ศีลขาดเป็นปกติตายแล้วไปรออยู่ที่สำนักท่านพระยายมราชแล้วไปเป็นสัมภเวสี

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย attasade, 21 กันยายน 2014.

  1. attasade

    attasade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +2,554
    ศีลขาดเป็นปกติตายแล้วไปรออยู่ที่สำนักท่านพระยายมราชแล้วไปเป็นสัมภเวสี

         "..วันที่ 6 ตุลาคม 2531 เวลา 8 นาฬิกาตรง ท่านลุงพุฒิ (พระยายมราช) มาชวนไปสำนักของท่าน มีธุระด่วนแต่เรื่องมีไม่มาก บอกแล้วท่านก็เดินกลับไป เวลานั้นหลวงพ่อกำลังนมัสการพระอยู่ พระท่านบอกว่า "ไปเถอะมีธุระไม่มากแต่เนื่องด้วยเธอ ท่านพุฒิท่านจะสงเคราะห์คนบาปที่หาบุญได้ยากเต็มที" จึงคิดในใจว่าท่านลุงนี่ท่านสงเคราะห์ดะ คนมีแต่บาปไม่มีบุญจะช่วยได้อย่างไร แต่เมื่อท่านมาตามและพระท่านก็เห็นชอบจึงไปตามที่ท่านสั่ง เมื่อไปถึงพบแม่น้อย แก้วแดง และตานา นั่งอยู่ก่อน ทั้งสองท่านมีความสุขไปนานแล้ว ท่านแต่งตัวสวยในเครื่องแบบปกติของท่าน

         แม่น้อย แก้วแดง เป็นความหวังพระนิพพานในบรรดานักปฏิบัติชุดแรกที่เริ่มสอนพระกรรมฐาน

         เป็นอันว่า เมื่อพบท่านทั้งสองแล้ว ถามท่านว่า "ท่านมาทำไม" ท่านตอบว่า "ท่านพระยายมราชไปเชิญให้มา ยังไม่รู้เหมือนกันว่าให้มาทำไม" เมื่อพบท่านลุงท่านบอกว่า "คอยประเดี๋ยวเจ้าหน้าที่กำลังไปพาจำเลยมา" เห็นเจ้าหน้าที่เข้าไปในกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ เข้าไปเกือบถึงก้นกลุ่ม จึงพาคนนั้นออกมา คนนี้รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาเหมือนคนเมาอยู่ตลอดวัน เมื่อเธอมาถึงแล้ว ท่านลุงบอกว่า "ความจริงยังไม่ถึงวาระที่จะสอบสวนเธอ แต่เห็นว่าพรุ่งนี้คุณจะไปกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นงานหนักมากใช้เวลาหลายวัน และเมื่อวาระของเธอคนนี้ถึงการสอบสวน ก็เป็นขณะที่คุณอยู่กรุงเทพฯ พอดี ผมก็ไม่มีโอกาสตามคุณมาได้ จึงลัดคิวให้ออกมาก่อน" ถามท่านว่า "เขามีบาปอะไรบ้าง"

         ท่านบอกว่า "บาปไม่มากแต่บาปเป็นอาจินคือดื่มสุราเป็นปกติ ศีลขาดเป็นปกติ ร่วมมือกับคนที่โกงเงินสงฆ์มาเป็นส่วนตัว เพราะได้ส่วนแบ่งเป็นปกติ แต่เห็นว่ายังมีความเป็นธรรมอยู่บ้างที่ไม่นินทาคุณและจิตไม่เลวไปตามพวกพ้องที่เลว จึงให้คุณมา อภัยสิ่งที่เธอพลาดพลั้งไปในคุณ เพื่ออโหสิกรรมให้เธอ แม่น้อย พ่อนา นี่ก็เหมือนกัน เธอเคยนินทาตามคนอื่น จึงขอร้องให้มาเพื่อให้อภัยเธอ จะได้ประวิงเวลาลงนรก" ถามท่านว่า "จะเอาไปไหน" ท่านบอกว่า "หลายขุมและมากขุมอยู่ แต่ขุมแรกที่จะลงคือขุมที่ 7 ก่อน"

         แล้วท่านก็จัดการให้เธอขอขมาโทษ ทั้งสามท่านก็กล่าวอโหสิกรรมให้เธอ ถามท่านว่า "เมื่ออโหสิกรรมแล้ว เธอจะอยู่ที่ไหน" ท่านบอกว่า "ไปรอการลงนรกอยู่ก่อนโดยมีโอกาสเป็นสัมภเวสี 30 ปีมนุษย์ ในระหว่างนี้ถ้าญาติทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ถูกจังหวะ ก็สามารถไปเป็นเทวดาได้ ถ้าทำไม่ถูกจังหวะและเมื่อครบ 30 ปีแล้วก็ไปนรกขุมที่ 7"

         ถามท่านว่า "ทำอย่างไรชื่อว่าถูกจังหวะ" ท่านบอกว่า "ให้ถวายสังฆทานของครบกับพระสุปฏิปันโนตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปแล้วอุทิศส่วนกุศลให้แก่เธอแต่ผู้เดียว เท่านี้พ้นไปสวรรค์ก่อน หรือจะถวายพระองค์เดียวแทนสงฆ์ แต่พระองค์นั้นต้องเป็นพระอรหันต์ อย่างนี้จึงพ้นได้ แต่ถ้าบุญหมด เมื่อเป็นเทวดาไม่ทำบุญต่อให้ได้ถึงพระโสดาบัน หมดบุญก็ลงมาเข้านรกขุมที่ 7 ทันที" ถามท่านว่า "แล้วโอกาสสำหรับเขาจะมีไหม" ท่านส่ายหน้าบอกว่า "คนนี้ไร้ปัญญา ไม่เคารพพระดี บูชาคนเลวที่ไม่ได้บวชพระ หรือถ้าจะบูชาพระก็ชอบบูชาพระเลวที่ไม่เคารพในพระธรรมวินัย ฉะนั้นเท่าที่พูดมาไม่มีผลสำหรับเธอเลย แต่ผมก็ช่วยตามกำลังของผม ช่วยแล้วเธอช่วยตัวเองไม่ได้ ก็ต้องถือว่าเป็นกรรมของเธอ" ถามท่านว่า "เมื่อเป็นสัมภเวสีช่วยตัวเองได้อย่างไร"

         ท่านบอกว่า "สัมภเวสีเป็นผีอิสระไม่ได้อยู่ในกรอบบังคับของใคร ถ้าเห็นว่า บุตร ธิดา ภรรยา ญาติหรือเพื่อน ที่พอมีอารมณ์จะรับได้ก็เข้าฝันบอกจริยาที่ทำบุญ เมื่อเขาทำให้ตามนั้นก็มีผลเป็นเทวดา แต่ทว่าจิตใจของเธอมัวมาก คิดว่ายากที่จะพ้นนรกขุมที่ 7"

    *คัดลอกจากหนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน เรื่องที่ 125 หน้า 266 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 กันยายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...