เที่ยวไทยครึกครื้นฯ ตอนสิมิลัน เสน่ห์ อันดามัน

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 26 เมษายน 2009.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เที่ยวไทยครึกครื้นฯ ตอนสิมิลัน เสน่ห์ อันดามัน

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รายงานโดย :นิธิ ท้วมประถม:

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://www.posttoday.com/travel.php?id=44021

    เมื่อครั้งที่แล้ว ผมนำท่านผู้อ่านไปสัมผัสชีวิตแรกบนเกาะหนึ่ง 1 ใน 9 เกาะของหมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะที่ผมว่าสวยที่สุดของประเทศไทยก็ว่าได้

    [​IMG]

    หลายท่านสงสัยว่า หากต้องการไปชมชายหาดที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาในเมืองไทย และไปชมการทำงานของกองทัพเรือเกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุ์เต่าตนุได้อย่างไร
    คงต้องบอกว่า ให้ติดต่อไปที่กองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 ได้เลยครับ แต่ผมไม่ทราบว่าทางกองทัพเรือจะอนุมัติให้ขึ้นไปเที่ยวได้หรือเปล่า เพราะเป็นพื้นที่อนุรักษ์ครับ
    ก็ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่บนนั้นไม่น้อย เพราะมีเพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งมีหน้าที่ ต้องคอยเดินตรวจตราทุก 2 ชั่วโมงทั้ง กลางวัน กลางคืน ว่ามีเต่าขึ้นมาไข่หรือไม่ ก็เต่าไม่เลือกออกไข่นี่ครับว่าจะออกเฉพาะช่วงกลางคืนหรือกลางวัน เจ้าหน้าที่เขาเลย ต้องเดินทั้งวัน ซึ่งถือว่าเป็นงานหนักไม่น้อยทีเดียว
    นั่งเรือกลับจากเกาะหนึ่ง เราทิ้งเกาะหนึ่งไว้เบื้องหลัง และหวังว่าเกาะแห่งนี้จะเป็นบ้านที่แสนสงบของเต่าและสัตว์ทะเลอื่นตราบนานเท่านาน
    เรามุ่งหน้ากลับไปที่เกาะสี่อีกครั้ง เพื่อไปเล่นน้ำให้สมอยาก ซึ่งระหว่างการเดินทางกลับเกาะสี่นั้น “ไต๋ลือ” พาพวกเราหา “เสบียง” ไว้สำหรับการใช้ชีวิตอีก 2-3 วัน ด้วยการพาไปตกปลากองหิน
    แต่ อ๊ะอ๊ะ ไม่ได้ไปตกในพื้นที่เขตอุทยานนะครับ แต่ขับเรือออกมานอกเขตอุทยานที่น้ำลึกประมาณร้อยกว่าเมตรเพื่อตกปลาเก๋า ซึ่งก็ไม่ผิดหวังครับเราได้ปลาเก๋าตัวใหญ่ๆ หลายตัวมาเป็นอาหารเสริมพลังในทริปนี้ แถมด้วยปลาวัวซึ่งหารับประทานไม่ได้บนฝั่งแน่นอน เป็นปลาที่มีเกล็ดแข็งมากครับ คนเรือบอกวิธีปรุงเจ้าปลาวัวว่า ไม่ต้องคิดอะไรมาก “เผาอย่างเดียว”
    และก็จริงตามนั้น เพราะเมื่อนำมาเผาบนเกาะสี่ เกล็ดที่แสนหนาสามารถลอกออกมาได้ง่ายๆ ส่วนเนื้อด้านในนั้นแน่นปึ้กเหมือนเนื้อไก่ทีเดียว

    [​IMG]

