พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สวัสดีครับคุณพี่psombat และพี่ๆทุกท่านครับ
     
  2. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ม่ายเอา ไม้ตะพด สนใจปิดตาสังฆาฎิดีกว่าครับ หุ หุ
     
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หลวงปู่ท่านไม่ยอมให้ผ่าครึ่งครับ หุ..หุ..ทำไมติดใจพิมพ์นี้หรือครับ คุยให้ฟังหนุกๆหน่อยสิครับคุณน้องนู๋
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    แล้วม่ายสนใจองค์นี้มั่งหรือ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010015.JPG
      P1010015.JPG
      ขนาดไฟล์:
      183.8 KB
      เปิดดู:
      84
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ท่านเพชรนี่ยอดจริงๆครับ แซว2ที ทราบเลยว่าติดใจพิมพ์นี้5555555 เรื่องมันยาวครับ หุ หุ ส่วนอีกพิมพ์ที่ว่าก็ ท่านโดห้อยอยู่ บุเงินครับ +พระกรุหนึ่งที่ระยองอีก 1องค์ โอเคปล่าวครับ หุ หุ
     
  6. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 15 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 9 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>nongnooo, :::เพชร:::+, Natachai, sithiphong+, ปฐม, สงบในกรรม </TD></TR></TBODY></TABLE>


    คุณหนุ่มมาแล้ว คุณหนุ่มก็ถามแบบท่านเพชรแหละ ครับ 55555คุณหนุ่มทราบความเป็นไปดีครับ หุ หุ
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เมื่อคืนถูกจู่โจมด้วย post นี้ ถึงกับสะดุ้งเฮือกใหญ่ นึกในใจกูรูน้องนู๋นี่ตาถึงจริงๆ ขนาดคาดข้อความดูรกๆตา 3 แถวแล้ว ยังไม่สามารถลอดสายตาเหยี่ยวได้จริงๆ :cool:

    พระปิดตาสังฆาฏิ คงยังมีผู้รู้น้อยจริงๆ เอาแค่ขนาดของพิมพ์พระที่เล็กกว่าปลายนิ้วก้อย แต่มีความละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ยากที่จะสามารถหาพระปิดตาสมัยโบราณ จวบจนปัจจุบันที่มีผู้สร้างได้งดงามกว่านี้ อันนี้ผมขอท้าครับ หากหาคนที่จัดสร้างได้งามกว่านี้ได้ มาเอาไปเลยผมมอบพระกริ่งปวเรศให้ ๑ องค์ เพียงเอามาให้ผมดูเท่านั้น โดยจะต้องให้กูรูน้องนู๋ และคุณน้องหนุ่มรับรองว่าสวยกว่าก่อนนะครับ จึงจะมอบให้

    เรื่องของมวลสาร พิธีที่เสก และพระผู้เสกยิ่งห่างกันริบ ไม่ต้องนำมาเอ่ยถึง...
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ผมก็ยังดูไม่เป็นครับ

    เพราะว่ามีเนื้อเดียวกัน พิธีเดียวกัน องค์ผู้อธิษฐานจิตเดียวกัน แต่ไม่ใช่ อัศจรรย์โกลาฤกษ์ ครับ


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    [​IMG]


    เอ่อ หลายๆท่านเรียก "อา" ดูแก่มากเลย เรียกพี่ก็ได้ครับ

    ไว้สัปดาห์หน้า จะส่งให้นะครับ ยังติดอบรมอยู่ ตอนเช้ายังไม่มีเวลาที่จะไปส่งให้ครับ

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    [​IMG]

    กรุเนปาล นี่สวยมากครับ

    ในองค์ที่บุทอง หรือ บุเงิน หรือ บุนาค โดยปกติเราจะไม่ทราบว่า องค์ด้านในจะเป็นกรุเนปาลหรือไม่

    เท่าที่พบมา ไม่เคยเจอนะครับ

    ส่วนท่านโดจิห้อย เยี่ยมอยู่แล้วครับ

    ผมเองชอบพิมพ์อรหันต์กลาง ที่สุดเลยครับ

    องค์ที่บุทองที่ผมนำมาห้อย ก็พิมพ์นี้ครับ

    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    เหอๆๆๆ ไว้ผมอัญเชิญพระปิดตาไปให้คุณเพชรชมกับคุณnongnooo ตอนที่นัดเจอกันที่เจริญแสงขาหมู ดีหรือเปล่าครับ อิอิ

    จะได้จัดเตรียมไปครับ
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2010
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    เกือบลืม

    อย่าลืมอัญเชิญพระกริ่งปวเรศมาด้วยนะครับ อิอิ


    .
     
