พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

3632. พระชัยวัฒน์ ชินบัญชร เนื้อนวะ ปี2537 รุ่นแรก หลวงปู่วิเวียร วัดดวงแข ให้บูชา 1850 บาท

​

การจัดสร้างพระกริ่งในตัวครั้วนี้หลวงปู่ให้จัดสร้างเป็นแบบกริ่งในตัวซึ่งเป็นการสร้างที่ยากลำบากมาก ในตำราการจัดสร้างพระกริ่งแต่โบราณได้ระบุไว้ว่า การสร้างพระกริ่งนั้นนิยมสร้างกันแบบกริ่งในตัว เพราะ จะมีความศักดิ์สิทธิ์มาก และนิยมจัดสร้างกันมาตั้งแต่สมัยยุคแรกๆ คือ ที่ประเทศธิเบตหรือในประเทศจีนก็นิยมสร้างกันแบบกริ่งในตัวมาถึงในประเทศไทยเราก็นิยมจัดสร้างแบบกริ่งในตัวตั้งแต่ยุคแรกๆ เลยทีเดียว การสร้างในแบบนี้จะต้องนำเอาเม็ดกริ่งบรรจุลงไปในใต้ฐานพระเสียก่อนแล้วเอาเหล็กหรือตะปูอุดรูกริ่งไว้ แล้วเอาแม่พิมพ์ไปเผาไฟให้แม่พิมพ์สุก เมื่อแม่พิมพ์สุกได้ที่แล้วก็เทน้ำทองลงไปแล้วทุบพิมพ์ออกมาก็จะได้พระกริ่งออกมาจึงถอนเหล็กหรือตะปูที่อุดรูกริ่งออกเอาเหล็กแหลมแทงเข้าไปในรูกริ่งเพื่อเขี่ยเอาดินออกมาให้หมด แล้วจึงเอาก้านชนวนพระกริ่งมาอุดที่รูเจียรเอาส่วนที่เกินออกแล้วแต่งให้เรียบร้อยก็เป็นการเสร็จกรรมวิธีการทำพระกริ่ง

เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2536 หลวงปู่ได้สั่งให้เอาชนวนที่มีอยู่ทั้งหมดรวมน้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัม มาปลุกเศกและได้ทำพิธีลงยันต์ ๑๐๘ และ นะ ๑๔ ตลอดจนยันต์ต่างๆ เมื่อทำการปลุกเศกดีแล้วให้นำไปเก็บ และได้สั่งไว้ว่า ถ้าข้าไม่อยู่เองจงจัดการสร้างพระกริ่งต่อไปอย่าทิ้งนะ ข้าปลุกเศกให้แล้ว จงสร้างพระในปีหน้าเป็นปีสุดท้าย และให้เอาเงินมาทำโบสถ์ให้เสร็จเองไม่ต้องกลัวงานนี้สำเร็จแน่นอน มีคนมาเอากันหมดทุกอย่างจะสร้างอะไรก็ให้ทำ ทำไปเลยแล้วหลวงปู่ก็หยิบพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ มาไหว้ เป็นพระกริ่งที่ลูกศิษย์หลวงปู่ทิมให้มาเพื่อนำมาเป็นชนวนผสม หลวงปู่ท่านบอกว่าให้เรียก พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์-ขันน้ำพระพุทธมนต์นี้ว่า รุ่นชินบัญชร และ ห้ามมิให้จัดสร้างวัตถุมงคลในปีต่อไปอีก เพราะ หลวงปู่มิได้ปลุกเศก อะไรให้อีกแล้วให้สร้างชุดนี้เป็นชุดสุดท้าย

1. เททอง วันที่ 20 พฤษภาคม 2537 วัดดวงแข กรุงเทพมหานคร

2. พิธีพุทธาภิเษก วันที่ 10 ตุลาคม 2537 อุโบสถวัดดวงแข กรุงเทพมหานคร

 

3633.พระสมเด็จหลังรูปเหมือน (ผงใต้ฐานพระประธาน) หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง อ่างทอง ปี 2535 ให้บูชา 650 บาท
สมเด็จรุ่นนี้พิเศษตรงที่ ใช้ผงสำคัญคือผงเก่าโบราณ ใต้ฐานพระประธานวัดบ้านกลาง มาใช้เป็นผงมวลสารหลักในการจัดสร้างพระสมเด็จรุ่นนี้

​

" ยืนให้ยิง มือปืนลองดีหลวงพ่อกลางวัดจนออกข่าวดัง "

กูนี่แหละหยิบ !!! มือปืนลั่นไกใส่หลวงพ่อไม่สะท้าน !!!

(หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ยังถึงกับกล่าวชม)

ถ่ายรูปไม่ติดเป็นอัศจรรย์ โคตรตะกรุดขลังอ่างทอง

ถ้าสู้ไม่ได้ก็ถอดตะกรุดตีหัวมันเลยนะลูก

ประสบการณ์วัตถุมงคลของหลวงพ่อ อาทิเช่น.......
หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง ท่านดังเรื่องตะกรุด
มานานแล้ว เมือประมาณปี 48 ผมไปวัดศาลาดิน มีพระ มากราบ หลวงพ่อทรง ท่านเล่าให้ฟังว่า มีมือปืนมาถามหา หลวงพ่อทองหยิบ เผอิญไปถามที่ตัวหลวงพ่อพอดี ท่านก็ตอบว่า " กูนี่แหละหยิบ "มือปืนชักปืนยิงท่านทันที ปรากฎว่า ยิงไม่ออก เท่านั้นแหละมือปืนวิ่งโกยแนบเลย หลวงพ่อทรง ท่านชมว่า" เก่ง" !!!!!

สมัยก่อน ท่านจะลงพระเจ้าสิบหกพระองค์
แต่ปัจจุบันไม่ทราบ เพราะสายตาท่านไม่ค่อยดี ท่านเคยเปรยๆว่า "ตีตารางแบบนี้ฉันเลิกทำไปนานแล้ว"
เคยมีคนลองตะกรุดของท่าน แล้วลูกปืนย้อนกลับเฉี่ยวหน้าคนลอง เรื่องนี้ ผมฟังจากพระอาจารย์พิจารย์ วัดโพธิผักไห่ อยุธยา ครับ
ตะกรุดของท่าน เมื่อก่อนเคยเช่าหากันแพงมาก เพราะคนจองเยอะ หลังๆนี้ ท่านไม่มีกิจมากนัก เลยมีเวลาจาร แต่ไม่ทราบว่าจารได้วันละกี่ดอก มีที่วัดที่เดียวครับ ของปลอมยังไม่เคยเห็น ท่านมั่นใจตะกรุดของท่านมาก ใครไปรับกับมือ ลองถามสรรพคุณท่านดูครับ

