เคยมีคนบอกว่า.....จะทำให้เป็นสิวแล้วควรแก้กรรมยังไงคับ

คือผมไปอ่านจากหลายๆที่มา เขาบอกว่าเราเคยทิ้งขยะในที่สาธารณะ อันนี้ผมเคยทำ บ่อยด้วย
แล้วก็ชอบแกล้งคนอื่นทำให้เขาต้องอับอาย อันนี้ก็เคยความรู้สึกตอนนั้นก็ขำ แบบล้อชื่อพ่อแม่
เอาโน่นนี่นั่นไปใส่ตัวเขาแบบเขาไม่รู้ตัว แล้วเพื่อนๆก็หัวเราะเขาประมาณนี้ แล้วเป็นคนปากร้าย
ชอบด่าชอบพูดนินทา อันนี้ก็เคยอีกละ เมื่อก่อนเคยมีแก๊งงูเห่าด้วยแหละ ผมก็อยู่ในกลุ่มนี้ตอนเด็กๆนะ แบบว่ากลุ่มนี้จะด่าคนเก่งมาก ใครมาทำไรหน่อยไม่ได้ด่ามันอย่างเดียว ที่ผมจำได้ก็มีแค่นี้ละคับ กรรมนี้เล่นงานผมช่วงใกล้เปิดเทอม พอเปิดเทอมเพื่อนทักหมดเลย ว่าไปทำไรมา สิวเยอะขึ้นมากๆๆๆๆๆๆ จนผมอายไม่ค่อยกล้าไปโรงเรียน หลังจากเปิดเทอมวันแรกนั้นผมก็พยายามที่จะดึงสติไม่ให้ทำบาป เช่น ผมเคยทิ้งขยะในรถตู้ที่ไปส่ง ตอนนี้ผมไม่ทำแล้ว
ผมเอาไปทิ้งเอง แกล้งคนอื่นอันนี้ไม่ทำแล้วผมอยู่เฉยๆละช่วงนี้ ด่าคนอื่นอันนี้ก็ต้องบอดว่านิดหน่อยนะคับ แบบนี้ละกันเมื่อก่อนด่าคน 100% ตอนนี้เหลือ 40% ที่ผมมาเล่าให้ฟังนี่ก็เพราะผมอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นคนดี อยากมีคนแนะนำ ให้กำลังใจ แล้วก็วิธีลดกรรมจากกรรม
นี้ด้วยคับเพราะผมทรมานเหลือเกินอยากได้วิธีแบบว่า แผ่เมตตา บทสวดมนต์ ทำบุญ ประมาณนี้ละคับ ตอน ม.2 ความชั่ว 100% ตอนนี้ ม.3 ความชั่วเหลือ 50% ละคับ
ผมจะพยายามต่อไป ยิ่งสิวผมหายผมก็สามารถไปทำบุญหรือสิ่งดีๆได้มากกว่าเดิมเพราะไม่ต้องอายคนคับ ช่วยหน่อยนะคับ

 

ล้างหน้า สระผมให้สะอาด รักษาสุขลักษณะ ซักปอกหมอน ผ้าปูที่นอนทุกอาทิตย์ ดูดฝ่น ทำความสะอาดห้อง

 

ทำมาหมดแล้วคับไม่หายเลยอะ

 

สิวที่หน้า เขาว่า เกิดจากทิ้งขยะในที่ สาธารณะ

นี่ขนาด กรรม ที่ทำต่อ สถาณที่ .....เขาว่า ยังให้ผลหนัก ทำให้เกิด สิวที่หน้า
จริง เท็จอย่างไร ก็ว่ากันไปตาม เขาว่า ไปก่อน เราไม่ทิ้งขยะ ก็ดีแล้ว จะให้
ดีก็ที่มาของขยะ ซองขนมหวานอะไรงี้ ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องให้มีในมือ คือ ลด
การกินขนมหวานไปด้วย ช่วยลดขยะในมือ โอกาสเผลอทิ้งขยะ ก็ไม่มี กินน้ำตาล
ไม่มาก ก็ลดผิวมันๆ ทิ้งน้ำมันลงบนใบหน้าได้

สิวบนหน้าว่ากันไป

มาดู สิวในหัวใจ กันดีกว่า

สิวในหัวใจ คือ ใจมันเกิดตุ่มเกิดต่อม เกิดเสี้ยน กลัดหนอง จุกอก เคยรู้สึก
หรือเปล่า เคยสำรวจกาย ใจ ตัวเอง ขณะที่ จิตตั้งมั่น เป็นกลาง ต่อการเห็น
เข้ามาบ้างไหม