  13. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เตรียมมาให้ครบคนด้วยนะ หุ..หุ..

    อัญเชิญมาโปรดใครหรือ 555555 ไม่มีร๊อกสำหรับกรรมการ จะมาเอาไปง่ายๆได้ยังไง.....ฮา
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    เหอๆๆๆ ต้องรอดูครับ ว่าจะอย่างไร หุหุหุ


    .
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ไขข้อกังขา เขื่อนศรีนครินทร์แตก? เมื่อธรณีพิโรธ


    [​IMG]
    เขื่อนศรีนครินทร์
    [​IMG]
    เขื่อนศรีนครินทร์


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก วิกิพีเดีย, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย, ศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์


    ในช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้ เกิดเหตุแผ่นดินไหวใกล้ประเทศไทยหลายต่อหลายครั้ง และมีหลายครั้งที่เป็นแผ่นดินไหวรุนแรง จนทำให้เกิดข่าวลือท่ามกลางความหวาดวิตกว่า หากวันใดวันหนึ่งเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศไทยขึ้นมาจริง ๆ "เขื่อนศรีนครินทร์" ซึ่งเป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะสามารถต้านทานต่อการสั่นสะเทือนของธรณีพิโรธได้หรือไม่?

    นั่นเพราะ "เขื่อนศรีนครินทร์" ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนบริเวณเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่ง ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้เชี่ยวชาญด้านการเตือนภัย เคยออกมาเตือนว่า รอยเลื่อนทั้ง 2 นี้ยังมีพลังอยู่ และมีโอกาสจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกได้ ในระดับ 5-6 ริกเตอร์ ในรอบ 1,000-3,000 ปี หรือเท่ากับ 0.001 ซึ่งแม้ว่าแผ่นดินไหวระดับนี้จะไม่ทำอันตรายต่อ "เขื่อนศรีนครินทร์" ได้แต่ก็ต้องเตรียมรับมือให้ดี

    นี่เองจึงกลายเป็นที่มาของฟอร์เวิร์ดเมล์ฉบับหนึ่ง ที่ส่งต่อกันมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยนำเสนอภาพจำลองการเกิดน้ำท่วม และระยะเวลาการเคลื่อนที่ของน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ หากเขื่อนศรีนครินทร์แตก เพราะแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ซึ่งภาพจำลองนี้จัดทำโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

    [​IMG]
    ภาพจำลองน้ำท่วมในบางจังหวัดกรณีเขื่อนศรีนครินทร์แตก (ภาพจากฟอร์เวิร์ดเมล์)


    ในภาพจำลองระบุว่า หากเขื่อนศรีนครินทร์แตก น้ำจากเขื่อนที่มีความจุถึง 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร จะทะลักเข้าท่วมอำเภอต่าง ๆ โดย

    - ภายใน 5 ชั่วโมง คลื่นน้ำความสูง 25 เมตร จะท่วมอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

    - ภายใน 11 ชั่วโมง คลื่นน้ำความสูง 7.5 เมตร จะท่วมอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี

    - ภายใน 23 ชั่วโมง คลื่นน้ำความสูง 2 เมตร จะทะลักสู่อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี และจังหวัดนครปฐม

    - ภายใน 35 ชั่วโมง คลื่นน้ำความสูง 2 เมตร จะทะลักจังหวัดสมุทรสงคราม และกรุงเทพมหานคร

    ซึ่งเท่ากับว่า หากเขื่อนศรีนครินทร์แตกจริง ประชาชนที่อยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี จะมีเวลาอพยพหนีน้ำเพียงแค่ 5 ชั่วโมง ขณะที่กรุงเทพมหานครจะกลายเป็นเมืองบาดาลภายในเวลาเพียงแค่ 1 วันกว่า ๆ เท่านั้น


    [​IMG]
    เขื่อนศรีนครินทร์


    อย่างไรก็ดี ฟอร์เวิร์ดเมล์ข้างต้นถูกส่งต่อกันในโลกอินเทอร์เน็ตมานานแล้ว และมีผู้ที่เกี่ยวข้องออกมายืนยันถึงความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนให้ทุกคนได้ มั่นใจกันหลายฝ่าย แต่ ณ วันนี้ประเด็นเรื่อง "เขื่อนศรีนครินทร์แตก" ก็ยังเป็นที่หวาดหวั่นของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากในปี 2553 ได้เกิดแผ่นดินไหวที่มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภอศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขื่อนศรีนครินทร์มาแล้วเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.8 ริกเตอร์ และในวันที่16 สิงหาคม วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.3 ริกเตอร์

