รวมพระโอวาท ธรรมะ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ไม่เน้นขาย, 13 เมษายน 2011.

  1. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    [​IMG]

    ชั้นฟื้นฟูพุทธจิตธรรมญาณ
    วันอาทิตย์ที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ณ. พุทธสถานจิ้นเอิน จ. ลำปาง

    บนถนนโลกโลกีย์มีผู้คน เดินวกวนไปมาไร้จุดหมาย
    บนเส้นทางฝักใฝ่ไร้ผู้ใด มีจิตใจเข้าใจตนอย่างแท้จริง
    เราคือ
    หันต้าเซียน รับบัญชาจาก
    องค์ธรรมมารดาเจ้า เข้าสู่พุทธวิหาร แฝงกายก้มกราบ
    องค์มารดาแล้ว ถามเมธีทั้งหลาย สุขสราญดีฤา

    เมื่อโอกาสยังอำนวยให้ศึกษา รู้ที่มาการดำเนินแห่งชีวิต
    รู้ความหมายความตั้งใจในใจคิด รู้ว่าจิตเป็นหนึ่งแต่แรกเดิม
    การดำเนินในหนทางพุทธะนั้น มีทุกวันรู้ใส่ใจกับตนเอง
    รู้กลัวเกรงสิ่งกระทำมีผิดไหม หากเข้าใจอย่างแท้จริงไม่มีผิด
    มีเวลารู้หมั่นเพียรศึกษาจิต มีแนวคิดพิจารณาอย่างถูกต้อง
    ให้สอดคล้องถูกทำนองที่หมายปอง ที่ไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่สู่หนึ่งจิต
    เมื่อคิดดีเมื่อพูดดีต้องทำดี จึงจะมีความหมายจริงของพุทธา
    จึงจะรู้ในหนทางพระพุทธา จึงเดินมาสู่ประตูแห่งพุทธา
    หากชีวิตยังมีอยู่รู้สู้ทน รู้อดทนฝ่าฟันอุปสรรคนานา
    ในชีวิตศึกษาเป็นพระพุทธา ต้องรู้ว่าผ่านเคี่ยวกรำจึงได้ชม
    หากถดถอยมิสู้ต่อแล้วยอมแพ้ ไม่มีแน่มรรคผลใดที่ปรารถนา
    จึงทำให้จิตตนเป็นทุกข์หนักหนา ต้องลงมาถูกรับโทษที่นรกโลกันต์

    เวียนว่ายไปไม่รู้จบไม่รู้สิ้น คอยแต่ดิ้นสู้ทนในโลกา
    เป็นที่มาชดใช้กรรมมิหมดหนา ต่างได้มาเกิดตายเวียนว่ายมิสิ้น
    เป็นเช่นนี้หลายหมื่นปีมิจบสิ้น มิรู้ดิ้นหาทางออกอย่างตั้งใจ
    หากมีใจรู้บำเพ็ญจริงใจไซร้ มีหรือไม่มิหลุดพ้นกันเสียที
    เมื่อแน่ใจก็จงรู้จับยึดมั่น สายทองนั้นยังรอคอยพวกท่านอยู่
    จึงหวังท่านทุกคนจะคอยดู จะได้รู้ว่านิพพานเป็นเช่นไร
    สุดท้ายนั้นล้วนขึ้นอยู่ที่ใจท่าน หากเนิ่นนานปล่อยใจไม่ศึกษา
    ยิ่งนับวันหากหลงใหลในโลกา เป็นที่มาให้พวกท่านเวียนว่ายไป

    กราบลา
    พระมารดา มีโอกาสคงได้พบกัน

    www.thaijinde.is.in.th ย้ายไปเป็น www.thaijinde.com แล้ว! ขอขอบคุณเว็บด้วยนะครับ เอาไว้ให้คนมีกำลังใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 เมษายน 2011
  2. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    [​IMG]

    พระโอวาทพระพุทธเจ้า

    ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของฟ้าเบื้องบน ได้เมตตาประทานวิถีธรรมลงมา ทำให้เวไนยผู้บาปหนา อีกทั้งกิเลสมากมายไม่สิ้นสุด แต่ยังมีวาสนาที่จะได้พบมหาธรรมล้ำค่า พาเปลี่ยนแปลงชีวิตตนเอง ครอบครัว และสังคม แต่เพราะเหตุใดที่มนุษย์อุจจาระเหม็นอย่างเราๆ ท่านๆ ยังคงมิอาจที่จะตระหนักถึงวาระโอกาสที่หาได้ยาก ยังคงมุ่งแสวงผลประโยชน์ส่วนตนอย่างไม่มีที่สุดแห่งความพอใจ

    วิถีธรรมมีวาระปรกโปรดเพียงระยะเวลาอันสั้น มีช่วงกาลแห่งอำพราง แม้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มิอาจให้ความกระจ่างได้ว่าเมื่อใด นั่นเป็นเพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวแทนแห่งฟ้าทั้งหลายว่าท่านยินดีจะ "อุทิศ" ถึงเมื่อใด

    ในขณะที่วิถีธรรมเผยแพร่ไปอย่างไม่หยุดยั้งด้วยแรงใจที่ไม่เคยถดถอยน้อยลงสักนิดของผู้อุทิศเพื่อธรรมทั้งหลาย นั่นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้วาระแห่งการเผยแพร่ยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ ด้วยเพราะความเสียสละของท่านเหล่านั้นโดยแท้ มิฉะนั้นแล้วผู้ที่เต็มไปด้วยบาปกรรมอย่างเราท่าน ฤาจะมีโอกาสได้รับรู้วิถีธรรมอันล้ำค่า และยังสามารถที่จะเป็นตัวแทนทำงานให้ฟ้า สร้างบุญชำระล้างบาปเวรแก่ตนเองได้

    ขณะนี้มีผู้ที่ทำงานแทนเบื้องฟ้าอย่างไม่คิดถึงชีวิต อีกทั้งมิได้ห่วงในความสบายแห่งตน เพื่อนำธรรมเผยแพร่สู่เวไนยทั้งหลาย ยอมได้แม้ทุกสิ่ง ด้วยความเสียสละทุ่มเทนั่นเองเป็นเหตุให้วิถีธรรม อันเป็นหลักธรรมเดียวกับองค์ศากยมุนีพุทธเจ้า ซึ่งห่างหายไปนานจากดินแดนประสูติแห่งองค์ตถาคต วาระมาถึงทำให้ชาวเนปาลมากมายมีโอกาสได้เรียนรู้ธรรมแท้จริงอีกครั้ง

    ในครานี้ได้มีนักธรรมอาวุโสจากไต้หวันจำนวนหนึ่งเดินทางไปประเทศเนปาล เพื่อถ่ายทอดวิถีธรรม และเปิดประชุมธรรมสามวันที่นั่น มีสาธุชนคนบุญมากมายที่เดินทางมากราบขอรับวิถีธรรม และเข้าร่วมประชุมธรรม โดยไม่มีคำว่าอุปสรรคของภาษามาขัดขวางใดๆ ทั้งสิ้น

    ในการประชุมครั้งนี้ทำให้แม้สถานที่จะเป็นสถานธรรมชั่วคราว แต่ก็กลายเป็นศูนย์กลางของพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ เป็นเหตุที่พระแม่องค์ธรรมทรงมหาเมตตา มีพระบัญชาให้องค์พระศากยมุนีพุทธเจ้าเสร็จประทับทิพย์ญาณเมตตาผูกบุญสัมพันธ์กับสาธุชนชาวเนปาล อีกทั้งได้ประทานโอวาทซ้อนพระโอวาทพื้นหลังเป็นภาษาจีน แต่โอวาทที่ซ้อนเป็นภาษาเนปาล แปลความว่า พระศรีอาริย์ และพระอาจารย์จี้กงได้เมตตาประทานโอวาทที่ซ้อนเป็นภาษาอังกฤษ แปลความว่า ความเมตตา

    แยบยลเกินกล่าว ลึ้กซึ้งเกินอธิบาย

    ขอกล่าวแค่คำว่า "กราบสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ"

