หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระโพธิสัตว์แห่งอยุธยา ตอน หลวงพ่อปานไหว้พระพุทธบาท

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 29 เมษายน 2015.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระโพธิสัตว์แห่งอยุธยา ตอน หลวงพ่อปานไหว้พระพุทธบาท
    [​IMG]
    เมื่อหลวงพ่อปานและคณะของท่านอำลาชาวบ้านหมู่นั้นแล้ว ท่านก็มุ่งเข้าเขตพระพุทธบาท สมัยนั้นทางเข้าพระพุทธบาทไม่มีทางรถ ใช้ทางเกวียนหรือทางเดินเท้าของชาวบ้าน เมื่อเข้าพระพุทธบาทแล้วต่างก็นมัสการ เวลาที่เข้านมัสการไม่ตรงกับเทศกาลนมัสการพระพุทธบาท

    หลวงพ่อปานท่านให้ความเห็นว่า การมานมัสการในงานเทศกาลนั้น คนแย่งกันไหว้ อารมณ์ตั้งมั่นน้อย มาไหว้แบบนี้เงียบสงัด อารมณ์เยือกเย็น มีปีติโสมนัสดีกว่าไหว้ในงานเทศกาลมาก

    เมื่อไปถึงนั้น เวลายังไม่ใกล้ค่ำ เมื่อมีเวลาเหลือมาก ท่านก็คุยเรื่องพระพุทธบาทให้คณะที่ร่วมทางไปด้วยฟัง เพื่อเป็นการฝึกคณะธุดงค์ที่ไปกับท่านด้วย ท่านจึงสั่งว่า

    “ประวัติที่เขาเขียนจะเขียนว่าอย่างไรอย่าคำนึงถึง ทุกองค์จงใช้หลักวิชชา 3 ใช้ให้เป็นประโยชน์ (คำว่าวิชา 3 หมายถึงอภิญญาเล็ก คือมีทิพยจักษุญาณและปุพเพนิวาสานุสสติญาณ) ท่านให้เวลาคนละ 3 นาที แล้วต่างคนต่างให้เขียนตอบท่านว่ามีอะไรสำคัญ”

    ทุกองค์เมื่อรับบัญชา ต่างก็หยิบกระดานที่ติดตัวไปออกมา ซึ่งทุกองค์ต่างก็เขียนตรงกัน ว่า

    “ที่นี่มีความสำคัญทางพุทธศาสนาจริง นอกจากมีรอยพระพุทธบาทที่ไม่ปลอม ซ่อนอยู่ใต้รอยพระพุทธบาทเทียมที่มีผู้สร้างคลุมของเก่าไว้แล้ว ยังมีพระบรมสารีริกธาตุที่พระอรหันต์ท่านนำมาบรรจุไว้อีก 3 องค์”

    เมื่อทุกองค์ส่งหนังสือถวายหลวงพ่อปาน ท่านอ่านแล้วก็ยิ้ม กล่าวว่า

    “พวกเธอพอใช้ได้ แต่ยังไม่ดีแท้ เอาเท่านี้พอคุ้มตัวได้ คืนนี้มาพิสูจน์ความจริงกัน ที่พวกเธอว่ามีพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุมีที่ไหนต้องมีปาฏิหาริย์ที่นั่น

    เรื่องปาฏิหาริย์ของพระบรมธาตุเป็นภาระของฉัน พวกเธอยังมีกำลังอ่อน เชิญท่านอาจไม่ปรากฏ ขอให้เธอจงปล่อยให้เป็นภาระของฉัน โน่นต้นไม้ใบไม้ที่กำลังร่วงโรยหรือสดใส จงไปพิจารณาให้เป็นวิปัสสนาญาณ วิปัสสนาไม่ใช่เกาะแต่ตำรา จงหาของจริงมาใคร่ครวญ วิปัสสนาท่านให้ดูของจริง ไม่ใช่มัวถ่างตาดูแต่ตำราแล้วก็ติดตำราแจ ของจริงไม่ใช้จะได้อะไรเป็นที่พึ่ง”

