สู่แสงธรรมกับ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ตอน เหตุการณ์พิศวง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 2 สิงหาคม 2015.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    เหตุการณ์พิศวง
    จากหนังสือของ สู่แสงธรรม...โดย พล.อ.ต. มนูญ ชมภูทีป
    เหตุการณ์ที่น่าพิศวง
    [​IMG]
    "........การที่ข้าพเจ้าได้ย้ายไปรับราชการอยู่ที่กองบิน ๔ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ตั้งแต่ ปีพ.ศ. ๒๕๐๓ และประจำการอยู่ ณ ที่นั้นเรื่อยมาจนกระทั่งถึงปีพ.ศ. ๒๕๓๐ ซึ่งเป็นระยะเวลาอันยาวนานถึง ๑๗ ปีนั้น ทำให้ข้าพเจ้ากลายเป็นบุคคลผู้โชคดีคนหนึ่ง ที่มีโอกาสได้พบหลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร (พระราชพรหมยาน ในปัจจุบัน) ตั้งแต่ในสมัยที่หลวงพ่อยังจำพรรษาอยู่ ณ วัดสะพาน จ.ชัยนาท

    ..........หากจำไม่ผิดก็ประมาณปีพ.ศ. ๒๕๐๘ และแม้เมื่อหลวงพ่อได้รับนิมนต์จาก พระอรุณ อรุโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าซุง (วันจันทาราม) ให้ไปอยู่ ณ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี เพื่ออาศัยบารมีของหลวงพ่อในการช่วยบูรณะวัดแล้วก็ตาม ข้าพเจ้าและคณะศิษย์รุ่นนั้น ก็ยังได้ติดตามไปปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่ออยู่ตลอดมิได้ขาด

    จากช่วงระยะเวลาอันยาวนานมาก ที่ข้าพเจ้าและภรรยาได้มีโอกาสปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อ อย่างใกล้ชิดโดยที่หลวงพ่อในขณะนั้นมีลูกศิษย์ที่ไปมาหาสู่อยู่เพียงไม่กี่คน จึงทำให้ข้าพเจ้าได้พบได้เห็นเหตุการณ์แปลกๆ และสิ่งที่เรียกว่ามหัศจรรย์ต่างๆ หลายครั้ง ซึ่งไม่อาจสามารถพิสูจน์และอธิบายได้ในโลกวิทยาศาสตร์ อันก่อให้เกิดความฉงนสนเท่ห์ใจแก้ข้าพเจ้า ซึ่งเป็นผู้มีมิจฉาทิฐิอย่างแรงกล้า และเชื่อมั่นในตนเองมาแต่กำเนิดเป็นอย่างยิ่ง ดังที่ข้าพเจ้าได้เขียนเล่าให้ท่านทั้งหลายได้อ่านเป็นบางเรื่อง (ความจริงมีเรื่องมากมายไม่สามารถนำมาเขียนได้หมด หากท่านผู้ใดสนใจก็คุยกันเป็นส่วนตัวได้)

    และเมื่อได้อ่านแล้วถ้าไม่เชื่อ ก็ขอให้พึงเก็บไว้เป็นข้อสงสัยภายในใจ เฉพาะตนเองเถิด อย่าได้กล่าวคำปรามาสหรือลบหลู่เป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของท่านเอง และวิธีที่จะแก้ข้อสงสัยได้ดีที่สุดก็จะต้องพิสูจน์กัน ด้วยวิธีฝึกตนเอง ให้ได้วิชชาสามเป็นอย่างน้อยเสียก่อนแล้วท่านจะรู้ได้เองว่าจริงหรือไม่จริง จะไปลงความเห็นกัน ด้วยการใช้เหตุผลของมนุษย์สามัญไม่ได้ ดังนั้นเมื่อท่านผู้อ่านได้เข้าใจดังนี้แล้ว ก็ขอได้โปรดติดตามเรื่องราวต่างๆ ที่ข้าพเจ้าได้ประสบมาดังต่อไปนี้

    หลวงพ่อบอกลำดับที่สอบ

    เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ข้าพเจ้ามียศเป็นเรืออากาศเอกและมีขั้นเงินเดือนอยู่ในเกณฑ์ที่จะมีสิทธิสอบคัดเลือกเข้าเรียนในโรงเรียนชั้นผู้บังคับฝูง ข้าพเจ้าต้องสอบเข้าได้อย่างแน่นอน เพราะข้าพเจ้าเป็นคนเรียนหนังสือเก่งและสอบได้ที่ ๑ ในระดับชั้นมัธยมศึกษามาโดยตลอด และในระหว่างที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนรายรอย จปร.ก็ถูกจัดอยู่ในประเภทรักเรียนที่เรียนเด่น เล่นดีด้วย แต่เนื่องจากทางโรงเรียนผู้บังคับฝูง จะแบ่งผู้ที่สอบได้เป็น ๒ ชุดคือผู้ที่สอบได้เลขคี่ (๑,๓,๕,๗,๙,..ฯลฯ) จะได้เรียนเป็นชุดที่ ๑ และผู้ที่สอบได้เลขคู่ (๒,๔,๖,๘,...ฯลฯ) จะได้เข้าเรียนเป็นชุดที่ ๒