    ดาวน์โหลด พระโอวาทพระพุทธเจ้า Nepal คลิ๊กที่นี่
     
  3. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    [​IMG]
    ไตรรัตน์วิถีแห่งจิต​

    1.วิถีแห่งจิต หรือ พุทธจิต ซึ่งมีโองการสวรรค์ที่อยู่กับมนุษย์ คือ จิต
    จิต มี สองทาง คือ ทางตรง กับทางขวาง อันเป็นจิตใจที่หลงอยู่กับกิเลส จึงไม่สามารถกลับบ้านเดิมได้ ถ้าจะกลับบ้านเดิม ต้องพยายามบำเพ็ญจนจิตที่มีอยู่ใส
    ไม่มีกิเลสแล้วจึงจะกลับบ้านเดิมได้

    วิถีทางแห่งจิต คือ เมื่อเราหลงมาอยู่ในโลกมนุษย์แล้ว มามัวเมากับกิเลสจนหลงอยู่ในโลกนี้ การที่จะกลับสู่นิพพานบ้านเดิม จำเป็นที่จะต้องการบำเพ็ญให้จิตตัวจริงใสสะอาด ไม่มีกิเลส หรือ เพื่อให้จิตมนุษย์ ใสสะอาดเหมือนจิตญาณเดิมที่อยู่บนนิพพาน จะได้ไม่ยึดติดอยู่ในสังขาร อันเป็นตัวปลอม เนื่องจากเป็นร่างปลอม ถ้าจะบำเพ็ญ ก็ต้องเลี้ยงร่างปลอมนี้ให้อยู่ได้ ไม่กินมากไป ไม่กินน้อยไป กินให้พอดีอิ่ม จะได้มีกำลังบำเพ็ญให้จิตของเราใสสะอาด

    ประโยชน์และโทษ
    ใจธรรม จะเป็นใจที่คิดทำประโยชน์ให้แก่สังคม
    ใจมนุษย์ เป็นใจที่หลงติดอยู่ในอัตตา ตัวตน ยึดติดอยู่ในวัตถุ แก่งแย่ง ชิงดี
    ชิงเด่นกัน อิจฉาริษยากัน เหมือนปลาที่ตายแล้วต้องลอยตามน้ำ ไม่สามารถละกิเลสได้

    2. วิถีทางแห่งจิตที่ได้รับการถ่ายทอดแล้ว มีพระวิสุทธิอาจารย์ หรือมีอาจารย์ถ่ายทอดธรรมที่มีโองการสวรรค์อยู่ มาถ่ายทอดวิถีแห่งจิต ด้วยการเปิดประตูญาณวิถีให้ เมื่อเปิดประตูญาณแล้ว จิตของเราจึงได้รู้สำนึกถึงความถูกผิด แล้วเร่งบำเพ็ญละกิเลสต่าง ๆ ให้หมดเพื่อที่จะได้สำเร็จในยุคขาวนี้

    จิตตัวนี้ ถัาอยู่กับท้องฟ้า เป็นหลักสัจธรรมของฟ้า เมื่ออยุ่กับดิน ก็เป็นหลัก
    สัจธรรมของดิน เมื่ออยู่กับมนุษย์ก็เป็นหลักสัจธรรมแห่งชีวิต ทำให้มนุษย์คิดว่าเราเป็นเจ้าของตัวเราเอง เป็นเจ้าของกายสังขาร ทำให้มีความเห็นว่า ตัวเรามีอายตนะหก คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย สัมผัส เป็นของของเรา เข้าใจว่า อายตนะหกนี้เป็นจิตของเรา ซึ่งไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ไม่มีตัวตน จับต้องไม่ได้

    ก่อนที่เราจะรับธรรมะ ตัวเรายังไม่ได้รับวิถีธรรมจากพระวิสุทธิอาจารย์ ตัวของเราก็เป็นเหมือนกับสวะที่ลอยตามน้ำ จิตของเราสัมผัสได้แต่โจรทั้งหก คืออายตนะหก ตัวเราจึงตกอยู่ในกระแสที่ถือว่าโจรทั้งหกเป็นจิตของเรา เราจึงตกอยู่ ในกิเลสนั้น ทำให้เรามีความโกรธ มีความหลง มีความโลภ

    เมื่อรับอนุตตรธรรมแล้ว พระวิสุทธิอาจารย์ได้มาชี้เปิดจุดที่สถิตของจิตวิญญาณให้ เราจึงได้รู้ที่อยู่ของพุทธจิตธรรมญาณ ที่มีมาแต่เดิมของเรา เมื่อรู้แล้ว จึงต้องตั้งใจบำเพ็ญ พยายามปลงให้ตก ทำจิตให้ว่าง เพื่อให้เกิดความเบื่อหน่ายในสังขารที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ทำให้ตัวเราเกิดความทุกข์ เกิดความเวทนา ในอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา (ความไม่เที่ยงแท้แน่นอน ความเป็นทุกข์ และความไม่มีตัวตน) สิ่งเหล่านี้เป็นอวิชชา ความไม่รู้ เมื่อรู้แล้วต้องพยายามละวาง ทำให้จิตของเราห่างจากกิเลสทั้งสามกอง

    ในคัมภีร์ กล่าวว่า นิพพานอยู่ที่ตัวเรา หากเราหลงอยู่ในกิเลส ตายแล้วก็ต้องไปนรก ความจริง นิพพานกับนรก อยุ่ไม่ไกลจากตัวเรา ถ้าละได้ตายก็ไปนิพพาน ถ้าละไม่ได้ ตายก็ไปนรก ตามที่จิตของเราผูกพัน

    จิตเดิมของเราเป็นดวงกลมใส เล็กมากที่สุด จิตของเราเมื่อเป็นเด็กจึงมีแต่ความเที่ยงตรง เมื่อเติบโตขึ้นมาจิตของเราได้สัมผัสกับ สิ่งต่าง ๆ ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย สัมผัส แล้วเอามาร่วมกับอารมณ์ปรุงแต่งไปตามความนึกคิดของเราเอง ตัวเรา จึงกลายเป็นปุถุชน ชอบทำอะไรตามใจของเราเอง เมื่อมารับธรรมะแล้ว ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของเราที่หลงอยู่โดยมีจิตใจของเราเป็นตัวกำหนด ให้ หายไป มีแต่ความนึกคิดที่มองเห็นแต่สิ่งที่ดีจากสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา สิ่งใดที่ไม่ดี เห็นแล้วก็อย่าเอามาทำ ทำตามแต่สิ่งที่ดีงามตลอดเวลา บำเพ็ญไปนาน ๆ จิตของเราก็จะบรรลุสู่ความเป็นอริยพุทธะ

    ในอดีตที่ผ่านมา การถ่ายทอดวิถีแห่งจิตมีการถ่ายทอดเฉพาะตัวต่อตัว ทำให้ไม่แพร่หลาย ปัจจุบันเป็นกาลแห่งท้ายกัป เป็นยุคขาวที่พระแม่องค์ธรรมประทานไว้ว่าจะช่วยให้เรากลับคืนสู่เบื้องบนได้ง่ายขึ้น การถ่ายทอดวิถีจิตนี้เป็นความลับของสวรรค์ ดังนั้น ในเวลาถ่ายทอดวิถีธรรม จึงไม่ควรถ่ายรูปไว้ เพราะเป็นความลับของสวรรค์ เมื่อถ่ายไว้แล้ว ผู้ที่ยะงไม่ได้รับวิถีธรรมเห็นแล้ว ก็เหมือนกับเราเปิดเผยความลับของสวรรค์

    ความจริงโองการสวรรค์เดิมอยู่ที่กษัตริย์ เช่นในสมัยพระอริยะเจ้าพู่สี ต่อมา รุ่นลูกหลานทำตัวไม่ได้ หลงอยู่ในกิเลส โองการจึงตกไปอยู่กับปราชญ์ เช่น พระพุทธเจ้า ท่านเหลาจื๊อ ท่านขงจื๊อ แล้วต่อมาตกมาอยู่กับสามัญชน

