณาจารย์ผู้มีเวทย์วิทยาคมแก่กล้า
    มีพลังจิตสูงสามารถกำราบปราบภูตผีต่างๆได้ (ไล่ผีได้)
    ทั้งยังมีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมต่างๆ ความเฉียบขาด
    ความดุ และวาจาศักดิ์สิทธิ์ประดุจพระร่วงของหลวงพ่อปุย
    เป็นที่กล่าวขานกันมากจนบรรดานักเลงใหญ่และเสือร้าย(โจร)
    ทั้งหลายของเมืองสุพรรณต่างเกรงกลัวบารมีของท่าน
    .
    หลวงพ่อมีนามว่า ปุย นามสกุล รักกูล เกิดเมื่อวันที่ ๓๑ เดือนพฤษภาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๓๘ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะแม
    ณ.บริเวณศาลเจ้าพ่อพระปู่หมื่น บ้านบางงาม ตำบลวังหว้า อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โยมบิดาชื่อ ฉลาด โยมมารดาชื่อ แรด มีอาชีพทำนา หลวงพ่อเป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง๕ คน
    .
    ในวัยเยาว์อายุ๕ขวบ บิดามารดาได้นำไปฝากไว้กับหลวงปู่เฒ่าพราย วัดเกาะ พระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงยุครุ่นเดียวกับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของหลวงพ่อปุยท่าน ให้เล่าเรียนหนังสือเพื่อจะได้มีความรู้
    .
    ท่านเป็นเด็กที่มีลักษณะเข้มแข็ง จะเล่นอะไรจะทำอะไรต้องเป็นหัวหน้าคน ติดจะเป็นคนจริง แต่ถือคติที่ว่า ไม่รังแกใครก่อน แต่ใครจะมารังแกไม่ได้
    .
    ท่านอยู่วัดเกาะตั้งแต่วัยเด็กถึงเติบโตเป็นหนุ่ม ซึ่งนับเป็นระยะเวลาหลายปี
    ระหว่างที่อยู่วัดเกาะท่านได้ศึกษาอักขระไทยและขอม วิปัสสนากรรมฐาน แพทย์แผนโบราณและเวทมนต์คาถาอาคมต่างๆจากหลวงปู่เฒ่าพราย
    .
    แล้วเวลาว่างท่านยังพายเรือไปตามแม่น้ำบ้านคอย เพื่อไปศึกษาวิชาต่างๆจากหลวงพ่อวัดใหม่โรงหีบ (วัดตั้งอยู่ไม่ไกลกันนัก) จึงทำให้ท่านมีความรู้ในด้านต่างๆอย่างมากมาย
    .
    วัยหนุ่มมีรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแรงบึกบึน ใจคอกล้าหาญเฉียบขาด มีความเป็นผู้นำ ทั้งยังมีวิชาอาคม พรรคพวกนักเลงทั้งหลายจึงยกย่องให้เป็นลูกพี่ บิดามารดาเห็นว่าต่อไปสักวันอาจจะพลาดพลั้งเกเรไปเป็นเสือเป็นโจรได้ จึงให้กลับมาช่วยทำงานที่บ้าน
    .
    ปีพุทธศักราช ๒๔๕๘ ท่านได้เข้ารับราชการประจำการเป็นทหารอยู่ ๒ ปี เมื่อปลดจากประจำการแล้ว ท่านได้อุปสมบทเพื่อทดแทนคุณบิดามารดาและผู้มีพระคุณทั้งหลาย
    .
    อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๓ ปี เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๗ เดือนพฤษภาคม ปีพุทธศักราช ๒๔๖๑ ณ. พัทธสีมาวัดเกาะ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมี
    หลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว เป็นพระอุปัชฌาย์
    หลวงพ่อพริ้ง วัดวรจันทร์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    หลวงพ่ออินทร์ วัดราษฎรบำรุง (หลวงพ่อวัดใหม่โรงหีบ)
    เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า “ปุญญสิริ”
    .
    หลังจากอุปสมบท ก็ได้อยู่จำพรรษาที่วัดเกาะ ได้ศึกษาพระธรรมวินัย และวิปัสสนากรรมฐานควบคู่กันไปอีกหลวงพ่อปุยท่านเป็นผู้ใฝ่การศึกษา ( คนโบราณเรียกว่าผู้คงแก่เรียน ) จึงได้เพียรศึกษาหาวิชาความรู้จากพระอาจารย์หลายๆท่าน เช่น
    - ศึกษาอักขระไทยและขอม วิปัสสนากรรมฐาน แพทย์แผนโบราณ และวิชาอาคมต่างๆจาก หลวงปู่เฒ่าพราย วัดเกาะ
    และหลวงพ่อวัดใหม่โรงหีบ
    - ศึกษาการแสดงพระธรรมเทศนาแบบโบราณจากหลวงตาอ่วม
    วัดเกาะ ( การแสดงพระธรรมเช่นนี้หาได้ยากใกล้จะสูญหายแล้ว)
    - ศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน และวิชาอาคมต่างๆ
    จากหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา , หลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว ,
    หลวงพ่อพริ้ง วัดวรจันทร์
    - แลกเปลี่ยนความรู้ด้านพุทธาคม แพทย์แผนโบราณ และด้านต่างๆกับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ , หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย เป็นต้น
    .
    อุปนิสัยอีกอย่างของท่านคือ เป็นผู้มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี จึงทำให้ท่านมีสหธรรมิกและสนิทชิดชอบกับพระเกจิอาจารย์ดังมากมายหลายท่าน เช่น
    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
    ท่านเจ้าคุณเมตตาวิหารี วัดคูหาสวรรค์
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
    หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
    หลวงปู่แขก วัดหัวเขา
    หลวงพ่อปอ วัดบ้านบึง
    หลวงพ่อกอง วัดโพธาราม
    หลวงพ่อแช่ม วัดราษฎรบำรุง
    หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี
    หลวงตาจวน วัดไก่เตี้ย เป็นต้น
    ครั้งหนึ่งสมเด็จพระสังฆราชป๋า วัดพระเชตุพลวิมลมังคลาราม ทรงตรัสชมท่านเป็นพระบ้านนอกธรรมดาที่ไม่ธรรมดา พร้อมกับมอบปากกาด้ามทองในย่ามประทานให้ และบางครั้งหากสมเด็จพระสังฆราช ท่านเสด็จเดินทางผ่านมาเมืองสุพรรณ ท่านก็มักจะเสด็จไปพบและพูดคุยกับหลวงพ่อปุยที่วัดเกาะด้วย
    อำเภอศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นแหล่งที่มีพระภิกษุชั้นมหาเปรียญมากที่สุดในประเทศไทย มีพระภิกษุสำเร็จการศึกษาเปรียญธรรม ๙ ประโยคหลายสิบท่าน ตั้งแต่สมัยอดีตจวบจนปัจจุบัน และพระภิกษุที่ได้รับเปรียญธรรม ๙ นั้น ส่วนใหญ่นั้นล้วนแต่เป็นศิษย์หลวงพ่อปุย วัดเกาะ จบการศึกษาจากสำนักเรียนวัดเกาะทั้งนั้น ทั้งๆที่หลวงพ่อปุยท่านก็ไม่ได้เป็นพระมหาเปรียญ เป็นเพียงพระที่จบนักธรรมตรีเท่านั้น แต่ท่านสามารถอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ท่านจนได้เป็นถึงพระมหาเปรียญ
    .
    หลวงพ่อปุยท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย อาทิ พระธรรมปัญญาภรณ์ ( เจ้าคุณสุชาติ )เลขานุการแม่กองบาลีสนามหลวงเจ้าคณะภาค๕ วัดปากน้ำ , หลวงพ่อเซ้ง วัดเกาะ ( มรณภาพแล้ว ), ดร.เสริม วงษ์จันทร์ , ศาสตราเชาวน์ มณีวงศ์ ฯลฯ เป็นต้น
    วัตถุมงคลของหลวงพ่อปุย ท่านสร้างไว้หลายประเภท ได้แก่ ภาพถ่าย ตะกรุด แหวน เหรียญรูปเหมือน พระผงรูปเหมือน รูปหล่อ ล็อกเก็ต ซึ่งวัตถุมงคลทุกรุ่นทุกชนิดล้วนแต่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น เคยมีผู้มีประสบการณ์จากวัตถุมงคลของท่านมากมาย อย่างเช่น
    - ( เหรียญรุ่นแรก , เหรียญรุ่นบล็อกแตก ) นายห่ง ศรีบานเย็น
    นักเลงขึ้นชื่อเมืองสุพรรณ ถูกยิง2ครั้ง ด้วยปืน เอ็ม.16 แต่ไม่เข้า ,
    ถูกยิงด้วยปืน 11 มม. แต่ไม่เข้า
    - ( ภาพถ่ายขนาดบูชารุ่นแรก ปี 2509 ) ภรรยานายห่ง ศรีบานเย็น
    ถูกยิงด้วยปืน เอ็ม.16 ( เหตุการณ์เกิดพร้อมกับนายห่ง )
    แต่แคล้วคลาด ลูกกระสุนไม่โดนเลย
    - ( เหรียญรุ่น ๒ ) สองสามีภรรยาลูกบ้านวัดเกาะทั้งคู่
    คล้องเหรียญรุ่น 2 ไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี
    ระหว่างทางฝนตก ถนนลื่น รถเกิดตกเหวแต่ไม่ตายทั้งคู่
    - ( เหรียญรุ่น ๓ ) วัยรุ่นถูกฟันด้วยดาบไม่เข้า
    - ( เหรียญรุ่นบล็อกแตก ) วัยรุ่น4คนไปเที่ยวช่วงสงกรานต์
    ถูกฟัน3คน คนหนึ่งคล้องเหรียญบล็อกแตกองค์เดียว
    ถูกฟันด้วยมีดดาบเข้ากลางกะบาล แต่ไม่เข้า
    ส่วนเพื่อนที่เหลือไม่ได้คล้องพระอะไรเลย ถูกฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส
    - ( เหรียญรุ่นพิเศษ ) ถูกมีดเหน็บแทงไม่เข้า
    - ( เหรียญรุ่นวัดหนองเพียร ) ถูกตีหัวไม่แตก , รถแหกโค้ง คนที่คล้องเหรียญหลวงพ่อปุยไม่มีแม้แต่แผล ส่วนคนที่ไม่ได้คล้องพระอาการสาหัส
    - รถเก๋งชนกับรถสิบล้อ สภาพยับเยินซ่อมไม่ได้ แต่คนขับไม่ตาย ( เหรียญรุ่นพระราชทานเพลิงศพ )
    หลวงพ่อปุยท่านละสังขารวันที่ ๘ เดือนกุมภาพันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ สิริอายุ ๘๔ ปี ๖๑ พรรษา หลังจากมรณะภาพแล้วทางวัดเก็บศพไว้หลายปี เมื่อเปิดดูปรากฏว่าศพท่านไม่เน่า แต่ต่อมาก็ได้พระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๐

