สิ้นเดือน!

สิ้นเดือน!


เรื่อง : ประณม ถาวรเวช สถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต พาวเวอร์ส

หนึ่งในวันที่ว่ากันว่า เราสามารถใช้ดูบุคลิกภาพ ตัวตน และความเป็นคนคนหนึ่งได้ในหลายๆ มุมก็คือวันสิ้นเดือน!


คนทั่วไปเขาทำอะไรกันบ้างในวันสิ้นเดือน เท่าที่นึกออกมีดังนี้ค่ะ

<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width=10 align=left border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
1.ปาร์ตี้

ไม่ได้จัดเป็นงานปาร์ตี้ที่มีรูปแบบเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนวันสำคัญต่างๆ แต่มักจะนัดพบปะสังสรรค์กันตามร้านอาหาร ผับ หรืออื่นๆ ตามสะดวก ทั้งนี้ มิได้มีจุดมุ่งหมายใดที่ชัดเจน นอกจากพบปะกันในวันสำคัญที่ทุกคนมีเงินตุงกระเป๋าก็เท่านั้นเอง

ปาร์ตี้แบบนี้มุ่งหาความรื่นเริงบันเทิงใจเป็นหลัก ไม่มีรูปแบบ เพียงแค่นัดหมายกันแล้วไปเจอกันตามนัด สั่งอาหารมารับประทาน มีเครื่องดื่มทั้งที่มึนและไม่มึน พูดจาสรวลเสเฮฮา ยิงมุก แบ่งปันความสุข ได้ที่แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

เขาบอกว่าถ้าจะดูว่าใครเป็นนักถลุงเงินไปกับความรื่นรมย์ลักษณะนี้ (กิน ดื่ม คุย) ให้เฝ้าดูสัปดาห์แรกนับจากวันสิ้นเดือน เขาจะมีปาร์ตี้หรือไปท่องเที่ยวเสาะหาความรื่นรมย์ในลักษณะนี้ถี่กว่าช่วงกลางหรือปลายเดือน

เขาเป็นคนรักความสุข รื่นเริง และชอบสรวลเสเฮฮา นั่นทำให้คุณต้องกลับมาพิจารณาว่า คุณชอบคนที่มีรสนิยมและความสนใจส่วนตัวเช่นนี้ไหม?

2.ช็อปปิ้ง

ศูนย์การค้า ร้านค้า และย่านการค้าต่างๆ มักรู้ทันและเป็นต่อในเกมจิตวิทยาของขาช็อป

ช่วงสิ้นเดือนจึงมักจะเป็นเทศกาลลดราคาของสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง น้ำหอม ฯลฯ เพื่อกระตุ้นและจูงใจคนที่มีเงินอยู่ในกระเป๋าแล้วให้เกิดความต้องการซื้อ

ความต้องการซื้อที่ผุดขึ้นในเวลาที่เขามีกำลังซื้ออยู่นี้ นับเป็นเรื่องไม่ยากเย็นเลย ที่จะทำให้เจ้าของเงินควักเงินขึ้นมาจับจ่าย

สิ้นเดือนจึงเป็นเวลาที่เราสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นนักช็อปปิ้ง หรือใครเป็นเจ้าของนาเกลือ

นักช็อปปิ้งไม่ใช่คนเลวร้าย เขาแค่รู้ว่าความสุขของเขาอยู่ที่ได้จับจ่าย ขอเพียงไม่ทำไปอย่างเกินตัว ก็นับว่าเป็นคนน่าคบและไม่น่าห่วงอะไร แต่ถ้าช็อปจนเกือบสิ้นเนื้อประดาตัว ให้ระวังเอาไว้ เพราะคุณอาจจะเป็นเป้าหมายของการหยิบยืมในช่วงกลางเดือนหรือปลายเดือนได้

การช็อปปิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็น ช็อปปิ้งของซ้ำๆ ทั้งๆ ที่ของเดิมยังมีอยู่ บ่งบอกความเป็นคนสุรุ่ยสุร่าย ไม่มีแผนการใช้เงินที่รัดกุม และควบคุมตัวเองไม่เป็น

ส่วนเจ้าของนาเกลือทั้งหลาย ที่ไม่เคยยอมให้เงินกระเด็นออกจากกระเป๋าของเขาได้ง่ายๆ นั้น มองเผินๆ คือคนตระหนี่ แต่ต้องมองเขาให้ลึก ให้ดี เราอาจพบว่าครอบครัวของเขามีการใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆ หรือเขาเป็นนักวางแผนการใช้เงินชั้นยอดก็ไม่แน่ อย่าเพิ่งไปด่วนตัดสินจนกว่าเราจะรู้จักเขาจริงๆ

3.ท่องเที่ยว

หลายคนมีความสุขต่อการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในเวลาสั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ความเพลิดเพลินและความสุข ด้วยการแบ่งเงินเดือนส่วนหนึ่งมาใช้จ่ายเป็นค่าเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งก็ดูมีไลฟ์สไตล์ที่เก๋ไก๋ มีรสนิยม

แต่ช้าก่อน...

