หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

เปลี่ยนแปลงวัน-เวลา:องค์พ่อแม่ครูอาจารย์มาโปรดแม่สอด-เชียงใหม่ (ปรับปรุง)

ตามที่กระผมได้รายงานกำหนดการเดินทางของคณะองค์พ่อแม่ครูอาจารย์มาโปรดแม่สอด(-เชียงใหม่)รอบที่แล้วนั้น
ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงอีกรอบ โดยคุณดร.ชมพูนุช (เจ้าภาพหลักสร้างทางขึ้นภูดานไห) ที่ ณ ขณะนี้กำลังดูแลการสร้างทางขึ้นภูดานไหที่วัดอยู่พอดี ได้กราบเรียนถวายองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ว่า การเดินทางผ่านสายการบินนกแอร์นั้น อาจไม่สะดวกและเหมาะสมเพียงพอ จึงได้กราบเสนอให้ขึ้นเครื่องบินการบินไทย โดยมีรายละเอียดการเดินทางดังนี้

ณ วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม 2555
- ขึ้นเครื่องสายการบินไทยจากขอนแก่น-กรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ) เวลา 08:45-09:40
โดยคุณดร.ชมพูนุช จักร่วมถวายการเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ และคุณสันติ ญาติคุณสันติ และคุณมานิตย์
จักถวายการต้อนรับที่สนามบิน (คาดว่าน่าจะถวายภัตตาหารที่สนามบิน)
- ขึ้นเครื่องสายการบินไทยจากกรุงเทพฯ(สุวรรณภูมิ)-เชียงใหม่เวลา 12:55-14:05
โดยผมจักเดินทางโดยรถยนต์ไปถวายการต้อนรับที่สนามบินเชียงใหม่ (สักการะพระธาตุดอยสุเทพ)

ทั้งนี้หากมีอะไรคืบหน้า กระผมจักรายงานให้ญาติธรรมทราบเป็นระยะครับ

ขอเจริญในธรรม
IT Man/18.12.12

 

“วิถีทางแห่งการเข้าถึงพุทธธรรม” ณ พุทธสถานภูดานไห (Chomphunut)

โมทนาสาธุอีกรอบครับ
ขอร่วมบุญใหญ่สร้างถนนขึ้นภูดานไห 2,000 บาท
(โอนปัจจัยผ่านบัญชีภูดานไหตามแนบนะครับ)
http://palungjit.org/attachments/a.2406701/

 

กระผมได้โอนเงินไป 20,xxxบาท ไปที่บ/ช แม่ชมเพื่อร่วมบุญกับพ่อแม่ครูอาจารย์ในทริปนี้ด้วยครับ

 

โมทนาสาธุด้วยครับท่านฉันทะธรรม

 

ภาพพุทธศิลป์ฯที่พึ่งอัญเชิญไปเข้ากรอบมาครับ


​

 

ขออนุโมทนาและขอร่วมบุญสร้างถนนพุทธสถานภูดานไห​

ผมขออนุโมทนากับคณะของ ดร.ชมพูนุช ที่ได้มาปฏิบัติธรรมกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช จนเกิดความสว่างและเกิดความศรัทธาอย่างล้นพ้น จนนำมาสู่การอุปัฏฐากและร่วมสร้างพุทธสถานภูดานไห และโดยเฉพาะการสร้างถนนใหม่ตัดตรงมาสู่พุทธสถานในครั้งนี้ ผมเองเคยคิดและเคยพูดคุยกับหลายๆท่านถึงเรื่องนี้มาตั้งแต่เริ่มแรกที่เข้าไป แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ดำเนินการ คงเป็นบุญของท่านจึงได้เป็นตัวหลักในเรื่องนี้ ผมจึงขออนุโมทนากับท่าน ดร.ชมพูนุช และผู้ที่มีส่วนร่วมบุญในครั้งนี้ทุกคน ขอผลานิสงส์จงบังเกิดแก่ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญ มั่งมีศรีสุข มีทางเดิน(ดุจถนนที่สร้าง)สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรม จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรมทุกท่านเทอญ

อย่างไรก็ตาม ผมก็ขอร่วมทำบุญสร้างถนนสู่พุทธสถานภูดานไห จำนวน 2,000 บาท ผมได้โอนเงินเข้าบัญชีของคุณแม่บุญชม ยางธิสาร KTBA 4160396194 แล้วตามสลิปที่แนบมาครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
19 ธันวาคม 2555