    นอกจากนี้ ยังได้ปลากะมง ขนาดเกือบ 20 กิโลกรัมอีกตัว เล่นเอาผมหมดแรงจากการอัดปลาตัวนี้ทีเดียว
    เมื่อได้เสบียงเพียงพอแล้ว เราก็กลับไปที่เกาะสี่กันอีกครั้ง
    ครั้งนี้ผมได้จองบ้านพักของอุทยานไว้ให้ทีมงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้พักผ่อนกันให้เต็มที่ ซึ่งบ้านพักของอุทยานที่เกาะสี่นี้มีอยู่ 30 กว่าหลัง ไม่รวมเต็นท์อีก 20 กว่าหลัง
    พี่ไหว เจ้าหน้าที่อุทยาน บอกว่า นักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะมากในแต่ละปี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องคอยดูแล และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ทำงานกันอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของห้องน้ำรวม ที่แม้ว่าจะทำความสะอาดกันบ่อยๆ แต่ก็ยังมีปัญหาในเรื่องของกลิ่นอยู่
    ทริปนี้แม้ว่าผมจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตบนเกาะสี่ไม่มากนัก จะอยู่ก็แต่ในช่วงยามค่ำคืน ที่มานั่ง “แลกเปลี่ยน” ประสบการณ์กับพี่ไหว ด้วยเครื่องดื่มสารพัดสูตรที่ทำให้การแลกเปลี่ยนประสบการณ์เป็นไปได้อย่างมีรสชาติ
    แถมด้วยปลาวัวย่างอีก 2 ตัว พร้อม น้ำจิ้มสุดแซบ ทำเอาค่ำคืนนั้นสวยงาม ไม่น้อย

    [​IMG]


    กำลังนั่งคุยอยู่เพลินๆ น้องแบม น้องชายใจหญิง เจ้าหน้าที่ชั่วคราวบนเกาะสี่ เข้ามาร่วมพูดคุยและยังชวนเราเดินหา “ปูไก่” สัตว์สงวนบนเกาะสี่ ที่ตอนนี้เหลืออยู่บนเกาะนี้ไม่มากนัก แม้ว่าจะเป็นพื้นที่อนุรักษ์ก็ตาม
    เราเดินตามน้องแบมไปตามเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปหาดเล็ก ท่ามกลางความมืดมิด ที่อาศัยเพียงไฟฉายดวงเล็กๆ เพียงไม่กี่ดวงที่เรามีอยู่เดินหาปูไก่ที่ซุกซ่อนอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้
    การเดินหาปูไก่ครั้งนี้ทำให้ผมนึกถึงเมื่อ 4-5 ปีก่อนที่มาเดินหาปูไก่เหมือนกัน แต่ในครั้งนั้นเดินหา เท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเจ้าปูหลบไปอยู่ไหนหมด
    เราหากันจนอ่อนใจ เลยเดินกลับมาที่พัก ปรากฏว่าปูไก่ที่เราเดินหากันแทบพลิกแผ่นดิน พาเหรดกันมาอยู่แถวโรงครัว เพื่อมากินเศษอาหารที่เหลือ เสียศักดิ์ศรีปูไก่หมด แต่ก็ทำให้เราได้เห็นปูไก่แบบเต็มตาเหมือนกัน
    แต่ในครั้งนี้น้องแบมพาเราบุกป่าฝ่าดง แยกออกจากเส้นทางหลัก ทั้งมุด ทั้งก้ม ทั้งหลบต้นไม้ทั้งหลาย เพื่อไปหารูปูไก่ที่อยู่ในป่า ไม่ได้อยู่ในทะเล
    โชคดีที่การเดินหาปูไก่ของเราเกิด หลังฝนตกใหม่ๆ ทำให้เราเห็นปูไก่หลายต่อหลายตัว เดินเกะกะไปทั่ว และแต่ละตัวมีขนาดใหญ่กว่ากำปั้นผมเสียอีก
    [​IMG]

    น้องแบม บอกว่า ปูไก่เหลือน้อยลงทุกที ซึ่งน่าจะมาจากธรรมชาติที่เปลี่ยนไป แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่อุทยานแต่ความบริสุทธิ์ของธรรมชาติก็ลดลงทุกปี แม้ว่าหมู่เกาะสิมิลันจะถูกขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานแห่งชาติมา ตั้งแต่ปี 2525 แล้วก็ตาม ฟังแล้วก็น่าเศร้าไม่น้อยเลยนะครับ
    เราเดินดูปูไก่อยู่ชั่วโมงกว่าๆ ฝนก็ทำท่าตกลงมาอีกแล้ว ก็เลยเร่งเดินกลับมาที่ร้านอาหาร เพื่อมาทำหน้าที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับพี่ไหวอีกรอบ ซึ่งในรอบนี้ฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำเอาการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของเราเป็นไปอย่างมีสีสัน
    ระหว่างที่นั่งคุยกันอย่างออกรส น้องแบมก็กลับมาพร้อมกับงูเหลือมขนาดวากว่าๆ ที่จับมาจากโคนต้นไม้แถวๆ เต็นท์ที่พัก ซึ่งเจ้างูเหลือมตัวนี้มากินหนูที่ตอนนี้มีอยู่ไม่น้อยเลย
    หากท่านผู้อ่านไปพักเต็นท์ที่เกาะสี่ละก็ ปิดเต็นท์ให้มิดชิดนะครับ ไม่อย่างนั้น ขนม และอาหารการกิน ที่เตรียมมาเละเทะแน่

