มหานาคีมหานาคาครุฑารักษากลุ่มภูเก็ตพังงาบูชานัมทานทีรอยพระพุทธบาท

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นาคา, 18 เมษายน 2008.

  1. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    หลังจากกลับจากการอาบน้ำร้อน พี่หมี ขับรถ ถึงวัดป่าเวียงสวรรค์ ยามประมาณ 20.00 นั่งฟังธรรมะจาก พระอาจารย์ จากนั้นแยกย้ายกัน พักผ่อน

    รุ่งเช้า มีการตักบาตรพระ และ เตรียมกฐิน โดย

    กลุ่มนาคา นาคราช จัดโต๊ะ โรงทาน ด้วยป้าย หมูย่างโคราช (จะนำภาพมา วันต่อไปครับ )
    หลังงานบุญเสร็จแล้ว เราเดินทางต่อ พักผ่อน ที่ บ้านพ่อทหารอากาศ ญาติธรรม ของนาคา ( หางดง )

    รุ่งเช้า 7 พย. เราเดินทางแสวงบุญ ณ. พระพุทธบาท ๔ รอย,รอยพระหัตถ์ บ่อน้ำทิพย์
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    พระพุทธบาท และ พระพุทธหัตถ์ บ่อน้ำทิพย์ บ้านแม่แอน อ.แม่ริม เชียงใหม่

    กลุ่มเรา พร้อมด้วยพี่หมี คนขับรถ ร่วมบุญในการ สักการะ ติดแผ่นทอง ดดยการนำทางพี่ศรี (แม่บ้านพ่อทหารญาติธรรม)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    กราบโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้กุศลรวมตัวคุ้มครองทุกๆคนครับ
     
  4. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    กราบอนุโมทนาบุญกับคุณพจน์และคณะธรรมครั้งนี้ด้วยค่ะ

    กลับมาแล้วคงมีเวลาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางแถวนคร พัทลุงและสงขลานะค่ะ ดีรอเบอร์บัญชี ธ อยู่นะค่ะ จะได้ร่วมปัจจัยไปช่วยพี่น้องชาวใต้ด้วยค่ะ

    บุญรักษาค่ะ
     
  5. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    พระสูตรว่าด้วยมงคลชีวิต ๓๘ ประการ ใช้สวดเสริมสิริมงคล

    [​IMG]



    มังคะละสุตตัง

    พระสูตรว่าด้วยมงคลชีวิต ๓๘ ประการ ใช้สวดเสริมสิริมงคล

    อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา<o></o>
    ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ<o></o>
    <o></o>
    ปะฏิรูปะเทสะวาโส จะ ปุพเพ จะ กะตะปุญญะตา<o></o>
    อัตตะสัมมาปะณิธิจะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ<o></o>
    <o></o>
    พาหุสัจจัญจะ สัปปัญจะ วินะโย จะ สุสิกขิโต<o></o>
    สุภาสิตา จะ ยา วาจา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ<o></o>
    <o></o>
    มาตาปิตุอุปัฏฐานัง ปุตตะทารัสสะ สังคะโห<o></o>
    อะนากุลา จะ กัมมันตา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ<o></o>
    <o></o>
    ทานัญจะ ธัมมะจะริยา จะ ญาตะกานัญจะ สังคะโห<o></o>
    อะนะวัชชานิ กัมมานิ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ<o></o>
    <o></o>
    อาระตี วิระตี ปาปา มัชชะปานา จะ สัญญะโม<o></o>
    อัปปะมาโท จะ ธัมเมสุ เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ<o></o>
    <o></o>
    คาระโว จะ นิวาโต จะ สันตุฏฐี จะ กะตัญญุตา<o></o>
    กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ<o></o>
    <o></o>
    ขันตี จะ โสวะจัสสะตา สะมะณานัญจะ ทัสสะนัง<o></o>
    กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง ฯ<o></o>
    <o></o>
    <o></o>

    มงคลสูตร
    <o></o>

    พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสแสดงมงคลอันสูงสุดดังต่อไปนี้

    <o></o>
    * การไม่คบคนพาล การคบแต่บัญฑิต<o></o>
    การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา ทั้ง ๓ ประการนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

    <o></o>
    * การอยู่ในสถานที่อันสมควร ความเป็นผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แต่กาลก่อน<o></o>
    การตั้งตนไว้โดยชอบตามทำนองคลองธรรม ทั้ง ๓ ประการนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

    <o></o>
    * ความเป็นผู้ได้ยินได้ฟังธรรมและปฏิบัติธรรมมาก ความเป็นผู้มีศิลปวิทยา<o></o>
    ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนและปฏิบัติในระเบียบวินัยเป็นอันดี การกล่าว<o></o>
    วาจาที่เป็นธรรมและไพเราะ แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุดฯ

    <o></o>
    * การอุปัฏฐากบำรุงบิดามารดาให้มีสุข การสงเคราะห์บุตรและภรรยาให้มี<o></o>
    สุข การทำการงานให้เสร็จเรียบร้อยไม่คั่งค้าง ทั้ง ๓ ประการนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

    <o></o>
    * การให้ทาน การประพฤติธรรม การสงเคราะห์ญาติและคนใกล้ชิดทั้งหลาย<o></o>
    การทำการงานที่ไม่ประกอบด้วยโทษทั้งทางโลกทางธรรม แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

    <o></o>
    * การงดเว้นจากการทำบาปทั้งหลาย การงดเว้นจากการดื่มน้ำเมา ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ทั้ง ๓ ประการนี้เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

    <o></o>
    * การเคารพต่อบุคคลและสิ่งที่ควรเคารพ ความไม่เย่อหยิ่งจองหอง ความสันโดษยินดีในสิ่งที่ตนมีอยู่และสิ่งที่ตนพึงหาได้โดยชอบธรรม ความเป็นผู้มีกตัญญูรู้คุณที่ท่านได้ทำไว้แล้วแก่ตน การได้ฟังธรรมคำสอนของสัตบุรุษตามกาลเวลาอันสมควร แม้ทั้ง 5 ประการนี้ก็เป็นมงคลอันสูงสุด ฯ

    <o></o>
    * ความเป็นผู้มีขันติความอดทน ความเป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย การได้เห็นสมณพราหมณ์ผู้ทรงศีลทั้งหลาย การได้เจรจาสนทนาธรรมตามกาลเวลาอันสมควร แม้ทั้ง ๔ ประการนี้ก็เป็นมวคลอันสูงสุด ฯ



    [​IMG]



    บทขัดมงคลสูตร

    มวลหมู่มนุษย์และเทพยดาทั้งหลาย พากันขบคิดหามงคลใด สิ้นเวลาไป ๑๒ ปี ก็หาได้รู้ถึงมงคลที่แท้ไม่ ความโกลาหล ด้วยเรื่อง

    มงคลเกิดไปทั่วหมื่นจักรวาล กระทั่งถึงพรหมโลก ตลอดกาลนาน ด้วยเรื่องมงคล

    สมเด็จพระบรมโลกนาถเจ้า ทรงแสดงมงคลนั้น อันเป็นเหตุยังบาปทั้ง ปวงให้เสื่อมหายไปนรชนมีจำนวน แม้ตนสุดท้ายก็จะพ้นจาก

    ทุกข์ทั้งปวงได้ เพราะฟังมงคลนั้น

    ท่านผู้เจริญทั้งหลาย โปรดสาธยายมงคลนั้น ซึ่งปรากฏผลให้พ้นทุกข์ดังกล่าว มาให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้สดับด้วยเทอญ

    ตำนาน

    ในมงคลสูตรนี้ มีเนื้อความเริ่มต้นว่า

    หมู่มนุษย์ทั้งหลาย ในชมพูทวีป มาประชุมกันที่ประตูเมือง แล้วต่างก็พากันพูดคุยกันว่า สิ่งที่ตนนับถือเป็นมงคล ต่างฝ่ายต่างก็พา

