เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ลุยทั่วแคว้น แดนที่ราบสูง
■ พระดี~ศรีอีสาน ■
~~~~~~~~~~~~~
"หลวงปู่โส กัสโป"
วัดป่าคำแดนเหนือ
เหรียญนั่งพานรุ่นแรก
===============

อริยเจ้าแผ่นดินที่ราบสูง มีอายุขัย "หลักร้อย" มากรูปที่สุดในประเทศไทย

ผ่าน"หลักร้อย" รุ่นเก่าไปหลายท่าน มาพบกับ หลวงปู่โส กัสโป แห่งวัดป่าคำแดนเหนือ ขอนแก่น อายุ "หนึ่งศตวรรษ" กับ 3 เดือน 8 วัน

--เกิด วันจันทร์ที่ 8 พ.ย.2458 บ้านก่อ อ.ม่วงสามสิบ อุบลราชธานี
--มรณภาพ 16 กุมภาพันธ์ 2559

อีกไม่กี่วันถึงวันครบรอบ 9 ปีมรณภาพของหลวงปู่โส นำวัตถุมงคลที่ทันท่านอธิษฐานจิตมาให้ร่วมบุญเป็นการรำลึกถึงอริยสงฆ์ทองคำอีกหนึ่งรูป

อริยเจ้าระดับที่...เก็บไว้ไม่เสียดาย ไหว้ไม่เสียมือ นับถือเป็นบุญ+ศิริมงคลแก่ตนเอง!!!

เหรียญเสมานั่งพานรุ่นแรก รุ่นสหธรรมิกซึ่งองค์ท่านเป็นสหายธรรมแข็งแรงยิ่งกับ "หลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาฯ" เมืองหมอแคน

แต่ "หลวงปู่โส" เป็นพระสงฆ์ที่ชมชอบการเก็บตัวมากกว่า ท่านถนัดถือธุดงค์อยู่ตามป่าเขา คนนิมนต์เป็นเจ้าอาวาสก็อยู่ไม่นาน ปลีกวิเวกหนีเข้าป่าอีก ต่อเมื่ออายุมากจึงออกจากป่ามาสร้างวัดป่าคำแดนเหนือตามคำเรียกร้องญาติโยม

หลวงปู่เป็นหนึ่งในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เพราะเป็นลูกศิษย์พระมหาสีทน กาญจโน อัศวินกองทัพธรรมยุคต้นของปู่มั่น แถมยังเป็นสหายธรรมกับ "หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต" แม่ทัพกองทัพธรรมเช่นกัน ความสัมพันธ์ของ "หลวงปู่โส" กับพระป่าสายนี้จึงแน่นแฟ้น..

โดยเฉพาะการบำเพ็ญเพียรกลางป่ากลางขุนเขาเป็นนิจ ซึ่ง "หลวงปู่โส" ถือวัตรปฏิบัติเกือบค่อนชีวิตไม่แพ้พระป่ากัมมัฏฐานแม้น้อยนิด...!

เหรียญเสมานั่งพาน ปี 2539 เนื้อทองฝาบาตรองค์งามไม่เคยผ่านการใช้ มอบร่วมบุญอริยเจ้าวัยเกินร้อย...

=======400=======

ความงามของเหรียญเสมานั่งพาน ในวาระหลวง
ปู่อายุ 82 ปีรุ่น "สหธรรมิก"

ตอกโค้ต "โส" นอกตารางยันต์ด้านขวามือเรา หนึ่งในเหรียญนั่งพานแถวหน้าของแผ่นดินอีสาน โดยเฉพาะเมืองหมอแคน

วงที่โค้ต-ขนาดเท่านั่งพาน
เกจิอาจารย์ที่โด่งดังทุกวัด
สะสมเป็นคอลแล็คชั่นนี้ได้
บูชาก็ดี ไม่ผิดหวังพุทธคุณ

 

ลุยทั่วแคว้น แดนที่ราบสูง
■ พระดี~ศรีอีสาน ■
~~~~~~~~~~~~~
"หลวงปู่เม้า 'ลิ้นดำ'วาจาสิทธิ์"
วัดสี่เหลี่ยม-บุรีรัมย์ รุ่นพิเศษ
===============