เวลาใจเรานะ เกิดตุ่ม เกิดต่อม รู้สึกได้เหมือนเสี้ยน เหมือนหนาม จุกอก เสียด
แทงใจ บีบคั้นใจ ระทม ระบมใจ เนี่ยะ " สิวของใจ " " ใจดุจมีหัวฝี หัวหนอง
รอวันแตก "

สิวบนหน้า เขาว่า ให้ลดการทิ้งขยะลงที่สาธารณะ

สิวของใจ สงสัยว่า ให้งดโกยขยะ " อย่าส่งจิตออกนอก ไปโกยมาเก็บไว้ที่ใจ "

เรื่องของ ใจ ใครก็ช่วยไม่ได้ ต้อง " โยนิโสมนสิการ เฝ้นหาหนทางกัลยณธรรม
ไม่ประมาท " เอาเอง

 

-ซื้อเบนเซก 5 เปอร์เซน จากร้านคลังยา (จะได้ถูกหน่อย ถูกว่าร้านรักษาสิวมาก) กดออกเมื่อดูแล้วกดได้
-มาร์ดด้วย ชาเชียวของปทุมมาศ ลดความมันทุกวัน
-เลือกกันแดดแบบไม่มัน และอย่าแต่งหน้าด้วยนอกจากใช้แป้ง (ถ้าแป้งข้าวเจ้าจะดีกว่าแป้งทัลคัม)
-TCA รู้จักเปล่า
ฯลฯ

น้องๆแนะมาก เดวผิดบอร์ดอะ เดวโดนย้ายหรอก

 

ผมไม่กล้าใช้ครีมอะไรเลยคับเดี๋ยวนี้กลัวมากๆ
เพราะใช้มาหมดแล้วทั้งโน่นที่ว่าดี นี่ที่ว่าหาย สุดท้ายก็จบลงด้วยการเพิ่มขึ้น
แต่ตอนนี้หมอแถวๆใกล้บ้านให้ยามาทาน หมอบอกว่ายาแรง ชื่อ Acnotin เป็นกรดอนุพันธุ์วิตามินเออ่าคับ กับอีกอันคือฆ่าเชื้อ
แต่ก็ดีขึ้นนิดหน่อย แต่ยังเยอะอยู่ดี

 

สิวของใจ

- ซื่อใน สติปัฏฐาน4 100เปอร์เซนต์ จาก ธรรมโอสถศาลา ( ไม่เสียเงิน ถูกกว่าร้าน
รักษาหิวมาก ) ผุดขึ้นมาก็รู้ สุกก็รู้ สะกิดออกไปเองก็รู้ ดูความไม่เที่ยง

- ไม่ต้องมาสก์ ตามเฉลียวให้มาก ลดละเลิกการโกยขยะเข้าสู่ใจได้ทุกวัน

- มีสติกันอแดปแบบไม่มันส์ และอย่าปรุงแต่งการปฏิบัติ (ถ้าย้อนแย้งตัวเจ้าของ จะดีกว่าแย้งคนอื่นทันควัน )

- ธรรมซีเอง รู้จักเปล่า

9ร9

 

ผมไม่เข้าใจอ่าคับ อธิบายละเอียดหน่อย

 

พี่ตอบไปหลังไมค์น่าจะดีกว่านะ เรื่องสิวๆ จริงๆน่าไปบอร์ดพันธิบ
เพราะน้องอาจจะเจอะคำตอบที่ ภาษา overclock เรียกเกรียน นั่นล่ะ

 

ผมไม่อยากใช้อะไรแล้ว แต่อยากทำบุญ
แผ่เมตตา มากกว่าคับ

 

ยาแก้ สิว ที่ดีที่สุด คือ.......ศีล 5 และ พระกรรมฐานครับ...........

แรกๆ หัด สมถะ ก่อนก็ ดี เพราะ สมถะ หัดง่าย แต่..สีลต้องเคร่งครัดมากๆหน่อย...

รับรอง หน้าาจะ ใส ปิ๊งๆๆๆๆ.ไม่เชื่อ ลองทำดู ได้

 

หัดไป สักพัก....

เมื่อ จิต สงบลงบ้าง ค่อยมาศึกษา การเจริญสติ....และพอ เข้าใจหลัก การเจริญสติ และลงมือ ปฎิบัติ ..คุณ เชื่อ มั้ย หน้าคุณ จะ เปล่งปลั่งมากเลย หน้า ใส และ สดชื่น จน สาวๆ เหลียวมองละกัน ไปไหนมาไหน มีแต่ คน ชื่นชม แต่เห็นหน้าคุณ ก็ อยากเข้าใกล้ ยิ่งจิตใจ คุณสบายๆ มากๆ คุณจะเป็นที่ รัก ของคนที่พบหน้า ครั้งแรก แม้จะไม่รู้จักกันมาก่อน...