    ที่สำคัญ เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดพายุฝนถล่มจังหวัดเชียงราย จนทำให้อ่างเก็บน้ำห้วยพลู ซึ่งเป็นอ่างดินรองรับน้ำไม่ไหว ในที่สุดอ่างเก็บน้ำแตก ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านทุ่งพร้าว ถนนแม่สรวย-ดอยวาวี จนเกิดเหตุดินถล่มถนนทรุดขาดออกจากกันราว 100 เมตร และเกิดหลุมลึกลงไปกว่า 20 เมตร

    แม้ว่าสาเหตุที่อ่างเก็บน้ำห้วยพลูแตก จะไม่ได้เกิดจากแผ่นดินไหว อีกทั้งอ่างเก็บน้ำห้วยพลูทำจากดิน ความแข็งแรงทนทานย่อมไม่อาจเทียบเท่ากับ "เขื่อนศรีนครินทร์"

    อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับประเด็นที่ประชาชนวิตกกังวลกันมาก ก็ได้เคยมีบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ออกมายืนยันพร้อมข้อมูล และหลักฐานทางวิชาการแล้วว่า "เขื่อนศรีนครินทร์" แข็งแรงและไม่มีทางจะพังทลายได้แน่นอน
    แต่เมื่อเกิดข่าวอ่างเก็บน้ำแตกขึ้น ย่อมไม่อาจทำให้คนจำนวนหนึ่งคลายความกังวลจากเรื่องนี้ไปได้

    [​IMG]
    เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพ เขื่อนศรีนครินทร์


    โดยนายกิตติ ตันเจริญ ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ชี้แจงต่อกรณีข่าวลือ "เขื่อนศรีนครินทร์แตก" ผ่านทาง "ข้อเท็จจริงเรื่องความมั่นคงของเขื่อนศรีนครินทร์" ของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยสรุปว่า รอยเลื่อนทั้ง 2 ที่พาดผ่านเขื่อนศรีนครินทร์ ยังไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมาก่อน ที่เคยเกิดรุนแรงที่สุด ก็คือในปี 2526 ที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ บริเวณทิศเหนือห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ 55 กิโลเมตร แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขื่อนแต่อย่างใด

    ใน รายงานยังได้อ้างอิงข้อมูลจากหนังสือ DAMS AND PUBLIC SAFETY,1983 ซึ่งระบุว่า แผ่นดินไหวเป็นสาเหตุให้เขื่อนแตกได้น้อยมาก เพียงแค่ 1% ขณะที่สาเหตุหลักมาจาก

    1. ความเสียหายของรากฐานเขื่อน ซึ่งคิดเป็น 40%
    2. อาคารระบายน้ำล้นมีขนาดไม่เพียงพอ คิดเป็น 23%
    3. การก่อสร้างไม่ดี 12%
    4. การทรุดตัวอย่างรุนแรง 10%
    5. แรงดันน้ำในตัวเขื่อนสูงมาก 5%
    6. เกิดจากสงคราม 3%
    7. การไหลเลื่อนของลาดเขื่อน 2%
    8. วัสดุก่อสร้างไม่ดี 2%
    9. การใช้งานเขื่อนไม่ถูกต้อง 2%
    10. แผ่นดินไหว 1%


    [​IMG]
    แกนกลางเขื่อนศรีนครินทร์



    จากข้อมูลนี้ สอดคล้องกับงานวิจัยเรื่อง "ความมั่นคงของเขื่อนศรีนครินทร์ ต่อแรงกระทำแผ่นดินไหว" ของ ผศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และวีระชัย ไชยสระแก้ว หัวหน้ากองความปลอดภัยเขื่อน ฝ่ายบำรุงรักษาโยธา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่ได้ทำการตรวจสอบ และสำรวจเขื่อนพร้อมทั้งสร้างแบบจำลองเขื่อนเพื่อใช้การสั่นสะเทือนรูปแบบ ต่าง ๆ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรง 35 เหตุการณ์ มีจำนวน 200 คลื่นแผ่นดินไหว โดยจำลองให้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากตัวเขื่อนในระยะต่าง ๆ กัน พบว่า

    [​IMG]