     
  4. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    886. พระดีในตำนาน พระผงกรุวัดใหม่ปากบาง ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิมพ์นางพญา ให้บูชา 1450 บาท

    upload_2022-10-4_17-6-26.png

    upload_2022-10-4_17-6-33.png

    โดยหลวงปู่ทรัพย์ อดีตเจ้าอาวาสรูปแรก ท่านเป็นชาวอำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ธุดงค์เดินทางรอนแรมมาปักกลดอยู่ที่ตำบลท่าตอ มาสร้างวัดใหม่ปากบางสำเร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๔ .. แต่ก่อนนั้นเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆ มีท่านกับพระอีกรูปหนึ่ง ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นเจ้าประคุณสมเด็จฯพระพุฒาจารย์โต วัดระฆังฯ นั่นเอง

    ลำดับเจ้าอาวาสมีดังนี้
    1. หลวงปู่ทรัพย์
    2. หลวงปู่เฮง
    3. หลวงปู่ฮี้
    4. พระครูสถิตธรรมโสภิษ
    5. พระอธิการคำ ฐิตาจาโร
    6. พระครูสมุห์เชวง ทินนปาโร เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน

    .. ตามประวัติว่ามีพระเครื่องแตกกรุจากพระเจดีย์ ช่วงสงครามโลก ประมาณปี๒๔๘๕ และมีการลักลอบขุดกรุกันเรื่อยๆ จนทางวัดได้เปิดกรุพระเครื่องอย่างเป็นทางการเมื่อประมาณปี๒๔๙๕ เพื่อให้ชาวบ้านทำบุญสร้าง และ บูรณะวัด .. ชาวบ้านต่างศรัทธากันมากเนื่องจากมีความเชื่อว่าสมเด็จฯโต ท่านมีส่วนร่วมมอบผงเก่าเป็นมวลสารผสม และ ร่วมปลุกเสกด้วยครับ ว่ากันว่า แม้แต่พระเกจิที่มีชื่อเสียงในละแวกอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี หลายๆท่านยังมีพระผงวัดใหม่ปากบางติดย่ามบูชากัน โดยพุทธคุณเน้นด้านเมตตามหานิยม และ แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม
    .. พิมพ์ที่พบทั่วไปมี เล็บมือฐานสามชั้น...นางพญา...กลีบบัวอกนูน...ยืนประทานพร...
    .. เนื้อหามวลสารผงเก่า เม็ดแร่กรวดเสกเป็นส่วนผสม บางองค์แก่ผง บางองค์แร่เยอะ บางองค์ที่ก้นกรุก็มีคราบกรุฟองเต้าหู้หนา(คล้ายกรุวัดเงินคลองเตย) บางองค์ผิวสะอาด แต่ก็ยังมีคราบกรุบางๆให้เห็น

     
  5. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    887.พระชุด จงอางศึก ปี14 ยุคต้นๆ ของหลวงพ่อครับ พระปิดตารุ่นแรก ปี 2514/ พระรอด ปี14 รุ่น จงอางออกศึก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ให้บูชาองค์ละ 899 บาท (แพ๊คคู่ 1550 บาท)

    upload_2022-10-4_17-23-9.png

    upload_2022-10-4_17-31-35.png

    หลวงพ่อแพ เขมังกโร วัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่ได้รับความเคารพศรัทธาและเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของไทยอีกรูปหนึ่ง ด้วยปฏิปทาของท่านที่เป็นพระนักปฏิบัติและนักพัฒนา มีความเชี่ยวชาญทางด้านคาถาอาคม และการสร้างวัตถุมงคลอีกรูปหนึ่งของภาคกลางของไทย หลวงพ่อแพมรณภาพ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2542 สิริอายุ 94 ปี ในตลอดชีวิตของท่านได้อุทิศตนบำเพ็ญประโยชน์ให้กับกับพระศาสนา ตลอดจนเป็นที่พึ่งให้กับพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก จนได้รับสมศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม นามพระธรรมุนี

