เรื่องจริงอิงนิทานกับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ตอน ช้างพลายประกายแก้ว

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 5 มิถุนายน 2015.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    เรื่องจริงอิงนิทานกับหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ตอน ช้างพลายประการแก้ว
    [​IMG]
    จาก หนังสือ เรื่องจริงอิงนิทาน (พิเศษ)

    เมื่อพรหมกุมารอายุได้ ๑๒ ปี คืนวันหนึ่งมีเทวามาเข้าฝันว่า วันรุ่งขึ้นให้ไปที่แม่น้ำโขงจะมีช้างเผือก ๓ เชือก ถ้าจับช้างเชือกที่ ๑ ได้จะเป็นจ้าวโลก ถ้าจับช้างเชือกที่ ๒ ได้จะปราบชมพูทวีปได้หมด ถ้าจับช้างเชือกที่ ๓ ได้จะปราบขอมได้หมด พอตื่นขึ้นมาก็กราบทูลให้พระราชบิดาทราบ และพระราชบิดาก็มีความเชื่อมั่นว่า ลูกชายคนนี้มาจากพรหมจะต้องมีเทวดาประคับประคอง จึงอนุญาตให้ไปดักช้างเผือกได้ ตอนสาย พรหมกุมารไปดักช้างตามความฝัน แทนที่จะเห็นช้างก็กลับเป็นงูหงอนแดงตัวขาวโพลนใหญ่โตมาก พรหมกุมารกับเพื่อน ๆ คิดว่า เรามาคอยช้าง แต่นี่เป็นงูหนอนก็ไม่เอา ตัวที่สองมาเป็นงูหงอนแบบเดียวกันอีก แต่ขนาดย่อมลงไปหน่อยก็ปล่อยไปอีก ตัวที่สามก็มาแบบเดียวกันอีกก็เลยตัดสินใจ งูก็งู มีบัญชาบอกเพื่อนสหชาติลงจับละ ก็โผลงไปในน้ำ โดดจับคองูหนอนก็

    กลายเป็นช้างเผือกขาวโพลนเดินทวนน้ำมาได้ น้ำกำลังไหลหลากมาก ที่นั่นจึงมีนามว่า “บ้านควานทวน” ตอนนี้ช้างไม่ยอมขึ้นฝั่งละซี ขับไสอย่างไรก็ไม่ยอมขึ้น พรหมกุมารจึงให้สหชาติไปกราบทูลพระราชบิดาให้ทรงทราบพระองค์ก็เรียกโหรมา โหรบอกว่า ต้องเอากระพังทองไปตีล่อจึงขึ้นมา (สำหรับกระพังทองคำน่ะทำไว้แล้ว ตามประวัติศาสตร์บอกว่าทำวันนั้นน่ะไม่ทันหรอก ท่านบอกพระเจ้าแม่ทำไว้แล้ว)

    พระเจ้าพังคราชจึงจัดให้คนแต่งตัวสวย ๆ ถือดอกไม้ธูปเทียนเครื่องสักการะจัดเป็นขบวนไปถึงกราบไหว้เชิญพระยาคชสาร แล้วตีกระพังทอง ช้างก็เดินตามกระพังทองขึ้นมาแบบสบาย พอมาถึงที่ก็จัดพิธีทำขวัญช้างพลายประกายแก้ว ซึ่งมีสีขาวโพลนตามลำตัวมีประกายระยับคล้ายแก้วสวยสดงดงามจึงทำเครื่องประดับครบเครื่องทรง และปล่อยเป็นอิสระไม่มีการใส่ปลอก รางที่ใส่หญ้าให้กินก็ทำด้วยทองคำ ปล่อยเข้าป่าสบาย ๆ สัตว์ในป่าทั้งหมดกลัวช้างพลายประกายแก้วยอมหมอบราบคาบแก้ว แต่มีช้างที่อยู่ในป่ามาร่วมเป็นสหชาติด้วยโดยไม่ต้องไปต่อหรือไปดึงมา ช้างพลายประกายแก้วเป็นหัวหน้าพาโขลงช้างเข้ามาในเวียง ทุกคนดีใจมากที่มีช้าง มีม้า การฝึกง่ายมากพูดภาษาคนธรรมก็รู้เรื่อง