    เขื่อนศรีนครินทร์ สามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้ถึงระดับ 7.0 ริกเตอร์ โดยแผ่นดินไหว 7.0 ริกเตอร์จะทำให้สันเขื่อนทรุดตัวลงเพียง 3.4 เมตร และน้อยกว่าความสูงของสันเขื่อนที่เผื่อไว้เหนือระดับกักเก็บน้ำ 5 เมตร ดังนั้นเขื่อนจึงสามารถรองรับแผ่นดินไหวได้ และแม้ว่าแกนดินเหนียวของเขื่อนจะเกิดรอยร้าว แต่ยังมีวัสดุชั้นในวัสดุกรองเคลื่อนตัวมาอุดรอยแยกได้เอง ทำให้เขื่อนมีความมั่นคง ไม่พังทลายลงมาได้ แต่หากเขื่อนเริ่มรั่วซึมออกมา จนกระทั่งเขื่อนแตก จะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง จึงพอมีเวลาเตือนภัยและอพยพคนได้


    [​IMG]


    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อมูลทางวิชาการออกมายืนยันว่า โอกาสที่เขื่อนจะพังทลายลงมามีน้อยมาก แต่เพราะ "เขื่อนศรีนครินทร์" ตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ซึ่งยังมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ทุกฝ่ายจึงไม่ประมาทในการรับมือภัยพิบัติ ดังนั้นทาง กฟผ. และเขื่อนศรีนครินทร์ จึงได้ตรวจสอบสภาพเขื่อนเป็นประจำ และมีมาตรการเตรียมแผนรับสถานการณ์ฉุกเฉินไว้


    [​IMG]
    เขื่อนศรีนครินทร์


    สำหรับ ประชาชนทั่วไปเอง การศึกษาข้อมูลเรื่องแผ่นดินไหว อุทกภัย รวมทั้งวิธีป้องกัน และรับมือเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นถือว่าเป็นเรื่องจำเป็น เพราะหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นจริง เราจะได้สามารถตั้งรับได้ทันท่วงที

    โดยข้อควรปฏิบัติก่อน-ระหว่าง-หลังเกิดแผ่นดินไหว มีดังนี้

    [​IMG] การรับมือก่อนเกิดแผ่นดินไหว

    1. ควรมีไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย และกระเป๋ายาเตรียมไว้ในบ้าน และให้ทุกคนทราบว่าอยู่ที่ไหน

    2. ศึกษาการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

    3. ควรมีเครื่องมือดับเพลิงไว้ในบ้าน เช่น เครื่องดับเพลิง ถุงทราย เป็นต้น

    4. ควรทราบตำแหน่งของวาล์วปิดน้ำ วาล์วปิดก๊าซ สะพานไฟฟ้า สำหรับตัดกระแสไฟฟ้า

    5. อย่าวางสิ่งของหนักบนชั้น หรือหิ้งสูง ๆ เมื่อแผ่นดินไหวอาจตกลงมาเป็นอันตรายได้

    6. ผูกเครื่องใช้หนัก ๆ ให้แน่นกับพื้นผนังบ้าน

    7. ควรมีการวางแผนเรื่องจุดนัดหมาย ในกรณีที่ต้องพลัดพรากจากกันเพื่อมารวมกันอีกครั้งในภายหลัง

    8. สร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว

    [​IMG]ระหว่างเกิดแผ่นดินไหว

    1. อย่าตื่นตกใจ พยายามควบคุมสติอยู่อย่างสงบ ถ้าท่านอยู่ในบ้านก็ให้อยู่ในบ้าน ถ้าท่านอยู่นอกบ้านก็ให้อยู่นอกบ้าน เพราะส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บเพราะวิ่งเข้าออกจากบ้าน

    2. ถ้าอยู่ในบ้านให้ยืนหรือมอบอยู่ในส่วนของบ้านที่มีโครงสร้างแข็งแรง ที่สามารถรับน้ำหนัก ได้มาก และให้อยู่ห่างจากประตู ระเบียง และหน้าต่าง

    3. หากอยู่ในอาคารสูง ควรตั้งสติให้มั่น และรีบออกจากอาคารโดยเร็ว หนีให้ห่างจากสิ่งที่จะล้มทับได้

    4. ถ้าอยู่ในที่โล่งแจ้งให้อยู่ห่างจากเสาไฟฟ้า และสิ่งห้อยแขวนต่าง ๆ ที่ปลอดภัยภายนอกคือที่โล่งแจ้ง

    5. อย่าใช้เทียน ไม้ขีดไฟ หรือสิ่งที่ทำให้เกิดเปลวหรือประกายไฟ เพราะอาจมีแก๊สรั่วอยู่บริเวณนั้น

