หนังสืออินทร์ตก พุทธทำนายภัยพิบัติ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เซลซี, 13 มกราคม 2010.

  1. เซลซี

    เซลซี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +97
    เกี่ยวกับคำทำนายด้านภัยพิบัติโลก มีบันทึกอยู่ในตำราและหนังสือของหลายชาติ หลายภาษา ทางนะกุศล.คอม จะทยอยนำมารวบรวมให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษา ในบทความนี้จะเกี่ยวกับคำทำนายจากหนังสือประเทศลาว ซึ่งเป็นบ้านพี่เมืองน้องของไทยเรา
    หนังสือใบลานสีได้เก็บรักษาสืบทอดมาจากวัดแห่งหนึ่ง ในแขวงอัตตะปือ(ประเทศลาว) ข้าพเจ้าได้รับรู้จากพระอาจารย์ผู้ทรงศีลองค์หนึ่งเผยแผ่ให้ เลยเกิดศรัทธาเสียสละทรัพย์ส่วนตัว พิมพ์แจกจ่ายมายังญาติพี่น้องชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นการกุศลและเพื่อพิจารณญาณด้วยตนเอง ถึงเหตุการณ์มหันตภัยของโลกาภิวัฒน์ ซึ่งจะบังเกิดขึ้นตามพุทธทำนายไว้ว่าดังนี้
    โส ชัง ชน โทโพโส อินโตกรุณา
    พระอินทร์ พรหม ยมราช ได้สั่งไว้ว่า ถ้าบุคคลใดได้รู้แล้วจงรีบร้อนบอกเล่าสู่กันฟัง หรือพิมพ์แจกจ่ายตามกำลังศรัทธา จะเกิดมหากุศลช่วยท่านให้หลุดพ้นจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง ถ้าบุคคลใดไม่เชื่อมั่นตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจะเกิดเดือดร้อน ในปีจอ ขึ้น 4 ค่ำผู้มีบุญจะลงมาเกิด พร้อมหนังสือใบลานฉบับนี้ ถ้าไม่มีอยู่ในบ้าน เรือนบ้านช่องของผู้ใด จะมีพวกผีปีศาจร้ายเข้าทำลายอย่างแน่แท้ ในปีจอต่อปีกุลยามเดือนหงาย จะเกิดมีงูพิษอยู่บนหัวกัดฉกให้ตาย และฝูงชนทั้งหลายจะเกิดเดือดร้อนหลายประการเช่น
    ทุกข์ยากร้อน เพราะศึกสงครามบ่แล้ว ทุกข์ยากร้อน เพราะมีคนตายตามทุ่งไร่ทุ่งนา
    ทุกข์ยากร้อน เพราะน้ำและไฟ ทุกข์ยากร้อน เพราะไม่มีผู้เฒ่า
    ทุกข์ยากร้อน เพราะไม่มีใครจะดูใคร ทุกข์ยากร้อน เพราะไปต่างประเทศไม่สะดวก
    ทุกข์ยากร้อน เพราะอดข้าวปลาอาหาร ทุกข์ยากร้อน เพราะนอนไม่หลับ
    ทุกข์ยากร้อน เพราะผัวเมียไม่เห็นหน้ากัน
    ในปีจอนี้เมืองเวียงจันทน์ จะมีองค์ฤาษีทองคำสิกขาลาบวชออกมาเป็นพ่อค้า ในปีจอขึ้น 8 ค่ำ ห้ามไม่ให้ตักน้ำอาบน้ำกิน ตามห้วยหนองคลองบึงหลังพระอาทิตย์ตกดิน (ก่อนมืดค่ำ) พญายมราชจะนำเอายาพิษพ่นมาใส่โลกมนุษย์ ในปีจอเมืองกรุงเทพฯ จะ แตกพังทลายตอนเวลาไก่ขัน พระแก้วมรกตหัวเมืองเชียงใหม่เม็ดข้าวใหญ่ จะได้กลับคืนสู่เมืองเวียงจันทน์ นี้คือ พระคาถาขององค์อินทร์ พรหม ยมราช ได้เขียนลงในใบลาน จงรักษาเก็บไว้ให้ดีเพื่อช่วยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ ในยามเกิดเหตุการณ์ มหันตภัย พระคาถาได้เขียนไว้
    ปะโต เมตัง ปะระชิวินัง สุขะโต จุติ จิตตะ เมตตะ นิพพานัง สุขะโต จุติ
