หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    สวยมากเช่นกันครับ เสียดายตรวจไม่เก่ง
    ที่ผมมีก็ฐาน จปร. น่าจะ 2434 (คนละพิมพ์กันนะ) แล้วเสียงกริ่งเป็นไงบ้างครับ?
     
  2. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    น่าจะเลียนแบบพิมพ์กัน ให้สังเกตที่ฐานล่างของท่านจะสูงกว่า และเม็ดบัวฐานใหญ่กว่าเล็กน้อย และลองดูที่หัวเข่าขวาขององค์พระว่า มีรอยคล้ายจักรหรือไม่ครับ
     
  3. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    อยู่ในกลุ่มเดียวกันครับ ส่วนเหล็กไหลที่เสด็จมาทางอากาศนั้น เป็นสิ่งเดียวกันที่เอามาจากถ้ำ สิ่งใดที่อยู่ใต้พื้นภิภพและอยู่ในถ้ำ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่เหล่าพญานาคดูแล(เป็นหน้าที่) ดังนั้นท่านสามารถอัญเชิญมาได้หมด เหล็กไหลที่พระอาจารย์บุญสวนพยามเข้าไปในถ้ำภูโน กาฬสินธุ์ ก็มีลักษณะเหมือนกัน ท่านเจาะปากถ้ำอยู่หลายวันจึงสามารถเข้าไปได้...ส่วนเพ็ชรนาคามีทั้งสร้างด้วยฤทธิ์ของพญานาค และสลัดออกมาจากกาย สำรอกออกมา คายออกมา และถ่ายมูลออกมาก็มี...และคงอีกหลายๆวิธีครับ
     
  4. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    ผมกับภรรยาและพี่สาวของภรรยาที่ได้ไปร่วมอัญเชิญคราที่แล้ว...เรากำลังหาเวลาว่างที่จะกลับไปร่วมทำบุญภายในเดือนนี้อีกครั้งครับ...ล้วนแต่ตั้งใจที่จะไปบูชามณีนาคราชประเภทที่จักเอามาทำเครื่องประดับจี้ แหวน กำไลก็เห็นด้วยครับจะได้ร่วมทำบุญกับอาจารย์บ่อยๆหน่อย.....และเผื่อว่าผมจะได้หาหัวแหวนงามๆติดไม้ติดมือ(มาติดนิ้วมั้ง)คงต้องปลดระวาง...หยกที่ใช้ๆอยู่......

    เป็นความจริงครับสำหรับพระว้งหน้า...ผมแขวนกริ่ง2411+TOP1+TOP4ไม่ธรรมดาเลยครับท่าน(สรุปว่าชุดนี้แหล่ะ ใช่เลย)ยิ่งสุดยอดมากๆตอนนั่งสมาธิ(อ.นนท์ก็ทราบนี่ครับ)พระสมเด็จวัดระฆังหลายๆสิบองค์เก็บไว้เช่นกันครับ...ไว้ส่องและชื่นชมบารมีนะครับ.
     
  5. อัศวเมธ

    อัศวเมธ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +2
    อยากรู้

    ผมใคร่ขอถามผู้รู้ทั้งหลายในกระทู้นี้ ซึ่งมักจะเขียนถึง บ่อย ๆ เช่น
    1.ผู้มีบุญ มีบารมี ที่ได้ครอบครองบูชาพระ........ อยากถามว่ามีบุญ มีบารมี อย่างไร
    2.การจับพลังพระ พลังดึงขึ้นสูงถึงศรีษะ เป็นอย่างไร มีผลอย่างไรกับผู้ที่บูชา
    3.พระพุทธศาสนา เน้นสอนเรื่องอดีต ปัจจุบัน หรือว่า อนาคต
    4.เนวสัญญา นาสัญญา อรูปสัมปันโน ความหมายว่าอย่างไรครับ

    ผู้รู้ทั้งหลายเมตตาตอบด้วยครับ จักเป็นพระคุณยิ่ง
     
  6. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    ครับ.....รอให้ท่านอ.นนท์มาช่วยตอบให้นะครับ
     
  7. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ที่ผมทราบที่มาของเพชรนาคามาจากอาจารย์อีกทีคือ...

