หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ได้อ่านความร่ำรวยทุกอักขระแล้ว ผู้เขียนเขียนให้เข้าใจง่าย เข้าใจเปรียบเปรยดี หุหุ


    โมทนาสาธุครับ


    ในเรื่องการเลือกพระกริ่งรุ่นไหนดีนั้น ก็ได้เข้าไปอ่านแล้วเช่นกัน หากท่านผู้เขียนมีโอกาสพบเจอองค์ที่เหนือโลกันต์แล้ว ท่านก็น่าจะพิจารณาและทบทวนคำพูดใหม่ครับ

    แต่ก็นั่นแหละ มันก็เป็นการยากส์ที่จะได้พบเจอ ยากยิ่งกว่างมเข็มทองคำในมหาสมุทรทีเดียว ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2011
  2. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ขออนุญาตนำมาแปะที่นี่และโมทนาสาธุๆครับ
     
  3. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    TOP 55 Download

    [​IMG]
    241.1 KB, ดาวน์โหลด 1,701 ครั้ง

    [​IMG]
    21.5 KB, ดาวน์โหลด 1,517 ครั้ง

    [​IMG]
    40.2 KB, ดาวน์โหลด 1,105 ครั้ง

    [​IMG]
    64.6 KB, ดาวน์โหลด 1,001 ครั้ง

    [​IMG]
    521.2 KB, ดาวน์โหลด 738 ครั้ง

    [​IMG]
    93.8 KB, ดาวน์โหลด 580 ครั้ง

    [​IMG]
    185.3 KB, ดาวน์โหลด 492 ครั้ง

    [​IMG]
    72.5 KB, ดาวน์โหลด 482 ครั้ง

    [​IMG]
    69.3 KB, ดาวน์โหลด 456 ครั้ง

    [​IMG]
    133.7 KB, ดาวน์โหลด 451 ครั้ง

    [​IMG]
    180.1 KB, ดาวน์โหลด 309 ครั้ง

    [​IMG]
    74.6 KB, ดาวน์โหลด 291 ครั้ง

    [​IMG]
    72.9 KB, ดาวน์โหลด 282 ครั้ง

    [​IMG]
    80.8 KB, ดาวน์โหลด 261 ครั้ง

    [​IMG]
    15.3 KB, ดาวน์โหลด 230 ครั้ง

    [​IMG]
    214.6 KB, ดาวน์โหลด 216 ครั้ง

    [​IMG]
    486.8 KB, ดาวน์โหลด 214 ครั้ง

    [​IMG]
    330.1 KB, ดาวน์โหลด 210 ครั้ง

    [​IMG]
    286.9 KB, ดาวน์โหลด 208 ครั้ง

    [​IMG]
    497.0 KB, ดาวน์โหลด 202 ครั้ง

    [​IMG]
    170.3 KB, ดาวน์โหลด 195 ครั้ง

    [​IMG]
    151.7 KB, ดาวน์โหลด 195 ครั้ง

    [​IMG]
    37.8 KB, ดาวน์โหลด 190 ครั้ง

    [​IMG]
    55.1 KB, ดาวน์โหลด 189 ครั้ง

    [​IMG]
    96.3 KB, ดาวน์โหลด 185 ครั้ง

    [​IMG]
    74.3 KB, ดาวน์โหลด 187 ครั้ง

    [​IMG]
    88.6 KB, ดาวน์โหลด 184 ครั้ง

    [​IMG]
    91.0 KB, ดาวน์โหลด 184 ครั้ง

    [​IMG]
    77.1 KB, ดาวน์โหลด 184 ครั้ง

    [​IMG]
    70.7 KB, ดาวน์โหลด 184 ครั้ง

    [​IMG]
    74.9 KB, ดาวน์โหลด 184 ครั้ง

    [​IMG]
    82.0 KB, ดาวน์โหลด 183 ครั้ง

    [​IMG]
    56.5 KB, ดาวน์โหลด 183 ครั้ง

    [​IMG]
    100.6 KB, ดาวน์โหลด 183 ครั้ง

    [​IMG]
    70.3 KB, ดาวน์โหลด 182 ครั้ง

    [​IMG]
    84.5 KB, ดาวน์โหลด 182 ครั้ง

    [​IMG]
    330.6 KB, ดาวน์โหลด 175 ครั้ง

    [​IMG]
    160.5 KB, ดาวน์โหลด 158 ครั้ง

    [​IMG]
    72.7 KB, ดาวน์โหลด 143 ครั้ง

    [​IMG]
    35.7 KB, ดาวน์โหลด 142 ครั้ง

    [​IMG]
    124.6 KB, ดาวน์โหลด 139 ครั้ง

    [​IMG]
    26.1 KB, ดาวน์โหลด 134 ครั้ง

    [​IMG]
    153.7 KB, ดาวน์โหลด 133 ครั้ง


    [​IMG]
    167.8 KB, ดาวน์โหลด 130 ครั้ง

    [​IMG]
    239.2 KB, ดาวน์โหลด 130 ครั้ง

    [​IMG]
    57.4 KB, ดาวน์โหลด 128 ครั้ง

    [​IMG]
    125.0 KB, ดาวน์โหลด 118 ครั้ง

    [​IMG]
    261.0 KB, ดาวน์โหลด 111 ครั้ง

    [​IMG]
    181.0 KB, ดาวน์โหลด 111 ครั้ง

    [​IMG]
    187.2 KB, ดาวน์โหลด 105 ครั้ง

    [​IMG]
    180.0 KB, ดาวน์โหลด 103 ครั้ง

    [​IMG]
    189.6 KB, ดาวน์โหลด 102 ครั้ง

