หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระโพธิสัตว์แห่งอยุธยา ตอน เรื่องผีที่กุฏิ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 8 พฤษภาคม 2015.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระโพธิสัตว์แห่งอยุธยา ตอน เรื่องผีที่กุฏิ
    [​IMG]
    ไอ้อารมณ์ของฉันนี่เป็นเด็กหัวดื้อ ก็รู้กันอยู่แล้ว มีวันหนึ่งฉันไปหาหลวงพ่อปาน มีกุฏิหลังหนึ่งที่ฉันไปทำนํ้ามันโป กุฏิหลังนั้นต่อมาปรากฏว่าคนอยู่กันไม่ได้ พระอยู่กันไม่ได้ ถ้าอยู่ขึ้นไป ๒-๓ วันก็ต้องลง มันเป็นกุฏิ ๒ ชั้น อยู่หน้าศาลา เป็นสถานที่สงัด

    ฉันเห็นว่ามันเย็นดีและก็อยู่สูง ไอ้เสียงจ้อกแจ้กจอแจมันไม่ดี ฉันก็ขออนุญาตหลวงพ่อปาน
    หลวงพ่อปานก็เลยบอกว่าไปอยู่ได้เหมือนกันแต่ว่ามันลำบากนะ แต่ทางที่ดีฉันคิดว่าอย่าไปอยู่เลยดีกว่า
    ก็เรียนถามท่านว่าเป็นอย่างไรครับ

    ท่านบอกว่าผีเขาขนทรัพย์มาจากโคกโขนด ไอ้โคกโขนดนี่มันอยู่หน้าวัดบางปลาหมอ ไกลจากวัดไปประมาณสัก ๒ กิโลเมตร เขาขนทรัพย์มาอยู่ใต้นั้น พระขึ้นไปอยู่แล้วก็ทนไม่ไหว เขาอาละวาดอยู่ไม่ได้ต้องหนีมา ถ้าเธอขึ้นไปอยู่อาจจะได้รับอันตราย

    ก็เลยเรียนท่านว่าไม่เป็นไรครับ ผมจะขอขึ้นไปอยู่ ถ้าหากว่าทนไม่ไหวจริง ๆ ก็จะกลับ
    ท่านก็เลยบอกว่าเอา ถ้าอย่างนั้นละก็เอาหวายตีผีไปด้วย เอาไปกันตัวนะ แต่ก็อย่าประมาทนะถ้าให้สมาธิเคลื่อน ถ้าสมาธิเคลื่อนแล้วละก็จะเป็นอันตราย

    ฉันก็นึกดีใจว่า ไอ้สถานที่ใดที่สมาธิเคลื่อนไม่ได้ สถานที่นั้นก็น่าจะไปอยู่เพราะอะไร เพราะว่ามันเป็นเขตบังคับตัวอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเราไปอยู่สถานที่ดี ๆ แล้วอาจเป็นคนประมาท ถ้าในสถานที่นั้นเป็นอย่างนั้นก็เป็นการเหมาะ จะได้รักษาสมาธิให้ทรงตัว

    แต่อาการมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น พอขึ้นไปอยู่เข้าจริง ๆ พอตอนหัวคํ่าประมาณสัก ๒ ทุ่ม กุฏิมันเป็น ๒ หลังคู่ห่างกันไม่ถึง ๒ วาหรือประมาณ ๒ วาเท่านั้น แล้วมีชานคอนกรีตล้อมรอบ

    ฉันได้ยินเสียงคนคุยกันสักหลายสิบคน เสียงคุยกันอ้าว ฉันก็สงสัยคิดว่าเจ๊กทำงานเขื่อนขึ้นมาคุยกันละมั๊ง ก็นึกในใจว่าเจ้าพวกนี้ไม่น่าเลย รู้แล้วว่าเราอยู่บนนี้ไม่น่าจะมาคุยกันเสียงดัง ไอ้เจ้าพวกนี้ไม่มีมารยาท ฟังไป ๆ มันเหลือทนก็เลยไปดู

