ปกิณกะพระเครื่อง ธรรมะ และวัดวาอาราม

​

วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7879 ข่าวสดรายวัน
พระเศรษฐีนวโกฏิฯ วัตถุมงคลวัดเสมียนนารี

เนื่องในโอกาสแห่งการฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ได้จัดสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิประทานพร (พระเก้าหน้า เพื่อความเจริญก้าวหน้า) ขนาดหน้าตัก 59 นิ้ว ประดิษฐานไว้ที่วัดเสมียนนารี เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา

ในการนี้ยังได้จัดสร้างวัตถุมงคลพระเศรษฐีนวโกฏิประทานพร องค์จำลอง 5 นิ้ว 9 นิ้ว เหรียญพิมพ์ทรงต่างๆ และพระกริ่งนวโกฏิ เป็นการจัดสร้างครั้งแรกและครั้งเดียวในรอบ 155 ปี วัดเสมียนนารี

ส่วนหนึ่งของปัจจัยจากการเช่าบูชาวัตถุมงคลครั้งนี้ เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้

เมื่อเวลา 15.19 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่อุโบสถวัดเสมียนนารี เขตจตุจักร กรุงเทพฯ มีพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลพระเศรษฐีนวโกฏิประทานพร เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา วัดเสมียนนารี ที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานเครือมติชน เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระราชศาสนกิจโสภณ เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เข้าร่วมพิธี

ทั้งนี้ นายขรรค์ชัยถวายปัจจัยจำนวนหนึ่งเพื่อร่วมสมทบทุนจัดสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิประทานพร (พระเก้าหน้า เพื่อความเจริญก้าวหน้า) ขนาดหน้าตัก 59 นิ้ว ประดิษฐานไว้ที่วัดเสมียนนารี เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา

ครั้นถึงเวลาอันเป็นมงคลฤกษ์ ได้เริ่มพิธีบวงสรวงเทพยดาบูชาฤกษ์ โดยมีพราหมณ์อ่านโองการบวงสรวงประกอบพิธีพราหมณ์

จากนั้นเวลา 16.19 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ พระราชาคณะ 10 รูป อาทิ พระพรหมดิลก กรรมการมหาเถรสมาคมและเจ้าอาวาสวัดสามพระยา, พระพรหมโมลี วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระธรรมกิตติมุนี เจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เจริญพระพุทธมนต์ธัมมจักกัปปวัตนสูตร

ต่อมาเวลา 17.19 น. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคมและเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นประธานประกอบพิธีจุดเทียนชัยนำฤกษ์มหาพุทธาภิเษก จากนั้น พระเกจิคณาจารย์ชื่อดัง เข้าร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต อาทิ พระมงคลสุทธิคุณ (หลวงพ่อฟู) วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา, พระมงคลสุธี (หลวงปู่แขก) วัดสุนทร ประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก, พระครูถาวรวิริยกิจ (หลวงพ่อคง) วัดเขากลิ้ง จ.เพชรบุรี เป็นต้น

พระราชศาสนกิจโสภณ เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี เปิดเผยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลพระเศรษฐีนวโกฏิประทานพร วัดเสมียนนารีได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาเช่าบูชาวัตถุมงคลได้นับแต่นี้เป็นต้นไป

สำหรับรายการวัตถุมงคล ประกอบด้วย 1.พระเศรษฐีนวโกฏิประทานพร หน้าตัก 9 นิ้ว เนื้อทองเหลือง ปิดทองแท้ จำนวนสร้าง 45 องค์ บูชา 19,999 บาท 2.พระเศรษฐีนวโกฏิประทานพร หน้าตัก 9 นิ้ว เนื้อทองเหลือง ขัดเงา จำนวนสร้าง 55 องค์ บูชา 7,999 บาท

3.พระเศรษฐีนวโกฏิประทานพร หน้าตัก 5 นิ้ว เนื้อทองเหลือง ปิดทองแท้ จำนวนสร้าง 55 องค์ บูชา 6,999 บาท 4.พระเศรษฐีนวโกฏิประทานพร หน้าตัก 5 นิ้ว เนื้อทองเหลือง ขัดเงา จำนวนสร้าง 155 องค์ บูชา 3,999 บาท

5.พระกริ่งเศรษฐีนวโกฏิประทานพร เนื้อนวโลหะ จำนวนสร้าง 2,600 องค์ บูชา 599 บาท 6.พระกริ่งเศรษฐีนวโกฏิประทานพร เนื้อทองทิพย์ จำนวนสร้าง 1,555 องค์ บูชา 399 บาท

7.เหรียญเศรษฐีนวโกฏิประทานพร เนื้อทองแดงพ่นทราย เงิน-ทอง-นาก จำนวนสร้าง 1,000 องค์ บูชา 599 บาท 8.เหรียญเศรษฐีนวโกฏิประทานพร เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง จำนวนสร้าง 1,000 องค์ บูชา 399 บาท

9.เหรียญเศรษฐีนวโกฏิประทานพร เนื้อทองแดงรมมันปู จำนวนสร้าง 5,000 องค์ บูชา 299 บาท 10.เหรียญเศรษฐีนวโกฏิประทานพร ขนาด 3 เซนติเมตร เนื้อทองแดงรมมันปู จำนวนสร้าง 10,000 องค์ บูชา 100 บาท

