รู้จากตำราความรู้เอาไปละกิเลสไม่ได้

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 9 กรกฎาคม 2014.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    [​IMG]
     
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    วันนี้ผมทำสูตรล้างไขมันในลำไส้ มีส่วนประกอบคือ โยเกิรต์, นมสด, น้ำผึ้ง และมะนาว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ๑/๒ ถ้วย นมสด ๑ กล่อง น้ำผึ้ง และน้ำมะนาวตามใจชอบ

    ไปซื้อของที่เซเว่น ถามพนักงานเซเว่น สาวเซเว่นบอกทำกินมาตั้งนานแล้ว กรรม! ผมเป็นเจ้าของเวบสุขภาพ เพิ่งรู้สูตร เรื่องพรรณนี้ตามหลังสาวเซเว่น และรวมจีบสาว ไม่ค่อยเป้ง 55

    เมื่อซื้อมาครบก็มี โยเกิรต์ดัชมิลล์รส original, นมดัชมิลล์ชนิดจืด, น้ำผึ้ง ส่วนมะนาวผมซื้อไว้หลายวันแล้ว ก็จัดการผสมให้เข้ากัน แล้วปล่อยให้ผ่านไปราว 15 นาที แล้วก็กินเป็นสูตรล้างไขมันที่อร่อยมาก เพราะมีตัวชูโรงคือน้ำผึ้งกับมะนาว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2015
  3. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    สมัยก่อนผมไปซ่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ ตามสาขาของธนาคารดังๆ หลายแห่ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อไปถึงบริเวณเคาร์เตอร์ ผมถามพนักงานธนาคารที่เป็นสาวๆ ว่าเครื่องไหนเสียครับ เธอชีั้ไปที่เครื่องนั้น และบอกว่าคีย์บอร์ด แป้นคีย์ "จ", สระ "อี" และ "บ" เสีย ช่วยซ่อมให้หน่อย ผมงงๆ ก็จัดการซ่อมตรวจเช็คดู ก็ไม่เห็นเสียอะไร ก็เลยปรับให้เล็กน้อย และบอกสาวธนาคารว่า แป้นคีย์ "จ", สระ "อี" และ "บ" ซ่อมให้เรียบร้อยแล้วครับ ช่วยเซ็นต์ใบซ่อมให้ผมด้วยครับ แล้วก็ออกจากสาขานั้น เอ่ผมซื่อหรือเปล่าหน่อ หรือว่าคิดมากไปเอง
     
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    พลังงานด้านลบ

    บางคนถูกกระทำ โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว

    บางคนอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีพลังงานด้านลบเยอะ หรือในร่างกายมีพลังงานด้านลบเยอะ

    บางคนชอบทานอาหารหรือน้ำดื่มหรือขนม แบบเดิมๆ ที่ผู้ขายอาจพรมหรือผสมบางสิ่งลงไป เพื่อให้ขายดี เสน่ห์เต็มๆ ยิ่งกิน ยิ่งอร่อย ขาดไม่ได้ ต้องพยายามไปหาซื้อบ่อยๆ

    บางคนไปศึกษาวิชาแปลกๆ ทำให้ของเข้าตัวบ้าง อาคมด้านลบเข้าตัว ธาตุทั้ง 4 ไม่สมดุลยบ้าง

    บางคนเข้าพิธีแปลกๆ สวดนั่น สวดนี่ เข้าพิธีแล้วบางคนก็ดีขึ้น บางคนก็ไปรับอะไรแปลกๆ

    บางคนศึกษาพลังจักรวาล วิชาจักระ หรืออื่นๆ ผิดๆ ถูก เปิดจักระได้ แต่ปิดไม่เป็น การส่งผลอาจติดลบ

    บางคนศึกษาการเปิดตาที่ 3 หรืออื่นๆ หลังๆ อาจเพี้ยน มองอะไรทำให้จิตตก

    บางคนชอบบูชาพระเครื่อง วัตถุมงคลแปลกๆ มีอาถรรพ์เยอะ ชอบจับพลังวัตถุมงคล บางทีของอาถรรพ์อาจเข้าตัว ทำให้ป่วยบ่อย มีอาการคันบ้าง อารมณ์แปรปรวน โมโหง่าย

