พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ลองดูกระทู้ในเวบ pantip เขาว่ากันยังไง? จริงๆเขารู้กันตั้งแต่ก่อนสำนักพระราชวังแถลงข่าวแล้วหนา..ว่าผู้จัดสร้างนี้เป็นผู้ใด...


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=2><TBODY><TR><TD width="100%" bgColor=#204080 colSpan=2 rowSpan=2>

• <B><BIG><BIG>ขอความเห็นเกี่ยวกับ " พระสมเด็จเหนือหัว " ที่กำลังจัดทำอยู่นี้ </BIG></BIG></B>
  <!--MsgIDBody=0-->ขอความเห็นเกี่ยวกับ " พระสมเด็จเหนือหัว " ที่กำลังจัดทำอยู่นี้ เป็นของส่วนราชการ ไปรษณีย์ไทย หรือเป็น ของเอกชน ครับ ... อ่านเจอว่า เสี่ย...(เสียงหมูร้อง) ที่ สนิทกับ ดารานักร้องน้อง...ฟ...(อุกรณ์กล้องก่อนยุคดิจิตอล) เป็นผู้จัดสร้าง..โฆษณาใหญ่โตเลย...จริงหรือเปล่าครับ
  ใครเป็นผู้จัดทำกันแน่???
  
  สงสัยต่อ ทำไมถึงมีโฆษณาใหญ่โตมากๆ ลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ หน้ากลาง 2 หน้าเต็มๆ โหอะไรจะขนาดนั้น ลงทุนมหาศาลมากๆ...จริงๆแล้ว ตอนแรกๆผมก็สนใจอยู่ครับ แต่เห็นโฆษณาชักเยอะ โฆษณาสรรพคุณ โหเพียบ..แต่ตอนนี้ ส่วนตัวแล้ว บูชาองค์ละ999 ชักจะออกแนวธุรกิจไปนิด แล้ว มันจะขลังมั้ยครับเนี่ย เพื่อนๆคิดว่าควรบูชาได้ไหมครับ ???
  
  แล้วก็มาคิดๆดู รูปมงกุฏ เป็น1ในเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ถ้าเป็นของราชการยังพอรับได้...แต่ถ้าเป็นเอกชน เขาต้องขออณุญาติใครไหมครับ ถึงนำมาใช้กดพิมพ์ได้...เดี๋ยวก็เหมือนกับ จตุคามรุ่นนึงที่ ด้านหน้าเป็นองค์พ่อฯ ด้านหลังเป็นตราครุฑสีแดงเลย โฆษณากันยกใหญ่ ดูแล้วก็สงสัยว่า ตราสัญลักษณ์เหล่านี้ สามารถนำมาใช้สร้างวัตถุมงคลได้เลยเหรอครับ ต้องขออนุญาตใครไหม ???
  
  ตกลงเพื่อนๆคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงกันบ้างครับ...สมเด็จเหนือหัว รุ่นนี้ น่าจะควรบูชา ไหมครับ ขอความเห็นด้วยครับ <!--MsgFile=0-->จากคุณ : <!--MsgFrom=0-->๒๓ กุมภาพันธ์ - [ <!--MsgTime=0-->28 พ.ย. 50 14:34:36 <!--MsgIP=0-->] <!--InformVote=0--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[0], 0);</SCRIPT> <!--EcardSend=0--><!--pda content="end"--><!--Begin Console-->
  
  <HR align=left width="93%" color=#e0e0e0 SIZE=1>
  <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="87%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[SIZE=-2]หน้าหลัก[/SIZE]</TD><TD align=middle>[SIZE=-2]แจ้งลบ[/SIZE]</TD><TD align=middle>[SIZE=-2]bookmark[/SIZE]</TD><TD align=middle>[SIZE=-2]ส่งต่อกระทู้[/SIZE]</TD><TD align=middle>[SIZE=-2]พิมพ์[/SIZE]</TD><TD align=middle>[SIZE=-2]โหวตกระทู้[/SIZE]</TD><TD align=middle>[SIZE=-2]เก็บเข้าคลังกระทู้[/SIZE]</TD><TD align=middle>[SIZE=-2]กระทู้ก่อนหน้า[/SIZE]</TD><TD align=middle>[SIZE=-2]กระทู้ถัดไป[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE>​
  <!--End Console-->

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!--pda content="begin"-->
<HR align=center width="90%" color=#f0f0f0><!--pda content="end"-->

• • <!--MsgIDTop=1-->
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=1><TBODY><TR><TD>

    • <!--WapAllow1=Yes--><!--pda content="begin"-->ความคิดเห็นที่ 1 <!--InformVote=1--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[1], 1);</SCRIPT><A class=inlineimg title=Surprised href="http://palungjit.org/javascript<img%20src=" alt="" border="0" omg-smile.gif? smilies images>penInformWindow(1)"> <!--EcardManage=1--><!--EcardSend=1-->
      
      <!--MsgIDBody=1-->มูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นมูลนิธิลำดับที่ 483
      
      http://www.rd.go.th/accessibility/2644.0.html
      
      พอเชื่อถือได้.. แต่ คน/กลุ่มจัดทำ อาจทำการตลาดเหมือน พระพุทธชินราชเหรียญแม่ ที่มีข่าวว่า เป็นคน/กลุ่มเดียวกัน ก็ทำๆกันไปครับ. <!--MsgFile=1-->
      
      จากคุณ : <!--MsgFrom=1-->คนบ้านสามขา101ฯ. - [ <!--MsgTime=1-->28 พ.ย. 50 15:15:56 <!--MsgIP=1-->] <!--pda content="end"-->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ​
    <!--pda tag="<hr align=center width=90%>"--><!--MsgIDBottom=1--><!--MsgIDTop=2-->
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=1><TBODY><TR><TD>

    • <!--WapAllow2=Yes--><!--pda content="begin"-->ความคิดเห็นที่ 2 <!--InformVote=2--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[2], 2);</SCRIPT><A class=inlineimg title=Surprised href="http://palungjit.org/javascript<img%20src=" alt="" border="0" omg-smile.gif? smilies images>penInformWindow(2)"> <!--EcardManage=2--><!--EcardSend=2-->
      
      <!--MsgIDBody=2-->คงไม่บูชาค่ะ
      
      รู้สึกว่าพยายามจะตั้งชื่อให้หมายถึงในหลวง
      
      ก็ไม่ค่อยชอบใจอยู่แล้ว
      
      ยิ่งเป็นของเสี่ย อ รายนั้น เช่นเดียวกับเหรียญแม่
      
      ไม่ไหวจริงๆ <!--MsgFile=2-->
      
      จากคุณ : <!--MsgFrom=2-->dreamdriver - [ <!--MsgTime=2-->28 พ.ย. 50 15:16:45 <!--MsgIP=2-->] <!--pda content="end"-->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ​
    <!--pda tag="<hr align=center width=90%>"--><!--MsgIDBottom=2--><!--MsgIDTop=3-->
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=1><TBODY><TR><TD>

    • <!--WapAllow3=Yes--><!--pda content="begin"-->ความคิดเห็นที่ 3 <!--InformVote=3--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[3], 3);</SCRIPT><A class=inlineimg title=Surprised href="http://palungjit.org/javascript<img%20src=" alt="" border="0" omg-smile.gif? smilies images>penInformWindow(3)"> <!--EcardManage=3--><!--EcardSend=3-->
      