นอกจากนี้ ยังมีเหรียญพระครูภัทรสารโสภณ (หลวงพ่อโปร่ง ภัททสโร) รุ่นก้าวหน้า และรูปเหมือนพระครูภัทรสารโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี อีกด้วย

ส่วนกำหนดการพิธีเททองพระเศรษฐี นวโกฏิประทานพร ขนาดหน้าตัก 59 นิ้ว วันพฤหัสบดีที่ 28 มิ.ย. ณ วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เวลา 15.15 น. พิธีบวงสรวงเทพยดาบูชาฤกษ์ เวลา 16.16 น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ พระราชาคณะ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เวลา 17.19 น. ประกอบพิธีเททอง โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานในพิธี

จากนั้น เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี พร้อมด้วยคณะเจ้าภาพและผู้เข้าร่วมพิธี ร่วมอธิษฐานจิต เททอง พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ทั้ง 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา พระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม โดยมีพระครูวิมลสมณวัตร (หลวงพ่อเพี้ยน) วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี, พ่อปู่นริศ นรินโท แห่งลานธรรมบารมีศรีปทุมแสงธรรมหนอ จ.พังงา, พระครูวิมลยาณอุดม วัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี, พระครูพิศาลจริยาภิรม (หลวงพ่อมหาสุรศักดิ์) วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม นั่งปรกจตุรทิศอธิษฐานจิตเจริญภาวนาตลอดพิธี

​

 

ฤๅษีสามหน้า พระมหาฤๅษีรุ่นแรกของหลวงพ่ออุตตมะ


เขียนโดย อำพล เจน


มีจดหมายจากคุณอภิรักษ์ จุฬาศินนท์ ส่งถึงผมดังนี้
วันที่ 11 เดือน มีนาคม 2538
เรียน พี่อำพล ที่รักและเคารพ

---------
---------
---------






ใน วาระที่หลวงพ่ออุตตมะครบรอบ 85 ปี เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 38 นี้ คุณวรพร ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิด ได้นำมหาฤาษีรุ่นแรกของหลวงพ่ออุตตมะ และผ้ายันต์มหาฤาษีของหลวงพ่ออุตตมะ ออกให้สาธุชนที่มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญกับหลวงพ่ออุตตมะ

ทั้งนี้มหาฤาษีสามหน้าของหลวงพ่ออุตตมะ และผ้ายันต์มหาฤาษีของหลวงพ่ออุตตมะ มีเหตุที่มาดังนี้
กล่าว คือ มหาฤาษีทั้งสามองค์ ได้แก่ มหาฤาษีคุปตะ, มหาฤาษีโจระ และมหาฤาษีเทวีระ มหาฤาษีทั้งสามองค์ในกัลป์ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นมหาฤาษีใหญ่ทั้งสามองค์ ที่มีอายุแต่ละองค์พันปีเศษ หลวงพ่ออุตตมะท่านให้ความเคารพนับถือและเป็นครูของท่านมาตลอด ต้นเหตุของประคำมีที่มาจากมหาฤาษีทั้งสาม ที่ได้สร้างประคำขึ้นเพื่อระลึกถึงคุณพระพุทธ, พระธรรม, พระสงฆ์ และเป็นสติในการเจริญภาวนา







ดังนั้นไม่ว่าท่านจะทำพิธีใด ท่านจะระลึกถึงอาจารย์ของท่านมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้ คุณวรพร ทองดีเลิศ จึงมีความคิดพ้องกับผมในการขออนุญาตหลวงพ่อจัดสร้างมหาฤาษีรุ่นแรกของท่าน ขึ้นมา

โดยได้รวบรวมชนวนต่าง ๆ เช่น ชนวนพระวัดสุทัศน์ (อาจารเบิ้มมอบให้มา), ชนวนของหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม, แผ่นจารหลวงพ่ออุตตมะ, แผ่นจารหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร, แผ่นจารหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม, แผ่นจารหลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า กาญจนบุรี, แผนจารหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม นครปฐม, แผ่นจารหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม, แผ่นจารหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม นครปฐม, แผ่นจารอาจารย์หอม สังขละบุรี กาญจนบุรี, แผ่นจารอาจารย์ตึง วัดสมเด็จ กาญจนบุรี ฯลฯ แล้วนำมาหลอมโดยหาฤกษ์ยามในการหล่อและตั้งพิธีบวงสรวงถูกต้อง







ทั้งนี้กำหนดฤกษ์ยามและพิธีบวงสรวงได้รับความกรุณาจากอาจารย์เบิ้ม (อาจารย์สุวัฒน์ พบร่มเย็น) เป็นเจ้าพิธีในการทำพิธี

เมื่อ ถึงกำหนดวันเท ได้เกิดตุการณ์ที่แปลกประหลาดเห็นกันทุกคนในพิธี กล่าวคือ เมื่อลั่นระฆังในการเริ่มพิธี ทันทีที่กล่าวโองการเชิญครูบาอาจารย์และมหาฤาษีทั้งสามองค์ ได้มีแมลงขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือปีกสีเขียว ๆ บินวนรอบ ๆ ปะรำพิธี แล้วบินหายไปกับสายตาทุกคน ยังความสงสัยและแปลกใจกับทุกคนในพิธี

หลังจากเสร็จพิธีบวงสรวง ผู้อยู่ในพิธีได้ถามเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งกันและกัน ต่างประหลาดใจกันมาก

