"ความกล้าหาญทางจริยธรรม" พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย คือ~ว่างเปล่า!, 19 กันยายน 2008.

  1. คือ~ว่างเปล่า!

    คือ~ว่างเปล่า! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,647
    ค่าพลัง:
    +473
    "ความกล้าหาญทางจริยธรรม" พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) สถาบันวิมุตติยาลัย ปาฐกถาในหัวข้อเรื่อง "สังคมไทยกับการสร้างสรรค์ความกล้าหาญทางจริยธรรม" ใจความสำคัญ มีดังนี้

    ..ถ้าถามว่า ทำไมในหัวข้อที่ว่าความ กล้าหาญทางจริยธรรม จึงเป็นหัวข้อที่เชื่อว่าสำคัญที่สุดในเวลานี้ ก็คงจะต้องตอบว่าเพราะสังคมไทย ณ วันนี้กำลังมีปัญหาเรื่องจริยธรรมเป็นอย่างมาก หลายปีที่ผ่านมา หรือจะเรียกว่าช่วงทศวรรษนี้ หรือตั้งแต่ ปี พ.ศ.2540 เป็นต้นมาก็ว่าได้ สังคมไทย มีคำอยู่คำหนึ่ง ซึ่งโด่งดังเป็นที่ปรารถนาและพึงประสงค์อย่างมาก นั่นก็คือคำว่า "ธรรมาภิบาล" หรือการบริหารจัดการที่ดีนั่นเอง ธรรมาภิบาลนี้นับว่าเป็นคำใหม่ บริบทเดิมของธรรมาภิบาลก็คือ การบริหารจัดการที่เรียนในเชิงธุรกิจ

    แต่เรายังมีคำที่เก่ากว่านั้นและน่าจะดีกว่าคำว่า "ธรรมาภิบาล" นั่นก็คือ คำว่า "การบริหารราชการแผ่นดิน โดยธรรม" ที่น่าสังเกตก็คือ ทำไมในช่วงทศวรรษนี้เราต้องการธรรมาภิบาลหรือเรียกร้องต้องกันกับการบริหารราชการ แผ่นดินอย่างยิ่ง ก็เพราะว่าเรากำลังขาดเนื้อในของการบริหารราชการแผ่นดิน สิ่งนี้ก็คือ " ธรรมะ"

    ธรรมะในภาคปฏิบัติก็คือ จริยธรรม คำถามต่อมาก็คือแล้วธรรมะ หรือจริยธรรม ทำไมจึงไม่ถูกนำมาประพฤติปฏิบัติให้กลายเป็นวัฒนธรรมกระแสหลักของคนไทยทั้งประเทศ นั่นเป็นเพราะว่าเรายังขาดความกล้าหาญทางจริยธรรมนั่นเอง

    แต่หากจะถามว่า ความกล้าหาญทางจริยธรรมคืออะไร คำตอบก็คือ

    หนึ่ง ความรักในความเป็นธรรม ความถูกต้อง และความจริง

    สอง ความกล้าที่จะจักยืนทำในสิ่งที่ถูกต้องและดีงาม รวมถึงเข้าใจโลกและชีวิตอีกด้วย

    สิ่งนี้คือความหมายที่แท้ของความกล้าหาญทางจริยธรรม และเราจะสามารถสร้างความกล้าหาญทางจริยธรรมที่ทำให้คนองอาจกล้าหาญในการที่จะทำเพื่อประชาชนหรือทำเพื่อเพื่อนมนุษยชาติได้อย่างไรนั้น "พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี" ได้ยกตัวอย่าง ผู้ที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรม เช่น "สุทธิชัย หยุ่น" มาให้ฟังว่า...

    สุทธิชัย หยุ่น เป็นสื่อมวลชนที่เรียกร้องหาสิทธิและเสรีภาพของสื่อมาโดยตลอด ในช่วงที่เขาไปทำงานเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยบรรณาธิการให้หนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ก็มีข่าวว่าลูกชายนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งไปพังศาลาริมทาง แล้วยังไปปัสสาวะรดอีกด้วย ซึ่งเหตุดังกล่าวนักข่าวรู้กันหมดแต่ไม่มีฉบับไหนกล้าลงแม้แต่ฉบับเดียว คุณสุทธิชัยนั้นก็เชื่อมั่นว่าสื่อจะต้องมีเสรีภาพ ถ้าสื่อไม่มีเสรีภาพจะเป็นสื่อไปทำไม จึงไปขอภาพ นักข่าวมาลง โดยแอบลงไม่ให้บรรณาธิการทราบ

    เหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อวันรุ่งขึ้นพบว่า นายกรัฐมนตรีท่านนั้นเรียกลูกชายไปตักเตือน ที่ดีกว่านั้นคือ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียนชมข่าวชิ้นนี้ และนับตั้งแต่ วันนั้น คำว่า สุทธิชัย หยุ่น จึงกลายเป็นชื่อนักข่าวคุณภาพเป็นต้นมา

