ฝันเรื่องพระเครื่อง บน มือ ครับ

เมื่อ คืน ผม ฝันว่า ได้ พระเครื่อง 5 องค์ มี 5 พิมพ์ มีใบโพธิ์ มี ทุ่งเศรษฐี อีก 2 องค์ เป็น พระเครื่อง แบบ 3 เหลี่ยม และองค์ สุดท้าย เป็น พระ พิมพ์ มารวิชัย .พอรับมา ใส่มือซ้ายไว้ ก็ เกิด ความร้อน ที่มือ ทันที..ร้อน )ฉ่าขึ้นมาเลย

ความหมาย เป้นยังไง ไม่ทราบ ใครทราบลอง วิเคราะห์ ดูนะครับ แต่ผมมั่นใจว่า ฝันดี มากครับ...

 

ฝันอย่างนี้ถ้าคุณเป็นนักปฏิบัติธรรมจะได้บารมีเพิ่มเติม

 

ที่ผมเรียนและปฏิบัติธรรมกับพระสุพรหมยานเถระ (ทอง สิริมงฺีคโล) มาก็หลายปี คนปฏิบัติพระกัมมัฏฐานจะไม่ฝันครับ พวกนักฝันเพ้อเจ้อควรจะปฏิบัติธรรมนั่งกัมมัฏฐานให้มาก ๆ จิตจะได้ไม่ฟุ้งครับ ไม่เชื่อไปวัดพระธาตุศรีจอมทอง จังหวัีดเชียงใหม่ แล้วไปขอฝึกพระกัมมัฎฐานคุณจะได้พบทางสว่างที่แท้จริง อย่าเชื่อผม พระพุทธเจ้าท่านก็ว่าอย่าเชื่อถ้ายังไม่ได้ปฏิบัติ

 

ผมขอถามคุณkhonkae คนไม่ฝันหมายถึงอะไร คำตอบ คนตาย ปฏิบัติกรรมฐานกับความฝันไม่เกี่ยวกัน มันฝันกันได้ครับ หลวงปู่หลวงพ่อนักปฏิบัติธรรมยังมีความฝันอยู่ก็เยอะแยะไป
ปล.ผมฝึกกรรมฐานทุกวันได้4ปี2เดือนแล้วครับนั่งวันละ4-7ครั้งครั้งละ30นาที

 

ในคัมภีร์...พระอภิธรรม..ปริจเฉท ที่ 4...เรื่อง สุบินวิถี...กล่าวไว้ว่า...

สุบินวิถี คือ ความฝัน ความเป้นไปของจิต ในขณะนอนหลับ ได้แก่ กามชวนมโนทวารวิถี..ขณะหลับ มักเกิดในบุคคล 6 ประเภท

1. ทุคติบุคคล((เว้นสัตว์นรก)) 2. สุคติบุคคล 3. ทวิเหตุกบุคคล 4. ติเหตุกบุคคล((เว้นรูปพรหม และ อรูปพรหม)) 5. โสดาบันบุคคล 6. สกทาคามิบุคคล

สัตว์นรก ที่ไม่ฝันเพราะว่า ได้รับทุกขเวทนา มากจนไม่มีโอกาส ที่จะใฝ่ฝันได้
รูปพรหม อรูปพรหม อนาคามิบุคคล และ อรหัตบุคคล..ท่านเหล่านี้ไม่ฝันแล้ว เพราะ ปราศจาก กามราคะ
บุคคล ที่ยังฝันอยู่ นั้น แสดงว่า ยัง กามราคะ มี กามฉันทะอยู่....

 

คุณ เป็นจำพวกไหน ล่ะครับ...จึงไม่ฝัน...ดู คำอธิบายที่ผมนำมาลงไว้นะ หาก คุณ ไม่ใช่ ทุคติ บุคคล((จำเพาะ สัตว์นรก )) คุณ ก้อ ต้องเป็น อริยบุคคล ชั้น สูง ล่ะครับ...ผม ยก อภิธรรมมาให้ดู หวังว่า อาจารย์สอนคุณ คงไม่เหนือ กว่า พระไตรปิฎก นะครับ

 

ผมจะบอกให้นะครับ..ที่ คุณ คนแก่ แก กล่าวว่า นักปฎิบัติ จะไม่ฝัน และมี แต่ นักฝัน เพ้อเจ้อ เท่านั้น เพราะ อะไร ทราบกันมั้ยครับ