    จงจำเอาไว้ว่า สิ่งใดที่มีคุณอนัตต์ สิ่งนั้นถ้านำมาปฏิบัติไม่ดี เจ้าตัวบารมีไม่ถึง ไม่ได้ล้างอาถรรพ์ หรือทำให้สิ่งนั้นๆ โมโห อาจโดนเล่นหนัก ช่วยให้รวยเร็ว เวลาโดนเล่นก็อาจลงเร็ว

    ทางพุทธคุณน่าจะดีกว่า แม้ไปช้า แต่ชัวร์ หรือเวลาลง ก็ลงช้า

    ต้องพึ่งระวังในความอยากได้จนเกินไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2015
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    [​IMG]

    พระคาถาแก้วสารพัดนึก ของหลวงพ่อดำในป่า พระอาจารย์ของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม หลวงพ่อจรัญ ท่านเมตตาจดบันทึกมอบให้ศิษย์ ในปี ๒๕๔๒


    Cr. คุณ Teeraphan Naksin
     
  6. sritrang

    sritrang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    6,164
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ขอบคุณที่ให้สิ่งดีๆ
     
  7. sritrang

    sritrang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    6,164
    ค่าพลัง:
    +1,620
    ขอบคุณที่ให้สิ่งดีๆ
     
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    ทำไม่ถึงที่สุด ก็มักจะต้องแสวงหาสิ่งอื่นต่อไปเรื่อยๆ

    ผู้คนบางส่วนหรืออาจเป็นส่วนใหญ่ มักทำอะไรบางสิ่งแบบไม่ถึงที่สุด เมื่อไม่เห็นผล ก็จะแสวงหาสิ่งใหม่ต่อไปเรื่อยๆ

    อาทิ การสวดมนต์บทใดบทหนึ่ง ทำไม่ถึงที่สุด แทนที่ควรจะสวดวันละ 108 จบ หรือ 200 จบ แต่ทำไม่ถึง เมื่อไม่ค่อยเห็นผล ก็เปลี่ยน ไปสวดบทสวดมนต์อื่นต่อไป เมื่อได้บทใหม่ หากทำไม่ถึงอีก ก็ยังต้องเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

    บางคนแสวงหาครูบาอาจารย์ ทำบุญกับท่านอยู่นานหลายปี คนอื่นๆ ไปขอความช่วยเหลือ ท่านช่วยให้รวยได้ คนแล้วคนเล่า แต่ตนเอง ทำไมยังไม่รวย หรือคิดว่าทำไม่ท่านไม่ช่วยให้รวยสักที สิ่งหนึ่งที่ควรมองย้อนตนเองก็คือ การมีบุญสัมพันธ์กับครูบาอาจารย์ท่านนั้น อีกส่วนหนึ่งคือ ครูอาจารย์ท่านนั้นมีบารมีจะช่วยตนได้ไหม บางครั้งท่านช่วยคนอื่นๆ รวยเอาๆ แต่ตนเองทำบุญกับท่านมาหลายปี ทำไมไม่รวย เมื่อไม่สมหวัง ก็อาจต้องแสวงหาครูบาอาจารย์ท่านอื่นต่อไป

    บางคนแสวงหาพระเครื่อง-วัตถุมงคล ที่คิดว่าดีๆ สุดยอด มหามวลสาร เข้าพิธีมากหลาย คำโฆษณาของพระเครื่อง-วัตถมงคลนั้นคือ ขอได้ทุกอย่าง สมปรารถนา เมื่อได้มาบูชาแล้ว ผ่านไปปีแล้วปีเล่า ทำไมยังไม่รวยสักที ก็ควรคิดบ้างว่า ขอมากเกินไปไหม ขอเกินกฎแห่งกรรมหรือเปล่า หรือพระเครื่อง-วัตถุมงคล ที่ได้มา เสื่อมหรือเปล่า เพราะผ่านมาหลายมือ ก่อนมาถึงตนคนอื่นไปวางในสถานที่ไม่เหมาะสมไหม ไปเจอสิ่งที่ดูดพลังไปไหม และอีกสิ่งหนึ่งคือบูชาถูกวิธีไหม? ทำให้เป็น ทำให้ถึง สักวันหนึ่งอาจจะรู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2015
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    การทำงานทางโลก เป็นแค่เปลือกแห่งธรรม

    คำกล่าว "การทำงานทางโลก เป็นแค่เปลือกแห่งธรรม" อย่านำไปพูดกับคนที่ยังเข้าไม่ค่อยถึงธรรม ไม่งั้้นจะเถียงกันน่าดู