    คัมภีร์ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่กระดาษ ดังนั้นการสวดมนต์โดยไม่รู้เรื่องเลย จึงไม่สามารถพาตัวเราไปสู่นิพพานได้ กานเผยแพร่วิถีธรรมแต่โบราณไม่ได้เผยแพร่ด้วยตัวอักษรเหมือนในปัจจุบัน เป็นการถ่ายทอดจากจิตสู่จิต ดังนั้นแม้ว่าตัวเราจะไม่รู้หนังสือเลย ก็สามารถบำเพ็ญได้สำเร็จ ดังเช่น ท่านพระโะพธิธรรม ท่านเว่ยหล่าง ท่านลู่จงอี๋ ซึ่งเป็นผู้ที่มาจากความยากจน ไม่รู้จักหนังสือเลย อ่านไม่ได้ เขียนไม่ได้

    พระโพธิธรรมเดินทางจากอินเดียไปสู่ประเทศจีน ได้สอนธรรมให้แก่คนรุ่นหลัง ให้ทำตัวเป็นมหาบุรุษ คือ เป็นผู้ให้กับผู้ให้ การที่จะเป็นผู้ให้ได้ ผู้นั้นจะต้อง มีแต่คุณงามความดี นำเอาคุณธรรมไปสั่งสอนหรือทำตัวอย่างให้ผู้อื่นเห็นดีงามแล้วทำตาม

    การบำเพ็ญพุทธจิต คือการบำเพ็ญสังขาร ต้องพยายามบำเพ็ญให้เป็นเส้นตรงอยู่ในวิถีแห่งธรรม ถ้าจิตของเรามีแต่ธรรมะ กายของเราก็เต็มไปด้วยคุณธรรม เมื่อสิ้นกายสังขาร จิตของเราก็พลอยสิ้นจากอาสวะกิเลสด้วย เมื่อดับขันธ์แล้วจิตของเราก็มุ่งตรงไปสู่พระนิพพานตามที่หวังไว้

    เมื่อเรามีความหวังที่จะไปนิพพาน ทุก ๆ ขณะจิตของเรา เราต้องพยายามบำเพ็ญละ ความโกรธ ความโลภ ความหลง พยายามสร้างบุญกุศลใช้หนี้เวรหนี้กรรม การทำบุญด้วยเงิน ด้วยกาย เป็นบุญ การบำเพ็ญใจให้ห่างจากความชั่ว
    เป็นกุศล การพยายามมุ่งที่จะพาผู้อื่นมารับอนุตตรธรรม เป็นมหากุศลเพื่อนำมหากุศลนี้ไปใช้หนี้เวรกรรมที่สร้างมาแล้วแต่ในอดีต

    เวลาเรากราบพระ มือที่เราประนมไว้จะต้องให้ปลายนิ้วหัวแม่มืออยู่ตรงจุดญาณทวาร ซึ่งเป็นที่สถิตของจิตญาณของตัวเรา ขณะนี้เราได้รับการเปิดประตูจิตญาณแล้ว ตรงประตูที่อยู่ของจิตญาณจะมีรูเล็ก ๆ อันเป็นทางเข้าออกของจิตญาณ เมื่อเรารู้ที่อยู่ของจิตญาณแล้ว ก็พยายามบำเพ็ญ โดยการหัดทำจิตให้เป็นสมาธิตรงจุดญาณทวาร แล้วท่องรหัสคาถาห้าคำเอาไว้ เมื่อฝึกหัดบ่อย ๆ จนเคยชินแล้ว เวลาที่เราป่วยไข้ เราก็ทำจิตให้เป็นสมาธิอยู่ที่ตรงจุดญาณทวาร เมื่อจะละกายสังขาร จิตของเราจะได้ออกทางตรงมุ่งสู่พระนิพพานได้เลย
     
  4. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    [​IMG]
    พระโอวาทร้อยกรองศิษย์พี่นาจาเมตตา
    ประชุมธรรมชั้นบุคลากรวิริยะ
    วันเสาร์ที่ ๒๔ มีนาคม พ.ศ . ๒๕๕๐ ณ. พุทธสถานจิ้นเอิน อ. เมืองปาน จ. ลำปาง

    มีเรื่องราวมากมายก่ายกอง เพื่อนทั้งผองชนพี่น้องร่วมชุมนุม
    พายเรือธรรมนาวาทองแสนสุดคุ้ม ร่วมชุมนุมเหล่าน้องพี่ ณ สถานธรรม
    กฎระเบียบน้องหญิงชายร่วมน้อมรับ ร่วมกันปรับเก็บจิตใจกันเข้ามา
    มีวันนี้ต่างมีใจฟ้าเมตตา เก็บจิตหนาเก็บใจเข้ามาเอย
    เราคือ
    ศิษย์พี่นาจาไท่จื่อเหย น้อมรับบัญชาจาก
    พระพุทธจี้กง พร้อมรับบัญชาจาก
    พระอนุตตรธรรมมารดาเจ้า เข้าสู่พุทธสถานจิ้นเอิน น้อมคาราวะ
    พระองค์ธรรมมารดา แฝงกายน้อมถามน้องพี่ทุกคนต่างสบายดีฤา

    เกิดเป็นคนต้องมุ่งมั่นมานะจริง ทุกสรรพสิ่งมีเกิดดับเวียนขึ้นลง
    ตายไม่หวั่นสอบไม่ท้อยังมั่นคง จะดำรงพลานุภาพให้เกริกไกร
    กายกับใจต้องเป็นหนึ่งเดียวให้มั่น ไม่ไหวหวั่นการทดสอบการว่าร้าย
    จะบำเพ็ญไปจนกว่าชีพวางวาย กัปสุดท้ายใครบำเพ็ญใครก็ได้
    เกิดเป็นคนบำเพ็ญธรรมต้องมีเกียรติ ไม่เบียดเบียนแม้ใครใครรู้สึกท้อ
    จะบำเพ็ญด้วยพลังตนแข็งพอ สิ่งทั้งหลายจงรู้ขอที่ใจตน
    จะดำรงเกียรติแห่งตนให้ยาวไกล ก้าวแห่งไหนใจมิท้อมิเบื่อหน่าย
    มีสักวันต้องคลี่คลายเรื่องร้ายร้าย มุ่งทางหมายพร้อมสละเท่าทำได้
    หนึ่งสัปดาห์มีเจ็ดวันรู้ถนอม เรื่องเร่าร้อนมิทำลายกำลังใจ
    เก็บพลังเก็บความหมายภายในใจ เรื่องไหนไหนใจสงบพาเข้าหา
    แดดสะท้อนลมแรงใจมิหวั่น ขอเพียงมั่นคงต่อธรรมของฟ้านี้
    แดดทอแสงตะวันมิรอจะหลบหนี หนึ่งวันนี้อาทิตย์จันทร์ผลัดหมุนเวียน
    ขอน้องพี่มีวาจาอันศักดิ์สิทธิ์ รู้พิชิตใจแห่งตนตลอดไป
    กราบลา
    องค์ธรรมมารดา คืนสู่เบื้องบน
     
  5. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    [​IMG]
    พระโอวาทชี้แนะจากพระอาจารย์บำเพ็ญธรรม 35 ข้อ