อายุเกินหนึ่งศตวรรษอีกแล้วครับท่าน...สำหรับ "หลวงปู่เม้า พลวิริโย" วัดสี่เหลี่ยม บุรีรัมย์ ปรมาจารย์ขลังยุคแรกก่อน หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง

หลวงปู่เม้า เกิดมาพร้อมกับ "ลิ้นดำ" หรือมีปานดำที่ลิ้น เมื่อบวชพระเคร่งปฏิบัติถึงขั้น...ก็เป็นผู้มี "วาจาสิทธิ์" ลือเลื่องจากแผ่นดินปราสาทสายฟ้ากระฉ่อนมาถึงเมืองกรุง นายทหาร-ตำรวจชั้นผู้ใหญ่-น้อย กราบกรานเป็นศิษย์มากมาย

กระทั่ง...จอมพลป.พิบูลย์สงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีจอมแคล้วคลาดจากการโดนปองร้ายหลายครั้ง แต่รอดพ้นจนเป็นสถิติประเทศไทย ก็ไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์ ได้รับตะกรุดที่หลวงปู่ทำให้!

ผู้สูงศักดิ์ในรั้ววังก็ฝากตัวเป็นศิษย์ เหรียญรุ่นพิเศษฉลองอายุ 100 ปีจัดสร้างโดย พลตรี พระจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลทิฆัมพร ผู้เคยเป็นประธานสร้าง "หลวงพ่อทวด-วัดช้างไห้-พระกริ่งเฉลิมพล-ปี 2505" วัตถุมงคลโด่งดังที่สุดของแผ่นดินมาแล้ว

สร้างครั้งแรกหมดอย่างรวดเร็วในวันเดียว ไม่เพียงพอกับความต้องการและความนิยมในยุคนั้น จึงจัดสร้างติดต่อโดยใช้แม่พิมพ์เดิม ถือเป็น "รุ่นพิเศษ" รุ่นเดียวไม่แตกต่าง

บางเหรียญตอกโค้ต บางเหรียญไม่ได้ตอกเพราะต้องรีบแจกจ่ายให้พอกับผู้ร่วมบุญที่มาร่วมงานวันเกิดครบ 100 ปีหลวงปู่มืดฟ้ามัวดินในสมัยนั้น ทั้งที่การเดินทางลำบาก

สมัยใหม่นี้ ก็นึกภาพ "หลวงปู่มหาศิลา" ยังไงก็ยังงั้น...

ทว่า จงอย่าลืมในช่วงพ.ศ.2517 แค่นึกถึงว่าจากเมืองกรุงจะเดินทางไปบุรีรัมย์ คนส่วนใหญ่ก็ท้อหัวหด แต่ศรัทธาที่มีต่อ "หลวงปู่เม้า"ถือว่าเข้มข้นน่าเหลือเชื่อ!

นำเหรียญรุ่นพิเศษวาระฉลอง อายุ 100 ปี หลวงปู่เม้า วัดสี่เหลี่ยม อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ให้ร่วมบุญ...

=======600=======

เนื้อทองแดงรมดำ แต่แผ่นทองแดงผสมหัวเชื้อชนวนมวลสารโลหะเก่าเข้มขลังหลายอย่างทำให้สีผิวเนื้อออกคล้ายทองผสม เหรียญเก่าเก็บ ไม่เคยผ่านการใช้

เหรียญรุ่นนี้เมื่อหลวงปู่นั่งอธิษฐานจิต แผ่นดินที่แห้งแล้ง ก็ปรากฏฝนตกกระหน่ำทำให้น้ำท่าที่ขาดแคลนกลับมาบริบูรณ์ใน อ.นางรอง และสถานที่ใกล้เคียง ยิ่งเป็นที่กล่าวขวัญตื่นตาตื่นใจถึงบุญญาบารมีหลวงปู่ทวีคูณ

☆☆☆ หลวงปู่เม้า เกิด 23 พฤษภาคม 2417 มรณภาพ ปี 2519 สิริอายุ 102 ปี 82
(((ไม่นับบวชเณร ตั้งแต่อายุ 13 ถือเป็น "องค์บริสุทธิ์"แห่งพระพุทธศาสนา))) ☆☆☆

ด้านหลังผิวหิ้งเล็กน้อย จากการนอนกล่องนานหลายสิบปี

2 ขอบข้าง
สวยสมบูรณ์
หู-ห่วงครบ

รูปไข่มาตรฐาน ยอดพระดี
ศรีอีสาน และของประเทศ
ที่ไม่ต้องร้องป่าวโฆษณา!