เรื่องนี้หากสงสัยสามารถถามจากอาจารย์เบิ้มได้ ซึ่งเป็นเจ้าพิธี ก็คงต้องทิ้งความสงสัยและประหลาดใจไว้ให้คิดกันต่อไป

สำหรับผ้ายันต์มหาฤาษีนี้ ออกแบบโดยคุณทวีพร ทองคำใบ นักออกแบบแสตมป์และช่างกล้องอิสระ ที่จัดว่ามีฝีมือสูงคนหนึ่ง







โดย ผ้ายันต์ดังกล่าวมีมหายันต์ที่ใช้ทางเมตตา, ค้าขาย, แคล้วคลาด, หนุนเสริมดวง ทั้งมหาฤาษีสามหน้าและผ้ายันต์นี้ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกครั้งแรกในเดือน ธันวาคม 2536 พิธีเดียวกับเสกมหาฤาษีรุ่น 8 (รุ่นสุดท้าย) ของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร และได้นำเข้าเสกครั้งที่สองในต้นเดือนมกราคม อีกครั้ง โดยเสกทั้งข้างขึ้น – ข้างแรม อันเป็นเคล็ดสุดยอดของการเสกครั้งนี้

ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่หลวงพ่อได้เมตตาปลุกเสก โดยใช้ฤกษ์ยามในการปลุกเสก

เนื่อง เพราะเป็นครั้งแรกที่ท่านได้อนุญาตสร้างมหาฤาษีครูบาอาจารย์ของท่านรุ่นแรก พระมหาฤาษีสามหน้าและผ้ายันต์นี้ได้เก็บไว้จนเมื่อถึงครบรอบ 85 ปี ของท่านจึงได้นำออกบูชา

วัตถุมงคลทั้งสองอย่างจัดสร้างเพียงอย่างละ 1,000 ชุด

สำหรับมหาฤาษีเนื้อเงินและเนื้อนวโลหะ มีแจกเฉพาะกรรมการ ไม่มีออกจำหน่าย ให้ทำบุญเฉพาะเนื้อทองระฆัง


จึงเรียนมาเพื่อทราบและขออนุโมทนาขอบพระคุณแด่ผู้สนใจร่วมทำบุญกับหลวงพ่ออุตตมะ มา ณ โอกาสนี้ด้วย

ขอแสดงความนับถือ
อภิรักษ์ จุฬาศินนท์

ผม คงไม่ต้องพรรณนาอะไรอีก เนื่องจากว่าคุณอภิรักษ์ จุฬาศินนท์ ได้กล่าวไว้ชัดเจนแล้ว คงต้องบอกว่าปัจจัยที่ได้จากการบริจาค หรือบูชาวัตถุมงคลที่เป็นรูปเหมือนของหลวงพ่ออุตตมะเนื้อว่านรุ่นแรกนั้น มีมูลค่าเกือบหนึ่งล้านบาท ฝ่ายผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินงานนี้ได้นำถวายหลวงพ่อเรียบร้อยทุกประการ จึงขออนุโมทนาด้วย

พระมหาฤาษีสามหน้า (ตามรูปประกอบ) ถือเป็นรุ่นแรกที่หลวงพ่ออุตตมะปลุกเสกเดี่ยวอย่างแท้จริง แม้ว่าท่านจะเสกพระมหาฤาษีมาก่อนหน้านี้สองรุ่น คือ รุ่น 7 กับ รุ่น 8 แต่นั่นก็เป็นการเสกร่วมกันกับหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ยังไม่ใช่เป็นการเสกของท่านเององค์เดียว

พระมหาฤาษีทั้งสามรูปที่ประกอบเป็นพระมหาฤาษีสามหน้าเป็นพระมหาฤาษีที่ฝ่ายตะวันตก หรือฝ่ายหลวงพ่ออุตตมะรู้จักดีที่สุด
เรียกว่าเป็นพระมหาฤาษีฝ่ายครูของหลวงพ่ออุตตมะก็ได้

พูดง่าย ๆ คือฤาษีพม่า

ส่วนฝ่ายตะวันออกหรือแดนอีสานของหลวงปู่พรหมมาก็เป็นฤาษีลาวไป

พระ มหาฤาษีใหญ่ ฤาษีคุปตะ ตำนานกล่าวว่าท่านเป็นพ่อของพระอุปคุตอีกด้วย คือท่านเหลือบตามองนางมัจฉะหนเดียวก็ท้องโดยอำนาจฤทธิ์จนเกิดพระอุปคุต ที่ได้ชื่อว่ามีฤทธิ์ทางปราบมาร

คำเหน็บแนมแกมประชดที่บางท่านชอบมี แก่พระมหาฤาษีที่ว่า จะสร้างรูปพระพุทธเจ้าก็ไม่สร้าง ดันไปสร้างรูปแปลกประหลาด ที่ผมเคยได้ยินอยู่พักหนึ่งนั้น เห็นจะต้องยืมคำพูดของหลวงปู่โต๊ะมาใช้

“แม้พระพุทธเจ้ายังถือพระฤาษีเป็นครู ผู้ใดไม่รู้คุณครูผู้นั้นไม่เจริญ”

พระมหาฤาษีทั้งหลายที่มีผู้สร้างมาตลอดตั้งแต่โบราณกาลจนปัจจุบันอาจถือได้ว่า เป็นการสร้างเพื่อบูชาครูอย่างแท้จริง