    คนเราต้องใช้สิ่งสมมุติ เพื่อไปยังสิ่งไร้สมมุติ

    คนเราต้องกินข้าว คนเราต้องทำงาน เพื่อหาเงิน

    เงินคือสิ่งสมมุติ

    ขาดเงินเหมือนขาดใจ ขาดสิ่งสมมุติ เหมือนจะขาดใจ

    บางคนยอมขายตัว หรือขายอวัยวะ เพื่อแลกกับเงิน แลกกับสิ่งสมมุติ เพราะเงินบันดาลได้ทุกสิ่ง

    หากใจไม่ต้องพึ่งสิ่งสมมุติ เมื่อนั้นจิตวิญญาณก็เหนือสมมุติ

    เมื่อเหนือสมมุติแล้ว ก็พึ่งสิ่งสมมุติน้อยลง หรืออาจไม่ต้องพึ่งอีก

    แต่เพราะคนส่วนใหญ่ยังทำแบบนั้นไม่ได้ ผู้คนส่วนใหญ่ทั่วไปจิตวิญญาณยังไม่อาจเหนือสิ่งสมมุติ

    ผู้คนส่วนหนึ่งจึงใช้บุญเป็นเครื่องนำทาง เครื่องประครองจิต ทำบุญเพื่อหนีกรรม

    กรรมนั้นแก้ไม่ได้ แต่ทำบุญหนีกรรม หรือผ่อนกรรมจากหนักให้เป็นเบาได้

    แล้วบุญกับกรรมนี่มันเป็นสิ่งสมมุติ หรือสิ่งไรสมมุติ

    เมื่อจิตเหนือสิ่งสมมติ จิตก็ไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับบุญและกรรมอีก

    เหนือกฎแห่งกรรม คือวิปัสสนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2015
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    [​IMG]
     
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    นักปฏิบัติธรรม ต้องรู้จักอดทนอดกลั้น

    ผมเป็นเจ้าของเวบธรรมะ และปฏิบัติธรรมมาหลายปี ในช่วงต้นปี 2558 เจอบททดสอบแรง เป็นคนปฏิบัติธรรม มีพลังจิตแรงพอควร ตอนแรกๆ มาแบบดูดี หลังๆ เขาไม่พอใจ เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ด่าว่าผมแรงๆ ผมได้แต่อดทน

    วันที่ 27 ธันวาคม 2558 มีสมาชิกท่านหนึ่งติดต่อมาหาผมทาง PM ว่าต้องการพญานาคเกี้ยวไปบูชา จากการได้ติดต่อสนทนาทาง PM, ทางโทรศัพท์ และทาง Line พบว่าเป็นลูกค้าใหม่ที่จุกจิกจู้จี้มาก รายละเอียดเยอะ... เขาต้องการดูภาพด้านล่างของพญานาคเกี้ยว เขาถามละเอียดมาก ว่าแท้ไหม? สร้างปี 2545 ไหม? อุดผงมงคลไหม? และตอกโค้ทอะไร?

    ติดต่อกับลูกค้าใหม่ท่านนี้ ผมรู้สึกเบื่อมาก รู้สึกว่าเป็นคนจุกจิกจู้จี้มาก รายละเอียดเยอะ ยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนอีก สุดท้ายผมก็เลยปฏิเสธการให้เช่าบูชา เพราะไม่อยากมีปัญหาตามมาในภายหลัง และกำไรก็ไม่กี่ร้อย ดูแล้วไม่คุ้ม เสียเวลา เสียความรู้สึก เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่สบายใจดีกว่า

    ลูกค้าจู้จี้คนนี้ส่ง sms มาต่อว่าผม ผมอ่านแล้วโมโหพอสมควร


    ในค่ำคืนหนึ่ง เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ผู้มีญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาสอนผมว่า นักปฏิบัติธรรม ต้องรู้จักอดทนอดกลั้น ภาพนิมิตในช่วงหลังบอกว่า "ไม่มีสิ่งใดจะตอบแทน นอกจากน้ำตา..."