      <!--MsgIDBody=3-->แบ๊ะๆ บุ๋มๆ จ๋อมแจ๋มๆ เจ๊าะแจ๊ะๆ <!--MsgFile=3-->
      
      จากคุณ : <!--MsgFrom=3-->jiewee - [ <!--MsgTime=3-->28 พ.ย. 50 15:50:43 <!--MsgIP=3-->] <!--pda content="end"-->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ​
    <!--pda tag="<hr align=center width=90%>"--><!--MsgIDBottom=3--><!--MsgIDTop=4-->
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=1><TBODY><TR><TD>

    • <!--WapAllow4=Yes--><!--pda content="begin"-->ความคิดเห็นที่ 4 <!--InformVote=4--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[4], 4);</SCRIPT><A class=inlineimg title=Surprised href="http://palungjit.org/javascript<img%20src=" alt="" border="0" omg-smile.gif? smilies images>penInformWindow(4)"> <!--EcardManage=4--><!--EcardSend=4-->
      
      <!--MsgIDBody=4-->ของเสี่ย คนดังครับ <!--MsgFile=4-->
      
      จากคุณ : <!--MsgFrom=4-->muk_22 - [ <!--MsgTime=4-->28 พ.ย. 50 16:34:27 <!--MsgIP=4-->] <!--pda content="end"-->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ​
    <!--pda tag="<hr align=center width=90%>"--><!--MsgIDBottom=4--><!--MsgIDTop=5-->
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=1><TBODY><TR><TD>

    • <!--WapAllow5=Yes--><!--pda content="begin"-->ความคิดเห็นที่ 5 <!--InformVote=5--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[5], 5);</SCRIPT><A class=inlineimg title=Surprised href="http://palungjit.org/javascript<img%20src=" alt="" border="0" omg-smile.gif? smilies images>penInformWindow(5)"> <!--EcardManage=5--><!--EcardSend=5-->
      
      <!--MsgIDBody=5-->กรณีครุฑหลังจตุคาม ทำได้ค่ะ เพราะไม่ใช่ตราครุฑของทางราชการ แต่เป็นเครื่องรางรูปครุฑที่นิยมทำกันมานานแล้ว เช่น หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา หรือที่ปัจจุบันดังๆ ก็ครุฑของหลวงพ่อวราห์ วัดโพธิ์ทอง
      
      ส่วนพระสมเด็จรุ่นนี้ ต้องเข้าใจทีละประเด็นค่ะ คือถ้าเสี่ยคนนี้เป็นคนทำมันก็เป็นเรื่องธุรกิจน่ะแหละค่ะ แต่เป็นการหากินกับพระโดยที่ไม่มีใครเจ็บตัวหรือถูกหลอก
      
      คือผู้สร้างที่มีชื่อปรากฏเป็นทางการ ก็ได้รับผลประโยชน์ตามที่เค้าต้องการ นอกเหนือจากนั้น เสี่ยก็รับไป ผู้บูชา ก็ได้พระตามที่โฆษณาไว้ทุกประการ ต่างคนต่างก็ได้ ไม่มีใครเสียหายอะไร(ในเชิงธุรกิจ)
      
      พูดง่ายๆ ก็คือ สมมุติว่าหลวงพ่อวัดนึงอยากได้เงิน ๑๐ ล้าน ไปสร้างอาคารอะไรก็แล้วแต่ ให้เสี่ยคนนี้จัดการให้ เสี่ยก็จะดำเนินการตามแบบที่เห็นๆ กันอยู่นี่แหละค่ะ ซึ่งถ้ามองในด้านการประชาสัมพันธ์ก็อาจจะดูเว่อร์เกินไป
      
      แต่ในแง่พิธี เค้าประกาศไว้ว่าจะทำอะไร นิมนต์เกจิรูปใดไปปลุกเสก แล้วพิธีแกรนด์ขนาดไหน เค้าก็ทำได้อย่างที่เค้าพูด คนที่จองพระของเค้าก็มั่นใจได้ในจุดนั้น คือไม่มีการหลอกลวงกัน ก็เลยทำให้เค้าประสบความสำเร็จในด้านการขาย
      
      ซึ่งในที่สุด ถ้าเค้าได้เงินมาทั้งหมด ๑๐๐ ล้าน เค้าก็ถวายหลวงพ่อไปตามที่ตกลงกัน ๑๐ ล้าน ที่เหลือเค้าจะเอาไปทำอะไรต่อก็เรื่องของเค้า แต่วัดหรือองค์กรไหนให้เสี่ยคนนี้จัดการให้ แน่นอนว่าตกลงกันไว้เท่าไหร่ก็ได้ตามนั้นจริงๆ มันเป็นธุรกิจและเค้าเป็นมืออาชีพ
      
      จะว่าเค้าเอาชื่อองค์กรไปหากิน ก็องค์กรนั้นอยากสร้างพระแต่ทำเองไม่ได้ เค้าก็มารับจัดการตรงนี้แล้วเอาชื่อองค์กรไปขาย องค์กรหวังว่าจะได้เงินเท่าไหร่ก็ได้กลับมาตามนั้นเป๊ะๆ ยุติธรรมดีมั้ยล่ะคะ
      
      ที่พิมพ์มานี้ไม่ใช่ว่าจะแก้ตัวให้ใครนะคะ เพราะเราเองก็ไม่เคยบูชาพระอะไรของเจ้านี้เหมือนกัน ฮ่าๆ ๆ ๆ <!--MsgFile=5-->
      
      จากคุณ : <!--MsgFrom=5-->หนอนดาวเรือง - [ <!--MsgTime=5-->28 พ.ย. 50 23:34:52 <!--MsgIP=5-->] <!--pda content="end"-->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ​
    <!--pda tag="<hr align=center width=90%>"--><!--MsgIDBottom=5--><!--MsgIDTop=6-->
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=1><TBODY><TR><TD>

    • <!--WapAllow6=Yes--><!--pda content="begin"-->ความคิดเห็นที่ 6 <!--InformVote=6--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[6], 6);</SCRIPT>penInformWindow(6)"> <!--EcardManage=6--><!--EcardSend=6-->
      
      <!--MsgIDBody=6-->เสีย อ. คือใครคะ <!--MsgFile=6-->
      
      จากคุณ : <!--MsgFrom=6-->แมวเหมียวตัวลาย - [ <!--MsgTime=6-->29 พ.ย. 50 00:49:51 <!--MsgIP=6-->] <!--pda content="end"-->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ​
    
    <!--pda tag="<hr align=center width=90%>"--><!--MsgIDBottom=6--><!--MsgIDTop=7-->
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#224444 border=1><TBODY><TR><TD>

    • <!--WapAllow7=Yes--><!--pda content="begin"-->ความคิดเห็นที่ 7 <!--InformVote=7--><SCRIPT language=JavaScript>MsgStatus(Msv[7], 7);</SCRIPT> <!--EcardManage=7--><!--EcardSend=7-->
      
      <!--MsgIDBody=7-->"เสี่ยอู๊ด พระเครื่อง" หรือ นายสิทธิกร บุญฉิม... <!--MsgFile=7-->
      
      จากคุณ : <!--MsgFrom=7-->นัยนะ - [ <!--MsgTime=7-->29 พ.ย. 50 12:50:56 <!--MsgIP=7-->] <!--pda content="end"-->

