ปกิณกะพระเครื่อง ธรรมะ และวัดวาอาราม

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 5 ธันวาคม 2014.

  1. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ธรรมะจาก ลป.เสาร์ ติสสปัญโญ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

    ทุกข์ไม่ทำ ทำไม่ทุกข์ ทำ พูด คิด ไม่ติดทุกข์


    [​IMG]
     
  2. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]
    พระผงรูปเหมือนรุ่น 1 หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม วัดป่าห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ
     
  3. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]

    "เรารักษาใจ ได้ชื่อว่ารักษาตัว รักษาธรรม"
    หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโม

    วัดป่าห้วยกุ่ม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ


    หลวงตามหาบัว
    มักจะกล่าวให้ทราบเสมอเมื่อมีผู้เดินทางจากที่ไกลๆไปนมัสการท่าน
    “เดินทางมาอะไรกันตั้งไกล ถ้าจะทำบุญ ใกล้ๆนั้นที่วัดป่าห้วยกุ่ม ก็มีพระให้ทำบุญกราบไหว้พระผู้มีบารมีอยู่นั้นไง……”
    "นู่นที่ห้วยกุม มีพระอรหันต์ อยู่ที่นั่นนะ"

    พระอาจารย์ทองมาย อริโย
    วัดป่ากลางทุ่ง อ.บ้านดง จ.อุดรธานี กล่าวให้ทราบ
    “ที่จังหวัดชัยภูมิมีพระชื่อ อาจารย์สายทอง เตชะธัมโม เป็นพระอริยะสงฆ์ขั้นใดขั้นหนึ่งแล้วไปกราบนะ”

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    วัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร ยังกล่าวยกย่อง
    “โอ้! พระผู้มีบารมีใหญ่ พระหายากพระหายาก”


    หลวงปู่ศรี มาวีโร
    วัดป่ากุง จ.ร้อยเอ็ดกล่าวถึงพระลูกศิษย์ของท่าน คือหลวงพ่อสายทอง
    "ไหนใครชื่อสายทอง พระหายาก พระหายาก"
    “นี่ซิ บวชเป็นพระปฏิบัติให้มันได้อย่างนี้ซิ”

    ที่มา: หลวงพ่อสายทอง เตชะธัมโมและประวัติพระอริยะสงฆ์ไทย
     
  4. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,075
    ค่าพลัง:
    +22,256
    มีประสบการณ์กับวัตถุมงคลท่าน พอมีเงินเหลือ เลยร่วมทำบุญบูชาไว้บ้าง

    ประสบการณ์พระขุนแผนเนื้อว่านหลวงพ่ออุตตมะ หลังตะกรุดหลวงพ่อหอม ผมเลี่ยมเหน็บกระเป๋า ขับรถ จยย.ไปส่งน้องสาวเข้าเรียนวิทยาลัยเทคนิค วันรายงานตัวกลัวน้องเข้าไม่ทัน ขับเร็วหน่อย พอเข้าในเมืองรถค่อนข้างติด จยย.ต้องซิกแซกเข้า จังหวะหนึ่งว่าจะเบียดเข้าไป แต่ไม่รู้ว่ารถเป็นอะไร บิดไม่ขึ้น จยย.คันหลังเลยเบียดเข้าไป ไม่ถึง 2 นาทีได้ยินเสียงชนกัน จย.ที่อยู่ข้างหน้า 2- 3 คัน ล้มขวางถนนเลย ถ้าเข้าได้คงโดนชนเหมือนเข้า

    แคล้วคลาดดี ไม่เจ็บตัว ไม่เสียเวลา...ตอนนั้นหนุ่ม แขวนพระองค์เดียว

    ตอนนี้แก่แล้ว แขวนเยอะหน่อย หนาวมาก ต้องใช้ผ้าห่มหลายผืน....
     
  5. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]

    [​IMG]

    พระกริ่งปะริต หลวงพ่อมนัส มนฺตชาโต วัดโคกเกวียนลอย (ทุ่งจันดำ) อ.เขาคิชฌกูฎ จันทบุรี แจกทหารตำรวจชายแดนใต้

     
  6. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]
     
  7. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326

    องค์นี้ต้องถูกใจพี่โญแน่ๆครับ






    ขอบคุณประสบการณ์เรื่องเล่าด้วยครับ พระขุนแผนทรงพลหลวงพ่ออุตตมะรุ่นนี้มีประสบการณ์มากที่เดียวเป็นพระยอดนิยมของหลวงพ่อรุ่นนึงเลย ยินดีกับคุณอาณัติที่ได้ไว้บูชา เมื่อสิบกว่าปีก่อนผมเคยเจอเจ้าของเปิดราคาไว้สูงทีเดียวเลยยังไม่ได้บูชาไว้ ผมมีประวัติพระรุ่นนี้อยู่เดี๋ยวจะลงให้อ่านกันต่อไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2015
  8. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]



    พระชัยวัฒน์จักรพรรดิ


    หลวงพ่ออุตตมะ



    [​IMG]




    [​IMG]

    จากศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 390



    [​IMG]


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2015
  9. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    <a href="http://www.yenta4.com/cutie/view_img.php?d_id=1945&cate_id=1" target="_blank"><img src="http://www.yenta4.com/cutie/upload/945/1945/50126e934d747.gif" border="0" alt="รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com" title="รูปสวย น่ารัก glitter emoticon www.yenta4.com"></a><br /> ถ้าคิดเป็นอย่างอื่นอาจโดนได้โดยง่ายครับ
     
  10. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    เหรียญนั่งพานมหาเศรษฐีหลวงพ่อหวั่น รุ่น "มหาเศรษฐี"

    เนื้อทองแดงไม่ตัดปีก (จากชุดกรรมการเล็ก)


    [​IMG]


    สร้าง 999 เหรียญ ปลุกเสกโดยพระครูพิพิธธรรมาธร (หลวงพ่อหวั่น กุสลจิตโต) วัดคลองคูณ ต. คลองคูณ อ. ตะพานหิน จ. พิจิตร
    หลวงพ่อหวั่น เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีกาลพรรษาสูงรูปหนึ่ง ท่านสร้างวัตถุมงคลออกมาในแบบเนื้อผงผสมมวลสารมากกว่า เนื้อโลหะ

    โดยเฉพาะพระนางพญาผงใบลานนั้นเด่นในทางเมตตามหานิยมเยี่ยมมากทีเดียว ส่วนตะกรุดสาลิกาคู่เยี่ยมในทางมหานิยม ผู้คนชาว

    บ้านเขาโจษขานกันมานานแล้วว่า หลวงพ่อหวั่นนั้นท่านเป็นพระที่เมตตาสูง ท่านปล่อยวางจากลาภสักการะ อดิเรกลาภต่างๆหลวงพ่อ