    ท่านคงมาเตือนผม เพราะผมเกี่ยวข้องกับพญานาคพอสมควร ว่าให้รู้จักอดทน อดกลั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2015
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    [​IMG]

    รูปพญานาคอีกรูปหนึ่งที่เห็นส่วนหางด้วย พญานาคนี้เป็นของจริงนะครับ ท่านอยู่ในพานไม่นานก็หายตัวไป หางของพญานาค ไม่เหมือนหางงู ดูให้ดีๆ ก็จะเห็นความแตกต่าง
     
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    สวัสดีปีใหม่ 2559 นะครับ
     
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    วันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ ได้สนทนากับผู้มีบุญบารมีมากคนหนึ่ง ซึ่งเบื้องบนหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงดลให้ได้พูดคุยกัน ทำให้ได้ความรู้และธรรมะหลายอย่าง ซึ่งผมจะนำบางส่วนมาลงในกระทู้นี้ เผื่ออาจเป็นประโยชน์กับบางท่านนะครับ

    1.บุคคลที่ได้สนทนา เป็นบุคคลที่ได้ทำบุญมามาก และยังทำบุญอย่างสม่ำเสมอ เขาเล่าว่าเขาได้สังเกตุชาวฝรั่ง ที่รวย มีปัญญามาก บ้านเมืองมีความเจริญ ว่าทำไมฝรั่งถึงมีความเจริญ ก็เพราะว่าฝรั่งบางคน มักจะทำบุญให้กับมูลนิธิเป็นประจำ ที่เรียกกันว่า บุญที่เป็นสาธารณะประโยชน์ เขาเองก็ทำบุญสาธารณะประโยชน์มามาก เช่น การทำบุญผ่านองค์กร UNSCR ทำบุญปีละ 2 ครั้งโดยการหักผ่านบัญชีธนาคาร

    2.เขาเล่าว่าได้ทำบุญเป็นเจ้าภาพบวชพระปีละหลายรูป และทำมาหลายครั้ง ผมได้ถามเขาว่า เป็นเจ้าภาพบวชพระถึง 50 รูปหรือยัง? เขาตอบว่าประมาณนั้น เขาเล่าว่าการเป็นเจ้าภาพบวชพระ ทำบุญครั้งเดียว เหมือนการทำนาครั้งเดียว แต่เก็บเกี่ยวหรือได้ผลผลิตตลอด เพราะถ้าหากพระรูปที่เขาเป็นเจ้าภาพบวชได้ 5 ปี ในทุกครั้งที่พระรูปนั้นสวดมนต์-นั่งสมาธิ เขาก็ได้บุญตลอดจวบจนกว่าพระรูปนั้นจะสึก หากพระรูปนั้นบวชตลอดชีวิต เขาก็ได้บุญสม่ำเสมอตลอดไป

    3.เขาได้เล่าว่า ได้เคยบริจาคเลือดมาแล้ว หลายครั้ง นับรวมแล้วก็เกือบ 50 ครั้ง ได้เข็มเชิดชูเกียรติระดับ 3 ช่วงหลังเว้นหรือห่างไปบ้าง เพราะมีฝ้าเกิดที่บริเวณใบหน้า อันเนื่องผลของการทำทานยาบางอย่าง

    การบริจาคเลือดหรือโลหิตจัดว่าเป็น "ทานอุปบารมี" หรือทานบารมีระดับกลาง

    ทางพุทธศาสนากล่าวถึงบารมีทานไว้ ๓ ขั้น คือ

    1. บารมี ระดับสามัญ เช่น ทานบารมี ได้แก่ ให้ทรัพย์สินเงินทอง สมบัตินอกกาย หรือปัจจัย 4 ข้าว ผ้า ยา บ้าน

    2. อุปบารมี ระดับรองหรือจวนจะสูงสุด เช่น ทานอุปบารมี ได้แก่ การเสียสละอวัยวะเป็นทาน การบริจาคเลือดก็จัดอยู่ในทานหมวดนี้

    3. ปรมัตถบารมี ระดับสูงสุด เช่น ทานปรมัตถบารมี ได้แก่ การสละชีวิตเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น หรือการสละชีวิตเพื่อรักษาธรรมะ เป็นบุญสูงสุดในระดับของการให้ทาน