    เมื่อพญานาคท่านละสังขาร สังขารของท่านก็จักกลับกลายเป็นลูกแก้ว หรือเพชรนาคาอย่างใดอย่างหนึ่ง เพียง 1 องค์เท่านั้น
    ดุจดั่งพระธาตุของพระอริยะเจ้าที่เป็นสัณฐานต่างๆ แต่ของเหล่าพญานาคจักมีเพียง 1 องค์ เป็นเรื่องที่ควรพิจารณาอีกประการครับ

    ผู้ไม่เชื่อ โปรดวางอุเบกขานะครับ
     
  8. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    โมทนาสาธุครับท่านทั้งหลาย
    พระที่ท่านสาวกธรรมอัญเชิญนั่น สมเด็จพระสัมมาฯตั้ง 3 พระองค์เชียว
    ผมเองยังไม่กล้าพอที่จะอัญเชิญพร้อมกันเกินสองเลย (หาเจอ 6 พระองค์)

    [​IMG]
    แหวนที่ผมใช้เป็นประจำ แต่ละเม็ดใช้เวลาเดินตลาดพลอยหลายแห่งในชายแดนไทย-พม่าร่วมครึ่งปี และราคาก็ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับกระเป๋าตังส์ด้วยซี
    ตอนนี้โดนปลดระวางมาเป็นเพชรนาคาแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1140606.jpg
      P1140606.jpg
      ขนาดไฟล์:
      88 KB
      เปิดดู:
      807
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    เมื่อเช้าได้ฟังธรรมะจากท่านพระอาจารย์สมภพ (สกลนคร)
    ท่านพูดถึงสมเด็จพระสัมมาฯ กล่าวถึงการศึกษาของเหล่าพราหมณ์ในยุคนั้น
    ชั้นสูงสุดก็คือ ไตรเภท คือความรู้ 3 ระดับ เทียบกับปริญญาเอกของศาสนา

    พระองค์ทรงกล่าวว่า ยิ่งเรียนมาก ยิ่งเมา
     
  10. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    เห็นด้วยกับคำถาม และขอสนับสนุนในคำตอบครับ
     
  11. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    พระดีนอกกำมือเซียน

    โดย “นนต์”

    พวกเราชาวพุทธคงเคยได้ยินคำสอนของพระพุทธองค์ที่ได้ตรัสกับเหล่าสาวกเมื่อครั้งพุทธกาลว่า ความรู้หรือธรรมะบางข้อที่พระพุทธองค์นำมาสั่งสอนพระสาวกนั้น เป็นความรู้หรือความจริงแท้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เปรียบเสมือนใบไม้ที่อยู่ในกำมือของพระองค์ แต่ใบไม้ที่อยู่นอกกำมือนั้นมีอยู่มากมาย ลองหันไปดูบนต้นไม้ ในป่านี้ หรือในป่าทั้งโลก และยังมีอยู่ในจักรวาลและอนันตจักรวาลอีกมากมาย ฉะนั้น ในการศึกษาพระเครื่องหรือในเรื่องใดๆก็ตาม ที่เราเรียนรู้มาจากครูอาจารย์ จากเซียน จากคำบอกเล่า หรือจากตำราที่อ้างสืบๆกันมานั้น มันก็เป็นเพียงความรู้เพียงส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจมีทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้อง (ธรรมะของพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ถูกต้องและเที่ยงแท้ไม่เปลี่ยนแปลง) แล้วนับประสาอะไรกับความรู้ของเซียนที่อ้างสืบๆต่อกันมา มันจะเป็นความจริงไปเสียทั้งหมดเช่นนั้นหรือ แล้วไฉนหลายๆท่านจึงยังคงเชื่อเฉพาะความรู้เก่าๆ โดยไม่เปิดใจไปเรียนรู้ใบไม้นอกกำมือเซียน บ้าง บางทีท่านอาจพบกับความมหัศจรรย์ของสิ่ง(พระ)ดีๆ อย่างคาดไม่ถึงก็เป็นได้

    อย่างไรก็ตาม การเสนอความคิดเห็นในบทความนี้ ก็นับเป็นความรู้ที่เกิดจากการเรียนรู้หรือ ประสบการณ์ และความมหัศจรรย์จากการปฏิบัติธรรม(ปัจจัตตัง)ของผู้เขียน จึงเป็นเพียงมุมมองหนึ่งเท่านั้น ขอให้ทุกท่านจงใช้สติปัญญา อย่าพึ่งเชื่อ จนกว่าท่านจะได้พิสูจน์ด้วยตัวของท่านเอง(ตามหลักกาลามสูตร) หรือจนกว่าท่านจะได้ประมวลความรู้จากแหล่งต่างๆอย่างถี่ถ้วนแล้ว จึงควรจะเชื่อไปตามนั้น แนวทางการศึกษาพระเครื่องจึงมีหลายแนวทาง ผู้เขียนจึงขอสรุปดังนี้