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top bgColor=#000000 rowSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=left bgColor=#000000 colSpan=2><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 bgColor=#403e68 border=0><TBODY><TR><TD width=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ​
    ​
    
    <!--pda tag="<hr align=center width=90%>"--><!--MsgIDBottom=7--><!--MsgIDTop=8-->

ไปดูทั้งมุมที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยได้ที่
http://www.pantip.com/cafe/religious.../Y6072472.html
<!-- / message --><!-- sig -->

 

เอาข่าวดี กลบข่าวไม่ดีดีกว่านะครับ ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ

<TABLE class=tborder id=post860728 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> เมื่อวานนี้, 06:32 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>บัวใต้น้ำ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_860728", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:01 PM
วันที่สมัคร: Sep 2004
สถานที่: กทม.
อายุ: 31 ปี
ข้อความ: 643 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 213 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 1,060 ครั้ง ใน 232 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 284


</TD><TD class=alt1 id=td_post_860728 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ช่วย “หนังพระพุทธเจ้า” ด้วยก่อนจะถึง “วาระสุดท้าย”
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->เป็นกระทู้ที่คุณอี้ แทนคุณ ได้โพสลงในเวบบอร์ดพันทิพย์เพื่อให้ช่วยเหลือหนังเรื่องนี้ก่อนที่จะไม่มีโรงให้ฉาย อันนี้ลิงค์ไปอ่าน

http://www.pantip.com/cafe/chalermth.../A6110521.html

----------------------------------------------------
ผม copy ข้อความที่ตั้งกระทู้มาให้อ่านน่ะครับ

ช่วย “หนังพระพุทธเจ้า” ด้วยก่อนจะถึง “วาระสุดท้าย”


​

หลังจากพยายามมาหลายปี ในที่สุดหนังการ์ตูนแอนนิเมชั่น เรื่องที่เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นตั้งใจจริง ก็สำเร็จ ด้วยความร่วมมือและช่วยเหลือจากหลายต่อหลายท่าน ....ซึ่งต้องขอกราบอนุโมทนามานะโอกาสนี้ด้วยครับ

แต่...ขณะนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การประชาสัมพันธ์ หรือการโปรโมท หนังนั้น เนื่องจากเรามีงบน้อยจึงประชาสัมพันธ์ไม่ได้มาก อย่างที่ทุกๆท่านเห็นอยู่ว่ามีคนรู้ข่าวเรื่องหนังน้อยมาก โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายที่เราอยากให้ดูมากที่สุด คือ เด็กๆ และเยาวชนทั่วประเทศ

อีกทั้งสถานการณ์ตอนนี้ ค่อนข้างวิกฤตมาก หากยอดในการฉายยังไม่ขยับอย่างที่เป็นอยู่ อีกไม่กี่วันข้างหน้า หนังเรื่องนี้ก็จะถูกถอดออกจากโรงหนังแน่นอน ซึ่งนั่นหมายความว่า ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาที่อยากจะมีหนังไทยดี และเป็นหนังเกี่ยวกับการส่งเสริมและสร้างจิตสำนึกให้เด็กๆมี “ศีลธรรม” ก็จะสลายไปพร้อมๆกันนี้ด้วย

ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ อยากให้มี โครงการการสงเคราะห์ สนับสนุนค่าตั๋วให้กับเด็กๆ อีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้เพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นโครงการ “ชวนน้องดูหนัง” ซึ่งอยากจะขอความช่วยเหลือ เช่น จะบริจาคเงินมาที่กองทุน แล้วก็ประสานไปยังโรงหนังให้จัดรอบพิเศษขึ้น

ผมพยายามขอความร่วมมือไปยังสื่อต่างๆ เท่าที่มีแล้ว ก็ได้รับความช่วยเหลือตามอัตภาพ ประชาสัมพันธ์เป็นครั้งคราว จึงอยากให้ท่านทั้งหลายที่เห็นความสำคัญ ได้ช่วยกัน หาทางบอกต่อ เชิญชวน ช่วยเหลือ ประสานงาน จะเป็นหน่วยงานของท่าน หรือโรงเรียนที่ท่านรู้จัก ด้วยกันเป็นผู้สนับสนุน (sponsor) ให้เด็กๆ ได้ดูหนังเรื่องนี้กันมากๆนะครับ โดยเฉพาะกระทรวงศึกษา ซึ่งเคย ทำข้อตกลงความร่วมมือกันไว้ ก็ยังไม่ขยับเท่าที่ควร อยากให้ช่วยกันจริงๆจังๆ บ้างครับ

อยากขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย เพราะหนังแบบนี้ กว่าคงไม่มีโอกาสได้สร้างอีกแล้ว เสียดายมากหากต้องจบลงในลักษณะนี้ ขอความอนุเคราะห์จากทุกท่านอีกครั้งครับ

สุดท้ายนี้ท่านใดที่ประสงค์อยากจะช่วยกันในโครงการนี้ บริจาคได้ที่

“กองทุนสื่อธรรมะเพื่อเยาวชน”

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อย โกลเด้นเพลส

(ถนนประดิษฐ์มนูธรรม) เลขบัญชี 244-202260-2

​

ซึ่งสามารถจัดเป็นรอบพิเศษให้เด็กได้ดูราคาพิเศษ ได้แก่ เด็กประถมจนถึงมัธยม 70 บาท และมหาวิทยาลัย ราคา 80 บาท จะบริจาคเท่าที่ต้องการเช่น 1 คน 2 คน หรือมากกว่านั้นก็ได้ครับ หรือต้องการบริจาคเป็นรอบๆ (อาจเป็นองค์กรของท่าน)

ทั้งนี้ในแต่ละรอบจำเป็นต้องมีผู้เข้าชมอย่างน้อย 80-100 คน และทางเรายินดีให้องค์กรของท่านมาทำข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ขององค์กรครับ ท่านหรือองค์กรหน่วยงาน ใดที่สนใจจะช่วยสนับสนุนให้เด็กๆได้ดูก็ประสานมาได้ที่ แทนคุณ จิตต์อิสระ 081-842-8271 หรือ คุณกัมพล 089-893-1440

ขอกราบขอบพระคุณในน้ำใจและความร่วมใจกันของทุกท่านอีกครั้งจะช่วยสร้างปาฏิหารย์ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อถวายความดีทั้งหมดนี้เป็นพระราชกุศลร่วมกันครับ

​

<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ถ่ายออร่า

ผมได้ถ่ายออร่าที่งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ทางจิต ใส่พระวังหน้าพิมพอรหันต์น้อย (หลวงปู่ท่านผ่านญาณทางลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ท่านบอกผมว่าวังหน้าสร้าง ปู่เป็นผู้อธิษฐานจิต )ส่วนองค์ที่ร่วมทำบุญสร้างเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งไม่ได้ใส่ถ่าย รูปออกมาตามที่เห็นไม่ทราบว่าคุณสิทธิพงษ์และคุณเพชร มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ

 

อีกข่าว...

http://images.google.co.th/imgres?im...%3Den%26sa%3DN
<TABLE class=tableHeading1 width=700 align=center border=0><TBODY><TR><TD><TABLE class=tableHeading1><TBODY><TR><TD width=600> หัวข้อ : พระสมเด็จฯ </TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE width=700 align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>