- ประสบการณ์ หลวงพ่อทองหยิบ ฟันไม่เข้า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 20 กว่าปีมาแล้ว ในการประเพณีแข่งเรือยาวของจ.อ่างทอง มีเรือดังจากอำเภอต่างๆ และเรือจากต่างจังหวัดใกล้เคียง โดยเรือดังของ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ลำหนึ่งมีทิดเษมป่าโมก (ฉายาป่าโมกนี้ได้มาจากที่ทิดเษมชอบสักยันต์เต็มตัว โดยเริ่มสักจาก พ่อลาป่าโมก เมื่อสมัย 20 ปีที่ แล้วตามด้วยจากสำนักอื่นๆ อีกเช่น พ่อเจียก, พ่อโพธิ์ดำ, พ่อรอด , พ่อแก่, พ่อเที่ยง, พ่อหน่าย เป็นต้น โดยนักเลงสมัยก่อนนิยมสักยันต์ตามร่างกาย) เป็นฝีพายอยู่ในเรือลำนั้นด้วย ซึ่งวันนั้นมีการวางเงินเดิมพันกันเป็นแสนกับเรือดังต่างถิ่น...เมื่อแข่งขันเรือจนรู้แพ้รู้ชนะกันแล้ว แต่คนเกิดไม่ยอมแพ้เกิดการตะลุมบอนกันขึ้น โดยการใช้ไม้พายเป็นอาวุธแต่ไม่คิดว่าเรือต่างถิ่นมีมีดดาบเตรียมมาด้วย ทิดเษมพลาดท่าถูกฟันเข้าที่ไหล่ด้านหลังอย่างจัง แต่น่าอัศจรรย์คมดาบไม่ระคายผิวทิดเษมเลยเป็นรอยยางบอนเท่านั้น โดยตัวทิดเษมมีเฉพาะรอยสักของพ่อลาป่าโมก และ ตะกรุตหลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง จ.อ่างทอง และ ตะกรุดวัดดอนรัก จ.อ่างทอง เท่านั้น ทิดเษมมีความเคารพนับถือหลวงพ่อทองหยิบอย่างมาก ซึ่งภายหลังเมื่อทิดเษมบวชเป็นพระจะทำพิธีใหญ่ๆ ยังต้องนิมนต์หลวงพ่อเข้าร่วมพิธี หรือขอคำแนะนำด้วยทุกครั้ง ทิดเษมผู้นี้ก็คือ...พระครูวิบูลย์ อาจารคุณ หรือ หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ แห่งวัดม่วงเจริญธรรม ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ผู้สร้างองค์พระที่ใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตัก 1 ไร่ 14 งาน (ปัจจุบันท่านละสังขารแล้ว แต่สังขารหลวงพ่อเกษม ยังไม่เน่าเปื่อยเป็นที่น่าอัศจรรย์ และได้บรรจุไว้ในโลงแก้ว ตั้งให้สาธุชนได้กราบไหว้สักการะ ณ บริเวณวิหารแก้ว วัดม่วงเจริญธรรม)
- มีเด็กสุพรรณคนหนึ่ง ใจนักเลงนับถือหลวงพ่อมาก พกตะกรุดหลวงพ่อติดตัวแบบไม่เคยห่างกาย หลวงพ่อบอกว่าคาดตัวตัวไว้มีดหรือปืนไม่มีได้กิน แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามด่าพ่อด่าแม่ และ ห้ามลอดไม้คล้ำกล้วย หรือไม่อย่างนั้นตะกรุดจะเสื่อมเฉพาะวันที่ด่า อยู่มาวันหนึ่งเจอคู่อริ 2 คนโดยบังเอิญ จึงโดนรุมตีขนาดใช้มีดไล่ฟันเสื้อขาดและใช้ปืนไล่ยิงแต่ทั้งปืนทั้งมีดไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ทำให้คู่อริใจฝ่อทั้งที่ตังเองมีอาวุธแต่ทำอะไรเขาไม่ได้ สุดท้ายเด็กสุพรรณถอดตะกรุดไล่ฟาด (ตะกรุดตะกั่วแกนทองแดงยาว 5 นิ้ว) คู่อริทั้งสองต้องเผ่นหนีแบบไม่เป็นท่า ทำให้เขานึกนึกคำที่หลวงพ่อพูดเสมอว่า ''เวลาใช้เข้าหานาย ผู้หญิงไว้ซ้าย เข้าหานายชายไว้ขวา ประจันหน้าไว้หน้า หลบไว้หลัง แต่ถ้ามันมากันเป็นฝูงก็หนีนะลูก ถ้าจนมุมจริงให้ถอดตะกรุดเอาตีหัวมันเลย

