หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระโพธิสัตว์แห่งอยุธยา ตอน. หลวงปู่ปานอธิษฐานยกพระศรีอาริย์

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 3 พฤษภาคม 2015.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระโพธิสัตว์แห่งอยุธยา ตอน. หลวงปู่ปานอธิษฐานยกพระศรีอาริย์
    [​IMG]
    ทีนี้ต่อไปฉันจะเล่าเรื่องอีกอย่างหนึ่งซึ่งมันเป็นเรื่องอัศจรรย์อยู่สำหรับปฏิปทา ของหลวงพ่อปาน เล่ากันแต่เพียงบางเรื่องนะเพราะว่าเทปมันจะหมดเสียแล้ว เหลืออีกประมาณ ๒ หน้าครึ่งก็จะหมด
    ทีนี้ก็จะเล่ากันบางตอน ถ้าเล่ากันไปจริง ๆ มันไม่จบหรอกเพราะเรื่องของหลวงพ่อปานเยอะแยะ
    ทีนี้ปฏิปทาอีกอย่างหนึ่งก็คือเมื่อสมัยฉันบวช เห็นจะเป็นย่างเข้าพรรษาที่ ๒ ฉันจำได้ ระหว่างนั้นเป็นเวลาตีสอง คือในตอนต้นทางวัดไลย์ จ.ลพบุรี มีรูปหล่อพระศรีอาริยเมตไตรย เขากล่าวกันว่าพระศรีอาริย์มาเกิด แล้วเวลาตายก็กระดูกเป็นทองแดง

    เขาก็เลยตั้งใจจะหล่อรูปปั้นท่าน หล่อเท่าไหร่หลอมเท่าไร ๆ ทองแดงก็ไม่ละลายจนกระทั่งถึงเวลาฉันเพล พระก็ไปฉันเพล ก็มีช่างคนหนึ่งมาอาสาหล่อ พอพระไปฉันเพลกลับลงมาปรากฏว่ารูปท่านหล่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาว่าอย่างนั้นตามประวัตินะ

    แล้วนายช่างที่รับอาสานี้ท่านกล่าวว่าเป็น วิษณุกรรมเทพบุตร เป็นนายช่างของพระอินทร์ ข้อนี้จะเป็นข้อเท็จจริงประการใดฉันไม่ทราบ ประวัติเขาเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้เขานำรูปพระศรีอาริยเมตไตรยไปที่วัดบางนมโค รูปหล่อของ
    พระศรีอาริย์นี่หนักมาก เฉพาะแท่นต้องยกถึง ๔ คน ๔ คนนี่ก็หลังยืดไม่ไหว เพราะเขาหล่อเป็น ๒ ตอน องค์ท่านเขาก็หามไปถึง ๔ คน คนเดียวไม่มีทางจะขยับ
    แต่คืนวันนั้นเวลาตีสอง หลวงพ่อปานให้ตาเชิดคนรับใช้ไปปลุกฉัน เพราะว่าตอนนั้นฉันอยู่ในป่าช้า ตาเชิดบอกว่าหลวงพ่อปานต้องการพบตัว เวลานี้ท่านนั่งอยู่ที่ศาลาการเปรียญที่เขาตั้งพระศรีอาริยเมตรไตร ฉันก็ไปหาท่าน ห่มสบงทรงจีวรพาดสังฆาฏิเรียบร้อย พอไปถึงก็ไปกราบท่าน ท่านก็ถามว่า เอาธูปเทียนมาหรือเปล่า

    บอกว่า เอามาครับ เพราะว่าสงสัยถ้าหลวงพ่อสั่งเวลา ดึก ๆ ฉันมักจะถือดอกไม้ธูปเทียนมาด้วย เท่าที่พึงจะหาได้ ท่านก็บอกจุดธูปบูชาพระรัตนตรัยสิ ฉันจะทำอะไรให้ดู เมื่อจุดธูปเสร็จท่านก็อธิษฐานว่า

    ด้วยเดชะบารมีที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญบารมีมาตั้งแต่ต้นจนกระทั่งบัดนี้ ถ้าหากต่อไปข้าพเจ้าจะได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลแล้ว ขออำนาจพระศรีรัตนตรัยและเทพเจ้าทั้งหลาย จงบันดาลให้ข้า
    พระพุทธเจ้ายกพระศรีอาริย์นี้ขึ้นและให้เบา รู้สึกเบา ( ไม่หนัก ) และถ้าข้าพเจ้าจะไม่ได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ขออย่าให้ยกพระศรีอาริย์นี้ขึ้นเลย

    พอท่านอธิษฐานเสร็จท่านก็นั่งคุกเข่า ใช้สองมือช้อนแท่น ยกขึ้นได้ เบาที่สุดคล้าย ๆ กับยกหมอนนุ่นเบา ๆ เมื่อท่านอธิษฐานเสร็จท่านก็บอกให้ฉันอธิษฐานบ้าง ให้อธิษฐานตามแบบท่าน ฉันอธิษฐานแล้วฉันก็นั่งช้อนแต่ไม่ขึ้น พอยกไม่ขึ้นท่านก็บอกว่าลุกยืนขึ้นบารมีแกมันยังตํ่ากว่าข้า พอลุกยืนขึ้นพอจับสองมือนิดเดียวก็ขยับขึ้นมาเบาเหวง ชูขึ้นชูลงได้ตามสบาย

