คิดถึงอะไร เป็นสิ่งนั้น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Prophecy, 19 ตุลาคม 2012.

  1. Prophecy

    Prophecy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,221
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,605
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=699 bgColor=#000000><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=4 width=699><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>

    291 คิดถึงอะไร เป็นสิ่งนั้น

    ปัญหา ภิกษุรูปหนึ่งไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ขอให้พระองค์ทรงแสดงธรรมโปรดแต่โดยย่อ เพื่อจักได้นำไปปฏิบัติต่อไป พระโอวาทย่อว่าอย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลย่อมครุ่นคิดในสิ่งใด ย่อมเข้าไปมีส่วนเป็นสิ่งนั้น บุคคลย่อมไม่ครุ่นคิดถึงสิ่งใด ย่อมไม่เข้าไปมีส่วนในสิ่งนั้น.... ถ้าบุคคลครุ่นคิดถึง รูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร... วิญญาณ ย่อมเข้าไปมีสวน เป็น รูป.... เวทนา...สัญญา... สังขาร...วิญญาณ นั้น ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงรูป (เป็นต้น) นั้น ก็ไม่เข้าไปมีส่วนเป็นรูป (เป็นต้นนั้น)”

    ภิกขุสูตร ที่ ๑ ขันธ. สํ. (๗๔-๗๕)
    ตบ. ๑๗ : ๔๓-๔๔ ตท. ๑๗ : ๓๗-๓๘
    ตอ. K.S. ๓ : ๓๒-๓๓

    291
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    โมทนาสาธุคะ (ช่ายเลยคะท่าน )
    พิจารณา มหาพิจารณา คร๊าบพี่น้องคราบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2012
  3. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ผมค้าน
    คิดดู
    ผมค้านพระไตรปิฏก
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เป็นไปได้
    ทั้งเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง
    และไม่เข้าไป
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ทำเป็นบล็อคๆอย่างนี้.อ่านง่ายดีครับ.
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ๓. ภิกขุสูตรที่ ๑

    ว่าด้วยเหตุได้ชื่อว่าเป็นผู้กำหนัดขัดเคืองและลุ่มหลง

    [๗๔] พระนครสาวัตถี ฯลฯ ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึง
    ที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบ
    ทูลพระผู้มีพระภาคว่า ขอประทานวโรกาส พระเจ้าข้า ขอพระผู้มีพระภาค ทรงแสดงธรรม
    แก่ข้าพระองค์โดยย่อ ที่ข้าพระองค์ฟังแล้ว พึงเป็นผู้ๆ เดียวหลีกออกจากหมู่ ไม่ประมาท มี
    ความเพียร มีใจมั่นคงอยู่เถิด.

    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุ บุคคลย่อมครุ่นคิดถึงสิ่งใด ย่อมถึงการนับเพราะสิ่ง
    นั้น บุคคลย่อมไม่ครุ่นคิดถึงสิ่งใด ย่อมไม่ถึงการนับเพราะสิ่งนั้น.

    ภิ. ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ข้าพระองค์เข้าใจแล้ว ข้าแต่พระสุคต ข้าพระองค์เข้าใจแล้ว.

    พ. ดูกรภิกษุ ก็เธอเข้าใจเนื้อความแห่งคำที่เรากล่าว โดยย่อได้โดยพิสดารอย่างไร?

    ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าบุคคลครุ่นคิดถึงรูป ย่อมถึงการนับเพราะรูปนั้น. ถ้าครุ่นคิด
    ถึงเวทนา ฯลฯ ถ้าครุ่นคิดถึงสัญญา ฯลฯ ถ้าครุ่นคิดถึงสังขาร ฯลฯ ถ้าครุ่นคิดถึงวิญญาณ
    ย่อมถึงการนับเพราะวิญญาณนั้น.

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าบุคคลไม่ครุ่นคิดถึงรูป ก็ไม่ถึงการนับเพราะรูปนั้น ถ้าไม่ครุ่นคิดถึง
    เวทนา ฯลฯ ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงสัญญา ฯลฯ ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงสังขาร ฯลฯ ถ้าไม่ครุ่นคิดถึง
    วิญญาณ ก็ไม่ถึงการนับเพราะวิญญาณนั้น.

