anchalee_mata39

ณ ปัจจุบันวันนี้ เราสามารถเดินตามคำสอนของพระองค์ท่านได้อย่างที่ตนเองก็คาดไม่ถึงว่าเราจะกระทำได้ ในช่วงเวลา ๘-๙ เดือน ที่มีความโชคดีอย่างมหรรณที่ได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาพุทธวัจนอย่างจริงจัง จึงทำให้ตนเองก้าวผ่านได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งรู้ว่าจะไม่กระทำในสิ่งที่พระองค์ท่านมิได้บอกสอน ..พอดีมีงานด่วนก็ขอสวัสดีค่ะ

ก็เพราะตนเองนั้นยังไม่รู้จักคำสอนที่แท้จริง จึงทำให้เดินหลงทางไปบ้าง แต่ก็ถือว่ายังมีความโชคดีอยู่ ที่ตนเองนั้นสร้างแต่กุศลกรรม คือกระทำแต่กรรมดีมาโดยตลอดเพราะคิดว่าต้องการให้กายสังขารเรานั้นสะอาดและบริสุทธิ์ เพื่อรองรับต่อเทพเจ้าที่เรานับถือ นี่คือการกระทำที่เรายังเข้าไม่ถึงพระตถาคต

สวัสดีค่ะคุณอาจารย์ ก็ต้องขอกราบขอบพระคุณที่ได้ให้คำชี้แนะต่อการเดินตามคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งทำให้ตนเองสามารถทดสอบความหยั่งลงมั่น ในทุกๆสิ่งที่ผ่านเข้ามาได้อย่างไม่หวั่นไหว ทำไมถึงพูดเช่นนี้ เพราะว่าแต่ก่อนตนเองนั้นก็ยังเชื่อต่อเทพเจ้าและความศักดิ์สิทธิ์ว่ามีผลทำให้ชีวิตดีขึ้น

เราจะขอเดินตาม และการปฏิบัติตามคำสอนของพระศาสดาซึ่งเป็นพระองค์เดียวเท่านั้นที่เราควรปฏิบัติตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉนั้นบุคคลใดที่จะชี้นำเราได้บุคคลนั้นต้องเป็นผู้ที่เดินตามคำสอนของพระตถาคตเท่านั้น บุคคลเหล่าอื่นเราจะไม่เงี่ยโสตลงฟังให้เสียเวลา... ค่ะคุณ อาจารย์

ย่อมเห็นซึ่ง จักขุสัมผัสว่าไม่เที่ยง ย่อมเห็นซึ่งเวทนาอันเป็นสุข เป็นทุกข์ หรือไม่สุขไม่ทุกข์ ที่ขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย ว่าไม่เที่ยง (ในกรณี โสตะ ชิวหา กายะ และมนะก็ได้ตรัสต่อไปด้วยข้อความอย่างเดียวกัน ทุกตัวอักษร ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น) นี้แลคือปฏิปทา( สฬา.สํ.๑๘/๑๖๗/๒๓๒)

กับบุคคลที่ควรทำอัญชลี ดังนั้นจึงขอปฏิบัติตามปฏิปทาของพระศาสดา ซึ่งเป็นปฏิปทาที่สบายแก่การบรรลุนิพพาน ภิกษุ ท ! พวกเธอจงฟัง จงทำในใจให้ดี เราจักกล่าว. ภิกษุ ท ! ภิกษุในกรณีนี้ย่อมเห็นซึ่ง จักษุว่าไม่เที่ยง ย่อมเห็นซึ่ง รูปทั้งหลายว่าไม่เที่ยง ย่อมเห็นซึ่งจักขุวิญญาณว่าไม่เที่ยง

สวัสดีค่ะคุณ อ. ก็ต้องขออนุญาตระบายความในใจ ให้คุณอาจารย์ได้รับทราบสักหน่อยนะคะ การทำความดีนั้นสามารถจะทำได้หลายรูปแบบ แต่การกระทำนั้นต้องตั้งอยู่ในความถุกต้องตามคำสอนของพระศาสดา และต้องเกิดมาจากความศรัทธาที่หยั่งลงมั่น ตามความเหมาะสมกับบุคคลที่ควรบูชา

ขอเชิญร่วมบุญในรูปแบบที่หาทำได้ยากค่ะ... จะรับเป็นเจ้าภาพทั้งองค์หรือร่วมบุญตามกำลังก็ยินดีทุกประการค่ะ ^^
ยังขาดเจ้าภาพถวายพระอุปคุต 5 นิ้ว (องค์ละ 3,000) แด่พระอริยสงฆ์อีก 6 รูป

ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะการไม่สำรวมอินทรีย์เหล่าใดเป็นเหตุ.เธอก็ปฏิบัติเพื่อปิดกั้นอินทรีย์ไว้,เธอรักษาและถึงการสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ. ภิกษุทั้งหลาย! ภิกษุเป็นผู้ปิดแผล เป็นอย่างนี้แล. (เอกาทสก.อํ ๒๔/๓๘๑/๒๒๔.)

สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกาย,รูธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว ก็ไม่มีจิตยึดถือเอาทั้งโดยลักษณะที่เป็นการรวบถือทั้งหมด (โดยนิมิต) และไม่ถือเอาโดยการแยกเป็นส่วน ๆ (โดยอายุพยัญชนะ) อกุศลธรรมอันเป็นบาป คืออภิชฌาและโทมนัส มักไหลไปตามภิกษุผู้ไม่สำรวม

เกี่ยวด้วยการเบียดเบียน(วิหิงสาวิตก)ที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งบาปอกุศลธรรมทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นแล้ว.ภิกษุ ท! ภิกษุเป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างนี้แล. ภิกษ ท! ภิกษุเป็นผู้ปิดแผลเป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เห็นรูปด้วยตา,ฟังเสียงด้วยหู,ดมกลิ่นด้วยจมูก.ลิ้มรสด้วยลิ้น,

ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้อดกลั้นได้(นาธิวาเสติ) ละ(ปชหติ) บรรเทา(วิโนเทติ)ทำให้สิ้นสุด(พฺยันฺตีกโรติ)ทำให้หมดสิ้น(อนภาวํ คเมติ)ซึ่่งความตรึกด้วยกาม(กามวิตก) ที่เกิดขึ้นแล้วด้วยความตรึกเกี่ยวด้วยความมุ่งร้าย(พยาบาทวิตก)ที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งความตรึก

ภิกษุทั้งหลาย ! คนเลี้ยงโคประกอบด้วยองค์คุณเหล่านี้แล้วย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้ ข้อนี้ฉันใด ภิกษุที่ประกอบด้วยองค์คุณเหล่านี้แล้วย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัยนี้ ได้ฉันนั้น... ภิกษุ ท.! ภิกษุเป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างไรเล่า ?

ผู้ที่ถึงซึ่ง ความเจริญความงอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย ภกษุทั้งหลาย !คนเลี้ยงโคที่ประกอบด้วยองค์คุณ ๑๑ อย่างเหล่านี้แล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. องค์คุณ ๑๑ อย่างนี้คืออะไรบ้างเล่า ? คือคนเลี้ยงโคในกรณีนี้...เป็นผู้เขี่ยไข่ขาง, เป็นผู้ปิดแผล...

สวัสดีค่ะคุณ อ. นี่แหละคือตัวตนของผู้ปฏิบัติ การกระทำและคำพูดย่อมสอดคล้องกันเสมอ เพราะจะมีสักกี่คน ที่จะกล้าบอกกล้าพูดความจริงในการกระทำที่ไม่ถูกของบุคคลอื่น เพราะถ้าบอกแล้วเขายอมรับก็โอเค สามารถนำพาให้เขาเข้ามารู้ความจริง เพื่อแก้ไขตนเองและหันมาปฏิบัติให้ตรงจริง

ตามความเข้าใจของตนเองเท่าที่ได้มีโอกาสศึกษาเรียนรู้มา แต่ก็ยังไม่แม่นเท่าคุณ อ.และจะขอเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ด้วยความตั้งมั่นอย่างไม่ย่อท้อ แม้จะพบกับอุปสรรคปัญหามากมาย ก็จะอดทนสู้ฟันฝ่าเพื่อพบความหลุดพ้นให้จงได้ สวัสดีค่ะ

คือไม่ต้องกลับมาเกิดในโลกมนุษย์อีกแล้ว พระพุทธองค์กล่าวว่าถ้าทุกคนออกบวชกันหมดพระพุทธศาสนาก็จะเจริญรุ่งเรืองไปไม่ได้ เพราะต้องมีสาวก สาวิกา อุบาสก อุบาสิกา ที่ช่วยกันจรรโลงพระพุทธศาสนา คอยดูแลให้การสนับสนุน (ถูกหรือไม่คะคุณอาจารย์)

สวัสดีค่ะคุณ อ. การที่คุณได้มีโอกาสเหนือผู้อื่นคือสามารถนำคำสอนของพระพุทธองค์มาถ่ายทอดบอกสอนได้เป็นอย่างดี ซึ่งอยู่ในฐานะฆาราวาส ก็เปรียบเสมือนอุบาสกในครั้งพุทธกาล ผู้ที่ไม่ได้ออกบวชก็สามารถบรรลุธรรมขั้นสูงได้ ดังเช่นปู่อนาถะบิณฑิกะท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี

ด้วยเป็นเพราะเป็นหลักการวิธีการเดียวกัน หาที่จะผิดเเผกเเตกต่างออกไปได้ ดังคำที่พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า ผู้ใดเห็นปฎิจสมุปบาท ผู้นั้นเห็นธรรม ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต ถึงตรงนี้คงเข้าใจได้อย่างลึกซึ่งยิ่งว่าท่านทรงตรัสไว้ถูกต้องตรงจริงเเล้ว สวัสดีครับ..

ฉนั้นผู้ประพฤติปฎิบัติในสิ่งเดียวกันย่อมเข้าใจเเละมองเห็นซึ่งกันเเละกันได้เป็นธรรมดา หาที่จะเป็นอย่างอื่นไม่ คนที่มีธรรม ประพฤติปฎิบัติอยู่ซึ่งธรรม อันเป็นของพระศาสดาโดยเเท้ ย่อมมีมรรค มีผล อันล้วนเเต่เป็นส่วนสุดที่เหมือนกัน หาที่จะเป็นอื่นไม่