ทำไมพยายาม "ทำความดี" "ทำบุญ ให้ทาน" แต่ยังไม่เห็นผล?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Prophecy, 18 สิงหาคม 2012.

  1. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    [​IMG]

    โชคดีที่ได้รู้

    ภาค 1 : รู้ทันกรรม

    ถาม : ทำไมพยายามทำความดีทำบุญให้ทานในปัจจุบันแต่ยังไม่เห็นผล

    ...
    ตอบ : การทำความดีต้องทำให้ถึงใจ ให้ใจดีมีเมตตากรุณาจึงจะเป็นการทำบุญ เป็นการทำความดีอย่างแท้จริง การไปวัดทำบุญ การบวชเข้าพิธีอุปสมบทถือเป็นเรื่องภายนอก ที่สำคัญกว่าคือภายในจิตใจต้องเป็นบุญเป็นกุศล มีเมตตากรุณาจึงจะเป็นการทำความดีด้วยใจที่ดี เมื่อทำความดีด้วยใจที่ดีแล้วอานิสงส์ก็เห็นได้ในปัจจุบันคือความสุขใจ สบายใจ อย่างน้อยก็ไม่เกิดลังเลสงสัย เกิดคำถามว่า "ทำไมพยายามทำความดี ทำบุญทำทานในปัจจุบันแต่ยังไม่เห็นผล" แบบนี้

    อย่างไรก็ตาม การที่คนจำนวนมากรู้สึกว่าทำความดีแต่ยังไม่เห็นผลนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะกำลังประสบกับวิบากกรรมจากกรรมเก่าในอดีตหรือในชาติก่อน ๆ ซึ่งเป็นธรรมดาของวัฏสงสาร อย่าว่าแต่คนธรรมดาสามัญเลย แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเสื่อมลาภเสื่อมยศ นินทา ทุกข์ เช่นกัน แต่พระองค์ทรงตั้งมั่นอยู่ในความดี ใจดีมีเมตตาตลอด ได้ลาภ-เสื่อมลาภ ได้ยศ-เสื่อมยศ สรรเสริญ-นินทา สุข-ทุกข์ เป็นโลกธรรม 8 ที่ไม่แน่นอน ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญกว่าสำหรับคุณภาพชีวิตก็คือ "ทำใจได้" และ "มีกำลังใจ" เชื่อมั่นในกฎแห่งกรรมว่าทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว และหมั่นทำความดีต่อไป

    เราอาจมีสงสัยว่าทำไมบางคนทำชั่วแต่ได้ดี เช่น คนปล้นธนาคารหรือนักการเมืองที่ทุจริตในหน้าที่ทำไมรวยล้นฟ้า สามารถเสวยสุขได้ในปัจจุบัน ขอให้เข้าใจว่ากรรมชั่วนั้นยังไม่แสดงผลในทันทีก็ได้ ส่วนที่เขาร่ำรวยอยู่นี้เป็นผลของกรรมดีในอดีตมากกว่า อย่างไรก็ดี เชื่อได้ว่าชีวิตบั้นปลายของเขาอาจจะไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้ เมื่อกรรมชั่วออกผลแล้วไม่มีใครช่วยได้

    ยกตัวอย่างกรณีของพระโมคคัลลานะที่ถูกโจร 500 คนลอบฆ่า เมื่อเห็นโจรมาก็อธิษฐานหายตัวบ้าง แปลงกายเป็นแมลงวันบ้าง เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้งจนเกิดความสงสัยว่าเหตุใดโจรเหล่านี้จึงคิดปองร้ายตน เมื่อพิจารณาดูพบว่าท่านมีวิบากกรรมที่ในอดีตชาติหนึ่งเคยฆ่าพ่อแม่ ซึ่งกรรมดังกล่าวได้ตามมาเห็นในชาตินี้