    กันถกเถียงกัน ในความเป็นมงคลของสรณะแห่งตน จนบังเกิดโกลาหล หาข้อยุติไม่ได้ พวกภุมเทวดา และเทพารักษ์ เมื่อได้ฟังพวก

    มนุษย์คิดและถกเถียงกัน ในข้อที่เป็นมงคล ก็พากันถกเถียงกันบ้าง จนเกิดโกลาหลรุกรามขึ้นไปจนถึงชั้นพรหม สิ้นเวลาไปจนถึง ๑๒ ปี

    ก็ยังไม่มีผู้ใดชี้เด็ดขาดลงไปได้ว่า สิ่งใดเป็นมงคล จนร้อนถึง ท้าวสุทธาวาส มหาพรหม จึงได้ประกาศ แก่หมู่เทพและมนุษย์ทั้งหลายว่า

    นับแต่นี้ไปอีก ๑๒ ปี องค์พระบรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า จักทรงตรัสแสดงมงคลทั้งหลาย ให้เราทั้งหลายฟัง ณ เชตวันมหาวิหาร เมือง

    สาวัตถี

    เมื่อกาลล่วงเลยมา สิ้นเวลาได้ ๑๒ ปี พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จอุบัติในโลกนี้แล้ว พวกเทวดาก็ต่างพากันไปถาม

    ปัญหาว่าอะไรเป็นมงคลแก่องค์อินทร์ องค์อินทร์ก็ไม่สามารถตอบปัญหาได้ จึงชวนกันไปเฝ้า พระบรมศาสดา เพื่อทูลถามปัญหา แล้วก็

    มอบหน้าที่ให้เทพยดาองค์หนึ่งเป็นผู้ถามปัญหา

    เมื่อความรู้ไปถึง เทพทุกชั้นฟ้า ต่างก็พากันเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา เพื่อสดับมงคลคาถา รวมเป็นมีจำนวนถึง ๑๐,๐๐๐ จักรวาล





    [​IMG]



    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1222839/[/MUSIC]


    กราบอนุโมทนาที่มาข้อมูล : https://sites.google.com/site/watdonsawan/w-31
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2010
  6. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ขอบคุณในไมตรีจิตของน้องบุญญสิกขา โมทนาในกองบุญซึ่งกันและกัน

    คุณดี gentenaar ช่วงนี้ ผมและกลุ่มเพื่อน ยังไม่มีโอกาส เดินทางช่วยผู้ประสบภัยทางใต้ ครับ รอสถานการณ์ เล้กน้อย ครับ หางพายุ พัดผ่านทาง พังงา ภูเก็ต ฝนตก พอประมาณครับ

    รับแจ้งจากคุณ kananun อาทิตย์นี้ 14 พย.มีแนะนำกรรมฐาน และ ฝึกบางอย่าง ที่บ้านเมตตาภิรมณ์ ลาดหญ้าครับ ท่านใดสนใจ แวะ ห้องแจ้งข่าว-กิจกรรมการสอนสมาธิของพี่เล็ก (ตาม link ที่แปะใว้ )

    ต่อครับ ในเช้า วันที่ 6พย. ทางกลุ่มนาคานาคราช ใด้ตั้งโต๊ะโรงทาน ชื่อ หมูย่างโคราช
    มีทั้งคุณกุ้ง Cutie Kung,,คุณนัท ,คุณหมูเล็ก จัดการเรื่อง การ ย่างหมู ในเตาที่เตรียมใว้
    ทั้ง มีการประชาสัมพันธ์ ให้ ทุกท่าน สนใจ เข้าแถว รับ ข้าวเหนียว หมูย่างกัน
    ในภาพ จะมีทั้งเบื้องหลังการ ประกอบ ลูกชิ้น ของกลุ่มลุกหลานหลวงพ่อ วัดป่าเวียงสวรรค์ ,แม่บ้านทหาร

    http://palungjit.org/threads/แจ้งข่าว-กิจกรรมการสอนสมาธิของพี่เล็ก-kananun.164984/page-44
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1850.jpg
      IMG_1850.jpg
      ขนาดไฟล์:
      149.5 KB
      เปิดดู:
      70
    • IMG_1834.jpg
      IMG_1834.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.8 KB
      เปิดดู:
      67
    • IMG_1835.jpg
      IMG_1835.jpg
      ขนาดไฟล์:
      84.1 KB
      เปิดดู:
      63
    • IMG_1836.jpg
      IMG_1836.jpg
      ขนาดไฟล์:
      99.1 KB
      เปิดดู:
      85
    • IMG_1837.jpg
      IMG_1837.jpg
      ขนาดไฟล์:
      83.9 KB
      เปิดดู:
      73
    • IMG_1838.jpg
      IMG_1838.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.1 KB
      เปิดดู:
      69
    • IMG_1849.jpg
      IMG_1849.jpg
      ขนาดไฟล์:
      173.4 KB
      เปิดดู:
      77
    • IMG_1848.jpg
      IMG_1848.jpg
      ขนาดไฟล์:
      247.1 KB
      เปิดดู:
      67
    • IMG_1846.jpg
      IMG_1846.jpg
      ขนาดไฟล์:
      249.2 KB
      เปิดดู:
      79
  7. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    ชมภาพข้อธรรมจากพ่อแม่ คุรุบาอาจารย์ หลวงตามหาบัว

    ประธานฝ่ายสงฆ์

    พระราชเมธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัด สายธรรมยุต
    พระอาจารย์ สมพร ฐานุตตโร เจ้าอาวาสวัดป่าเวียงสวรรค์ ( ธ )

    ประธารฝ่าย ฆารวาส

    พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ
    ท่าน ธนากร พูลทวี รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
    ท่าน สุวิทย์ เล็กกำแหง นายอำเภอห้างฉัตร ลำปาง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    [​IMG] [​IMG]
    ภาพที่ 7 ในโพสส์ข้างบน นั้น รวมกลุ่มนั่งรอ วาระในการ กฐิน โดย มี พ่อญาติธรรมทหารอากาศ , ทหารอากาศกองบินที่...เชียงใหม่

    ในขณะที่ ท่าน พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ท่านขึ้นบนวิหาร ชั่วคราว ขององค์พระพุทธหยกขาว

    ภาพดวงธรรมหน้าบ้านพี่สาว เจ้ ร่มบุญ ลำปาง

    เช้าในวันที่ 7 พย.
    - เดินทางแสวงบุญพระพุทธบาท พระพุทธหัตถ์ บ่อน้ำทิพย์ พร้อมทั้งส่งจิต น้อม ในกฐิน วัดสิริสีลสุภาราม หลวงปู่สุภา ที่ ภูเก็ต
    - เดินทางแสวงบุญ และ ถวายปัจจัยแด่ พระอาจารย์ ที่วัดปันเสา พร้อมทั้ง นั่งบำเพ็ญภาวนา เล็กน้อย และ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ที่ ท่านเมตตา เสด็จ บนพื้น...