    หวั่น ท่านไม่ได้ยินดีปัจจัยไทยทานต่างๆท่านวางไว้เหมือนไม่สนใจใยดี นอกจากเป็นพระเถระที่ยึดสันโดษเป็นที่ตั้งแล้วในเรื่องกฤดา

    อภินิหารต่างๆ ชาวบ้านเล่าว่าท่านนั้นเก่งมากทั้งในด้านเมตตาคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะวัยรุ่นในย่านตะพานหินที่หัวนิยมชื่นชอบหนัก

    ในทางต่อสู้ตีรันฟันแทงแล้วจะต้องพกตะกรุดโทน หลวงพ่อหวั่น ติดตัวเพื่อช่วยใน ยามคับขัน

    [​IMG]


    อัตตะประวัติ
    พระครูพิพิธธรรมาทร มีนามเดิมว่า หวั่น นามสกุล แพนนท์ เกิดเมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๔๗๘ ตรงกับวันจันทร์ขึ้น ๑๑ คํ่าเดือน ๙ ปีกุน

    ที่บ้านคลองคูณ หมู่ที่ ๒ ตำบลคลองคูณ อำเภอ ตะพานหิน เมืองพิจิตร โยมบิดามีนามว่า นายหมึก เป็นหมอกลางบ้านหรือแพทย์แผน

    โบราณ โยมมารดาชื่อ นางขอด แพนนท์มีพี่น้องรวมทั้งหมด ๑๑ คน ผู้ชาย ๕ คนผู้หญิง ๖ คน ส่วนหลวงพ่อหวั่น ท่านเป็นลูกคนที่ ๔

    ของครอบครัว

    [​IMG]

    อุปสมบท
    เมื่ออายุย่างเข้าปีที่ ๒๑ พ่อแม่จึงจัดการนำไปฝากเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนท่องคำขานนาคแล้ววันมงคลแห่งชีวิตก็มาถึงวันที่ ๗ กรกฎาคม

    ๒๔๙๙ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๘ คํ่า เดือน ๖ ปีวอก ท่านจึงได้เข้ารับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ในพัทธสีมาของวัดคลองคูณ โดยมี พระครู

    พิเศษ ธรรมรัตน์ วัดหาดแตงโม อำเภอ ตะพานหิน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระใบฎีกานนท์ วัดไผ่หลวง เป็นพระกรรมวาจาจารย์และ พระ

    ธรรมธร สง่า วัดไซลงโขน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับนามฉายาว่า “กุสลจิตโต” เมื่อบวชในพระศาสนาแล้วท่านตั้งใจแน่วแน่ในการ

    สวดร้องท่องบ่นเจ็ดตำนานสิบสองตำนาน จนญาติโยมต่างร่วมอนุโมทนาบุญกับท่าน และญาติโยมชาวบ้านคลองคูณ ต้องการให้ท่าน

    ครองผ้ากาสาวพัตรอันเป็นหลักชัยในทางพระพุทธศาสนาไปนานๆประกอบกับท่านนั้นเป็นลูกหลานชาวบ้านนี้ ซึ่งก็ไม่ทำให้ญาติโยม

    ผิดหวังเนื่องจากหลวงพ่อหวั่นแม้จะเป็นสัทธิวิหาริกคือหมายความว่า หลวงพ่อหวั่น ท่านเป็นผู้ก้าวเข้ามาใหม่ในอารามแห่งนี้ก็จริงอยู่

    แต่ท่านเป็นพระหนุ่มผู้ เคร่งครัด ในพระธรรมวินัยเป็นยิ่งนัก เร่งเรียนทำวัตรสวดมนต์และศึกษาข้อวัตรปฏิบัติทาง พระศาสนาอันเป็นคำ

    สอนของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่ละความเพียรพยายามที่จะเรียนรู้จนญาติโยมศรัทธาทั้งหมู่บ้านเมื่อบวชได้ ๓ พรรษาจึงได้

    รับความไว้วางใจให้เป็นผู้ดูแลพระบวชใหม่ภายในวัดหรือเรียกว่า แต่งตั้งเป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสนั้นเอง


    [​IMG]


    สายอาคม
    หลวงพ่อหวั่น ท่านนับได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์เป็นที่เคารพกราบไหว้ของคนในอำเภอ ตะพานหินและถิ่นย่านใกล้เคียงในภาคเหนือ

    ตอนล่าง นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เข้มขลังมากๆในเรื่องตะกรุดสาลิกา และตะกรุดมหาอุด ท่าน

    ได้เมตตาบอกกับผู้เสนอบทความว่า ท่านทำตะกรุดตั้งแต่พรรษายังไม่มากนักคือท่านได้ตำรามาจากของเก่าแก่ในวัดซึ่งเป็น ยันต์ที่หลวง

    ปู่จันทร์ท่านได้เขียนเอาไว้และบอกสรรพคุณของตะกรุดแต่ละชนิดประกอบกับหลวงพ่อหวั่นท่านพอเข้าใจภาษาขอมได้อยู่ในระดับหนึ่ง

    จึงไม่ใช่สิ่งแปลกสำหรบท่านที่จะเขียนยันต์ลงในตะกรุด เมื่อลงตะกรุดแรกๆก็แจกให้กับญาติพี่น้องกันก่อนเพราะถือว่าในขณะนั้นท่าน

    เป็นพระที่บวชใหม่ เมื่อญาติพี่น้องเอาไปใช้เกิดอภินิหารต่างๆในด้านเมตตาโชคลาภตลอดจนคงกระพันชาตรีตะกรุดพระหวั่นในยามนั้น

    จึงขยายวงกว้างแห่งความศรัทธาสู่ญาติโยมไปทั่ว ทำให้สมภารหนุ่มในขณะนั้นต้องสงเคราะห์ญาติโยมที่มาขอตะกรุดท่านตลอด
    ครูบาอาจารย์ในสายอาคมของท่านที่ไม่กล่าวถึงเลยไม่ได้ บิดาของหลวงพ่อหวั่น เป็นนักเล่นอาคม นับได้ว่าเป็นผู้ขมังเวทย์อีกคนหนึ่งใน

    ย่านคลองคูณ เพราะหมอหมึก โยมบิดาของท่านเป็นหมอแผนโบราณที่ชอบและฝักใฝ่ในเรื่องคาถาอาคมจนถือกันว่าขึ้นชั้นระดับแถว

    หน้าของชาวบ้านย่านคลองคูณเพราะเมื่อ ๕-๖๐ปี ก่อนยังถือว่าบ้านคลองคูณ อยู่ในถิ่นกันดารที่การเดินทางยังยากเข็ญอยู่นอกจาก