    พระคาถาข้อนี้จะเขียนลงใส่ใบลาน แผ่นทอง หรือแผ่นผ้าก็ดีให้ติดไว้บนประตู ห้องเรือน หรือรถราพาหนะ หรือพันหัวไว้ในยามเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้รอดพ้นภัยอันตราย ในกาละเวลานี้เทพเจ้าเหล่าเทวดา ผู้คุ้มครองรักษาเหล่ามนุษย์โลก ได้ไปกราบทูลต่อพระอินทร์ว่า มนุษย์โลกทำกุศลผลบุญ (ความดี) เพียง 3 ส่วน และทำบาปกรรม (ความชั่วร้าย) ถึง 10 ส่วน เมื่อเป็นเช่นนี้พระองค์อินทร์จะได้ลงโทษกับมนุษย์โลก ถึง 9 ข้อนับตั้งแต่ปีจอถึงปีกุล คือ
    จะให้เกิดพายุลมแรง แผ่นดินไหวหวั่น จะให้เกิดสารพิษต่างๆ (อากาศ - อาหาร เป็นพิษ)
    จะให้เกิดไฟไหม้ (อัคคีภัย) จะให้เกิดกาฬโรคต่าง ๆ (พยาธิร้าย)
    จะให้เกิดน้ำท่วม (อุทกภัย) จะให้เกิดอด ข้าว ปลา อาหาร
    จะให้เกิดฟ้าฝ่า จะให้เกิดอาฆาตฆ่าฟันกันเอง สำหรับคนใจบาป
    จะให้เกิดร้อนมาก หนาวมาก
    มหันตภัยทั้ง 9 อย่างนี้ จะรอดพ้นเฉพาะคนใจบุญ คนที่ปฎิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น รู้แล้วจงบอกต่อกันไป ให้รีบเร่งทำแต่ความดีมากกว่าทำบาปกรรมชั่วร้าย ถ้าผ่านปีจอ ปีกุล ไปแล้วทุกคนพร้อมทั้งลูก หลาน เหลน จะได้รับความสุขสบายกันทั่วหน้า (เวลาเหลือน้อย) ให้ทุกคนเคร่งครัดถือศีล 5 ข้อ ให้ขยันไหว้พระ ภาวนา ให้ทาน เพื่อการกุศล อย่างต่อเนื่อง ศีล 5 ข้อได้แก่
    ห้ามเบียดเบียนสิ่งมีชีวิต (ทุกชีวิตใครก็รัก)
    ห้ามลักเอาสิ่งของผู้อื่นมาเป็นของตน
    ห้ามล่วงเกินเป็นชู้คนอื่น เมีย ผัว คนอื่น (ที่มีเจ้าของ)
    ห้ามพูดปดหลอกลวงผู้อื่น ในทางที่ไม่ดีซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกสามัคคี หรือสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง
    ห้ามดื่มหรือเสพของมึนเมาทั้งหลายทั้งปวง
    นอกจากหนังสืออินทร์ตกที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีพระผู้ทรงศีลอีกองค์หนึ่ง ได้พบเห็นเนื้อในอักษรธรรมเขียนจารึกไว้ บนก้อนหินศิลาที่พึ่งพ้นจากพื้นดิน ในภูผาป่าดงแห่งหนึ่ง ที่พระรูปนี้ได้เดินธุดงค์ วิปัสสนากรรมฐานผ่านไป (ข้าพเจ้าไม่ขอบอกนามพระ และกำหนดสถานที่อย่างจะแจ้งได้) เพราะได้สอบหาข้อมูลละเอียดแล้วพระผู้ทรงศีล ได้กล่าวว่า โยมเอย ถ้าไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ดวงจิต เพราะถึงเวลาแล้วที่สวรรค์จะไม่มีความลับ ถ้าโยมเชื่อก็เป็นกุศล ถ้าไม่เชื่อก็เป็นอกุศลรู้เพียงเท่านี้ ข้าพเจ้าจึงขอบอกเล่าสู่ท่านฟังตามคำกล่าวของพระผู้ทรงศีลรูปนี้ว่า ในปีระกา - ปีจอ และปีกุล เดือน 7 – 8 จะเกิดเหตุร้ายตามถนนหนทาง เดือน 9 -10 คนใจบาปหยาบช้าจะถูกล้างผลาญให้หมดไป มีบ้านก็ไม่มีคนอยู่ มีข้าวก็ไม่มีคนกิน มีทางก็ไม่มีคนเดิน สุดท้ายพระผู้ทรงศีลยังได้กล่าวเน้นย้ำถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหนังสือ “อินทร์ตก” “อินทร์ตื่น” ถ้าท่านผู้ใดเชื่อ ศรัทธา บูชา เคารพกราบไหว้ หรือบนบาน ว่าจะบอกเล่าต่อผู้อื่นหรือลงพิมพ์แจกให้สาธุชน คนทั้งหลายรับรู้ด้วยแล้ว ท่านจะปรารถนาสิ่งใดจะได้ดั่งใจนึก พยาธิร้ายที่เบียดเบียนกายก็จะหายขาด
    ท่านไม่เชื่อขออย่าลบหลู่เป็นอันขาด
    พระอาจารย์ผู้ทรงศีลองค์หนึ่งเผยแพร่บอกกล่าวมา