ใน การบูชาครูด้วยการจำลองรูปพระมหาฤาษีทั้งสามองค์ไว้ในพระมหาฤาษีสามหน้า ที่นับว่าเป็นพระมหาฤาษีรุ่นแรกของหลวงพ่ออุตตมะก็ควรค่าที่อนุโมทนาเป็น อย่างยิ่ง

สาธุ


ที่มา: AmpolJane.com​

 

รูปหล่อพระฤาษี ที่หลวงปู่โต๊ะบูชา​

 

ฤาษีพรหมมุตตมะ รุ่น7
​

(มีทั้งเนื้อโลหะและเนื้อผง มีทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพิ์เล็ก)


เขียนโดย อำพล เจน (ภาพประกอบเป็นเนื้อผงพิมพ์เล็ก)


ต่อไปจะได้อธิบายถึงกระบวนการจัดสร้างพระฤาษี รุ่น 7
ชื่อของพระฤาษีรุ่น 7 คือ “ฤาษีพรหมมุตตมะ”
เป็นชื่อเป็นนามที่เกิดจากคำ 2 คำ “พรหมา+อุตตมะ”เรียกว่าเป็น พระฤาษี 2 อาจารย์ สำเร็จเป็นองค์พระฤาษีที่สมบูรณ์ด้วยอำนาจและบารมีของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร สำนักสวนหิน สุดแดนสยามตะวันออก กับหลวงพ่ออุตตมะ อุตฺตมรมฺโภ (พระราชอุดมมงคล) วัดวังก์วิเวการามสุดแดนสยามตะวันตก

เป็นนิมิตหมายแห่งทิวาอันแจ่มใส นับแต่อาทิตย์อุทัยที่อุบลราชธานี ตราบวาระอาทิตย์อัสดงที่กาญจนบุรี
เป็นเรือลำเดียวกันที่มีทั้งหัวเรือและหางเสืออันวิเศษ
เป็นการ Screen ครูบาอาจารย์ผู้ปลุกเสกที่เชื่อหมดใจแล้วว่าสมบูรณ์ยิ่งด้วยบุญ, ด้วยฤทธิ์และบารมีธรรม
และเป็นการปลุกเสกอย่างเต็มใจของทั้ง 2 พระอาจารย์







มวลสารอันประกอบขึ้นเป็นองค์พระฤาษีทั้งใหญ่และเล็ก

ผงงาช้าง, ผงนิลกาฬ, ผงไม้จันทน์หอม ผงว่านของหลวงพ่ออุตตมะ (เสกผงแล้ว)
ผงเกสรดอกไม้ของอาจารย์ตึง วัดสมเด็จ กาญจนบุรี
ผงดินพุทธคยาและวัดต่างๆในอินเดีย
ผงลบกระดานของอาจารย์ตึง
ผงดินรัตนะของหลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง โพธาราม ราชบุรี
ผง 108 คณาจารย์ของผู้ว่าฯ ณัฐ กาญจนบุรี มอบให้
ผง 108 อาจารย์ของ อ.อนันต์ สวัสดิสวนีย์ มอบให้
ผงพุทธคุณของอาจารย์โอภาสะ
ผงไม้ว่านของหลวงพี่มะแฮ จากพม่า
ผงอิทธิเจมหาลาภ ปี 2534 ของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร
ผงพระฤาษีรุ่นแรก-รุ่น 6 ของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร
ผงมณฑปพระธาตุจอมทอง เชียงใหม่
ผงดินพระธาตุพนม และพระธาตุท่าอุเทน นครพนม
ผงไม้โพธิ์ตายพราย กิ่งที่ชี้ทางทิศตะวันออก
ผงดินก้นกรุเจดีย์บางขุนพรหม ที่บรรจุพระสมเด็จบางขุนพรหม คุณวรพร ทองดีเลิศ มอบให้
ผงพระบุเรงนองหลังกบ







ผงพระบุเรงนองหลังกบ ที่เชื่อกันว่าอาจารย์ของบุเรงนองเป็นผู้สร้างไว้ อาจารย์องค์นี้ เรียกชื่อว่า “ภู ภู เอา” เดิมบวชเป็นพระ ศึกษาจนสำเร็จวิชาปรอท มีฤทธิ์มาก ซึ่งผลที่สำเร็จวิชาปรอท ทำให้เกิดความลังเลว่า ว่าศีล 227 ข้อ อาจรักษาไม่ได้บริสุทธิ์ จึงสึกออกมาบำเพ็ญพรตเป็นพระฤาษีอยู่แต่ในป่าและบุเรงนอง กษัตริย์พม่าเคารพนับถือเป็นอาจารย์ ก่อนเข้าตีไทยได้จัดการขอร้องให้อาจารย์ภูภูเอาสร้างของขลังให้แก่ทหารทั้งหลาย จึงเกิดพระบุเรงนองหลังกบขึ้นมา หลังจากตีไทยสำเร็จแล้วเชื่อว่าได้มีการนำพระบุเรงนองกลับมาคืนอาจารย์ฤาษีภูภูเอา และได้เก็บไว้ในถ้ำตลอดมา