    [​IMG]
    202.3 KB, ดาวน์โหลด 102 ครั้ง

    [​IMG]
    430.2 KB, ดาวน์โหลด 102 ครั้ง

    [​IMG]
    128.3 KB, ดาวน์โหลด 100 ครั้ง

    [​IMG]
    55.1 KB, ดาวน์โหลด 99 ครั้ง

    [​IMG]
    47.4 KB, ดาวน์โหลด 99 ครั้ง

    [​IMG]
    138.0 KB, ดาวน์โหลด 96 ครั้ง

    [​IMG]
    121.9 KB, ดาวน์โหลด 93 ครั้ง
    <!-- google_ad_section_end -->
    [​IMG]
    60.1 KB, ดาวน์โหลด 93 ครั้ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2011
  4. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    พระกริ่งองค์นี้งดงามมาก การถ่ายภาพก็ระดับมืออาชีพ ผมอยากถ่ายได้แบบนี้จัง แต่ติดที่ยังไม่ว่างทำห้องถ่ายภาพครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 112.jpg
      112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      145.6 KB
      เปิดดู:
      10,984
    • 111.jpg
      111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      146.2 KB
      เปิดดู:
      15,863
  5. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    พาให้หวลคำนึงถึงพระกริ่งฯที่ได้มาจากผู้มีพระคุณวาระแรกๆที่ได้รู้จักพระกริ่งปวเรศ

    ผมอัญเชิญท่านลงทำน้ำมนต์ หลังจากนั้นสักระยะ ผลที่ได้คือมีพระธาตุติดที่ฐานด้วย

    พระกริ่งปวเรศ เนื้อออกไปทางนาค หมุดทองคำ จีวรลายดอก มีจารอักขระยันต์ที่ใต้ฐาน ทรงแย้มยิ้มน้อยๆ ดูงดงามมากครับ เสียงกริ่งหนักแน่น คงเป็นเพราะฐานกว้างกว่าปกติ แต่ผมยังไม่เคยอัญเชิญท่านขึ้นคอและสอบถามท่านผู้รู้ จึงยังไม่สามรถบอกอิทธานุภาพได้ เชิญชม ...
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    กราบ กราบ กราบ
    กราบ กราบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1100921.jpg
      P1100921.jpg
      ขนาดไฟล์:
      199.3 KB
      เปิดดู:
      6,934
    • P1100922.jpg
      P1100922.jpg
      ขนาดไฟล์:
      177 KB
      เปิดดู:
      4,959
    • P1100924.jpg
      P1100924.jpg
      ขนาดไฟล์:
      151.4 KB
      เปิดดู:
      7,546
    • P1120153.jpg
      P1120153.jpg
      ขนาดไฟล์:
      176.1 KB
      เปิดดู:
      5,019
  6. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    สมบัติผลัดกันชม
    ตายไปก็เอาไปไม่ได้
    ทุกอย่างในบอร์ดนี้จึงไม่สงวนลิขสิทธิ์

    Share The World , Life Free
     
  7. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    ไม่ใช่เจอกันง่ายๆ ด้วยท่าน

    อย่างน้อยแค่มีอยู่ก็เหลือรับประทานแล้ว แต่สักวันอาจจะเจอครับ

    ยกเว้น คนที่ไม่เปิดใจ ชาติหน้าก็ไม่เจอครับ
     
  8. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    สร้างห้องถ่ายรูปเมื่อไหร่ บอกหน่อยนะท่านจะได้ฝากถ่ายมั่ง

    แต่ว่าที่ถ่ายออกมานี่ สุดยอดจริงๆๆ
     
  9. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    โมทนาสาธุอย่างแฮงๆๆๆๆๆๆ
     
  10. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768

    โมทนาสาธุครับ

    ของหายากส์สสสสสสสสสสสสสส
     
  11. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ขอน้อมนำหลักธรรมคำสั่งสอนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเรื่อง การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก

    สมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมอยู่ ณ วัดพระเชตวัน มีอุบาสก 5 คนเป็นเพื่อนกัน มานั่งฟังธรรม ทั้ง 5 คนต่างมีกิริยาอาการต่าง ๆ กัน