"คลื่นมหาชนแห่เช่าจองจตุคามฯ กันอย่างล้นหลาม" กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หัวสีอย่างต่อเนื่อง ในช่วงจตุคามรามเทพฟีเวอร์
ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยอดคิดไม่ได้ว่า "นอกจากจตุคามฯ แล้วในปีนี้จะมีวัตถุมงคลรุ่นไหนบ้าง ที่จะมีคนแห่ไปเช่าจองกันอย่างล้นหลาม"

อย่างไรก็ตาม เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ ๓ ธันวาคม เกิดปรากฏการณ์คนแห่เช่า “พระสมเด็จเหนือหัว” ที่จัดสร้างโดยมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ในพระบรมราชาชูปถัมภ์ กันอย่างล้นหลาม ซึ่งเปิดให้บูชา ณ ที่ทำการไปรษณีย์ดุสิต กทม. ชนิดที่เรียกว่า "สวนกระแสจตุคามฯ ในยุคขาลง"
นายศุภชาติ ภัทรเสวีกุล เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ดุสิตการเปิดให้เช่าบูชา “พระสมเด็จเหนือหัว” ณ ที่ทำการไปรษณีย์ดุสิตที่จะพิเศษกว่าสถานที่จองแห่งอื่นๆ ก็คือ ใครมาเช่า ๕๐๐ ท่านแรก จะได้รับสมเด็จเหนือหัว สองมงกุฎ เมื่อประชาชนรู้ว่า จะมีเปิดให้เช่าพระสมเด็จรุ่นนี้ พร้อมกับองค์พิเศษที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้นั้น ปรากฏว่ามีประชาชนที่รู้ข่าว มาจองคิวตั้งแต่เวลาบ่ายสามโมงวันอาทิตย์ บางคนเดินทางมาจากสงขลา ภูเก็ต ซึ่งไปรษณีย์ก็อำนวยความสะดวกทั้งหมด
"คม ชัด ลึก" สอบถามผู้ที่เดินทางมาเช่าพระสมเด็จรุ่นดังกล่าว ซึ่งแต่ละคนพูดถึงพระสมเด็จรุ่นนี้ เช่น นายสิทธิโชค ฉวีจันทร์ รับราชการทหาร กล่าวว่า เมื่อรู้ว่าหากใครได้มาเช่าบูชาพระที่ไปรษณีย์ดุสิต จะได้รับพระสมเด็จพิเศษ เป็นที่ระลึกเพียง ๕๐๐ องค์เท่านั้น ก็ทำให้อยากได้ไปบูชา โดยมาจากสัตหีบ ตั้งแต่บ่ายสามโมงวันอาทิตย์ อีกส่วนหนึ่งมีความศรัทธาในองค์ท่านอยู่แล้ว พิธีในการจะสร้างครั้งนี้ก็ถือว่าดีมาก แล้วปัจจัยที่เราทำบุญไปนี้ก็เพื่อนำไปสร้างอุโบสถสองกษัตริย์


นพ.ประพฤทธิ์ อรัญญาเกษมสุข โรงพยาบาลวิภาราม กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า เดินทางมากับน้องชายตั้งแต่เที่ยงคืนเพื่อจะได้เช่าบูชาองค์สมเด็จเหนือหัว เพราะเป็นคนสะสมพระเครื่องอยู่แล้ว ประกอบกับมีความศรัทธาต่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อยู่แล้ว วันนี้ได้เช่าก็ถือว่าได้ร่วมทำบุญร่วมสร้างอุโบสถ
สอดคล้องกับ นายประทุม สุขประเสริฐ อาชีพค้าขาย กล่าวว่า เดินทางมาเข้าคิวเพื่อเช่าบูชาพระสมเด็จเหนือหัวตั้งแต่ตีสอง เพื่อมาร่วมสร้างอุโบสถสองกษัตริย์ มาวันนี้ได้เช่าเป็นคนที่สองก็รู้สึกดีใจ ถือว่า สมหวังกับสิ่งที่เราตั้งใจเอาไว้ และมาเช่าก็มีความศรัทธาต่อองค์สมเด็จโตเช่นกัน
ส่วน น.ส.วรรณิดา ทรงรัตน์ อายุ ๒๐ ปี อาชีพค้าขาย บอกว่า เดินทางมาจากรังสิต ปทุมธานี ประมาณตีสามเหมือนกัน เพื่อมาเช่าองค์สมเด็จเหนือหัว ส่วนสาเหตุที่อยากได้ไปบูชา เพราะเคยเห็นสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ต่างๆ ที่มีราคาแพงในท้องตลาดพระเครื่องชาตินี้คงไม่มีวันได้เป็นเจ้าของเป็นแน่ แต่พอมีการสร้างพระสมเด็จเหนือหัวขึ้นมาก็เลยอยากได้ไปบูชา พอได้เช่าสมใจก็รู้สึกดีใจมาก
ด้าน นายดุสิต ปารสี นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวด้วยว่า มาเข้าคิวตั้งแต่สามทุ่มวันอาทิตย์ เพื่อจะได้เช่าบูชาสมเด็จเหนือหัว จริงๆ สาเหตุที่มาเช่าครั้งนี้ ก็เพราะเห็นมวลสารและพิธีกรรมปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ที่เข้มขลังมาก จึงรู้สึกว่า น่าจะเป็นพระอีกรุ่นหนึ่งที่เราควรมีไว้บูชา
ในขณะที่ น.ส.สุดารัตน์ พัวกาหลง กล่าวเสริมว่า วันนี้มีความตั้งใจมาจากบ้าน จ.ภูเก็ต โดยนั่งเครื่องมาเป็นตัวแทนเช่าพระสมเด็จเหนือหัว เพื่อนำไปให้พ่อบูชา อย่างน้อยพ่อเราไม่สามารถมาได้เราก็มาให้ เชื่อว่า พ่อจะต้องภูมิใจกับสิ่งที่เราทำให้ พอได้เช่าสมปรารถนากับสิ่งที่เราตั้งใจก็รู้สึกดีใจ อีกส่วนหนึ่งเราก็ถือว่า ร่วมกับสร้างอุโบสถสองกษัตริย์
สำหรับวัตถุประสงค์การจัดสร้าง “พระสมเด็จเหนือหัว” นั้น มูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ในพระบรมราชาชูปถัมภ์ จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นราชานุสรณ์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (รัชกาลที่ ๘) โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ ๙) พระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และได้พระราชทานนามมูลนิธิว่า “อัฏฐมราชานุสรณ์ ” ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๘) เสด็จสวรรคตครบรอบ ๖๐ ปี ตรงกับศุภวาระขิตสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๙) ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี มูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ ในพระบรมราชาชูปถัมภ์ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์
มูลนิธิจึงจัดให้มีโครงการสร้างอุโบสถ “สองกษัตริย์” เป็นทรงจัตุรมุขยอดมงกุฎ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและร่วมเทิดพระเกียรติ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะให้พระภิกษุสงฆ์ใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ เพื่ออุทิศถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมทั้งให้เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ซึ่งต้องใช้ทุนทรัพย์กว่า ๑๐๐ ล้านบาท เป็นค่าก่อสร้างเบื้องต้น ในการนี้ได้จัดสร้าง “พระสมเด็จเหนือหัว” เพื่อมอบให้ผู้ร่วมสละทุนทรัพย์ทำบุญไว้เป็นพระพุทธานุสติ
เหตุกระแสนิยม
นายเสมอ งิ้วงาม เลขานุการสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย หรือที่รู้จักกันในนาม "ป๋อง สุพรรณ" กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการสร้างพระสมเด็จเหนือหัวออกมาให้ประชาชนได้เช่าบูชาในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก น่าจะมาจากวัตถุประสงค์ของการจัดสร้าง ที่มีความชัดเจนว่าจะนำไปสร้างอุโบสถสองกษัตริย์ ประกอบกับในเรื่องมวลสาร พิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ รวมทั้งรูปแบบขององค์พระที่จัดสร้างได้ตรงความต้องการของประชาชน ดังนั้น จึงส่งผลทำให้ประชาชนที่ได้เห็นพิธีกรรมเหล่านี้เกิดความศรัทธาของการจัดสร้าง