    ศิลาจารึกภัยพิบัติ มหาวิหานชรเจตมหาเชตะวัน

    ศิลาจารึกในมหาวิหานชรเจตมหาเชตะวัน ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดยคณะทูตไทยที่ไปอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อปี พ.ศ.2485 ตามคำแปลเป็นภาษาไทย ว่าดังนี้

    สาธุ อะระหังตา สัมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาสรรพสัตว์ทั่วโลก ที่เกิดมาแล้วแต่ลำบากทั่วหน้า ทุกชาติ ทุกศาสนาตามธรรมชาติ
    เมื่ออาตมาเข้านิพพานไปแล้วครบบห้าพันปีเป็นที่สุด โลกจะหมุนไปใกล้จะถึงจำนวนที่ตถาคตทำนายไว้สองพันห้าร้อยปี มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติเสียครั้งหนึ่งในระยะเวลา 30 ปี สิ่งที่สาธุชนไม่เคยเจอะจะได้เห็น ไม่เคยพบจะได้พบ ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับกลับตื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งนัก
    ใกล้กับ พ.ศ. 2550 ยิ่งทวีกันใหญ่ขึ้นทุกทิว่าราตรี มนุษย์นอกพระศาสนาจะรบราฆ่าฟันกันจนถึงเลือดนองเต็มพื้นดิน พื้นน้ำ จะลุกลามเผามนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่าทำลายเหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินจะเป็นเปลวไฟจะตายไปอย่างละครึ่งหนึ่งจึงจะเลิกล้ม ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยยักษ์ร้ายนอกศาสนาซึ่งถือกำเนิดจากป่า อำมหิต ส่วนพุทธศาสนิกชนผู้ทำแต่บุญเดินตามทางตถาคตสามารถระงับร้อนไม่รุนแรง
    บ้านใดได้บูชาพระโพธิสัตว์ผ้ากาสาวพัตร์ ก็จะรับภัยพิบัติเบาบางแต่หนีภัยธรรมชาติไม่พ้น ไฟจะลุกลามมาทางทิศตะวันออก ไหว้วัดวาอารามสมณะชีพราหมณ์ จะอดอยากยากเข็น ลูกไฟจะตกจากฟ้า เหล็กกล้าจะผุดจากน้ำ สงครามจะเกิดทั่วทิศ พระยานาคจะพ่นพิษเป็นเพลิง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวสารจะขาดแคลน ทุกแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง สีเหลืองจะชนะ พระยังอยู่คู่เมืองอีกต่อไป สีขาวจะแพ้ภัยในที่สุด ครุฑจะบินกลับฐาน คนจะกลับบำรุงพระพุทธเจ้าว่าดังนี้
    ชา ตะ มะ สะ ละ วาพระพุทธชินลิตนี้ท่านให้เขียนใส่กระดาษ หรือผ้าขาวติดไว้หน้าบ้าน หรือหัวนอน ดังนี้จะมีอายุยืนยาว จะทันผู้มีบุญชื่อ พระยาธรรมิกราชา เมื่อแรกสถิตอยู่เขตอยุธยา บัดนี้ท่านเสด็จอยู่ลานช้าง ( ภาคอีสานในปัจจุบัน ) พระยาธรรมิกราชา เข้ามาปีกุน เดือน 11 เป็นเที่ยงแท้หนักหนาท่านเสด็จมาในปีระกา แรม 5 ค่ำ มหากษัตริย์มาทางทิศตะวันตก สมณะชีพราหมณ์ตามมาพอประมาณได้ 76,400 รูป ทั่วอาณาจักรสมเด็จพระบรมนักปราชญ์ได้ประกาศคาถาว่า ดังนี้