    จากนั้น เดินทางต่อ
    วัดศรีดอนมูล อ.สารภี เข้ากราบ ครูบาน้อย(มีหลายท่านเข้ากราบ ) จากนั้น ครูบาน้อย ท่านเมตตา อธิฐานจิต วาระ ที่ ๑ (วาระที่ ๒ ,๓ ,๔ ต่อไปตามกาลข้างหน้า )
    -- พระขรรค์เหล็กน้ำพี้ ๕.๕ นิ้ว ลงอักขระ ชัยศรี
    -- กริซสลีศรีกันชัยเหล็กน้ำพี้ ๕.๕ นิ้ว ลงอักขระ สลีศรีกันชัย โดยท่านพี่สล่า บุญตัน ห้างฉัตร ลำปาง
    ครูบาน้อยท่านเมตตาให้พร
    เดินทาง ที่พิษณุโลก แวะ ทานอาหารยามค่ำ กับคุณ กี้ และ กลับถึง กทม.
    ขอขอบคุณ

    - เจ้ ร่มบุญ ต้นบุญ และ ค่าเดินทาง รถตู้พี่หมี ทั้งหมด พร้อมทั้ง บริวารกฐิน
    - พี่หมี สารถี รถตู้ (ประจำ ห้องภัยพิบัติ )พี่หมี นอนพักบ้าน พ่อญาติธรรมทหารอากาศ ด้วยน้ำใจที่ดีมอบให้
    - คุณ กุ้ง ,คุณ หมูเล็ก,คุณ นัท ในการ ประกอบ หมูย่าง รสโคราช (เหนื่อยๆสุดๆ ในการย่าง )
    - น้องๆ หลานๆ ที่ช่วยกัน จัด ข้าวเหนียว หมูย่าง กันแบบ เหนื่อย สุดๆ (มีท่านสนใจ ลิ้มรส ตั้งแถว กันมากมาย จนย่างหมู ไม่ทัน )
    แต่ โชดดี และ พลังบุญ จัดสรร ที่ เรา ต่าง มองเห็น พระพุทธหยกขาว ทรงภาพ เป็น พุทธานุสติ กันใด้ ตามวาระ

    - พี่ติ๋ว ,พี่ต๋อย พี่สาวเจ้ ร่มบุญ ( บ้านพัก บ้านพี่สาว ที่ลำปาง หน้าบ้านมีดวงธรรมมากมาย)
    - น้อง กี้ พิษณุโลก
    - เพื่อนๆ พี่ ๆน้องๆ ทุกท่าน ที่ร่วมบุญ ในกอง กฐินวัดป่าเวียงสวรรค์ ในครั้งนี้


    อ้างอิง ; ร่มบุญ

    ยอดบุญจากทุกสายบุญที่ทอดกฐินสามัคคีเมื่อวันที่ 6 พย. 53 ณ วัดเวียงสวรรค์(ธ) อ.แม่ทะ จ.ลำปาง นำปัจจัยถวายเพื่อการสร้างวิหารพระพุทธรูปหยกขาว

    ....416,611.50 บาท....

    ขอผลบุญกุศลที่ทุกท่านได้กระทำไว้ดีแล้วนี้ เป็นเหตุปัจจัยให้ท่านทั้งหลายมีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สรรเสริญ สมหวังในกุศลจิตทุกประการ และเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นตราบก้าวเข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้เทอญ...
    ขออนุโมทนา....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2010
  9. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    สวัสดีค่ะคุณพจน์
    ดีได้ส่งเมลล์ไปให้น้องที่ภูเก็ตโอนเงินไปเข้าบัญชี อ. คณานันท์ ที่ได้มาจากคุณมิกซ์แล้วในวันนี้ และคาดว่าน้องเค้าคงจะโอนในวันพรุ่งนี้ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหากดีได้รับเมลล์จากน้องเค้าค่ะ ลำบากหน่อยอยู่ไกลต้องรบกวนคนอื่นเสมอ

    กราบอนุโมทนาทุกบุญกุศลที่คุณพจน์และคณะได้กระทำดีแล้วทุกประการนะค่ะ
    บุญรักษาค่ะ
     
  10. วิชา ละ

    วิชา ละ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +2,416
    ตามพี่ๆเขาเข้ามาส่งกำลังใจช่วยนะให้ทุกท่านมีความสุข
    กลุ่มปฏิบัติธรรมเพื่อยับยั้งภัยพิบัติ และ งานวิทยุสื่อสารร่วม กลุ่ม ภูเก็ต,พังงา
    ถ้ามีที่ดินบ้าง ร่วมกันสร้างพระปางห้ามสมุทรองค์ใหญ่ ที่ฐานมีรูปเหล่านาคาและครุฑดีหันออกทะเล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2010
  11. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,377
    ค่าพลัง:
    +12,917
    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 4030262" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>วิชา ละ</TD><TD class=alt1>ตามพี่ๆเขาเข้ามาส่งกำลังใจช่วยนะให้ทุกท่านมีความสุข
    กลุ่มปฏิบัติธรรมเพื่อยับยั้งภัยพิบัติ และ งานวิทยุสื่อสารร่วม กลุ่ม ภูเก็ต,พังงา
    ถ้ามีที่ดินบ้าง ร่วมกันสร้างพระปางห้ามสมุทรองค์ใหญ่ ที่ฐานมีรูปเหล่านาคาและครุฑดีหันออกทะเล </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โมทนาด้วยครับ คุณ วิชา ละ

    ยินดี ในไมตรีจิต ที่ส่งกระแส พลังบุญหนุนช่วยทางภาคใต้ ด้วยเช่นกัน ทราบข่าว ว่า...มีสิ่งมงคล .... ว่างๆ เรียนเชิญ เข้ามาทักทาย และร่วมส่งพลังบุญด้วยกัน ในวาระ ต่างๆ ขอรับ

    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 4029728" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>gentenaar</TD><TD class=alt1>สวัสดีค่ะคุณพจน์
    ดีได้ส่งเมลล์ไปให้น้องที่ภูเก็ตโอนเงินไปเข้าบัญชี อ. คณานันท์ ที่ได้มาจากคุณมิกซ์แล้วในวันนี้ และคาดว่าน้องเค้าคงจะโอนในวันพรุ่งนี้ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหากดีได้รับเมลล์จากน้องเค้าค่ะ ลำบากหน่อยอยู่ไกลต้องรบกวนคนอื่นเสมอ

    กราบอนุโมทนาทุกบุญกุศลที่คุณพจน์และคณะได้กระทำดีแล้วทุกประการนะค่ะ
    บุญรักษาค่ะ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โมทนาในบุญกุศล คุณดี ด้วยเช่นกัน ผมต้องขอโทษ ด้วยครับ เพราะ นำรถเข้าซ่อม เพิ่งเสร็จ เมื่อ วานนี้ ครับ เลยไม่ใด้ เข้าร่วมช่วยพี่น้องทางใต้ ด้านตะวันออก อยู่ไกลเพียงใด ทุกท่าน ก็ยังคงห่วงใย ในน้ำใจ ของพี่ๆ น้องๆ และ พ่อหลวงของเรา ขอรับ
    ต้องขอรบกวนคุณ ดี ในเรื่องที่ คุณน้องท่านหนึ่ง Pm หาน่ะครับ

    <TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="โพส 4037268" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>นาคา</TD><TD class=alt1>อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ จิตต์ปภัสสร [​IMG]

    อนุโมทนาบุญกับทุกทุกท่าน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [/QUOTE]

    โมทนาในกองบุญ ครับ
    ใด้โอนปัจจัย ร่วม บุญ ด้วยเช่นกันเมื่อ ....เช้าวันเสาร์ 13 พย.บัญชีเลขที่ SCB 176-2......2-7
    คุณ สายรุ้ง จากฮังการี 200 (จัดสรร จากการโอนปัจจัย ที่ นาคา ๑๕๐๐ บ. )
    นาคา ภูเก็ต 100



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เชิญสมาชิกเว็บพลังจิตร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน
    สร้างสมเด็จองค์ปฐมบรมครู (สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพล ที่ ๑)
    ปางทรงเครื่องพระมหาจักรพรรดิ์ ขนาดหน้าตัก ๔ ศอก (เนื้อโลหะทองเหลือง ปิดทองประดับเพชร) และวิหารแก้ว

    กำหนดการทอดกฐินและเททองหล่อพระ
    ณ วัดตะโก ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว


    วันอาทิตย์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

    เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลภิกษุสงฆ์

    เวลา ๑๒.๓๐ น. ถวายผ้าพระกฐิน

    เวลา ๑๓.๐๐ น. พิธีบวงสรวง

    เวลา ๑๓.๓๙ น. พิธีเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐม

    ประธานฝ่ายสงฆ์

    พระครูสถิตวรธรรมคุณ เจ้าคณะตำบลตาพระยาและเจ้าอาวาสวัดตะโก

    ประธานฝ่ายฆราวาส

    เรือเอกราชนวินทร์ แป้นทอง

    ประธานอุปถัมภ์

    อาจารย์เดชพูลศักดิ์ จารุพรรณพานิช ชมรมรักพระโพธิญาณ

    อาจารย์จิระทีปต์ กรกฤช คณะดอกบัวเมืองแก้ว

    พระมหาวิทยา กัลยาโณ วัดบุรณศิริมาตยาราม กทม.

