แนวทางปฏิบัติธรรม โดย ท่าน ก.เขาสวนหลวง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฐาณัฏฐ์, 24 มิถุนายน 2010.

  1. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]
    แนวทางปฏิบัติธรรม
    โดย ท่าน ก.เขาสวนหลวง


    ผู้ปฏิบัติควรจะศึกษาให้เข้าใจเป็นลำดับไปดังนี้

    การศึกษาที่เรียนรู้ได้ง่าย ทำได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกกาละ ทุกขณะ ได้ผลทันที ไม่ต้องรอรับผลข้างหน้า ก็คือ ศึกษาในโรงเรียน กล่าวคือ ในร่างกายยาววาหนาคืบมีสัญญาใจครอง ในร่างกายนี้มีสิ่งที่น่าเรียนรู้ ตั้งแต่ขั้นหยาบจนถึงขั้นละเอียด

    ขั้นของการศึกษา

    ก. เบื้องต้น ให้รู้ว่ากายนี้ประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ ส่วนใหญ่ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม ส่วนย่อยได้แก่ ส่วนที่จับติดอยู่กับส่วนใหญ่ เป็นต้นว่า สี กลิ่น ลักษณะ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้มีลักษณะไม่คงทน (ไม่เที่ยง) เป็นทุกข์ เต็มไปด้วยของปฏิกูล พิจารณาให้ลึกก็จะเห็นไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร มีแต่สภาพธรรมล้วนๆ ไม่มีสภาวะที่ควรเรียกว่า “ตัวเราของของเรา” เมื่อตามเห็นกายอยู่อย่างนี้ชัดเจน ก็จะคลายความกอดรัดยึดถือในกายว่าเป็นตัวตน เป็นเรา เป็นเขา เป็นนั่นเป็นนี่เสียได้

    ข. ขั้นที่สอง ในส่วนนามธรรม (คือเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) กำหนดให้รู้ตามความเป็นจริง ล้วนเป็นเองในลักษณะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป คือเกิดๆ ดับๆ เป็นธรรมดา พิจารณาเห็นจริงแล้วจะคลายความยึดถือในนามธรรมว่า เป็นตัวตน เป็นเรา เป็นเขา เป็นนั่น เป็นนี่ เสียได้

    ค. การศึกษาขั้นปฏิบัติ มิได้หมายเพียงการเรียน การฟังการอ่านเท่านั้น ต้องมีการปฏิบัติให้เห็นประจักษ์แจ้งด้วยจิตใจตนเอง ด้วยการ

    (๑) ปัดเรื่องภายนอกทั้งหมดทิ้งเสียก่อน มองย้อนเข้าดูจิตใจตนเอง (จนรู้ว่ามีความแจ่มใส หรือมัวหมองวุ่นวายอย่างไร) ด้วยการมีสติสัมปชัญญะกำกับ รู้กายรู้จิตใจอบรมจนจิตทรงตัวเป็นปกติ

    (๒) เมื่อจิตทรงตัวเป็นปกติได้ จะเห็นสังขารหรืออารมณ์ทั้งหลาย เกิดดับเป็นธรรมดา จิตจะว่างวางเฉย ไม่ยินดียินร้ายและเห็นรูปนามเกิดดับเองตามธรรมชาติ

    (๓) ความรู้ว่าไม่มีตัวตน แจ่มชัดเมื่อใด จึงจะพบเข้ากับสิ่งที่มีอยู่ภายใน เป็นสิ่งที่พ้นทุกข์ ไม่มีการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง เป็นอมตะ ไม่มีความเกิด ความตาย สิ่งที่มีความเกิดย่อมมีความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นธรรมดา

    (๔) เมื่อเห็นความจริงชัดใจแล้ว จิตจะว่าง ไม่เกี่ยวเกาะอะไร แม้ตัวจิตเองก็ไม่สำคัญว่าเป็นจิต หรือเป็นอะไร คือ ไม่ยึดถือตัวเองว่าเป็นอะไรทั้งหมด จึงมีแต่สภาพธรรมล้วนๆ เท่านั้น

    (๕) เมื่อบุคคลมองเห็นสภาพธรรมล้วนๆ อย่างแจ่มแจ้ง ย่อมเบื่อหน่าย ในการทนทุกข์ซ้ำๆ ซากๆ เมื่อรู้ความจริงฝ่ายโลกและฝ่ายธรรมตลอดแล้วจะเห็นผลประจักษ์เฉพาะหน้าว่า สิ่งที่หลุดพ้นจากทุกข์นั้นมีอยู่อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องเชื่อตามใคร ไม่ต้องถามใครอีก เพราะพระธรรมเป็นปัจจัตตังคือรู้เฉพาะตนจริงๆ ผู้ที่มองเห็นความจริงด้านในแล้ว จะยืนยันความจริงอันนี้ได้เสมอ


    ก. เขาสวนหลวง

    .................................................