​

 

สรุปรายนามผู้ร่วมน้อมถวายฯองค์พ่อแม่ครูอาจารย์วาระธรรมะสัญจรโปรดสายเหนือ

สรุปรายนามผู้ร่วมน้อมถวายฯองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ธรรมะสัญจรโปรดสายเหนือ
1. ท่าน ดร.นนต์และครอบครัว 1,000 บาท
2. ท่านฉันทะธรรมและครอบครัว 20,xxx บาท
3. ท่านสมโพช พวงประโคน 5,00 บาท
4. ท่านสามารถ ทองถาวรและคุณนุ่น 2,000 บาท
5. ท่าน ckj_tong1 1,999 บาท
รวม 25,xxx บาท
5. คุณ ดร.ชมพูนุช น้อมถวายอำนวยความสะดวกในการเดินทางตั้งแต่ภูดานไห-เชียงใหม่
6. คณะท่านสุธน น้อมถวายอำนวยความสะดวกและภัตตาหารที่สนามบินสุวรรณภูมิ
7. ศณะศิษย์ที่พำนักที่ กทม.และจังหวัดใกล้เคียงน้อมถวายการต้อนรับที่ กทม.
8. อื่นๆที่ไม่ได้เอ่ยนาม

กราบโมทนาสาธุกับทุกท่านทุกประการครับ
นรธ.สมบัติ(IT Man/19.12.12)

 

ภาพความคืบหน้าล่าสุดของการสร้างถนนและลานจอดรถภูดานไห

กราบ กราบ กราบ​

ขอโมทนาสาธุกับคณะท่านเจ้าภาพทุกท่าน

ปล: จากภาพที่ส่งมาโดยคุณ ดร.ชมพูนุช
พร้อมต้อนรับญาติธรรมทุกสารทิศในวาระปฏิบัติข้ามปี 55-56 แล้วครับ ​

 

ขออนุโมทนา

ข้าพเจ้าขออนุโมทนา ในกุศลจิตอันบริสุทธิ์ของทุกๆท่าน และขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้น

 

การปกป้องพุทธสถานโบราณที่อัฟกานิสถานประสบผลสำเร็จ

ญาติธรรมและเหล่านักรบธรรม
วันนี้ได้ทราบข่าวอันเป็นมงคลยิ่ง ด้วยว่าจากการที่เราและเพื่อนเหล่าผู้ประพฤติธรรม กตัญญูต่อพระพุทธศาสนาช่วยกันร่วมลงชื่อคัดค้านการทำลายพุทธสถานเพื่อเอาไปทำเหมืองทองแดง บัดนี้รัฐบาลอัฟกานิสถานรับปากจะปกป้องและยกเลิกแผนการรื้อถอนทันที ขอพวกเราอนุโมทนาสนับสนุน ส่งเสริมพระศาสนาให้สถาพรรุ่งเรืองสืบไปรายละเอียดตามแนบข้างท้ายครับผม

ปกป้องพุทธสถานโบราณอัฟกัน ความสำเร็จระดับโลกที่เกิดขึ้นได้ด้วยความร่วมมือจากคนไทย

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
สาธุ สาธุ สาธุ
สุขคติ นฤพาน อภิปัจโยโหตุ