    คนหนึ่งนั่งหลับ
    คนหนึ่งนั่งเอานิ้วเขียนพื้นดินเล่น
    คนหนึ่งนั่งเขย่าต้นไม้
    คนหนึ่งนั่งแหงนดูท้องฟ้า
    มีเพียงคนเดียวที่นังฟังธรรมด้วยอาการสงบ

    พระอานนท์กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า "ทำไมอุบาสกเหล่านี้จึงแสดงกิริยาเช่นนั้น" พระพุทธเจ้าจึงทรงเล่าอดีตชาติของอุบาสกแต่ละคนว่า

    อุบาสกที่นั่งหลับ เคยเกิดเป็นงูมาแล้วหลายร้อยชาติ เขาหลับมาหลายร้อยชาติแล้วก็ยังไม่อิ่ม แม้แต่ฟังเทศน์พระพุทธเจ้า ธรรมะก็ไม่เข้าหู ยังหลับอยู่อย่างนั้น

    อุบาสกที่นั่งเอานิ้วเขียน พื้นดิน เคยเกิดเป็นไส้เดือนมาหลายร้อยชาติ นั่งเอานิ้วเขียนบนพื้นดินเล่นอยู่อย่างนั้น ด้วยอำนาจความประพฤติที่ตัวเคยทำมา ก็ไม่ได้ยินธรรมะของพระพุทธเจ้าเช่นกัน

    อุบาสกที่นั่งเขย่าต้นไม้อยู่นั้น เกิดเป็นลิงมาแล้วหลายร้อยชาติ ถึงบัดนี้ก็ยังเขย่าต้นไม้อยู่ ไม่ได้ยินธรรมะของพระพุทธเจ้าเช่นกัน

    อุบาสกที่นังแหงนดูท้องฟ้านั้น เคยเกิดเป็นพราหมณ์บอกฤกษ์ด้วยการดูดาวมาหลายร้อยชาติ ถึงบัดนี้ก็ยังคงนั่งดูท้องฟ้าอยู่ ไม่ได้ยินธรรมะของพระพุทธเจ้า

    อุบาสกที่นั่งฟังธรรมอย่างสงบด้วยความเคารพ เคยเกิดเป็นพราหมณ์ศึกษาธรรมะและปรัชญา ค้นคว้าหาความจริงมาหลายร้อยชาติ มาบัดนี้ได้พบพระพุทธเจ้า ตั้งใจฟังธรรมด้วยดี จนได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบัน

    อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะนึกสงสัยว่า ชาติก่อนเราเกิดเป็นอะไรหนอ

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นเป็นเรื่องยาก ต้องมีบุญมาก อุปมาเหมือนเต่าตาบอดตัวหนึ่งดำน้ำอยู่ในทะเล ทุกๆ 100 ปี เต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่หัวขึ้นมาจากทะเลครั้งหนึ่ง ในทะเลมีห่วงเล็กๆ ขนาดใหญ่กว่าหัวเต่าหน่อยหนึ่งลอยอยู่ 1 ห่วง โอกาสที่เต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่ขึ้นมา แล้วหัวสวมเข้ากับห่วงพอดียากเพียงใด โอกาสนั้นก็ยังมีมากกว่า การที่เหล่าสรรพสัตว์จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์

    ในฐานะมนุษย์ไม่มากก็น้อยที่ใจของเราได้มีประสบการณ์ในภพชาติอื่น ๆ ทั้งที่ต่ำกว่าและสูงกว่าภพมนุษย์ เรามีปัญญาที่จะรู้ได้จากประสบการณ์ของเราแล้วว่าอะไรดี อะไรไม่ดี

    การเกิดเป็นมนุษย์ถ้าดีก็ดีได้มากๆ แต่ก็น่ากลัวเหมือนกัน เพราะถ้าประมาทก็ทำชั่วได้มาก ถ้าไม่ประมาท รักษาศีล 5 ทำความดี สร้างบารมี ตั้งใจพัฒนาชีวิตจิตใจแล้วก็สามารถมีประสบการณ์สูงขึ้น เป็นเทวดา พรหม ตลอดจนเข้าถึงอริยมรรค อริยผล บรรลุนิพพานได้ มนุษย์จึงเป็นชาติที่มีทางเลือก

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

    เป็นการยากที่ได้เกิดเป็นมนุษย์
    เป็นการยากที่ชีวิตสัตว์จะได้อยู่สบาย
    เป็นการยากที่จะได้ฟังธรรมของสัตบุรุษ
    เป็นการยากที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติมา

    เมื่อรู้เช่นนี้แล้วเราจึงควรเห็นคุณค่าของการเกิดเป็นมนุษย์ อย่าให้เสียโอกาส เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เอาใจใส่รักษาความเป็นมนุษย์ไว้ให้มั่นคง

    ดังนั้นสำหรับการเกิดเป็นมนุษย์ในชาติหนึ่ง การเลือกทางดำเนินชีวิตของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

    การอุบัติของพระพุทธเจ้ามีได้ยาก
    การได้เกิดมาเป็นมนุษย์เป็นของยาก
    การได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วพบพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องยากอย่างยิ่งกว่า

    LINK ที่มา

    สำหรับผมขออนุญาตเพิ่มเติมว่า...