    พอไปส่องดูไม่มีคนสักคน หน้าต่างประตูก็ปิดหมดมันอัศจรรย์ใจ นึกว่าเอาเข้าแล้วที่หลวงพ่อว่าเอาเข้าแล้ว
    กลับมาอีก เขาก็คุยกันอีก ฉันก็เลยปล่อยให้เขาคุย ฉันก็ดูหนังสือตามสบาย พอ ๔ ทุ่มฉันก็นอนหลับ ฉันไม่วิตกกังวลอะไร

    แต่พอตื่นขึ้นตีหนึ่ง อีตอนนี้เองเริ่มอาละวาด แกกระโดดกันปึงปัง ๆ เปิดหน้าต่างไปดู ไอ้ชานมันล้อมรอบนี่เห็นคนแต่ไม่มีหัวโดดกัน โดดกันอยู่นั่นเอง

    ฉันกลับเข้ามาบูชาพระแผ่ส่วนกุศลให้แก แกก็ไม่เลิกโดดแกก็โดดตามสบายของแก
    ฉันก็เลยปล่อย
    พอถึงเวลาเจริญกรรมฐานฉันก็เจริญ พอเจริญกรรมฐานแกย่องเข้ามาโดดในกุฏิ แต่โดดห่างตัวประมาณสัก ๑ วา
    ตามระบบการเจริญกรรมฐานเป็น อย่างนั้น ถ้าผีจะเข้ามาได้ก็ไม่เกิน ๑ วา

    เมื่อแกโดดไปโดดมาฉันก็ปล่อย จากตี ๒ ถึงตี ๔ ฉันตั้งนาฬิกาปลุกไว้ พอถึงตี ๔ ฉันก็คลายกรรมฐาน
    พอคลายกรรมฐานแกก็ไปโดดกันข้างนอก แล้วฉันก็จุดตะเกียงเพื่อจะดูหนังสือเรียนคือธรรมวินัย เมื่อดู ๆ วันนั้นก็รู้สึกว่ามันเพลียจัดก็รู้สึกแปลกใจว่า เอ๊ะ นี่มันยังไงหว่า

    ผลที่สุดพออ่านหนังสือมันชักเพลียก็เลยคิดว่าประเดี๋ยวเหอะพักสักประเดี๋ยว ประเดี๋ยวค่อยดู จะนอนสักหน่อยแล้วกันให้มันหายเพลีย ก็เลยวางหนังสือ ชักผ้าห่มขึ้นห่ม

    พอชักผ้าห่มขึ้นห่ม อีตอนนี้ไอ้ตัวนั้นมีหัวแฮะ ปล่อยผมเผ้ารุงรัง หน้าเสี้ยม ๆ นุ่งผ้าลอยชาย แล้วก็เอาผ้าคล้องคอผืน โดดขึ้นมาพร้อมผ้าทับอก อีกมือหนึ่งก็กดแขนขวา พอแกโดดคํ้าอกแกจะเอามือบีบคอ ฉันก็เลยเอื้อมมือจะไปหยิบไม้หวายตีผี
    แกก็เอามือซ้ายแกกดแขนขวาฉันไว้ กดตอนท่อนแขนท่อนบน ทีนี้แกกดแขนขวาฉัน ฉันก็เอามือซ้ายจะหยิบ แกก็กดมือซ้ายฉันไว้ ผลที่สุดแกก็ทำอะไรฉันไม่ได้ เพราะมือแกบีบคอฉันไม่ได้ ถ้าแกปล่อยมือเมื่อไหร่ฉันก็จะเอา หวายตีแกเมื่อนั้น อีตอนนี้ยุ่ง พอเขานั่งทับอกอยู่อย่างนั้นก็รู้สึกว่าไม่หนักนัก ฉันก็ภาวนาอยู่ นึกในใจว่าถ้าปล่อยให้นั่งอยู่อย่างนี้เราก็แย่