    เกวียนหรือม้าแล้วก็ทางเรือเท่านั้นที่สะดวก ใครถูกผีเข้าเจ้าสิงก็ต้องวิ่งโร่ไปที่บ้านหมอหมึกและส่วนมากจะหายเสียด้วยจึงทำให้ชื่อเสียง

    ลือกระฉ่อนออกไปในรัศมีกว้างในละแวกนั้น และย่านใกล้เคียงจึงมอบความไว้วางใจให้หมอหมึกเป็นผู้รักษาจะกินนํ้าหมาก ราด

    นํ้ามนต์ก็ไม่ขัดข้องเพราะ หมอหมึกถือว่าช่วย
    สงเคราะห์เพื่อนมนุษย์ร่วมโลกหายทุกข์คลายโศกกันคนแล้วคนเล่า หรือเจ็บไข้ได้ทุกข์ทางร่างกายและจิตใจก็วิ่งหาหมอหมึกให้ช่วย

    เจียดยา บรรเทาทุกข์เวทนา ด้วยที่หลวงพ่อหวั่นพบเห็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของหมอหมึก ผู้เป็นโยมพ่อหรือสมัยนี้เขาจะเรียกเสีย

    โก้หรูว่าแพทย์แผนโบราณมาตั้งแต่เด็กๆจึงทำให้จิตใจ ของหลวงพ่อหวั่น มีแต่ความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ผู้เกิดมาร่วมโลกเสมอด้วย

    ญาติกันทุกคน
    นอกจากหมอหมึกบิดาของท่านแล้ว หลวงพ่อหวั่นได้เรียนวิชาจากตำราของหลวงพ่อโพธิ์ วัดคลองหมาเน่า ซึ่งหลวงพ่อโพธิ์ท่านเป็นพระ

    มอญที่ไปจากจังหวัดปทุมธานี มีความเชี่ยวชาญในการลงตะกรุดคงกระพัน ไปอยู่ที่วัดคลองหมาเน่า จนกระทั่ง มรณะภาพ ลงญาติพี่

    น้องของท่านที่อยู่ในจังหวัดปทุมธานี ได้เดินทางไปรับศพท่านกลับมาประกอบพิธีทางพระศาสนาและ ปลงศพที่บ้านเกิดหลังที่ทางคณะ

    กรรมการวัดคลองหมาเน่าตลอดจนผู้ศรัทธาได้ประกอบพิธีทางศาสนาได้ระยะหนึ่ง เล่ากันว่าหลวงพ่อโพธิ์ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่

    เข้มขลังวิชาเป็นที่เคารพศรัทธาของญาติโยมใน ละแวกนั้น นอกจากหลวงพ่อโพธิ์วัดคลองหมาเน่าแล้ว หลวงพ่อหวั่น ท่านได้ไปเรียน

    คาถาด้านเมตตามหานิยมกับท่านพระอาจารย์รอด ที่สำคัญและไม่กล่าวถึงไม่ได้คือหลวงพ่อจันทร์ วัดคลองคูณพระเกจิอาจารย์นาม

    อุโฆษในอดีต หลวงพ่อหวั่นได้เรียนรู้วิชาอาคมของหลวงพ่อจันทร์ท่านได้วิธีการลงอักขระยันต์ต่างๆ ในตะกรุดตลอดจนขั้นตอนการปลุก

    เสกและการนั่งสมาธิ เพื่อให้วัตถุมงคลที่ได้ปลุกเสกไปเกิดมีฤทธิ์อำนาจทางพุทธคุณในด้านต่างๆ เมื่อได้ศึกษามาก็ได้ฝึกปรือจนแน่ใจว่า

    ใช้ได้ในเรื่องพุทธคุณไม่ขาดไม่เกินความสามารถที่หลวงพ่อหวั่นท่านได้เรียนมาก็มอบให้ญาติโยมซึ่งเดินทางมาจากที่ต่างๆทั้งใกล้และ

    ไกลเมื่อมีประสบการณ์ต่างบอกกล่าวเล่าต่อๆ กันไปกระทั่งท่านนั่งต้อนรับญาติที่ต่างดั้นด้นมาหาท่าน แม้ในขณะนั้นบางคนต้องเดิน

    เท้ามานานนับชั่วโมงโดยมิย่อท้อ เดินทางมาเพื่อให้พบกับพระอาจารย์หนุ่มท่านนี้ให้จงได้ และหลวงพ่อหวั่น ท่านเป็นผู้มีเมตตาสูงใคร

    ไปใครมาขอเมตตาอะไรจากท่านก็ล้วนแต่สำเร็จจากปากสู่หูที่บอกเล่ากล่าวต่อกันไป ชื่อเสียงของท่านหอมกระจายไปในทุกสารทิศ

    เหมือนกลิ่นดอกแก้วที่หอมรวยรินไปกับสายลมในยามรุ่งอรุณ เกียรติคุณความดีของท่านนั้นหาได้ผิดแผกไปจากความหอมแห่งบุปผา

    ชาติในยามรุ่งสางไม่ ปัจจุบันแม้สังขารจะล่วงเลยเข้าร่วมศตวรรษแล้วก็ตาม แต่หากมีพิธีพุทธาภิเษก ในเขตจังหวัดพิจิตรตลอดจนย่าน

    ใกล้เคียงในละแวกนี้ จะต้องมีนามของท่านพระครูพิพิธธรรมาทรร่วมในพิธีฯ อยู่ด้วยเสมอทุกครั้งไป



    [​IMG]


    [​IMG]

     
  11. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]

    เหรียญธุดงค์ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ปี 2521

    [​IMG]


    พ.ต.อ.ทวี สันติกุล จากกทม.ได้ร่วมกับพ่อค้าประชาชนหลายฝ่าย สร้างรูปเหมือนขนาดเท่าองค์จริงแบบธุดงค์ และอัญเชิญไป

    ประดิษฐานไว้หน้าพระเจดีย์บนวัดดอยแม่ปั๋ง นอกจากนี้คณะกรรมการได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาพร้อมกันนี้เป็น

    1.รูปหล่อแบบธุดงค์ขนาดบูชาแบบไม่มีรัดประคต สร้างจำนวน 99 องค์ แบบมีรัดประคต 9 องค์
    2.เหรียญรุ่นธุดงค์ มีชนิดเนื้อโลหะดังนี้
    -เนื้อทองคำ สร้างจำนวน 9 เหรียญ
    -เนื้อเงิน สร้างจำนวน 200 เหรียญ
    -เนื้อนวโลหะ สร้างจำนวน 1000 เหรียญ
    -เนื้อทองแดง สร้างจำนวน 3000 เหรียญ
     
  12. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    พระปัจเจกพุทธเจ้า หลวงพ่อฤๅษีอธิษฐานจิต

    [​IMG]