    เมื่อพรหมกุมารอายุได้ ๑๖ ปี พระเจ้าพังคราชก็ให้แต่งงานมีภรรยาเป็นหลักฐาน ต่อมาท่านก็ทำงานใหญ่ กราบทูลพระราชบิดว่า คนไทยขืนเป็นทาสของขอมต่อไป ความเป็นไทก็ไม่มีเราก็ไม่มีความสุขเพราะเขาบีบคั้นเรา ทองคำ ๒๐ ชั่งต่อปี ให้เขาไป ๑๐ ปีก็ ๒๐๐ ชั่ง เราหามาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานก็ไม่น่าจะให้เขา แต่พระราชบิดาก็กล่าวว่า “เราเป็นผู้แพ้เขานี่ลูก” ลูกชายพรหมกุมารจึงกล่าวว่า “ต่อไปนี้เราจะไม่เป็นผู้แพ้ ดินแดนของเราอยู่เพียงไหนเราจะยึดเอามาให้หมด แล้วจะยึดพื้นที่เพิ่มอีกไม่น้อยกว่า ๔ เท่า”

    เวลาคุยกันนี่ก็เป็นเวลาที่อยู่กับประชาชน ชาวบ้าน ไม่ใช่เวลาออกขุนนาง เพราะพระเจ้าพังคราชท่านเสด็จไปไหน ท่านก็นุ่งกางเกงดำคลุมเข่าลงนิดหน่อย ใส่เสื้อดำมีผ้าขาวม้าคาด ดีไม่ดีท่านก็แบกจอมแบกเสียมไปทำทุกอย่างที่เขาทำกัน ไม่เคยนั่งชี้นิ้วเป็นจ้าวเป็นนายไปไหนตัวเสน่ห์ใหญ่ คือ เด็กชายพรหม คนเขาก็หมอบราบคาบแก้ว เด็กชายพรหมก็วิ่งไปกราบเขา ว่าคุณลุงคุณป้าอย่ากราบผมเลย ผมก็เป็นลูกคนธรรมดา ๆ จะกราบผมทำไม แต่ทุกคนเขาไม่ยอมเพราะเขาเชื่อโหรพยากรณ์ว่าเด็กคนนี้จะกู้ชาติ
    เป็นอันว่า เด็กชายพรหมกราบทูลพระราชบิดาว่า “ต่อไปนี้คนไทยทุกคนต้องเป็นนักรบ” พระราชบิดาก็กล่าวว่า “ตั้งแต่ลูกเข้ามาสู่ครรภ์แม่ คนไทยเขาก็เป็นนักรบกันหมดแล้วลูก เขาฝึกปรืออาวุธกันเป็นอย่างดี” พอดีมีคุณยายคนหนึ่งอายุ ๘๐ ปี แล้วลุกขึ้นคว้าขวานชูขึ้นบอก “หลายเอ๋ย ถ้ายายจะต้องตายเพราะฆ่าขอมให้ตาย ยายพร้อมตายเพื่อความเป็นไท” แล้วยายก็แกว่งขวานให้ดู เป็นอันว่าคนไทยทุกคนต้องการอย่างเดียวว่า เด็กชายพรหมจะเอาอะไร เขาพร้อม เมื่อเด็กชายพรหมต้องการให้คนไทยทุกคนมีชีวิตเป็นทหารบรรดาแม่ทัพนายกองเก่า ๆ ทั้งหลายเขาฝึกอาวุธไว้แล้ว และคนไทยทุกคนก็พร้อมอยู่แล้วจึงร่วมกันฝึกอาวุธทันทีฝึกกันเป็นหย่อม ๆ แต่ต้องปิดบังขอม
    ที่มา http://palungjit.org/threads/เพียง๑๐๐บาทร่วมบุญปิดสมเด็จพระพุฒาจารย์โต๖๙นิ้ว.548123/
     
  2. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +2,515
    เป็นแบบ mp3 มีหรือเปล่าคะ อยากโหลดเอาไว้ฟัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...