วิเชียร อยู่เกตุ ในวันที่..."ธรรมะพลิกชีวิต"

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 ธันวาคม 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    [​IMG]

    อ.วิเชียร อยู่เกตุ


    [​IMG] ขั้นตอนการรักษา


    [​IMG] ขั้นตอนการรักษา


    [​IMG] ขั้นตอนการรักษา


    [​IMG] เปิดตัวหนังสือ หมอพญายม



    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    <SCRIPT type=text/javascript>var id='40698';function addCommas(nStr){ nStr += ''; x = nStr.split('.'); x1 = x[0]; x2 = x.length > 1 ? '.' + x[1] : ''; var rgx = /(\d+)(\d{***)/; while (rgx.test(x1)) { x1 = x1.replace(rgx, '$1' + ',' + '$2'); } return x1 + x2;}function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('คนอ่าน '+addCommas(counter_)+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>คมชัดลึก : เรื่องราวการรักษาโรคของ อ.วิเชียร อยู่เกตุ เจ้าของศูนย์อบรมกายและจิต ที่สามารถรักษาโรคด้วยการใช้พลังจิต ทำให้หลายคนรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการรักษาโรค โดยปัจจุบันนี้ท่านเป็นเจ้าของอโรคยา ศูนย์ดูแลสุขภาพกายและจิต รักษาโรคด้วยพลังจิต ถนนราชพฤกษ์ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ เจ้าของศูนย์อโรคยา สปา แอนด์ อคาดิมี ผู้ที่ใช้พลังจิตในการรักษาคนป่วย จนถูกขนานนามว่า "หมอเทวดา" หรือ "หมอหมดทางเลือก" และล่าสุดได้รับการขนานนามว่า "หมอพญายม"
    <SCRIPT type=text/javascript>google_ad_channel = '9989085094'; //slot numbergoogle_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads//google_image_size = '300X250';//google_skip = '3';var ads_ID = 'adsense_inside'; // set ID for main Element divvar displayBorderTop = false; // default = false;//var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type imagevar position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail</SCRIPT><SCRIPT src="http://www.komchadluek.net/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1260487957&num_ads=3&channel=9989085094&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.22.87&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20091211%2F40698%2F%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88...%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95.html&dt=1260487957109&correlator=1260487957109&frm=0&ga_vid=165054821.1260403676&ga_sid=1260487957&ga_hid=8805914&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=0&u_java=1&u_h=800&u_w=1280&u_ah=770&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1259&bih=624&ref=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.com%2F&fu=0&ifi=1&dtd=31"></SCRIPT>