    นะสัจจัง ทะ คะยังมะสำคำปัง คอยดูในปีมะโรง คนจะเดินโก่งโค คลาน ผู้ใดอยากพบผู้มีบุญชื่อพระยาธรรมิกราชให้ภาวนา ให้หมั่นรักษาศีล สดับรับฟังพระธรรมเทศนา คอยดูปีมะเส็งตลิ่งจะพัง มหาสมุทรจะชอกช้ำ อย่าเที่ยวไปกลางแจ้ง ท่านเข้ามาปีกุน เดือน 8 เป็นเที่ยงแท้ ผู้ใดไม่เชื่อจะรับอันตราย คอยดูในปีจอ คนจะพ้น ภัย
    สะโรนะกา โททายะโม พุทธะตะยะ ภาวนาทุกเช้าค่ำ ผู้นั้นจะมีอายุยืนนานจะได้เห็นพระธรรมมิกราช (พระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไนย) ในปีกุน ท่านจะเข้ามาอีก ถ้าไม่เห็นหนังสือบ้านใดผู้นั้นจะได้รับอันตรายรู้แล้วให้บอกต่อกันด้วย
    คำทำนายสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรหมรังสี)

    คำทำนายสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรหมรังสี)
    รัชกาลที่ 1 ทำนายว่า มหากาฬ (ทำลายเพื่อน-พี่น้อง)
    รัชกาลที่ 2 ทำนายว่า ฌานยักษ์ (ชำนาญเวทย์มนต์)
    รัชกาลที่ 3 ทำนายว่า รักมิตร (มีการค้าขายกับต่างชาติมากมาย)
    รัชกาลที่ 4 ทำนายว่า สนิทคำ (ออกบวช)
    ในปีจอนี้ ในเมืองจันทร์จะมีฤาองค์ทองคำ สิกขาเพศออกมาเป็นพ่อค้า ในปีจอขึ้น 8 ค่ำ ห้ามบ่(ไม่)ให้ตักน้ำอาบ น้ำกิน ตามห้วยหนองคลองบึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน(ก่อนค่ำ) พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นใส่โลกมนุษย์
    รัชกาลที่ 5 ทำนายว่า จำแขนขาด (คือ ต้องยอมเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงและเขมร เพื่อป้องกันอธิปไตย)
    รัชกาลที่ 6 ทำนายว่า ราชโจร (เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดกลุ่มโจรมากมาย มีการก่อตั้งกองลุกเสือป่าครั้งแรกของไทย)
    รัชกาลที่ 7 ทำนายว่า ชนร้องทุกข์ (เกิดการเดินขบวนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย)
    รัชกาลที่ 8 ทำนายว่า ยุคทมิฬ (พระเจ้าแผ่นดินถูกลอบปลงพระชนม์)
    รัชกาลที่ 9 ทำนายว่า ถิ่นกาขาว (มีฝรั่งเข้ามามากมาย นำเงินมาซื้อประเทศ เกิดวิกฤตการเงิน)
    รัชกาลที่ 10 ทำนายว่า ชาวศิวิไลซ์ (จะเหลือเฉพาะผู้มีบุญเท่านั้น ที่รอคอยเป็นยุคของพระศรีอาริยเมตไตย)
    พุทธทำนายแห่งอีสานประเทศ