    1.ไม่ติฉินนินทาผู้อื่น ไม่ผิดต่อวจีกรรม
    2.ไม่อิจฉาริษยาผู้อื่น ไม่สร้างความแตกแยก
    3.ท้องใหญ่ใจกว้างรู้ให้อภัย ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
    4.ฉุดช่วยคนเดิม และกล่อมเกลาให้เป็นคนดี อย่างถ้วนทั่ว
    5.เข้าถึงเจตนาแห่งฟ้า โปรดฉุดช่วยคนเดิมขึ้นฝั่ง
    6.เคารพอาจารย์เทิดทูนธรรมะ เจริญตามปราชญ์เมธีแต่โบราณ
    7.ไม่วิพากวิจารย์ผู้อื่น รู้ย้อนพินิจพิจารณาตน
    8.ผิดรีบแก้ไขจจึงเป็นผู้บำเพ็ญ
    9.วิริยะไม่เกียจคร้าน ไม่คิดถดถอย
    10.แผ่บุญไม่หวังการทดแทนแผ่บารมีไม่จดจำอยู่ในใจ
    11.ไม่หลอกลวงลวงผู้อื่นและไม่หลอกลวงตนเอง เท่ากับไม่หลอกลวงฟ้า
    12.ฝึกธรรมต้องมีความจริงใจ ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องมีความศรัทธาจริง
    13.ทุกคนรวมใจร่วมคุณธรรมโลกบังเกิดเอกภาพ
    14.ไม่บ่าเขาแบ่งเราอาศัยบารมีธรรมกล่อมเกลาผู้อื่น
    15.ควรกตัญญูกตเวที ฉุดช่วยท่านกลับคืนสู่เบื้องบน
    16.พยายามสุดความสามารถที่จะฉุดช่วยคนในครอบครัว
    17.พี่น้องต้องให้เกียรติและให้ความเคารพซึ่งกัน บ้านใกล้เรือนเคียงต้องต้องปองดองกัน
    18.พิจารณาคบหาเพื่อนที่ดี มีน้ำใจไมตรีอย่าได้เอนอียง
    19.แสดงความศรัทธาต่อธรรมะ เสมอต้นเสมอปลายไม่สองจิตสองใจ
    20.บุญบารมีที่ได้รัยอย่าได้ลืม คนลืมคนไม่ต่างกับเดรัจฉาน
    21.บุญบาปอย่าให้ขุ่นเคืองใจ ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียว
    22.โอนอ่อน และเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน รวมใจเกื้อหนุนธรรมกาล
    23.ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวกทุกคนเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์ เป็นบุตรร่วมมารดา
    24.ให้กำลังใจนักธรรมรุ่นหลัง เมตตากรุณา อรรถาธรรม
    25.คนอื่นทัดทานอย่าได้โกรธ คำหวังดีมักไม่เสนาะหู
    26.ถูกคนปรักปรำกล่าวหาต้องอดทนหลังฝนฟ้าย่อมใสเอง
    27.กระจ่างในอนุตตรธรรมแท้ ยึดมั่นในสายทอง
    28.ติดตามการนำพาของท่านธรรมอธิการรองธรรมะอธิการ และอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม
    29.น้อมกายถวายตนพลีชีพเพื่อทดแทนคุณฟ้า
    30.ไม่กลัวฟ้าฝนลมกระหน่ำ เห็นงานธรรมเสมือนหน้าที่ของตน
    31.บำเพ็ญจริงตามหลักสัจธรรม ไม่เสแสร้งแกล้งทำ
    32.ปฏิบัติรักษาพุทธระเบียบ อย่าให้วุ่นวายกลับตาลปัตร
    33.อย่าให้เกิดจิตเพ้อฝัน ทุกเรื่องให้สงบ
    34.จริงใจสร้างงานบุญ ดีกว่าได้ทองพันชั่ง
    35.สะสมบุญวันละนิด ลูกหลานล่วงพ้นการเกิดตาย
     
  6. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    [​IMG]

    พระโอวาทร้อยกรองหนันผิงเสี่ยวเซียนถงเมตตา
    ชั้นฟื้นฟูพุทธจิตธรรมญาณ
    วันจันทร์ที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ณ. พุทธสถานจิ้นเอิน จ. ลำปาง

    พุทธาเดินดินมีให้เห็นจริงหรือไม่ อยู่ที่ใจศิษย์น้องนั้นคิดใคร่ครวญ
    มีปัญญามีสติเห็นสมควร เห็นทางสวนกระแสโลกเป็นเช่นไร
    เราคือ
    หนันผิงเสี่ยวเซียนถง รับบัญชาจาก
    พระแม่องค์ธรรม พร้อมรับความเมตตาจาก
    พระอาจารย์จี้กง เข้าสู่พุทธสถาน แฝงกายก้มกราบ
    องค์มารดาแล้ว ถามศิษย์น้องทั้งหลายสุขเกษมสำราญดีฤา

    มีวาจารู้สัตย์ซื่อถือคุณธรรม รู้น้อมนำในโอวาทมาศึกษา
    รู้ความหมายในชีวิตนั้นมีค่า รู้ที่มาแห่งจิตญาณคุณธรรมตน
    เมื่อเวลามาบรรจบกาลจำเพาะ ช่างเหมาะเจาะในงานฟ้ามีโอกาส
    แล้วนำจิตคิดไตร่ตรองในโอวาท พลาดโอกาสจะเสียใจไม่ได้หนา
    บนวิถีการบำเพ็ญใช่ง่ายดาย อาจเสียหายเพราะจิตใจมิชำระ
    เดินหนทางบำเพ็ญธรรมควรลดละ อย่าปล่อยปละทอดทิ้งในงานธรรม
    บุคลากรฟ้าตั้งใจมั่นถือสัจจา เป็นที่มาดำเนินงานอย่างสอดคล้อง
    เดินหนทางต้องถูกต้องถูกครรลอง ต้องไตร่ตรองทุกขณะจิตในญาณตน
    บำเพ็ญธรรมหากเมื่อยล้าอย่าบ่นท้อ ต้องสู้ต่อล้มลงลุกขึ้นใหม่
    แม้วันนี้ขาดจิตใจแต่มีกำลังใจ ต้องรู้ไว้จิตพุทธาอยู่ในตน
    เห็นโอกาสต้องรู้สร้างดำเนินตน รู้เหตุผลอันแยบยลบำเพ็ญธรรม
    รู้ว่าดีจึงได้ทำจึงน้อมนำ มิได้ทำเพียงลำพังอยู่เดียวดาย
    มีมากมายพี่น้องเราอยู่รอบข้าง ไม่อ้างว้างในเส้นทางกลับคืนฟ้า
    เพียงแต่เราจะมีใจเห็นคุณค่า รู้ศรัทธาในจิตแรกมิเปลี่ยนแปลง
    จิตแรกเดิมต้องมั่นคงเก็บรักษา อย่าปล่อยไปมามีแต่ขึ้นมีแต่ลง
    หากเป็นเช่นนี้จิตแรกเดิมไม่รู้ดำรง แล้วจะมั่นคงได้นานเท่าไหร่หนอ
    กราบลา
    องค์มารดา
     
  7. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    [​IMG]
    พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    พระโอวาทองค์ประธานคุมสอบสามภูมิ

    ไม่กลัวความยากลำบากที่จะบุกไปทุกถิ่นฐาน เพื่อนำอนุตตรธรรมไปเผยแผ่
    เตือนแล้วเตือนอีกด้วยความหวังดี ทั้งหมดเพื่อการฉุดช่วยเวไนยสัตว์
    น้องเมธีชายหญิงลองใช้จิตใจอันดีงามของตน ตรึกตรองให้ดีๆ
    พระพุทธและอาวุโสทั้งหลาย ยอมเหนื่อยยากลำบากสุดท้ายเพื่อใคร
    เราคือ
    องค์ประธานคุมสอบสามภูมิ รับบัญชาจาก
    พระอนุตตรธรรมมารดา ลงสู่พุทธสถาน เคียมคัล
    องค์มารดา แล้ว พักก่อน
    มหาปณิธานสิบ ฮวา ฮวา

    1. จะมั่นคงในศรัทธา
    誠心抱守
    (เฉิงซินเป้าโสว่)