    ทางด้านพระเครื่องและวัตถุมงคลนั้นหลวงพ่อท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีพลังจิตแก่กล้า มีความเชี่ยวชาญทางด้านคาถาอาคม ตลอดจนการสร้างและการปลุกเสกพระเครื่อง ท่านได้สร้างพระเครื่องขึ้นมากมายหลายรุ่น นับได้กว่าสามร้อยกว่ารุ่น ซึ่งบางรุ่นได้รับความนิยมในแง่ของการเล่นหาในวงการพระเครื่อง แต่พระเครื่องที่ท่านปลุกเสกทุกรุ่นล้วนแล้วแต่มีความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลังยิ่งนัก

    พระปิดตามหาอุตม์รุ่นแรก หลวงพ่อแพ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2514 ถือเป็นพระปิดตารุ่นแรกของหลวงพ่อ มีลักษณะพิมพ์ทรงเป็นพระปิดตาปิดทวารทั้ง 9 หรือเรียกกันว่า พระปิดตามหาอุตม์ หรือมหาอุด คือปิดทวารทั้ง 9 ซึ่งเป็นหนึ่งในพิมพ์พระปิดตาที่มีมาแต่โบราณกาล ด้านหลังตรงกลางเป็น ยันต์พุทซ้อน ซึ่งเป็นยันต์ที่ใช้ในวัตถุมงคลของหลวงพ่อทั้งหมดทุกรุ่น ด้านล่างมีอักขระขอม อ่านว่า “อุด ธัง อัด โธ ธา อัด ธัง อุด” ซึ่งเป็นคาถามหาอุตม์ สร้างด้วยเนื้อใบลานผสมผงพุทธคุณที่หลวงพ่อได้ลบไว้ เล่ากันว่าสร้างขึ้นเพื่อแจกทหาร และชาวบ้านเพื่อไว้ติดตัวเพื่อคุ้มครองป้องกันภัย เพราะในยุคนั้นมีสงคราม ร่มเกล้า เป็นหนึ่งในพระปิดตาดีอีกรุ่นหนึ่งที่มีคุณค่าน่าบูชาสะสมเป็นอย่างยิ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2022
  6. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468

    upload_2022-10-4_21-29-40.png
     
  7. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    888. พระดีพิธีใหญ่ พระผงรูปเหมือน ปี20 หลวงปู่เเหวน วัดดอยเเม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ พิเศษสุดๆเกศาเเก้วใสๆ ปิดรายการครับ


    upload_2022-10-5_11-11-7.png

    upload_2022-10-5_11-12-23.png


    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ท่านได้เล่าถึงบรรการปลุกเสกพระ ไว้ดังนี้
    "พอใครขนเอาเครื่องรางไปวางเสร็จ หลวงปู่แหวนก็ตั้งท่าสงบใจสงเคราะห์ อาตมาก็จับดู จิตของหลวงปู่แหวน ดูอารมณ์จิตของท่านว่าจะทำยังไง ครั้นแล้ว ก็เห็นอารมณ์จิตของหลวงปู่แหวนผ่องใสเป็นดาวประกายพฤกษ์เต็มดวง ลอยอยู่ในอกท่าน
    เวลานั้นกำลังจิตของหลวงปู่แหวน ก็คิดว่า ขออาราธนาบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ให้มาโปรดช่วยทำของเหล่านี้ ให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ เป็นมิ่งขวัญมงคล ของบรรดาท่านพุทธบริษัท ให้เข้าถึงพระธรรม โดยความจริง หลวงปู่แหวนไม่คิดว่าเสกให้เอาไปตีกับชาวบ้าน เอาไปปล้นชาวบ้าน ท่านเสกให้คนเข้าถึงธรรม ท่านนึกในใจต่อไป หลวงปู่แหวนก็อาราธนาบารมีของพระอรหันต์ทั้งหมด บารมีของพรหม ของเทวดาทั้งหมด ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์
    พอถึงพระอรหันต์ อาตมาก็เห็นหลวงปู่ตื้อ ปรี๊ดมาถึงข้างหลัง เอากำปั้นลงหลังอาตมาปั๊บเข้าให้ แล้วถามว่า เฮ้ย... มึงมานั่งอยู่ทำไมวะ อาตมาก็เลยบอกไปว่านี่ ... พระผี ไม่ต้องพูด หลวงปู่แหวนเชิญพระผีนะ ไม่ได้เชิญพระมีเนื้อหนังมังสา มีหน้าที่อะไรก็ทำไป แล้วก็ได้เห็นกระแสจิตหลวงปู่แหวน เป็นประกายพฤกษ์พุ่งออกมาจากอก สว่างเจิดจ้า ใหญ่เหลือเกิน คลุมเครื่องรางของขลังทั้งหมด แสงสว่างประกายพฤกษ์ของจิตพระอรหันตเจ้า แทรกลงไปในเครื่องรางของขลัง อยู่ผิวด้านหน้ายันข้างล่างสุด เรียกว่าคลุมหมดอาบลงไปหมดเลย โพลงสว่างสุกปลั่งไปหมด คล้ายตกอยู่ในเบ้าหลอม เป็นกระแสสว่างของจิตที่เยือกเย็น เต็มไปด้วยอำนาจพุทธบารมี เห็นแล้วรู้สึกเยือกเย็นสบายอย่างประหลาด บอกไม่ถูก"

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2022
  8. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    889. 1 ใน 5 เบญจภาคีเหรียญหลวงปู่ยอดนิยมสร้างนอกวัด เหรียญรูปเหมือนหันข้าง ออกวัดบ้านน้อยจังหวัดกาญจนบุรี ปี2514 ปิดรายการครับ


    upload_2022-10-5_12-7-15.png



    เหรียญรุ่นนี้ จัดสร้างในปี 2514 ออกที่ วัดบ้านน้อย จ.กาญจนบุรี ลักษณะเหรียญเป็นรูปอาร์ม ด้านหน้า เป็นรูปเหมือน หลวงปู่โต๊ะ มีภาษาไทย เขียนว่า พระครูวิริยกิตติ ด้านหลัง เป็นรูปเหมือน พระพุทธรูปปางมารวิชัย บนฐานกลีบบัว ด้านบนใกล้รูห่วงของเหรียญ มีการบรรจุ ยันต์เฑาะว์ ด้านซ้ายองค์พระ เขียนภาษาไทย วัดบ้านน้อย ส่วนทางด้านขวา เขียนว่า จ.กาญจนบุรี ใต้ฐานกลีบบัว ระบุวันที่ 4 มี.ค. 2514 ล้อมด้วยอักขระขอม เหตุแห่งการสร้าง อาจารย์เทอญ เคยจำพรรษาที่วัดประดู่ฉิมพลี ต่อมาย้ายมายังวัดบ้านน้อย จึงขออนุญาต หลวงปู่โต๊ะ จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น เพื่อพัฒนาวัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2022
  9. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    890. สมเด็จผงอิทธิเจ หลังยันต์พญาเงินมา หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ สวยเดิม ๆ พระพิมพ์นี้ เด่นทางโชคลาภเเละค้าขายดี ท่านที่ประกอบกิจการต่างๆ ควรมีติดตัวไว้ ดีมาก ปิดรายการครับ