    ดร.ณัฐพัชร จันทรสูตร และสมาชิกเว็บพลังจิต

    วัตถุประสงค์ของการสร้างสมเด็จองค์ปฐมบรมครูและวิหารแก้ว

    • เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา พรหมเทวบูชา
    • เพื่อการชำระหนี้พระรัตนตรัย ทั้งในอดีตและปัจจุบันชาติ
    • เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจชาวพุทธทั้งหลาย สืบทอดพระพุทธศาสนา ให้ยืนยาวครบ ๕๐๐๐ ปี
    • เพื่อให้สำเร็จประโยชน์อันสูงสุดซึ่งพระโพธิญาณ หรือ พระนิพพาน ตามอธิษฐานของแต่ละบุคคล

    ตั้งใจจะรวบรวมยอดเงินทำบุญในนามของสมาชิกเว็บพลังจิตให้ได้อย่างน้อย จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

    เชิญร่วมทำบุญได้โดยโอนเงินเข้าบัญชีข้างล่างนี้ได้ตั้งแต่บัดนี้ - วันศุกร์ที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

    บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสะพานใหม่ดอนเมือง
    ชื่อบัญชี นายณัฐพัชร จันทรสูตร
    เลขที่บัญชี ๐๘๑ - ๒๔๔๙๑๒ - ๓



    ขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านที่ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสร้างสมเด็จองค์ปฐมบรมครูและวิหารแก้วในครั้งนี้ด้วยครับ

    ขอเชิญสมาชิกเว็บพลังจิตร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสร้างสมเด็จองค์ปฐมและวิหารแก้ว
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...นสร้างสมเด็จองค์ปฐมและวิหารแก้ว.243914/page-9
     
  12. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    เรียนคุณพจน์ ดีขออนุญาตใช้พื้นที่ในกระทู้คุณพจน์บอกบุญพี่น้องชาวใต้ร่วมบุญทอดกฐินสามัคคีในวันที่ ๒๐ พย นี้ เพื่อหารายได้สร้างพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมทั้งเก็บวัถุโบราณล้ำค่า บนเขาพระบาท ณ วัดพระธาตคีรีเขต อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
    รายละเอียดและรูปภาพ ดีได้ลอกจากเมลล์ที่ได้รับจากพี่ที่เป็นรองประธานมาค่ะ
    (ร่าง 4 พ.ย. 2553)<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>​
    โครงการก่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ เขาพระบาท<o:p></o:p>​
    วัดพระธาตุคีรีเขต (วัดลุ่ม) อ.ตะกั่วป่า จ. พังงา<o:p></o:p>​
    ......................<o:p></o:p>​
    <o:p> </o:p>​
    วัดพระธาตุคีรีเขตุ หรือ ในอดีต “วัดคีรีเขตุ” นั้น ประชาชนในท้องถิ่นเรียกว่า “ วัดลุ่ม “ ตั้งอยู่เลขที่ ๓๙ ถนนกลั่นแก้ว อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา. พิกัดแผนที่ระวาง ๔๖๒๖ ลำดับชุด L ๗๐๑๗ พิมพ์ครั้งที่ 2- RTSD จังหวัดพังงา พิกัดกริด ๔๗ PMK ๒๘๖๗๖๒ เนื้อที่ ๒๐๖ ไร่<o:p></o:p>
    ๑ งาน ๕๒ ตารางวา ตามหนังสือของกรมที่ดิน เลขที่ ๕๗๓
    วัดพระธาตุคีรีเขตุ สร้างเมื่อวันที่๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๓๖ ตรงกับรัชกาลสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถือว่าเป็นพระอารามแห่งแรกของเมืองตะกั่วป่า เดิมเป็นวัดอารามฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีชื่อเรียกหลายชื่อ คือวัดควนป้อม วัดควนชายเขา วัดควนเจดีย์ วัดลุ่มหรือวัดคีรีเขต <o:p></o:p>
    เป็นวัดที่สร้างก่อนวัดใด ๆ ในเมืองตะกั่วป่า และเป็นวัดที่เจ้าเมืองตะกั่วป่า กรมการเมือง และชาวเมืองเลื่อมใสศรัทธามาก จนได้ถวายที่ดินบริเวณภูเขาพระพุทธบาททั้งหมดให้เป็นสังฆาวาสและที่ธรณีสงฆ์ วัดพระธาตุคีรีเขต มีพระบรมสารีริกธาตุที่สืบสายจากกรุงศรีวิชัยเป็นสมบัติเก่าแก่ประจำเมืองโบราณ ภูเขาพระพุทธบาทในบริเวณวัด มียอดราบผิดธรรมชาติทั่วไป คงมีการปรับพื้นดินเพื่อประดิษฐานสิ่งสำคัญคือ พระเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ ตามคติโบราณ แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใดจึงไม่มีการสร้างต่อ วัดคีรีเขต ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๒ เป็นวัดพระพุทธศาสนามหานิกาย (http://www.fineart15-phuket.org/ข้อมูลโบราณสถาน-แหล่งโบราณคดี/จังหวัด-พังงา/โบราณ-สถาน-ที่ขึ้นทะเบียน/วัดคีรีเขต.html) เจ้าอาวาสวัดคนปัจจุบันคือ พระครูศรีปริยัตยากร(จิตติ ส.ภัทรปราณี) เจ้าคณะอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นเจ้าอาวาส มาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๔ ถึงปัจจุบัน<o:p></o:p>
     