    น่าเสียดายมีบุญสัมพันธ์ ได้รับวิถีธรรมแล้วแต่ไม่ตั้งมั่นในศรัทธานำธรรมะไปบำเพ็ญด้วยดี ยังสำมะเลเทเมาอยู่ ปล่อยให้กาลเวลาผ่านพ้นไปวันๆ ยังลุ่มหลงมัวเมาในเรื่องเพ้อฝัน ให้ชีวิตผ่านไปโดยไร้ประโยชน์
    ตอนเริ่มแรกรับธรรมะใหม่ๆ มีจิตใจที่เคารพศรัทธา จึงได้คุกเข่า ณ เบื้องพระแท่นแห่งพระอนุตตรธรรมเจ้า และตั้งมหาปณิธานด้วยความบริสุทธิ์ใจที่จะบำเพ็ญ
    จึงอยากจะถามว่า มีใครบ้างที่ได้รับธรรมะแล้ว ได้รับสิ่งที่ดีเช่นนี้แล้วจำใส่ใจไว้ด้วยความจริงใจ และนำปณิธานที่ตัวเองได้คุกเข่า ต่อหน้าพระแท่นไปปฏิบัติด้วยความตั้งใจ
    แต่ถ้าหากว่า เพียงแต่ใช้ปากเปล่งเสียงออกมา แสดงเพียงคำพูดเป็นปณิธาน แต่ไม่ยึดมั่นนำมหาปณิธานนี้ไปปฏิบัติ นั่นก็เท่ากับว่าตบตาผู้อาวุโสทั้งหมด ด้วยว่าอาวุโสต่างก็มีความเหนื่อยยากลำบาก เตือนด้วยความหวังดีที่ได้นำพามาขอรับธรรมะ เบื้องบนได้โปรดเมตตาส่งเสริม ปวงเทพพระพุทธะและวิญญาณทั้งหลาย ต่างก็ได้ร่วมกันช่วยงานธรรม
    จึงหวังว่าน้องเมธีชายหญิง ลองค่อยๆ ตรึกตรองด้วยใจเป็นธรรม กลัวว่าตัวเธอจะต้องแบกรับความผิดและบาปที่มองไม่เห็นอีกมากมายหรือ
    จงอย่าเพิ่งเชื่อมั่นว่าตัวเธอยังไม่ได้รับผลของความทุกข์ ขอให้ทุกคนรู้ว่าหากวันหนึ่งเมื่อภัยพิบัติมาถึง จะต้องได้รับผลกรรมที่ตัวเองได้ทำไว้ ดีหรือร้ายก็ย่อมชัดเจนขึ้น
    หากยังไม่เชื่อ ขอให้ดูหลักฐานที่เกิดขึ้นตั้งแต่โบราณมา เพราะยังมีร่องรอยเหลืออยู่ให้เห็น ตาข่ายฟ้าไม่มีใครลอดไปได้

    2. (ชาย) จะสำนึกด้วยใจจริง
    (หญิง) จะบำเพ็ญด้วยใจจริง
    實心懺悔 (สือซินชั่นหุ่ย)
    實心修煉 (สือซินซิวเลี่ยน)

    คนที่รับธรรมะแล้ว ไม่ยอมสำนึกความผิดของตัวเองที่ผ่านมา แม้รู้สำนึกความผิดแล้ว ยังแกล้งแสดงออกว่าไม่มีอะไร ก็เป็นการฝืนต่อจิตใจอันดีงามของตนเอง
    กิริยาวาจา ความประพฤติผิดๆ ไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงให้ดี คำพูดออกจากปากแต่ละคำ วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นให้เสียๆ หายๆ มักมีคำกล่าวว่า ผู้ที่ชอบใส่ความผู้อื่นผิดๆ คนๆ นั้นก็จะเป็นเหมือนที่เขาพูดนั่นแหละ
    หวังว่าน้องเมธีทั้งหลายกล้าที่จะย้อนมองส่องสำรวจตนเอง ปราชญ์อริยะแต่โบราณไม่กลัวที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขความผิดทุกอย่าง นับเป็นแบบอย่างที่ดีที่เราควรจะเจริญรอยตาม
    ความคิดที่ไม่ดี ความประพฤติไม่ดี เปรียบเสมือนมือที่ถืออาวุธอยู่ ให้รีบวางลงเสีย แล้วมุ่งบำเพ็ญธรรมโดยปราศจากความสงสัย จะต้องสำเร็จเป็นพระพุทธะแน่นอน
    ถ้าหากมีจิตใจมุ่งมั่นที่จะฉุดช่วยเวไนยสัตว์ทั้งหลาย แล้วแสดงเจตน์จำนงอันยิ่งใหญ่ มีศรัทธาในการบำเพ็ญ เปรียบเสมือนความสว่างที่ส่องมาจากฟากฟ้า มาสู่เวไนยสัตว์ไม่มีวันดับสูญ
    กฎแห่งกรรมมีความยุติธรรมไม่ผิดพลาด สร้างกุศลกรรมหรืออกุศลกรรม ดีหรือชั่ว ต้องได้รับการตอบสนอง ฟ้าเบื้องบนมีหลักสัจธรรมจริง แสดงออกมาอย่างชัดเจนให้เราได้เห็นในโลกมนุษย์นี้ ทำความดีต้องได้รับแต่กรรมดี ทำความชั่วจะนำมาซึ่งภัยพิบัติ แต่โบราณมาจนถึงปัจจุบัน ไม่มีใครได้รับการยกเว้น

    3. หากเคลือบแฝงเสแสร้ง
    如有虛心假意
    (หยูอิ่วซวีซินเจี่ยอี้)

    ผู้ที่ได้รับธรรมะแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่าการบำเพ็ญธรรมดี แต่ไม่ยอมยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงที่จะดำเนินการ ขณะถวายธูป ปากก็ท่องบ่น เฉียนซินกุ้ยไจ้ หมิงหมิงซั่งตี้เหลียนเซี่ย (虔心跪在 明明上帝蓮下) คุกเข่าด้วยความศรัทธา แห่งพระอนุตตรธรรมเจ้า แท้จริงแล้วเพียงใช้ปากท่อง แต่ไม่ได้แสดงออกจากจิตใจ ซึ่งก็ได้แต่พูดไปตามแบบฉบับเพื่อหลอกลวงเบื้องบน
    การแสดงออกต่อหน้าทุกคำพูดว่าจะบำเพ็ญธรรม ศึกษาธรรม แต่กลับกัน ความประพฤติกลับต่อต้านธรรมะ ทำลายธรรมะ ไม่ต้องสงสัย จะต้องเป็นคนสวมหน้ากากแน่นอน ปากพูดกับใจคิดเป็นคนละเรื่องกัน ทั้งหมดเป็นการเล่นลิ้นเท่านั้น
    การใช้วาจาทำให้คนอื่นหลงผิด การแสวงหาชื่อเสียงโดยอยากให้คนสรรเสริญนั้นเป็นเพียงเน้นรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสำคัญ บุญกุศลที่เกิดได้โดยเปิดเผย หรือไม่เปิดเผย ไม่ค่อยจะยินดีทำ
    น้องเมธีชายหญิงทุกคน ทำไมถึงไม่พินิจพิจารณาเพื่อสำนึก สิ่งที่ศาสนาปราชญ์พูดย้ำไว้ก็คือ สุภาพชนอยู่คนเดียวต้องระวังจิต หมายความว่า ถ้าเราอยู่คนเดียวง่ายที่จะทำให้จิตเกิดการปรุงแต่งขึ้น ดังนั้น จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าคิดว่าปิดประตูมิดชิดแล้วจะทำในสิ่งที่ไม่ดี นึกว่าไม่มีใครเห็น แท้จริงแล้วเหนือศีรษะของเราสามฟุตยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำอย่างชัดเจน ซึ่งแม้แต่เรากระซิบกันเบาๆ เบื้องบนได้ยินเสียงเหมือนฟ้าร้อง ปวงพระพุทธะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพยดา ได้ทำการตรวจสอบฟ้าดินอยู่ตลอดเวลา เธอไม่กลัวกฎสวรรค์เที่ยงธรรมลงโทษหรือ

    4. ถดถอยไม่ก้าวไป
    退縮不前
    (ทุ่ยซัวปู้เฉียน)