    แนวทางการศึกษาพระเครื่อง

    1. ด้านพุทธศาสตร์และวัฒนธรรมได้แก่ คติความเชื่อและประเพณีนิยมในการสร้างพระ เช่น การสร้างพระสมเด็จของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่านมีเจตนาในการสร้างพระเพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนา การอธิษฐานจิตทุกครั้งจึงต้องอาศัยพุทธบารมี ธรรมบารมี สังฆบารมี และในบางครั้งได้อาราธนาอัญเชิญองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาร่วมในการอธิษฐานจิตด้วย (เป็นเรื่องเหนือโลกหรือเหนือความรู้ของเซียน) ฉะนั้น ผู้ใดปรามาสพระพิมพ์ที่แท้ แต่ไปกลับบอกว่าเป็นพระปลอมด้วยอกุศลจิต ย่อมถือว่า เป็นการปรามาสหรือลบหลู่พระพุทธเจ้า จึงนับเป็นบาปที่หนักหนามาก ขอจงพึงระวังให้มาก อย่าให้เงินมาผูกขาดอัตตาของตัวเอง จนเดินไปสู่ขุมนรก หรือความวิบัติในบั้นปลายของชีวิต

    2. ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีได้แก่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในสมัยนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น มีบางคนบอกว่า พระสมเด็จที่มีเหรียญรัชกาลที่ 5 ติดอยู่ด้านหลัง เป็นพระสมเด็จวัดระฆังที่ปลุกเสกและอธิษฐานจิตโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์ในการสร้างเหรียญกษาปณ์ จะพบว่ามีการสร้างเหรียญพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2417 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากสมเด็จโตมรณภาพไปแล้ว 2 ปี (2415) อีกอย่างเหรียญรัชกาลที่ห้ามีพระพักตร์แก่แล้ว หรือแม้จะมีพระพักตร์หนุ่มก็ยังไม่ทันปี 2415 อยู่ดี ฉะนั้น ในแง่ของประวัติศาสตร์จึงเป็นไปไม่ได้ว่า พระดังกล่าวจะทันสมเด็จโตเป็นผู้ปลุกเสก ประวัติศาสตร์จึงบิดเบือนไม่ได้

    3. ด้านพุทธศิลป์ จะบอกให้รู้ว่า พุทธลักษณะและศิลปะที่ปรากฏเป็นองค์พระนั้น สามารถบอกยุคสมัย และกรรมวิธีในการสร้างได้ มีร่องรอยให้ค้นหาความจริงคล้ายด้านประวัติศาสตร์ อีกทั้งลักษณะที่งดงามขององค์พระ(พุทธศิลป์)นั้น จะเป็นสิ่งเสริมบารมีให้แก่ผู้สร้างและเสริมความสง่างามให้แก่พระพิมพ์นั้นๆ อาทิเช่น พระสมเด็จวัดระฆังของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โต) นั้น มีความสง่างามอันเนื่องด้วยมี.. ...ส่วนที่ลงตัวมากที่สุด ดังเช่น .........ส่วนทอง หรือโกลเด้นเซ็คชั่น (Golden section) ซึ่งเป็น.. ...ส่วนที่เกิดตามกฎแห่งความงามที่ชาวกรีกโบราณใช้มานาน ดังจะเห็นได้จาก.. ...ส่วนของกระดาษเอ 4 หน้าจอทีวี จอโน๊ตบุ๊ค และอีกมากมาย .. ...ส่วนทองมีขนาดกว้าง 3 ส่วน และยาว 4 ส่วน จะย่อหรือขยายเท่าไหร่ก็ได้ เมื่อนำเอาพระสมเด็จวัดระฆังมาทาบกับ.. ...ส่วนทองจะได้ขนาดพอดีกันอย่างมหัศจรรย์ ฉะนั้นอย่าแปลกใจเลยว่า ทำไมพระสมเด็จวัดระฆัง จึงเป็นยอดแห่งจักรพรรดิของพระเครื่อง