    upload_2022-10-5_14-57-58.png

    upload_2022-10-5_14-59-5.png

    upload_2022-9-20_7-41-31-png.png

    "พระสมเด็จพญาเงินมา เนื้อผงอิทธิเจที่หลวงปู่ลบเอง สร้างขึ้นพร้อมกับสมเด็จนะหน้าทอง ด้านหลังติดเเผ่นยันต์พญาเงินมา พระพิมพ์นี้ เด่นทางโชคลาภเเละค้าขายดี ท่านที่กระกอบกิจการต่างๆ ควรมีติดตัวไว้ ดีมาก พระพิมพ์นี้ มีวิธีบูชาคือ ตั้งนะโมสามจบ นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ เเล้วให้ภาวนาคาถาว่า สวัสดีชัยยะ มหาลาภา เงินทองไหลมา อาคัจฉายะ.....ให้เสกทุกวัน จะทำมาค้าขายดี เงินทองไหลมาเทมา ข้อเเม้คือ บุคคลที่จะใช้ได้ผลเร็ว ต้องเป็นผู้กตัญญู รู้คุณ จะเห็นผลทันตา ถ้าเป็นคนอกตัญญูจะไม่เกิดผลใดๆ พระสมเด็จพิมพ์นี้สร้างพร้อมสมเด็จพญาเงินมา เนื้อผงพุทธคุณที่หลวงปู่ลบเองล้วนๆ เค้าว่าเป็นผงอิทธิเจ ด้านหลังบรรจุเเผ่นยันต์คาถานะหน้าทอง เป็นพระผงที่มีประสบการณ์สูงมาก เด่นทางเมตตามหานิยมมากๆ การใช้ยันต์นะหน้าทอง มีวิธีการใช้คร่าวๆ ดังนี้ เอาเเป้งร้ำหนึ่งเม็ดวางไว้บนตัวยันต์ สำรวมจิตให้ดี ตั้งนะโมสามจบ เเล้วภาวนาคาถาว่า นะภาโร สุวัณโณอิวะ.... จบเเล้วกดเเป้งให้เเตก เเล้วภาวนาเเป้งเสกว่า โอมพระฤาษีทั้งสี่ตน ประสาทมนต์มอบประสิทธิไว้ให้เเก่กู หญิงชายทั่วทั้งชมภู เห็นกูก็งามดังเทวา......จากนั้น นำเเป้งนี้ไปผัดหน้า จะทำให้มีเสน่ห์ เมตตามหานิยม เป็นที่รักเเก่เพศตรงข้ามเเละคนทั่วไป คนที่เกลียดก็จะกลายเป็นมิตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2023
  10. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    891. สมเด็จเนื้อดิน รุ่นแรก หลวงพ่อสร้อย วิจาโร (หลวงพ่อบาตรโต) วัดเขาแก้ว ต.ต้นตาล อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ให้บูชา 650 บาท


    upload_2022-10-5_16-37-56.png

    พระอาจารย์สร้อย วิจาโร (หลวงพ่อสร้อย)
    พระอาจารย์สร้อย วิจาโร เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียง และทรงคุณด้านวิปัสสนากรรมฐาน ฉันอาหารมังสวิรัติมื้อเดียวเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชนมาก พระครูศรีรัตนาบาลได้นิมนต์มาจำพรรษา ณ วัดเขาแก้ว เมื่อปีพ.ศ.๒๕๐๓ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการช่วยก่อสร้างพระเจดีย์และศาลาการเปรียญท่านได้มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่ออายุ ๗๙ ปี
    บิณฑบาตรเทวดา
    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๓-๒๕๐๔ พระอาจารย์สร้อยธุดงค์ไปปักกลดอยู่แถวปลายทุ่งบางกะปิ ใครจะนิมนต์ท่านเข้าไปในชายคาบ้านท่านไม่ยอม ต่อมา พลเรือตรีสนิท โปกฤษณะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารเรือบุคคโล ไปพบเข้า มีความเลื่อมใส และได้ทราบว่าพระอาจารย์สร้อยอาพาธ จึงนิมนต์เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารเรือ โดยให้อยู่ตึก ๑ พิเศษ
    ปฎิปทาของ พระอาจารย์สร้อย คือตอนเช้าท่านต้องบิณฑบาตรทุกวัน ท่านไม่ได้ไปไกลท่านจะออกจากตึกคนไข้พิเศษ ๑ แล้วเดินไปที่ประตูทางเข้าออกตรงโรงพยาบาลทหารเรือ ซึ่งตรงนั้นมีต้นมะฮอกกานีแล้วท่านก็ยืนหลับตาอยู่ประมาณ ๑๔ นาที จึงลืมตาขึ้นแล้วถือบาตรกลับ เข้าห้องพักคนป่วย ตรงที่ท่านไปยืนอยู่ใต้ต้นมะฮอกกานีนั้นเป็นทางผ่านเข้าออกของคนไปมาปกติ ทุกคนเห็นท่านยืนเฉย ๆ ไม่เห็นใครเอาอะไรมาใส่บาตรให้ แต่ทุกครั้งที่ท่านเอาบาตรกลับมาจะต้องมีข้าวสุกสีเหลืองอ่อน ๆ และดอกไม้แปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นในโลกนี้ติดมาด้วย ๒-๓ ดอกทุกครั้ง สร้างความแปลกใจแก่ผู้พบเห็นเป็นประจำ
    บาตรที่ท่านพระอาจารย์สร้อยจะเอาไปแขวนนั้นนายทหารเรือเป็นคนจัดให้ท่าน นายทหารเรือผู้นั้นยืนยันว่า ผมตรวจและทำความสะอาดทุกวัน ผมรับรองว่าบาตรว่าไม่มีอะไรจริงๆ เมื่อท่านเอาบาตรไปแขวนก็อยู่ในสายตาพวกผม เพราะไปไม่ไกลห่างจากตึก ๑ ประมาณไม่ถึง ๑๐ เมตร และติดกับประตูกรมแพทย์ทหารเรือ หมายถึงที่พระอาจารย์สร้อยไปยืนเอาบาตรแขวนต้นไม้ แต่แปลกตรงที่เราไม่เห็นว่าไม่มีใครเอาของมาใส่บาตรเลย ทุกครั้งที่ท่านเอาบาตรมาส่งให้กลับมีข้าวและดอกไม้กลับมาทุกวัน ปกติท่านสอนเตือนให้คณะนายทหารเรือละชั่ว ประพฤติดีทุกวันทำเอานายทหารเรือเลิกสุรายาเมาไปได้หลายคน
    พิสูจน์คุณธรรม
    วันหนึ่งหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้ไปกรมแพทย์ทหารเรือบุคคโล พอไปถึงนายทหารเล่าว่า พฤติกรรมแปลกประหลาดของ พระอาจารย์สร้อยให้ฟัง หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็นึกในใจว่าพระอาจารย์สร้อยผู้นี้อาจได้ฌาน (ชาน) โลกีย์ และอย่างสูงอาจได้พระอริยบุคคลก็ได้ ดังนั้น ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำจึงได้บอกกับบรรดานายทหารเรือว่า เอาอย่างนี้ซิ เรามาลองท่าอาจารย์สร้อยดูสักวิธีหนึ่ง คือ ลองพูดภาษาต่าง ๆ กับท่าน ถ้าท่านรู้เรื่องและพูดได้ทุกภาษาแล้ว ฉันคิดว่าพระอาจารย์สร้อยนี้เป็นอริยเจ้าขั้นปฏิสัมภิทาญาณ ผู้ที่จะได้ปฏิสัมภิทาญาณต้องเป็นพระอรหันต์เสียก่อน คุณสมบัติปฏิสัมภิทาญาณจึงจะปรากฏ
    ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้รวบรวมนายทหารเรือที่พูดภาษาต่างประเทศได้ ๖ ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน ญี่ปุ่น และมาลายู แล้วจึงส่งนายทหารเรือที่ชำนาญแต่ละภาษาเข้าไปพูดกับพระอาจารย์สร้อย ปรากฏอัศจรรย์ว่า พระอาจารย์สร้อย สามารถพูดตอบโต้ได้ทุกภาษาเล่นเอานายทหารเรือชุดนั้นงงไปตาม ๆ กัน นายทหารเรือชุดนั้นได้กราบเรียนถามพระอาจารย์สร้อยว่า ไปเรียนภาษาต่างประเทศมาจากไหน จึงสามารถพูดได้ทุกภาษาเช่นนี้ พระอาจารย์สร้อยตอบด้วยความเมตตาว่า อาตมาได้เคยเรียนมาก่อนเลยเห็นเขาพูดมาก็มีความเข้าใจ และพูดได้ตามต้องการเมื่อฟังเขาพูดมาก็มีความรู้สึกเข้าใจเช่นเดียวกับพูดภาษาไทย
    หลวงพ่อบาตรใหญ่
    หลวงพ่อสร้อย อายุ ๗๐ แล้วยังเดินธุดงค์มากรุงเทพฯได้ แสดงว่าท่านต้องแข็งแรงมาก จิตของหลวงพ่อสร้อยแข็งแต่ร่างกายของท่านไม่ค่อยแข็งแรง ท่านอายุมากแล้ว แต่ฉันภัตตาหารเพียงวันละหนึ่งมื้อ ฉันแต่ข้าวกับผักและเกลือ ไม่ฉันเนื้อสัตว์ทุกชนิด ท่านเลยเป็นโรคขาดสารอาหาร หลวงพ่อสร้อยจะใช้บาตรขนาดใหญ่มากออกบิณฑบาต ญาติโยมจะใส่จนเต็ม บาตรหนักมากแม้แต่คนธรรมดายังอุ้มไม่ไหว แต่หลวงพ่อท่านอุ้มบาตรนี้ได้เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร คนเลยเรียกท่านว่า หลวงพ่อบาตรใหญ่
    หลวงพ่อสร้อยจะฉันอาหารในบาตร ท่านจะเลือกฉันแต่ข้าวและผักเพียงนิดหน่อย ส่วนอาหารที่เหลือท่านจะเพ่งดูอยู่ครู่หนึ่งเพื่อกำหนดจิตอนุโมทนาและให้พรแก่ญาติโยมที่ถวายภัตตาหารแก่ท่าน ต่อจากนั้นท่าก็จะส่งข้าวปลาอาหารในบาตรให้ญาติโยมกินกันต่อไป