    เมื่อได้ชื่อว่าเป็นผู้บำเพ็ญธรรม จะต้องมีจิตใจที่มุ่งมั่นแข็งแกร่ง เมื่อแรกเริ่มมีความขยันมาก เสมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ต่อหน้า ต่อมาก็เกียจคร้านไม่ยอมวิริยะก้าวไป ถ้าไม่มีความเสมอต้นเสมอปลายในการบำเพ็ญแล้ว จะบรรลุมรรคผลคงจะยาก
    เมื่อพบอุปสรรคก็ถดถอยเสียแล้ว แต่ถ้าทุกอย่างราบรื่นจึงจะยอมศึกษา ถ้าหากยังวิ่งๆหยุดๆ เช่นนี้แล้ว จะเป็นคนบำเพ็ญที่เข้าใจสัจธรรมได้อย่างไร
    การศึกษาทางโลกก็ตาม ตลอดจนศึกษาบำเพ็ญธรรมก็ตาม เปรียบเหมือนการพายเรือทวนน้ำ การพายเรือทวนน้ำนั้น ถ้าไม่พยายามพายไปข้างหน้าแล้ว จะถูกน้ำพัดพาให้ถอยกลับไปเป็นแน่ นี้เป็นสัจธรรมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่โบราณกาลมา
    จึงหวังว่าน้องเมธีชายหญิง คงก้าวไปไม่ทดท้อ ถดถอย จะต้องมีจิตมุ่งมั่นบำเพ็ญธรรมไม่เปลี่ยนแปลง ผจญหมื่นพันลำบากก็ไม่ยอมท้อถดถอย จึงจะเป็นวีรบุรุษมีปัญญากล้าหาญที่แท้จริง
    หนทางไปนิพพานแม้จะแสนไกล แต่ขอให้มีความมานะ อดทนพยายาม เดินหนึ่งก้าว จะใกล้อีกหนึ่งก้าว
    ยิ่งขยันเดิน ยิ่งใกล้เข้าทุกที ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด จะไม่เปลี่ยนแปลงความคิดเดิม มีปณิธานที่จะไปถึงจุดหมายให้ได้ เมื่อได้รับธรรมะแล้ว ถ้าศึกษาบำเพ็ญเพียงครึ่งทางไม่สานต่อก้าวไปจนถึงที่สุดแล้ว ผลบุญที่ได้สร้างไว้จะหดหายไป หากภัยพิบัติมาถึง ก็น่าเสียดายที่ธรรมญาณจะต้องถูกทำลาย

    5. หลอกลวงลบล้างบรรพจารย์
    欺師滅祖
    (ชีซือเมี่ยจู่)

    ผู้บำเพ็ญธรรม หากไม่หัดอ่อนน้อมถ่อมตน ย่อมผิดต่อความประสงค์ของพระบรรพจารย์ จะเป็นการทำลายธรรม จนกลายเป็นความบ้าบิ่น ตั้งแต่โบราณมา กว่าจะได้พบพระวิสุทธิอาจารย์มิใช่เรื่องง่าย จะต้องออกป่า ขึ้นเขา ลงห้วย แสวงหาพระวิสุทธิอาจารย์จนสุดหล้าฟ้าเขียว ด้วยตั้งจิตศรัทธามุ่งมั่น จึงออกตามหาพระวิสุทธิอาจารย์ เดินทางเป็นพันๆ ลี้ เข้าถ้ำ ปีนเขาสูง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้แสวงหาในครั้งนั้น แม้จะต้องอดทนต่อความยากลำบากนานาประการ ก็ยังไม่พบพระวิสุทธิอาจารย์ ชีวิตทั้งชีวิตเกิดมาใช้เวลาในการเสาะหาพระวิสุทธิอาจารย์ด้วยความยากลำบาก น่าสงสาร ก็ยังไม่ได้รับวิถีธรรมที่แท้จริง บัดนี้เราทั้งหลายต่างก็ได้รู้จักธาตุแท้ธรรมญาณของตนแล้ว จึงหวังว่าเมธีชายหญิงทั้งหลาย จะต้องรู้จักเคารพพระบรรพจารย์และเทิดทูนธรรมะ จึงจะถูกตรงต่อหลักฟ้า เมื่อชาตินี้มีบุญสัมพันธ์ได้เป็นอาจารย์ได้เป็นศิษย์กันแล้ว จึงจะได้อยู่ร่วมกับพระอาจารย์เป็นหมื่นๆ ปี แต่ถ้าหากว่าในจิตใจยังไม่สำนึกถึงบุญคุณ คิดหลอกลวงลบล้างพระบรรพจารย์แล้ว แม้เธอจะเก่งกาจ และมีบุญกุศลมากมายเพียงใด ก็ยากที่จะรักษาชีวิตไว้ได้

    6. ลบหลู่นักธรรมอาวุโส
    藐視前人
    (เหมี่ยวซื่อเฉียนเหยิน)

    ผู้บำเพ็ญธรรม ถ้าหากยังไม่เข้าใจถึงมนุษยธรรมมีความเป็นคนในเบื้องต้นและอนุตตรธรรมให้ชัดเจนทะลุปรุโปร่งถึงแก่นแท้ มีจิตใจดูถูกล่วงเกินผู้อาวุโส มีความเย่อหยิ่งจองหองต่อท่านเหล่านั้น
    ไม่รู้จักบุญคุณของผู้อาวุโสที่นำพาส่งเสริมเราขึ้นมา ไม่รู้จักตอบแทนด้วยความเต็มใจ ก็ยังไม่นับว่าเป็นสุภาพชน โบราณกล่าวไว้ว่า ผู้ที่กำลังฝึกเป็นปราชญ์เป็นอริยะ เมื่อได้รับความเมตตาปราณี แม้เพียงน้ำหยดหนึ่ง จะต้องตอบแทนด้วยน้ำพุที่พลุ่งแรง การที่รู้จักบุญคุณและรู้จักการตอบแทนพระคุณ จึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนที่บำเพ็ญอย่างแท้จริง
    ต้นไม้ต้นหญ้า หากไม่มีรากก็จะไม่เจริญเติบโต เช่นเดียวกับเวไนยสัตว์ หากว่าไม่มีใครนำพารับรองเข้ารับธรรมะ หนทางการบำเพ็ญ ก็ดูจะเป็นเรื่องยากยิ่ง
    หวังว่าเมธีชายหญิง จะต้องรู้จักแยกแยะสัจธรรมให้ชัดเจน ทุกคนร่วมเป็นจิตหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมมือปฏิบัติงานธรรม ในปลายธรรมกาลยุคสามอันยิ่งใหญ่นี้
    ต้องนึกถึงอาจารย์ผู้นำพาและรับรองเรา ท่านเหล่านั้นจะต้องคุกเข่าต่อหน้าพระแท่น แสดงความเคารพต่อพระแม่องค์ธรรม ได้ตั้งมหาปณิธานเพื่อแนะนำรับรองเรา เบื้องบนจึงโปรดเมตตาให้ได้รับธรรมะ
    ดูมดตัวเล็กๆ ยังมีมโนธรรมที่ชัดเจน รู้บุญคุณ รู้จักตอบแทนคุณ เราเกิดมาเป็นคนที่ประเสริฐกว่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ยิ่งจะต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณเป็นอย่างยิ่ง

    7. ไม่รักษาพุทธวินัย
    不遵佛規
    (ปู้จุนฝอกุย)

