ว่าด้วยเรื่องธรรมะกับดวงดาว

ว่าด้วยการผสมผสานระหว่างปฏิจจสมุปบาทกับดวงดาว
ผมเป็นนักวิจัยธรรมครับ มีชะตาชีวิตค่อนข้างโหดร้าย เลยหันมาสนใจพระธรรม และทีนี้ผมศึกษาโหราศาสตร์ด้วย
และมีอยู่วันหนึ่งผมได้ไปวัด ผมลองคิดขึ้นมาเล่นๆว่าดาวเสาร์คืออวิชชา ทีนี้ตาผมเบิกโพลงเหมือนได้ความรู้อะไรบางอย่าง ผมเลยลองบัญญัติตารางดาวและปฏิจจสมุปบาทขึ้นโดยใช้ธรรมะของพระพุทธเจ้า ผลออกมาเป็นดังนี้ครับ
อวิชชา เสาร์
สังขาร ยูเรนัส
วิญญาณ เนปจูน
นามรูป พลูโต
อายตนะ x
ผัสสะ y
เวทนา จันทร์
ตัณหา อาทิตย์
อุปาทาน พุธ
ภพ ศุกร์
ชาติ อังคาร
ทุกข์ พฤหัส
ทีนี้ผมลองนั่งสมาธิดู โดยเปิดอินเตอร์เนทค้นหารูปดาวต่างๆ พลางคิดว่าถ้าแรงดึงดูดดาวเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ ถ้าดาวหยุดหมุน สนามแม่เหล็กก็จะหยุดไปด้วย แรงดึงดูดก็คงจะหยุด เลยลองจินตนาการดาวพุธว่าหยุดหมุนขณะนั่งสมาธิผสมผสานกับอริยสัจ 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกขนิโรธปฏิปทาคือ ตัดดาวพุธที่หยุดหมุนออกจาก อายตนะ วิญญาณ สัมผัส สัมผัสซาเวทนา สัญญา สัญเจตนา ความทะยานอยากยึดมั่น ความตรึก ความตรอง โดยบริกรรมว่า ตัดๆๆๆๆๆๆๆ รูปเป็นอนัตตา สัมผัส(แรงดึงดูดระหว่างดาว) เป็นอนัตตา ผลน่ะหรือครับ ก็ได้กลิ่นแห่งการบรรลุธรรมพร้อมกับอยู่ๆตัวผมขยับไม่ได้เลยเพราะอุปาทานสูญ เลยก้มหัวคำนับเคารพพระธรรมและจักรวาลอันกว้างใหญ่ พลางเข้าทุกขนิโรธปฏิปทาใหม่โดยคิดว่าดาวพุธหมุนอยู่ ตัวผมจึงกลับมาขยับได้เหมือนเดิม ทีนี้ผมยังรู้ต่อไปอีกว่า ธรรมนี้คงสถานะด้วยศีล 8 ผมเลยเข้าอริยสัจ 4 ใหม่ โดยคิดว่าทุกข์จริงหนอต้องรักษาศีลตั้ง 8 ข้อ โดยคิดว่าผัสสะหรือสัมผัสเป็นอนัตตา ผลคือรักษาศีลแค่ 5 ข้อก็สามารถคงสภาวะการบรรลุธรรมนี้ได้ อยากให้ผู้มีความรู้ทั้งหลายลองไปค้นคว้าวิจัยต่อครับ ขออนุโมทนาบุญในครั้งนี้ให้แด่พระศรีอาริย์และทุกคนมีแต่ความดีงามด้วยครับ