    6. ถ้าท่านกำลังขับรถให้หยุดรถและอยู่ภายในรถ จนกระทั่งการสั่นสะเทือนจะหยุด

    7. ห้ามใช้ลิฟท์โดยเด็ดขาดขณะเกิดแผ่นดินไหว

    8. หากอยู่ชายหาดให้อยู่ห่างจากชายฝั่ง เพราะอาจเกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง

    [​IMG] หลังเกิดแผ่นดินไหว

    1. ควรตรวจตัวเองและคนข้างเคียงว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ให้ทำการปฐมพยาบาลขั้นต้นก่อน

    2. ควรรีบออกจากอาคารที่เสียหายทันที เพราะหากเกิดแผ่นดินไหวตามมาอาคารอาจพังทลายได้

    3. ใส่รองเท้าหุ้มส้นเสมอ เพราะอาจมีเศษแก้ว หรือวัสดุแหลมคมอื่น ๆ และสิ่งหักพังแทง

    4. ตรวจสายไฟ ท่อน้ำ ท่อแก๊ส ถ้าแก๊สรั่วให้ปิดวาล์วถังแก๊ส ยกสะพานไฟ อย่าจุดไม้ขีดไฟ หรือก่อไฟจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีแก๊สรั่ว

    5. ตรวจสอบว่า แก๊สรั่ว ด้วยการดมกลิ่นเท่านั้น ถ้าได้กลิ่นให้เปิดประตูหน้าต่างทุกบาน

    6. ให้ออกจากบริเวณที่สายไฟขาด และวัสดุสายไฟพาดถึง

    7. เปิดวิทยุฟังคำแนะนำฉุกเฉิน อย่าใช้โทรศัพท์ นอกจากจำเป็นจริง ๆ

    8. สำรวจดูความเสียหายของท่อส้วม และท่อน้ำทิ้งก่อนใช้

    9. อย่าเป็นไทยมุงหรือเข้าไปในเขตที่มีความเสียหายสูง หรืออาคารพัง

    10. อย่าแพร่ข่าวลือ



    [​IMG]
    เขื่อนศรีนครินทร์


    ขณะเดียวกับ หากเกิดเหตุการณ์อุทกภัยขึ้น หรือมีแนวโน้มว่าอาจจะเกิดอุทกภัย เราควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้

    [​IMG] ก่อนเกิดอุทกภัย

    1. เชื่อฟังคำเตือนอย่างเคร่งครัด

    2. ติดตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง


    3. เคลื่อนย้ายคน สัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย และสิ่งของไปอยู่ในที่สูง ซึ่งเป็นที่พ้นระดับน้ำที่เคยท่วมมาก่อน

    4. ทำคันดินหรือกำแพงกั้นน้ำโดยรอบ

    5. เคลื่อนย้ายพาหนะ เช่น รถยนต์หรือล้อเลื่อนไปอยู่ที่สูง หรือทำแพสำหรับที่พักรถยนต์ อาจจะใช้ถังน้ำขนาด 200 ลิตร ผูกติดกันแล้วใช้กระดานปูก็ได้

    6. เตรียมกระสอบใส่ดินหรือทราย เพื่อเสริมคันดินที่กั้นน้ำให้สูงขึ้น เมื่อระดับน้ำขึ้นสูงท่วมคันดินที่สร้างอยู่
    7. ควรเตรียมเรือไม้ เรือยาง หรือแพไม้ไว้ใช้ด้วย เพื่อใช้เป็นพาหนะในขณะน้ำท่วมเป็นเวลานาน เรือเหล่านี้สามารถช่วยชีวิตได้เมื่ออุทกภัยคุกคาม

    8. เตรียมเครื่องมือช่างไม้ ไม้กระดาน และเชือกไว้บ้างสำหรับต่อแพ เพื่อช่วยชีวิตในยามคับขัน เมื่อน้ำท่วมมากขึ้น จะได้ใช้เครื่องมือช่างไม้เปิดหลังคารื้อฝาไม้ เพื่อใช้ช่วยพยุงตัวในน้ำได้

    9. เตรียมอาหารกระป๋อง หรืออาหารสำรองไว้บ้าง พอที่จะมีอาหารรับประทานเมื่อน้ำท่วมเป็นระยะเวลาหลาย ๆ วัน อาหารย่อมขาดแคลนและไม่มีที่หุงต้ม

    10. เตรียมน้ำดื่มเก็บไว้ในขวดและภาชนะที่ปิดแน่น ๆ ไว้บ้าง เพราะน้ำที่สะอาดที่ใช้ตามปกติขาดแคลนลง ระบบการส่งน้ำประปาอาจจะหยุดชะงักเป็นเวลานาน