    นอกจากเรื่องกรรมเก่ากรรมใหม่แล้วเราต้องรู้จักปล่อยวางในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ต้องคิดให้ได้ว่ามีลาภก็มีเสื่อมลาภ เมื่อมียศก็มีเสื่อมยศ เมื่อมีสรรเสริญก็มีนินทา เมื่อมีสุขก็ต้องมีทุกข์ ของพวกนี้ไม่แน่นอน ไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นไม่ให้ใส่ใจ ของพวกนี้ก็เหมือนกับลมฟ้าอากาศ ไป ๆ มา ๆ ของมันอยู่อย่างนั้น ให้พิจารณาอยู่อย่างนั้น

    ให้พิจารณาดูตัวเองทั้งความคิด คำพูด การกระทำ ให้เป็นศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ยินดียินร้าย ยกจิตให้อยู่เหนือปัญหา หมั่นสร้างกรรมดี หมั่นสร้างบารมี

    ถ้ายังมีทุกข์อยู่ก็ต้องตั้งใจปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าเราทำสิ่งที่ถูกต้องเราก็ไม่ต้องกลัวอะไร ให้เชื่อมั่นว่าเราจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

    นอกจากนี้ให้ฝึกสร้าง "กำลังใจ" ให้ตัวเองโดยให้เชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" แต่ทำอย่างไรจึงจะสร้างกำลังใจเพื่อสร้างกรรมที่ดี เหตุที่ดีได้

    แนวทางในการสร้างกำลังใจคือ

    1. แสวงหากัลยาณมิตร ได้แก่ ครูบาอาจารย์ เพื่อน หนังสือธรรมะ เช่น "ทุกข์เพราะคิดผิด" ให้ลองอ่านดู มีโยมท่านหนึ่งอ่านหนังสือเล่มดังกล่าวทุกวัน แต่ไม่ใช่อ่านเฉย ๆ ต้องใช้สติปัญญาพิจารณาคิดตามไปด้วย


    2. พิจารณา "โยนิโสมนสิการ" คือการคิด คิด คิด คิด คิดให้ดี คิดให้ถูก เพื่อสร้างศรัทธา (ความเชื่อมั่น) วิริยะ (ความขยันหมั่นเพียร) สติ (การระลึกได้) สมาธิ (การตั่งจิตให้มั่น) ปัญญา (ความรอบรู้)

    ...

    คัดจากหนังสือ "โชคดีที่ได้รู้" โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

    https://www.facebook.com/aj.mitsuo
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2012
  2. namonamonamo

    namonamonamo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +367
    เราปลูกผักหรือผลไม้ มันไม่ได้ออกผลในวันพรุ่งนี้
    มันต้องใช้ระยะเวลาของมันในการออกผล ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวัน หลายเดือน หลายปี
    เราไม่สามารถบังคับให้มันออกผลตามใจเราต้องการได้
    ฉันใด ฉันนั้น


    เช่นเดียวกัน เราทำบุญวันนี้ ไม่ได้ หมายความว่า ผลบุญจะให้ผลในวันพรุ่งนี้ แต่มันอาจให้ผลในวันต่อๆไป เดือนหน้า ปีหน้า หรือชาติหน้า (ถ้าคนนั้นเชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมในทางพุทธศาสนา)

    คนที่จะรู้ว่า ผลบุญ ที่เราทำจะให้ผลเมื่อใด บุคคลผู้นั้น ต้องหมดกิเลส หรือ รู้โลกอย่างแจ่มแจ้งแทงตลอด เช่น พระพุทธเจ้า

    ดังนั้น เมื่อเรารู้ว่า การให้ผลของกรรมมันมีขั้นตอนและกรรมวิธีของมัน เช่นนี้แล้ว เราก็ไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องน้อยใจ ว่าทำดีแล้วไม่ได้ดี เชื่อเถอะว่า สักวัน ผลกรรมจะตามมาเอง ในวันใดวันหนึ่ง เดือนใดเดือนนึง ปีใดปีหนึ่ง ชาติใดชาตินึง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 สิงหาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...