    ดังนั้นแม้ต้องคิดว่าสอบได้แต่ก็ไม่ทราบว่าจะได้เลขคี่หรือเลขคู่อยู่ดี ปัญหาก็อยู่ตรงที่ว่าภรรยาของข้าพเจ้ากำลังตั้งครรภ์หากไม่ทราบแน่ชัดว่าจะได้เจ้าเรียนเมื่อไรแล้วก็ไม่ทราบว่าจะไปฝากครรภ์และเตรียมคลอดที่ใด เพราะบ้านพักในขณะนั้นอยู่ที่กองบิน ๔ ตาคลี แต่ถ้าเข้าเรียนก็จะต้องไปเรียนที่ดอนเมืองและครอบครัวของข้าพเจ้าก็ไม่มีผู้ใด นอกจากทหารรับใช้เพียงคนเดียวจึงทำให้ข้าพเจ้าหนักใจเพราะไม่สามารถวางแผนการณ์ในภายหน้าได้

    บังเอิญวันหนึ่งข้าพเจ้า และภรรยาได้นำภัตตาการไปถวายหลวงพ่อที่วัดท่าซุง ข้าพเจ้าจึงได้ถือโอกาสเรียนถามว่า “ในการไปสอบคัดเลือกเข้าโรงเรียนผู้บังคับฝูงครั้งนี้ ข้าพเจ้าจะสอบได้เลขคี่หรือคู่” หลวงพ่อได้หยุดมองข้าพเจ้าอยู่ชั่วอึดใจก็ตอบว่า “คุณไปสอบครั้งนี้จะสอบที่ ๑ ที่ ๓ หรือที่ ๕ ใน ๓ ที่นี้นะ แต่จะแน่นอนจะรดน้ำมนต์ให้”

    (กุฏิหลังแรกของหลวงพ่อ ท่านมักจะเรียก "กระต๊อบใต้ต้นโพธิ์")

    "........ต่อจากนั้นหลวงพ่อก็ให้ข้าพเจ้าเอาถังไปตักน้ำในแม่น้ำมาเทใส่บาตร เพื่อทำน้ำมนต์ เมื่อทำน้ำมนต์เสร็จก็รดน้ำให้ข้าพเจ้า (น้ำในแม่น้ำที่ข้าพเจ้าไปตักมานั้นก่อนตักข้าพเจ้าเอามือจุ่มน้ำไล่เศษละออง รู้สึกว่าอุ่นมาก

    ........แต่เมื่อหลวงพ่อว่ารดน้ำมนต์ให้นั้นเย็นจับจิตจนข้าพเจ้าสะดุ้ง และน้ำมนต์ของหลวงพ่อจะเป็นเช่นนี้เสมอ ขอทุกท่านจงโปรดสังเกตด้วย)

    ........แล้วพูดให้ทุกตนในที่นั้นได้ยินโดยทั่วถึงกัน ที่จำได้ก็มีภรรยาของข้าพเจ้า ร.อ.พนม นามประสิทธิ์ (ปัจจุบันยศ น.อ.) ร.ท.ไพศาล ศุภพงษ์ และ พ.อ.อ.กริช บำรุงพงษ์ ว่า “ตำแหน่งที่ ๑ และที่ ๕ จางหายไป คุณมนูญเข้าไปสอบในครั้งนี้ได้ที่ ๓ นะ”

    ข้าพเจ้าเองในขณะนั้นแม้รู้สึกดีใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ค่อยจะมั่นใจนักว่าจะสอบได้ที่ดีถึงที่ ๓ทั้งนี้เพราะทราบดีว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ดอนเมืองเขามีการเตรียมการกันเป็นการใหญ่ เช่นจัดตั้งกันเป็นกลุ่มดูหนังสือร่วมกัน และเชิญอาจารย์จากโรงเรียนผู้บังงคับฝูงบางท่านมาช่วยติวทั้งโรเนียวบรรดาข้อสอบเก่าๆ มาประกอบเป็นแนวทางในการดูหนังสือและติวอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีการหาข่าวและจัดชุดเข้าตีสนิทกับอาจารย์ ที่มีหน้าที่ออกข้อสอบแบบประกบตัวกันเลย (ข้อสอบในสมัยนั้นจึงรั่วกันมาทุกปีด้วยวิธีการนี้)