    หมายเหตุ

    สรุปแนวการปฏิบัติธรรมนี้ ท่าน ก. เขาสวนหลวงได้เรียบเรียงเขียนขึ้นด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2497 เพื่อพิมพ์ในหนังสือ “อ่านใจตนเอง” ท่าน ก. ได้สังเกตพิจารณาศึกษาค้นคว้าและปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ตามแนวนี้มาด้วยตนเอง และเป็นแนวทางที่ท่านได้ย้ำอธิบายแก่ผู้ปฏิบัติธรรม ณ เขาสวนหลวง เสมอมา


    http://www.dharma-gateway.com/
     
  2. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    จิตอัศจรรย์ท่าน ก. เขาสวนหลวง โดย หลวงตามหาบัว

    สายสัมพันธ์ในธรรม...ของท่านมิได้จำกัดในหมู่เพื่อนบรรพชิตเท่านั้น...มีฆราวาสจำนวนมากที่สนใจประพฤติปฏิบัติธรรม และสำหรับผู้ที่มีความมุ่งมั่นจริงจังไม่ว่าเพศภูมิใด ย่อมประจักษ์ผลแห่งธรรมภายในใจ...ขึ้นเป็นลำดับๆ ไป นักภาวนาหญิงหรือชายนั้นจะให้เหตุผลแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร หลวงตาท่านเคยได้ให้เหตุผลว่า

    “...การปฏิบัติไม่มีเพศ เรื่องมรรคผลนิพพานแล้วไม่เพศ เหมือนกับกิเลสไม่มีเพศ มีได้ด้วยกันทั้งนั้น ความโลภก็มีได้ทั้งหญิงทั้งชาย ความโกรธ ความหลง ราคะ ตัณหา มีได้ด้วยกัน มัชฌิมาปฏิปทาจึงมีได้ทั้งหญิงทั้งชาย เป็นเครื่องแก้กิเลสทั้งหลาย แก้ได้ด้วยกันทั้งนั้น ด้วยอำนาจความสามารถของตนแล้ว มีทางหลุดพ้นได้ด้วยเช่นเดียวกัน...”

    ด้วยเหตุนี้เองเมื่อโอกาสอำนวย...ท่านจะไปเยี่ยมเยียนถึงสำนักผู้ปฏิบัติธรรมเหล่านั้นเสมอ...เช่น สำนักชีบ้านห้วยทราย ของคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ สำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง ของอุบาสิกากี นานายน ในตอนนี้จะขอเล่าถึงตอนที่ท่านแวะเยี่ยมสำนักปฏิบัติธรรมเขาสวนหลวง ดังนี้

    ท่านเคยได้ยินกิตติศัพท์ชื่อเสียงของคุณยาย ก. เขาสวนหลวง มานนานแล้ว ว่าเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบควรแก่การเคารพกราบไหว้ แต่มีข้อประหลาดใจอยู่อย่างหนึ่งคือ เขาว่ากันว่าคุณยายเป็นคนไม่เอาพระ คือไม่ต้อนรับพระ สิ่งนี้จึงทำให้หลวงตาฯ อยากรู้ว่าเป็นจริงหรือ ? หรือว่ามีเหตุผลด้วยประการใดกันแน่ เพราะหากเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจริงๆ แล้ว ลักษณะเช่นนี้ไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ ท่านจึงไม่อยากเชื่อข่าวลือนี้นัก

    เหตุนี้เอง เมื่อมีจังหวะมาถึงในคราวท่านมากรุงเทพฯ เพื่อดูแลอาการอาพาธของท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ชึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านเอง ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อได้โอกาสอันควร ท่านจึงได้ไปเยี่ยมเยียนคุณยาย ก. ถึงสำนักฯ เขาสวนหลวง จ.ราชบุรี ด้วยตนเองเลยทีเดียว...