    พระปัจเจกพุทธเจ้า
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    พระปัจเจกพุทธเจ้า (บาลี: ปจฺเจกพุทฺธ, สันสกฤต: ปฺรตฺเยกพุทฺธ) เป็นพระพุทธเจ้าประเภทหนึ่ง ได้บำเพ็ญบารมี 2 อสงไขยกำไรแสนกัป

    และตรัสรู้อริยสัจ 4 ด้วยพระองค์เองเช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    แต่จะเสด็จมาตรัสรู้ในคราวที่โลกว่างเว้นพระพุทธศาสนา และมาตรัสรู้ได้หลายพระองค์ในสมัยเดียวกัน

    แต่พระปัจเจกพุทธเจ้านั้น มิได้ทรงประกาศพระศาสนาเกิดสาวกพุทธบริษัทเหมือนอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    [​IMG]

    ในปรมัตถโชติกา อรรถกถาสุตตนิบาตอธิบายว่า การบรรลุธรรมของพระปัจเจกพุทธเจ้า เปรียบเสมือนรสกับข้าวที่พรานป่าได้ลิ้มในเมือง

    ฉะนั้น จึงไม่อาจสอนให้บุคคลอื่นรู้ตามตนได้ (คือสอนได้แต่ไม่อาจให้รู้ตามได้) ไม่ก่อตั้งหรือสถาปนาในรูปสถาบันศาสนา

    แต่เน้นอนุโมทนาแก่ผู้ถวายทานให้ท่าน จะอุบัติขึ้นในช่วงพุทธันดร กล่าวคือ เป็นช่วงเวลาที่โลกว่างจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ดังนั้น ในปัจจุบันนี้ จึงไม่มีพระปัจเจกพุทธเจ้าอุบัติขึ้น

    พระปัจเจกพุทธเจ้าแต่ละองค์มีประวัติคล้ายกัน คือ เป็นมาจากกษัตริย์ พราหมณ์ หรือคหบดี ในสมัยโบราณที่เบื่อหน่ายในโลกิยสมบัติ

    ได้ออกบวชศึกษาพระธรรมจนบรรลุพระปัจเจกโพธิญาณ เมื่อบรรลุพระปัจเจกโพธิญาณแล้ว ก็ไปชุมนุมที่เขาคันธมาทน์กูฏ

    ซึ่งเป็นยอดเขาแห่งหนึ่งของเทือกเขาหิมพานต์หรือหิมาลัย มีฝูงช้างฉัททันต์คอยปรนนิบัติอยู่เป็นนิจ

    [​IMG]

    คุณลักษณะพิเศษที่สำคัญประการหนึ่งของพระปัจเจกพุทธเจ้าคือ การดำเนินชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว หรือการดำเนินชีวิตอยู่เพียงลำพัง (เอกะ)

    ในวรรณคดีพระพุทธศาสนา เปรียบเทียบ การดำเนินชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวของพระปัจเจกพุทธเจ้า

    เหมือนกับนอแรด (ขคฺควิสาณกปฺโป) ซึ่งแรดของอินเดียมีเพียงนอเดียว

    ส่วนแรดในประเทศอื่นมี ๒ นอก็มี แต่กระนั้นก็ตาม พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ต้องมาประชุมพร้อมกันเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน

    คือในวันที่พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ใหม่อุบัติขึ้นและในวันอุโบสถ

    พระพุทธองค์ตรัสแก่พระอานนท์ในคัมภีร์ปัจเจกพุทธาปธานว่า "ในโลกทั้งปวง เว้นเราแล้ว ไม่มีใครเสมอพระปัจเจกพุทธเจ้าเลย"
     
  13. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]

    [​IMG]

    พระผงเจ้าแม่กวนอิมอ.หม่อมนิรนาม ไตรภูมิ สร้างเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ที่วัดบ้านหนองตะเคียน ต. จาน อ. เมือง จ. ศรีสะเกษ ตามประวัติศาสตร์วัดหนองตะเคียนเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติ ศาสตร์ เนื่องจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราขได้เคยพาไพร่พลมาพักทัพที่นี่ สมัยเมื่อครั้งกำลังกอบกู้เอกราชของชาติไทยเรา จึงได้สร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินไว้ที่วัดนี้ ถือเป็นพิธีที่ใหญ่ที่สุดของเมืองศรีสะเกษ มีสองเนื้อด้วยกันคือ เนื้อสีแดงและเนื้อสีขาว

    พระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก ที่ใหญ่ที่สุด ของเมืองศรีสะเกษ
    เมื่อ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของเมืองศรีสะเกษ อีกวันหนึ่ง เนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ เสด็จมาเป็นประธานในพระราชพิธี มหาพุทธาภิเษก วัตถุมงคล " เจ้าแม่กวนอิม มหาโพธิสัตว์ สุขาวดีภูมิไตรโลกาโลกนาถ " ที่วัดบ้านหนองตะเคียน ตำบลจาน อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ
    ส่วนประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์นั้น ได้รับความอนุเคราะห์จาก พระพรหมวชิรญาณ ( ประสิทธิ์ เขมังกโร ) กรรมการมหาเถรสมาคม และ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา กรุงเทพ ฯ
    ส่วนเจ้าพิธีพุทธาภิเษก ฝ่ายสงฆ์นั้น คือ หลวงปู่เกลี้ยง วัดบ้านโนนแกด อำเภอเมือง และ เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส นั้นคือ นายจักรพรรดิ โพธิสัตว์ทองคำ ( อาจารย์หม่อม )

    พระเกจิอาจารย์ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ
    1. หลวงปู่คำบุ คุตตจิตโต วัดกุดชมพู
    2. หลวงปู่จันทร์หอม วัดบุ่งขี้เหล็ก
    3. หลวงปู่ทองวรรณ วัดปากโดม
    4. หลวงปู่ดี วัดสร้างแก้วใต้
    5. หลวงปู่หมี ปัญญาทโร
    6. หลวงพ่อสายทอง วัดพรหมนิวาสวรวิหาร
    7. หลวงปู่นอง ธัมมโชโต วัดวังสีทอง
    8. หลวงพ่อสมจิตร วัดบ้านด่าน (ศิษย์เอกหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน)
    9. หลวงปู่สำราญ อนุตตโร วัดหนองบอน
    และร่างทรงจำนวน 36 ร่าง เจ้าพิธีโดยอาจารย์นิรนาม

     
  14. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]



    พระกริ่งจักรพรรดิเนื้อผงว่าน ๑o๘


    หลวงพ่ออุตตมะ


    บทความจากคุณเนาว์หรือพุทธวงศ์ที่ได้ประมวลอัจฉริยภาพของหลวงพ่ออุตตมะในหลายๆเรื่องมาให้เราได้ศึกษากัน โดยเฉพาะเรื่องของพระกริ่ง ซึ่งครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง เคยกล่าวแก่พุทธวงศ์ว่า"หลวงพ่ออุตตมะท่านคือพระมหา... พระอาจารย์ของสมเด็จพระ...กลับชาติมาเกิด"




    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
    จากพุทธคุณ ฉบับที่ 103 กรกฎาคม 2546



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    พระกริ่งจักรพรรดิ เนื้อผงว่าน ๑o๘ ผสมเกศา บรรจุปฐวีธาตุตำรับหลวงพ่ออุตตมะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2015
  15. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามเช้าทุกๆท่าน
    ขอบคุณเรื่องราวดีๆมีสาระ พร้อมวัตถุมงคล และถาวรวัตถุที่นำมาให้ได้อ่าน ติดตามต่อครับ
     
  16. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    [​IMG]

    พรุ่งนี้ขอชมเนื้อสัตตโลหะหน่อยน๊าาาา...