    การอุบัติในพระวังหน้าทำได้ยาก
    การที่จะได้รู้จักพบเจอพระวังหน้า แสนยาก
    การที่จะได้รู้จักพบเจอเข้าใจในพระวังหน้า ยากกว่า
    การที่จะได้รู้จักพบเจอเข้าใจในพระวังหน้าที่สุดยอดๆ ยากกว่าอีก
    การที่จะได้ทำให้พุทธศาสนิกชนที่ศรัทธาพระเครื่องให้เข้าใจในพระวังหน้า ยากสุดๆๆ

    แต่ก็จะทำครับ!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2011
  12. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, IT Man </TD></TR></TBODY></TABLE>

    หวัดดีตอนสายๆ ท่านสมบัติ

    ตกลงว่าเลือกกริ่งปวเรศ รุ่นแรก วาระไหนดีครับ 555555+
     
  13. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>มองโลกอย่างไร ได้ชีวิตอย่างนั้น </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ในโลกนี้มีวิธีคิดอยู่หลายแบบ วิธีคิดแต่ละแบบก็มีจุดดี จุดด้อย แตกต่างกันไป วิธีคิดที่คนส่วนใหญ่รู้จักก็มีอยู่ 3 แบบ ได้แก่

    1. วิธีคิดแบบมองโลกในแง่ดี
    2. วิธีคิดแบบมองโลกในแง่ร้าย
    3. วิธีคิดแบบมองโลกตามความเป็นจริง



    วิธีคิดแบบมองโลกในแง่ดี
    ก็คือ การรู้จักมองหาคุณค่า หรือแง่ดี แง่งาม ท่ามกลางสภาวะที่ไม่พึงประสงค์ เช่น เมื่อตกอยู่ท่ามกลางวิกฤติ ก็ให้รู้จักมองหาโอกาส หรือเมื่อต้องทำงานหนัก ก็ให้มองว่า งานหนักจะมาพร้อมกับความเชี่ยวชาญ หรือเมื่อต้องพบกับอุปสรรคมากมายในชีวิตก็ให้มองว่า นั่นคือการทดสอบจากพระเจ้า เมื่อสอบผ่านก็จะได้รับรางวัลก้อนใหญ่ หรือเมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็ให้คิดเสียว่า นั่นเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของคำแนะนำ หรือเมื่อต้องพบกับความผิดหวัง ก็ให้คิดเสียว่า เป็นวิธีที่ธรรมชาติกำลังมอบภูมิต้านทานในการดำรงชีวิต

    การมองโลกในแง่ดี มีข้อดีก็คือ ทำให้เรารู้จักหาประโยชน์จากสิ่งที่ไร้ประโยชน์ หาสุขจากทุกข์ หาข้อดีท่ามกลางข้อเสีย การมองเช่นนี้ จะส่งผลให้มีกำลังใจในการสู้ชีวิตเหมือนที่มหาตมะ คานธี ถูกจับโยนลงจากรถไฟในแอฟริกาใต้ ในเวลาต่อมาท่านเล่าว่า เหตุการณ์เลวร้ายคราวนั้น ทำให้ท่าน "รู้จักคิด" จนท่านกล่าวว่า "ประสบการณ์ที่สร้างสรรค์ที่สุด มักเกิดจากบทเรียนที่เจ็บปวดที่สุด" การรู้จักมองโลกในแง่ดี จึงทำให้มีแรงบันดาลใจในการเผชิญหน้ากับความยุ่งยากของชีวิตได้เป็นอย่างดี

    ท่านพุทธทาสภิกขุ เขียนกวีเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า

    "เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงเลือกเอาส่วนที่ดีเขามีอยู่
    เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย

    จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว อย่ามัวเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย
    เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง"

    วิธีคิดแบบมองโลกในแง่ร้าย ก็คือ การมองเห็นแต่จุดด้อยของสิ่งต่าง ๆ ซึ่งมักเกิดขึ้นจากความกังวลจนเกินเหตุ แต่วิธีคิดแบบนี้มีจุดแข็งก็คือ ทำให้เกิดการเฝ้าระวังในสิ่งที่กำลังคิดหรือทำอยู่ แต่จุดอ่อนก็คือ หากวิตกมากเกินไปก็ทำให้ไม่มีโอกาสได้ชื่นชมสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่ในคน หรือสิ่งต่าง ๆ ในแง่จิตใจก็ทำให้จิตใจหดหู่ ท้อแท้หรือจิตตก ไม่มีกำลังใจในการลุกขึ้นมาทำอะไร หรือบางกรณีทำให้เป็นคนที่ยอมจำนนต่อปัญหา ยอมแพ้ต่ออุปสรรคทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ใช้ความเพียรพยายามอย่างถึงที่สุด