    บารมีจัดได้เป็น 3 ชั้น

    บารมีที่กล่าวมาแล้วนี้ ยังจัดได้เป็น 3 ชั้น คือ

    ก. บารมี 10 ทัส หรือ บารมี

    ข. บารมี 20 ทัส หรือ อุปบารมี

    ค. บารมี 30 ทัส หรือ ปรมัตถบารมี

    บารมี 3 ชั้นนี้มี วัตถุ ทำให้แตกต่างกัน กล่าวคือ จำแนกเป็น วัตถุภายนอก (พหิทฺธ) และ วัตถุภายใน (อชฺฌตฺติก)

    การสร้างสมบารมีด้วยการให้วัตถุภายนอกล้วน ๆ เช่น การให้ธนสารสมบัติ บุตรภริยา เหล่านี้ได้ชื่อว่า สร้างบารมี ท่านอรรถกถาจารย์ได้ให้อรรถาธิบายเกี่ยวแก่ความแตกต่างกันนี้ โดยยกเอาทานบารมีเป็นที่ตั้งเป็นตัวอย่างแต่อย่างเดียว ส่วนบารมีอย่างอื่นที่เหลือนอกนั้น ให้พึงเข้าใจโดยอนุโลมตามแนวทางของทานบารมี

    ปุตฺตทาร ธนาทิ อุปกรณ ปริจฺจาโค ปน ทานบารมี ฯ

    เจตนาที่สามารถสละให้ซึ่ง บุตร ภริยา ธนสารสมบัติ เป็นต้นนั้น เรียกว่า ทานบารมี

    องฺคปริจฺจาโค ทานอุปปารมี ฯ

    เจตนาที่สามารถ สละ อุทิศ ซึ่งส่วนต่าง ๆ ของร่างกายนั้น เรียกว่า ทานอุปบารมี

    อตฺตโน ชีวิต ปริจฺจาโค ทานปรมตฺถปารมี ฯ

    เจตนาที่สามารถ สละ อุทิศ ซึ่งชีวิตของตนนั้น เรียกว่า ทานปรมัตถบารมี

    ผู้บำเพ็ญบารมีเพียงแค่ชั้น บารมี เรียกว่า บำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัส การบำเพ็ญบารมี ๑๐ ทัสนี้ ย่อมสาธารณะแก่บุคคลทั่วไปที่ปรารถนา โพธิญาณ ซึ่งได้แก่ อัคคสาวก มหาสาวก และปกติสาวก

    ผู้บำเพ็ญบารมีถึงชั้น อุปบารมี เรียกว่า บำเพ็ญบารมี ๒๐ ทัส เพราะผู้บำเพ็ญบารมีมาถึงชั้นนี้แล้ว ย่อมต้องมีการบำเพ็ญ บารมี ๑๐ ทัส มาแล้วอย่างมากมาย จึงสามารถบริจาคส่วนของร่างกายได้ การบำเพ็ญ อุปบารมี หรือ บารมี ๒๐ ทัสนี้ ย่อมสาธารณะแก่บุคคลที่ปรารถนา ปัจเจกโพธิญาณ

    ผู้บำเพ็ญบารมี จนถึงชั้น ปรมัตถบารมี เรียกว่า บำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัส อันเป็นการบำเพ็ญบารมีที่สุดยอดแล้ว การบำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัสนี้ ย่อมสมบูรณ์เฉพาะแต่ผู้ที่ปรารถนา สัมมาสัมโพธิญาณ เท่านั้น