คนเจริญสติ เป็นแล้ว หน้าจะใสมาก แววตา มีแต่เมตตา แวว ตา มีแต่ มิตร ไม่คิดสร้างศัตรูกับใคร แววตา มี พลัง ในการ สยบใจคนให้ เมตตา ตอบ...

แววตา ของ คน ที่เจริญสติเป็นแล้ว มีอำนาจ สยบ คนอื่นให้หลงไหลได้ ลองดู สิ เชื่อ ผม นะ....

 

ผมมีคำถามคับ ช่วยอธิบายเรื่อง สมถะ หน่อยคับแบบย่อๆเข้าใจนะคับ
แล้วก็เจริญสติ คือผมไม่ค่อยรู้เรื่องนี้
แต่ถ้าให้ไปหาอ่านเอาก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ

 

สมถะ..คือ การ ทำกรรมฐาน แบบท รู้ อารมณ์ เดียว....
หากว่าใน ตำรา มี 40 ชนิดให้หัด ปฎิบัติ.วิธีการ ก็ คือการ หา อะไรสักอย่าง ที่ตนเองชอบ เมื่อ เพ่งจ้อง หรือ เมื่อ เอา สิ่งนั้นๆ ที่เราชอบมา บริกรรม รู้ แต่ สิ่งที่เรา เอามาตั้งเป็น อารมณ์ และ รู้ไป แค่สิ่งนั้นสิ่งเดียว นานๆ มากๆ รู้แค่อารมณืเดียว บ่อยๆ จิตจะ สงบ และ ไม่แส่ส่ายไป รู้อารมณ์ หรือ สิ่งกระทบอื่นๆ

แบบนีิ้ เรียกว่า ทำสมถะครับ
การ แผ่ เมตตา ก็ ดีนะครับ หากคุณชอบ แบบนั้นก็ ดีครับ..หัดใหม่ๆ ก้ แผ่ ไปกว้างๆ ในสัตว์ แล้วเปลี่ยน ตัวแปรเป็น คนผู้ชาย ผู้หญิง หรือ ภูตผีปีศาจ บ้าง

หากจะว่าตามตำราเต็มๆ ก็ บอกมาผมจะลงไว้ให้...เรื่อง อัปมัญญา 4

 

การเจริญสติ

เป็นการทำกรรมฐาน เพื่้อ ให้จิต รู้ สัจจะ..เป็นการ หัด ฝึกจิตให้ สงบลงได้ ด้วยตัวมันเอง อันเกิดจากการ เห็น สัจจะ คือ ไตรลักษณ์ จิตจะสงบเอง ไม่มี อามิสมา เกี่ยวเนื่องให้สงบ

การหัด กรรมฐาน แบบ เจริญสติ นั้น มีอารมณ์ 2 อย่าง คือ อารมณ์ รูป และ อารมณ์ นาม...มี จริต ให้ หัด ปฎิบัติ 2 อย่าง คือ ตัณหา และ ทิฎฐิ((จะยากไป ในคนใหม่ๆ เอาเป็นว่า คุณ อย่าพึ่งสนใจ เรื่อง จริต และอารมณ์ กรรมฐาน ก่อนละกัน))

เอาง่ายๆไปก่อน หัด รู้ทัน กาย เมื่อเคลื่อน หรือ หัด รู้ อาการ กาย ทั้ง ตัว เมื่อ มีการ ขยับ แต่ไม่ใช่ นั่งจ้อง เอาแค่ ว่า เมื่อ ปาก ขยับให้รู้ทัน เมื่อเคี้ยวข้าวให้ รู้ กำลังเคี้ยว เมื่อ ขาเดิน ให้รุ้ว่า ขากำลังก้าวเดิน เมื่อ เท้าแตะพื้น ก็ให้รู้ว่า เท้าแตะพื้น มือ ขยับ ก้ รู้ นั่ง ก็ รู้ว่านั่ง เิดิน ก้ รู้ว่าเดิน นอน ก็รู้ว่านอน ให้ หัดรู้ไป แบบนี้เรื่อยๆ หัด รู้มากๆ

เมื่อ ชำนาญแล้ว ต่อไป คุณ จะรู้ได้ถึง จิตที่ชอบ ไม่ชอบ เจ็บ ไม่เจ็บ กลัว ไม่กลัว เมื่อ รู้กายเป็น ต่อไป ใจจะ แสดงอาการ คุณ จัะรู้ได้ ตามมา

ไม่เชื่อ ลอง ทำ สิ....