รายข่าวจากสื่อหลายสำนัก ยืนยันแถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศของไทย ระบุว่ารัฐบาลอัฟกานิสถานรับปากจะปกป้องพุทธสถานโบราณ 2,600 ปี เมส อาแน็ต (Mes Aynak) พร้อมยกเลิกแผนการรื้อถอนโดยทันที
เหตุการณ์ที่ดูเหมือนยากเกินจะแก้ไขกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือหลังจากที่คนจากทั่วโลกร่วมกันลงชื่อสนับสนุนการรณรงค์ของ นาเดียร์ ทาร์ซี (Nadia Tarzi) จากสหรัฐ และ มาร์ติน วาซี (Matin Wasei) จากเนเธอแลนด์
ประชาชนจากมากกว่า 10 ประเทศทั่วโลก โดยมาจากไทยมากเป็นอันดับหนึ่ง ร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลอัฟกานิสถานยกเลิกสัมปทานเหมืองแร่ที่ได้มอบให้กับบริษัทสัญชาติจีน ซึ่งหากเริ่มขุดเจาะจริงก็จะเป็นการทำลาย เมส อาเน็ต โดยสิ้นเชิง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ องค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานดังกล่าว
แต่ที่พิเศษคือประเทศไทยนำโดยองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ได้มีการนำรายชื่อยื่นต่อองค์การยูเนสโก้ สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกที่ประจำอยู่กรุงเทพ พร้อมทั้งยื่นหนังสือต่อกระทรวงต่างประเทศของไทยให้เข้าช่วยคลี่คลายปัญหาดังกล่าว
และเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมาเอกอัครราชทูตไทย ณ อิสลามาบัด ประเทศปากีสถานได้เข้าพบกับเอกอัครราชทูตอัฟกานิสถาน Mohammad Umer Daudzei โดยรัฐบาลอัฟกานิสถานรับปากว่าจะทำทุกวิถีทางที่จะอนุรักษ์โบราณสถานและโบราณวัตถุที่ได้จากขุดค้นทางโบราณคดี
ท่านเอกอัครราชทูตอัฟกานิสถานยังกล่าวอีกว่า “ครั้งหนึ่งชาวอัฟกันเคยเป็นชาวพุทธ ชาวอัฟกันมิใช่อาหรับ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงในด้านอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติ และเป็นหน้าที่ของประชาชนอัฟกานิสถานที่จะต้องรักษามรดกทางวัฒนธรรมของตน”
คุณนาเดียร์ และ คุณมาร์ติน อยากจากขอบคุณคนไทยทุกคนที่ช่วยสนับสนุนการรณรงค์ของพวกทั้งสองจนประสบความสำเร็จ


เป็นอีกครั้งหนึ่งที่การรณรงค์บน Change.org ประสบความสำเร็จได้ด้วยการร่วมมือร่วมใจของคนหลายๆคนที่มีจิตใจมุ่งมั่นเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

 

....วันนี้เวลา 18.23 น.

....ผมได้โอนเงินเข้าบัญชีคุณแม่บุญชม ยางธิสาร
....เลขที่ 4160396194
....ธนาคารกรุงไทย สาขากุฉินารายณ์
....ประเภทบัญชี ออมทรัพย์

....เพื่อร่วมบุญในการเดินทางธรรมะสัญจรในวาระนี้และอื่นๆกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ เรียบร้อยแล้ว จำนวน 1,999 บาท ตามที่ตั้งใจไว้

สาธุ สาธุ สาูธุ

 

ในวาระธรรมสัญจร คณะองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้มาแวะที่สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นโอกาสของลูกศิษย์ลูกหาที่ทราบข่าวทั้งจากกรุงเทพฯ จันทบุรี ระยอง ได้มีโอกาสมากราบท่าน แม้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ปิติอิ่มใจและอบอุ่น ได้รับการต้อนรับและอำนวยความสะดวกจากพีใหญ่การท่าฯคือท่านสุทน และคุณสวัสดิ์แห่งการบินไทยผู้เป็นคู่เขยของคุณสันติ(เรียกชื่อผิดต้องขออภัย)
และดร.ชมพูนุทดำเนินการนำคณะพ่อแม่ครูอาจารย์จากขอนแก่นบินมาส่งยังสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งต่อคณะท่านไปยังสนามบินเชียงใหม่
ต้องขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านในการจัดการทุกสิ่งอย่างในวาระธรรมสัญจรนี้ด้วยครับ

เป็นโอกาสได้นำปัจจัยและจากผู้ที่ร่วมบุญมาด้วยคือ คุณวิสิฐศักดิ์ ศรีวิไล,คุณประพัฒน์ อ่อนเกตุ น้อมถวายองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ เป็นจำนวน 7,000บาท (สุดแล้วแต่ท่านจะเรียกใช้) ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญมาในครั้งนี้ด้วยครับ

ภาพถ่ายบรรยากาศคงได้ชมจากท่านที่นำกล้องไปนำมาลงให้ชมนะครับ

 

องค์พ่อแม่ครูอาจารย์จะไปโปรดญาติโยมที่ กทม. 27-28 ธ.ค. 55

ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ
ประทับใจจากการถวายการต้อนรับของคณะญาติโยมในการเดินทางโปรดทางเหนอที่ผ่านมาเมื่อวานนี้ ทำให้ทราบว่าญาติโยมบางส่วนไม่สามารถเดินทางมาปฏิบัติธรรมข้ามปี 55-56 ที่ภูดานไหได้ องค์พ่อแม่ครูอาจารย์จึงพิจารณาเดินกลับมาโปรดญาติโยมที่ กทม. ในวันที่ 26 ธันวาคม 2555 โดยกระผมคาดว่าองค์ท่านน่าจะแสดงธรรมโปรดที่บ้านคุณหมู ณัฐพัชร์ (086 994 9162) ในระหว่างวันที่ 27-28 ธ.ค. 55