    เครดิต บารมี 3 ชั้น : บารมีจัดได้เป็น ๓ ชั้น ปริจเฉทที่ ๙ กัมมัฏฐานสังคหวิภาค


    4.เขาเล่าว่า เขาทำบุญโดยไม่จำกัดขอบเขต ว่าจะต้องได้ผลบุญมาก

    การทำบุญในบวรพุทธศาสนาเขาก็ทำ ทำบุญช่วยคนจน ช่วยคนลำบาก เขาก็ทำ เขาได้เล่าว่า

    1.ครั้งหนึ่งได้พบเจอท่านหนึ่งอยากไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาคิชฌกูฏ แต่ไม่มีค่ารถ เขาได้สอบถามเพิ่มเติมเพื่อความมั่นใจ และได้นัดแนะว่าจะเป็นคนอาสาพาไป และเมื่อถึงเวลานัดก็ได้นำพาท่านนั้นไปไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาคิชฌกูฏ และได้เลี้ยงอาหารหรือสิ่งอื่นๆ อีก และได้บอกว่าไม่ต้องการสิ่งตอบแทน นอกจากให้คนที่เขาได้นำพาไป ถ้ามีโอกาสหรือมีเงินแล้วก็ขอช่วยคนอื่นต่อ ภายหลังผ่านไปไม่กี่ปี บุคคลที่เขาได้เคยนำพาไปก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อได้ไปไหว้หรือขอพรที่เขาคิชฌกูฏ ชีวิตของเขาก็ดีขึ้นทั้งในเรื่องการงานและอื่นๆ เขาก็ได้พาคนที่ป่วยเป็นมะเร็งแต่อยากไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาคิชฌกูฏ ได้พาไปที่เขาคิชฌกูฏ ซึ่งเป็นการช่วยต่อๆ กันไปเป็นทอดๆ

    2.เขาทำบุญด้วยความเต็มใจและอาจให้มากกว่านั้น เขาเล่าว่าครั้งหนึ่ง ได้เจอคนมาขอค่ารถจะกลับบ้านเกิด และเขามาขอแค่ 20 บาท ทางคนเล่าก็กล่าวกับคนที่มาขอว่า ถ้าเขาจะช่วยคนเดียวเลย เป็นเงินค่ารถเท่าไร? คนที่มาขอความช่วยเหลือก็บอกว่าประมาณ 200 กว่าบาท แต่เขาต้องการเพียงแค่ 20 บาท ไม่อยากรบกวนมาก ถ้าไปขอ 10 คน ก็จะได้ 200 บาท วันนั้นเขาก็ช่วยไป 20 บาท

    3.บางครั้งก็มีคนมาขอเงินกับเขา ถ้าเขาช่วยได้เขาก็จะให้เลย โดยที่ไม่กลัวว่าจะถูกหลอก


    5.สิ่งที่เขาขอมักจะประสบความสำเร็จ เขาเป็นบุคคลที่ทำบุญบ่อย ทำบุญมามาก สวดมนต์เป็นประจำ นั่งสมาธิดูจิต เป็นประจำ บางครั้งเขาไปขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพระประธานประจำวัด สิ่งที่เขาขอก็มักจะสำเร็จทุกครั้ง

    6.เขาเล่าว่า เขาเคยไปทำงานต่างจังหวัดเป็นเวลาหลายเดือน และปลอดภัยจากการเดินทางทุกครั้ง เขาบอกว่าไม่ได้ห้อยพระเครื่องหรือวัตถุมงคล เพราะเขาได้อธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ.วัดแห่งหนึ่ง และบุญที่สร้างสมมามาก ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย


    7.เขาพบเจอสิ่งดีๆ หรือกัลยาณมิตร เป็นประจำ

    คงเล่าให้อ่านประมาณนี้ บางส่วนก็ไม่ได้นำลงในกระทู้นะครับ ผู้มีบารมีท่านนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองประจำตัว และมีญาณหรือตัวรู้ของเขาเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2016
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    สิ่งใดที่ทำบ่อยๆ สิ่งนั้นจะเป็นอาจิณกรรม ซึ่งเป็นกรรมที่มีพลังอำนาจในอันดับที่ 3 หากไม่มีกรรมอื่นใด กรรมนี้ก็จะส่งผล

    ทำบุญบ่อยๆ วันหนึ่งข้างหน้า หรือชาติหน้า ก็อาจเป็นคนรวย หรือเป็นเศรษฐี

    ทำบุญในบวรศาสนามาก ก็เป็นกรรมที่ดลให้รวย มีความเจริญก้าวหน้า

    ทำความดีแต่กับลูกหรือผัว ไม่ค่อยสนใจคนอื่นๆ ก็ต้องรอการตอบแทนจากลูกหรือผัว แต่ลูกหรือผัวบางคนก็พึ่งไม่ค่อยได้ ดังนั้นจงหัดทำความความดีกับบุคคลอื่นบ้าง

    ค้ากำไรกินควรมาก ก็ระวังเก็บเงินไม่ค่อยอยู่ หรือมีเหตุทำให้เงินไหลออก

    ยิ่งอยู่นาน ก็ยิ่งเจอทั้งสุขและทุกข์ ก็จงเลือกเอา อยากให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย หรือต้องให้ เกิดแล้ว เกิดอีก เกิดใหม่ทีก็ต้องมาเรียน ก เอ๋ย กไก่ ต้องหางานทำ อยากมีเมียหรือมีผัว หาเงิน ชาติแล้วชาติเล่า บางชาติจะได้เกิดเป็นมนุษย์ไหม?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2016
  16. sritrang

    sritrang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    6,164
    ค่าพลัง:
    +1,620
    การให้ธรรมะแก่บุคคลทั้งหลายเป็นบุญอย่างหนึ่ง โมทนา สาธุ
     