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 0554 3375 7 TH สังขะ

 

วันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะโรง
ใส่บาตรพระเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

หมอกพิษเมืองกรุงยังสาหัส แม่บ้านบ่นพึมว่าออกใส่บาตรเช้ามืดไม่ไหว งั้นไปร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตรเมืองใต้ไปก่อน บุญอนุโมทนาก็พอไหว ทำให้ในแต่ละวัน ใจเรายังประคองชิด ติดกับบุญอยู่บ้าง

 

ลุยทั่วแคว้น แดนที่ราบสูง
■ พระดี~ศรีอีสาน ■
~~~~~~~~~~~~~~
หลวงพ่อผัน ผาลิโก รุ่น ๑
เหรียญเนื้อเงิน 1 ใน 100
"หลวงปู่ฝั้น"เมตตาเสกให้
===============

วัดบุราณเรือง อ. สว่างแดนดิน เมืองสกลนคร ยุค "หลวงพ่อผัน ผาลิโก" เป็นเจ้าอาวาส ฟูเฟื่องด้วยชายฉกรรจ์ที่นิยมชมชอบเรื่อง เหนียวเนื้อคงหนังขลังสุดติ่งกระดิ่งวัว ต้องดิ่งมาที่วัดนี้ เพราะ "พระอาจารย์ผัน" เป็น "อาจารย์สัก" เลื่องชื่อที่สุดของเมือง!

ต่อมาท่านเข้ามอบตัวเป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ซึ่งหลวงปู่ก็สอนให้ละวางเรื่องไสยเวทย์เพราะเป็นคนมีพลังจิตกล้าแข็ง ใจมุ่งมั่นแกร่งกล้า หากปฏิบัติธรรมเต็มตัวจะประสบความสำเร็จ

"หลวงพ่อผัน" โยนเข็มสักทิ้งแม่น้ำโขง หันเข้าหาทางธรรมตามหลวงปู่ฝั้นแนะนำและแนะแนว ท่านจึงเติบโตรุดหน้ากระทั่งได้เป็นเจ้าคณะตำบลได้รับสมณศักดิ์ "พระครูสุนทรศีลาภรณ์"( ผู้มีศีลเป็นอาภรณ์อันงดงามยิ่ง)

ขุนเขา เงาคน ฉายานาม บ่งบอกสถานะแต่ละประเภทได้เป็นอย่างดี หลวงพ่อผัน ผาลิโก จึงเป็นเพชรเม็ดงามประดับริมโขงอีกรูป

และท่านได้สร้างวัตถุมงคลที่ระลึกถึง "หลวงปู่ฝั้น"ออกในนามวัดบุราณเรืองหลายรุ่น ตั้งแต่หลวงปู่มรณภาพ ส่วนท่านเองมรณภาพปี 2561 จัดงานพระราชทานเพลิงในปี 2562...

เหรียญรุ่นแรก ตั้งแต่สมัยเป็น พระอาจารย์ผัน ผาลิโก สร้างในปี 2519 นำไปมอบให้ "หลวงปู่ฝั้น" เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยวแล้วท่านก็ปลุกเสกเองเต็มกำลังเรื่อยมา

มอบให้เหล่าศิษย์ร่วมบุญในปี 2520 หลังจากหลวงปู่ฝั้น ถึงแก่กาลมรณภาพ ไม่นาน...

เหรียญเนื้อทองแดงผิวไฟ นวะ เงิน(100เหรียญ) ทองคำไม่แน่ใจว่ามีหรือไม่...