หลวงพ่ออุตตมะได้เล่าว่าสมัยที่ธุดงค์ในป่าพม่าแต่เก่าก่อนนั้นได้เข้าไปถึงถ้ำแห่งนั้นท่านทราบโดยวาระจิตว่าถ้ำนี้มีของดี และสำรวมจิตเป็นสมาธิจนรู้จักว่ามีพระเครื่องที่สร้างโดยฤาษีภูภูเอา พระอาจารย์ของบุเรงนองฝังซ่อนอยู่ แต่ท่านก็ไม่ได้ขุดเอามาแม้แต่องค์เดียว ภายหลังได้เล่าให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดฟังจึงถูกรบเร้าให้ไปเอามา ท่านจึงมอบหมายให้ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้าไปดำเนินการเอาพระบุเรงนองหลังกบนั้นมา เมื่อนำมาแล้วพบว่าพระแตกหักเสียหายเป็นอันมาก ที่สมบูรณ์ก็ได้แจกจ่ายไปจนหมด

หลวงพ่ออุตตมะได้บอกว่าพระบุเรงนองหลังกบนี้จริงๆ แล้วด้านหลังพระที่ใคร ๆ เห็นว่าเป็นรูปกบนั้นคือ รูปพระฤาษีกำลังเหาะ แต่ทำดูคล้ายกบ จึงเรียกเป็นกบไป และอายุพระชุดนี้ไม่น้อยกว่า 400 ปี

ผงพระบุเรงนองหลังกบนี้ หลวงพ่ออุตตมะได้มีเมตตามอบให้มาเพื่อสร้างรูปเหมือน ขนาดห้อยคอกับรูปเหมือนพิมพ์ 4 เหลี่ยมของท่านเอง ซึ่งทั้งรูปเหมือนของหลวงพ่ออุตตมะกับพระฤาษี รุ่น 7 ก็สำเร็จขึ้นด้วยมวลสารอันเดียวกันทุกประการ (เกี่ยวกับรูปเหมือนหลวงพ่ออุตตมะ จะหาโอกาสลงรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง)

นอกจากนั้นยังมีเกศาของหลวงพ่ออุตตมะ กับเกศาของหลวงปู่พรหมาผสมอยู่ด้วยกันในพระฤาษี รุ่น 7 แต่รูปเหมือนของหลวงพ่ออุตตมะนั้นไม่มีเกศาหลวงปู่พรหมา คงมีแต่เกศาของหลวงพ่ออุตตมะองค์เดียว

ในการนวดมวลสารเพื่อกดพิมพ์พระฤาษี รุ่น 7 นั้นได้ใช้น้ำมนต์ของหลวงพ่ออุตตมะกับน้ำมนต์ของหลวงปู่อื่นๆ คือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ หลวงปู่เกษม เขมโก หลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เป็นน้ำนวดผง​

​

​

ขั้นตอนการปลุกเสก

พระราชอุดมมงคล หรือหลวงพ่ออุตตมะ ปลุกเสกเดี่ยวให้ก่อนเป็นองค์แรกที่วัดวังก์วิเวการาม และหลวงปู่พรหมา เขมจาโร ปลุกเสกเป็นองค์ที่ 2 ที่สำสักสวนหิน อุบลราชธานี

เป็นการปลุกเสกอย่างเต็มใจของทั้ง 2 ท่าน เสกอย่างเจาะจงลงไป มิใช่เสกผ่านเหมือนอย่างพระฝากพิธี

จึงเกิดเป็นพระฤาษี 2 อาจารย์ ฤาษีพรหมมุตตมะอย่างเต็มภูมิ

ในการปลุกเสกพระฤาษี รุ่น 7 และรูปเหมือนของหลวงพ่ออุตตมะนั้น นอกจากจะได้ปลุกเสกตามรายการที่กล่าวมาคือ พระฤาษีพิมพ์ใหญ่ พระฤาษีพิมพ์เล็ก รูปเหมือนลอยองค์ หลวงพ่ออุตตมะ และรูปเหมือนพิมพ์สี่เหลี่ยมแล้ว ยังมีพระฤาษีเนื้อโลหะอีกจำนวนหนึ่ง แต่ว่ารายละเอียดในการเปิดให้บูชาพระฤาษีเนื้อโลหะที่ผนวกเข้าเป็นพระฤาษีรุ่น 7 ด้วยนั้นยังไม่อาจบอกได้ ผู้สนใจพระฤาษี รุ่น 7 เนื้อโลหะ โปรดรออ่านรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

พระฤาษี รุ่น 7 เนื้อโลหะได้เททองหล่อสำเร็จแล้ว ยังแต่จะประกาศให้บูชาเป็นทางการเมื่อไรท่านั้น และที่สำคัญยิ่ง พระฤาษีรุ่น 7 เนื้อโลหะผู้เททองหล่อคือ หลวงพ่ออุตตมะ ท่านเป็นทั้งผู้ให้ฤกษ์เททองและเป็นเจ้าพิธีอัญเชิญเทพยดาและพระฤาษีทุกองค์ให้มาเป็นสักขีพยาน และร่วมสมโภชพระฤาษีที่ท่านเททองด้วยตัวท่านเอง ในวันอาทิพตย์ที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 9 โมงเช้า

นี่ก็ถือว่าเป็นพระฤาษีเนื้อโลหะที่น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง

ขอให้ทุกท่านเข้าใจอีกว่า หลวงพ่ออุตตมะท่านไม่เคยเททองรูปอื่น ๆ เว้นแต่รูปของท่านเอง หรือรูปพระพุทธเจ้า ดังนั้นนี่จึงถือว่าเป็นการเททองรูปพระฤาษีครั้งแรกของท่าน ซึ่งหลวงพ่อได้กล่าวว่า ประคำก็เป็นของที่เกิดด้วยมือพระฤาษี เมื่อท่านจะได้เททองหล่อรูปพระฤาษี จึงเป็นเรื่องที่สมควรยินดี และควรแก่การอนุโมทนาด้วย