    ดังนั้นแม้ข้าพเจ้าจะเป็นคนเรียนดีสักเพียงไรก็ตาม แต่เมื่อต้องดูหนังสือคนเดียวที่ต่างจังหวัด ขาดแคลนทั้งตำราและไม่รู้แนวทางในการออกข้อสอบเช่นผู้อื่น จะให้ข้าพเจ้ามีความหวังหรือเชื่อได้อย่างไรว่าจะสอบคัดเลือกเข้าโรงเรียนผู้บังคับบัญชาฝูงได้ที่ ๓ ตามที่หลวงพ่อบอก นอกจากคิดว่าหลวงพ่อคงเพียงบอกเป็นเลาๆ ว่าข้าพเจ้าไปสอบครั้งนี้ได้เลขคี่ คือจะได้เข้าเรียนในผลัดแรกแน่นอนเท่านั้น ซึ่งข้าพเจ้าก็พอใจแล้ว

    แต่ครั้นเมื่อการสอบเสร็จสิ้น และทางราชการได้ประกาศผลการสอบคัดเลือกในครั้งนั้นออกมา ก็ปรากฏว่าข้าพเจ้าสอบเข้าได้เป็นที่ ๓ จริง ๆ ตามที่หลวงพ่อบอกและข้าพเจ้าก็ได้เป็นนายทหารนักเรียน โรงเรียนผู้บังคับฝูงรุ่นที่ ๑๘ โดยได้เรียนก่อนเป็นผลัดแรกเพราะได้เลขคี่ (รายทหารนักเรียนรุ่นข้าพเจ้าในครั้งนั้น ปัจจุบันมีชื่อเสียงกันหลายท่าน เช่น พล.อ.อ.เกษร โรจนิล, พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์, พล.อ.อ.อนันต์ กสินทะ, พล.อ.อ.สุวิช จันทประดิษฐุ์, พล.อ.อ.เริงชัย สนิทพันธุ์ และ พล.อ.อ.ดนัย โมรินทร์ เป็นต้น) ส่วนผู้ที่นอบได้เลขคู่ก็ต้องไปเรียนผลัดสอบ เป็นนายทหารนักเรียนโรงเรียนผู้บังคับบัญชาฝูงรุ่นที่ ๑๙ ต่อไป

    การที่ข้าพเจ้าสอบได้ที่ ๑ จริงๆ ตามที่หลวงพ่อบอกล่วงหน้าให้นั้นก่อให้เกิดความฉงนสนเท่ห์ใจแก่ข้าพเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะคำทำนายของหลวงพ่อมิได้เป็นแบบหมอดูทั่วๆ ไป ไม่ได้มรการผูกดวง, ไม่ได้ดูลายมือ, ไม่ได้ดูโหงเฮ้วหรือเข้าทรง เพียงแต่มองหน้าและรดน้ำมนต์ให้ ก็บอกบ่งชัดเจนไปจนถึงลำดับที่ที่จะสอบได้เช่นนี้ หมอดูให้ดูแม่นยำอย่างไรก็ย่อมทำไม่ได้ และหมอดูเขาก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาตัวเข้าไปผูกมัดขนาดนั้น เพราะข้าพเจ้าผู้ถามได้เปิดกว้างให้ตอบเป็นสองนัย ว่า

    จะสอบได้เลขคู่เท่านั้น การทายถูกหรือผิดจึงเป็น ๕๐-๕๐ แต่การพูดบอกของหลวงพ่อซึ่งบ่งชัดเจนไปจนถึงลำดับที่เช่นนี้หากมีผู้เข้าสอบ ๑๐๐๐ คน ความถูกต้องก็จะมีได้เพียง ๑ ใน ๑๐๐๐ เท่านั้น อีกทั้งเป็นการทำนายถึงอนาคตอันใกล้ ซึ่งใครเลยจะกล้าเสี่ยงทำนายได้ หากไม่ได้ "อนาคตังสญาณ" หรือรู้จริงเช่นหลวงพ่อ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 สิงหาคม 2015
  2. boy thanawat

    boy thanawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +288
    สาธุ กราบนมัสหลวงพ่อครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่นนะครับ
     
  3. นาย หวังดี

    นาย หวังดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +1,272
    กราบหลวงพ่อครับ
     
  4. เจี๊ยบ รักพ่อหลวงภูมิพล

    เจี๊ยบ รักพ่อหลวงภูมิพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,646
    ค่าพลัง:
    +4,272
    กราบหลวงพ่อเจ้าค่ะ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...