วันที่มนุษย์ไปสู่อวกาศสิ่งประดิษฐ์และวิทยาการก้าวล้ำ ทำไมผมถึงมาเจอเรื่องแบบนี้

จากคนที่เคยบอกกับคนอื่นว่าผมไม่กลัวผีเพราะผีไม่มีจริง เกิดมาแล้วก็ตายก็เท่านั้น กลับกลายเป็นว่าทุกคืนที่ผมสะดุ้งตื่น ต้องนอนรู้สึกตัวอยู่อย่างนั้นอย่างหวาดระแวง
เรื่องของผมเกิดขึ้นเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ทุกๆคืนที่นอนผมก็จะรู้สึกตัวตื่นเป็นนิสัยปกตินิสัยของผมอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกคืน ในขณะที่รู้สึกตัวตื่นได้สักพักใหญ่ ก็นอนพลิกไปพลิกมา พยายามข่มตาเพื่อที่จะให้หลับ แต่แล้วอยู่ๆผมก็ได้ยินเสียง เสียงของผู้หญิง เป็นเสียงในลักษณะ เสียใจ ร้องไห้ ฮือฮือ ขึ้นมา ถึงจะแค่ไม่กี่วินาที แต่เสียงก็ชัดมาก ผมได้แต่นอนตัวแข็งแล้วก็คิดว่าอะไรเนี่ย เกิดอะไรขึ้น อีกไม่นานก็เลยตัดสินใจลุกขึ้นดูนาฬิกา ตอนนั้นเวลา 00.48 ของคืนวันอังคาร ก็เท่ากับเช้าวันพุธ อีกไม่นานผมก็นอนต่อ เช้ามาก็โทรกลับไปปรึกษากับแม่ แม่ผมบวชชีพราหมณ์และท่านก็มักจะมีเรื่องเล่าแปลกๆพวกนี้เสมอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมว่าแกบ้ามาตลอด เล่ามาผมก็แค่ฟังแต่ลึกๆแล้วก็ไม่เคยเชื่ออะไร ท่านก็บอกมาประมาณนึง และก็บอกว่าถ้ามานอนด้วยตัวเองถึงจะสื่อไ้ด้ว่าเป็นอะไร เช่น เจ้าที่ ผี วิญญาณ รึอะไร คืนแรกผ่านไป คืนที่สองเอาอีก ตื่นเหมือนเคย นอนไปนอนมาก็ได้ยินเหมือนคืนแรก แต่คืนนี้เสียงไม่ดังมาก คืนที่สองนี่ 04.25 หลายคืนแม้จะไม่ได้ยินเสียงอีก แต่ทุกวันนี้เวลาจะนอนก็ระแวง ตื่นตอนดึก ก็ระแวงขนลุกไปหมด เรื่องที่ไม่เคยเชื่อ ไม่เคยคิด ก็อย่างที่หลายคนบอก เรื่องแบบนี้ต้องเจอและสัมผัสด้วยตัวเอง ไว้ผมจะมาเล่าเพิ่มเติมอีกนะครับ ขอบคุณมากครับ

 

คนมีปัญญาดีเค้าจะเชื่อเรื่องผีต่อให้ไม่มีการศึกษาก็ตาม

คนมีไม่มีปัญญาดีเค้ามีอวิชชา(อวิชชาคือความไม่รู้เท่าถึงการณ์)เค้าจะไม่เชื่อฉลาดแต่ทำตัวโง่ต่อให้มีการศึกเท่าใดหรือดีเท่าใดก็ตามครับ

 

สิ่งประดิษฐ์และวิทยาการ ทางวัตถุล้วนถูกสร้างขึ้นและเสื่อมไปตามยุคตามสมัย

แต่สิ่งที่อยู่คู่กฏแห่งกรรมมานานแสนนานคือภพภูมิต่างๆ ล้วนยังคงอยู่เช่นนั้น หากสิ่งเหล่านั้นพบเห้นได้ยากเท่านั้นเอง

 