    คาถากันผีขับผีน่ะเรียนจากอาจารย์ต่าง ๆ มาเยอะ ๒-๓ บท ฉันก็ว่าคาถาแล้วก็เป่า
    แกบอกคาถาแบบนี้กูไม่กลัว
    แล้วกัน
    บางบทพอว่าไปแล้วก็เป่า
    แกบอกว่า เฮ้อ คาถาบทนี้มันมีอีกครึ่งนี่ เอ็งได้ครึ่งหนึ่งข้าไม่กลัว
    เป็นอันว่าชักหมดท่า นึกจะทำอย่างไรกันดีหนอ ถ้าจะไม่ได้การ นึกในใจว่าคาถาที่เรียนมากี่บท ๆ มันไม่ได้ผลนี่ก็หมดท่าแล้วจนแต้ม

    เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าโอ้หนออะไรจะดีกว่าบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บารมีสูงยิ่งกว่าพรหมยิ่งกว่าเทวดาใด ๆ ทั้งหมด ถ้างั้นเราขออาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าช่วยเถอะ

    พอนึกอย่างนี้ก็ภาวนาว่า พุทโธ..พุทโธ..พุทโธ ๓ ครั้งแล้วเป่าพรวด เจ้าหมอนั่นหกคะเมนตึง แล้ววิ่งหนีหายไปเลย

    เมื่อสู้กันอย่างนั้นมันเพลียอยู่แล้วก็เลยเพลียมากขึ้นก็เลยนอนหลับเผลอไป พอใกล้จะหลับหมอโดดเข้ามาทางหน้าต่างมือคว้าคอมั๊บเข้าให้ เจ็บไปทั้งตัว หันไปจะเป่ามันก็หนีอีก

    อีตอนเอามือคว้าคอนี่เองเจ็บไปทั้งตัวไปบิณฑบาตไม่ได้ เช้าต้องกระย่องกระแย่งเข้าไปหาหลวงพ่อปาน
    ตามธรรมดาประตูท่านเปิดโมงเช้า แต่เวลานั้นเวลา ๖ โมงเช้าท่านบอกอาจารย์เจิมให้เปิดประตู

    อาจารย์เจิมบอกว่ายังไม่สว่างครับ ยังไม่ถึงโมงเช้า
    ท่านบอกเปิดเถอะ เดี๋ยวไอ้ตัวดีมันก็มา เมื่อคืนนี้ผีเล่นงานมันเข้าแล้ว
    ผลที่สุดพออาจารย์เจิมเปิดประตู ประเดี๋ยวเดียวฉันก็มาถึง
    ท่านก็โผล่ออกมาถามว่าอย่างไรโดนดีเข้าแล้วหรือ
    บอกครับ
    ท่านก็บอกว่าเอ้า..ก้มหัวมา
    พอก้มหัวลงไปท่านเป่า ๓ ครั้ง เหมือนกับยกเอาไปทิ้ง ไม่มีอะไรเหลือเลย สบาย
    แล้วท่านก็ถามว่านี่เข็ดหรือยัง จะกลับไหม
    บอกว่ายังครับ
    ถามว่าไม่เข็ดหรือ
    บอกว่าไม่เข็ดครับ
    นี่เป็นปฏิปทาของฉัน ไอ้คนดื้อนี่ ผลที่สุดฉันก็ไปอยู่อีก
    รวมความว่าฉันไปอยู่ที่นั่นตั้งแต่วันนั้นมาครบ ๓ เดือนพวกหลอกทุกคืน เรียกว่าหลอกจนเชื่อง จนกระทั่งไม่มี
    ความรู้สึกอะไร
    ที่มา http://palungjit.org/threads/เพียง๑๐๐บาทร่วมบุญปิดสมเด็จพระพุฒาจารย์โต๖๙นิ้ว.548123/
     
  2. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +2,515
    กราบหลวงปู่ปาน กราบหลวงพ่อฤาษี สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...