. "บัวมันอยู่ในตม มันเสี่ยง" " .. ท่านจึงจัดว่า "ดอกบัวมันอยู่ในตม ที่มันอยู่ในโคลนนั้นน่ะ" ท่านบอกว่า มันเป็นดอกบัวที่เสี่ยง "เสี่ยงเพราะอะไร มันอยู่ในโคลนยังไม่มีหวังที่จะพ้นตมมาเลย มันจึงเป็นดอกบัวที่เสี่ยงมากทีเดียว มันเป็นเหตุที่ว่าเต่ามันก็จะกิน ปลามันก็จะกินได้" เพราะมันอยู่ในโคลน จิตใจของเราก็เหมือนกันฉันนั้น "ถ้ามันหมกอยู่ใน ราคะ โทสะ โมหะ มันเหมือนอยู่ในโคลน มัจจุราชตามเอาเป็นอาหารหมดละ มันอยู่ในโคลน มันหนาแน่น มันไม่ได้ยิน มันไม่ได้ฟัง มันไม่ได้อบรม มันหนา มันแน่น มันก็ยังมีที่หวังของมันจะเป็นได้หลายอย่าง จะเป็นปุถุชน หรืออันธภาพชนทั้งหลาย" เป็นได้หลายอย่าง .. " " .. "เหมือนบัวในตมในโคลนมันเหม็นสาบ" ดอกบัวไปเกิดที่ตรงน้ำ มันโผล่น้ำขึ้นมา มันมีกลิ่นหอมน่าทัศนาดูทุกสิ่งทุกอย่าง "ก็เพราะดอกบัวดอกนี้มันเกิดมาจากโคลนสกปรก" จิตใจของเราทั้งหลายก็เหมือนกัน "สัตว์โลกทั้งหลายก็เหมือนกัน มันปกปิดอยู่ด้วยอาสวธรรมทั้งหลายทั้งนั้นแหละ ถึงพระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันตสาวกก็ดี ก็ต้องเกิดมาจากโคลนอย่างนั้น" "มีราคะ โทสะ โมหะปกคลุมอยู่ทั้งนั้นแหละ หุ้มห่ออยู่ทั้งนั้นแหละ แต่พระพุทธองค์ก็พ้นมาได้ สาวกทั้งหลายก็พ้นมาได้" ท่านแยกกันอยู่อย่างนั้น ถ้าไม่มีอันนั้นเป็นเหตุ ผลมันก็เกิดขึ้นไม่ได้ .. " "บัวสี่เหล่า" (หลวงปู่ชา สุภัทโท) https://www.baanjomyut.com/pratripidok/cha/05.html