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2015
  17. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]



    พระเนื้อผง'หลวงพ่อพริ้ง'วัดบางปะกอก คมชัดลึก ออนไลน์



    พระเนื้อผง'หลวงพ่อพริ้ง'วัดบางปะกอก...ที่น่าสนใจ : โก้ สุธิพร

    ในจำนวนพระคณาจารย์ยุคสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยกย่องนับถือของทั้งชาววัด และชาวบ้าน มีอยู่ไม่น้อยในฐานะเป็นที่พึ่งอันประเสริฐ ยามชีวิตต้องตกอยู่ในเปลวเพลิงแห่งไฟสงคราม นาม จาด จง คง อี๋ เป็นชื่อพระคณาจารย์ชั้นหัวแถว ที่ใครๆ ก็รู้จัก นอกจากนี้ยังมี หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อจันทร์ วัดนางหนู หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว หลวงพ่อเลียบ วัดเลา และอีกหลายต่อหลายท่านที่ได้รับการยกย่องว่า เอกอุในทางวิทยาคม

    พระคณาจารย์อีกรูปหนึ่งที่จะไม่อาจมองข้ามไปได้ เมื่อคุยกันด้วยเรื่องพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองฤทธิ์วิทยาคม ก็คือ พระครูประสาทสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก พระครูผู้ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นพิเศษถือพัด จ.ป.ร. อันหมายถึงพระครูที่มีเกียรติคุณในทางวิปัสนาธุระ

    ขออย่าได้สับสนกับสมณศักดิ์ พระครูวิสุทธิ์ศีลาจารย์ ที่ปรากฏอยู่บนเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของ หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก เพราะนั่นเป็นนามสมณศักดิ์ของ หลวงพ่อวงศ์ วัดมะกอก ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นความคลาดเคลื่อนชวนให้เวียนหัว เอาไว้มีโอกาสจะสาธยายให้หายสงสัย)

    เกียรติคุณของหลวงพ่อพริ้ง นั้น มีมากมายหลายประการ ว่ากันว่า งานพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ๆ ในเวลานั้นต้องมี หลวงพ่อพริ้ง ร่วมอยู่ด้วยเสมอ แม้แต่งานหล่อพระรูป สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวร สิริวัฒน์ วัดราชบพิธฯ ปี ๒๔๘๑ ยังต้องหมายเหตุเอาไว้ใต้ภาพถ่ายหมู่ของพระไม่ทันเวลาถ่าย คณาจารย์ที่ร่วมในพิธีว่า ... พระครูวิสุทธิศีลาจารย์ (อาจารย์พริ้ง) วัดบางปะกอก ธนบุรี มา(รูป) แต่ทันเข้าพิธีปลุกเสกและสวดมนต์ฉลอง หรือแม้แต่การสร้างพระกริ่งของวัดสุทัศนฯ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ยังโปรดให้นิมนต์พระอาจารย์พริ้งมาร่วมด้วยเสมอมิได้ขาด

    เรื่องที่น่าสนใจและเป็นเรื่องที่ใครๆ มักพูดถึงเขียนถึง เมื่อหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับ หลวงพ่อพริ้ง นั่น คือ หลวงพ่อพริ้ง เป็นพระอาจารย์สำคัญรูปหนึ่งที่ กรมหลวงชุมพรฯ ทรงยกย่องนับถือ และไปร่ำเรียนวิชาทางพุทธาคมด้วย แม้จะทรงร่ำเรียนมากับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จนหมดตำรา มาแล้วก็ตาม ทั้งยังโปรดให้พระโอรสทั้งสามได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบางปะกอก เพื่อให้อยู่ในความดูแลของหลวงพ่อพริ้งอีกด้วย

    เหตุนี้เอง บรรดาทหารเรือจึงพลอยให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อพริ้งไปด้วย ขณะเดียวกันพระเครื่องของหลวงพ่อพริ้งจำนวนไม่น้อยที่มีหมุนเวียนในสนามพระ ก็มาจากทหารเรือรุ่นเก่าๆ นี่เอง

    [​IMG]

    หลวงพ่อพริ้ง สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง อันแสดงให้เห็นว่า ท่านมีความสามารถหลายด้าน และเจนจบในศาสตร์ทางพุทธาคมหลายแขนง ทั้งผ้ายันต์ เสื้อยันต์ ตะกรุด มงคลแขน มงคลสวมหัว พระเครื่องเนื้อผง เนื้อโลหะ เนื้อดินเผา ลูกอมเนื้อผง สีผึ้งทาปาก ฯลฯ มีเรื่องเล่าว่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ นั้น หลวงพ่อพริ้งท่านทำลูกอมเนื้อผงแจกไม่ทัน กระทั่งต้องเก็บหินกรวดในลานวัด มาเสกแจกแทนลูกอม ซึ่งก็ขลังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

    อันที่จริงหลวงพ่อพริ้งท่านสร้างพระเครื่องเนื้อผงไว้ไม่น้อย ทั้งยังมีแบบพิมพ์มากมาย มีทั้งประเภทถอดพิมพ์มาจากพระยุคเก่า แบบล้อพิมพ์พระยุคเก่า และแบบที่สร้างขึ้นใหม่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสำนักวัดบางปะกอกเองก็มี ซึ่งแต่ละแบบพิมพ์สร้างขึ้นหลายต่อหลายครั้ง สังเกตได้จากเนื้อหาของ พระพิมพ์เดียวกันจะมีความต่างกันของเนื้อหาของส่วนผสม ตลอดจนผิวพรรณธรรมชาติ

    [​IMG]