  13. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    ความเป็นมาของโครงการ.<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    อำเภอตะกั่วป่า เป็นเมืองที่มีภูมิประเทศจรดชายทะเลอันดามัน มหาสมุทร<o:p></o:p>
    อินเดีย มีการค้นพบโบราณวัตถุและหลักฐานทางโบราณคดีมากมายที่สัณนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็น<o:p></o:p>
    เมือง “ตักโกลา” ในอดีตซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญเมืองหนึ่งทางฝั่งตะวันตกของภาคใต้ ตามหลักฐาน<o:p></o:p>
    คัมภีร์มิลินทปัญหาที่แต่งขึ้นในราวปี พ.ศ. ๕๐๐ ซึ่งกล่าวว่า ชาวชมพูทวีปเรียกเมืองตะกั่วป่า<o:p></o:p>
    ว่า “ ตักโกลา” หรือ “ตกโกล” ซึ่งแปลว่า กระวาน (เครื่องเทศชนิดหนึ่ง) เนื่องจากบริเวณนี้อุดม<o:p></o:p>
    ไปด้วยเครื่องเทศ ต่อมาคำว่า “ตกโกล” เรียกเปลี่ยนไปเป็น “ ตะโกลา” มีหลักฐานปรากฏตามแผน<o:p></o:p>
    ที่ประวัติศาสตร์ของเฮ็มมอน (Hemmond Historical Atlas) พ่อค้าต่างชาติสมัยโบราณเช่น<o:p></o:p>
    อินเดีย จีน และอาหรับ ได้ใช้แม่น้ำตะกั่วป่าล่องสินค้า และขนสินค้าต่อทางบก เพื่อไปยังอีกฝั่ง<o:p></o:p>
    หนึ่งของแหลมมลายู เป็นการ ติดต่อค้าขายของชนชาติต่าง ๆ เชื่อมโยงความเจริญ วัฒนธรรม <o:p></o:p>
    ศาสนา ประ เพณี ระหว่างตะวันออกและตะวันตก มานานนับพัน ๆ ปี <o:p></o:p>
    ชาวอำเภอตะกั่วป่าและบริเวณใกล้เคียงคุ้นเคยและรู้จัก เขาพระพุทธบาท หรือเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “เขาพระบาท” กันทั่วไป เขาพระบาท อยู่ในบริเวณอาณาเขตวัดพระธาตุคีรีเขต มีลักษณะเป็นเนินเขาสูงประมาณ เมตร มีพรรณไม้ดั้งเดิมขนาดใหญ่หลากหลายพรรณ หลงเหลืออยู่จำนวนมาก ควรแก่การอนุรักษ์เพื่อการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพและสงวนไว้เป็นแหล่งพันธุกรรมพืชประจำถิ่นดั้งเดิมและเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าของบ้านเมืองต่อไป <o:p></o:p>
    บริเวณยอดเขาพระบาท เป็นที่ราบเรียบผิดธรรมชาติทั่วไป สันนิษฐานว่าคงมีการปรับพื้นที่เพื่อเตรียมสร้างสิ่งสำคัญยิ่งเพื่อการสักการะบูชา อาทิเช่น พระเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใดจึงไม่มีการดำเนินการสร้างต่อ พบเพียงพระผุดและร่องรอยศาลาสำหรับประดิษฐานรอยพระพุทธบาท(จำลอง) ที่สร้างไว้ในบริเวณที่ต่ำกว่า ศาลาได้พังทลายลงตามกาลเวลา ส่วนรอยพระพุทธบาท(จำลอง) ถูกอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ในวิหารของวัดพระธาตุคีรีเขตเพื่อป้องกันการถูกขโมย ในบริเวณใกล้เคียงยอดเขาพระบาท ยังพบบ่อเงิน บ่อทองด้วย นอกจากนั้นยังพบฐานองค์พระเจดีย์ ที่สร้างขึ้นณ.เชิงเขาพระบาทบริเวณใกล้เคียงกับเมรุเดิม ตรงกลางฐานมีช่องกลวงมีขนาดที่คนลงไปได้ พบว่ามีเสาไม้ตำเสา(เรียกตามภาษาถิ่น)ปักอยู่ในแกนกลางเข้าใจว่า สร้างเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของหลักเมืองหรือสร้างเป็นพระศรีบรมเจดีย์หลักเมือง(จากคำบอกเล่าของท่านอาจารย์จิตติ เจ้าอาวาสเมื่อ 7 พ.ย.2553)ตั้งอยู่ ภายในปริมณฑลของวัดพระธาตุคีรีเขต อยู่ห่างจากเชิงเขาไปทางทิศใต้ ประมาณ ๑๕๐ เมตร แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของภูเขาพระบาท ที่มีต่อชุมชนเมืองตะกั่วป่าและเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้คนที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา มาแต่โบราณ แต่ปัจจุบันองค์พระเจดีย์ดังกล่าวซึ่งเคยมีต้นไทรใหญ่โอบอุ้มอยู่ได้ล้มลงเหลือเพียงแต่ซากสลักหักพังให้เห็น ซึ่งเป็นไปตามกฎอนิจจัง<o:p></o:p>
    พระครูศรีปริยัตยากร (จิตติ ส.ภัทรปราณี) เจ้าคณะอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงาและเจ้าอาวาสวัดพระธาตุคีรีเขต ได้มีเมตตาเล่าให้ฟังว่า ท่านได้รับมอบพระบรมสารีริกธาตุ จากเจ้าอาวาสวัดองค์ก่อน “ พระบรมสารีริกธาตุนี้ เดิมทีไม่ได้ประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้ แต่อยู่ที่เจ้าเมืองตะกั่วป่าจะอยู่นานเท่าไรก็ไม่ทราบ ต่อมาเจ้าเมืองตะกั่วป่านึกขึ้นได้ว่า ตัวเป็นเจ้าเมือง เป็นเจ้าหน้าที่ แต่สมบัตินี้ไม่ใช่เป็นของเจ้าเมือง ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวแต่เป็นสมบัติของบ้านเมือง และก็เกรงว่าต่อไปลูกหลานจะแย่งชิงเป็นมรดกกัน จึงได้นำพระบรมสารีริกธาตุไปมอบไว้ที่วัดพระธาตุคีรีเขต(วัดลุ่ม) ซึ่งนำมามอบให้ไว้นานเท่าไรก็ไม่ทราบ “ <o:p></o:p>
    ในปี พ.ศ. 2551 ทางจังหวัดพังงาได้สอบถามกรมศิลปากร ถึงประวัติการก่อสร้างของศาลหลักเมืองจังหวัดพังงา นางสมลักษณ์ เจริญผล รองอธิบดีปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมศิลปากร ในขณะนั้น ไ ด้มีหนังสือตอบ ลงวันที่ 22 มกราคม 2551 มีอยู่ข้อความหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า “ ที่วัดคีรีเขต ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลตะกั่วป่า จ.พังงา เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งมงคลสูงสุดคู่บ้านคู่เมือง ที่ชาวพังงาควรภาคภูมิใจประการหนึ่ง”<o:p></o:p>
    ดังนั้น จึงเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัด พระธาตุคีรีเขตุ นี้ เป็นของโบราณ คู่บ้านคู่เมืองตะกั่วป่า ที่ได้รับสืบทอดปกปักรักษากันมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันนั้น สมควรจะอัญเชิญประดิษฐานในที่อันควร เพื่อเป็นที่สักการะบูชาและมิ่งมงคลยิ่งของชาวตะกั่วป่าและพุทธศาสนิกชน ทั่วไป ตามเจตจำนงค์ของบรรพบุรุษเมืองตะกั่วป่า<o:p></o:p>
    พระครูศรีปริยัตยากร (จิตติ ส.ภัทรปราณี) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุคีรีเขต ได้ปรารภเสมอ ๆ ในโอกาสอันควรกับลูกศิษย์ลูกหา ญาติธรรมและพุทธ ศาสนิกชน ที่รู้จักมักคุ้น ถึงเรื่องการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์บนเขาพระบาทให้มีความสง่างาม คงทนถาวร สะท้อนศิลปกรรมท้องถิ่น เรียบง่ายในการดูแลรักษา เป็นมิตรกับธรรมชาติและเป็นสมบัติล้ำค่าของเมืองตะกั่วป่า โดยน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน <o:p></o:p>
    ในเดือนกรกฎาคม 2552 ลูกศิษย์และญาติธรรมกลุ่มหนึ่งของพระครูศรีปริยัตยากร ได้ปรึกษาหารือนำแนวคิดการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ บนเขาพระบาท ของท่านเจ้าอาวาสวัดพระธาตุคีรีเขต มาพิจารณาเพื่อศึกษาถึงความเป็นไปได้และตระเตรียมความพร้อมของโครงการก่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ และในที่สุดโครงการฯนี้ก็ปรากฏรูปแบบขึ้นมาในเดือนพฤศจิกายน 2553 โดยการจัดทอดกฐินสามัคคีขึ้นมาเพื่อจัดตั้งกองทุนสร้างพระบรมธาตุเจดีย์<o:p></o:p>
     