    ผู้บำเพ็ญธรรม ในระหว่างเป็นโลกียชน มีความสัมพันธ์ในวิสัยมนุษย์ ถ้าจิตใจขาดความละเอียดอ่อน ละเลยสิ่งที่ถูกต้อง ไม่รักษาพุทธวินัย ทำสิ่งใดๆ ไปตามอำเภอใจ ไม่เคร่งครัดต่อพุทธระเบียบ สุดท้ายไม่ว่าจะดำเนินไปตามเส้นทางใดที่ใช้ในการปฏิบัติบำเพ็ญ ก็ไม่อาจเดินหนทางที่จะกลับคืนสู่เบื้องบนได้
    เบื้องบนโปรดเมตตาประทานพุทธระเบียบลงมา เกรงว่าเวไนยสัตว์จะปล่อยปละละเลยทั้งกายและใจ ไม่มีกฎระเบียบในการควบคุม ถ้าไม่ยึดมั่นในพุทธระเบียบแล้วจะกลับบ้านเดิมได้หรือ
    หวังว่าเมธีชายหญิงทั้งหลาย ทุกเวลาจะต้องประจักษ์แจ้ง ทุกเวลาจะต้องเคร่งครัดในการรักษาพุทธระเบียบ ระมัดระวังและเดินไปตามแสงสว่าง เพื่อก้าวไปบนหนทางของการบำเพ็ญ
    รถไฟแล่นไป ถ้าไม่มีรางบังคับ จะเกิดอุบัติเหตุได้ การเดินเรือหากไม่มีหางเสือบังคับทิศทาง ก็เกิดอันตรายได้
    เหมือนกับคนบำเพ็ญธรรม หากไม่นำพุทธระเบียบมายึดถือให้มั่นคงไว้ ก็ยากที่จะหลุดพ้นจากทะเลทุกข์ จะตกอยู่ในภูมิวิถีหกอีกยาวนาน

    8. แพร่งพรายความลับสวรรค์
    洩漏天機
    (เซี่ยโล่วเทียนจี)

    ผู้บำเพ็ญธรรม จะต้องระวังการพูดจา ไม่นำเอาความลับที่เบื้องบนโปรดประทาน คือไตรรัตน์ที่ใช้บำเพ็ญเพื่อพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดมาเปิดเผย
    ตั้งแต่โบราณมามีภัยพิบัติมากมายเป็นพันเป็นหมื่น จะหาพระวิสุทธิอาจารย์ที่มีพระโองการสวรรค์ให้พบเป็นเรื่องยาก คาถาศักดิ์สิทธิ์ไร้อักษร ที่ถ่ายทอดจากปากสู่จิต หากไม่ใช่พระวิสุทธิอาจารย์ได้นำมาถ่ายทอดแล้ว ก็มิอาจมีใครกล้านำมาเปิดเผยได้
    ศาสนายู้ ศาสนาพุทธ ศาสนาเต๋า ทั้งสามพระศาสดานั้นต่างรักษาความลับมิกล้าเปิดเผย เราที่เป็นโลกียชนคนธรรมดากล้าที่จะเปิดเผยได้อย่างไร
    หวังว่าเมธีชายหญิง จงอย่าได้ทำสิ่งที่ขัดกับหลักธรรมฟ้า จะทำให้เบื้องบนเสียแรงเปล่าที่พยายามฉุดช่วยเมธีทั้งหลายอย่างลับๆ หากว่าเรานำเอาความลับสวรรค์ไปเปิดเผยตามอำเภอใจ จะทำให้การฉุดช่วยธรรมญาณของเวไนยสัตว์ขาดช่วงลง บาปกรรมอันนี้จะแบกรับไม่ไหวนะ
    ขณะนี้เป็นยุคสามสุดท้ายปลายกัป เบื้องบนโปรดเมตตาฉุดช่วยซึ่งเป็นโอกาสดี เป็นความลับแต่โบราณได้ถ่ายทอดเฉพาะคนต่อคน เป็นวิถีทางหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด จะไม่มีการถ่ายทอดง่ายดายอย่างนี้อีก
    ฉะนั้นทุกคนจะต้องระมัดระวังคำพูดการกระทำของตัวเอง ตั้งจิตศรัทธามุ่งมั่นปฏิบัติบำเพ็ญต่อไป ขณะคุกเข่าต่อหน้าพระแท่นแห่งพระอนุตตรธรรมเจ้า ได้ตั้งมหาปณิธานจึงได้รับธรรมะ และตั้งใจเจริญปณิธานเพื่อบรรลุ จะกลับแดนนิพพานได้โดยธรรมชาติ ไม่ต้องตกอยู่ในความทุกข์ของการเวียนเกิดเวียนตายอีกต่อไป

    9. ปิดบังธรรมะไว้มิให้ปรากฏ
    匿道不現
    (นี่เต้าปู๋เซี่ยน)

    ผู้บำเพ็ญธรรม ส่วนมาไม่เจริญรอยตามพระศรีอาริยเมตไตรยพระบรรพจารย์ผู้มีจิตเมตตา จิตเมตตาของพระองค์สู่เวไนยสัตว์เป็นหนึ่งเดียวกัน เมื่อตัวเองได้รับวิถีธรรมแล้ว และรู้ว่าธรรมะนี้ดีมีค่าสูงส่ง ถ้าเพียงแต่ฝังอยู่ในจิตใจเฉยๆ ไม่นำพาไปป่าวประกาศให้คนรอบข้างได้รับรู้ จะทำให้โอกาสในการฉุดช่วยพุทธบุตรชายหญิงในปลายกัปนี้ผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป
    แม้เบื้องบนได้ประทานธรรมะลงมาก็ตาม เพราะว่าธรรมะเป็นสิ่งไร้เสียง ไร้กลิ่น ไร้รูปลักษณ์ จึงต้องอาศัยคนที่เข้าใจธรรมะนี้ดีแล้วมาช่วยชี้แนะ บอกกล่าวกันให้ทราบ ถ้าคนที่เข้าใจหลักสัจธรรมดีแล้วไม่ยอมออกมาชี้แนะ เหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลายจะมีโอกาสรับวิถีธรรมได้อย่างไร การได้ฟังหลักธรรมของเบื้องบนที่มีคุณค่ายิ่งนี้
    พวกเธอทุกคนได้ประสบโชคดีถึงสามชาติ (อดีตชาติ ปัจจุบันชาติ อนาคตชาติ) ได้พบพุทธสถานและได้รับวิถีอนุตตรธรรม จึงหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด บุญสัมพันธ์อันนี้ หากมิใช่ผู้อาวุโสทั้งหลาย รวมทั้งผู้แนะนำรับรองคอยชี้แนะ จะสามารถนำพาเธอให้สำนึกตื่นจากที่ยังหลับหลงอยู่ในชื่อเสียงสรรเสริญ ลาภยศ บุญคุณ ความรัก ที่วนเวียนอยู่ในทะเลทุกข์นี้ได้อย่างไร
    หวังว่าเมธีชายหญิงทั้งหลาย จะต้องกลับไปทบทวนตนเอง ต้องรู้และตัวเองต้องบากบั่น อริยะเมธีแต่โบราณได้บอกกับเราไว้ว่า หากได้รับสัจธรรมอันมีค่านี้แล้ว ควรต้องนำกุศลอันดีนี้ไปเผยแผ่กับทุกคนในโลก ให้ทุกคนในโลกนี้ได้รับวิถีธรรม
    ตั้งแต่โบราณมาผู้ที่สำเร็จเป็นพระพุทธะพระโพธิสัตว์ เพราะได้อยู่ใกล้ชิดเวไนยสัตว์ ได้สั่งสอนเวไนยสัตว์ให้กลายเป็นคนดี มีความแน่วแน่ในหน้าที่ ที่จะฉุดช่วยและนำพาผู้คน ให้ชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองสามารถที่จะยืนหยัดขึ้นได้ และจะต้องนำพาให้คนเหล่านั้นยืนหยัดให้ได้เช่นเดียวกัน ให้ทุกคนมีโอกาสได้รับวิถีอนุตตรธรรมทั้งหมด หลอมตนเข้ากับธรรมะ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
    ในยุคนี้เบื้องบนโปรดเมตตาฉุดช่วยสามโลก ประทานวิถีทางสะดวกกว้างใหญ่ไพศาล ให้ชายหญิงทั้งหลายที่เป็นพุทธบุตรเดิม ได้ซึมทราบทั่วกัน ความกรุณาของพระแม่องค์ธรรมในครั้งนี้ เพื่อให้พวกเรากลับบ้านเดิมได้


    10. (ชาย) จะปฏิบัติธรรมตามควรแก่กำลัง
    (หญิง) จะบำเพ็ญธรรมโดยศรัทธา
    不量力而爲者 (ปู๋เลี่ยงลี่เอ๋อเหวยเจ่อ)
    不實心修煉者 (ปู้เฉิงซินซิวเลี่ยนเจ่อ)