    11. เตรียมเครื่องเวชภัณฑ์ไว้บ้างพอสมควร เช่น ยาแก้พิษกัดต่อยแมลงป่อง ตะขาบ งู และสัตว์อื่น ๆ เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วมพวกสัตว์มีพิษ เหล่านี้จะหนีน้ำขึ้นมาอยู่บนบ้านและหลังคาเรือน

    12. เตรียมเชือกมนิลามีความยาวไม่น้อยกว่า 10 เมตร ใช้ปลายหนึ่งผูกมัดกับต้นไม้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ในกรณีที่กระแสน้ำเชี่ยว และคลื่นลูกใหญ่ซัดมากวาดผู้คนลงทะเล จะช่วยไม่ให้ไหลลอยไปตามกระแสน้ำ

    13. เตรียมวิทยุที่ใช้ถ่านไฟฉาย เพื่อไว้ติดตามฟังรายงานข่าวลักษณะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา

    14. เตรียมไฟฉาย ถ่านไฟฉาย และเทียนไข เพื่อไว้ใช้เมื่อไฟฟ้าดับ

    [​IMG] ขณะเกิดอุทกภัย

    ควรตั้งสติให้มั่นคง อย่าตื่นกลัวหรือตกใจ ควรเตรียมพร้อมที่จะเผชิญเหตุการณ์ด้วยความสุขุม รอบคอบ และควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

    1. ตัดสะพานไฟ และปิดแก๊สหุงต้มให้เรียบร้อย

    2. จงอยู่ในอาคารที่แข็งแรง และอยู่ในที่สูงพ้นระดับน้ำที่เคยท่วมมาก่อน

    3. จงทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ

    4. ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะฝ่าลงไปในกระแสน้ำหลาก

    5. ไม่ควรเล่นน้ำหรือว่ายน้ำเล่นในขณะน้ำท่วม

    6. ระวังสัตว์มีพิษที่หนีน้ำท่วมขึ้นมาอยู่บนบ้าน และหลังคาเรือนกัดต่อย เช่น งู แมลงป่อง ตะขาบ เป็นต้น
    7. ติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด เช่น สังเกตลมฟ้าอากาศ และติดตามคำเตือนเกี่ยวกับ ลักษณะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา

    8. เตรียมพร้อมที่จะอพยพไปในที่ปลอดภัยเมื่อสถานการณ์จวนตัว หรือปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการ

    9. เมื่อจวนตัวให้คำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตมากกว่าห่วงทรัพย์สมบัติ

    [​IMG] หลังอุทกภัย

    เมื่อระดับน้ำลดลงจนเป็นปกติ การบูรณะซ่อมแซมสิ่งต่าง ๆ จะต้องเริ่มต้นทันที่งานบูรณะต่าง ๆ เหล่านี้จะประกอบด้วย

    1. การขนส่งคนอพยพกลับยังภูมิลำเนาเดิม

    2. การช่วยเหลือในการรื้อสิ่งปรักหักพัง ซ่อมแซมบ้านเรือนที่หักพัง และถ้าบ้านเรือนที่ถูกทำลายสิ้น ก็ให้ได้รับความช่วยเหลือในการจัดหาที่พักอาศัยและการดำรงชีพชั่วระยะหนึ่ง

    3. การกวาดเก็บขนสิ่งปรักหักพังทั่วไป การทำความสะอาดบ้านเรือน ถนนหนทางที่เต็มไปด้วยโคลนตม และสิ่งชำรุดเสียหายที่เกลื่อนกลาดอยู่ทั่วไปกลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว

    4. ซ่อมแซมบ้านเรือนอาคาร โรงเรียนที่พักอาศัย สะพานที่หักพังชำรุดเสียหาย และที่เสียหายมากจนไม่อาจซ่อมแซมได้ ก็ให้รื้อถอนเพราะจะเป็นอันตรายได้

    5. จัดซ่อมทำเครื่องสาธารณูปโภค ให้กลับคืนสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด เช่น การไฟฟ้า ประปา โทรเลข โทรศัพท์

    6. ภายหลังน้ำท่วมจะมีซากสัตว์ตาย ปรากฏในที่ต่าง ๆ ซึ่งจะต้องจัดการเก็บฝังโดยเร็ว สัตว์ที่มีชีวิตอยู่ซึ่งอดอาหารเป็นเวลานาน ให้รีบให้อาหารและนำกลับคืนให้เจ้าของ