    วิธีคิดแบบมองโลกตามความเป็นจริง ก็คือ การมองเห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา ไม่สุดโต่งไปด้านดี หรือด้านร้ายตามความรู้สึกที่ตนคิดเอาเอง แต่เป็นการมองลงไปตรง ๆ ยังตัวปัญหาที่อยู่ตรงหน้าด้วยปัญญาที่เป็นกลาง แล้วใช้ปัญญาที่เป็นกลางนั้น แสวงหาวิธีแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล ซึ่งวิธีคิดเช่นนี้มีอยู่ในหมู่นักวิทยาศาสตร์ หรือปัญญาชนที่รักการใช้เหตุผลอย่างบริสุทธิ์ใจ ผลของวิธีการ มองโลกตามความเป็นจริงก็คือ สามารถแก้ปัญหาชีวิตได้จริงอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่อยู่กับความหวังมากเกินไปเหมือนการมองโลกในแง่ดี ไม่วิตกมากเกินไปจนไม่กล้าทำอะไรเหมือนการมองโลกในแง่ลบ แต่เป็นการอยู่กับความจริงที่เป็นจริงด้วยปัญญาแท้ ๆ และแก้ปัญหาชีวิตไปบนพื้นฐานข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา

    วิธีคิดแบบมองโลกตามความเป็นจริง เป็นวิธีคิดหลักอย่างหนึ่งของพุทธศาสนา ซึ่งเรามักจะได้ยินผ่านวลีที่ว่า "จงมองโลกอย่างที่มันเป็น ไม่ใช่อย่างที่เราอยากให้เป็น" ในวิธีคิดสามแบบนี้ วิธีคิดแบบที่สามนับว่ามีประโยชน์มากที่สุด เพราะเป็นวิธีคิดที่มุ่งแก้ปัญหาโดยไม่ก่อ ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง พูดอีกอย่างหนึ่งว่า เป็นวิธีดับทุกข์ ไม่ใช่แค่กลบทุกข์

    ถ้าความทุกข์ที่เกิดกับชีวิตเป็นของจริง วิธีที่จะดับทุกข์ ก็ต้องเป็นวิธีคิดแบบมองโลกตามความเป็นจริง ทุกข์จึงจะ ถูกดับหรือถูกกำจัดอย่างถอนรากถอนโคน เคยถามตัวเองบ้างไหมว่า เรากำลังใช้วิธีไหนในการดับทุกข์?.

    พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี)



    ที่มา
    http://www.palungjit.org/
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2011
  15. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
  16. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    โยนเผือกร้อนกันเห็นๆ
    บอกไปใครเขาจะเชื่อ ไม่เอา ไม่พูดเรื่องนี้ หุหุ ...
     
  17. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    "เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงเลือกเอาส่วนที่ดีเขามีอยู่
    เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
    จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว อย่ามัวเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย
    เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง"

    "จงมองโลกอย่างที่มันเป็น ไม่ใช่อย่างที่เราอยากให้เป็น"

    มันก็เป็นเช่นนั้นเอง
    โมทนาสาธุ สาธุครับ
     
  18. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ใครขี้ลืม…มาทางนี้มีทางแก้/ดร.แพง ชินพงศ์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>2 กุมภาพันธ์ 2554 06:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000013304&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=279><TBODY><TR><TD vAlign=top width=279 align=middle>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> คุณเคยประสบปัญหาเช่นนี้บ้างไหม...

    - ลืมสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำ คือมักลืมในสิ่งที่ไม่น่าจะลืม เช่น ลืมปิดน้ำ ลืมปิดไฟ ผิดนัดสำคัญ ลืมว่าต้องไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ซึ่งกว่าจะจำได้ก็เลยกำหนดเวลาชำระเงินไปแล้ว

    - ลืมบุคคล คือ การจำชื่อคนไม่ได้ การจำหน้าคนที่รู้จักไม่ได้ ซึ่งอาการลืมบุคคลนี้ บางคนอาจจะจำได้แต่ชื่อ บางคนอาจจะจำได้แต่หน้าตา บางคนอาจจะอาการหนักถึงขั้นที่จำไม่ได้ทั้งชื่อและหน้าตาของคนที่รู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดีหรือแม้กระทั่งจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยรู้จักคนๆนี้มาก่อน

    - ลืมสถานที่ คือ การลืมทิศทาง ไม่สามารถจดจำสถานที่ต่างๆที่ตนเองเคยไปได้ หรือจำไม่ได้ว่ากำลังจะไปที่ไหน

    - ลืมบทเรียน ข้อนี้เป็นผลเสียต่อผู้ที่ยังอยู่ในวัยเรียนเป็นอย่างมาก คือ การที่ไม่สามารถจดจำบทเรียนต่างๆที่ตนเองเคยเรียน เคยอ่านหรือเคยพยายามท่องจำ เช่น สูตรคณิตศาสตร์ สูตรวิทยาศาสตร์ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ บางคนเป็นมากถึงขนาดที่พอคุณครูพูดยังไม่ทันจบประโยคก็ลืมเสียแล้ว