    4. ด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์นี่สำคัญที่สุด เพราะเป็นการศึกษาคนจะแท้จะปลอมก็อยู่ที่ตัวคนซึ่งจะเป็นผู้กำหนดวาทกรรมว่า "แท้"หรือ "ปลอม"ผู้มีอิทธิพลในวงการจึงเป็นพระเจ้า(god) ที่จะตีพระแท้พระปลอมได้โดยไม่ต้องส่องพระ ถ้าศึกษาให้ลึกซึ้งจะเห็นความเคลื่อนไหวของวงการพระที่ผูกติดอยู่กับการตลาดยุคโลกาภิวัตน์อย่างแนบแน่น เป็นธุรกิจเดียวที่มีกำไรมากที่สุดในโลก ซื้อมาร้อยอาจขายได้ถึงห้าสิบล้าน ฉะนั้น อิทธิพลของคนบางกลุ่มจึงเกิดขึ้น อย่าลืมว่า การศึกษาจากตำราและคำบอกเล่าของเซียนโบราณ ก็เป็นความจริงเพียงส่วนหนึ่ง เป็นใบไม้ในกำมือเซียน แต่ใบไม้นอกกำมือเซียนนั้นมีอีกตั้งมากมาย ลองเปิดใจศึกษาให้ดีๆ เราจะเข้าใจบางสิ่งบางอย่างว่า กลุ่มใดอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง และกลุ่มใดมีพลังในการซื้อขายพระ(ธุรกิจ) ก็ย่อมสร้างวาทกรรมที่ผู้คนนอกกลุ่มต้องฝืนยอมรับ เมื่อเขาต้องการที่จะซื้อจึงจะบอกว่าแท้ หากเขาไม่ต้องการที่จะซื้อก็ย่อมจะบอกว่าไม่แท้ เงินบวกจิตอกุศลหรืออัตตาเป็นตัวสร้างวาทกรรมที่ว่า “แท้” และ “ไม่แท้” รวมถึงการประกวดพระก็เช่นกัน ประกวดกันไปเพื่ออะไร ถ้าพวกเขาทำไปเพื่อเงิน การนำเอารูปพระพุทธเจ้าที่อยู่ในองค์พระ มาล้อเล่นได้อย่างนั้นหรือ ลองพิจารณาดูให้ถ้วนถี่ แล้วท่านจะเห็นว่า เงินนั้นแหละที่อาจทำให้หลายๆคนเกิดกรรมโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

    5. ด้านวิทยาศาสตร์ ก็สำคัญไม่ว่าจะเป็นมือเก่าหรือมือใหม่ เพราะการศึกษาทางด้านกายภาพ (Physical) ด้วยตาเนื้อด้วยกล้อง 10x หรือกล้องจุลทัศน์และเครื่องมือสมัยใหม่ จะทำให้เห็นมวลสาร ส่วนผสม แร่ธาตุต่างๆ และธรรมชาติความเก่าที่อยู่บนผิวพระ (Surface) องค์นั้นๆ แต่ถ้าเป็นพระที่มีอายุเก่านับพันปีขึ้นไป อาจใช้การตรวจคาร์บอนได้ หากต่ำกว่านั้นจะได้ค่าผิดพลาด (error) ถึง 80% เขาจึงไม่นิยมตรวจคาร์บอนในวัตถุที่มีอายุน้อย ในปัจจุบันจะมีเครื่องมือวิทยาศาสตร์มาช่วยตรวจสอบหาเนื้อมวลสารได้ และยังสมารถตรวจสอบพลังออร่า (aura) และสเคลาร์ (scalar) เป็นต้น

    6. ด้านพลังพุทธานุภาพ ซึ่งเป็นเรื่องอจินไตย เป็นเรื่องเหนือโลก ที่กลุ่มเซียนส่วนใหญ่หรือผู้มีอิทธิพลไม่ได้สนใจในด้านนี้ เพราะถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล อีกอย่างมันอาจไปเปิดเผยพระที่พวกเขาทำปลอมขึ้นมาก็ได้ ในปัจจุบันผู้ปฏิบัติธรรมมีจำนวนมากขึ้น ผู้มีฌานสมาบัติก็มีมากขึ้น พระอริยเจ้าก็มี ผู้มีองค์เทพ องค์บารมีที่มีตาที่สามก็มีจำนวนมาก จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งในการตรวจสอบว่า พระเครื่ององค์นั้นมีพลังพุทธานุภาพหรือไม่ ซึ่งนับเป็นวิธีการตรวจสอบว่าเป็นพระแท้หรือพระปลอมที่เที่ยงแท้อีกวิธีหนึ่ง แต่ถ้าให้ดีท่านต้องปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานให้รู้ให้เห็นด้วยตัวท่านเองเป็นปัจจัตตังจะดีที่สุด แล้วท่านจะเห็นสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นมากมาย ผู้ที่เชื่อในเรื่องพุทธานุภาพ จึงเป็นชนกลุ่มน้อย หรือ “เป็นพวกอกหัก” ในสายตาของเซียน ผู้มีบุญและตระGooลที่ครอบครองพระมาก่อนที่กลุ่มเซียนจะเกิด จึงกลายเป็นกลุ่มนอกกำมือเซียน ซึ่งที่จริงบุคคลกลุ่มนี้มีมากกว่ากลุ่มอิทธิพลตั้งหลายเท่า เพียงแต่ผู้มีบุญเหล่านั้นไม่ได้สนใจในวาทกรรมของเซียน เพราะพระดีที่ท่านมี เป็นเพียงเครื่องแสดงถึงบุญบารมีของผู้ครอบครองเท่านั้น