เคยนำให้สมาชิกร่วมบุญบ้าง แจกไปบ้างในปี 2562 หลังจาก"หลวงพ่อผัน" มรณภาพ เป็นเหรียญทองแดงผิวไฟล้วน

ผ่านมา6 ปี คราวนี้เปิดกรุนำ "เนื้อเงิน" สุดยอดเช้งวับ 1 ใน 100 ให้บูชา เหรียญสุดหายาก และยากที่จักหางามเสมอเหมือน...

=======1,500=======

ผิวปรอทเงินอาบทั่วสรรพางค์ ความงามที่ถ่ายทอดยังห่างไกลเหรียญจริงที่มีประกายเงินระยิบ ตอกโค้ตรูปเพชร ด้านบ่าขวาหลวงพ่อผัน สัญลักษณ์ของเพชรที่กำลังเปล่งประกายในตัวท่าน

ศักดิ์ศรีรุ่น ๑ รุ่นแรกของพระขลัง พระดี ไม่ต้องตอกสีตีไข่มาก!!!

ยันต์ห้า พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ กำกับด้วย นะ มะ พะ ธะ หัวใจแม่ธาตุ ยืนยันความครบเครื่อง เรื่องขลัง เหนียว เมตตา แคล้วคลาด ฯ

เหรียญรูปไข่ใหญ่ สร้างได้
สวยและเรียบง่ายไม่รกรุงรัง

 

"หลวงพ่อผัน ผาลิโก"
เหรียญทองแดงรุ่น๑
===============

อย่าปล่อยให้เนื้อเงินเหงา ในเมื่อมีเหรียญทองแดงสุดงามระดับแชมป์โค้งคารวะ ก็สมควรจัดไปด้วย

หลวงพ่อผัน ผาลิโก วัดบุราณเรือง สว่างแดนดิน พระผู้ไปสว่างอย่างสง่างาม เหรียญรุ่นแรก...

=======700=======

เหรียญงามเหมือนเนื้อนวะ เก็บหรือบูชาเหรียญเดียวครบถ้วน ทั้งความงามความเข้มขลัง และโค้ตคม ลึก ชัด

อีกปีเดียวก็อายุถึง "ครึ่งศตวรรษ" แต่ดูความงามสิ เหมือนกับเพิ่งปั้มจากแท่นเมื่อวาน เป็นชุดที่เก็บรักษามาดีมากๆในยุคที่กำลังฟิตเสาะหาพระขลังหนังเหนียว!!!

เหรียญจริงงามกว่าภาพถ่ายหลายเท่า ผิวเหรียญออร่ากระจาย แต่ถ่ายภาพได้แค่นี้

ท่านใดที่บูชาทั้ง "เหรียญเงิน+ทองแดง" ไปพร้อมกัน คิดราคาบุญเพียง 2,000ถ้วน ก็พอ!

 

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
เหรียญกาญจนาภิเษก
===============

ยังคงเลาะเลียบแถบจังหวัดติดแม่น้ำโขง ซึ่งมีอริยเจ้าทั้งพระป่า-พระบ้านคับคั่ง

แวะเมืองหนองคาย พบกับ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ยอดขุนพลกองทัพธรรมที่มิต้องสาธยายคุณสมบัติ เขียนถึงท่านมาหลายหน จัดวัตถุมงคลท่านให้ร่วมบุญกันก็ไม่น้อย

รุ่นกาญจนาภิเษกปี 2539 เป็นเหรียญที่สร้างไว้สุดสวยจนอดเลี่ยมเก็บไว้ไม่ได้ แต่ถึงเวลาก็งัดออกมาให้สมาชิกร่วมบุญแบบพระสร้างใหม่ไร้วิทยายุาธเห็นแล้วอาจขบขันในใจ...