    พอเข้าไปถึงสำนักฯ เท่านั้น ไม่นานก็มีเสียงระฆังเคาะดังกังวานขึ้น เรียกให้สตรีนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายพากันหลั่งไหลมากราบท่าน และให้การปฏิสันถารต้อนรับเป็นอย่างดี โดยมีคุณยาย ก. เป็นหัวหน้าอยู่ ณ ที่นั้นด้วย

    หลังจากสนทนาพูดคุยกันได้ไม่นาน คุณยายกราบอาราธนานิมนต์ให้หลวงตาฯ แสดงธรรมแก่เหล่าอุบาสิกานักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ท่านจึงแสดงธรรมเน้นเรื่องจิตภาวนาเป็นสำคัญ...ทราบว่าหลังการแสดงธรรม คุณยายถึงกับประกาศขึ้นด้วยความอาจหาญในธรรมปฏิบัติของคุณยายเองแก่บรรดาลูกศิษย์ในสำนักฯ ว่า

    “ธรรมที่ท่านอาจารย์ได้แสดงให้พวกเราฟังนั้น สามารถยึดถือเป็นหลักประพฤติปฏิบัติได้ถูกต้อง ไม่มีผิดพลาดแม้เปอร์เซ็นต์เดียว”

    เหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นที่ประจักษ์แก่ตัวท่านเอง ดังคำกล่าวที่ท่านเล่าให้ผู้มากราบเยี่ยมคณะหนึ่งฟังว่า

    “ที่ว่าคุณยายไม่ต้อนรับพระนั้น หมายถึง พระประเภทโกโรโกโสไม่ได้เรื่องได้ราวต่างหาก ถ้าเป็นพระเคารพธรรมเคารพวินัยคุณยายท่านก็ไม่เป็น...จะว่าอะไรแม้แต่เราเองก็ไม่ต้อนรับพระประเภทนั้นเหมือนกัน...”


    คัดลอกบางตอนมาจาก...
    หนังสือหยดน้ำบนใบบัว คติธรรมและชีวประวัติ

    พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) หน้า ๒๑๓-๒๑๔
     
  3. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
  4. canopus

    canopus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +531
    ท่าน ก เขาสวนหลวงเป็นอีกท่านหนึ่งที่สอนธรรมมะได้ละเอียดแยบคายดีมาก ๆ เลย ผมเองก็ชอบฟังเสียงธรรมของท่าน แม้แต่องค์หลวงตามหาบัวฯ ก็เคยกล่าวยกย่องท่านไว้
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ท่านพุทธทาสกล่าวถึง ก. เขาสวนหลวง


    ท่านพุทธทาสได้กล่าวถึงท่าน ก. เขาสวนหลวง ในการสัมภาษณ์ลงหนังสือ “เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา” ในฐานะสหายธรรมทาน ว่า

    “สำหรับทางฝ่ายราชบุรีนั้น คุณกี นานายน ได้ร่วมมือในการเผยแผ่อย่างเต็มกำลังสติปัญญาของตน เป็นผู้มีความประสงค์เพื่อความรู้เรื่องธรรมะโดยแท้ ตลอดเวลาที่ติดต่อกันมาเพื่อธรรมะทั้งนั้น เมื่อค้าขายรวบรวมเงินทองได้ทุนสำรองไว้เป็นหลักแล้ว ก็ออกไปตั้งสำนักเองที่สวนหลวง ตอนจะออกไปก็ได้มาคุย มาบอก มาปรึกษา แกเป็นคนกล้าหาญ ไม่กลัวตาย มีลักษณะเป็นผู้นำ คิดจะเปิดสำนักสำหรับผู้หญิงขึ้นปกครองดูแลกันเอง ก็ทำได้อย่างที่แกคิด แกอ่านหนังสือพิมพ์พุทธสาสนา ศึกษามาอย่างดีแล้วค่อยมาพบ ผมก็ให้พักที่บ้านโยม กลางวันก็มาคุยกันใต้ถุนกุฎิ ตรงริมสระเล็ก (สวนโมกข์เก่า) เรื่องที่คุยกันก็เป็นเรื่องปรมัตถธรรม ที่แกได้ศึกษามาแล้ว มาซักถามเพื่อความเข้าใจ ก็ต้องนับว่าเป็นผู้หญิงพิเศษ ไม่แต่งงาน น้องสาวก็ไม่แต่งงาน และรับงานทางสำนักต่อมาเมื่อคุณกีตายแล้ว ตอนมาหาผม ไม่มีแววว่ามีความทุกข์อะไรมา มาแบบนักศึกษาธรรมะ แกอยากแต่งกลอน แต่แต่งไม่เป็น ผมเลยสอนให้ทางไปรษณีย์ ยังได้เอามาลงหนังสือพิมพ์พุทธสาสนาอยู่หลายชิ้นในสมัยนั้น”
     

แชร์หน้านี้

Loading...