นายพลโตโจอดีตแม่ทัพของญี่ปุ่นมาบอกหลวงพ่อว่า "ท่านไม่ตกนรก"

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย attasade, 12 กันยายน 2014.

  1. attasade

    attasade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +2,554
    นายพลโตโจอดีตแม่ทัพของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองมาบอกหลวงพ่อว่า "ท่านไม่ตกนรก"


         "..วันที่ 16 เมษายน 2532 อาตมาเดินทางไปสอนพระกรรมฐานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาขณะที่อยู่เครื่องบินเวลาในประเทศไทยประมาณตี 2 มีอาการเคลิ้มเหมือนกับคนครึ่งหลับครึ่งตื่น เห็นภาพคนมากมายรอบ ๆ เครื่องบิน ห่างออกไปก็หนาแน่นมากเหมือนกับเป็นการห้อมล้อมเครื่องบินทั้งข้างล่าง ข้างบน ทุกคนสวยหมด หน้าตาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส มีอาการสดชื่น เห็นชัดเจนมาก หลังจากนั้นก็มีภาพคน 2 คนโผล่ขึ้นใกล้ ๆ คนที่นั่งข้างหน้ารูปร่างลักษณะทรวดทรงดี หน้าตาดี แต่คนข้างหลังยืน ลักษณะเป็นคนสูงเพรียว ถามว่า "คุณชื่ออะไร" คนหลังตอบว่า "ผมคือนายพลโตโจครับ เป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น" ท่านคนหน้าก็ตอบว่า "ผมคือเจ้าชายโกโนเย"

         อันนี้ถ้าไม่ตรงกับประวัติศาสตร์ก็ขออภัยด้วย เพราะไม่ได้อ่านประวัติศาสตร์ตอนนี้

         สำหรับเจ้าชายโกโนเยไม่ได้สงสัยเพราะท่านไม่ได้ประกาศสงครามและไม่ได้เข้าสงคราม ส่วนท่านนายพลโตโจท่านสั่งทหารรบ ทหารของท่านก็ต้องตาย และทหารของคนอื่นก็ต้องตาย การรบของญี่ปุ่นเวลานั้นบุกหนักจริง ๆ บุกแบบสายฟ้าแล็บคล้ายเยอรมัน ทุ่มเทกำลังมาก ในเมื่อคนตายมาก ๆ อย่างนั้นก็แสดงว่าท่านนายพลโตโจก็ต้องบาป

         จึงถามท่านว่า "ในเมื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสั่งทหารให้รบ ท่านเป็นแม่ทัพใหญ่ ทหารฆ่าใครกี่คนท่านก็ต้องบาปด้วย และทหารทุกคนที่ตายไปท่านก็ต้องบาปด้วย เขาต้องพลัดพรากจากพ่อ แม่ จากลูก จากเมีย จากบ้าน จากช่วงที่เขามีความสุข ท่านก็ต้องบาป แล้วเวลานี้ท่านมายืนอยู่ที่นี่ ท่านไม่ได้ไปลงนรกหรือ"

    สาเหตุที่ไม่ตกนรก​


         ท่านนายพลโตโจก็ยิ้มแล้วบอกว่า "ท่านขอรับ เมื่อท่านพูดถึงบาปผมก็ยอมรับ เพราะประเทศญี่ปุ่นก็นับถือพระพุทธศาสนา ถึงจะมีนิกายต่างกันเป็นมหายานก็ตาม แต่ก็มีบุญมีบาป มีสวรรค์มีนรกเหมือนกันหมด แต่ฝ่ายมหายานหนักไปทางด้านพระโพธิสัตว์หวังเป็นครูสอนศาสนา การสั่งให้คนไปตายก็บาป การสั่งให้คนไปฆ่าคนก็บาป แต่ที่ผมไม่ตกนรกก็เพราะผมรู้วันตายครับ" ก็เลยตกใจ เพราะคนที่รู้วันตายต้องเป็นคนที่มีกำลงฌานเข้มแข็งมาก มีความกล้าเป็นพิเศษจึงรู้วันตายได้ จึงถามท่านต่อไปว่า "ท่านรู้วันตายหมายความว่าอย่างไร" ท่านตอบว่า "ในเมื่อผมเป็นอาชญากรสงคราม สหประชาชาติเขาสั่งให้ผมตาย ผมก็ต้องตาย แต่ว่าผมจะไม่ตายด้วยการทำ ฮาราคีรี คือไม่ได้ฆ่าตัวตาย วันที่เขาจะฆ่าผม ผมรู้คำสั่งของเขาล่วงหน้าว่าผมจะต้องตายวันนั้น ในเมื่อผมจะต้องตายจริง ๆ ที่พึ่งของผมไม่มี บิดามารดาก็ช่วยผมไม่ได้ บุตรภรรยาก็ช่วยไม่ได้ ญาติพี่น้องมิตรสหายก็ช่วยไม่ได้ ทรัพย์สินต่าง ๆ ก็ช่วยไม่ได้ ตำแหน่งหน้าที่การงานก็ช่วยไม่ได้ ไม่มีอะไรจะคุ้มครองความตายได้ ผมต้องตายแน่ ฉะนั้นสิ่งที่จะเป็นที่พึ่งของผมก็คือ พระ ผมนึกถึงพระคือพระพุทธเจ้า กับพระที่เคยเป็นครูบาอาจารย์ผม ผมก็นั่งนึกว่าผมต้องตายแน่ ร่างกายนี้มันต้องตาย พระญี่ปุ่นก็สอนกันว่า ตายแล้วมีสวรรค์เป็นที่ไป มีนรกเป็นที่ไป สำหรับคนทำดีหรือทำไม่ดี เวลานี้ผมนึกถึงพระ ผมมีความเคารพพระ การที่ผมต้องรบก็มีความจำเป็นต้องรบ ถ้าผมไม่รบ ผมเหลือน้ำมันที่จะต้องใช้อีก 2 เดือนก็หมด ประเทศญี่ปุ่นถ้าขาดน้ำมันก็ไปไม่รอดเพราะเป็นประเทศอุตสาหกรรม จึงมีความจำเป็นต้องรบเพื่อทรงตัวรอด จึงสั่งประกาศสงครามกับฝ่ายข้าศึกและก็ลงมือรบกัน ขณะที่ผมจะตาย ผมนึกถึงพระ นึกถึงพ่อถึงแม่ นึกถึงใครต่อใครเสร็จ ก็รวบรวมกำลังใจว่า ขอให้พระช่วยไปสวรรค์ แล้วเขาก็ลงมือฆ่าผม ผมก็ตาย เมื่อตายแล้วผมก็ไปตามใจผมนึก ผมจึงไม่ตกนรก" แกก็ไม่ได้บอกว่าไปสวรรค์ บอกแต่ว่า "เป็นไปตามใจผมนึกแต่ผมก็ไม่ตกนรก" เป็นสำนวนของผี เมื่อพูดเท่านี้ 2 ผีคือเจ้าชายโกโนเยกับท่านนายพลโตโจก็หายไป.."

    *คัดลอกจากหนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน เรื่องที่ 113 หน้า 236 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     

แชร์หน้านี้

Loading...