    7. ด้านจิตใจ จะอยู่ที่ตัวท่านว่าจะ "เปิด" หรือ "ปิด" ในการรับรู้ใบไม้นอกกำมือเซียน ถ้าปิดก็ย่อมไม่เชื่อจึงไม่มีโอกาสได้รับพระแท้ที่หายาก ถ้าอยากได้พระแท้ตามเกณฑ์ของเซียนก็ต้องไปบูชาจากเซียนในราคาสูงๆ ถ้าเปิดก็ย่อมมีทั้งเชื่อและไม่เชื่อจึงจะมีโอกาสได้รับพระแท้ราคาถูกอยู่บ้างตามบุญบารมี หรือถ้าเป็นพระปลอมแต่จิตของท่านก็ยังเคารพว่าเป็นพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ หรือพระอริยเจ้าแท้ เมื่อศรัทธาพระ บารมีของพระท่านย่อมคุ้มครอง เช่น พระหลวงปู่ทวด พระสมเด็จวัดระฆัง พระกริ่งปวเรศ เป็นต้น แม้จะไม่ผ่านพิธีปลุกเสก แต่ดวงจิตของท่านจะมาสถิตอยู่ในพระของคนดีที่ศรัทธาท่านอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าท่านยึดพระเป็นตัวเงินเมื่อไหร่ ความทุกข์ก็จะตามมามากมายดังข้อความที่ผู้เขียนขอนำมาเป็นสติเตือนใจดังต่อไปนี้

    "คนคุ้มครองพระ" คือ เมื่อผู้ใดมีพระเครื่องที่ราคาแพงและหายาก มักจะเกิดความทุกข์ตามมาอาทิเช่น กลัวถูกปล้น ถูกขโมย จึงนำไปฝากธนาคาร หรือใส่ตู้เซ็ฟไว้ไม่นำติดตัวไปไหน ขอยกตัวอย่างความจริงที่เล่ากันมาว่า มีท่านหนึ่งมีพระสมเด็จวัดระฆังที่มีผู้รู้บอกว่าเป็นพระแท้และมีราคาแพงตามสภาพในขณะนั้น จึงนำไปฝากตู้เซ็ฟของธนาคารไว้ ต่อมาอีกหลายปีจึงนำออกมาจากธนาคารเพื่อไปปล่อยให้เซียนพร้อมกับหาคนคุ้มกันพระไปด้วย แต่เมื่อเซียนตีเป็นพระเก๊ก็ถึงกับเป็นลม อันนี้เรียกว่า คนคุ้มครองพระ เพราะมองพระเป็นเงิน จึงเกิดความทุกข์ตามมามากมาย

    "พระคุ้มครองคน"คือ เมื่อผู้ใดมีพระเครื่องราคาแพงและหายาก แต่ตัวเองได้มาราคาถูกหรือได้มาแบบปาฏิหาริย์ จึงเชื่อมั่นในพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และศรัทธาว่าพระนั้นเสด็จมาเพื่อช่วยคุ้มครองตัวเองจากภัยอันตรายต่างๆ จึงนำติดตัวไปโดยไม่เกรงกลัวว่าพระจะอยู่หรือจะไป เพราะเชื่อว่า ถ้าพระองค์นั้นเป็นของเราและเรามีบุญแล้ว ก็ย่อมอยู่กับตัวเรา อันนี้จึงเรียกว่า พระคุ้มครองคน

    "พระเลือกคน"คือ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หรือผู้มีบุญ มักเจอเหตุการณ์และพบเห็นพระดีแบบมหัศจรรย์ เช่น มักมองเห็นพระองค์นั้นๆเด่นมาแต่ไกล พอจับจะมีพลังวิ่งเข้าสู่ตัวจนเกิดปีติ หรือดลใจให้ได้รับพระองค์นั้นๆด้วยวิธีแปลกๆ บางครั้งก็ได้ด้วยวิธีอธิษฐานจิต หรือได้รับมาด้วยราคาถูก เป็นต้น อันนี้เรียกว่า พระท่านทรงเลือกคน หรือคนดีจึงถูกพระเลือกนั่นเอง