นับเป็นวาสนาของพระฤาษีรุ่น 7 ยิ่งแล้ว

ผู้ที่ได้เป็นเจ้าของ ก็ควรค่าแก่ความภูมิใจเช่นกัน


พระฤาษีเนื้อผง ใต้ฐานอุดด้วยผงพิเศษคือ อังคารธาตุหลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล, หลวงปู่บัว สิริปุณโณ ผงผ้ายันต์เก่าแก่นับ 100 ผืน นับ 100 อาจารย์ อังคารหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ผงลบกระดานของอาจารย์ตึง ผงบุเรงนองหลังกบ (ทั้งผสมในเนื้อพระและเนื้ออุดก้นพระ) และผงเก่าเก็บหลายหลายชนิดที่เหลือวิสัยจะจดจำได้

ผงที่อุดก้นพระฤาษีรุ่น 7 นี้ยังได้ผ่านการปลุกเสกมาแล้วโดยหลวงปู่คำพันธ์ หลวปู่ชอบ หลวงปู่ศรีจันทร์ หลวงปู่บุญจันทร์ ฯลฯ จึงเรียกว่าเป็นการรวมความวิเศษไว้อย่างแท้จริง

ทั้งพระฤาษีพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก มวลสารและผงอุดก้นทำขึ้นเหมือนกันทุกประการ


(จำนวนสร้างพระฤาษีรุ่น 7 ประมาณว่าพิมพ์ละไม่เกิน 1,500 องค์)...



ที่มา : AmpolJane.com​

 

ตอนนี้ขอกล่าวถึงพระฤาษีรุ่น 7 เนื้อโลหะทั้งพิมพ์ใหญ่และเล็กซึ่งมีชนวนมวลสารมากมาย และพระผงรูปเหมือนลอยองค์และพิมพ์สีเหลี่ยมซึ่งมีมวลสารเช่นเดียวกับพระฤาษีเนื้อผง และนำเสกพร้อมกัน


สำหรับพระเนื้อผงรุ่นนี้นั้น เมื่อกาลเวลาผ่านไปจะมีเกล็ดผลึกเกิดขึ้นที่เนื้อพระ ทั้งพิมพ์พระฤาษีและพิมพ์หลวงพ่อ เลยถ่ายทั้งตลับเลย(กลัวหลุดครับ)



























จากศักดิ์สิทธิ์ ฉบับที่ 285​

 

พระฤาษีพรหมมุตตมะ รุ่น8
























จากศักดิ์สิทธิ์ ฉบับที่289​

 

เหรียญสัมฤิทธิ์ผลเจริญรุ่งเรือง เนื้อกะไหล่ทอง สร้างปี 2542
หลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม
จัดสร้างเป็นที่ระลึกในโอกาสที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครพนมมีอายุครบ ๒๕ ปี
วัตถุประสงค์เพื่อหารายได้จัดซื้อคุรุภัณฑ์ทางการศึกษา ตลอดจนจัดหาทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษาที่เรียนดีแต่ยากจน
หลวงปู่อธิษฐานจิตให้เมื่อ วันที่ 12 ตุลาคม 2542

 

สำหรับพระและเรื่องราวของหลวงพ่ออุตตมะท่านก็ยังมีอยู่ แต่ขอสลับมากล่าวถึงเรื่องราวของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้มบ้าง โดยส่วนตัวแล้วผมเคารพนับถือหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุงอยู่ สำหรับครูบาวงศ์แล้วใครที่เคยศึกษาประวัติท่านมาก็คงพอทราบว่าท่านเป็นองค์พี่องค์น้องกับหลวงพ่อฤาษีท่านมา ศิษย์ทั้งสองสำนักนี้ก็แวะเวียนไปกราบครูบาอาจารย์ทั้งสองอยู่เสมอๆ และผมเองก็เคยเจอศิษย์หลวงพ่อฤาษีที่วัดครูบาวงศ์นี่แหละไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่คุยไปคุยมาตามประสาคนชอบไปวัดจึงทราบว่าเป็นศิษย์หลวงพ่อเหมือนกัน


สำหรับพระเครื่องของครูบาวงศ์พระผงรุ่นสำคัญรุ่นหนึ่งคือพระผงสุปฏิปันโนนั้นพี่วรรณและผมได้ลงข้อมูลไว้แล้วในหน้า 1และ3 แล้วตอนนี้จะขอกล่าวถึงพระเนื้อโลหะที่สำคัญอีกรุ่นหนึ่งคือรุ่นขวานฟ้าปาฏิหาริย์ มาดูกันก่อนว่าขวานฟ้าคืออะไร

 