การเดินทางท่องเที่ยวของใครหลายคนก็แฝงไว้ด้วยการปาร์ตี้และช็อปปิ้ง ต้องดูให้ถึงเนื้อหาของการท่องเที่ยวของเขาก่อนจะชื่นชมชื่นชอบ

การท่องเที่ยว หากรู้จักเที่ยวอย่างฉลาด จะพบว่ามีค่าใช้จ่ายไม่มาก และการท่องเที่ยวไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นน้ำตก ทะเล ภูเขาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงเที่ยววัด พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด สวนสาธารณะ สวนสัตว์ ฯลฯ ซึ่งมีเนื้อหาสาระเป็นส่วนผสมของความเพลิดเพลิน

คนเที่ยวแบบไหน จะสะท้อนเนื้อในของความเป็นเขาให้เราเห็น ว่าเขาสนใจเรื่องอะไร และหากคุยกันได้อย่างถูกคอถูกใจ คุณก็จะได้ความรู้จากนักท่องเที่ยวตัวจริงเหล่านี้อย่างมากมายเลยทีเดียว ที่สำคัญนักท่องเที่ยวมักมีมุมมองเกี่ยวกับผู้คน มองโลก และมองชีวิตในด้านที่สวยงามเสมอ

4. ทำบุญ

มีคนจำนวนไม่น้อยสุขใจไปกับการทำบุญ และแน่นอนว่า ทุกๆ สิ้นเดือน ปัจจัยในกระเป๋าก็เอื้อต่อการทำบุญยิ่งนัก

คนแต่ละคนเข้าใจคำว่าทำบุญต่างกันออกไป จำนวนหนึ่งทำบุญด้วยการปล่อยนกปล่อยปลา เข้าวัดไหว้พระ ปิดทอง บนบานศาลกล่าว และเสี่ยงเซียมซี ขอพรบ้าง สะเดาะเคราะห์บ้างไปตามจิตศรัทธา

บางคนทำบุญอย่างมีเนื้อหามากกว่านั้น คือไม่ได้มุ่งประโยชน์หรือศรัทธาส่วนตัวอย่างเดียว แต่ได้กระจายประโยชน์ไปยังผู้อื่นด้วย เช่น บริจาคโลหิต ซ่อมแซมโรงเรียน วัด สร้างหอสมุด บริจาคเสื้อผ้า หนังสือ และของใช้จำเป็นแก่สถานสงเคราะห์ต่างๆ

บางคนทำบุญด้วยการปฏิบัติ มิใช่การบริจาคสงเคราะห์ นั่นคือเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม หรือชักชวนคนมาทำกิจกรรมการกุศล เป็นครูอาสา ฯลฯ

วิธีที่แต่ละคนทำบุญ ก็ย่อมสะท้อนความเป็นเขาให้เราเห็นด้วยเช่นกัน

5.ศึกษาหาความรู้

บางคนดีใจที่ถึงสิ้นเดือนเสียที เพราะเขามีคอร์สฝึกอบรมต่างๆ ที่เขาสนใจอยู่มากมาย ซึ่งเลือกสำรวจราคาและจัดตารางเวลาของตัวเองเอาไว้แล้ว

คนแบบนี้เป็นคนใฝ่รู้ ใฝ่ก้าวหน้า หากไม่มีปัญหาเรื่องหมกมุ่นกับตัวเอง มีโลกส่วนตัว ชอบเอาความรู้มาข่มคนอื่น ทำให้หลงตัวเอง มีอีโก หรือขาดมนุษยสัมพันธ์แล้ว ถือเป็นคนที่น่าคบหาที่สุด เพราะจะชักจูงเพื่อนฝูงไปในทางก้าวหน้าผ่านการเรียนรู้ตลอดเวลา เข้ากับคำสอนโบราณเรื่อง “คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”

จะเห็นได้ว่าสิ้นเดือนไม่ใช่แค่วันสิ้นใจหรือวันต่อลมหายใจของใครบางคนเท่านั้น แต่ยังเป็นวันแห่งความสุข และวันแห่งความก้าวหน้า

สิ้นเดือนเป็นวันสะท้อนบุคลิกลักษณะและความสนใจของคนได้ด้วย

นั่นรวมไปถึงตัวเราทุกคน

ดิฉันอยากให้วันสิ้นเดือน ไม่เพียงแต่วันที่เราจะนั่งมองดู อ่าน หรือหนักถึงขั้นจับผิดวิถีชีวิตของคนอื่นเท่านั้น แต่สิ้นเดือนควรเป็นวันที่เราก็มองเห็นตัวเราด้วยเหมือนกัน

นั่น...เป็นสิ่งประเสริฐสุดสำหรับทุกคนๆ

ไม่มีอะไรประเสริฐเท่ากับการที่เรามองเห็นตัวเอง

และทุกครั้งที่มองเห็นตัวเอง อย่ามองแต่ด้านที่ดี แต่จงเห็นจุดอ่อนที่จะนำไปสู่การพัฒนาปรับปรุงด้วย
ใครกำจัดจุดอ่อนได้มากกว่าคนอื่น ก็จะมีความสมบูรณ์แบบในตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งดิฉันเชื่อว่าเป็นประตูสู่ความก้าวหน้าสำหรับทุกๆ คน

------------------
ที่มา:
http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=magazine&id=145962