=======400=======

หลวงปู่นั่งสมาธิต็มองค์ในตลับพุกหรือพรหมอย่างดี เลี่ยมเก็บมาตั้งแต่ทำบุญจากวัดเพราะความงามของเหรียญและความเข้มขลังพลังอริยเจ้าอันเป็นเนื้อนาบุญแห่งพระศาสนา

หนึ่งในพระสงฆ์ทองคำองค์แท้ ที่สมควรเคารพบูชาอย่างยิ่ง!

อัฐิธาตุท่านแปรเป็น "พระธาตุ" สิ้น และ หลวงตามหาบัวเคยรับรองถึงท่านไว้นานแล้วว่า เป็นผู้หลุดพ้น !!!

ตอกโค้ต "ร" นามย่อหลวงปู่เหนือเข่าซ้าย สวยและชัดมาก

ตรากาญจนาภิเษกกับชื่อรุ่นถวายพระพร สำนักสงฆ์จิตรลดา อันเป็นหนึ่งเดียวของประเทศ พร้อมขึ้นคอบูชาได้เลย

เทียบกับเหรียญอะไรก็งามแต้
สม"เหรียญล้ำค่า"พุทธศาสตร์

 

.
ลิงนี่ เห็นอยู่ ว่า ฝึกได้
ปีนต้นไม้ ต้นมะพร้าว
นี่ ฝึก ได้ เก็บลูกมะพร้าวได้
ยกมือ ไหว้ ได้
นี่ ให้ยืน ให้นั่ง ให้รอ นี่ ทำได้
ลิงเป็นสัตว์ แต่รู้ภาษา คือฝึกได้
ทำ ได้
ส่วนคน นี่ ยิ่งรู้ภาษา กว่าลิง
ฉนั้น ก็ต้อง ฉลาดกว่า รู้มากกว่า
ทำได้มากกว่า
วันๆลิงมันทำงาน เก็บมะพร้าวขาย
ดูว่ามันไม่ได้ทำกรรม ก่อกรรมใดๆ
ตายไป อาจไปเกิดเป็นคนได้
แต่คนนี่ ถ้าวันๆ ทำกรรม ก่อเวร
นี่ อาจตายไป เกิดเป็นลิงได้
เป็นคนแล้วมีโอกาส แต่ไม่ทำดี
ก็เรียกว่า อายลิง
จำไว้

(หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพุธ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะโรง
ใส่บาตรพระเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

วันพระแรกของเดือนกุมภาพันธ์ หนุ่ม-สาว ทำบุญใส่บาตร ได้ร่วมอนุโมทนายามบ่ายเวลาดี ทีไทม์ ดื่มชากาแฟผสมพลังบุญ สดชื่นลื่นคอ

 

"หลวงปู่"ตักเตือน เป็นคนทั้งที
อย่าทำตัวอาย "มังกี้" เชียวนะ...

ดิรัจฉาน...ผ่านฝึกฝน
ชวนฉงน......ผลพวงเพริศ
เกิดเป็นสัตว์....มัดใจเพริด
เผลอเพลินเพลิด..เลิศเกินคน
☆ เจ้าจ๋อกัง.....ฟังรู้เรื่อง
ชงแล้วเชื่อง...ครบเครื่องข้น
คนกับสัตว์....วัฏจักรวน
อย่าสัปดน..ทำตนต่ำสัตว์!

หมายเหตุ...เพริศ = ดียิ่ง,ดีเลิศ
-----เพริด = เตลิด,กระเจิดกระเจิง
-----เพลิด = อารมณ์ชอบใจไม่รู้เบื่อ

 

■ พระดี~ศรีอีสาน ■
~~~~~~~~~~~~~~
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
"ลาภ-ผล-พูน-ทวี"
=============