    พุทธทำนายแห่งอีสานประเทศ.
    พุทธทำนายนี้ มีอยู่ในใบลาน
    ตั้งแต่บูฮาน มีมาก่อนเก่า
    ในศาสนาของพระพุทธเจ้า ถือเป็นเค้าแต่ก่อนมา
    *ข้าสินำมูลเค้า ความฝันอันประหลาด
    สิเป็นลางเหตุฮ้าย หรือใดเจ้าให้ฮำเพิง
    *ในคืนนั้น เป็นคืน สิบห้าค่ำ
    แต่ฟ้าดำเมฆกุ้ม จันโทเศร้า บ่ ผ่องใส
    *คือพระทัยของเจ้า ปัสเสน กะเหงาหง่วม
    ย่อนว่าความฮักกุ้ม สุมไหม้ดั่งไฟ
    *ไฟตัณหาความฮักใคร่ ในผัวเขาเมียท่าน
    ไฟนารก กะบ่ปาน มีแต่ควันอูดเอ้า ในใจเจ้าอยู่ บ่ เซา
    *จนยามสามล่วงเข้า จึงเนาว์นอนนิททะเน่ง
    เสียงระเม็งเสพสร้อง จึงลาห้องเสพ งัน
    *พระทรงธรรม์สุบินเบื้อง เผดียงฝันประหลาดต่าง
    สิเป็นลางเหตุฮ้าย หรือใดแท้ สิ่งใด
    *ในพระทัยองค์เจ้า พระปัสเสน สะดุ้งตื่น
    พระองค์ฮู้เมื่อขึ้น อรุณรุ่ง ฮู่งมา
    *มัลลิกาเทวีเหง้า เห็นราชาหน้า บ่ ซื่น
    สมบัติมีหมื่นตื้อ สีหน้า ผัดหล่าหมอง แท้น้อ
    *พระองค์ทรงสืบสร้าง ครองเมืองตุ้มไพร่
    แต่หัวคิดบอดใบ้ ปัญญาตื้นตีบตัน
    *พระทรงธรรม์ควรเข้าเฝ้า สัพพัญญู ฮู้แจ้งโลก
    สิบรรเทาโศกฮ้อน รีบไปถ่อนอย่าอยู่นาน
    *พระภูบาลฟั่งฟ้าว ตกแต่งเดาดา
    มัลลิกาเทวี แม่เมือง เคียงข้าง
    *พระก็ ดำเนินเข้า เชตวัน วิหารใหญ่
    พระอานนท์ทราบเรื่อง พาไปเฝ้า ศาสดา
    *พระราชาทูลไหว้ พระจอมไตรโลกนาถ
    กราบพระบาท สามเทื่อ แล้ว หยับไปเฝ้าอยู่ที่ควร
    *ส่วนว่าองค์พุทโธเจ้า เนาว์บนพุทธอาสน์
    ตรัสโอวาทอิ่นอ้อย แถลงถ้อย ก่อนพระยา
    ว่าดูรา เจ้า ราชายศใหญ่
    ผู้เป็นจอมไพร่ฟ้าสองแคว้นยอดเมือง
    พระองค์เคืองขัดข้อง หมองพระทัย จั่งใดแน
    วรรณะเขียว พ่องแหล่ สีหน้า บ่ ชื่นบาน แท้น้อ
    พระภูบาลเจ้า ปัสถเวน ทูลเหตุ
    แห่งสุบินประประหลาดล้ำ สิบหก ข้อ ต่อไปฯ
    ข้อ 1 ….
    ข้อ 11 ฝันไปหน้า เห็นไม้แก่น จันทน์แดง
    ของที่มีราคาแพง ค่าสูงแสนตื้อ
    เขาพากัน เอาไป ซื้อ ขายกิน แลกไก่
    เอาจันท์แดง ใส่กระซ้า น้อยๆ พากันดั้น เที่ยวขาย