    - ลืมเหตุการณ์ที่สำคัญ คือ การลืมเหตุการณ์หรือวันสำคัญต่าง ๆ ในชีวิตที่ควรจดจำ เช่น ลืมวันเกิดของตัวเองหรือของคนในครอบครัว ลืมวันครบรอบงานแต่งงาน

    สาเหตุการหลงลืมมีได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุ เรื่องสุขภาพร่างกาย ความเครียดและความวิตกกังวลต่างๆ ปัญหาที่มีมากมายในชีวิตหรือการมีงานหลายอย่างที่ต้องจัดการ ปัญหาการหลงลืมเกิดขึ้นได้กับทุกคน ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็เป็นเหตุให้รำคาญใจทั้งกับตนเองและผู้คนรอบข้าง

    ผู้เขียนจึงขอนำเสนอวิธีช่วยคนขี้ลืมให้หายลืมแบบง่าย ๆ มาฝาก ดังนี้

    1.เขียนโน้ตติดไว้ในที่ ๆ เห็นชัดเจน เช่นที่โต๊ะทำงาน กระจกที่โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เย็น ทางเดินที่ต้องผ่านบ่อยๆ ในรถ โดยใช้กระดาษโน้ตหรือจะเป็นบอร์ดเล็กๆก็ได้ เลือกขนาดและสีสันที่มองเห็นได้ง่าย วิธีนี้เป็นวิธีเตือนความจำอย่างง่าย ๆ ที่ได้ผลดีมากวิธีหนึ่งและเป็นวิธีแรกๆที่คุณหมอมักแนะนำให้ใช้ปฏิบัติ

    2.ฝึกสมองอยู่เสมอ โดยการกระตุ้นให้สมองได้ทำงานและได้ออกกำลังผ่านทางกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นเกมส์ เล่นดนตรี เล่นกีฬา ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ เพราะกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยทำให้สมองได้พัฒนากระบวนการคิดและช่วยฝึกในด้านความจำเป็นอย่างดี

    3.เล่นโยคะ ปัจจุบันมีผู้หันมาเล่นโยคะเพิ่มขึ้น เพราะนอกจากกิจกรรมโยคะจะช่วยให้ระบบการทำงานของร่างกายดีขึ้นแล้ว การควบคุมจังหวะการหายใจเข้าออก ยังช่วยทำให้เกิดสมาธิ ซึ่งมีผลในการช่วยเรื่องของความจำที่ดีด้วย

    4.ฝึกภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น การเรียนภาษาเป็นวิธีการพัฒนาความจำได้ดีมากอีกวิธีหนึ่ง เพราะในการเรียนภาษาต่าง ๆ นั้น การใช้ความจำก็มีความสำคัญมาก ทั้งการจำตัวอักษร การจำโครงสร้างไวยากรณ์ฯ ดังนั้นเมื่อเราได้ฝึกเรียนภาษาอื่นจึงทำให้เราได้ฝึกใช้ความจำ ซึ่งการฝึกภาษาต่างประเทศอาจทำโดยการฝึกด้วยตนเอง เช่น ซื้อหนังสือมาอ่าน หา DVDภาพยนตร์หรือเพลงต่างประเทศมาดูและฟัง หรือการฝึกโดยอาศัยผู้อื่น เช่น สมัครเรียนที่โรงเรียนสอนภาษา

    5. อย่าทำกิจกรรมหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ถ้ารู้ว่าตนเองเป็นคนที่ขี้หลงขี้ลืมและไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไรก็ไม่ควรทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เช่น ท่องหนังสือและดูทีวีไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะทำให้การท่องจำบทเรียนไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร พูดโทรศัพท์ในขณะขับรถ นอกจากอาจจะทำให้หลงทางเสียเวลาแล้ว อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุเพราะขาดสมาธิและไม่สามารถใช้ความระมัดระวังได้อย่างเต็มที่

    6.มีสมุดบันทึก คนขี้ลืมทุกคนควรมีสมุดจดบันทึกพกติดตัวไว้เสมอ โดยสามารถจดสิ่งต่าง ๆ ที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นไว้ในสมุดนี้ เช่นงานที่ต้องทำ การนัดหมายในแต่ละวัน ข้อมูลต่าง ๆ ของคนในครอบครัว เพื่อน ลูกค้า เช่น วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ หากจำอะไรไม่ได้ก็จะสามารถเปิดดูข้อมูลต่าง ๆ ได้จากในสมุดบันทึกนี้

    7.ท่องเที่ยวเพิ่มความจำ การเดินทางท่องเที่ยวเป็นการช่วยกระตุ้นความจำได้ดี เพราะการไปยังสถานที่แปลก ๆ ใหม่ ๆ การได้พบเจอหรือสัมผัสกับผู้คน อากาศ สถานที่ ๆ เราไม่คุ้นเคยจะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้น สนุกสนาน ช่วยให้สมองเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเป็นวิธีเสริมความจำดีอีกวิธีหนึ่ง เพราะเป็นการช่วยเพิ่มพื้นที่ความจำและกระตุ้นให้สมองของเราจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