    ท่านว่าแล้วท่านก็ให้คณะของท่านให้หาที่พักตามสบาย แต่ต่างคนต่างอยู่ ห้ามรวมกันตั้งแต่ 2 องค์ขึ้นไป

    ปาฏิหาริย์พระบรมธาตุ

    เมื่อเวลาใกล้ค่ำ คณะห้าธุดงค์มีหลวงพ่อปานเป็นประมุข ต่างก็หาที่ปักกลดตามที่ตนเห็นสมควร เมื่อปักกลดเสร็จ ทำวัตรสวดมนต์ตามระเบียบ

    เมื่อยามค่ำมาถึงเวลาประมาณ 20 น. อากาศกำลังสบาย หลวงพ่อปานท่านก็เรียกพระเข้าประชุม ให้ทุกองค์ทรงพุทธานุสสติกรรมฐาน จนอารมณ์ทรงฌานตามความพอใจของท่าน

    เมื่อทุกองค์ทรงฌานอยู่ในระดับที่ท่านพอใจแล้ว ท่านสั่งให้ทุกคนถอนออกจากฌาน ตั้งอารมณ์อยู่อุปจารสมาธิ เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของพระชุดนั้น เมื่อทุกองค์ทรงอุปจารสมาธิพร้อมแล้ว หลวงพ่อปานท่านก็เปล่งวาจาดัง ๆ ว่า

    “ด้วยข้าฯ เคยบำเพ็ญบารมีมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ถ้าการบำเพ็ญบารมีนี้จะเป็นปัจจัยให้ข้าฯ ได้บรรลุพระโพธิญาณในอนาคตแล้ว ขอสมเด็จองค์พระประทีปแก้วสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดแสดงปาฏิหาริย์ให้เป็นมหัศจรรย์ จะเป็นปาฏิหาริย์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ตามแต่พระพุทธองค์จะทรงเมตตา เพื่อปลูกฝังศรัทธาของพระที่ร่วมเดินทางมา ณ บัดนี้เถิดพระพุทธเจ้าข้า”

    แล้วท่านก็เข้าสมาธิ บรรดาคณะศิษย์ทั้งหลายก็เข้าสมาธิบ้าง เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 นาที ก็ปรากฏเป็นดวงดาวดวงใหญ่ ประมาณว่าผ่าศูนย์กลางสัก 200 เซนต์กว่า ใหญ่เหลือเกิน ขึ้นมาจากยอดเขาที่พระพุทธบาท มี 3 ดวงด้วยกัน มีแสงสว่างมาก

    หลวงพ่อปานมีคำสั่งให้บรรดาศิษย์ทั้งหลายลืมตาชมพระพุทธบารมี

    ดวงดาวดวงนั้นตั้งอยู่ที่ยอดเขานานประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็ลอยวนรอบเขา 3 รอบ แล้วมาตั้งอยู่ที่พระพุทธบาทนานประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วค่อย ๆ เลื่อนไปที่เดิมอย่างช้า ๆ

    หลวงพ่อปานท่านกราบ พวกศิษย์ทั้งหลายก็กราบตามด้วยอารมณ์ปีติชุ่มชื่น เมื่อดวงดาวหายเข้าที่เดิม หลวงพ่อสั่งเจริญพุทธานุสสติตลอดเวลาที่ตื่นอยู่

    คณะศิษย์ทั้งหมดเกิดธรรมปีติอย่างบอกไม่ถูก ตลอดคืนไม่มีใครหลับ อารมณ์โพลงตลอดคืน อารมณ์สมถะและภาวนาแจ่มใสกว่าที่เคยทำมาแล้วหลายเท่า

    ต่างเชื่อมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างไม่มีอะไรสงสัย

    ต่างเชื่อมั่นในหลวงพ่อปานว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีแก่กล้าจริง
    ที่มา http://palungjit.org/threads/เพียง๑๐๐บาทร่วมบุญปิดสมเด็จพระพุฒาจารย์โต๖๙นิ้ว.548123/
     

แชร์หน้านี้

Loading...