    แต่ไม่ว่า พระเครื่องของท่านจะแตกต่างกันอย่างไรก็ตาม วัสดุมวลสารซึ่งประกอบกันเป็นองค์พระจะต้องมีเนื้อหาคล้ายๆกัน คือ มีเม็ดผงสีขาว ทั้งแบบหยาบและละเอียดกระจายอยู่โดยทั่วไป ผงสีดำคล้าย ผงถ่าน ซึ่งบางครั้งเห็นเป็นชิ้นๆ อย่างชัดเจน แต่ส่วนใหญ่จะค่อนข้างละเอียด มีลักษณะดำด้านๆ พระบางองค์จะปรากฏเม็ดแร่บดละเอียด มีความมันวาว รูปทรงไม่แน่นอน ท่านผู้รู้เชื่อว่า เป็นแร่เกาะล้าน ซึ่งเป็นของทนสิทธิ์ หรือของขลังตามธรรมชาติ เม็ดสีน้ำตาลอมส้มจุดเล็กๆ แม้จะมีไม่มากนัก แต่เท่าที่พบส่วนใหญ่จะปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด นอกจากนั้นยังมีเม็ดกรวด ทราย กระจายตัวอยู่ประปราย

    พระเครื่องเนื้อผงส่วนใหญ่ของหลวงพ่อพริ้งจะมีสีสันวรรณไปทางสีเทา ทั้งเทาอ่อน เทาเข้ม เทาอมเขียว เทาอมชมพู แต่มีจำนวนไม่น้อยที่เป็นพระเนื้อผงคลุกรัก เนื้อผงใบลาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพิมพ์ พระคง ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ใหญ่ พิมพ์กลาง พิมพ์เล็ก

    สำหรับ พิมพ์พระคง นี้ บางองค์มีเม็ดแร่ผสมอยู่มาก ดูแพรวพราวตระการตา เนื้อพระชนิดนี้แทบจะมองไม่เห็นมวลสารประเภท ผง สีขาว ผงสีน้ำ ตาล และผงวิเศษสีอื่นใดเลย เนื่องจากมีความประณีตในการบดผงผสมเนื้อพระ เข้ากับผงใบลานเผา และยางรัก จึงทำให้เนื้อพระปรากฏแต่สีดำเท่านั้น

    แต่ พระคง บางองค์ก็มีเนื้อหยาบๆ ปรากฏมวลสารให้เห็นเป็นจำนวนมาก แม้เนื้อหาขององค์พระจะเป็นสีดำก็ตาม นักสะสมในสายหลวงพ่อพริ้งมักเรียกพระเนื้อแบบนี้ว่า “เนื้อพุทรากวน”

    [​IMG]

    มีข้อน่าสังเกตอีกอย่างหนึ่ง ในเรื่องการผสมเนื้อพระของหลวงพ่อพริ้ง คือ พระเครื่องของวัดบางปะกอก ที่สร้างขึ้นในสมัยหลวงปู่พริ้งนั้นค่อนข้างร่วนซุย และมีลักษณะของการทดลองตัว ประสานเนื้อพระอยู่ตลอดเวลา และเชื่อได้ว่าหลวงพ่อพริ้งท่านไม่ได้ใช้น้ำมันตั้งอิ๊วเป็นตัวประสานเนื้อพระแต่อย่างใด เพราะพระเครื่องของท่านจะหาความหนึกนุ่ม ตามแบบฉบับพระเครื่องเนื้อผง ที่เห็นกันโดยทั่วไปได้ยากมาก

    ในเรื่องนี้หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า หลวงพ่อพริ้งนิยมใช้วัสดุจำพวกปูนซีเมนต์เป็นตัวประสานหลัก จึงทำให้เมื่อเนื้อพระแห้งแล้วจึงไม่มีความฉ่ำของตัวประสานประเภทน้ำมันใดๆ เลย พระประเภทนี้มักพบว่า มีการใช้วัสดุต่างๆมาเคลือบผิว เพื่อรักษามิให้พระกระเทาะแตกหักได้ง่าย เช่น เคลืบด้วยยางไม้ หรือเชลแล็กก็เคยพบ

    แต่ใช่ว่าท่านจะใช้ปูนซีเมนต์เพียงอย่างเดียว ดังที่ได้กล่าวไว้ว่า หลวงพ่อพริ้งท่านเป็นนักทดลอง จึงมักคิดค้นสูตรการประสานเนื้อผงในพระเครื่องของ ท่านอยู่เสมอ พระเครื่องบางพิมพ์บางรุ่นก็ใช้รักน้ำเกลี้ยงบ้าง สมุกบ้าง เทียนขี้ผึ้งบ้าง (พบในลูกอมเนื้อสีดำ) หรือแม้แต่ดินหม้อเคล้ายางรัก ซึ่งเนื้อพระจะมีความเนียนละเอียด ฉ่ำมัน (แบบเดียวกับพระกริ่งคลองตะเคียน) ก็มี

    [​IMG]


    จะว่าไปแล้ว พระของหลวงพ่อพริ้งน่าจะขึ้นหลักแสนมานานแล้ว แต่กลับมีค่านิยมอยู่เพียงหลักพันหลักหมื่นเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลก ทั้งที่มีปัจจัยพร้อมมูลอยู่มากมาย ทั้งรูปแบบพิมพ์ทรง และเนื้อหาก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งหลวงพ่อพริ้งท่านก็เป็นผู้ทรงคุณอันวิเศษ ที่ได้รับการยกย่องยอมรับมานานแสนนาน ประสบการณ์ก็มีปรากฏมากมาย ทั้งฝ่ายบู๊ ฝ่ายบุ๋น ซึ่งชาวบางปะแก้ว บางปะกอก ให้ความศรัทธาเชื่อมั่นอยู่เต็มหัวใจ หรืออาจเป็นเพราะความเมตตาที่หลวงพ่อพริ้งท่านต้องการสงเคราะห์คนสตางค์น้อยซึ่งมีอยู่ไม่น้อย ได้มีของดีของท่านคุ้มครองตัวก็เป็นได้

    และหากจะถามว่าพระเครื่องของหลวงพ่อพริ้งนั้นมีดีดังที่กล่าวอ้างมาเสียยืดยาวนั้น แน่หรือ พิสูจน์ได้อย่างไร ขอบอกได้เลยว่า ไม่ต้องทดลองให้เสียเวลา เพราะ กรมหลวงชุมพรฯ ท่านได้ทรงทดสอบมาจนพอพระทัยแล้ว ถึงได้ยอมรับนับถือหลวงพ่อพริ้งเป็นครูบาอาจารย์ ทั้งที่ทรงมีพระชนมายุน้อยกว่าหลวงพ่อพริ้งเพียง ๑๐ ปีเท่านั้น