    [​IMG]


    และหนูที่มีอยู่มากมาย นี่คือส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวของหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งฟ้องให้เห็นถึงการจัดการที่มีปัญหา ซึ่งจะไปว่าเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะอาหารการกินที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายขนขึ้นไปก็มีไม่น้อย
    น้องแบมเอางูเหลือมตัวนั้นไปปล่อยไว้ที่ชายป่า ซึ่งผมเชื่อว่าอีกไม่นานมันก็กลับมาอีก ก็แหมที่นี่อาหารเพียบ แล้วจะไป ไล่จับนกให้เหนื่อยทำไม
    ไม่เป็นไรครับ ถือว่าธรรมชาติก็แล้วกัน
    คืนนั้นเราดื่ม เอ้ย แลกเปลี่ยน ประสบการณ์ไปพร้อมๆ กับการดูถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก วันแดงเดือด ที่ยอดทีมอย่าง ลิเวอร์พูล (อิอิ...) เอาชนะผีแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ถึง 4-0 อย่างเยี่ยมยอด
    บนเกาะสี่ไม่ได้กันดารนะครับ มีทรู วิชั่นส์ดูด้วย แต่ต้องมาดูที่โรงอาหาร และมือถือก็ใช้ได้นะครับ แต่ต้องเป็นระบบเอไอเอส ที่เป็นเพื่อนเดินทางของผมเท่านั้น ส่วนระบบอื่นแห้ว จ้ะ
    เมื่อมีเอไอเอส คราวนี้เราจะโหลดหนัง โหลดเพลง ก็ได้ตามใจ หรือจะเล่นเน็ต ก็ไม่ว่ากัน อย่างนี้สบายแล้ว ไม่พลาดการสื่อสารและความบันเทิงได้แน่ๆ ถูกใจผมจริงๆ
    ช่วงเช้าอีกวัน ผมตื่นขึ้นรับอากาศบริสุทธิ์ ด้วยสภาพที่ยังตึงๆ จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับพี่ไหวเมื่อคืนนี้ และเพื่อนร่วมทริปที่ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วยก็มีอาการคล้ายๆ กัน
    วันนี้เราจะไปเกาะแปดกัน เกาะที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของอุทยานฯ สิมิลัน ซึ่งมีสัญลักษณ์หินรูปเรือใบ เด่นเป็นสง่าอยู่ด้านซ้ายของตัวเกาะ
    อาหารเช้าบนเรือวันนี้ยังเป็นข้าวต้มปลาหอมกรุ่นฝีมือคนเรือ ซึ่งผมบอกไว้เลยครับว่าหากท่านผู้อ่านมีโอกาสละก็ เช่าเรือออกไปล่องทะเลสักวัน รับประทานอาหารบนเรือ นอนบนเรือ แล้วจะรู้ว่าเยี่ยม แค่ไหน

    [​IMG]