    "คนเลือกพระ"คือ เกิดจากกิเลสของคนที่อยากได้พระองค์นั้นๆ จึงพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มา ไม่ว่าจะเป็นมุกของเซียนที่ตีพระของเขาปลอมแต่ลับหลังกลับหาวิธีให้ได้มา หรือยอมทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อให้ได้มา จึงเกิดความทุกข์ตามมา บางครั้งจึงมักได้ข่าวว่าเซียนพระถูกตี ถูกฆ่า หักหลังกัน หรือเจ้าพ่อใหญ่ถูกยิงถล่มตายคาที่ทั้งที่ห้อยพระชุดเบญจภาคีราคาแพงก็ตาม นั่นเป็นเพราะกิเลสที่ทำให้คนผิดศีลธรรม แม้จะเป็นพระแท้แต่พระท่านไม่คุ้มครองคนชั่ว แม้บางคนจะร่ำรวยจากการซื้อขายพระโดยไม่สุจริตในภพนี้ แต่ในบั้นปลายหรือในภพหน้าก็มิอาจหลีกเลี่ยงกฎแห่งกรรมไปได้


    อย่างไรก็ตาม ข้อเขียนทั้งหมดนี้ เป็นเพียงการนำเสนอมุมมองหนึ่งที่ได้จากประสบการณ์ของผู้เขียน ที่ได้เข้าไปคลุกคลีกับวงการพระเครื่องของเมืองไทยในช่วงเวลาหนึ่ง จนเข้าใจในสภาวธรรมหรือสัทธรรมของสรรพสิ่งซึ่งล้วนเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และการสะสมพระเครื่องก็เป็นดังนั้นเช่นกัน ผู้เขียนได้เรียนรู้จากหลายๆแหล่ง จากกิเลสที่อยากมีอยากได้ นำไปสู่การค้นคว้าทั้งจากตำรา ผู้รู้ ผู้ไม่รู้ ของจริงของแท้ ของไม่จริงของไม่แท้ ผสมปนเปกันไป เสียเวลา เสียเงินไปก็มาก ได้รับทั้งพระแท้และพระปลอมคละเคล้ากันไปนับพันๆองค์ มีทั้งสุขและทุกข์ อยู่ในโลกอีกมิติหนึ่ง จนหลงเข้าไปสู่วงการพระเครื่องเกือบเต็มตัว ได้รับเกียรติไปบรรยายพระก็หลายครั้ง เห็นความทุกข์ของคนเล่นพระก็มาก(เกือบทั้งหมด) ซึ่งหนีไม่พ้นสองคำอมตะคือ"แท้" กับ "ไม่แท้"

    ในปัจจุบันเราต้องยอมรับกันว่า คติความเชื่อและการสร้างพระได้เปลี่ยนไปจากคติดั้งเดิมมาก ในอดีตท่านผู้สร้างพระมีเจตนาเพื่อเป็นการสืบต่อพระพุทธศาสนา จึงไม่ได้ผูกติดกับการตีค่าเป็นเงินตรา แต่ในกาลปัจจุบัน ผู้คนได้แปรค่าจากอริยทรัพย์(บุญฤทธิ์) ไปเป็นโภคทรัพย์(เงิน)เรียบร้อยแล้ว จึงไม่แตกต่างอะไรกับสินค้าชนิดหนึ่ง ผู้เขียนจึงอยากให้ท่านทั้งหลาย ลองกลับมาพิจารณาให้ดีว่า เราควรแสวงหาพระดีๆสักองค์ เพื่อเป็นสิ่งมงคลหรือเป็นอริยทรัพย์ เพื่อช่วยปรับภูมิภายในของผู้แขวนให้มีความเป็นอริยทรัพย์ไม่ดีกว่าหรือ เมื่อผู้ใดมีศีลและความเป็นอริยทรัพย์ภายในดีแล้ว คลื่นพลังงานดีย่อมแผ่ออกมาดึงดูดโภคทรัพย์ภายนอก ให้หลั่งไหลเข้ามาสู่ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หรือหากท่านมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน หรือมีหลายๆองค์ ก็อาจขออนุญาตและขอพระบารมีพระองค์นั้นๆ เพื่อแบ่งให้ผู้อื่นเช่าก็ย่อมได้ แต่ขอให้กระทำด้วยจิตอันเป็นกุศล ให้เป็นไปโดยธรรมชาติ และตามบุญบารมี ท่านจึงจะไม่เกิดความทุกข์ หากได้เงินหรือปัจจัยมาก็ขอให้แบ่งไปทำบุญ แล้วอุทิศให้แก่องค์ผู้สร้าง ตลอดจนเทวดาผู้รักษาพระองค์นั้นๆด้วย จึงจะนับว่า เป็นการสะสมพระที่ถูกทาง และถูกต้อง แล้วท่านจะได้รับแต่สิ่งดีๆ อย่างคาดไม่ถึง การศึกษาตามแบบของนักปฏิบัติธรรมและนักวิชาการ จึงเป็นการศึกษาแบบนอกกำมือเซียน แล้วท่านหละจะเลือกแบบใด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]

    เรียนท่านนนต์
    องค์บนเล็กๆ จากซ้ายลำดับที่สอง เป็นพระอะไรครับท่าน...
     