    ประวัติโดยสังเขป "หลวงพ่อพริ้ง" วัดบางปะกอก

    พระครูประศาสน์สิกขกิจ (พริ้ง อินทโชติ) วัดบางปะกอก มีนามเดิมว่า "พริ้ง เอี่ยมทศ" เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะเมีย ตรงกับปี พ.ศ.๒๔๑๒ ที่บ้านบางปะกอก โยมบิดาชื่อ "เอี่ยม" โยมมารดาชื่อ "สุ่น" บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) ตั้งแต่ยังเล็ก ศึกษาอักขรสมัย และพุทธาคมกับ พระสังวรานุวงศ์ (เมฆ) จนเชี่ยวชาญตั้งแต่เยาว์วัย

    เมื่ออายุครบบวชจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดบางปะกอก เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๕ โดยมี พระสุธรรมสังวรเถร วัดทองนพคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระพุทธสร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระจันทโชโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อบวชแล้วได้พำนัก ณ วัดทองนพคุณ เป็นเวลาปีเศษแล้ว จึงย้ายกลับมาอยู่วัดบางปะกอก

    ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางปะกอกใน พ.ศ.๒๔๓๘ ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ใน พ.ศ.๒๔๗๐ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นพระครูสัญญาบัตร ที่ "พระครูประศาสน์สิกขกิจ" เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๙
    หลวงพ่อพริ้งมรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ วัดบางปะกอก เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๐
     
  18. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,519
    ค่าพลัง:
    +53,107
    พระชุดในโอ่งจัดสร้างขึ้นเมื่อปี 2527 เป็นพระเนื้อปูนซีเมนต์ขาวผสมผงพุทธคุณหลวงปู่ดู่ (ยืนยันได้ว่าพระหลวงปู่มีผงพุทธคุณผสมอยู่ด้วย เนื่องจากเคยเข้าไปในห้องกระจกบนหอสวดมนต์ ได้เห็นกระดานชนวนที่หลวงปู่ใช้ลบผง) พระชุดนี้จัดสร้างโดยคณะป้าอิ้งและพระอ้วน พระพิมพ์หลักๆที่จัดสร้างประกอบด้วย

    1.พิมพ์สังข์กระจายวัดสุทัศน์ฐานสูงและฐานเตี้ย
    2.พิมพ์สมเด็จสามชั้น (ถอดพิมพ์ บางขุนพรหม,วัดระฆัง,เจ้าคุณนรฯ และ หลวงพ่อแพ)
    3.พิมพ์สมเด็จ 7 ชั้น & 9 ชั้น (ถอดพิมพ์ วัดเกษไชโย)
    4.พิมพ์สมเด็จปรกโพธิ์ (ถอดพิมพ์ บางขุนพรหม และ หลวงพ่อแพ)
    5.พิมพ์สมเด็จฐานสิงห์ (ถอดพิมพ์หลวงพ่อแพ)
    6.พิมพ์พระลือ
    7.พิมพ์ปรกยะลาเจ้าคุณนรฯ
    8.พิมพ์พระประจำวันวัดรัตนชัย
    9.พิมพ์พระธิเบตใหญ่ & เล็ก (ไม่ทราบถอดพิมพ์จากไหน)
    10.พิมพ์หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง
    11.พิมพ์เหรียญบัวข้าง 2520
    12.พิมพ์เหรียญฉีดบัวข้าง 2522
    13.พิมพ์เหรียญยันต์ดวง 2526
    14.พิมพ์พระปิดตาฤาษีลิงดำ
    15.พิมพ์วัดศีลขันธาราม
    16.พิมพ์พระของขวัญวัดปากน้ำ, พระลีลาเล็กๆ
    เท่าที่นึกได้ครับ เนื้อจะมีทั้งขาว, เทา และเหลืองอมเขียว ด้านหลังจะมีทั้งหลังเรียบ, หลัง ๑ ด และ หลัง อะ ระ หัง


    [​IMG]
     
  19. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]






    ขอบคุณครับพี่ตี๋ที่ติดตามอ่าน จะพยายามหาข้อมูลพระนำมาให้ศึกษากัน พระบางองค์หลายท่านมีอยู่อาจไม่รู้ที่มาที่ไป บางท่านอาจมีอยู่แล้วจะได้เพิ่มศรัทธายิ่งๆขึ้นไป มีอีกหลากหลายครูบาอาจารย์จะทยอยนำมาให้อ่านกันครับ
     
  20. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326

    [​IMG]



    พระมหายันต์ชินบัญชรหินอ่อน รุ่น ๓

    พระราชอุดมมงคล (อุตตมะ อุตตมรัมโภ)
    วัดวังก์วิเวการาม ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
    ประกอบพิธีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๖


    พระมหายันต์โบราณนี้ถือกำเนิดในประเทศธิเบต ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนานิกายวัชระตันตระยาน อันถือพระพุทธ พระโพธิสัตว์ และเทพเจ้าเป็นสรณะ นิยมประกอบพิธีด้วยเวทย์มนต์ศักดิ์สิทธิ์มากมาย ลามะรูปหนึ่งในอดีตค้นพบคาถาวิเศษจารึกอยู่บนแผ่นหิน เมื่อนำมาท่องบ่นภาวนาปรากฏผลในฤทธานุภาพของพระคาถาอย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจึงนำคาถานี้ออกเผยแพร่แก่ผู้ศรัทธาและคาถาบทนั้นก็คือ “พระชินะปัญชะระสูตร”

    นับร้อยปีในอดีต มีพระเถระชาวรามัญรูปหนึ่งจาริกสู่ธิเบต ได้พบศิษย์ท่านลามะดังกล่าวจึงได้เล่าเรียนศึกษาและนำกลับมาเผยแพร่ในเมืองมอญ ส่วนหนึ่งไปยังประเทศศรีลังกา ส่วนหนึ่งเข้ามาในสยาม พระคาถาชินบัญชรจึงมีถ้อยคำที่แตกต่างตามการออกเสียงอยู่ถึง ๓ ฉบับ พระเถระมอญผู้ทรงอิทธิคุณรูปนั้นนามว่า “ท่านเภมิสิญา”

    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี กรุงเทพ ได้เที่ยววิเวกสู่ประเทศพม่าและพบกับพระคาถาชินบัญชรของท่านเภมิสิญาเถระ จึงนำกลับมาสยามและใช้พระคาถานี้ในการปลุกเสก – อธิษฐานจิตพระสมเด็จอันเลื่องชื่อของท่านจนบังเกิดอานุภาพนานาประการเป็นที่ปรารถนาของประชาชนทั่วไป ทั้งยังทำตามตำรับเดิมโดยจารพระคาถาลงในแผ่นศิลา แผ่นหนึ่งทิ้งลงที่ท่าน้ำเจ้าพระยาหน้าวัดระฆัง ฯ ยังผลให้น้ำหน้าวัดบริเวณนั้นแปรสภาพเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้ผ่านมานับร้อยปีก็ยังคงขลังอยู่ไม่เสื่อมคลาย อีกแผ่นหนึ่งท่านใส่ไว้ในบ่อน้ำของวัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม กรุงเทพ น้ำในบ่อก็กลายเป็นน้ำมนต์สารพัดนึกเช่นเดียวกัน กระทั่งวัดอินทรวิหารเห็นความสำคัญได้บูรณะบ่อน้ำมนต์โดยขุดลอกทำความสะอาดและสร้างมณฑปครอบไว้อย่างสวยงาม