โภคทรัพย์+แม่นางกวักจากพระอริยเจ้า ระดับ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน เมืองแม่ย่าโม ศิษย์เอกรูปสุดท้ายของพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล เชื่อขนมกินได้ว่า เมื่อท่านตั้งใจให้เป็น มหาลาภ มหารวย ทำมาหากินคล่องตัว สำหรับเหล่าศิษย์ พรอันประเสริฐจากท่านย่อมเป็นไปตามนั้น

ขอเพียงตั้งมั่นอย่าวอกแวกในความศรัทธา ไม่ช้าก็เร็ว ผลที่ดีย่อมปรากฏ..!

เหรียญลาภผลพูนทวี มั่งมีศรีสุข หลังแม่นางกวัก "หลวงพ่อพุธ" เมตตาอธิษฐานจิตในปี 2539 และอีกไม่นานท่านก็เลิกปลุกเสกวัตถุมงคล มุ่งสร้างสาธารณประโยชน์ ตั้งมูลนิธิช่วยโรงพยาบาลหลายแห่ง และอบรมสอนสั่งธรรมะญาติโยมตลอดเวลาเป็นยอดนักวิปัสนาจารย์ที่สอนลูกศิษย์ไว้มากที่สุดท่านหนึ่ง

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ละสังขาร 15 พฤษภาคม 2542 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินาถ เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ( เมื่อครั้ง ดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร) ในการพระราชทานเพลิง 31 พฤษภาคม 2543

อาจเป็นเหรียญแม่นางกวักรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อเมตตาอธิษฐานจิต"ทิ้งทวน" มอบร่วมบุญกับความงาม...

=======700=======

เนื้ออัลปาก้าหรือนิเกิ้ลกะหลั่ยทอง พบเห็นน้อย ปกติเจอแต่เนื้อทองแดงผิวไฟ สะสมรุ่นนี้ของท่านมานาน มีเก็บไว้ไม่น้อย เจอกะหลั่ยทองนี้แค่เหรียญเดียว!

พระนามพระพุทธเจ้า๕ พระองค์ สถิตด้านบนศีรษะหลวงพ่อ ต่อด้วยพระคาถาเรียกลาภผล นะ ชา ลี ติ ง่ายๆไม่ต้องแปล เป็นเหรียญโภคทรัพย์เต็มทรง

ตอกโค้ต "พุทธ" ด้านหลังแม่นางกวัก

กลมใหญ่ทรงนิยม30ปีที่แล้ว
ปากกาวงโค้ต "พุทธ" ชัดลึก

 

เหรียญ"วันตำรวจ"13 ตุลา
"หลวงพ่อพุธ"+แม่นางกวัก
==============

สร้าง-เสกพร้อมกับเหรียญ "ลาภ ผล พูน ทวี" เพียงเปลี่ยนด้านหน้าจากองค์หลวงพ่อพุธ เป็น "ตรากรมตำรวจ" ตราแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ "โจราเห็นคร้าม ผีปิศาจเห็นขยาด"!

ด้านหลังคงบล็อคเดิม "แม่นางกวัก-ถุงเงินทอง" เนื้อนิเกิ้ลกะหลั่ยทองผ่องโสภา มอบร่วมบุญ...

=======500=======

ตรากรมตำรวจหรือ"ตราแผ่นดิน" ไม่ใช่ตำรวจก็พกเหรียญนี้ได้ไม่โดนจับข้อหาแอบอ้าง รายละเอียดการสร้าง-เสก บันทึกอยู่รอบวงด้านนอกครบ ไม่หลงรุ่น

แม่นางกวักกับโค้ต "พุทธ" ชุดเดียวจุดเดียวกับเหรียญหลวงพ่อ เลือกเอาว่าจะบูชาหรือใช้โภคทรัพย์เหรียญใด ถ้าพกเหรียญกรมตำรวจ น่าจะเหมาะกับนักพนันขันต่อ ล่อเจ้ามือหมดตูด เพราะเจ้ามือมัก "แพ้ทาง" หมาต๋า-ฮ่า

แต่ทำมาหากินถูกทางถูกทิศน่าจะนิมนต์ "หลวงพ่อพุธ" ติดคอติดกระเป๋า เพราะท่านเข้มขลังพลังบริสุทธิ์สุดติ่งที่สุดรูปหนึ่งในยุทธจักรนักกีฬาทางจิต มี"พลังจิต" เข้มแข็งมากเสก สั่งได้ดังใจหมาย

หากินตรงไปตรงมา อธิษฐานกราบพลังท่านช่วยหนุนบ้าง ก็เหมือนมี "ลมใต้ปีก" พุ่งฉลุย!!!