  13. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    ขออนุโมทนากับท่านอัศวเมธ ที่ให้ความสนใจในกระทู้นี้... ก่อนอื่นผมต้องขอทำความเข้าใจกับท่านก่อนนะครับว่า...พวกเราทุกคนในกลุ่มนี้ยังเป็นแค่สามัญชนคนธรรมดาที่มีโอกาสได้แสวงหาธรรม...ดังนั้นคำกล่าวหรือคำพูดกันไปมาหรือการรับรู้บางสิ่งบางอย่างนั้น...มันก็ยังเป็นแค่ความรู้สึก ความเห็น ที่ไม่สามารถที่จะยืนยันในความจริงได้อย่างท่านพระอริยเจ้า...ความรู้สึกเฉพาะตัวนั้น มันอาจจริงหรือไม่จริงก็ได้ ดังนั้นท่านต้องใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลทั้งหลายบนพื้นที่เว็บบอร์ดนี้...
    เมื่อท่านตั้งปุจฉามา ผมในฐานะที่ทำให้ท่านสงสัย แม้ผมจะเป็นแค่สามัญชนแถมไม่เคยได้เรียนปริยัติ ศัพท์บาลีก็ไม่เข้าใจ การปฏิบัติก็เพิ่งจะเริ่มต้น ก็จะขอตอบตามที่มีสติปัญญา ผมไม่ขอยืนยันว่าจะตอบถูกนะครับ (เป็นเพียงข้อคิดเห็น)

    1. ผู้ใดมีใจในการสะสมพระด้วยความศรัทธา ไม่ได้คาดหวังว่าจะทำเป็นธุรกิจซื้อขายพระ บางครั้งเมื่อมีความปรารถนา(กิเลสยังมี)อยากจะได้พระที่หายากและราคาแพง(ราคาตลาด) แต่กลับได้ท่านมาครอบครองด้วยความเหลือเชื่อ(หลายวิธี) บางครั้งได้มาตามนิมิต(นิมิตก่อนแล้วจึงได้) หรืออาจใช้เงินน้อยหรือได้มาฟรีๆ และอีก.....ๆ ส่วนคำว่า ผู้มีบุญ ผู้มีบารมี นั้นมันเป็นนามธรรม วัดกันยาก เอาง่ายๆ อย่างเช่น ในหลวงของเรา ท่านมีทั้งบุญและบารมี บุญคือทำให้ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ บารมีคือทำให้ประชาชนรักและเคารพศรัทธาท่านมาก....ส่วนใครจะมีบุญบารมีมากน้อยนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าผู้นั้นมีทรัพย์สินเงินทอง หรือมีพระเครื่องมากหรอกนะครับ มันยังมีองค์ประกอบอื่นๆอีกมากมาย หากท่านศึกษามาทางพระผมเชื่อว่าท่านรู้ดีมากกว่าพวกเราเสียอีก.... พระอรหันต์ท่านก็ไม่เห็นจะมีทรัพย์สินหรือวัตถุใดๆเลย..บางท่านยังเกิดมาในครอบครัวที่ยากจนเสียส่วนใหญ่... การมีบุญบารมีมันอธิบายแบบรูปธรรมยาก... ดังนั้นตามความเข้าใจของพวกเราก็คือ เมื่อผู้ใดมีจิตใจงาม ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ไม่ลบหลู่พระเครื่องที่ตนมี แม้จะยังไม่ลึกซึ้งในพระธรรม ก็นับว่าเป็นผู้มีบุญแล้ว...ส่วนบารมีก็คือ มีเพื่อนธรรมเคารพนับถือกันมากนั่นเอง

    2. การจับพลังพระนั้นมีหลายวิธี เป็นความเชื่อส่วนบุคคล อาจมีทั้งความจริงและอุปทาน ในส่วนตัวของผม การจับพระแรกๆจะมีความรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างวิ่งแทรกซึมเข้ามาภายในร่างกายของเรา คล้ายอาการซาบซ่านนั่นแหละครับ ส่วนการที่พระดึงพลังหรือดึงมือขึ้นไปเหนือศรีษะ หรือดึงไปข้างหน้านั้น มันเกิดขึ้นจริง แต่จะมีพลังจริงอย่างไรนั้นไม่สามารถยืนยันได้ มันอาจเป็นคล้ายมายาก็ได้ หลวงปู่ดุลย์สอนว่า นิมิตนั้นมีจริง แต่ในนิมิตนั้นไม่จริง ก็คงจะใช้นำมาอธิบายเรื่องนี้ได้เช่นกัน