จึงเรียนให้เพื่อน นรธ.และญาติธรรมพร้อมถวายการต้อนรับองค์ท่านที่สนามบินต่างๆดังนี้
26 ธันวาคม 2555
- แม่สอด เชียงใหม่ นกแอร์ 16.40 -17.30 น.
- เชียงใหม่ สุวรรรภูมิ 19.25 -20.35 น.
29 ธันวาคม 2555
- สุวรรรภูมิ ขอนแก่น 14.45 -15.40 น.

กำหนดการวันนี้ เดินทางไปภาวนาที่ถ้ำหลวงเชียงดาวครับ

โมทนาสาธุครับ
IT Man/21.12.12

 

โมทนาสาธุด้วยครับคุณพี่หมู...
แผนที่ครับ http://palungjit.org/attachments/a.2411704/

 

คุณปู่ประถม อาจสาคร ถึงแก่กรรม

เรียน ท่านที่นับถือ

คุณปู่ประถม ท่านถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2555 เวลา 18.45 น. ที่ร.พ.เอกชล

กำหนดฌาปนกิจศพ ณ วัดน้อย วันพุธที่ 2 ม.ค. 2556 เวลา 16.00 น.

ไปวัดน้อยนั้น... หากเข้าจากถ.สุขุมวิท เข้าต.บางทราย (ทางไปบ้านปู่) ให้เลยซอยเข้าบ้านปู่ไปข้างในอีกครับ จะถามคนแถวนั้นก็ได้ครับ

ผมแนบแผนที่มาให้ด้วยแล้วครับ

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

 

ในวาระดิถีปีใหม่ ขอคุณพระศรีรัตนตรัยอำนวยอวยพรความสวัสดิมงคลให้บังเกิดแก่ทุกท่าน ให้ได้รับความสำเร็จสมมาตรปรารถนา ธรรมรักษาให้พ้นจากทุกข์โศกโรคภัย มีสุขภาพพลานามัยสุขสมบูรณ์พูลผล ประสบแต่ความเบิกบาน สิ่งดีงามตลอดกาลเทอญ...

ภูเบศวร์

 

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2556 ขออนุญาตนำสิ่งที่เป็นมงคล มาโพสต์ เพื่อทุกๆ คน...
สคส. พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย เป็นความเมตตาของพระองค์ท่านที่หาประมาณมิได้ต่อทุกคน....
ขอพระองค์ท่านจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.....

 

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๖ : ขอพรองค์พ่อฯให้ท่านมีแต่ความสว่างไสวทั้งทางโลกทางธรรม

​

 

สวัสดีครับ วันนี้ผมมีนิทานธรรมเรื่องหนึ่ง อยากจะเล่าให้พี่น้องญาติธรรม ได้ฟังกันซึ่งอาจจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ

เรื่องมีอยู่ว่า มีบ้านอยู่ 2 หลังซึ่งอยู่ติดกัน เจ้าของบ้านหลังหนึ่งเลี้ยงนกแก้ว เพราะชอบฟังเสียงนกแก้วร้องและพูด เมื่อไหร่ที่เจ้านกแก้วตัวนี้ร้อง เจ้าของจะรู้สึกถูกใจและชอบ อยากให้ร้องบ่อยๆ คือรู้สึกเป็นสุขทุกครั้งที่ได้ยินเสียงนก ส่วนเพื่อนบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ติดกัน เมื่อไหร่ที่เจ้านกแก้วตัวนี้มันร้อง ก็จะรู้สึกรำคาญและไม่ชอบใจ คือรู้สึกเป็นทุกข์ทุกครั้ง ที่เจ้านกแก้วตัวนี้มันร้อง จะไม่ฟังก็ไม่ได้ เพราะบ้านอยู่ติดกัน