 

ขอบคุณคับ
เพราะช่วงนี้ผมเข้า ภวังค์บ่อยมากๆๆๆๆๆๆ ถึงมากที่สุดๆๆๆๆๆ
แบบว่ากินข้าวอยู่ คิดไปถึงหลายๆเรื่องพร้อมกันอ่าคับ
คิดไรหลายๆอย่างประมาณ 5 นาที ค่อยรู้สึกตัว บางครั้งก็นานเป็น 10 -20 นาที
แต่ไม่ได้หลับตานะคับ แบบว่าลืมตาอยู่กำลังทำกิจกรรมอยู่แต่มันมีความคิดเข้ามาทำให้เราคิดเรื่องนั้นวิเคราะห์มันต่างๆนาๆ จนซักพักค่อยรู้สึกตัวอ่าคับ
แบบนี้ปกติรึป่าวคับ

 

เรื่องของรูปร่างหน้าตานี่ เกี่ยวกับเรื่องศีลครับ จุดเริ่มต้นเลยน้องต้องทำใจสบายก่อน ใจสบายเป็นอย่างไร ก็คือรู้สึกสบายๆนี่แหละ ถ้ารู้สึกไม่สบายนี่ไม่ได้ เช่น คิดไปคิดมาแล้วรู้สึกเริ่มไม่ค่อยสบาย(ใจ)ละ ก็ต้องดับความคิดอันนั้นไป เป็นต้น สรุปก็คือต้องรักษาความรู้สึกสบายๆ ผลก็คือ หน้าตาดีอย่างที่น้องต้องการ

แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่คิดอะไรเลยนะ คิดได้ ค่อยๆคิด แล้วก็เวลาทำอะไรก็ค่อยๆทำ อย่ารีบร้อน เพราะว่ามันตรงกันข้ามกับความสบาย ทำอย่างพอดีๆนี่แหละ อันนี้น้องก็ไปปรับเอาให้เหมาะกับตัวเอง

เรื่องสิวก็เกี่ยวกับอีกหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน เช่น การกิน อย่ากินมาก กินพอรู้สึกอิ่มก็พอ คืออย่าให้อิ่มมาก เพราะว่ากินมากก็ทำให้เป็นสิวได้ แล้วก็อาหารพวก หวานๆ อันนี้ก็อย่ากินมาก คือทุกอย่างต้องพอดีๆ จึงจะดี

หลักๆก็ประมาณนี้ ส่วนในรายละเอียดเข้าไปอีก เดี๋ยวน้องก็จะสามารถต่อยอดต่อไปเองได้ : )

 

เคยทำอกุศลทิ้งขยะในที่สาธารณะ ก็ย้อนกลับค่ะ
ไปทำความสะอาดในที่สาธารณะ ตอนเราทำไม่ดี เรายังไม่อายเลย
ทำดีแล้วจะอายทำไม จริงไหมคะ

ที่ทำให้ดีขึ้นอีกอย่าง ไปทำความสะอาดวัด กวาดลานวัด
ล้างถ้วยล้างจาน ขัดห้องน้ำห้องส้วม

แต่ถ้าหากไม่มีเวลาหรือหาโอกาสเหมาะไม่ได้
น้องก็อัญเชิญพระพุทธรูปที่บ้านมาสรงน้ำทำความสะอาดด้วยจิตศรัทธาืทุกวันพระ
เปลี่ยนดอกไม้ น้ำดื่มบูชา ทำความสะอาดห้องพระ หิ้งพระค่ะ

ทำไปเรื่อยๆ สวดมนต์ไหว้พระด้วยนะคะ เดี๋ยวก็ผ่องทั้งใจ ไม่ใช่แค่ผิวพรรณค่ะ

 

เคยเอาผ้าไม่สะอาดไปทำความสะอาดหน้าพระหรือป่าว //ผ้าที่สกปรกอยู่แล้วนะ\\
(ไม่ใช้ผ้าที่สะอาดที่เราเตรียมไปทำความสะอาดพระนะ)
แล้วก็ไปหาหมอ เกี่ยวกับผิวหน้าโดยตรงนะครับ

 

คนที่เป็นสิวเกิดจากเป็นคนที่ชอบคิดเล็กคิดน้อย ขี้อิจฉาตาร้อน ขี้งอน มีจิตใจ มองโลกในแง่ร้าย ลองสังเกตดู คนที่เป็นสิวมักมีพฤติกรรมแบบนั้น ให้เปลี่ยนมาเป็นรู้จักเมตตา รักพื่อนมนุษย์เท่าเทียมกัน ไม่รู้สึกหมั่นไส้ หรือไมชอบใครเพียงแต่ภายนอก ถ้าทำได้ สิวก็จะไม่มี