    รับประทานอาหารเช้า เสร็จสรรพ ก็ได้เวลาไปเยือนเกาะแปดเสียหน่อย ถึงแม้ว่าจะไปมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่ทุกครั้งที่มาสิมิลันผมต้องแวะไปที่นี่
    เราใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงแล้วเกาะแปด วันนี้เรามากันเร็วครับ เพื่อที่จะได้ขึ้นไปนั่งบนจุดชมวิวบนหินเรือใบได้แบบส่วนตัวเสียหน่อย
    เรือจอดอยู่ด้านหน้าหาด รอเรือเล็กของเจ้าหน้าที่บนเกาะมารับ เพราะเรือเรา ไม่สามารถเทียบชายหาดได้เหมือนกับเรือเร็ว เผลอแผล็บเดียวก็ได้มายืนบน ชายหาดขาวๆ ที่สุดแสนจะนุ่มเท้า และน้ำทะเลสีฟ้าใสแล้ว ไม่อยากบอกว่าเมืองไทยนี่สวรรค์จริงๆ
    ที่เกาะแปดผมเห็นทางอุทยานอยู่ระหว่างการสร้างบ้านพักเพิ่มขึ้นอีกมาก ก็ไม่รู้ว่าอนาคตเกาะในอุทยานจะเป็นอย่างไร เพราะบอกได้ว่า “การจัดการ” การใช้ทรัพยากรของเรานั้นต่ำมาก ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรักษาธรรมชาติให้อยู่คู่กับเราได้อย่างยั่งยืนแน่นอน
    เฮ้อ...ไม่อยากพูดถึงเรื่องเครียดๆ อย่างนี้ ไปเที่ยวต่อดีกว่า
    ช่วงเช้าๆ อย่างนี้นักท่องเที่ยวบนเกาะแปดยังไม่เยอะ เราเลยรีบขึ้นไปที่จุดชมวิวดีกว่า ทางเดินขึ้นจุดชมวิวยังคงเหมือนเดิม คือต้องไต่โขดหิน ลัดเลาะไปตามทางที่ทางอุทยานขึงเชือกเอาไว้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เกาะและไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ

    [​IMG]

    เส้นทางขึ้นไปชมวิวนั้นเรียกเหงื่อของเราได้นิดหน่อย แต่บอกได้เลยว่า เมื่อขึ้นมาที่นี่แล้ว คุ้มครับ โคตรคุ้ม กับวิวที่สามารถมองเห็นน้ำทะเลสีคราม ท้องฟ้า สีน้ำเงินเข้ม แถมลมเย็นๆ พัดผ่านมาเอื่อยๆ สุขใจจริงๆ
    ถ้ามีกาแฟดีๆ สักแก้วมานั่งจิบบนนี้ อูย...เที่ยวไทยครึกครื้นฯ ได้จริงๆ คราวหน้าติดกาแฟมาด้วยดีกว่า
    มานั่งชมวิวบนนี้ บอกได้เลยว่าเที่ยวเมืองไทยกันเถอะครับ ยิ่งช่วงนี้ด้วย เที่ยวไทยสุดแสนจะคุ้ม ค่าที่พักทั้งหลายลด ราคากันกระเจิดกระเจิง ธรรมชาติก็ยังดีอยู่ แจ่มจะตาย
    ช่วงนี้ เที่ยวไทยแจ่มสุดแล้วครับ ตอนหน้าผมจะพาไปเยือนภูเก็ต จะพาไปเดินถนนถลาง ถนนวัฒนธรรมแห่งภูเก็ต ที่ สุดแสนจะคลาสสิก แล้วเจอกันครับ สวัสดีครับ.....
     
  2. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    ร้อนนี้หากใครคิดไม่ออกว่าจะไปพักร้อนที่ไหน วันนี้เรามีมาแนะนำค่ะ

    ที่นี่เลย "เกาะสิมิลัน"


    [​IMG]


    เรามารู้จัก "เกาะสิมิลัน" กันค่ะ


    คำว่า "สิมิลัน" เป็นภาษายาวี หรือ มลายู แปลว่า เก้า หรือ หมู่เกาะเก้า

    หมู่เกาะสิมิลัน อยู่ในท้องที่ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี ครอบคลุมพื้นที่ 80,000 ไร่ ประกาศเป็นเขตอุทยานฯ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2525 หมู่เกาะ สิมิลันเป็นหมู่เกาะเล็ก ๆ ในทะเลอันดามัน มีทั้งหมด 9 เกาะ โดยหมุ่เกาะสิมิลันได้รับการยกย่องจากนิตยสารสกินไดวิ่งของอเมริกา ว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความงามทั้งบนบก และใต้น้ำ เป็น 1 ใน 10 ของโลก หมู่เกาะสิมิลันอยู่ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 70 กม. ช่วงเดือนธันวาคม - เมษายน เป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด (ช่วงเดือนมีนาคมจะเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด ไม่มีมรสุมและน้ำใส สามารถดำน้ำและตกปลาได้ดี)


    [​IMG]