    7. ซ่อมถนน สะพาน และทางรถไฟที่ขาดตอนชำรุดเสียหายให้กลับสู่สภาพเดิม เพื่อใช้ในการคมนาคมได้โดยเร็วที่สุด

    8. สร้างอาคารชั่วคราวสำหรับผู้ที่อาศัย เนื่องจากถูกอุทกภัยทำลายให้อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว

    9. การสงเคราะห์ผู้ประสบอุทกภัย มีการแจกเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และอาหารแก่ผู้ประสบภัย ความอดอยาก ความขาดแคลนจะมีอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งควรจะได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยบรรเทาทุกข์หรือมูลนิธิ และอีกประการหนึ่ง

    10. ภายหลังอุทกภัย เนื่องจากสิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จะทำให้เกิดเจ็บไข้และโรคระบาดได้


    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    - กรมอุตุนิยมวิทยา
    - การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
    - ศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    - กระทรวงศึกษาธิการ



    .


    http://hilight.kapook.com/view/52069

    .





     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ไหว้พระจันทร์

    ไหว้พระจันทร์

    คอลัมน์ รู้ไปโม้ด

    น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com

    ถึง น้าชาติ

    จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว ที่บ้านหนูก็ไหว้เหมือนกัน แต่ไม่ทราบที่มาของเทศกาลนี้น่ะค่ะ

    จาก หมวยอินเตอร์

    ตอบ หมวยอินเตอร์

    [​IMG]

    ปี นี้เทศกาลไหว้พระจันทร์ตรงกับวันที่ 22 ก.ย. เป็นธรรมเนียมของชาวจีนมาตั้งแต่โบราณว่าจะไหว้พระจันทร์ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติจีน คนจีนเรียกว่า "จงชิวเจี๋ย" เพราะอยู่ในช่วงกลางของฤดูใบไม้ร่วง

    ส่วนที่มาของขนมไหว้พระจันทร์นั้น มีเรื่องเล่ากันสืบมาแบ่งเป็น 2 เรื่องใหญ่ๆ เรื่องแรกเป็นตำนานสุดโรแมนติก

    เมื่อ ครั้งที่โลกยังมีดวงอาทิตย์ล้อมรอบ 10 ดวง แต่ละดวงผลัดกันให้แสงสว่างแก่โลก เหล่าเซียนบนสรวงสวรรค์พากันอิจฉาโลกจึงฉุดรั้งให้ดวงอาทิตย์ทั้ง 10 ดวงสาดส่องแสงมายังโลกพร้อมกัน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน "โฮ่วอี้" จึงยิงธนูเพื่อดับดวงอาทิตย์ไป 9 ดวง เหลือไว้ 1 ดวงเพื่อให้แสงสว่าง ชาวบ้านจึงยกย่องและแต่งตั้งให้เขาเป็นฮ่องเต้


    [​IMG]

    แต่ ดวงอาทิตย์ดวงที่ 9 นั้นเป็นราชบุตรขององค์เง็กเซียนฮ่องเต้ พระจักรพรรดิแห่งสวรรค์ พระองค์กริ้วและเสียพระทัยที่เสียราชบุตรสุดรักไป จึงสั่งให้นางกำนัลแห่งสวรรค์ ชื่อว่า "ฉางเอ๋อ" นำยาพิษไปให้โฮ่วอี้กินโดยหลอกว่าเป็นยาอายุวัฒนะ

    เมื่อพบหน้า ทั้งคู่ต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน นางมอบยาให้โฮ่วอี้ตามคำสั่งจริง แต่บอกว่ายานี้ ยังกินไม่ได้จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ระหว่างนั้นนางใช้ชีวิตคู่ร่วมกับคนรักนาน 7 วันและหาทางช่วยคนรัก แต่ในที่สุด ฉางเอ๋อยังหาทางช่วยโฮ่วอี้ไม่ได้ จึงตัดสินใจกินยาพิษเสียเอง

    ยา ดังกล่าวไม่ทำให้นางสิ้นชีพ แต่กลับทำให้นางตัวเบาหวิวและลอยขึ้นสู่ฟ้าจนถึงดวงจันทร์ นางตกใจมากเพราะเริ่มหายใจไม่ออกและไอ ทำให้ยาหลุดออกมาจากคอ จากนั้นนางก็บินไม่ได้อีกทำให้กลับมายังโลกไม่ได้และต้องอยู่บนดวงจันทร์ ตลอดไป