  14. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    วัตถุประสงค์ของโครงการ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ดำเนินการ ก่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ ณ เขาพระบาท วัดพระธาตุคีรีเขต (วัดลุ่ม) อ.ตะกั่วป่า จ. พังงา ให้เป็นศาสนสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองตะกั่วป่า เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่ทางวัดได้ดูแลรักษาสืบทอดมาแต่โบราณ. โดยรักษาสภาพแวดล้อมธรรมชาติของเขาพระบาท ให้คงอยู่ในสภาพป่าที่สมบูรณ์มากที่สุด<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    หลักการบริหารโครงการ<o:p></o:p>
    1. มีคณะกรรมการดำเนินงาน ที่มุ่งมั่น อดทน เสียสละ เพื่อดำเนินงานถวายเป็นพุทธบูชา<o:p></o:p>
    2. การดำเนินการต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามหลักธรรมาภิบาล<o:p></o:p>
    3. การระดมทุน ให้เป็นไปตามกำลังศรัทธา ของผู้บริจาค และสอดคล้องกับพระธรรมวินัย<o:p></o:p>
    4. การใช้จ่ายเงินทุนของโครงการ ต้องเป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง <o:p></o:p>
    5. การรับจ่ายเงินต้องมีหลักฐานประกอบตรวจสอบได้และสรุปให้สาธารณะชนรับทราบ เป็นระยะ ๆ <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คณะกรรมการบริหารโครงการ หน้าที่กำหนด กำกับ ดูแลบริหารปัญหานโยบาย<o:p></o:p>
    ประธานที่ปรึกษา พระครูศรีปริยัตยากร (จิตติ ส.ภัทรปราณี) <o:p></o:p>
    ประธานกรรมการ 1 คน<o:p></o:p>
    รองประธาน กรรมการ 1 คน<o:p></o:p>
    กรรมการ 3 คน<o:p></o:p>
    เลขานุการคณะกรรมการ 1 คน<o:p></o:p>
    ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานได้มีความคืบหน้า พระครูศรีปริยัตยากรจึงได้แต่งตั้งคณะดำเนินงานเกี่ยวกับการจัดหากองทุนพื่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ดังนี้<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    คณะกรรมการกองทุนพระบรมธาตุเจดีย์ หน้าที่ จัดหา ระดมทุน ประกอบด้วย <o:p></o:p>
    ประธานกรรมการ คุณกฤษณา แซ่ลิ่ม <o:p></o:p>
    รองประธานกรรมการ คุณพิสุทธิ์ ดีแท้<o:p></o:p>
    กรรมการ คุณ สมเกียรติ ลีลาศิลป์<o:p></o:p>
    กรรมการ คุณศิริศักดิ์ อ๋องสกุล<o:p></o:p>
    กรรมการ คุณเพ็ญศรี จิตต์ประสาน<o:p></o:p>
    เลขานุการคณะกรรมการ คุณกฤษณ์ ยิ่งยวด<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ส่วนการออกแบบพระบรมธาตุเจดีย์นั้นคุณพงศ์เชษฐ์ รุจิระชุณห์และคุณพิสุทธิ์ ดีแท้ได้ร่วมกันประสานงาน ได้รับการอนุเคราะห์ดังนี้ <o:p></o:p>
    ผู้ออกแบบพระบรมธาตุเจดีย์ถวายวัดเป็นพุทธบูชา<o:p></o:p>
    1. อาจารย์จักรพร สุวรรณนคร<o:p></o:p>
    2.ผ.ศ.พรรณชลัท สุริโยธิน<o:p></o:p>
    ผู้ออกแบบด้านภูมิสถาปัตย์ ถวายวัดเป็นพุทธบูชา<o:p></o:p>
    1. คุณอดิเรก เศวตเศรนี<o:p></o:p>
    2. คุณ เสาวลักษณ์ นฤมิตพันธุ์เจริญ<o:p></o:p>
    วิศวกรผู้คำนวณ-ประมาณการราคาและควบคุมงานถวายเป็นพุทธบูชา<o:p></o:p>
    1. คุณศุภลักษณ์ เจริญพรและคณะ<o:p></o:p>
    2. คุณสุรพล คำกล้า<o:p></o:p>
    ผู้รับผิดชอบช่วยดูแลเกี่ยวกับป่าไม้บนเขาพระบาท<o:p></o:p>
    1.ดร.คงศักดิ์ มีแก้วและคณะ<o:p></o:p>
    ผู้ประสานงานการเขียนแบบและก่อสร้าง<o:p></o:p>
    1. คุณพงศ์เชษฐ์ รุจิระชุณห์<o:p></o:p>
    2. คุณพิสุทธิ์ ดีแท้<o:p></o:p>
     
  15. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    ช่องทางการบริจาคเงินสมทบทุนโครงการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์วัดพระธาติคีรีเขตffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    1. แสดงเจตจำนงค์ร่วมบุญต่อเจ้าอาวาส พระครูศรีปริยัตยากร (จิตติ ส.ภัทรปราณี) <O:p></O:p>
    โทรศัพท์ 076-425089<O:p></O:p>
    มือถือ 084-1926112<O:p></O:p>
    2. บริจาคผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาตะกั่วป่า อ. ตะกั่วป่า จ. พังงา<O:p></O:p>
    ชื่อบัญชี กองทุนสร้างพระบรมธาตุเจดีย์<O:p></O:p>
    เลขบัญชี 810-0-15966-1<O:p></O:p>
    3. แสดงเจตจำนงค์ขอร่วมเป็นเจ้าภาพจัดทอดกฐินหรือผ้าป่ามาถวายวัดตามความ <O:p></O:p>
    กำลังศรัทธา ตามวันเวลาที่เหมาะสม<O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2010
  16. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    ภาพพระเจดีย์ที่จะสร้างค่ะ หากดีได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจะทยอยส่งมานะค่ะ
    และต้องขอโทษด้วยที่ให้พื้นที่มากไปหน่อย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. วิณวิญ

    วิณวิญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +2,089
    ก่อนอื่นต้องขอโมทนาในทุกบุญความดีของพี่นาคา พี่ดีและทุกๆท่านทุกประการนะคะ วันนี้เอนำภาพงานบุญวันทอดกฐิน วัดสิริสีลสุภาราม (หลวงปู่สุภา) จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่7 พ.ย.มาฝากค่ะ

    บรรยากาศโดยรวมในงานนะคะ ก็เต็มไปด้วยผู้คนทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัดมาร่วมงานกัน รถยนต์จอดตามสองข้างทางยาวเหยียดเชียวค่ะ ด้านนอกที่บริเวณลานจอดรถจัดเป็นเต้นท์ขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะและเก้าอี้ รอบๆเต้นท์มีบริการแจกอาหารและเครื่องดื่ม มองหาที่นั่งก็ยังพอมีว่างอยู่บ้าง พ่อแม่ลูกเลยพากันไปทำบุญปัจจัยติดตามพุ่มบายศรี พานผ้าไตรจีวร และใส่บาตรที่โต๊ะหน้าศาลากันเสียก่อน ใกล้เวลาเริ่มพิธีคณะลูกศิษย์และกลุ่มประธานงานกฐินได้เข็นรถเข็นหลวงปู่สุภาผ่านตามทางเดินขึ้นไปบนศาลา (สาธุ ลูกได้กราบหลวงปู่อีกครั้งแล้วนะเจ้าคะ ^^)

    ว่าแล้วก็เลยลองตามเค้าขึ้นไปบนศาลาดูบ้าง โอ้โห...ข้างในเสริมเก้าอี้กันจนแน่นถึงฝาผนังด้านหลังเลยค่ะ แต่ก็ยังโชคดีที่มีที่เหลือให้พวกเราพอดีอีกแล้ว พิธีเริ่มเวลา10โมง หลวงปู่กล่าวนำและนำสวดมนต์ในพิธีด้วยท่านเองตลอดเลย ยิ่งทำให้บรรยากาศในพิธีเงียบสงบเต็มแน่นไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และปลื้มปิติจนบอกไม่ถูกเลยค่ะ (ขนลุกทุกครั้งเมื่อน้อมจิตกล่าวสาธุ อนุโมทนามิ) หลังเสร็จพิธีมีการแจกวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกในงานนี้ด้วย ทุกคนเข้าแถวรอรับอย่างมีระเบียบดีเชียว