     
  11. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    892. พระดีในตำนาน 1 ใน 5 พระเกจิที่ได้ พัดงาสาน สมัย ร.5 พระสมเด็จหลวงพ่อผ่อง วัดคูหาสวรรค์ รุ่น 1 พิมพ์เล็บมือ ปี 2457 ให้บูชา 1150 บาท


    upload_2022-10-5_21-12-52.png

    upload_2022-10-5_21-13-12.png


    หลวงพ่อผ่อง ธัมมโชติโก วัดคูหาสวรรค์ หรือ วัดศาลาสี่หน้า เขตภาษีเจริญ จ.กรุงเทพฯ ในอดีตเป็นสำนักปฎิบัติกัมมัฎฐาน มีอดีตเจ้าอาวาสที่เชียวชาญในเรื่องนี้ และ เป็น เจ้าตำหรับ "สมเด็จพิมพ์เล็บมือ" คือ"พระวิสุทธิสารเถร"หรือ"หลวงพ่อผ่อง ธัมมโชติโก"สุดยอดพระเกจิยุคเก่าย่านฝั่งธนบุรีอีกรูปอีกทั้งยังเป็นสหธรรมิกที่สนิทชิดเชื้อกับ"หลวงปู่ชู วัดนาคปรก"ทั้งหลวงพ่อผ่องและหลวงปู่ชู เป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมจาก"หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง"วัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ที่ท่านสร้างแจกยุคแรกจะมีแต่ตะกรุดกับผ้ายันต์ ส่วนวัตถุมงคลยอดนิยมคือ"พระสมเด็จเล็บมือ"มีอยู่ด้วยกันสองรุ่นคือ รุ่นแรกสร้างประมาณปี 2457 ด้านหลังนูนเรียบไม่มียันต์ ส่วนรุ่นสองสร้างประมาณปี 2464 ด้านหลังจะปรากฎอุนาโลมประทับอยู่ทั้งสองรุ่นประมาณการไม่เกิน 5000 องค์ "หลวงพ่อผ่อง"เป็น 1 ใน3 ของเกจิอาจารย์ในฝั่งธนบุรี ที่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ให้ความเคารพนับถือ โดยเป็นพระเถระ 1 ใน 4 รูปที่ได้"พัดงาสาน"ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ประกอบด้วย
    1.หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
    2.พระสังวราชุ่ม วัดราชสิทธิฯ(วัดพลับ)
    3.อาจารย์ผ่อง วัดคูหาสวรรค์
    4.หลวงปู่ปั้น วัดสะพานสูง

    พระสมเด็จเล็บมือ หลวงพ่อผ่อง มีพุทธคุณเป็นเลิศปรากฏทางด้านเมตตามหานิยม และค้าขายร่ำรวย นับเป็นพระเนื้อผงก่อนปี 2500 ที่เข้มขลังด้วยพุทธาคมน่าสะสมพิมพ์หนึ่ง แต่ด้วยจำนวนการสร้างไม่มากนัก และโดยส่วนใหญ่จะอยู่ในครอบครองของชาวฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะชาวภาษีเจริญและใกล้เคียง ซึ่งต่างหวงแหนยิ่งนัก
     
  12. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    893. พระปิดตาเขมโก ลพ.เกษม วัดพลับพลา จ.นนทบุรี ปี2517 (รุ่นฟ้าลั่น) ให้บูชา 699 บาท

    upload_2022-10-5_22-17-49.png

    เมื่อปี พ.ศ.2517 วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี กำลังดำเนินการสร้างพระอุโบสถแต่ขาดทุนทรัพย์ จึงคิดไปขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเกษม ขอสร้างเหรียญและพระผงรุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา และหลวงพ่อเกษมได้อนุญาตให้สร้างตามประสงค์เมื่อวันที่20 สิงหาคม พ.ศ.2517 ทางวัดพลับพลาโดยหลวงพ่อพระครูสิรินนทคุณเจ้าอาวาส จึงได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น 3 รายการ คือ
    1.เหรียญรูปเหมือน หลวงพ่อเกษม เนื้อทองคำ เงิน นวโลหะ และทองแดง
    2.พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม และ
    3.พระปิดตาเขมโก

    เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้นำขึ้นไปให้หลวงพ่อเกษมปลุกเสก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2517 เวลา 19.39. น. ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ในการพิธีมนต์นี้ได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นซึ่งท่านพระครูสิรินนทคุณได้บันทึกไวัดังนี้ ในวันปลุกเสกนั้นเป็นเวลากลางคืนทางเหนือหมดฝนแล้วได้ เวลาหลวงพ่อเกษมเดินออกจากกุฏิที่พักของท่าน พอมาถึงศาลามุงแฝก (หญ้าคา) ปะรำพิธีปลุกเสก ข้าพเจ้ากับคณะกรรมการและทุกคนในที่นั้นได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ชาวลำปางจึงตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า รุ่นฟ้าลั่น ปัจจุบันนี้ชาวลำปางเก่าๆยังจำชื่อรุ่นฟ้าลั่นได้ พระชุดนี้เริ่มออกจำหน่ายจ่ายแจก ในวันที่ 9 ตุลาคม 2517 ที่วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี ได้เงินสมทบจากพระชุดนี้จนสร้างพระอุโบสถวัดพลับพลาสำเร็จ
     