    ความสวยงามของเกาะสิมิลัน เป็นสิ่งที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ สิมิลัน มีชายหาดที่สวยที่สุด หาดทรายขาวที่สุด ขาวละเอียดเหมือนแป้ง น้ำใสกว่าทุกเกาะของทะเลไทย ความโดดเด่นของสิมิลันคือการท่องเที่ยวพักผ่อนชายหาด อีกจุดเด่นคือโลกใต้น้ำที่นี่มีแนวปะการังน้ำลึกที่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก สำหรับการดำน้ำชมปะการังน้ำตื้นก็พอมีให้ชมอย่างไม่น่าเบื่อเพราะที่นี่น้ำใสทำให้มองเห็นทัศนียภาพใต้น้ำไปได้ไกล ถึงแม้แนวปะการังน้ำตื้นจะไม่สมบูรณ์เหมือนอย่างเกาะสุรินทร์แต่การดำน้ำตื้นของที่นี่ก็มีเสน่ห์อยู่ที่ฝูงปลามากมายไม่ว่าจะเป็นปลานกแก้วตัวใหญ่ๆ หรือปลาสวยงามอีกหลายชนิด แต่ละตัวที่พบเห็นล้วนมีขนาดใหญ่ นอกจากสิมิลันจะมีชายหาดที่สวยงามแล้ว บนเกาะยังมีสภาพป่าที่สมบูรณ์มาก การเดินผ่านป่าจากหาดหน้าไปยังหาดหลังเกาะนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับป่าที่มีความเป็นธรรมชาติมาก นอกจากนี้ป่าบนเกาะยังเป็นที่อาศัยของนกจำนวนมาก นกเด่นของเกาะสิมิลันคือ นกชาปีไหน เป็นนกที่หาชมได้ง่ายมากในหมู่เกาะสิมิลัน


    [​IMG]


    ความสวยงามของน้ำทะเลที่ดูใสสะอาดตา เหมาะแก่การดำน้ำและเล่นน้ำทะเลเป็นอย่างมาก


    [​IMG]


    นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำดูความสวยงามของท้องทะเลไทยที่ เกาะสิมิลัน ได้ โดยได้สัมผัสถึงหมู่ฝูงปลาและปะการังที่สวยงาม ซึ่งบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล


    [​IMG]


    เต่าทะเลที่แหวกว่ายน้ำไปมา น่ารักมาก ๆ


    การเดินทางไปเกาะสิมิลัน


    -จากท่าเรือทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง ระยะทาง 40 กม. ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 2 ชั่วโมง มีเรือสำหรับ 20-40 คนสำหรับให้เช่าไปเกาะสิมิลันช่วงที่ใกล้ที่สุด คือ ท่าเรือทับละมุ บริเวณนี้มีที่ทำการอุทยานตั้งอยู่เพื่ออำนวนความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว หรือติดต่อซึ้อทัวร์ได้นอกจากนี้มีเรือเหมาลำ เรือขนาด 18 เมตร กว้าง 5 เมตร เป็นแบบเรือทัวร์
    -จากท่าเรือหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ตถึงเกาะสิมิลัน ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทนำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต หรือเดินทางโดยเรือท่องเที่ยว มีเรือออกจากท่าเรือหาดป่าตอง ใช้เวลาดินทาง 3 ชั่วโมงครึ่ง

    ที่พัก อุทยานฯ มีบังกะโลและเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวและมีบริการอาหารมีบ้านพัก 4 หลัง พักได้หลังละ 20 คน

    เต็นท์หากใครสนใจพักร้อนที่เกาะสิมิลันสามารถติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมีลัน หมู่ 1 ทับละมุ ตำบลลำแกน อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา 82120 โทร (076) 595045 หรือที่เกาะสี่ 076-421365

    เพิ่มเติม : เดือนมีนาคมนี้เป็นช่วงที่เหมาะแก่การไปเที่ยวพักร้อนที่ เกาะสิมิลันมากเพราะช่วงนี้น้ำจะใสสะอาดเป็นพิเศษ และไม่มีมรสุมด้วยค่ะ

     
  3. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ปะการังสวยจังเลย ที่นี่ก็ยังไม่เคยไปอีกนั่นแหล่ะ อยากไปอ่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...