    [​IMG]



    หลวงพ่ออุตตมะเป็นพระเถระรามัญวงศ์ที่ได้ศึกษาวิทยาคุณมาอย่างแตกฉานเจนจบ ท่านเป็นศิษย์ในสายของท่านเภมิสิญาอีกรูปหนึ่ง ที่ได้ศึกษาพระชินบัญชรคาถาและวิธีทำพระมหายันต์โบราณนี้ คณะศิษย์มีคุณอภิรักษ์ จุฬาศินนท์ เป็นแกนนำจึงขอสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พึ่งแก่บรรดาศิษย์ ท่านก็ประทานอนุญาตและได้จัดทำมาแล้ว ๒ รุ่น ด้วยความที่สร้างยากคุณอภิรักษ์จึงเคยขอหลวงพ่อว่าปั๊มลงบนแผ่นโลหะได้ไหม ท่านตอบทันทีว่า

    “ไม่ได้ ! อานุภาพไม่เกิด ต้องจารึกลงบนแผ่นหินเท่านั้น”

    จึงต้องบินไปทำเพลทต้นแบบพระยันต์ซึ่งเป็นอักขระมอญที่ประเทศพม่าเพราะเมืองไทยไม่มีคอมพิวเตอร์ภาษามอญ เสร็จแล้วจึงนำมาแกะลงบนแผ่นหินอ่อนอีกที หลวงพ่อให้พระอาจารย์ลิตึงเป็นผู้เขียนยันต์ตามคำบอกของท่านและท่านได้ตรวจทานด้วยองค์ท่านเองว่าอักขระไม่ผิดถูกถ้วนดีแล้วทุกประการจึงมอบให้นำไปสร้าง

    พระมหายันต์นี้ขณะเสกต้องแช่อยู่ในน้ำพระพุทธมนต์ตลอดเวลาจนเสร็จพิธี เมื่อทำถูกต้องตามตำราแล้วหลวงพ่อรับรองว่ามหายันต์หินอ่อนนี้จะมีอานุภาพมากนัก แม้ประดิษฐานอยู่ในที่ใดจะเป็นดุจกำแพงแก้วอันวิเศษป้องกันเสียซึ่ง โจรภัย อัคคีภัย วาตะภัย ภัยอันเกิดจากธรรมชาติก็ดี ไม่ใช่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดจากมนุษย์ก็ดี อมนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น คุณไสยมนต์ดำ คุณผีคุณคน หรือลมเพลมพัดต่าง ๆ ไม่อาจแผ้วพาลสถานที่ประดิษฐานแผ่นยันต์ศิลานี้ได้เลย




    [​IMG]



    หลวงพ่อกล่าวว่า พระยันต์นี้จะนำไปติดที่เสาเอกบ้านก็ดี วางบนหัวเสาเอกก็ดี หรือติดไว้ที่หน้าจั่วบ้าน ย่อมเป็นสิริมงคลแก่บ้านและบุคคลที่อาศัยในบ้านนั้นยิ่งนัก วางบนโต๊ะหมู่บูชาหรือหิ้งพระก็เสริมสวัสดิมงคลแก่ผู้บูชานักแล

    แม้ปรารถนาน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ให้หาภาชนะสะอาดใส่น้ำสะอาดที่สามารถใช้ดื่มกินได้ลงไป จุดธูป ๕ ดอก เทียน ๒ เล่ม สวดมนต์บูชาพระตามปกติแล้วตั้งจิตระลึกถึง พระอินทร์ พระพรหม พระฤาษี พราหมณ์ ท่านเภมิสิญา และหลวงพ่ออุตตมะเป็นที่สุด อธิษฐานถึงความต้องการของเราแล้วเชิญแผ่นยันต์ลงในน้ำ เมื่อยันต์สัมผัสกับน้ำ น้ำนั้นจะแปรสภาพเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์มีคุณภาพดุจดังครูบาอาจารย์และหลวงพ่ออุตตมะมานั่งเสกให้ด้วยองค์ท่านเองถึงที่บ้านเลยทีเดียว จึงกล่าวได้ว่าแผ่นยันต์ที่ทรงคุณค่าแผ่นนี้แทนตัวหลวงพ่ออุตตมะในการทำน้ำมนต์ได้อย่างแท้จริง


    หากทุกท่านทำได้ ควรแช่แผ่นยันต์นี้ไว้ในน้ำบริโภคตลอดเวลาและนำน้ำมากรอกใส่ขวดแช่เย็นไว้ดื่มกิน ใส่กาน้ำร้อนไว้ต้มชงกับอะไร ๆ สิ่งนั้น ๆ ก็เป็นของศักดิ์สิทธิ์มีพลานุภาพขึ้นได้ดังอธิษฐาน เมื่อได้รับประทานทุกวันย่อมมีสุขภาพดีไม่ป่วยไข้ง่าย มีอายุยืน ธาตุทั้งสี่ในร่างกายได้รับน้ำศักดิ์สิทธิ์หล่อเลี้ยงสม่ำเสมอย่อมต่อต้านสิ่งอัปมงคล ป้องกันคุณไสยของไม่ดีต่าง ๆ ที่จะมาเข้าตัวได้ คล้ายกับเราแขวนพระอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

    แม้รู้สึกไม่สบายใจว่าเรามีเคราะห์ ชะตาไม่สู้ดี ก็สามารถนำน้ำมนต์นี้มาดื่มล้างหน้าและอาบรดเพื่อสะเดาะห์เคราะห์ต่อชะตาได้เองโดยไม่ต้องไปพึ่งใคร เพราะพระยันต์นี้เป็นของสำเร็จอธิษฐานแบบครอบคลุมมาทุกประการ แต่การล้างหน้าและอาบน้ำมนต์นี้ท่านมิให้กระทำในห้องน้ำห้องส้วมเด็ดขาด ควรทำกลางแจ้งได้เป็นดี พึงกระทำสักการะและใช้ประโยชน์ดังอธิบายมานี้เถิด ท่านจะประสบความสุขความเจริญอย่างยิ่งสมดังที่ท่านตั้งจิตอธิษฐานทุกประการแล ฯ.



    ที่มา: บทความ-เรื่องราวน่ารู้ เว็ปนวรัตน์



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มิถุนายน 2015

แชร์หน้านี้

Loading...