    ก่อนจะกลับบ้านเดินแวะไปกราบพระพุทธรูปปางนาคปรก(ที่ได้มาร่วมงานเททองหล่อพระครั้งที่แล้ว)ที่หน้าพระอุโบสถมาด้วยค่ะ ขอเชิญทุกๆท่านโมทนาบุญร่วมกันนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1983.JPG
      DSCF1983.JPG
      ขนาดไฟล์:
      76.9 KB
      เปิดดู:
      107
    • DSCF1985.JPG
      DSCF1985.JPG
      ขนาดไฟล์:
      71.1 KB
      เปิดดู:
      113
    • DSCF1987.JPG
      DSCF1987.JPG
      ขนาดไฟล์:
      71.7 KB
      เปิดดู:
      110
    • DSCF1995.JPG
      DSCF1995.JPG
      ขนาดไฟล์:
      55 KB
      เปิดดู:
      117
    • DSCF1996.JPG
      DSCF1996.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.2 KB
      เปิดดู:
      111
    • DSCF1997.JPG
      DSCF1997.JPG
      ขนาดไฟล์:
      47.5 KB
      เปิดดู:
      102
    • DSCF1998.JPG
      DSCF1998.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.6 KB
      เปิดดู:
      99
    • DSCF4002.JPG
      DSCF4002.JPG
      ขนาดไฟล์:
      35.9 KB
      เปิดดู:
      118
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2010
  18. วิณวิญ

    วิณวิญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +2,089
    สาธุค่ะพี่ดี เอไม่ได้ถ่ายรูปใกล้ๆพระบรมรูปมาเลยค่ะ วันนั้นคนเยอะมาก แดดแรงจัด และคนที่บ้านก็แพ้ควันซะด้วย เลยคิดไว้ว่าจะกลับมาถ่ายใหม่ตอนที่แกะบล็อคแล้วอีกครั้งนึงค่ะ ติดไว้ก่อนแล้วกันนะคะ

    ส่วนทางขึ้นเขาก็ค่อนข้างลาดชันค่ะ มีเรื่องงงๆอยู่นิดนึงคือ ครั้งแรกที่เอมาวัดนี้เพื่อถวายสังฆทาน ได้มีหลวงพี่รูปนึงมายืนโบกมือขอติดรถขึ้นไปบนเขาด้วยกัน หลวงพี่ชี้ชวนพวกเราคุยเรื่องความสมบูรณ์ของเขาลูกนี้ไปเรื่อย เพลินๆจนขับขึ้นมาถึงข้างบนแบบไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้สังเกตุเลยว่าทางชันแค่ไหน แต่พอครั้งที่สองที่จะขึ้นไปหล่อพระบรมรูปนี่ซิคะ รถกระบะเอเครื่องดับระหว่างทางขึ้นเขาตั้งหลายครั้ง(รถยังป้ายแดงอยู่เลย) กว่าจะขึ้นมาถึงข้างบนได้ทำเอาใจระทึกไปหมด แต่รถคันข้างหลังที่ตามมาคงระทึกยิ่งกว่า ฮาาา

    ปล. รูปถ่ายจากทางด้านบน ณ.จุดตรงหน้าองค์พระใหญ่ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF1768.JPG
      DSCF1768.JPG
      ขนาดไฟล์:
      45.2 KB
      เปิดดู:
      101
    • DSCF1767.JPG
      DSCF1767.JPG
      ขนาดไฟล์:
      31.6 KB
      เปิดดู:
      110
    • DSCF1774.JPG
      DSCF1774.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.9 KB
      เปิดดู:
      115
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2010
  19. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]


    [FONT=&quot]สาธุ อนุโมทามิ มหาสาธูการ ค่ะ[/FONT]



    [FONT=&quot]ข้าพเจ้า ขอกราบมหาโมทนาในทุกๆๆ กองบุญนี้ ด้วยความจริงใจ ขอให้อำนาจแห่งการมหาโมทนามัยนี้ จงส่งผลเป็นกระแสบุญอันบริสุทธิ์หลั่งไหลสู่ดวงจิตข้าพเจ้า และทุก ๆ ท่าน ที่มีส่วนร่วม สาธุ สาธุ สาธุการค่ะ[/FONT]

    [FONT=&quot]พุทโธ ธัมโม สังโฆ นะ โม พุท ธา ยะ[/FONT]
     
  20. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]


    ขอนอบน้อมอัญเชิญพระสูตร


    กะระณียะเมตตะสุตตัง
    พระสูตรว่าด้วยการเจริญเมตตา และอานุภาพแห่งเมตตา
    ใช้สวดเพื่อให้เทวดารักใคร่


    กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ
    สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ
    สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี
    สันตุสสะโก จะสุภะโร จะ
    อัปปะกิจโจ จะสัลละหุกะวุตติ
    สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ



    อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ
    นะจะขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง
    สุขิโน วา เขมิโน โหนตุ สัพเพ สัตตา ภุวันตุ สุขิตัตตา
    เยเกจิ ปาณะภูตัตถิ
    ตะสาวา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา
    ทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิมา รัสสะกา อะณุกะถูลา
    ทิฏฐา วาเย จะอะทิฏฐา


    เยจะ ทูเรวะสันติ อะวิทูเร
    ภูตา วา สัมภะเวสี วา
    สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
    นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ
    นาติ มัญเญะกะ กัตถะจิ นังกิญจิ
    พยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะ มัญญัสสะ ทุขะมิจเฉยยะ


    มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข
    เอวัมปิ สัพพะภูเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
    เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
    อุทธัง อะโธ จะติริยัญจะ
    อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
    ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา


    สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
    เอตัง สะติง อะทิฏเฐยยะ
    พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ
    ทิฏฐิญจะ อะนุปคัมมะ สีละวา
    ทัสสะเนนะ สัมปันโน
    กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ






    [​IMG]





    บทขัดกรณียเมตตสูตร

    เหล่าเทพยาทั้งหลาย ย่อมไม่แสดงอาการอันน่าสะพรึงกลัว เพราะอานุภาพแห่งพระปริตรนี้ อนึ่งบุคคลไม่เกียจคร้าน สาธยายอยู่เนือง ๆ ซึ่งพระปริตรนี้ ทั้งในกลางวันและกลางคืนย่อมหลับเป็นสุข ขณะหลับย่อมไม่ฝันร้าย

    ท่านผู้เจริญทั้งหลาย จงสวดพระปริตร อันประกอบไปด้วยคุณดังกล่าวมา ดังนี้เทอญ




    [​IMG]



    ตำนาน

    เริ่มเรื่องที่ พวกพระภิกษุ ๕๐๐ รูป ในนครสาวัตถี ครั้นได้เรียนกัมมัฏฐานในสำนัก สมเด็จพระบรมศาสดา แล้วหลีกไปหาที่สงัดเงียบ

    สำหรับเจริญวิปัสสนา เดินทางไปได้สิ้นระยะทางประมาณ ๑๐๐ โยชน์ ถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ชาวบ้านเหล่านั้นได้เห็นพระภิกษุ มีความยินดี นิมนต์ให้นั่ง บนอาสนะอันสมควร แล้วอังคาสด้วยข้าวยาคู เป็นต้น พร้อมทั้งถามว่า พระผู้เป็นเจ้าทั้ง หลายจะไป ณ ที่แห่งใด ภิกษุทั้งหลายจึงกล่าวว่า เราจะไปแสวงหาสถานที่สบาย สำหรับปฏิบัติธรรมตลอดไตรมาส ชาวบ้านเหล่านั้นจึงกล่าวว่า



    จากนี้ไปไม่ไกลนัก มีป่าชัฏเป็นที่สงัด เงียบเป็นที่รื่นรมย์ ขอนิมนต์พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย โปรดจงเจริญสมณธรรม ในที่นั้น ตลอดไตรมาสเถิด ข้าพเจ้าทั้งหลาย จะขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และรักษาศีลในสำนักของพระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย พระภิกษุทั้งหลายรับนิมนต์แล้วก็ออกเดินทางเข้าไปสู่ป่าชัฏ เพื่อเจริญสมณธรรม