พระนางพญา เนื้อดิน ผสมทรายทอง คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมวัดอาวุธฯ สร้างถวาย วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพสร้างประมาณปี 2494 โดย คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ผู้บรรลุธรรมขั้นสูง จากนั้นนำเข้าพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พร้อมกับ พระมงคลมหาลาภ ...ในปี 2499
พิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก ที่วัดสัมพันธวงศ์นอกจากจะทำพิธีเสกแบบ"พรหมศาสตร์" เหมือนตอนทำผง"โสฬสมหาพรหม" (เสกก็นิมนต์พรหมชั้นโสฬสลงมาเสกด้วย)แล้วก็ยังได้นิมนต์สุดยอดพระคณาจารย์ในยุคนั้นอย่างมหาศาล น้องๆพระ 25 ศตวรรษ มี
หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,
หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ,
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอมเป็นต้นฯลฯ
และยังเสกเบิ้ลที่วัดสารนาถธรรมาราม ระยอง อีก ถึง 18 วัน 18 คืนด้วยพระสายระยอง
(มี หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง,
หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นอาทิ)
พร้อมสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่นอีก 100 กว่าองค์ นำทีมโดย
พระอาจารย์สิงห์ขันตยคโม,
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร,
ท่านพ่อลี ธัมมธโร ฯลฯในพิธีสมโภช"พระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี" หรือ"พระพุทโธใหญ่" ที่คุณแม่บุญเรือนโตงบุญเติม เป็นประธานจัดสร้างและคุมงานเอง .. .
รายละเอียดดังนี้
เมื่อสร้างแจ้งให้ทราบแต่การประกอบพิธีบันจุพุทธมนต์เป็นพิเศษที่ยิ่งใหญ่ โดยสังเขป ซึ่งยังไม่เคยเห็นทำที่ไหนคือจัดที่บูชาพร้อมเครื่องสังเวยต่างๆ มีเทียนธูป ข้าวตอก ดอกไม้ ๗ สีแลอาหารผลไม้ถึงอย่างละ ๓๗๕ ที่มีเบญจา มีเสวตฉัตร ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก ๘ ต้นบายศรีเงิน บายศรีทอง ๙ ชั้น สูง ๖ ศอก อย่างละ ๘ ต้น บันจุพระพุทธมนต์ลงไปในน้ำ
โดยนิมนต์อาจารย์ผู้มีชื่อเสียงหลายวัดทำพิธีประจุมนต์เข้าพิธีปลุกเศกมี
พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศวิหาร
พระวรเวทย์คุณาจารจย์ (เมี้ยน ปภสสโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
พระมหารัชชมังคลาจารย์
พระครูวินัยธรเฟื่อง (ญาณปปทีโป)
พระสอาด อภิวฒฒโน วัดสัมพันธวงศ์
พระครูนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
พระอาจารย์บุ่ง วัดใหม่ทองเสน
พระชอบ สัมมาจารีวัดอาวุธวิกสิตาราม ธนบุรี
เป็นต้น
พร้อมด้วยบรรจุ เทพมนต์พรหมมนต์ โดยเชิญเทพแลพรหมผู้มีชื่อเสียงเก่าๆมาเข้าทรงประกอบพิธีอธิษฐานบรรจุมนต์ลงด้วย และบรรจุมนต์โยคีโดยโยคีฮาเร็บ (อาจารย์ชื่น จันทรเพ็ชร) ผู้มีชื่อเสียงและ พ.ต.อ.ชะลอ อุทกภาชน์ผู้เป็นศิษย์เป็นผู้ทำพิธีบรรจุ

พระเครื่องที่จะทำพิธีปลุกเศกนั้นห่อด้วยผ้าขาว ๗ ชั้น ผ้าเขียว ๗ ชั้น

 

มาดูเรื่องของขวานฟ้ากันต่อครับ และแม้แต่พระอริยเจ้าสายหลวงปู่มั่นหลายองค์ก็ยังมีการสร้างพระด้วยเนื้อขวานฟ้า โดยเฉพาะหลวงปู่หลุยซึ่งเป็นองค์แรกๆที่สร้างขึ้นมา จากบทความจะเห็นว่าท่านไม่ได้มอบของนี้แก่ทุกคน ท่านจะเลือกให้กับผู้ที่เหมาะสมเท่านั้น ที่จะได้ของสุดพิเศษนี้ไว้บูชา









​

 

รายการวัตถุมงคลรุ่นขวานฟ้าปาฏิหาริย์มีอะไรบ้าง เผื่อหลายๆท่านมีโอกาสพบเจอ พระรุ่นนี้นับว่าเป็นรุ่นนึงที่มีมวลสารที่หาได้ยาก การนำเสกโดยครูบาอาจารย์ที่ในปัจจุบันต่างก็เป็นที่ยอมรับ อาทิ ครูบาอิน กับหลวงปู่ทองดำ พระของท่านตอนนี้ก็เป็นที่ต้องการและมีราคาค่านิยมในท้องตลาด และใครที่ศรัทธาสายหลวงปู่โลกอุดรพระชุดนี้มีชื่อหลวงปู่โลกอุดรอยู่ โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าด้วยบารมีของครูบาวงศ์ท่านต้องเชิญหลวงปู่โลกอุดรมาได้แน่ ไม่ต้องไปหาพระหลวงปู่โลกอุดรที่ราคาแพงและประวัติคลุมเครือได้
​

​

 

พระกริ่งขวานฟ้าโลกอุดร(แช่น้ำมนต์)


มี3ชนิด

1 ไม่บรรจุผง(อุดกริ่ง)
2 บรรจุพระธาตุ ๕ooอรหันต์ และผงหลวงปู่เทพโลกอุดร
3 บรรจุแร่โคตรเศรษฐี พระธาตุข้าว ผงขวานฟ้า และผงหลวงปู่เทพโลกอุดร






ชนวนมวลสาร

-พระกริ่งขวานฟ้าครูบาชัยวงศ์ สร้างจากชนวน ขวานฟ้า (เนื้อทองสำริด)

-แผ่นจาร (ที่ได้รับมอบมาสร้างพระ) ลงอักขระโดย หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง หลวงปู่นิล จังหวัดนครราชสีมา หลวงปู่เครื่อง สุภัทโท