    วิธีแก้ลืมทั้ง 7 ข้อนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโน้ตติดไว้ในที่ ๆ เห็นชัดเจน การฝึกสมองผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เล่นเกมส์ เล่นดนตรี เล่นกีฬา ทำอาหาร ปลูกต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ การเล่นโยคะ การฝึกภาษาต่างประเทศ การระวังที่จะไม่ทำกิจกรรมหลายอย่างในเวลาเดียวกัน การมีสมุดบันทึกและการใช้เวลาว่างในการท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ๆ และเพิ่มความจำให้กับสมอง เป็นวิธีการง่าย ๆ ที่คุณทุกคนสามารถนำไปใช้ได้อย่างเป็นประโยชน์และเชื่อว่าจะช่วยแก้ปัญหาการขี้ลืมให้แก่ทุกท่านได้อย่างเป็นผลดีไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไหว้เจ้ายุคใหม่ มีสิ่งใดเปลี่ยนไปบ้าง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 กุมภาพันธ์ 2554 17:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000013329&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=335><TBODY><TR><TD vAlign=top width=335 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากเอเอฟพี</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ใกล้ตรุษจีนกันแล้ว หลายครอบครัวคงกำลังขะมักเขม้นเตรียมคิดเมนูอาหารคาวหวานสำหรับตั้งโต๊ะไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ แถมด้วยการปวดใจกับราคาสินค้าที่ขยับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้

    แต่นอกจากปัญหาราคาสินค้าที่เผชิญหน้ากันอยู่ทุกวี่วันนั้น ท่านผู้อ่านที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนคงพอได้สังเกตเช่นกันว่า การไหว้เจ้าทุกวันนี้มีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว และยากที่จะย้อนกลับมาเหมือนเดิม ซึ่งเราพอรวบรวมออกมาได้ดังนี้

    - แรงงาน

    หากย้อนหลังไปหลายสิบปีหน่อย ภาพของการไหว้เจ้าในวันตรุษจีน จะมีมือของลูกหลานมากมายคอยช่วยหยิบจับสิ่งของ เพราะครอบครัวในยุคนั้น มีลูกหลานมากมาย ไม่ใช่ 1 - 2 คนเช่นในปัจจุบัน ดังนั้น เรื่องของแรงงานในการเตรียมงานจึงเป็นสิ่งที่มีเหลือเฟือ ไม่ค่อยขาดสักเท่าไร แต่ในยุคปัจจุบัน ขนาดของครอบครัวที่หดเล็กลง ทำให้มีมือขยันช่วยเตรียมงานตรุษจีนลดน้อยลงไปด้วย ยิ่งบางบ้านที่มีแต่ลูกสาวในยุคนี้ หากแต่งงานแยกครอบครัวไปแล้วต้องไปช่วยครอบครัวสามีเป็นหลัก ก็อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ที่เตรียมงานไหว้เจ้าลำบากมากขึ้นไปอีก

    - การเตรียมอาหาร

    ในอดีต การเตรียมอาหารเพื่อไหว้ตรุษจีนนั้น นิยมช่วยกันทำในครอบครัว ยกตัวอย่างเช่น การสังหารเป็ด - ไก่ นำไปต้ม - ถอนขน เมื่อไหว้เสร็จ ก็จะช่วยกันสับเป็นชิ้น ๆ ก่อนจะนำไปปรุงตามความชอบของแต่ละบ้าน แต่ในปัจจุบัน หลายบ้านเหลือแต่ผู้สูงอายุที่ช่วยกันเตรียมอาหาร ภาพของการร่วมกันลงแรงเตรียมงานจึงเปลี่ยนไปเป็นการซื้ออาหารไหว้สำเร็จรูปมาใช้แทนเสียเป็นส่วนใหญ่

    - ขนาดของงาน

    เมื่อครอบครัวเล็กลง คนช่วยน้อยลง นอกจากบรรยากาศของการเตรียมงานที่ไม่ครึกครื้นเหมือนในอดีตแล้ว แต่ละครอบครัวยังขาดแรงงานในการเตรียมอาหารไปด้วย ทำให้ต้องหันมาซื้อของไปไหว้แทน แต่พอจะหยิบกระเป๋าตังค์ไปจ่ายของ ก็ต้องเจอกับสินค้าราคาแพงมาคอยท่าเสียอีก ขนาดของโต๊ะวางของไหว้ที่เคยใหญ่โตเมื่อในอดีต จึงย่อมเล็กลงเป็นธรรมดา