    ฝ่ายพวกรุกขเทวดาที่สิงสถิตอยู่บนต้นไม้ในป่านั้น ต่างพากันคิดว่า พระผู้เป็นเจ้าทั้ง หลายมาอาศัยอยู่ที่โคนต้นไม้ของเรา ตัวเรา และบุตรภรรยาขึ้นอยู่บนต้นไม้นี้ จักไม่เป็นการบังควร ดูว่าจะไม่เคารพ พวกรุกขเทวดาทั้งหลาย จึงพากันลงจากต้นไม้ มานั่งอยู่เหนือพื้นดิน ได้รับความลำบากมิใช่น้อย พวกรุกขเทวดาผู้ใหญ่ ได้พูดปลอบใจเทวดาผู้น้อยว่า


    ไม่เป็นไรหรอกชาวเราเอ๋ย… พระผู้เป็นเจ้า เหล่านี้คงจะอยู่ ณ ที่นี้ไม่นาน รุ่งขึ้นท่านก็คงจะจาริกไปที่อื่น ชาวเราทั้งหลาย จักได้กลับขึ้นไปอยู่บนวิมานของเราเหมือนเดิม รุ่งสาง พระสุริยะก็ฉายแสงส่องลงมายังภาคพื้นปฐพี เหล่าภิกษุทั้งหลาย ก็พากัน ออกเที่ยวบิณฑบาตภายในหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากป่านั้นนัก พวกเทวดาต่างพากันคิดว่า ดีหละ พระเป็นเจ้าทั้งหลายคงจะย้ายที่อยู่ กันสิ้นแล้ว จึงพากันขึ้นไปสถิตยังต้นไม้ของตนตามเดิม

    เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ล่วงเวลาไปครึ่งเดือน พวกรุกขเทวดาจึงพากันคิดว่า ชะรอยพระเป็นเจ้าคงจะอยู่ ณ ที่นี้ถ้วนไตรมาสเป็นแน่ เห็นทีชาวเราคงจะต้องลำบากไปตลอดไตรมาสด้วย เห็นทีชาวเราทั้งหลายจะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้ท่านไปเสียจากที่นี่ เมื่อคิดดังนั้นแล้ว รุกขเทวดาต่างก็พากันแสดงตนให้ปรากฏต่อประสาทสัมผัสของพระภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูป ด้วยอาการ กิริยา อันน่าสะพรึงกลัวต่าง ๆ

    เช่น ทำให้เกิดลมพายุพัด ทำให้เกิดฝนตกเฉพาะภาคพื้นนั้น ทำให้ดูประหนึ่งแผ่นดินไหวสะเทือนเลื่อนลั่น ทำให้เกิดเสียงร้องโหยหวนดังเสียงของเปรต หรือสัตว์นรกผู้กำลังได้รับทุกขเวทนาจากการโดนลงทัณฑ์ แม้ที่สุดกระทำให้ภิกษุทั้งหลายได้เห็นภาพอันน่าสะพรึงกลัวต่าง ๆ พวกภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูปนั้นก็หาได้หนีจากที่นั้นไปไม่รุกขเทวดาผู้ใหญ่ เลยออกอุบาย ให้บริวารช่วยกันบันดาลให้เกิดโรค แก่ภิกษุเหล่านั้น มีอาการป่วยต่าง ๆ กัน เช่น โรคไอ โรคจาม โรคหอบ โรคนอนกรน โรคฝันร้าย โรคเหล่านี้ ทำให้กายของพระภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูป มีร่างกายซูบซีด ผอมแห้ง ได้รับทุกขเวทนา



    จนทนอยู่ ณ ที่นั้นมิได้ จึงพากันเดินทางหลีกหนี ออกจากป่าชัฏนั้น แล้วชวนกันไปเฝ้าพระบรมศาสดา ทูลเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้ประสบมา ให้พระบรมศาสดาทรงทราบ พระผู้มีพระภาค เมื่อได้ทรงสดับ การที่ภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูปได้ประสบมา จึงทรงมีพุทธประสงค์ให้ภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูป กลับไปเจริญสณธรรม ในที่เดิม จึงทรงประทาน เมตตาสูตร ให้แก่พระภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูปได้เรียน เพื่อใช้ป้องกันภัย จากภูต และเทวดา ยักษ์ มาร ทั้งปวง โดยมีพระพุทธฎีกาตรัสว่า

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงสาธยายพระสูตรนี้ ตั้งแต่ชายป่า จนถึงภายนอก และภายในที่พัก เช่นนี้ ความสวัสดีจะมีแก่เธอทั้งหลาย

    ภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูป ได้เรียนพระพุทธมนต์ จนขึ้นใจแล้ว จึงพากันเดินทางกลับไปยังป่าชัฏดังเดิม ครั้นถึงชายป่าชัฏ ภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูปก็สาธยายพระพุทธมนต์ บทเมตตาสูตร จนเดินถึงที่พัก

    พวกรุกขเทวดาทั้งหลาย เมื่อได้สดับเสียงเจริญ เมตตาสูตร จากปากพระภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูป ก็มีจิตเมตตา รักใคร่ พากันมาต้อนรับปฏิสันถาร รับบาตรจีวร ปัดกวาด หาน้ำใช้ น้ำฉัน แล้วคอยรับใช้ อภิบาลรักษาอยู่ตามแนวป่า มิให้มนุษย์ อมนุษย์ และสัตว์ร้ายใด ๆ มารบกวน ทำร้ายพระเป็นเจ้าของตน

    ภิกษุเหล่านั้น เมื่อได้อยู่เป็นที่สงบสุขแล้ว ก็หมั่นตั้งจิตบำเพ็ญ วิปัสสนา กัมมัฏฐาน ตลอดกลางวันและกลางคืน จนจิตหยั่งลงสู่วิปัสสนาญาณ เห็นความเสื่อมในร่างกายของตน ว่าอัตภาพนี้มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ประดุจภาชนะดินเผา ที่เปราะบางแตกทำลายลงง่าย ไม่คงทนถาวร ขณะที่เป็นอยู่ก็เป็นภาระ ที่ต้องประคับประคองรักษา แม้ที่สุดก็หาได้มีตัวตนที่แท้จริงไม่

    องค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะทรงประทับอยู่ภายในพระคันธกุฎี ทรงทราบสภาวะธรรม ที่เกิดขึ้นในจิตของพระภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูป ด้วยพระญาณ จึงทรงเปล่งพระรัศมีให้ปรากฏเฉพาะหน้า แก่ภิกษุเหล่านั้น ดุจดังว่าเสด็จมาเองเฉพาะภิกษุแต่ละองค์ และทรงตรัสพระคาถาว่า

    ภิกษุทั้งหลาย กายนี้เปรียบเหมือนหม้อดิน จิตนี้เปรียบเหมือนนคร ที่มีข้าศึกคอยจ้องรุกรานโจมตีคือกิเลส อาวุธที่จะใช้กำราบกิเลส ก็คือปัญญา ขณะที่เรากำลังรุกรบกับข้าศึกคือกิเลส ก็ต้องระวังดูแลรักษาหม้อดิน คือกายนี้อย่างไม่มีวันจบสิ้น กายนี้เป็นภาระอย่างยิ่ง

    และเหตุแห่งการเกิดกายนี้ ก็คือกรรม อวิชชาความไม่รู้ ความรู้วิชา ทำให้รุ่งเรืองปัญญา ดับเหตุแห่งอกุศลกรรมเสียได้ ย่อมไม่พัวพันต่อชาติภพ ย่อมมีชัยชนะในโลก

    เมื่อจบพระธรรมเทศนาแล้ว ภิกษุทั้ง ๕๐๐ รูปก็ได้บรรลุอรหัตผล พร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ

    กราบอนุโมทนาที่มาข้อมูล : https://sites.google.com/site/watdonsawan/w-33




    [MUSIC]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=35979[/MUSIC] ​
     

แชร์หน้านี้

Loading...