ตายจากคนไปเกิดเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย attasade, 19 กันยายน 2014.

  1. attasade

    attasade เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +2,554
    ตายจากคนไปเกิดเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช


         "..วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 อาตมาเทศน์ที่ศาลานวราช ได้เล่าถึงหลวงปู่กล่อม หรือพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณธรรมวราลังการ เจ้าอาวาสวัดบุปผาราม ท่านไปสำนักท่านพระยายมราชไปพบผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกท่านพระยายมราชเรียกมาสอบสวน เธอยืนยันว่าก่อนที่เธอจะตาย เธอเป็นมนุษย์ ความชั่วเธอก็ทำที่เรียกกันว่า ความชั่วเธอก็มี ความดีเธอก็ปรากฎ นั่นคือตามปกติเวลาที่ทำความชั่ว บาปอกุศล เป็นความจำเป็นเธอก็ทำ แต่ทว่ายามพลบค่ำเธอก็บูชาพระ สวดมนต์ ตอนเช้าก็ใส่บาตร วันพระก็ไปทำบุญที่วัด จิตใจตั้งอยู่ในอำนาจของกุศลสลับกันไป ระหว่างความชั่วกับความดี

         เมื่อไปถึงสำนักท่านพระยายมราช เธอก็นึกถึงความดีขึ้นมาได้เธอก็บอกว่า "เธอเคยใส่บาตรกับพระสงฆ์ เธอมีความเคารพและเอาจิตจับในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มาก เคยให้ทานการกุศล เคยฟังเทศน์" เมื่อเธอนึกถึงความดีได้อย่างนี้ ท่านพระยายมราชก็บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นก็ให้เธอไปรับผลของความดีก่อน" เมื่อเธอไปแล้ว หลวงปู่กล่อมก็ติดตามไปและก็พบว่า เธอไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช

         ตอนนี้ขอให้หลวงปู่ท่านถามนางฟ้าองค์นี้ว่า "คนที่เจริญพระกรรมฐานได้มโนมยิทธินี่ จะไปสวรรค์ทุกคนไหม" เพราะในสภาวะที่จิตเธอเป็นทิพย์ เธอรู้ตามความเป็นจริง เธอก็ตอบว่า "ไม่แน่นัก บางคนก็ลงนรกเหมือนกัน เพราะการเจริญพระกรรมฐานโดยเฉพาะมโนมยิทธิ ถ้าคิดว่าตัวเองดี ตัวเลิศ ไม่ยับยั้งในการกระทำความชั่ว ตายแล้วก็ลงอบายภูมิได้เหมือนกัน ถ้ายังไม่ถึงพระโสดาบันเพียงใด ก็เอาแน่นอนของใจไม่ได้เพราะยังคบความดีและคบความชั่วอยู่"

         นี่เป็นถ้อยคำของนางเทพธิดาที่ไปอยู่ใหม่ เธอบอกให้ทราบ และความจริงก็เป็นเช่นนั้น ตัวอย่างพระเทวทัตได้อภิญญาห้า เนรมิตได้ทุกอย่าง เหาะเหินเดินอากาศก็ได้ แต่ในที่สุดจิตเป็นโลกีย์วิสัย เกิดกำเริบอยากจะเป็นใหญ่ปกครองสงฆ์ อยากจะชิงอำนาจของพระพุทธเจ้า ในที่สุดก็ต้องลงอเวจีมหานรกไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่สิ้นใจตาย เรื่องนี้ควรจะเป็นแนวทางและเป็นเครื่องเตือนใจบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า การปฏิบัติแบบนี้เราอย่านึกว่าเราดี ขณะที่ยังมีขันธ์ 5 อยู่ จงอย่าคิดว่าดี เพราะว่าขันธ์ 5 ที่เราอาศัยอยู่มันไม่ดี มันเกิด มันแก่ มันป่วย มันตาย มันพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มันหิว มันกระหาย มันหนาว มันร้อน นี่มันไม่ดี มันจะดีก็ตอนที่เราละขันธ์ 5 ได้ แล้วก็ไปพระนิพพานนั่นแหละ.."

    *คัดลอกจากหนังสือ ตายไม่สูญ...แล้วไปไหน เรื่องที่ 103 หน้า 219 โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
     

แชร์หน้านี้

Loading...