วันหนึ่ง เจ้าของบ้านที่ไม่ชอบเสียงนกแก้ว ก็ได้มีโอกาสเรียนถามพระอาจารย์ ของตนว่า จะทำอย่างไรกับเสียงของเจ้านกแก้วตัวนี้ดีเจ้าค่ะ เพราะรู้สึกทนไม่ไหวแล้ว ซึ่งทำให้ตนทั้งเครียด หงุดหงิด แล้วก็รำคาญ เป็นทุกข์กับเจ้าเสียงนกแก้วตัวนี้จริงๆ พระอาจารย์ท่านก็มองโยมท่านนี้ ท่านตอบแบบยิ้มๆว่า คุณโยมมีคู่ต่อชกเป็นนกแก้วแล้วล่ะ เจ้าของบ้านคนนี้ก็คิดในใจว่า พระอาจารย์ช่างหาคู่ชกให้ไม่สมศักดิ์ศรีเลยจริงๆ ให้ชกกับใครไม่ชก กับให้ชกกับนกแก้วเนี่ยล่ะนะ

พระอาจารย์ท่านก็นั่งนิ่งสักพักหนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นว่า จริงๆแล้วคู่ต่อสู้ของคุณโยม ก็คือคุณโยมเองนั่นแหละ แล้วท่านก็พูดต่อว่า นกแก้วตัวที่ร้องก็ตัวเดียว เสียงที่ร้องก็เสียงเดียวกันนี่แหละ คนๆหนึ่งฟังแล้วรู้สึกเป็นสุข สบายใจ อีกคนหนึ่งฟังแล้วรู้สึกเครียด รำคาญ ไม่สบายใจ เป็นทุกข์ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ ก็เพราะความรู้สึกไม่ชอบ มันเกิดขึ้นในจิตของคุณโยมเอง คุณโยมสร้างอุปทานว่าไม่ชอบเสียงอย่างนั้น เสียงอย่างนี้ นกแก้วมันก็ร้องของมันเป็นปกติ มันเป็นธรรมชาติของนก เดี๋ยวมันก็ร้อง เดี๋ยวมันก็หยุด ถ้าเราเอาจิตของเราไปผูกติดกับ เสียงของนก ปล่อยให้จิตของเราไหลไปกับการร้องของนกแก้ว คุณโยมต้องแย่แน่ๆเลย

สุข-ทุกข์ ถูก-ผิด ชอบ-เกลียด ฯลฯ เหล่านี้ เป็นเรื่องที่โลกเขาสมมุติขึ้นมา ถ้าเราติดอยู่กับสิ่งเหล่านี้ เราก็จะติดกับอุปทานทุกเรื่องที่เราเข้าไปยึด แต่ถ้าเราพิจารณาให้ดี เอาแค่เรารู้ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสุข สิ่งเหล่านี้เป็นทุกข์ รู้อยู่เฉยๆ ไม่ถือเอาเป็นอารมฌ์ เราก็จะไม่ต้องทุกข์ กับเจ้าเสียงนกแก้ว ตัวนี้อีก นะคุณโยม

อวิชชา ทำให้เกิด สังขาร
สังขาร ทำให้เกิด วิญญาณ
วิญญาณ ทำให้เกิด รูป-นาม

นิทานธรรม เรื่องนี้ ผมได้เค้าโครงมาจาก องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านเมตตาสอนญาติธรรมท่านหนึ่ง ซึ่งธรรมเรื่อง เสียงนกแก้วนี้ ฟังครั้งแรกก็ยังไม่รู้ประสานัก ด้วยความที่ยังด้อยปัญญาอยู่มาก แต่พอได้มาคิดทบทวนดู จึงพอจะเข้าใจถึงความลึกซึ้ง ที่ซ่อนอยู่ภายในธรรมข้อนี้ซึ่งมี มากมาย... จริงๆ

ทุกสรรพสิ่ง ที่เข้ามากระทบกับจิตของเรานั้น จะไม่สามารถทำอะไรกับจิตของเราได้เลย ถ้าเรามี สติกับตัวรู้ พิจารณาถึงสิ่งต่างๆเหล่านี้ ให้เห็นถึงอุปทานที่เราสร้างขึ้นมา เอาแค่สักแต่ว่ารู้ รู้อยู่เฉยๆแค่นี้แหละ รู้แล้ววางมันลง เมื่อไหร่ที่เราแบก มันจะรู้สึกหนัก(ใจ) เป็นทุกข์ทันที

ด้วยความที่ผมเป็นเพียงแค่ผู้เริ่ม ศึกษาธรรม ถ้ามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดบกพร่องหรือผิดพลาดต้องแก้ไข โปรดช่วยชี้แนะด้วยครับ

ศิษย์โง่ กราบ กราบ กราบ องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ที่เมตตาอบรมสั่งสอน