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    สวัสดีปีใหม่ 2559 ขอให้มีความสุขกาย สุขใจ และมีสุขภาพแข็งแรงครับ
     
  18. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    เมื่อวานได้สนทนากับผู้มีบุญบารมีมากท่านหนึ่ง ผมนำการสนทนาบางส่วนไปลงไว้ที่โพสต์ #180

    ผมมาระลึกพิจารณาดู รู้สึกว่าขาดข้อสำคัญไป 1 ข้อ ที่ควรนำมาลงเพิ่มเติม นับเป็นข้อที่ 8 ก็คือ


    8.การเจริญภาวนา เพื่อให้อยู่เหนือกรรม

    เขาเล่าว่า ได้มีโอกาสได้พบเจอครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ในวันนั้นตั้งใจกะว่าจะไปหาครูบาอาจารย์ท่านนั้น เพื่อไปดูดวง ต้องการรู้อนาคตของตนเองในเรื่องการงาน และอื่นๆ เมื่อได้เดินทางไปพบครูบาอาจารย์แล้ว ก็ได้สนทนากัน แต่ครูบาอาจารย์ท่านจะพูดในเรื่องธรรมะ เรื่องการปฎิบัติธรรม ครูบาอาจารย์ได้ให้เขาเจริญภาวนาให้ดู หลังจากนั้นท่านบอกว่าภาวนาถูกแล้ว ได้สนทนากับครูบาอาจารย์เป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

    ในวันนั้นก็ไม่ได้ดูดวง ซึ่งหมายความว่าครูบาอาจารย์ท่านรู้แล้วว่า การเจริญภาวนานั้นสำคัญกว่าการดูดวง ครูบาอาจารย์ท่านได้แนะนำว่า ให้หมั่นเจริญภาวนา เพื่อให้อยู่เหนือกรรม เหนือดวง

    เขาได้เล่าว่าได้เจริญภาวนาต่อเนื่อง สม่ำเสมอ หลายปีผ่านมา เขาเองก็ไม่ได้เจออะไรที่แรงๆ ชีวิตเขามีความเจริญก้าวหน้า แคล้วคลาดปลอดภัย เพราะอันเนื่องมาจากทำบุญบ่อย และเจริญภาวนา ดูจิตตน สม่ำเสมอ

    เขาเล่าว่า เจริญภาวนาเพื่อให้เหนือกรรม เดินนำหน้ากรรม
     
  19. sritrang

    sritrang เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    6,164
    ค่าพลัง:
    +1,620
    โมทนา สาธุ
     
  20. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,545
    บางคนมีถึงพร้อม ทั้งบุญและทรัพย์ สมหวังในด้านความรัก

    บางคนมีแต่ทรัพย์ บุญไม่ค่อยเยอะ

    บางคนทรัพย์ก็ไม่ค่อยเยอะ บุญก็กำลังพยายามสร้าง

    บางคนสมหวังในบางอย่าง และอาจไม่สมหวังในบางอย่าง เช่น มีความเจริญก้าวหน้าในการงาน แต่ไม่ค่อยสมหวังในด้านความรัก

    ...

    บางคนใช้ชีวิตค่อนข้างตึง ในการหาทรัพย์ ในการแก้ไขปัญหาชีวิต

    บางคนใช้ชีวิตสุดโต้งในทางหนึ่ง เช่น การเก็บตัว อยู่กับตนเองคนเดียวเป็นส่วนใหญ่ ก็ต้องระวังในเรื่องความคิด

    อยู่ในหมู่มิตรให้ระวังลิ้น อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด

    ...

    สิ่งสำคัญคือเงินตรา ยอดปรารถนาคือดวงใจ คือคติธรรมของบางคน

    สำหรับผมเงินก็สำคัญพอควร ยอดปรารถนา ถ้าไม่สวยก็ไม่ค่อยอยากได้ ก็ยังชอบสาวสวย รวยหน่อยก็ดี 55
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มกราคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...