เพราะว่า คุณ ยุทธพงศ์ แก มาทำนายฝัน ที่ผม นำมาลงไว้ แล้วแก ทายว่าฝันของผม แบบนี้หาก เป็นนัก ปฎิบัติ จะได้บารมี เพิ่ม...คุณ คนแก่ เลย เกิด อาการ อิจฉา ตาร้อน ผ่าวๆๆๆ..ในใจ แบบ ที่ไม่รู้ตัว เลยออกอาการ อวด ภูมิ แบบ ไม่เคยเรียนรู้มาก่อนว่า ของจริงเป็นยังไง..แถม อวด ตัวเองว่า เป็นนัก กรรมฐาน อีกด้วย..หุหุ...เรียกว่า ยก หาง ตัวเอง กันล่ะครับ....จิต ฟุ้ง ไม่ฟุ้ง เนี่ย เป้นแบบไหนล่ะ..หาก จะคุย เรื่อง กรรมฐาน..แวะมาใหม่ได้ เดี๋ยวผม จะแสดงให้ ฟัง..

 

จิต ไม่ฟุ้ง เนี่ย...มันแปลว่า สงบลง..ทีนี้ ความสงบ ของจิต เนี่ย..คุณ รู้หรือยังว่า มันมีทางเกิด ได้ 2 แบบ

หาก ทำสมถะ นั่ง เพ่ง มันบ่อยๆ หาอะไร มา เพ่ง แบบ ตั้งไว้เป็นอารมณ์ ไม่ว่า กสิณ หรือ การ กำหนดลม ดูท้องพองยุบ หรือ จะภาวนา อะไร ที่ยึดไว้อย่างเดียว เป้นอารมณ์ แบบ นี้ เขาเรียกว่า ทำสมถะกรรมฐาน ความสงบที่ได้ เขาเรียกว่า ฌาณจิต ยังไม่ใช่ สมาธิ

สมาธิ..รากศัพย์ คำนี้แท้ๆ ต้อง มีได้ เฉพาะ กับ วิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น...ะเพราะ สมาธิ นี่ เดิมๆ เขาหมายเอา แต่ สัมมาสมาธิ หมายความว่า..เมื่อ ผู้ใด เจริญ สติ จน จิตเห็น ความจริง ของโลก อันหมายถึง รูป นามทั้งหลาย ล้วน เป้น ทุกข์ หรือ เป็น อนิจจัง หรือเป็น อนัตตา...จิตจะ วาง ขันธ์ 5 ลง เป้นขณะๆไป ..เกิดความสงบ เยือกเย็น ด้วยเพราะ เห็น สัจจะ ด้วยตัวมันเอง อันนี้ จึงเป็น สัมมาสมาธิ..กล่าวคือ เป็น สมาธิ แบบ ดีงาม ถูกต้อง

แต่ การ ทำสมถะ นั้น ได้ฌาณ เท่านั้น มันสงบเพราะ มีการ ชักนำ มีการล่อ ด้วย อารมณ์ ต่างๆ ที่เราตั้งไว้ สำหรับเพ่ง จิต มันสงบ ได้ เพราะ มีการ เพ่ง มันไม่ได้สงบเอง..พวก ฤาษี เขาเก่งมานานแล้ว แบบนี้..เมื่อไร ที่ อำนาจ บังคับใจ หมดแรงไป จิตจะ ฟุ้งซ่านหนัก กว่าเดิมมาก...ทำให้เวียน เกิด ไม่จบสิ้น
เพราะเหตุนี้ เอง โลกจึงต้อง มีพระพุทธเจ้า เสด็จมา ตรัสรู้ ตลอด เวลา..ตาม แต่ จะครบ วงจร เมื่อไร..ซึ่งตามตำรา โลกมนุษย์ แล้ว ที่มี พระนาม ปรากฎ ขณะ นี้ มีพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ แล้ว..ท่านมา เพื่อ สอน วิปัสสนากรรมฐาน...อันเกิดได้ จาก การ เจริญ สติ เท่านั้น...

น้อง คนแก่ พอ เข้าใจ มั้ยครับ...

 

ตามมาให้กำลังใจคะคุณ vitcho ฝันดีนะคะ

 

มาให้กำลังใจคะคุณ vitcho +1