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เข้าใจเนื้อความแห่งพระภาษิตที่พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว
    โดยย่อได้ โดยพิสดารอย่างนี้แล.

    [๗๕] พ. ถูกแล้ว ถูกแล้ว ภิกษุ เธอเข้าใจเนื้อความแห่งคำที่เรากล่าวโดยย่อได้
    โดยพิสดารดีนักแล. ดูกรภิกษุ ถ้าบุคคลครุ่นคิดถึงรูป ก็ย่อมถึงการนับเพราะรูปนั้น ถ้า
    บุคคลครุ่นคิดถึงเวทนา ฯลฯ ถ้าครุ่นคิดถึงสัญญา ฯลฯ ถ้าครุ่นคิดถึงสังขาร ฯลฯ ถ้าครุ่นคิด
    ถึงวิญญาณ ก็ย่อมถึงการนับเพราะวิญญาณนั้น. ดูกรภิกษุ ถ้าบุคคลไม่ครุ่นคิดถึงรูป ก็ย่อม
    ไม่ถึงการนับเพราะรูปนั้น ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงเวทนา ฯลฯ ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงสัญญา ฯลฯ ถ้าไม่
    ครุ่นคิดถึงสังขาร ฯลฯ ถ้าไม่ครุ่นคิดถึงวิญญาณ ก็ย่อมไม่ถึงการนับเพราะวิญญาณนั้น.

    ดูกรภิกษุ เธอพึงเห็นเนื้อความแห่งคำที่เรากล่าวโดยย่อ โดยพิสดารอย่างนี้แล.

    [๗๖] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปนั้น เพลิดเพลินอนุโมทนาพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค
    ลุกจากอาสนะ ถวายบังคม กระทำประทักษิณแล้วหลีกไป. ครั้งนั้นแล เธอได้เป็นผู้ๆ เดียว
    หลีกออกจากหมู่ ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจมั่นคงอยู่ ไม่นานเท่าไร ก็กระทำให้แจ้งซึ่งที่
    สุดแห่งพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยม ที่กุลบุตรทั้งหลาย ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดย
    ชอบต้องการนั้น ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
    พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี.

    ก็ภิกษุนั้นได้เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลาย.

    จบ สูตรที่ ๓.
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    [๗๕] สาธุ สาธุ ภิกฺขุ สาธุ โข ตฺวํ ภิกฺขุ มยา สงฺขิตฺเตน
    ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ ฯ รูปฺเจ ภิกฺขุ อนุเสติ
    เตน สงฺขํ คจฺฉติ ฯ เวทนฺเจ ฯ สฺญญญเจ ฯ สงฺขาเร เจ ฯ
    วิญาณฺเจ อนุเสติ เตน สงฺขํ คจฺฉติ ฯ รูปฺเจ ภิกฺขุ
    นานุเสติ น เตน สงฺขํ คจฺฉติ ฯ เวทนฺเจ ฯ สญญญเจ ฯ
    สงฺขาเร เจ ฯ วิญาณฺเจ นานุเสติ น เตน สงฺขํ คจฺฉติ ฯ
    อิมสฺส โข ภิกฺขุ มยา สงฺขิตฺ เตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน
    อตฺโถ ทฏฺพฺโพติ ฯ

    *****************************

    รูปฺเจ ภิกฺขุ อนุเสติ เตน สงฺขํ คจฺฉติ

    เจ : ถ้าแม้นว่า

    อนุเสติ : นอนเนื่อง , หมักหมม
    เตน : เพราะ , ด้วยเหตุ

    สงฺขํ : ?????????

    คจฺฉติ : เคลื่อน , เคลื่อนไป

    **********************

    แปลอีกที : ถ้าแม้นว่าภิกษุนอนเนื่องอยู่ในรูป ก็เพราะว่า เคลื่อนจิตเข้าไปข้องในรูปนั้น

    ยกตัวอย่างเช่น : พรหมลูกฟัก เกิดจาก เคลื่อนจิตเข้าไปในรูป จิตจึงนอนเนื่องด้วยรูป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ตุลาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...