"ผมคิดว่ากระแสความต้องการที่มีมากขนาดนี้ นอกจากจะมาจากพิธีกรรมแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ผมคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการประชาสัมพันธ์ ยิ่งการออกมาให้เช่าตรงกับกระแสวันพ่อแห่งชาติพอดี ก็ยิ่งทำให้ประชาชนอยากมีไว้บูชา จึงเกิดเป็นกระแสความต้องการนั่นเอง"
ในขณะที่ น.ส.วนิดา ยาจันทา เจ้าของศูนย์พระเครื่อง ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน กล่าวเสริมว่า การจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัวครั้งนี้ออกมาตรงกับกระแสของวันพ่อแห่งชาติ และก็ตรงใจของประชาชนที่อยากจะบูชาองค์พระครั้งนี้ บวกกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศ ขณะเดียวกันการเช่าหาบูชาก็สะดวกเช่นกัน



</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=700 align=center bgColor=#f9d99d border=0><TBODY><TR><TD>โดย : ม่าซัง (ผู้ดูแลระบบ) วันที่ตั้ง : 08 ธ.ค. 50, 08:18 น. แก้ไขล่าสุด : 12 ธ.ค. 50, 08:25 น. </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message --><!-- sig -->

 

ภาพพิธีที่ดูเข้มขลัง มุมกล้องสูง และใช้เลนส์มุมกว้าง เก็บภาพขนาดนี้ จะไม่ทำให้คนเกิดความรู้สึกไม่ได้ครับ..
ภาพพิธีปลุกเสก พระสมเด็จเหนือหัว
<!-- Main -->[SIZE=-1]

[/SIZE]
<!-- / message --><!-- sig -->

____________________________________________________________

 

รูปขนาดเล็ก</LEGEND>


รอคุณหนุ่มมาชม และออกความเห็นเพิ่มเติมนะครับ...

ผมเป็นคนที่ไม่ยอมไปถ่าย aura เก็บไว้ สาเหตุเพราะว่า aura มีสภาวะที่ไม่เที่ยง แปรเปลี่ยนไปตามอารมณ์ ความรู้สึกไปทุกขณะ หากรู้ว่า aura มีจริงแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปถ่ายเก็บไว้ ความรู้เรื่อง aura นี้ทางต่างประเทศถือว่ารับทราบ และรู้กันมามากกว่าพันปีแล้ว เมืองไทยเราอาจารย์ม.ล.อัคนี นวรัตน์ เป็นผู้บุกเบิก ผมก็ศึกษาจากตำราต่างประเทศมากกว่า ๓๐ เล่ม ต่างประเทศจะใช้ไปในการรักษาและบำบัดเรียก colour healing ยังมีรายละเอียดอีกมากครับ เดือนหนึ่งก็เล่ากันไม่จบ

หากวิเคราะห์กันตามรังสีที่เกิดขึ้นนี้ มีรังสีสีเหลืองและสีเขียวที่เด่น สีขาวเล็กน้อย สีเหลืองเป็นปัญญาญาณ ไหวพริบ ลางสังหรณ์ ลักษณะทำนองนี้ ส่วนสีเขียวเป็นเรื่องของการรักษาโรค และหมายรวมไปถึงความมั่งคั่ง การเจริญเติบโต การขยายในทำนองนี้นะครับ รวมความแล้วพระเครื่องวังหน้าพิมพ์"อรหันต์น้อย"องค์นี้มีอิทธิคุณด้านแคล้วคลาด อาจเกิดความรู้สึกเอะใจขึ้นมาเฉยๆเมื่อจะเกิดเหตุไม่ดี หรือทางดีกับเรา เหมือนไปโน้มใจเราให้ไปสู่ทางที่เป็นกุศลหรือเรื่องราวที่กำลังค้นหาอยู่ และหลีกเลี่ยงไม่ไปสู่ทางที่มืดอับ หรืออันตราย ขณะเดียวกันก็ยังให้ผลด้านเมตตานิยมด้วย ให้ผลทางแรกมากกว่า เปรียบเทียบเหมือนวิชาเอกคือแคล้วคลาด และวิชารองเมตตานิยม...

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ APIRAT
ผมได้ถ่ายออร่าที่งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ทางจิต ใส่พระวังหน้าพิมพอรหันต์น้อย (หลวงปู่ท่านผ่านญาณทางลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ท่านบอกผมว่าวังหน้าสร้าง ปู่เป็นผู้อธิษฐานจิต )ส่วนองค์ที่ร่วมทำบุญสร้างเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งไม่ได้ใส่ถ่าย รูปออกมาตามที่เห็นไม่ทราบว่าคุณสิทธิพงษ์และคุณเพชร มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ในแต่ละพิมพ์ ผมเคยบอกแล้วว่า บางครั้งในแต่ละพิมพ์ หลวงปู่ท่านเจตนาอธิษฐานจิตให้แตกต่างกัน บางพิมพ์จึงต้องใช้ในแต่ละกรณีครับ

พิมพ์อรหันต์เล็ก จะเด่นทางแคล้วคลาดเป็นหลักครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

มาดูเรื่องหยกกันอีกสักเล็กน้อย

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ศิลปะจากหยกที่เหลียวหนิง
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9500000148464
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 ธันวาคม 2550 08:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สองศิลปินได้นำผลงานของตัวเองเปิดตัวต่อสาธารณชนให้ชื่นชมเมื่อวันวันพฤหัสบดี (13 ธ.ค.) ซึ่งผลงานของทั้งสองเป็นผักกาดขาวที่แกะสลักขึ้นจากหยกซิ่วเหยียนที่หนักราว 3.5 ตัน ยาว 2.4 เมตร โดยได้จัดแสดงขึ้นที่เมืองเสินหยาง มณฑลเหลียวหนิง ทั้งนี้หยกซิ่วเหยียนเป็นทรัพยากรที่พบในอำเภอซิ่วเหยียนแห่งมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งก็เป็นหยกชนิดหนึ่งที่ชาวจีนค้นพบและนำมาใช้สอย - ซินหัวเน็ต


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02biz03131250&day=2007-12-13&sectionid=0214

วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3957 (3157)​

มาตรฐานบริการ... กับความไม่พึงพอใจของลูกค้า

คอลัมน์ มาตรฐานสร้างโอกาส

โดย พิทักษ์ สุภนันทการ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อินเตอร์เทค เทสติ้ง เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด

ธุรกิจประเภทค้าปลีกและร้านค้าสะดวกซื้อได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันของคนเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมทั้งชีวิตผมด้วย... ตั้งต้นจากคำว่า ความสะดวก ซึ่งผมว่ามันก็ค่อนข้างสะดวกจริงๆ ในสภาวะการใช้ชีวิตที่มีกิจกรรมซับซ้อน และเร่งรีบมากขึ้น รวมทั้งต้องเผื่อเวลาสำหรับเรื่องอื่นๆ โดยมุ่งเน้นความสะดวกลูกค้าเป็นตัวตั้ง สิ่งหนึ่งที่ยังไม่มีเจ้าไหนทำได้ดีอย่างจริงจังที่เป็นระบบก็คือ ระบบการบริหารจัดการความ (ไม่) พึงพอใจของลูกค้า ซึ่งเป็นความไม่พึงพอใจจากความไม่สะดวกของธุรกิจสะดวกซื้อนั่นแหละ เชื่อว่าทุกท่านคงมีประสบการณ์ตรงจากการใช้บริการของธุรกิจดังกล่าว เราเองก็รู้ครับว่าคนเราต่างจิตต่างใจ... ร้อยพ่อพันแม่ แต่สำหรับธุรกิจบริการแล้วไม่ใช่ข้ออ้างแห่งเหตุที่ไม่สามารถให้ลูกค้าพึงพอใจได้ เพราะไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ไม่รู้ ความพึงพอใจหรือไม่นั้นจะสัมพันธ์กับความคาดหวังและการรับรู้ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจแบบนี้คือ จะต้องใช้ทั้งวิชาการ (ระบบการจัดการที่ดี) และศิลปะในการให้บริการ (อัธยาศัยไมตรี) ซึ่งจะต้องบูรณาการทั้งสองอย่างให้เข้ากันอย่างดีจนเป็นเนื้อเดียวกัน สิ่งนี้แหละที่จะนำไปสู่ความรู้สึกดีและสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อแบรนด์...

เราลองมาดูซิครับว่าปัญหาที่ลูกค้ามักไม่พึงพอใจมากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง คงไม่ต้องไปทำวิจัยอะไรมากแค่ใช้สามัญสำนึกพื้นฐานจากการใช้บริการของเราเองก็พอจะรู้ ปัญหาความไม่พึงพอใจจากการใช้บริการร้านค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อคงหนีไม่พ้นเรื่องหลักๆ ดังต่อไปนี้

1.ต้องเข้าคิวยาวและยืนรอนานที่ช่องจ่ายเงิน ผมว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นลำดับต้นๆ ที่ลูกค้าไม่ค่อยพึงพอใจมากที่สุด เขาเข้าใจได้และทำใจได้หากทุกเคาน์เตอร์เปิดเหมือนกันหมด และพบว่าพนักงานตั้งใจบริการอย่างเต็มที่ แต่ไม่อยากเข้าใจและเห็นใจหากพบว่าระหว่างที่ลูกค้ายืนรอคิวยาวมากนั้นมีเคาน์เตอร์จำนวนมากไม่เปิดให้บริการ โดยนำป้ายมาวาง "กรุณาใช้เคาน์เตอร์ถัดไป" บางครั้งก็มีวางเยอะจนเคาน์เตอร์ถัดไปไม่มีแล้ว มีแต่ห้างและร้านถัดไป...!! ลูกค้าบางรายวางตะกร้าหรือจอดรถเข็นทิ้งไว้เลย... ช่างมัน... ไปซื้อห้าง/ร้านข้างๆ (ที่ยังไม่ทำให้หงุดหงิด) ดีกว่า การยืนรอจ่ายเงินนานๆ มันทุกข์นะครับ วิธีคิดที่ดีทางธุรกิจก็คือ "เขาเอาเงินมาให้ก็รีบรับเร็วๆ" ผมว่าถ้าห้างไหนหรือร้านสะดวกซื้อใดที่สามารถการันตีว่า ถ้ามีลูกค้ายืนรอคิวเกิน 3 คนเราจะเปิดเคาน์เตอร์ใหม่ทันที และทำให้เป็นตามสัญญานั้น รับรองลูกค้าพอใจแน่

2.สินค้าไม่มีบาร์โค้ดแต่บรรจุในลักษณะพร้อมจำหน่าย ยกตัวอย่างสินค้าประเภทผัก เช่น แตงกวาญี่ปุ่น ฯลฯ (ของบางห้าง) หากลูกค้าไม่สังเกตให้ดีก็จะหยิบใส่ตะกร้าไปเลย เพื่อเข้ารอคิวนานกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะต้องถูกพนักงานไล่ให้ไปชั่งก่อนแล้วค่อยมาตั้งคิวใหม่อีกที เซ็งครับ เจอแบบนี้ (จะทะเลาะกับเด็กก็ไม่ได้... ไม่คุ้ม และถือเป็นความสูญเปล่า) ส่วนผักและผลไม้ที่ให้ลูกค้าเลือกหยิบเองตามใจชอบและไปชั่งตามปริมาณที่ต้องการ ลูกค้าเขาเข้าใจดี สินค้าที่บรรจุเป็นแพ็กพร้อมจำหน่ายจะต้องมีบาร์โค้ดและพร้อมจ่ายเงินทันที

3.เมื่อซื้อของมากๆ ไม่สะดวกที่จะนำไปเก็บที่รถ โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่ไปซื้อของคนเดียว บางรายต้องนำลูกเล็กไปด้วยยิ่งไม่สะดวกใหญ่ แม้ว่าจะมีรถเข็นไว้บริการ แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเนื่องจากขนาดของมันใหญ่กว่าขนาดรถเข็นเยอะ และต้องขึ้นลงชั้นจอดรถที่ไม่ตรงกันกับลิฟต์ หากมีพนักงานคอยช่วยถือ และขนไปส่งที่รถด้วยจะสะดวกมาก

4.ไม่มีใครดูแลลูกเล็กเวลาที่เราช็อปปิ้ง-หากท่านนำลูกเล็กๆ ไปช็อปปิ้งด้วยท่านจะพบปัญหาความยุ่งยากอย่างหนึ่งคือ การจัดการกับลูกและเด็กๆ ของท่าน เพราะเขาไม่ได้สนุกด้วยกับการช็อปปิ้งเลยเขาอยากเล่นให้สนุกอย่างเดียว บางทีก็ไม่รู้ว่าจะนำลูกไปฝากไว้ที่ไหนโดยที่ไม่ต้องกังวลและสามารถซื้อของได้อย่างสบายๆ หากมีแผนกรับดูแลเด็กๆ ให้ด้วยระหว่างซื้อของก็จะดี

5.ยังมีอีกมาก...

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ผู้บริโภคมักรับรู้ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาพึงพอใจได้มาก ผมว่าสองข้อแรกหนักหน่อย ทุกท่านคงได้ประสบกันบ่อยๆ จนบางครั้งท่านผู้อ่านอาจตั้งข้อสังเกตว่าเป็นปัญหาของใคร เราผิดเองที่เอาแต่ใจตัวเองโดยไปคาดหวังว่าเขาจะบริการดีอย่างที่เราคิด หรือว่าทางห้างเขาก็เป็นอย่างนี้แหละ เขาเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด ไม่เห็นว่ามีอะไรแปลกเลย แล้วแต่จะคิดครับ นักการตลาดมักพูดกันอยู่เสมอว่าความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และความต้องการดังกล่าวมากขึ้นและซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้หลักกรอบวิธีคิดง่ายๆ ว่า ยุคแห่งความสะดวกของผู้บริโภค

ขอย้ำอีกรอบว่า ความพึงพอใจเป็นความรู้สึกเชิงเปรียบเทียบครับ... อย่าให้ผู้บริโภคเปรียบเทียบแค่แย่กับแย่กว่า !!