    นางกลายเป็นจันทราเทวีที่ประพรมน้ำอมฤตลงมาบนพื้นโลกในฤดูกาล เพาะปลูก นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองแก่ชาวไร่ชาวนา ชาวนาจึงทำขนมโก๋จากแป้งข้าวเจ้าเพื่อสักการะนางในคืนวันเพ็ญเดือน 8 เพื่อแสดงความกตัญญูต่อจันทราเทวี

    ส่วนอีกเรื่องหนึ่งออกแนวบู๊ หนังสือ "ตึ่งหนั่งเกี้ย" โดย จิตรา ก่อนันทเกียรติ เล่าว่าในยุคที่มองโกลเรืองอำนาจและยึดครองจีน ชาวมองโกลริบอาวุธของคนจีน บ้าน 3 หลังมีมีดใช้หั่นผักเพียง 1 เล่มเท่านั้น ชาวจีนจึงออกอุบายในการปลดแอกโดยคิดงานไหว้พระ จันทร์ขึ้นและทำขนมเปี๊ยะก้อนใหญ่ไส้หนาเป็นพิเศษเพื่อซ่อนสารในขนมนั้น แล้วให้มีธรรมเนียมแลกขนมเปี๊ยะกันระหว่างญาติมิตร แผนนี้ตบตาพวกมองโกลได้อย่างแนบเนียน

    ภายในสาร ระบุเวลากำจัดคนมองโกลว่าเที่ยงคืนของวันเพ็ญเดือน 8 ซึ่งเป็นคืนที่กำหนดให้มีงานไหว้พระจันทร์ ในคืนนั้นทุกบ้านพร้อมใจกันจัดงานไหว้พระจันทร์ ประดับโต๊ะไหว้ให้สวยงาม เพราะเป็นการไหว้เจ้าแม่กวนอิม อาหารที่ไหว้ใช้อาหารเจ มีผลไม้ และขนมไหว้พระจันทร์ พอเที่ยงคืนก็มีการตีเกราะเคาะไม้ส่งสัญญาณแก่กันว่าได้เวลาแล้ว ทุกครอบครัวก็พร้อมใจกันรุมฆ่าคนมองโกลด้วยมีดหั่นผักที่มีอยู่เล่มเดียว นั่นเอง

    เมื่อได้เอกราชคืนมา ชาวจีนจึงยึดถือเอาวันเพ็ญเดือน 8 เป็นวันไหว้พระจันทร์สืบต่อมา เพื่อรำลึกถึงการกู้ชาติจากพวกมองโกล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 27 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 21 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, :::เพชร:::+, nongnooo+, of_bd, sittiporn.s+, somlatri</td></tr></tbody></table>
    อ๊ะ มากันแล้วครับ


    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949

    เมื่อก่อนผมเคยมีเรื่องกับผู้ที่กำลังจะไหว้พระจันทร์

    แต่ต้องรีบถอนตัว

    กลัวเป็นเจ้ากรรมนายเวรกับเขาครับ


    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    สิทธิผู้บริโภค 5 ประการ

    ที่มา สคบ.

    [​IMG] รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ให้ความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภค โดยบัญญัติถึงสิทธิ
    ของผู้บริโภคไว้ในมาตรา 57 ว่า"สิทธิของบุคคลซึ่งเป็นผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองทั้งนี้ตามที่ กฎหมายบัญญัติ"
    พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ได้บัญญัติสิทธิของผู้ บริโภคที่จะได้รับความคุ้มครอง
    ตามกฎหมาย 5 ประการ ดังนี้ ​
    1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยว กับสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่ จะได้รับการโฆษณาหรือการ
    แสดงฉลากตามความเป็นจริงและปราศจากพิษภัยแก่ผู้บริโภค รวมตลอดถึงสิทธิที่จะได้รับทราบ ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอย่างถูกต้องและเพียงพอที่จะ
    ไม่หลงผิด ในการซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยไม่เป็นธรรม

    2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะเลือกซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยความ สมัครใจของผู้บริโภค และปราศจากการ
    ชักจูงใจอันไม่เป็นธรรม

    3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับสินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐาน
    เหมาะสมแก่การใช้ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน ในกรณีใช้ตามคำแนะนำหรือระมัดระวังตามสภาพของสินค้าหรือบริการนั้นแล้ว

    4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อสัญญาโดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจ

    5. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองและชดใช้ค่าเสียหาย เมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค
    ตามข้อ 1, 2, 3 และ 4 ดังกล่าว ​

    ----
     
  20. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    สวัสดีคุณหนุ่มและทุกท่านครับ

    กลับมาเมืองไทยโดยสวัสดิภาพแล้วครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...