    อันนี่ ภายหน้าพุ้น เคิ่งศาสนาพุทธ
    มนุษย์ มี โลภา มืดมัวเมากุ้ม
    ซูมถือศีลสร้าง เจ้าหัว จัว บ่าว
    เห็นผู้ สาวแล้ว กะเอิ้น เสิน เล่น ดั่งสหาย
    นอกจากนั้น กะ สิเป็นผู้ ร้าย ขาย ศาสนาพุทธ
    เอาพระธรรม ลงมุด จ่าย ยาย ขาย จ้าง
    ตั้ง เป็นตึกเป็นห้าง ขายกินเกลี้ยง มินหลิ่น
    ทั้งพระสูตร พระวินัย เขาเอาใส่กระซ้า โซนผ้าเที่ยวขาย
    นี่จั่งแม่น ต่อนฮ้าย เขาขาย ศาสนาพุทธ
    สัพพัญญู เล็งเห็นหน่าย สะอาง ผางฮ้าย
    ในภายหน้า ปีกุนแถมล่วง ม้ม
    จากนั่น แล้ว สิแววขึ้นกว่าหลัง
    ตั้งแต่นั้น คน สิค่อย มีสุข
    จั่ง สิ หาย ความทุกข์ หมู่ภัย สิไกลเนื้อ
    ไผผู้ ยังเหลือค้าง สิเห็นทางฟ้า ล่วง
    คน สิพ้นจาก บ่วงฝูง หมู่มาร บาปฮ้าย เมือฟ้าอยู่ เกษม
    เริ่ม แต่เค้า เดือน สี่ ปีกุน
    ไผ มี บุญค่อย สิเห็นหน่อพระธรรม เด้อ ป้า
    พากันถือศีล สร้างภาวนา เด้อ แม่
    จั่ง สิ เห็น เที่ยงแท้ บ่ มี เว้น ฮ่อม ใด
    ข้อ 12 ….
    ข้อ 16 ....
    กลอน 16 ข้อ เอามาจากใบ ลาน
    ในวิหาร ของสงฆ์ แต่เดิม ดาเค้า
    นักปราชญ์เจ้า เพิ่นได้แต่งมานาน
    ในสมัยพุทธกาลแห่งพุทโธ คราวพุ้น
    หมุนเวียนมื่อ ปี เดือน แถมถ่าย
    สองพัน ห้าร้อย สี่สิบเก้าปีปลาย
    ศาสนา มีแต่เงี่ยงที่ลี่ มีแต่คล้อยต่ำลง
    ปลงไว้ นี่โยติกาซ้ำสาก่อน
    ยังมีกลอนอีกมากล้น กำลังค้น อ่านเขียน

    **ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ เอก อิสโร สำหรับพุทธทำนายภาคอีสาน

    จากเวป สมาธิ ธรรมะ พลังจิต ภัยพิบัติ | อภิญญา ลึกลับ พุทธศาสตร์ พญานาค วิทยาศาสตร์ทางจิต อักขระ คา
     
  2. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ตื่นเต้น ตื่นเต้น ตื่นเต้น
    อุเบกขา อุเบกขา อุเบกขา
    เตรียมตัว เตรียมตัว เตรียมตัว
    ไม่ตื่นเต้น ไม่ตื่นเต้น ไม่ตื่นเต้น
    ช่วยกัน ช่วยกัน ช่วยกัน
    พ้นภัย พ้นภัย พ้นภัย
    ไชโย ไชโย ไชโย
     

แชร์หน้านี้

Loading...