 

วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 31 ฉบับที่ 3957 (3157)​

ใครไม่อยาก "แก่" ฟังทางนี้

คอลัมน์ วาไรตี้ เฮลท์

ถึงเวลานี้ ใครๆ ก็ "กลัวแก่"

และเพราะกลัวแก่นี่แหละ จึงทำให้เกิดช่องทางการชะลอวัยได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งวิทยาการความก้าวหน้าแบบสวยด้วยแพทย์ สวยด้วยเครื่องประทินโฉม สวยด้วยวิตามินและยาบำรุงหลากหลาย สวยด้วยเครื่องมือเครื่องใช้ รวมไปถึงสวยด้วยวิธีการบริโภค

แม้จะมีวิทยาการที่ก้าวล้ำมาช่วยแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตามการดูแลตัวเอง รักษาสมดุลให้กับร่างกาย ก็ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุด คลาสสิกที่สุด ที่จะสามารถยืดเวลาที่กระบวนการทางธรรมชาติจะมาเยือนได้ดีที่สุดทางหนึ่ง และนี่เป็นบันได 3 ขั้น ในการปรับปรุงวิถีชีวิตให้ดีขึ้น เพื่อมุ่งสู่หนทางสว่างในการชะลอความชราที่จะมาเยือนได้

1.เลิกพฤติกรรมเสี่ยงทุกรูปแบบ

- บุหรี่ เพราะบุหรี่ 1 มวนจะมีสารพิษมากกว่า 350 ชนิด มีการพบว่าผู้ที่สูบบุหรี่นอกจากจะแก่เร็วแล้ว ยังมีโอกาสที่เป็นหมันสูง สมรรถภาพทางเพศลด และมีแนวโน้มที่จะทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ

- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะในเครื่องดื่มประเภทนี้มีสารที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้

- หลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะการโดนโดยตรงอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ผิวไหม้ หรือเป็นมะเร็งผิวหนังได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลา 10.00-17.00 น.

2.กินให้เป็น

- รับประทานอาหารที่มีคุณภาพและอาหารที่แคลอรีต่ำ ประเภท ปลา ผัก ผลไม้ นอกจากจะทำให้ไม่อ้วนแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาท ความดันโลหิตสูงได้

- ลดอาหารประเภทแป้ง เพราะแป้งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และหากน้ำตาลสูงเกินไปจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคร้าย

- เลี่ยงอาหารที่มีกรดไขมัน tran fatty acid สูง หรืออาหารประเภทมาการีน ขนมเค้ก ขนมปังขาว เพราะอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่ม

- ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณที่พอเหมาะ พบว่าหากดื่มมากกว่าวันละ 5 แก้ว จะลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด ช่วยลดการเกิดนิ่ว ลดการเกิดมะเร็ง และยังช่วยลดความอ้วน

- ลดคาเฟอีน มีการพบว่าหากดื่มมากกว่าวันละ 4 แก้ว จะมีอัตราการเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และยังเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็ง

3.อยู่ให้เป็น

- นอนหลับให้พอเหมาะไม่มากหรือน้อยเกินไป มีการพบว่ายิ่งนอนมากยิ่งทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้มาก การนอนเกินวันละ 8 ชั่วโมง จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ

- ลด ละ เลิก สิ่งที่ก่อให้เกิดความเครียด หาวิธีคลายเครียดด้วยการทำสมาธิ หรือทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส ช่วยทำให้จิตใจสงบ ความดันโลหิตลด เพิ่มภูมิต้านทานมากขึ้น

- อยู่ในที่อากาศปลอดโปร่ง มีผลดีต่อสุขภาพ และยังสามารถทำให้จิตใจสงบขึ้นได้

- ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ป้องกันการอุดตันของลิ่มเลือด และยังช่วยลดคอเลสเตอรอล ความดันโลหิต

- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางให้เหมาะสมกับผิวพรรณ วัย และฤดูกาล

วิธีการที่ว่านี้หากใครทำได้ ไม่เพียงแต่จะเหนี่ยวความสวย ความสาวได้อยู่กับตัวมากที่สุดแล้ว สุขภาพร่างกายยังจะดีเยี่ยม โรคร้ายที่ไม่พึงประสงค์ยังโคจรไปไกลแสนไกล !!

http://www.matichon.co.th/prachachat...sectionid=0219<!-- / message --><!-- sig -->

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">พบแพทย์ อย่างไรให้ได้ผล (1) [8 ธ.ค. 50 - 00:16]
http://www.thairath.co.th/news.php?section=technology&content=70942

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน อาจทำให้เจ็บป่วยเป็นไข้ได้ง่าย ๆ
เมื่อเจ็บป่วยถึงขั้นต้องพึ่งพารับการรักษาจากแพทย์มีเคล็ดลับ “20 วิธีพบแพทย์ให้ได้ผล” มาฝากกัน เคล็ดลับ เหล่านี้ ผศ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข แปลจาก “20 Tips to Help Prevent Medical Errors” คู่มือขนาดกะทัดรัดนี้แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ ก. หลักการที่สำคัญ ข. หลักปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ยา ค. หลักปฏิบัติหากต้องไปนอนโรงพยาบาล ง. หลักทั่วไปในการรับบริการสุขภาพ
ในส่วนหลักการสำคัญ 2 ข้อแรก แบ่งเป็นเคล็ดลับข้อย่อยได้ดังนี้
เคล็ดลับประการที่ 1 พึงระลึกไว้เสมอว่า “เราจะต้องเป็นส่วนหนึ่งในทีมที่ให้การรักษา” มีงานวิจัยยืนยันว่าผู้ป่วยที่มีส่วนร่วมในกระบวนการรักษามีแนวโน้มจะได้ผลการรักษาที่ดีกว่า
เคล็ดลับประการที่ 2 ต้องแน่ใจว่าแพทย์ที่รักษาท่านทราบว่า ท่านได้รับยาหรือผลิตภัณฑ์ สุขภาพอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาที่ได้รับจากแพทย์ ท่านอื่นหรือหาซื้อมารับประทานเอง หรือแพทย์แผนกอื่นสั่งให้ ดังนั้น หากพบแพทย์หรือนอนโรงพยาบาลควรนำยาหรือผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ประจำมาเป็นข้อมูลเพื่อให้แพทย์ได้ทราบด้วย
เคล็ดลับประการที่ 3 ต้องแน่ใจว่าแพทย์ที่รักษาท่านทราบว่า ท่านเคยแพ้ยาหรือมีอาการข้างเคียงที่เป็นอันตรายจากยาชนิดใด เพื่อจะได้หลีก เลี่ยงยาประเภทดังกล่าว
เคล็ดลับประการที่ 4 กรณีที่แพทย์ ตัดสินใจให้ยาแล้ว ท่านต้องพยายามทำความเข้าใจกับใบสั่งยาที่ได้รับ โดยเฉพาะลายมือแพทย์ที่เขียนไม่ชัดเจน ทำให้เภสัชกรจ่ายยาผิดพลาดและเป็นที่มาของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคนไข้ได้
เคล็ดลับประการที่ 5 ต้องรู้รายละเอียดเกี่ยวกับ ยาที่ได้รับว่าใช้เพื่ออะไร ต้องใช้อย่างไร ใช้นานแค่ไหน และจะหยุดยาได้เมื่อไร ถ้าใช้ยาแล้วมีผลข้างเคียงต้องปฏิบัติตัวอย่างไร หรือมีกิจกรรมใดบ้างต้องหลีกเลี่ยงเมื่อกินยานี้ เนื้อที่หมดเสียก่อนแล้วไว้ต่อกันคราวหน้า แต่ถ้าอดใจรอไม่ไหว จะลองติดต่อสมัครสมาชิก วารสารฉลาดซื้อ ของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ที่โทร. 0-2952-5060-2 เพราะคู่มือนี้มีแจกให้สมาชิกวารสารไม่ได้วางแผงทั่วไป.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">พบแพทย์ อย่างไรให้ได้ผล(2) [15 ธ.ค. 50 - 00:48]
http://www.thairath.co.th/news.php?section=technology&content=71761