  13. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    894. พระพิมพ์ซุ้มกอ เนื้อดินเผา พ.ศ.๒๔๖๐ พระนันทวิริยะเถร(ท่าเจ้าคุณโพธิ์) ปรมาจารย์เฒ่าจอมขมังเวทย์แห่งวัดชัยพฤกษ์มาลา ให้บูชา 800 บาท

    upload_2022-10-6_11-40-51.png


    วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อของท่านคือเหรียญหล่อพิมพ์ซุ้มกอ เนื้อสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีและขึ้นชื่อในเรื่องของประสบการณ์อยู่ยงคงกระพัน
    ...พระพิมพ์นี้ถอดพิมพ์จากเนื้อโลหะ ขนาดจึงย่อมลงมาจากเนื้อโลหะ...สร้างในคราวที่ท่านเจ้าคุณโพธิ์ ย้ายมาอยู่ที่วัดชัยพฤกษ์มาลา ตลิ่งชัน แล้ว
    ....ลักษณะเป็นเนื้อดินเผา แห้งๆ มีแร่กรวดเล็กน้อย หลังมีรอยกาบกระดาน ขอบตัดตอก...อย่างกับพระเครื่องหลวงพ่อพ่วง วัดกกเลย
    เก่ากว่าร้อยปี
     
  14. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    895. พระดี พิธีใหญ่ เหรียญพระชัยหลังช้าง หลัง ภ.ป.ร. ปี พ.ศ.2530 ให้บูชา 500 บาท

    upload_2022-10-6_11-46-31.png

    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น) วัดสามพระยา กรุงเทพฯ ยังได้ลิขิตไว้ว่า “เหรียญพระชัยหลังช้าง หากอยู่กับบ้านก็คุ้มบ้าน หากอยู่กับตัวก็คุ้มตัว”

    หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ท่านยังเคยปรารภแก่ลูกศิษย์ลูกหาไว้ว่า “…เหรียญพระชัยหลังช้างนี้ เป็นหนึ่งในพระดีที่น่าบูชาไว้ติดตัว เพราะมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์แท้จริง”


    “เหรียญพระชัยหลังช้าง หลัง ภปร ปีพ.ศ.2530” ในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในปีพ.ศ.2530 นับเป็นเหรียญมหามงคลอันทรงคุณค่า ที่งดงามทั้งพุทธศิลป์และล้ำเลิศในพุทธคุณยิ่ง

    ในปีพ.ศ.2530 ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งปวงชนชาวไทยทั่วประเทศต่างพร้อมใจกันร่วมถวายความจงรักภักดี โดยประกอบกิจกรรมต่างๆ มากมายเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ไม่เว้นแม้ทางคณะสงฆ์ โดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินธโร) วัดสามพระยา เป็นประธานในนามคณะสงฆ์ทั้ง 2 นิกาย ร่วมกันจัดสร้าง “เหรียญพระชัยหลังช้าง หลัง ภปร” ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และเปิดโอกาสให้ปวงชนชาวไทยได้ร่วมบุญเช่าบูชา รายได้ทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล


    เหรียญพระชัยหลังช้าง หลัง ภปร ปีพ.ศ.2530 จัดสร้างเป็นเนื้อทองคำ, เนื้อเงิน และเนื้อกะไหล่ทอง ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มทรงกลม รูปไข่ หูห่วง ด้านหน้า ประดิษฐานรูปพระชัยวัฒน์ ที่เรียกกันว่า “พระชัยหลังช้าง” ด้านหลังเป็นพระปรมาภิไธย “ภปร” มีอักษรปรากฏบนเหรียญว่า “๕ ธันวาคม ๒๕๓๐” และ “คณะสงฆ์สร้างในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ”
    ประกอบพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2530 ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งนับเป็นพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่และเข้มขลังสุดๆ ในยุคนั้นทีเดียว โดยมีพระเกจิผู้ทรงคุณวิเศษเกือบ 80 รูป เข้าร่วมพิธีปลุกเสกอธิษฐาน
    ประการสำคัญคือ มีสมเด็จพระสังฆราชถึง 2 พระองค์ อันได้แก่
    สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์) วัดราชบพิธฯ
    สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร
    ที่ต่อมาได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 19 ในปีพ.ศ.2532

    มีสมเด็จพระราชาคณะ ประกอบด้วย
    สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา,
    สมเด็จพระวันรัต วัดโสมนัสวิหาร,
    สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปทุมคงคา และ
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เมื่อครั้งเป็นที่ “พระพรหมคุณาภรณ์”

    นอกจากนี้ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุคจากทั่วประเทศได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีปลุกเสกอธิษฐานจิต อาทิ
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี,
    พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี,
    หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน จ.พระนครศรีอยุธยา,
    พระครูสันติ วรญาณ (สิม) วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่,
    พระอุดมสังวรเถร (อุตตมะ) วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี,
    พระครูฐาปนกิจสุนทร (เปิ่น) วัดบางพระ จ.นครปฐม,
    หลวงปู่ม่น วัดเนินตาหมาก จ.ชลบุรี,
    พระครูเกษมธรรมนันท์ (แช่ม) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม,
    พระครูปริมานุรักษ์ (พูล) วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ฯลฯ
     
  15. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    896. พระดีน่าบูชา ...ยุคนี้ ต้องพึ่งบารมีท่าน ครับ ขุนช้างจ้าวทรัพย์ หลวงพ่อทองใบ วัดศรีวิสารวาจา ให้บูชา 750 บาท