-ชนวนอื่น ๆ (ที่ ได้รับมอบสร้างพระ) อธิษฐานจิตโดย หลวงปู่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่หลุย จันทสาโร พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พระอาจารย์วัน อุตตโม หลวงพ่อเกษม เขมโก

-ชนวนอื่นๆเช่น ข้าวตอกพระร่วง เหล็กน้ำพี้ เงินโบราณจากกรุสุพรรณบุรี และเหรียญหลวงปู่เทพโลกอุดร วัดถ้ำวัวแดง จังหวัดชัยภูมิ

-น้ำพุทธมนต์ที่แช่พระกริ่ง ได้ จาก น้ำพุทธมนต์ ที่ได้จากพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลครูบาศรีวิชัย วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และน้ำทิพย์จากบ่อน้ำทิพย์ (บ่อน้ำศักดิ์ที่วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม)





พระกริ่งขวานฟ้าโลกอุดร มีเพียงขนาดเดียวคือ 2.9 ซม. และมีโค๊ดนะ(ขอม)ที่ฝากริ่ง (ยกเว้นพระกริ่งอุดผง) และโค๊ด มะ(ขอม) จะต้องมีที่หลังองค์พระทุกองค์


บางท่านมีความเชื่อว่าพระหล่อมักจะเป็นพระที่ออกแนวร้อน ไม่เหมือนพระผงปั๊มที่ไม่ผ่านความร้อนจะออกแนวเมตตา พระกริ่งรุ่นนี้เป็นพระหล่อแต่แช่น้ำมนต์ช่วยดับความร้อนลงช่วยเสริมความเย็น พระรุ่นนี้คงตอบโจทย์ความต้องการของหลายๆท่านได้ครับ


​

 

สวัสดีครับพี่ ๆ ทุกท่าน กระทู้นี้ น่าติดตามมาก ม่ข้อมูลที่ไม่เคยได้อ่านมาก่อนเยอะเลยครับ

 

พี่ๆพอมีข้อมูล พระสังกัจจายน์รุ่นหมดหนี้สินของหลวงพ่ออุตตมะ บ้างไหมครับ...หาเจอแค่หน้าแรกหน้าเดียวเองครับ...

 

พี่ปูน่าจะมีครับ เว้นแต่ว่าจะถูกปลวกกินไปซะก่อน

 

เหรียญหล่อขวานฟ้าครูบาศรีวิชัย-ครูบาวงศ์


-สร้างจากชนวนขวานฟ้า(ทองสำริด)

-แผ่นจารลงอักขระโดย หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา

-ชนวนอื่นๆ(ที่ได้รับมอบมาสร้างพระ)อธิษฐานจิตโดย ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน หลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง หลวงพ่อเกษม เขมโก ครูบาดวงดี สุภัทโท หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

-อื่นๆเช่น ชนวนขวานฟ้า หลวงปู่ชอบ ฐานสโมแผ่นยันต์ชินบัญชร แผ่นยันต์๑๒๑พระคาถา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แผ่นยันต์มหาลาภ หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร กทม. ข้าวตอกพระร่วง เหล็กน้ำพี้ ขี้เหล็กไหล สังฆวานร จากเจดีย์วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ เงินโบราณจากกรุ จ.สุพรรณบุรี​

 

สวัสดีครับ ว่างๆก็แวะเวียนมาอ่านมาพูดคุยกันครับ

พระสังกัจจายน์รุ่นนี้เป็นพระที่มีประสบการณ์มากรุ่นนึงของหลวงพ่ออุตตมะเลยทีเดียวครับ















จากศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่360​

 

อยากได้ประคำทำจากใบลาน จารอักขระพม่า ถักเชือกหุ้มทีละเม็ดด้วยมืออะ :'''(

จะเอาไว้ภาวนา นะ โม พุท ธา ยะ ยะ ธา พุท โม นะ มะ อะ อุ อุ อะ มะ

 

พระสมเด็จขวานฟ้าโลกอุดร(โรยผงขวานฟ้า)


-สร้างจากผงหลวงปู่เทพโลกอุดร เพชรน้ำค้าง จากถ้ำศักดิ์สิทธิ์ จ.ชัยภูมิ แร่วิเศษ จากจ.เลย แร่วิเศษจากภูเขาควาย ขี้เหล็กไหล จากถ้ำศักดิ์สิทธิ์ จ.ชัยภูมิ เพชรหน้าทั่ง

-มวลสารพิเศษ ผงขวานฟ้า(หิน)ซึ่งบดเป็นผงแล้วโรยหน้าพระ ผงอิทธิเจ จากถ้ำพระอรหันต์ ๘ศอก หรือพระอรหันต์ ๑oooปี จ.ชัยภูมิ ผงหลวงปู่ดู่วัดสะแก จ. อยุธยา



​

 

จำนวนการสร้างพระแต่ละรายการ และรายนามครูบาอาจารย์ที่เมตตาอธิษฐานจิต ซึ่งแต่ละองค์ล้วนเป็นที่ยอมรับว่าเป็นครูบาอาจารย์ผู้หลุดพ้นแล้วและมีพลังจิตที่สูงมาก โดยเฉพาะครูบาอิน และหลวงปู่ทองดำที่ปัจจุบันพระของท่านกำลังเป็นที่ต้องการของผู้ศร้ทธาเลยทีเดียว






​