    "นี่คือความกล้าหาญทางจริยธรรมที่แท้จริง แต่คนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมอย่างนี้นั้น จะต้องมีความระมัดระวังเช่นกัน เพราะเมื่อเราลุกขึ้นมาเรียกร้องความกล้าหาญทางจริยธรรมแล้วได้รับความสำเร็จ หยัดยืนลุกขึ้นมาแสดงความกล้าหาญทางจริยธรรมที่ถูก ที่ควร เราอาจจะเป็นโรคเสพย์ติดจริยธรรมได้ คือจะทำตัวเป็นทั้งมโนธรรม คือเป็นศาลเตี้ย อันนั้นไม่ดี อันนี้ไม่ได้ ที่ฉันว่าดีจึงดี ที่ฉันว่าใช่คือใช่ เริ่มไม่ฟังใคร จนบางครั้งเผลอตัวคิดว่าฉันเป็นสถาบันบุคคล"

    ทำให้ในเวลาต่อมา จะเริ่มทำตัวเป็นไม้บรรทัดวัดไปเสียทุกคนและทุกเรื่อง คนไหนหรือเรื่องไหนที่ไม่ตรงกับไม้บรรทัดของตนเองนั้น ก็จะผลักเขาไปอีกข้างหนึ่งแล้วบอกว่าคนเหล่านั้นเป็นคนไม่ดี ไม่มีจริยธรรม เราจะกลายเป็นมโนธรรม ของสังคมในลักษณะแบบเผด็จการ

    สิ่งเหล่านี้จะเป็นภัยให้กับตนเอง เพราะคุณขาดความเข้าใจในโลกและชีวิต ถ้าคุณไม่เข้าใจในโลกและชีวิต ไม่รู้จัก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา วันหนึ่งคุณจะกลายเป็นคนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมที่แข็งกล้า และที่หนักกว่านั้น คุณอาจจะกลายเป็นผู้นำทางการเมืองที่ทำให้ บ้านเมืองไม่สงบสุขสักเท่าไหร่ เพราะคุณผูกขาดความมีจริยธรรมใหม่ และเชื่อมั่นว่าจริยธรรมของฉันเท่านั้นถูกที่สุด

    "มนุษย์เรานั้นพอเชื่อมั่นว่าตัวเองถูกที่สุดแล้วทำร้ายใครก็ได้ในโลกนี้ เพราะ เขาจะถือว่าเขาผู้นั้นเป็นฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับจริยธรรม ก็คือฝ่ายอธรรมนั่นเอง และจะถือว่าฉันคือธรรมะ เพราะฉะนั้นพฤติกรรมที่ฉันทำทั้งหมดจึงถูกต้อง นี่คืออันตรายของคนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมที่จะต้องเรียนรู้เอาไว้ให้เท่าทัน มิเช่นนั้นคนที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมนั่นเอง จะเป็นผู้ที่ประพฤติร้ายต่อจริยธรรมของสังคมอย่างน่าเป็นห่วง"

    ในทางกลับกัน หากผู้ที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมมีการศึกษาธรรมะควบคู่กันไป แทนที่เขาจะทำตัวเป็นมโนธรรม เป็นไม้บรรทัดของสังคม เขาจะปรับตัวใหม่ กลายเป็นมโนธรรมของสังคม เป็นเสียงแห่งสติของสังคม มีหน้าที่คอยติงและ คอยเตือน แต่ไม่ใช่ตำหนิ และเขาจะไม่ใช่ไม้บรรทัดของสังคมอีกต่อไป หากแต่จะยังเป็นเข็มทิศที่เที่ยงธรรมของสังคม วางตนเป็นแบบอย่างให้สังคมเห็นว่า ธรรมเป็นเช่นนี้ และอธรรมเป็นเช่นนี้

    เหมือนดังที่ กุหลาบ สายประดิษฐ์ นักหนังสือพิมพ์ผู้ยิ่งใหญ่ ได้เขียนเอาไว้ว่า ก่อนพายุก็ดี ขณะที่พายุกำลังโหมกระหน่ำก็ดี หลังพายุก็ดี เรายืนอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่ต้น และเราไม่ได้ไปไหน เราอยู่ตรงนั้น มาโดยตลอด นั่นคือเขาจะทำตัวเป็นเข็มทิศทางจริยธรรม ไม่หนักไปในทางคุกคามคนอื่นให้สมาทานทางจริยธรรมของตนเองเบี่ยงเบนไป ด้วยวิธีนี้จริยธรรมของเขาจึงเป็นจริยธรรมที่ทุกฝ่ายรับได้ ไม่ใช่จริยธรรมที่มาพร้อมกับความกลัวอีกต่อไป


    ---------
    ที่มา:[​IMG]
    http://www.matichon.co.th/prachacha...g=02spe02180951&day=2008-09-18&sectionid=0223
     
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,409
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,434
    ต้องกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องครับ ความชั่วจะได้ไม่เกิดขึ้น
     
  3. แมวแหมว

    แมวแหมว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +49
    ถ้าทำถูกต้องแต่ไม่เหมาะสมล่ะ หรือถูกต้องแต่ไม่ถูกกาลล่ะ คิดเล่น เล่น
     

แชร์หน้านี้

Loading...