    ผู้บำเพ็ญธรรม มักจะไม่ยอมทุ่มเทใจทั้งหมดออกมาบำเพ็ญ จึงทำให้จิตเดิมแท้ของเราที่สะอาดบริสุทธิ์ ได้รับความแปดเปื้อนโดยมิได้ขัดเกลา มีใครบ้างที่ยืนอยู่บนหน้าที่ของตัวเองอย่างแท้จริงและนำเอาจิตใจของตัวเองที่มีอยู่ทั้งหมด ออกมาสร้างบุญกุศลเพื่อเจริญปณิธาน บำเพ็ญและปฏิบัติธรรมด้วยดี
    หากยังถูกอารมณ์ ความรัก ความใคร่ บุญคุณพันธนาการอยู่ไม่อาจมองทะลุ ไม่อาจตัดขาด จึงยังคงเป็นความฝันที่เลอะเลือน ส่วนมากมักหลงผิดคิดว่าทรัพย์สินเงินทอง วัตถุที่แสวงหามาได้มีความสำคัญ มีค่ามากกว่าชีวิตเสียอีก
    การที่จะเกิดกายเป็นคนมิใช่เรื่องง่าย วัยหนุ่มสาวผ่านไปจะไม่หวนกลับมาอีก โอกาสของการบำเพ็ญที่ดีเลิศคือ ขณะที่มีกายเนื้อนี้อยู่ ถ้ายังไม่รีบฉวยโอกาสนี้แล้ว ก็จะเหมือนกับสายน้ำที่ไหลผ่านไป แล้วหายไปอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ยังหลงติดในความสุขสบาย มักจะเกียจคร้านที่จะบำเพ็ญธรรม ผลสุดท้ายก็พลาดโอกาสอันดีนี้ แต่โบราณมายังไม่เคยมีเช่นนี้มาก่อน นอกจากยุคนี้
    จึงหวังว่าเมธีชายหญิงทั้งหลายคงจะไม่ปล่อยให้การเกิดมาใช้ชีวิตในช่วงจังหวะที่มีความสำคัญที่สุดนี้พลาดไป หากว่าโอกาสการบำเพ็ญธรรมอันดีนี้ผ่านไปแล้ว กายเนื้อที่มีค่านี้สลายไปแล้ว คิดอยากจะได้พบบุญวาระเบื้องบนโปรดฉุดช่วยครั้งใหญ่เช่นนี้อีก เป็นสิ่งที่ยากยิ่ง
    จึงขอให้รีบฉวยโอกาสที่บุญวาระของกาลเวลานี้ที่มีอยู่ รีบเร่งปฏิบัติบำเพ็ญ บัดนี้กาลเวลาคับขันเหลือเกิน เสมือนไฟไหม้ถึงคิ้วแล้ว แม้จะยังคงไม่ใช่ผลสุดท้ายทีเดียว ก็ขอให้ทุกคนรีบทำบุญบริจาคสงเคราะห์สาม ให้ปฏิบัติอย่างจริงจัง การทำบุญบริจาคสงเคราะห์สามคือ
    1. ทรัพย์เป็นทาน ใช้เงินทองทรัพย์สมบัติ บุกเบิกแพร่ธรรม บริจาคเงินช่วยงานธรรม พิมพ์หนังสิธรรมะ
    2. วิทยาเป็นทาน ประกาศเผยแพร่งานธรรม ปลุกเวไนยที่ยังหลับหลงอยู่ให้ตื่น นำพาคนมารับวิถีธรรม และส่งเสริมจนรู้แจ้งใจหลักธรรม
    3. แรงกายเป็นทาน ร่วมช่วยงานพระพุทธะรับใช้อาณาจักรธรรม เยี่ยมเยือนญาติธรรม เกื้อกูลทุกคน
    มหาปณิธานทั้งสิบข้อนี้ เป็นรากของผู้บำเพ็ญ นำไปสู่ความสำเร็จ สัจธรรมที่แฝงไว้มีค่ามหาศาล หากว่าทุกท่านสามารถนำสิ่งสำคัญที่ได้กล่าวไว้ไปปฏิบัติบำเพ็ณญด้วยความสุจริต นำปณิธานที่ตั้งไว้ไปดำเนินตามด้วยกำลังทั้งหมดที่มีอยู่ ไปผสมผสานกับชีวิตประจำวันของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับการบำเพ็ญให้สอดคล้องกัน ถ้าเป็นดังกล่าว ชาตินี้เรามีโอกาสบรรลุได้ สามารถฟื้นฟูจิตเดิมแท้ได้ และเป็นพระพุทธะกลับบ้านเดิมได้แน่นอน
     
  8. ไม่เน้นขาย

    ไม่เน้นขาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +61
    [​IMG]
    ทุกอย่างเพื่อศิษย์
    พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง
    ทำนอง: เพลงทุกอย่างเพื่อเธอ

    แม้ต้องเจ็บปวดมากมาย ฉันพร้อมทำได้เพื่อศิษย์ หวังเพียงศิษย์จะก้าวไป ในโลกาวกวนทุกวัน
    *ห่วงหาอาทรศิษย์รัก ยากนักจะให้สมหวัง แค่ขอให้คลายทุกข์ลงสักนิด
    **อาจารย์ศิษย์รักผูกพันด้วยรอยน้ำตา ทำให้ฉันทำทุกอย่างเพื่อศิษย์
    เพื่อศิษย์ทั้งหลายพ้นภัย ยอมสู้ไม่ยอมพ่ายแพ้ มันเป็นหน้าที่ของฉันที่ทำเพื่อศิษย์เสมอ จะสู้ก็สู้ด้วยกัน ผ่าฟันไปพร้อมกับศิษย์ สุดท้ายจะเป็นอย่างไร ข้ารับมันได้ทั้งนั้น เพื่อศิษย์ ทั่วหล้า
    จงอย่าทุกข์ทน ปวดร้าว แบ่งปันมาให้ข้าเถิด แม้จะเจ็บปวด ข้ารับได้เสมอ อาจารย์ยินดีอยู่ข้างศิษย์
     
  9. จอมโลกธาตุ

    จอมโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +2,063
    ทุกท่านที่ได้อ่านโอวาทจอมปลอมนี่ขอให้ทราบนะครับว่า ทุกอย่างได้มากจากการเข้าทรง
    เข้ทรงแอบอ้างสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายทั่วทุกศาสนา แอบอ้างเยซู กวนอิม นาจา อัลเลาะ แอบอ้างเข้าทรงเป็นพระพุทธเจ้าเขียนพระไตรปิฏกใหม่เพี้ยน ๆ พวกนี้ทำได้หมด

    การกระทำนี้มาจากลัทธิอนุตตรธรรม ลัทธิทำลายพระศาสนาที่แพร่ระบาดในเมืองไทยอย่างมาก คำสอนทุกอย่างในลัทธิก็มาจากการเข้าทรงทั้งนั้นไม่ทราบว่าเอาผีเปรตที่ไหนมาแล้วกล่าวตู่ว่าเป็นพระพุทธเจ้าเขียนตำราแข่งพระพุทธเจ้าเสมอ ในเว็บไซส์ต่าง ๆ ลัทธินี้ก็ออกเผยแพร่ความเพี้ยนไปทั่วรวมทั้งในเว็บนี้เองก็มากมาย ลัทธินี้สอนว่าพระไตรปิฏกนั้นไม่น่าเชื่อถือแต่การเข้าทรงผีเปรตของเขาในลัทธิน่าเชื่อถือที่สุด


    http://palungjit.org/threads/อนุตตรธรรม-กับความจริงที่จำเป็นต้องรู้.354445/

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=GnEzIkPaEnU"]???????????????????????????????1 - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=1mgAEx4u8-c"]???????????????????????????????2 - YouTube[/ame]

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=xMaF27_5bOM]อนุตตรธรรม-ไตรรัตน์ - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...