    upload_2022-10-6_11-52-27.png

    วัดศรีวิสารวาจา ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2513 ตามประวัติ พันเอกพระยาศรีวิสารวาจา ซึ่งท่านได้เป็นกำลัง สำคัญในการสร้างวัด ท่านเป็นผู้ที่มีความศรัทธา ในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า และได้อุปถัมภ์ วัดมาโดยตลอดและวัดได้รับการบูรณะซ่อม แซมและพัฒนามาโดยตลอด
    พันเอก พระยาศรีวิสารวาจา (หุ่น ฮุนตระ กูล) (นามเดิม เทียนเลี้ยง ฮุนตระกูล, หุ่น ฮุน ตระกูล-ในเอกสารบางแหล่ง เขียนว่า พระยาศรี วิศาลวาจา)อดีตอธิการบดีคนแรกของ มหา วิทยาลัยเชียงใหม่, อดีตปลัดทูลฉลองและรัฐ มนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ,อดีตรัฐ มนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง
    พระยาศรีวิสารวาจา จบการศึกษาระดับ มัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และระดับ อุดมศึกษา คณะนิติศาสตร์ จากมหาวิทยา ลัยอ๊อกซฟอร์ด บาร์ริสเตอร์มิดเดิลเทมเปิล[2] ด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ได้รับพระ กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งในสภากรรม การองคมนตรี ในรัชกาลที่ 7 และองคมนตรี
    บทบาทในทางการเมืองเป็นสมาชิก และ เป็น ส.ส. สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และบทบาท ในทางวิชาการดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดี คนแรก ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พระยาศรีวิสารวาจา มีเชื้อสายจีนไหหลำ มีชื่อจีนว่า ฮุ่นเซ็กเตี่ยน
    หลวงพ่อทองใบ สุมโน อดีตเจ้าอาวาสวัด ศรีวิสารวาจาและพระเกจิ คนนครปฐม จะรู้จักดี และคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี รวมทั้งการได้ เห็นวัตถุมงคลของท่านก็มีอยู่มากมาย และแพร่ หลายอย่างกว้างขวาง แต่หากว่าได้ขาดการสืบค้น ประวัติและการโปรโมทเท่านั้นเอง
    หลวงพ่อทองใบ สุมโน (สุมโน แปลว่า พระผู้ที่มีหัวประเสริฐและบริสุทธิ์อย่างแท้จริง) เป็นเกจิชื่อดังในอดีตของนครปฐมรุ่นราวคราว เดียวกับหลวงพ่อศรีไพร วัดหุบรักษ์ และยังเป็น สหธรรมิกกันอีกด้วย
    หลวงพ่อทองใบ สืบวิชาคาถาอาคมและ ไสยเวทย์ มาจากสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลอง มะขามเฒ่า
    เดิมทีท่านอยู่ที่วัดมักกะสัน กรุงเทพฯ ได้ถูก นิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัด เนื่องจากท่านได้ ถวายที่ดินของท่านเองให้เพื่อสร้างวัดขึ้นที่หมู่ บ้านหนองนางแช่แห่งนี้ แต่ตัวท่านเองไปบวช เรียนศึกษาวิชาอาคมที่วัดมักกะสันและได้กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีวิสารวาจา เมื่อปี พ.ศ.2511 โดยสมัยนั้น ชาวบ้านได้ไปขอความอนุเคราะห์ จากเจ้าคณะตำบลในสมัยนั้น คือ พระครูธรรม สุนทร (หลวงพ่อแดง วัดบ้านยาง) และเจ้าคณะ อำเภอเมืองนครปฐมในสมัยนั้นคือ พระครูปัจ ฉิมทิศบริหาร (หลวงพ่อฉ่อย วัดโพรงมะเดื่อ) โดยมี พระราชปัญญาภรณ์ วัดพระงาม(หลวงพ่อ ปัญญา วัดไร่ขิง) สมัยนั้นเป็นเจ้าคณะจังหวัด นครปฐม
    ท่านได้ก่อสร้างและบูรณะวัดศรีวิสารวาจา รวมทั้งโรงเรียนบ้านหนองนางแช่เรื่อยมา อาทิ เช่น สร้างกุฏิสงฆ์ หอระฆัง โรงครัว กำแพงวัด และซุ้มประตู เป็นต้น รวมทั้งท่านยังได้สร้าง วัตถุมงคล ออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อนำเงิน ที่ญาติโยมผู้ที่มีจิตศรัทธาได้ถวายและทำบุญบูชา วัตถุมงคลได้มาบูรณะวัดต่อไป
    วัตุมงคลของท่านที่ได้ทำมามีดังนี้

    1.พระสมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงสีชมพู (มี ลักษณะ คล้ายกับปรกโพธิ์หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วง ชุม กาญจนบุรี โดยสมเด็จปรกโพธิ์ของท่านมีการ เล่นเป็นของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เนื่อง จากมวลสารมีความเก่าและแกร่งพอสมควร และหลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลาอีกด้วย เนื่อง จากการตัดขอบคล้ายกัน)
    2.ขุนช้างจ้าวทรัพย์ เนื้อผงสีชมพูและสีขาว (ท่านเป็นเกจิรูปแรกของเมืองไทยที่ได้รูปเหมือน ของขุนช้างขึ้นมาเป็นวัตถุมงคล)
    3.ลิงนั่งกอดกัน เนื้อผงและเนื้อไม้ที่ แกะ จากรากรักซ้อน (คล้ายกับอิ่นคู่มหาเสน่ห์ของ เกจิอาจารย์ทางภาคเหนือของไทย)
    4.เหรียญรูปเหมือน รุ่น1 ปีพ.ศ.2521 เนื้อ กะไหล่ทองและเนื้อทองแดงรมน้ำตาล (ท่าน สร้างก่อน ที่จะมรณภาพได้เพียงหนึ่งเดือนเท่า นั้น เพื่อนำเงินมาสร้างอุโบสถ มีประสบการณ์ มากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นอุบัติทางรถยนต์ พลิกคว่ำ โดนปืนเอ็มสิบหกก้อมีให้เห็น)
    5.ตะกรุดโทน (พบเห็นยากมาก เนื่องจาก สับสนว่าเป็นของเกจิท่านใดกันแน่ เพราะไม่มี การบ่งบอกว่าเป็นของท่าน)

    หลวงพ่อทองใบ มีลูกศิษย์ลูกหามากเมื่อสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ อาทิเช่น ขุนศรีวิสารวาจาและภรรยา ทหารตำรวจและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในอดีตหลายท่าน ที่วัดท่านมีรูปถ่ายตอนที่ท่านประพรมน้ำมนต์ให้แก่ลูกศิษย์ที่มียศฐาบรรดาศักดิ์บนศาลาวัดในงานทำบุญต่างๆ
    หลวงพ่อทองใบ สุมโน มรณภาพเมื่อปีพ.ศ.2521 โดยท่านได้กำลังสร้างพระอุโบสถพอดีแต่กำลังทำแค่เพียงการเทปูนเป็นฐานอุโบสถเท่านั้นเองท่านก้อได้มามรณภาพลงรวมทั้งสิ้นท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีวิสารวาจา รวมแล้ว 10 ปีพอดี และวัดก้อมีการผลัดเปลี่ยนการเป็นเจ้าอาวาสเรื่อยมาจนมา


     
  16. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    897. พระผงอังคารธาตุผสมอัฐิ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ให้บูชา 750 บาท


    upload_2022-10-6_12-2-10.png

    upload_2022-10-6_12-7-41.png

    upload_2022-10-6_12-8-3.png

    พระผงอังคารธาตุ สร้างและพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.32 สร้างจาก ผงพุทธคุณ หลวงปู่เพิ่ม ผสมกับเถ้าอังคารธาตุ และเกศาของหลวงปู่
     
  17. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    898. พระสมเด็จปรกโพธิ์ ผสมอังคารธาตุ หลวงปู่มหาเจิม ให้บูชา 550 บาท

    upload_2022-10-6_12-31-52.png

    upload_2022-10-6_12-32-52.png
     
  18. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    899. เหรียญรุ่น 3 หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ สมุทรสงคราม ปี 2517 เนื้อทองแดงรมดำ เหรียญรุ่นนี้ หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ร่วมปลุกเสก เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์สูง ให้บูชา 1650 บาท

    upload_2022-10-6_13-5-22.png

    หลวงพ่อเก๋ สุนันโท หรือ พระครูสุนันทวิริยาภรณ์ วัดแม่น้ำ สมุทรสงคราม เป็นพระเกจิขลังอีกองค์ของเมืองแม่กลอง ที่มรณภาพแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อย หลวงพ่อเก๋ ถือได้ว่าเป็นศิษย์ผู้น้องของหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี เพราะมีอาจารย์องค์เดียวกันคือ หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม หลวงพ่อเก๋ เป็นพระที่ไม่ค่อยพูด สมถะสันโดษ แต่เรื่องวิชาอาคมหรือพลังจิตของท่านก็เก่งไม่เป็นรองใคร ท่านบวชตั้งแต่อายุ 20ปี เรียนวิชาต่างๆมากับครูบาอาจารย์รุ่นเก่าๆเยอะเช่น หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม หลวงพ่อโต วัดคู้ธรรมสถิตย์ หลวงพ่อบุญรอด วัดบางขันแตก หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ เป็นต้น

    วัถตุมงคลหลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ ถ้าเป็นเหรียญจะมีไม่กี่รุ่นเองครับ นานๆทางวัดจะออกพระเครื่องของท่านสักรุ่น เช่น เหรียญรุ่นแรกสร้างปี2490 เหรียญจิ๊กโก๋(ประสบการณ์ นับเป็นรุ่นสอง)สร้างปีเดียวกัน ถัดมาคือเหรียญรุ่น3ปี 17 คือเหรียญรุ่นนี้ ที่ออกแบบได้สวยงามมาก และเหมือนหลวงพ่อมากที่สุด ประสบการณ์ เด่นทางด้าน คงกระพันชาตรี