ผี ก็คือ ธรรมชาติของจิต ของวิญญาณ ครับ เป็นภาษาง่ายที่สื่อให้เข้าใจถึงการคงอยู่ของสภาวะหนึ่งหลังจากตายไปแล้ว...ยกตัวอย่างง่าย ๆ เหมือนแก้วใส่น้ำไว้ แก้วนี้จะมีประโยชน์ถูกใช้ดื่มเพราะมีน้ำ แต่ถ้าไม่มีน้ำ ก็จะเป็นเพียงภาชนะที่จะวางทิ้งตรงไหนก็ได้ รอวันแตกหักไป ร่างกายก็เหมือนแก้วใส่น้ำ น้ำก็คือ วิญญาณหรือผี นั่นเอง ซึ่งเมื่อแก้วแตกไป เราสามารถเอาแก้วใบใหม่มาใส่น้ำแทนได้ หมายถึงการเกิดใหม่ ดังนั้นถ้าแก้วแตกหักลง น้ำในแก้วจะถูกน้ำไปใส่แก้วใบใหม่ หรือระเหยไปในอากาศ น้ำในแก้วใบใหม่หรือระเหยไปในอากาศก็คือ น้ำ หรือ วิญญาณหรือผี นั่นเองครับ บางครั้งก็สรุปว่าเป็น พลังงาน ประเภทหนึ่ง เพียงแต่มีความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ (เวทนา) มีความทรงจำหมายรู้ (สัญญา) แก้วไม่ว่าจะเป้นแก้วแบบไหน ทรงไหน รูปไหน ก็คือ รูปสังขาร นั่นเองครับ น้ำ ก็คือ วิญญาณ รวมทั้งสิ้น เป็น ขันธ์ 5 ครับ ไม่ทราบว่าจะเข้าใจไหมครับนี่.....ถ้าไม่เข้าใจ ผมมีประสบการณ์จริงมาเล่าให้ฟัง ในโอกาสหน้านะครับ บางทีอาจจะเปรียบเทียบให้ฟังในแบบอื่น ๆ เผื่อจะเข้าใจมากขึ้น

 

ในเรื่องภพภูมินั้น ผมก็ได้ไปหาหนังสือมาอ่าน หนังสือที่ผมอ่านนั้นได้เขียนไว้ว่า มีทั้งหมด 31 ภพภูมิ ซึ่งไม่ทราบว่าตรงกับความรู้ของท่านอื่นๆหรือไม่
ในส่วนที่พวกเราอยู่กันนี้ก็ต้องนับเป็นภพภูมิหนึ่งด้วยใช่ไม๊ครับ แต่ผมก็คิดต่อไปถึงเรื่องภพภูมิของเรานั้น ช่างวุ่นวาย แก่งแย่ง ฆ่าฟันกัน เรากำลังทำลายภพภูมิที่เราอยู่ แล้วแบบนี้ภพภูมิจะมีวันแตกสลายหายไปหรือไม่ครับ
แล้วภพภูมิอื่นนั้น วุ่นวาย แตกแยก เหมือนกันหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ

 

แล้วสิ่งที่แบ่งแยกระหว่างภพภูมิต่างๆนั้น คือ อะไรครับ
ในเมื่อต่างก็อยู่ในภพภูมิของตัวเอง แล้วเหตุใด ประตูของภพภูมิจึงเปิดออกแล้วทำให้ต่างภพภูมิมาเจอกันได้ครับ
ขอบคุณมากครับ

 

เรื่องนี้ต้องอธิบายยาวมากครับ...เพียงแค่ข้อความสั้น ๆ อาจไม่เข้าใจง่าย ๆ ครับ ภพภูมิคือสิ่งแบ่งประเภทของสภาวะหลังการตายครับ คนที่ตายแล้วจะมีหลายสภาวะตามบุญตามกรรมของตนเอง นั่นคือภพภูมิครับ เช่น เทวดา สัตว์นรก อสูร มนุษย์ เป็นต้น


ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส (วันมาฆบูชา)