    3. ตามความใจส่วนตัวของผม พระพุทธเจ้าท่านแสดงธรรมแก่เหล่าสาวก ท่านก็ได้อธิบายถึงการเกิดของสรรพสัตว์ล้วนมีผลหรือเหตุมาจากการกระทำในอดีตทั้งสิ้น พระพุทธองค์ก็มีการระลึกชาติได้ตั้งมากมาย ส่วนอนาคตนั้น พระพุทธองค์ก็ยังทำนายว่าพระอชิตะจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป(พระศรีอาริยเมตไตรย) แต่สุดท้ายพระพุทธองค์ไม่ให้ยึดอดีตและอนาคต เพราะอดีตมันผ่านมาแล้วแก้ไขไม่ได้ ถ้าย้อนไปคิดมันจะทำให้จิตเศร้าหมอง ส่วนอนาคตนั้นมันยังมาไม่ถึง ถ้าไปคิดมันจะทำให้เราเพ้อเจ้อหรือเป็นบ้าได้ ดังนั้นพระพุทธองค์จึงเน้นให้เหล่าสาวกมีสติระลึกรู้ในปัจจุบันเท่านั้น สติจะเป็นตัวนำไปสู่การบรรลุธรรม คือมีปัญญา(จากสมาธิ)ไปตัดอวิชชาได้นั่นเอง ส่วนการระลึกชาติได้ก็ไม่ได้เสียหาย เมื่อรู้แล้วก็ละวางมันลงเสีย

    ....ส่วนข้อ 4 นั้น มันเกินวิสัยที่ผมจะตอบท่านได้เพราะสภาวธรรมและภูมิธรรมของผมยังไปไม่ถึงขั้นนั้น

    การสะสมพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก็เพื่อมีสติระลึกถึง พุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ แถมอีกอย่างคือ เทวานุสติ เท่านั้น หากเมื่อสภาจิตใจของท่านเข้มแข็งแล้ว ท่านก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านี้เลย ขอให้วางท่านไว้ในที่อันควร แล้วเร่งปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ตัดตรงไปสู่พระนิพพานเถิด หวังว่าท่านคงจะพอเข้าใจในกลุ่มพวกเรานะครับ ทุกคนกำลังไต่ระดับอยู่ หากมีสิ่งใดที่ท่านรู้แล้ว ก็จงนำมาแลกเปลี่ยนเพื่อเป็นวิทยาทานต่อไป ขออนุโมทนา

    ปล. การมีบุญบารมีของท่าน ท่านย่อมรู้อยู่แก่ใจของตัวท่านเองครับ
     
  14. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ในเรื่องนี้โปรดรอสัก week หน้านะครับ เพราะผมยังไม่ได้ตรวจสอบเลย
    แต่ผมก็หวังลึกๆอยู่เช่นกันนะครับ
     
  15. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    น่าจะเป็นพระไยวัฒน์วัดสุทัศน์กระมัง ผู้หมวดศุภชัยให้ผมมาครับ
     
  16. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    โมทนาสาธุครับท่านนนต์
     
  17. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    เดี๋ยวผมส่ง mail ให้ดูเต็มๆละกันครับ
    ขอครูบาอาจารย์ท่านเมตตาพิจารณาก่อน
    หากผ่านถึงจักออกอากาศ หากไม่ผ่านก็ขอให้ผ่านเลยไป
     
  18. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    โมทนาสาธุ ถ้าใช่...ท่านรอแน่ครับ :)
     
  19. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    เสียงกริ่งก้องกังวาลไพเราะ......อยู่ในชุดเดียวกันกับเนื้อนวโลหะ2434 ที่มีอยู่ครับ.....ก็คงต้องรอต่อไปจนกว่าจะพบองค์ที่รุ่นเดียวกัน เหมือนกัน วาระเดียวกันเพื่อเปรียบเทียบ...แต่น่าจะยากและนานครับ.

    องค์นี้ต่างรุ่น ต่างพิมพ์กับของท่านอ.นนท์ครับ...เข่าขวาไม่มีกงจักรครับ.
     
  20. nontayan

    nontayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    832
    ค่าพลัง:
    +976
    ลองทัศนาดูพระชุดเบญจภาคีเพื่อคลายเครียดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...