    - รูปแบบอาหาร

    คนที่จะรับประทานอาหารหลังจากไหว้เสร็จ แต่ไหนแต่ไร หนีไม่พ้นเด็ก ๆ เนื่องจากผู้ใหญ่หลายท่านก็เกรงปัญหาสุขภาพ แต่เดี๋ยวนี้ เด็ก ๆ สมัยใหม่ก็ไม่ค่อยนิยมรับประทานไก่ต้ม เป็ดต้ม หมูสามชั้น ขนมเข่ง ขนมเทียนกันเสียอีก แถมเด็ก ๆ ยังหัวใส ถามทำไมไม่ซื้อไก่ทอดมาไหว้แทนเสีย จะได้รับประทานกันให้อร่อย ซึ่งบางครอบครัวก็ตัดปัญหา เกรงจะไม่มีใครรับประทานอาหารไหว้ตรุษจีน เลยซื้อไก่ทอดมาไหว้เจ้าแทนให้ถูกใจเด็ก ๆ ก็มีให้เห็นกันแล้วด้วย

    - แต๊ะเอีย

    หากยังจำได้ เงินแต๊ะเอียเมื่อหลายสิบปีก่อน เพียง 50 - 100 บาทก็ทำให้เด็กยิ้มกันแก้มปริ บางบ้านใจดีให้เป็นหลักพันก็ยิ่งดีใจใหญ่ มาในยุคนี้ เด็ก ๆ ก็ยังคงรอแต๊ะเอียจากญาติผู้ใหญ่เช่นเคย แต่บางท่านเพิ่งเริ่มทำงาน จะใส่ซองให้หลาน ๆ ก็เงินเดือนน้อยนิด แถมหลาน ๆ เปิดซองมาเจอธนบัตร 100 บาททำหน้าเบ้ก็มี คุณพ่อคุณแม่จึงต้องเตรียมรับมือกับเรื่องดังกล่าวนี้เอาไว้ล่วงหน้า ด้วยการสอนให้ลูกรู้จักขอบคุณ และยินดีกับสิ่งที่ได้รับเสมอ ดีกว่าปล่อยให้ลูก ๆ ทำเรื่องเสียมารยาทต่อญาติผู้ใหญ่ไป

    - การช่วยงานของลูกสะใภ้

    เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอยู่เหมือนกัน กับครอบครัวคนจีนในยุคนี้ที่มีลูกเพียง 1 - 2 คน แถมยังเป็นลูกสาว หากลูกสาวแต่งงานกลายไปเป็นลูกสะใภ้บ้านอื่นไปหมดแล้ว ใครจะช่วยพ่อแม่ที่อายุมากขึ้นทุกวัน ๆ เตรียมไหว้ตรุษจีนตามประเพณีดั้งเดิม ซึ่งหลายครอบครัวก็อะลุ่มอล่วยให้กับกฎดังกล่าวมากขึ้น โดยอาจจะแยกกันไปไหว้ หรือบ้างก็ไหว้กับครอบครัวสามีให้เสร็จก่อน แล้วรีบกลับมาช่วยครอบครัวเดิม เป็นต้น

    นอกเหนือจาก 6 ประเด็นที่กล่าวไปข้างต้น เราเชื่อว่า ครอบครัวของท่านผู้อ่านที่เป็นชาวจีนก็คงมีความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ปรากฏอยู่ด้วยเป็นแน่ หากท่านสนใจจะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ตลอดจนข้อคิดเห็น เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเทศกาลตรุษจีน ทางทีมงานก็ขอน้อมรับทุกความคิดเห็นด้วยความขอบคุณค่ะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]

    มีบทกลอนที่ท่านเจ้าคุณพระธรรมโกศาจารย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็น อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช<WBR>วิทยาลัย เจ้าคณะภาค ๒ เจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ท่านสอนพวกเราในรายการ ยกวัดมาไว้ที่เซเว่น สมัยที่เป็นพระเทพโสภณว่า

    “สุขและทุกข์นั้นอยู่ที่ใจ ถ้าใจถือก็เป็นทุกข์ไม่สุกใส ถ้าไม่ถือก็ไม่ทุกข์พบสุขใจ เราอยากได้ความสุขหรือทุกข์กัน”

    “ทุกข์มีเพราะยึด ทุกข์ยืดเพราะอยาก ทุกข์มากเพราะพลอย ทุกข์น้อยเพราะหยุด ทุกข์หลุดเพราะปล่อย”

    “มองโลกแง่ดีมีผล เห็นคนอื่นดีมีค่า ปลุกใจให้เกิดศรัทธา ตั้งหน้าทำดีมีคุณ มองโลกด้านร้ายกลายกลับ ใจรับแต่เรื่องเคืองขุ่น เหนื่อยหน่ายเลิกร้างทางบุญ ชีพวุ่นวายแท้แน่เอย”

    “จำพิฆาตเพื่อนรักให้ตักษัย ผลประโยชน์ขัดกันต้องบรรลัย ตายเสียได้ข้างหนึ่งจึงจะดี”

    ที่มา

    กราบ กราบ กราบ
    กราบ กราบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image004.jpg
      image004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.5 KB
      เปิดดู:
      1,398

แชร์หน้านี้

Loading...