ประวัติ หลวงพ่อทองหยิบ ท่านเป็นชาวบ้านกลางโดยกำเนิด เกิดวันพฤหัสบดี แรม 13 ค่ำเดือน 11 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ 2472 ณ บ้านกลาง หมู่ที่ 3 ต.หนองแม่ไก่ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โยมบิดาชื่อ เจียม บุญผ่อง โยมมารดาชื่อ ทองสุข บุญผ่อง การศึกษา จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดสนธิธรรม จ.อ่างทอง ครบเกณฑ์ทหาร ได้รับคัดเลือกแต่ไม่ถูกเพราะจับได้ใบดำ จึงได้อุปสมบทในพระบวรศาสนา เมื่อ พ.ศ 2494 ณ วัดบ้านกลาง โดยมี
- พระครูปัญญาสารคณี วัดแสวงหา เจ้าคณะอำเภอแสวงหา เป็นพระอุปัชฌาย์
- หลวงพ่อเบี่ยง วัดหัวสะแกตก เป็นพระกรรมวาจาจารย์
- พระโปร่ง วัดแสวงหา เป็นพระอนุศาสนาจารย์
ด้านพระเวทย์วิทยาคม ได้รับการถ่ายทอดพระเวทย์จากโยมเจียม ซึ่งเป็นโยมบิดา สายพระเวทย์ทางเพชรบุรี ถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ ให้ ทั้งตะกรุดโทน ตะกรุดสามกษัตริย์ ตะกรุด 14 ดอก ตะกรุด 16 ดอก น้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ หลวงพ่อทองหยิบได้อาศัยพระเวทย์วิทยาคมที่ได้รับการถ่ายทอดจากโยมบิดาสงเคราะห์ญาติโยมและสร้างความเจริญให้แก่วัดบ้านกลางตามลำดับ โดยสร้างพระอุโบสถหลังใหม่แล้วเสร็จและฝังลูกนิมิตเมื่อปี 2551 ใช้เวลาการสร้าง 2 ปี งบประมาณ 8 ล้านบาท หลวงพ่อทองหยิบ ท่านเป็นพระสมถะ เรียบง่าย มีเมตตาและเป็นกันเองกับทุกคน เรียกว่าเป็นพระของชาวบ้านก็ว่าได้ลูกศิษย์เคยไปกราบท่านแล้วจะรู้สึกประทับใจและจะไม่ไปครั้งเดียว ไปแล้วต้องไปอีกท่านจะสงเคราะห์ลูกศิษย์ที่ไปหาโดยเสมอหน้าไม่เลือกชั้นวรรณะ ซึ่งส่วนมากจะไปขอให้ท่านอาบน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ให้ ซึ้งน้ำมนต์ของท่านจะมีความขลังศักสิทธิ์มาก พลิกดวงชะตาร้ายให้กลายเป็นดีใครดวงตกหรือขาด อาบน้ำมนต์เสร็จแล้วท่านจะต่อดวงให้เป็นอันพ้นเคราะห์ไปได้

 

3634.นานๆได้มาสักองค์ครับ พระผงรูปเหมือน ทานบารมี ๕๕ รุ่นแรก ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์ จ.พระนครศรีอยุธยา ปี ๒๕๕๕ ให้บูชา 800 บาท คุณShajจองครับ

​

พระผงทานบารมี พิเศษ“ พระชุดนี้เน้นหนักทางมหาลาภรวยไว” หลังจากแจกพระผงทานบารมีไปมีคนมาถามหาจำนวนมากบอกว่า เมตตาดี ค้าขายเห็นผลมาก ที่สำคัญหลวงปู่เสงี่ยมแจกอย่างเดียว มาทำบุญก็ได้รับแจก หลวงปู่เสงี่ยมบอกว่า ขึ้นคอได้เลย เสกทุกวัน หลังจากเห็นว่าคนที่ไม่ค่อยมีเงินมาทำบุญแต่อยากได้ของดี หลวงปู่จึงได้ให้จัดสร้างขึ้นมาอีกครั้งเป็นพิเศษ ผงเก่าที่เหลือนำมาทำให้หมด อาทิ ผงปัฐมัง ตรีนิสิงเห พุทธคุณ ที่หลวงปู่เสงี่ยมนั่งลบผง เกษา จีวร ข้าวสารเสกปลุกเสกนาน 3 วาระบดจนละเอียด ผงพระนอนไสยาฐอายุนับร้อยปี ผงหลวงพ่อจันทร์อายุกว่าร้อยปี ผงหลวงพ่อในโบสถ์เก่าอายุหลายร้อยปี ผงพระกรุ ผงว่าน ๑o๘ ผงพระกรุแตกหัก ผงพระวัดเกษไชโยจำนวนมาก หลวงปู่ได้เพิ่มโดยการจารแผ่นตะกรุดเงินด้วยยันต์ นะปัดตลอด จากนั้นก็นำมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆให้นำจีวรท่านสอดตะกรุดแล้วบรรจุที่พระผง ด้านหลังนั้นให้โรยแร่เศรษฐี ข้าวตอกพระร่วง ผงว่านจินดามณี หลวงปู่ท่านเน้นย้ำ เน้นหนักทางโชคลาภ รวดเร็วทันใจ สมปรารถนาสำเร็จ หลวงปู่เมตตาใครๆก็สามารถบูชาได้ง่าย

 

ขอจองครับ