    "ทุกวันนี้ ผมรักษาคนโดยไม่เรียกร้องค่ารักษา แต่มีกล่องไว้รับบริจาคตามความศรัทธาของคนป่วยและญาติ ผมให้คนป่วยและญาติมีสติในการตัดสินใจเอง ไม่ใช่ไม่มีเงิน แต่ต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษาของผม แบบนี้ เขาก็ไม่หาย แล้วก็ไม่มารักษากับผมอีก แต่ตอนนี้ มีคนหลั่งไหลมารักษากับผมมากมาย ตั้งแต่เช้ายันดึก คิวการรักษายาวไปถึงเดือนปี ๒๕๕๔ แล้ว" นี่คือคำยืนยันของ อ.วิเชียร
    อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมารักษาผู้ป่วยในปัจจุบัน ชีวิตของ "วิเชียร อยู่เกตุ" ผ่านอะไรมามากมาย ทั้งดีและเลวร้าย
    แต่สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้เขาเดินออกจากเงามืดมาสู่ทางธรรม เพราะเขาได้ไปกราบนมัสการ หลวงปู่เทียม สิริปัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เปรียบเสมือนผู้มอบชีวิตใหม่กับเขา ทำให้เขาตัดสินใจบวช และฝากตัวเป็นศิษย์นับแต่นั้นมา
    ในระหว่างที่บวช พระวิเชียรได้อ่านพระไตรปิฎก และฝึกนั่งสมาธิ จนเข้าสู่อภิญญา มีพลังจิตเกิดขึ้น และเริ่มหันมาใช้พลังจิตในการรักษาคนป่วยที่หมดทางเลือกมาจากที่อื่น จนได้รับการขนานนามว่า หมอหมดทางเลือก
    อ.วิเชียร เล่าว่า เริ่มใช้พลังจิตรักษาคนป่วยมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๖ รักษาคนป่วยที่หมดทางรักษา ไปรักษามาหลายที่แล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้น ก่อนที่จะทำการรักษาทุกครั้ง ก็จะน้อมนำธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเตือนสติผู้ป่วยและญาติ ให้นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน คือ หลักใหญ่ ๑๐ ประการ ได้แก่ ศีล ๕ พรหมวิหาร ๔ และบอกทุกคนว่า ยินดีเป็นคนดีทุกลมหายใจเข้า-ออก ทำความดีสั้นๆ
    ศีล ๕ เป็นหลักยึดในการปฏิบัติตัว ส่วนพรหมวิหาร ๔ เป็นหลักปกครองใจของเราให้มีระเบียบวินัย ถือเป็นกฎหมายทางธรรม ที่ทุกคนทำได้ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า ซึ่งถ้าทุกคนทำได้ก็จะช่วยให้ประเทศชาติดีขึ้นได้ด้วย
    ก่อนทำการรักษาทุกวัน จะใช้ธรรมะอบรมผู้ป่วยให้มีสติก่อน คือ มีสติเพื่อประหยัดสตางค์ มองปัญหาให้เกิดปัญญา คิดใหม่ทำใหม่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ เกิด ๑ สลึง แก่ ๑ สลึง เจ็บ ๑ สลึง ตอนนี้ชีวิตเหลือเพียง ๑ สลึงสุดท้าย เราจะทำอย่างไรให้ชีวิตที่เหลืออยู่มีความสุข อย่าอยู่กับทุกข์ มนุษย์และสัตว์ต้องถูกคำสั่งประหารเหมือนกันหมด เป็นกฎธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในที่สุดก็ต้องตาย
    ดังนั้น ต้องมาพัฒนาตัวเรา พัฒนาจิตใจเรา ต่อสู้กับความเจ็บป่วยด้วยความมีสติ และน้อมรับในความเจ็บป่วย เพราะถ้าไม่มีสติ ก็จะทุกข์ พอทุกข์ ร่างกายก็จะเสื่อมโทรมหนักขึ้น
    ทั้งนี้ จะไม่แนะนำคนป่วยให้อดทน ยิ่งทนยิ่งเกิดทุกข์ แต่จะแนะนำให้ยึดหลักมัชฌิมาปฏิปทาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือทางสายกลาง วางชีวิตให้สงบ เรียบ ง่าย และใช้ภูมิปัญญาไทย วิถีไทย วิถีพุทธ เข้ามาช่วย
    นอกจากหลักธรรมะ ๑๐ ประการที่ใช้แล้ว อ.วิเชียร ยังใช้หลักธรรมชาติ ๔ ประการในการรักษาผู้ป่วย