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>สัปดาห์นี้มาว่ากันต่อถึงเคล็ดลับ “20 วิธีพบแพทย์ให้ได้ผล” ที่ ผศ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข แปลจาก “20 Tips to Help Prevent Medical Errors” คราวนี้มาต่อกันด้วยเคล็ดลับเกี่ยวกับการรับยาและใช้ยาให้ได้ผล หลังจากพบแพทย์แล้ว
• เมื่อไปรับยาตามใบสั่งยาที่ห้องยา หรือร้านยา ต้องแน่ใจว่าเป็นยาที่เหมาะสมสำหรับท่านจริงๆ ท่านมีสิทธิที่จะถามเพื่อความมั่นใจว่ายาที่ได้รับเป็นยาที่เหมาะสมกับท่านจริงๆ โดยเฉพาะหากมีโรคเรื้อรังที่ต้องกินยาหลายขนานร่วมด้วยอยู่แล้ว ในการศึกษาวิจัยพบว่าความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในขณะจ่ายยา ได้แก่การได้รับยาผิดชนิด หรือได้รับยาในขนาดที่ผิดไม่ถูกต้องตามที่สั่ง
• หากรับยาแล้ว มีข้อสงสัยถึงวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากต้องรีบถามก่อนกลับบ้าน เพราะหากเข้าใจผิดพลาดจะนำไปสู่การกินยาหรือใช้ยาที่ผิดพลาด เช่น ฉลากระบุว่ารับประทานวันละครั้ง หลังอาหารหรือก่อนนอน มีคนไข้รับประทานยานี้วันละ 4 ครั้ง ทั้งหลังอาหารทุกมื้อและก่อนนอน
• ควรให้เภสัชกรแจ้งให้ท่านทราบถึงอันตรายหรืออาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากยา และวิธีปฏิบัติ หากเกิดขึ้นจริงโดยเฉพาะที่อยู่ที่สามารถติดต่อกลับ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม หากเป็นไปได้ควรแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร
• ท่านต้องแน่ใจว่าสามารถใช้ยาได้อย่างถูก ต้องและเก็บรักษายาอย่างถูกต้อง เช่น ยาน้ำต้องถามให้แน่ใจว่าจะใช้อุปกรณ์ในการตวงอย่างไรจะเหมาะสม เช่น หนึ่งช้อนชา ไม่เท่ากับขนาดหนึ่งช้อนกาแฟ หากท่านไม่มีช้อนชา ให้ขอจากห้องยาหรือร้านยาได้ หากได้รับเป็นหลอดฉีดยาสำหรับตวงยาต้องแน่ใจว่าท่านใช้ได้อย่างถูกต้อง หรือกรณีที่เป็นยาพ่นต้องแน่ใจว่าพ่นถูกอวัยวะ การเก็บยาหลังเปิดขวดใช้แล้ว วิธีการใดที่เหมาะสม เช่น เก็บในตู้เย็น หรือต้องทิ้ง ภายหลังใช้เป็นเวลา 1 เดือน ในกรณียาหยอดตา
พื้นที่คอลัมน์หมดเสียก่อน แต่ถ้าสนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากคู่มือเล็กๆเล่มนี้ ลองติดต่อสมัครสมาชิก วารสารฉลาดซื้อ ของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ที่โทร. 0-2952-5060-2 หรือโทร. 08-9761-9150 เพราะคู่มือนี้มีแจกให้สมาชิกวารสารไม่ได้วางแผงทั่วไป.

</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=7 width=780 border=0><TBODY><TR><TD class=font2 style="PADDING-LEFT: 25px" vAlign=top width="44%" bgColor=#e4ffd6> วของ
พบแพทย์ อย่างไรให้ได้ผล (1) [8 ธ.ค. 50 - 00:16]
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ท่านปา-ทาน วันนี้เข้า shell autoserve ไปถ่วงยาง2ล้อหน้าจาจ่ายเงินเขาบอกฟรีครับงง...เอ่เพราะ................รึเปล่าครับ
(นี่คือคำเตือนห้ามให้ผบ.ห้อยโดยเด็ดขาด ไม่รู้ท่านกุ้งเป็นไงบ้างครับรายงานตัวด่วนครับ เพื่อนๆเป็นห่วง(deejai) )
nongnooo...

 

ผมไม่ได้ให้ห้อยครับ

ผมให้พิมพ์อธิษฐานฤทธิ์บุทองคำ ให้แทนแต่ว่ายังไม่ได้ให้เป็นทางการครับ

.

 

เพิ่งไปถ่วงล้อมา ๔ ล้อ คนกันเองยังคิด ๓๐๐ บาทเลย อย่างน้อยนี่คุณน้องนู๋ต้องจ่าย ๑๕๐ บาทนะเนี่ย อิอิ..เมตตาสูงแฮะรุ่นนี้

 

ตอบคำถามพระธาตุเจดีย์ ๙ แห่ง รับมอบพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุอนุรุทธ พระธาตุสิวลี
http://palungjit.org/showthread.php?t=103525&page=9

ติดตามไปดูเฉลยกันน๊ะครับ
คุณเพชร ทำให้ลุ้นกันตลอด

.

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo
ท่านปา-ทาน วันนี้เข้า shell autoserve ไปถ่วงยาง2ล้อหน้าจาจ่ายเงินเขาบอกฟรีครับงง...เอ่เพราะ................รึเปล่าครับ
(นี่คือคำเตือนห้ามให้ผบ.ห้อยโดยเด็ดขาด ไม่รู้ท่านกุ้งเป็นไงบ้างครับรายงานตัวด่วนครับ เพื่อนๆเป็นห่วง(deejai) )
nongnooo...
</TD></TR></TBODY></TABLE>

กุ้งมังกอนครับ รายงานผลด้วยครับ

.

 

ปี่เซี๊ยหยกครับ
นำมาให้ชมกันอีกสักรอบ

คู่นี้ผมถวายหลวงพ่อแผน ที่ สนส.บ่อเงินบ่อทอง ประมาณเดือนตุลาคม 2549ครับ

.

 

ส่วนหยกนี้ ผมเรียกว่า หยก"เงินจีน" เนื่องจากมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับเงินของประเทศจีนโบราณครับ


.