    ท่านก็บอกว่า เอ้า..แกปรารถนาพระโพธิญาณอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมั่นใจ ฉันก็ว่าตามท่าน แล้วท่านก็บอกว่า เอ้..ไอ้แกอายุเท่าไรมันจะตาย นี่แกลองอธิษฐานยกพระศรีอาริย์สิ ความจริงท่านรู้แต่ว่ามันยังไม่มีเหตุที่จะบอกว่าฉันจะต้องตาย

    แต่แล้วในที่สุดท่านก็ให้อธิษฐานเมื่ออธิษฐานแล้วก็ยกขึ้นไปตั้งแต่ ๑, ๒, ๓ จนกระทั่ง ๒๑, ๒๒, ๒๓, ๒๔, ๒๕, ๒๖ ยกไม่ขึ้น ถ้าจะตายปีไหนอายุเท่าไรให้ยกขึ้น พอถึงอายุ ๒๗ ยกขึ้นเบาเหวงเลยทีเดียว ปรากฏว่าต้องตายอายุ ๒๗ แน่
    ท่านก็ถามว่า เสียดายชีวิตไหม
    ก็บอกว่า ไม่เสียดายครับ ผมพอใจแล้ว ผมคิดว่าอายุ ๒๗ ก็พอแล้ว อีกตั้งหลายปี เวลานี้ผมได้ฌานสมาบัติพอ สมควรแล้วครับ ผมพอใจ
    ท่านก็บอกว่ามันยังน้อยนัก ยังไม่ควรจะตาย ถ้าเรามีชีวิตมากขึ้นไปอีกเราก็สามารถบำเพ็ญบารมีขึ้นสูงกว่านี้

    การบำเพ็ญบารมีเพื่อพุทธภูมิเราจะหวังไปบำเพ็ญบารมีต่อในการเกิดเป็นเทวดา หรือว่าพรหมน่ะไม่มีทาง ไม่เหมือนกับสาวกภูมิ สาวกภูมิสามารถบำเพ็ญบารมีต่อบนสวรรค์หรือพรหมโลกได้ แต่ว่าถ้าบำเพ็ญบารมีเพื่อพุทธภูมิแล้ว จะบำเพ็ญบารมีนอกจากความเป็นมนุษย์ไม่ได้

    ฉะนั้นก่อนที่เราจะตายถ้าบารมีใดที่ยังอ่อนอยู่ ก็ควรจะส่งเสริมให้ครบถ้วนบริบูรณ์ ถึงแม้ว่าจะไม่เต็มก็ให้ใกล้เต็มเข้าไป ทนลำบากเอา เพื่อพระพุทธภูมิเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า เพราะการปฏิบัติเพื่อการเป็นพระพุทธเจ้าก็เพื่อทำลายความทุกข์ บำรุงสุขให้แก่บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก หรือชี้ช่องบอกทางให้พ้นอบายภูมิเป็นอย่างน้อย แล้วก็แนะนำให้เข้าถึงพระนิพพานเป็นที่สุด

    ในที่สุดก็อธิษฐานตามท่าน คือไม่ใช่อธิษฐานนะ ตั้งใจจะปฏิบัติตามท่าน ท่านก็บอกว่าเอาอย่างนี้ พออายุ ๒๗ แกต้องตายแน่ ความจริงฉันรู้ แต่มันไม่มีเหตุที่จะพึงบอก แต่พอดีเขาเอาพระศรีอาริย์มา ฉันก็ให้แกยก ถ้าจะบอกเฉย ๆ เธออาจจะไม่เชื่อก็ได้

    ทีนี้วิธีต่ออายุทำอย่างนี้นะ ให้ปล่อยปลา เพราะกรรมมันไม่หนักนัก ให้ปล่อยปลา ปลาที่จะถูกฆ่านี่ เขาเอามาขาย เขาจับมาแล้วเขาจะมาแกง เราก็ซื้อปล่อย ตัวหนึ่งต่อชีวิตได้ ๑ ปี ท่านว่าอย่างนั้น
    พอรุ่งขึ้นเช้าฉันก็ไปซื้อปลามา ๑๐ ตัว ฉันว่า ๑๐ ปีก็พอแล้ว เพราะ ๓๗ มันก็ชักแก่เต็มทีแล้ว ฉันไม่เอาหรอก มากเกินไปฉันไม่ต้องการ ก็ปล่อยไป ๑๐ ตัว
    ที่มา http://palungjit.org/threads/เพียง๑๐๐บาทร่วมบุญปิดสมเด็จพระพุฒาจารย์โต๖๙นิ้ว.548123/
     
  2. zhayun

    zhayun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +425
    สาธุ
    ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...