     
  19. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    900. พระดีพิธีใหญ่ น่าบูชา เหรียญหลวงปู่จันทร์ วัดท่าเกวียน จ.ฉะเชิงเทรา ปี2514 พิมพ์นิยม หลวงปู่ทิม หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อเนื่อง ร่วมเสก ให้บูชา 1650 บาท


    upload_2022-10-6_14-58-30.png

    จัดสร้างโดย ท่านเจ้าคุณอดุลสารมุนี (หลวงปู่จันทร์) วัดท่าเกวียน เจ้าคณะอำเภอพนมสารคาม ฉะเชิงเทรา วัตถุมงคลที่จัดสร้างในปี 2514 ของวัดท่าเกวียนนั้น มี 3 รูปแบบ ได้แก่

    1. พระกริ่งและพระชัยวัฒน์ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า "พระพุทธวิชิตมาร ประทานสันติสุข สวัสดี ชินสีห์ ธรรมบพิตร" หรือที่เรียกกันสั้นๆติดปากว่า พระกริ่งพุทธวิชิตมาร หรือ พระกริ่งวิชิตมาร
    2. เหรียญรูปเหมือน ลป.จันทร์ ทรงเสมา เนื้อเงินลงยา มีทั้งชนิดองค์พระเป็นเงินและองค์พระเป็นทองคำ หรือ ปัจจุบันเรียกว่า หน้ากากเงิน หน้ากากทอง
    3. เหรียญรูปไข่ ด้านข้าง ลป.จันทร์ หรือที่เรียกในปัจจุบันว่าเหรียญหันข้าง
    วัตถุประสงค์การสร้าง เพื่อหารายได้เข้าทุนมูลนิธิท่านเจ้าคุณพระอดุลสารมุนี เพื่อช่วยเหลือพระภิกษุและสามเณรที่ยากไร้

    โดยสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชวัดมกุฎกษัตริยาราม ทรงจุดเทียนชัย และได้มอบแผ่นชนวนจากวัดมกุฎกษัตริยาราม และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์ฯ ผู้มอบและได้รับแผ่นทอง เงิน นาก จากท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ เป็นผู้ลงแผ่นและอธิษฐานจิตมาด้วย

    จัดพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2514 โดยพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 108 รูป เริ่มพิธีตั้งแต่ 6โมงเย็น ตลอดคืนถึง 6 โมงเช้า โดยหลวงปู่นาค วัดระฆัง เป็นองค์ดับเทียนชัย

    รายนามพระคณาจารย์นั่งปรกวัตถุมงคล 108 รูป ณ วัดท่าเกวียน จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แก่

    1.หลวงปู่คำมี ถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
    2.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    3.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    4.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์
    5.หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาค นครสวรรค์
    6.หลวงปู่ศรี วัดสะแก อยุธยา
    7.หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    8.หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร
    9.หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม บุรีรัมย์
    10.หลวงพ่อชื่น วัดมาบข่า ระยอง
    11.หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง
    12.หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    13.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี
    14.หลวงพ่อทบ วัดชนแดน เพชรบูรณ์
    15.พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา นครศรีธรรมราช
    16.หลวงพ่อทิพย์ วัดโพธิ์ทอง บุรีรัมย์
    17.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    18.หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ ศรีสะเกษ
    19.หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม สมุทรสาคร
    20.หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
    21.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงค์ธรรม สกลนคร
    22.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    23.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    24.หลวงปู่พริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    25.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
    26.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร
    27.หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีนบุรี
    28.หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
    29.หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
    30.หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา
    31.หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม
    32.หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพฯ นครพนม
    33.หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
    34.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสาคร
    35.หลวงปู่ธูป วัดแค กทม.
    36.หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี
    37.หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช
    38.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
    39.หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ อยุธยา
    40.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ นครศรีธรรมราช
    41.หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ (อธิษฐานจิตมา)
    42.หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
    43.หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม ราชบุรี
    44.หลวงพ่อนาถ วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง กาญจนบุรี
    45.หลวงพ่อมี วัดซำป่างาม ฉะเชิงเทรา
    46.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    47.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่
    48.หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
    49.หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น
    50.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่
    51.หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
    52.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
    53.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
    54.หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา ปทุมธานี
    55.หลวงปู่เครื่อง วัดเทพสิงห์หาร อุดรธานี
    56.หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง สระบุรี
    57.พระครูเมตยานุรักษ์ วัดวชิราลงกรณ์ นครราชสีมา
    58.พระครูสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
    59.พระวิบูลเมธาจารย์ (เก็บ) วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
    60.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาญจนบุรี
    61.พระครูกาญจโนปมคุณ(ลำไย) วัดลาดหญ้า กาญจนบุรี
    62.หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
    63.พระครูไพศาลคณารักษ์ วัดไร่ขิง นครปฐม
    64.หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นครนายก
    65.หลวงพ่อสีหมอก วัดเขาวังตะโก ชลบุรี
    66.พระครูศรีสัตตคุณ วัดสัตหีบ ชลบุรี
    67.หลวงปู่บุญทัน วัดประดู่ศรี ปราจีนบุรี
    68.พระวิสุทธาจารคุณ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
    69.พระอาจารย์สุบิน วัดถ้ำไก่แก้ว นครราชสีมา
    70.หลวงพ่อมิ วัดสะพาน ธนบุรี
    71.พระครูพิชัยณรงค์ฤทธิ์ วัดคอกหมู กทม.
    72.พระอาจารย์บำเรอ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม.
    73.พระญาณวิริยาจารย์ วัดธรรมมงคล กทม.
    74.พระครูพิทักษ์เขมากร วัดท่าเกวียน ฉะเชิงเทรา
    75.หลวงพ่อถึก วัดสนามช้าง ฉะเชิงเทรา
    76.หลวงพ่อเม็ด วัดบึงกระจับ ฉะเชิงเทรา
    77.หลวงพ่อผิว วัดหนองบัว ฉะเชิงเทรา
    78.หลวงพ่อสาย วัดซำป่างาม ฉะเชิงเทรา
    79.หลวงพ่อเฮง วัดอ่าวสีเสียด ฉะเชิงเทรา
    80.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง สมุทรสาคร
    81.หลวงปู่จันทร์ โฆสโก อุตรดิตถ์
    82.หลวงพ่ออิน วัดลาด จันทบุรี
    83.หลวงพ่ออินทร์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม.
    84.หลวงพ่อกลั่น วัดอินทาราม อ่างทอง
    85.หลวงพ่อสาย วัดจันทรเจริญสุข
    86.หลวงพ่อไปล่ วัดดาวเรือง ปทุมธานี
    87.หลวงพ่อแดง วัดดอนยอ นครปฐม
    88.หลวงพ่อเพชร วัดดงยาง ฉะเชิงเทรา

    และท่านอื่นๆที่ยังไม่ได้กล่าวมาจนครบจำนวน 108 รูป พิธีใหญ่ น้องๆ พิธีอินโดจีน ต่างกันที่พระเกจิอาจารย์คนละยุค นับเป็นสุดยอดพิธีพุทธาภิเษกของจังหวัดฉะเชิงเทรา.
     
  20. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +468
    Screenshot_2565_1006_192413.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...