    โดยเล่าว่า หลักธรรมชาติ ๔ ประการ คือ ร่างกาย จิต วิญญาณ สังคม ซึ่งกาย ใช้ภูมิปัญญาไทย วิถีไทย วิถีพุทธ ดีที่สุดแล้ว เพราะบรรพบุรุษของคนเราก็ใช้วิธีการรักษาแบบนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ กินผัก กินผลไม้ กินอยู่แบบง่ายๆ หรือใช้เศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือเป็น “ต้นแบบ” ที่ดีที่สุด
    พร้อมกันนี้ อ.วิเชียร ยังแนะนำว่า คนเราควรนำระบบพุทโธโลยีมาใช้บริหารจัดการชีวิตทั้งระบบ เพราะ “พุทธบริษัท” ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นบริษัทที่ไม่เคยเจ๊ง มียาวนานมาสองพันกว่าปี เป็นระบบที่ทันสมัยตลอดเวลา นำมาใช้ได้ตลอดเวลา ตั้งโดยคนคนเดียวคือ พระพุทธเจ้า มีเลขาฯ คนเดียว คือ พระอานนท์ มีที่ปรึกษาซ้าย-ขวา คือ พระโมคลาและพระสารีบุตร และมีฝ่ายบริหารจัดการอีก ๕ พระองค์ คือ พระอรหันต์ แล้วกระจายผลไปที่เหล่าสาวกอีก
    ถ้าคนไทยนำระบบพุทโธโลยีไปใช้ ก็จะไม่ทำให้เกิดความหลง การดำเนินชีวิตก็จะดีขึ้น เหมือนความเจ็บป่วยเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องใช้สติในการรักษา เพราะเมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายก็ต้องหาทางเอาออกไปจากร่างกายให้ได้ แต่บางคนไม่มีสติ เมื่อไม่มีสติ ก็จะต้องเสียสตางค์ในการรักษา
    “ผมร่างหลักสูตรสำหรับอบรมธรรมะไว้ ๑ โปรแกรม ผมเรียกหลักสูตรนี้ว่า Meditation Training Program (MTP) เทียบกับทางโลกคือ การเรียนหลักสูตรบริหารการจัดการ ระดับปริญญาโท หรือ MBA ซึ่งเป็นการบริหารวัตถุให้ก้าวหน้าสู่ความสำเร็จ แต่สิ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จ คือ ต้องบริหารจิตใจ พัฒนาจากข้างในออกมาสู่กายข้างนอก เปรียบเสมือคอมพิวเตอร์ ถ้าฮาร์ดิสดี หน่วยความจำดี หน้าเดคทอปก็จะดี จะสวยตามไปด้วย เหมือนคนที่มีจิตใจดี การปฏิบัติก็จะดีตามไปด้วย ผมขอเรียกว่า พุทโธโลยี" หมอเทวดากล่าว
    อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจหนึ่งของ อ.วิเชียร คือ ตั้งโรงพยาบาลวิถีไทยวิถีพุทธ เป็นโรงเรียนสร้างอาชีพนวดแผนไทย สมุนไพรไทย ในโครงการ “สานฝันปันรู้สู่สังคม” มีสถานที่รักษา สถานที่เรียน มีสวนสมุนไพร และมีรูปปั้นพระชีวกรูปยืนที่สูงที่สุดโลก ขณะนี้ทางกรมศิลปากรกำลังออกแบบให้ มีรูปปั้นฤษีดัดตน ๘๐ ท่า มีอาศรมรอบล้อมรูปปั้นพระชีวกเพื่อให้คนไปปฏิบัติธรรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินจำนวนมาก ใช้ที่ดินประมาณ ๕ ไร่ แต่ตอนนี้ยังไม่มี แต่ก็กำลังหาทางทำให้ความตั้งใจนี้เป็นจริงให้ได้ ใครอยากร่วมสร้างบุญในครั้งนี้ด้วย อ.วิเชียรก็ยินดี
    "ก่อนทำการรักษาทุกวัน จะใช้ธรรมะอบรมผู้ป่วยให้มีสติก่อน คือ มีสติเพื่อประหยัดสตางค์ มองปัญหาให้เกิดปัญญา คิดใหม่ทำใหม่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ"
    เรื่อง... "ไตรเทพ ไกรงู"
    ภาพ... "ประเสริฐ เทพศรี
     
  2. mmie

    mmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,986
    "คนเราควรนำระบบพุทโธโลยีมาใช้บริหารจัดการชีวิตทั้งระบบ เพราะ “พุทธบริษัท” ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นบริษัทที่ไม่เคยเจ๊ง มียาวนานมาสองพันกว่าปี เป็นระบบที่ทันสมัยตลอดเวลา นำมาใช้ได้ตลอดเวลา ตั้งโดยคนคนเดียวคือ พระพุทธเจ้า มีเลขาฯ คนเดียว คือ พระอานนท์ มีที่ปรึกษาซ้าย-ขวา คือ พระโมคลาและพระสารีบุตร และมีฝ่ายบริหารจัดการอีก ๕ พระองค์ คือ พระอรหันต์ แล้วกระจายผลไปที่เหล่าสาวกอีก"

    ชอบมากเลยแนวคิดนี้ อนุโมทนา สาธุ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...