หรือจะทำน้ำมนต์แก้โรคภัยไข้เจ็บเสนียดจัญไรก็ได้ทุกประการ เพราะอดีตนั้น "หลวงพ่อพุธ" เป็น 'วัณโรค' เจียนอยู่เจียนไป แต่ได้พลังพุทธะจาก "หลวงปู่ฝั้น อาจาโร" เสกเป่าประคองไว้ จากนั้น หลวงพ่อพุธก็อธิษฐานจิตรักษาตนเองจนหายขาดได้น่าเหลือเชื่อ...

พลังการปัดเป่าโรคภัยจึงมีอยู่ในวัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานให้นำไปใช้บูชาแน่นอน

ขนาดกลมใหญ่เท่าเหรียญ
ลาภผลพูนทวี "หลวงพ่อพุธ"
ตอกโค้ต "พุทธ" ตัวเดียวกัน

 

"หลวงปู่มั่น ทัตโต"
-------------------
เทพเจ้าสามเหลี่ยมมรกต
เทพเจ้าแห่งนาจะหลวย
เทพเจ้าแห่งความเมตตา
เทพเจ้าภูหมากจอง
===============

มีนักศึกษาทำวิทยานิพนธ์เป็นการวิจัยเรื่องราวของ หลวงปู่มั่น ทัตโต วัดบ้านโนนเจริญ อ.นาจะหลวย อุบลราชธานี โดยเฉพาะ...

เป็นการค้นคว้า เจาะลึกอย่างจริงจัง ถึงอัตชีวิตของ หลวงปู่มั่น ทัตโต สอบถามผู้เคยมีชีวิตในสมัยหลวงปู่/ พระสงฆ์หลายรูป/ ชาวบ้าน/เจ้าหน้าที่ทหาร และ ลูกศิษย์จำนวนมาก/หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น-ส่วนกลางฯ

นักศึกษาได้พบความจริงอันชวนตื่นตะลึงเกี่ยวกับ "หลวงปู่มั่น" เถราจารย์วัย 104 ปีแห่งเมืองดอกบัวงามนี้ ท่านได้รับฉายากล่าวขานเอาไว้ ดังที่พาดหัวถึง 4 ฉายา ไม่เคยมีพระสงฆ์รูปใด เคยได้รับและปรากฏมาก่อน

"เทพเจ้าดินแดนสามหลี่ยมมรกต"...หมายถึงสมรภูมิช่องบกอันเคยเป็นดินแดนพิพาทกับเพื่อนบ้าน ลาว,เขมร เป็นแผ่นดินบรรจบกันของ 3 ประเทศ มีความไม่สงบเกิดขึ้นเสมอในการล่วงล้ำเขตแดน

นักรบไทยที่ออกศึกสมัยนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับนักศึกษาว่า พวกเขารอดตายเพราะ วัตถุมงคลของ หลวงปู่มั่น ทัตโต ที่อาราธนาก่อนทำศึกทุกครั้ง และรอดทุกคนที่มีของๆท่าน

ทั้งนี้รวมถึงชาวบ้านที่ประสบภัยลูกหลงจากการสู้รบเนืองๆ แต่ก็ได้ "หลวงปู่มั่น" ปัดเป่า รวมทั้งเป็นที่พึ่งอันอบอุ่นใจ ฉายาเทพเจ้าแห่งดินแดนสามเหลี่ยมมรกต จึงปรากฏกับท่าน

"เทพเจ้าแห่งนาจะหลวย"...เป็นธรรมดาเมื่อ หลวงปู่มั่น ปักหลักที่วัดบ้านโนนเจริญ อ.นาจะหลวยในยุคที่ลัทธิคอมฯกำลังเบ่งบาน การเข้าออกหมู่บ้านหรือวัดเป็นเรื่องยาก แต่บารมีกับความเมตตาของ "หลวงปู่มั่น" สามารถสยบเรื่องยากเป็นเรื่องง่าย ภัยอันตรายหายไปเมื่อหลวงปู่อยู่ การรับฉายานี้จึงไม่เกินเลย

"เทพเจ้าแห่งความเมตตาสรรพสัตว์"...กล่าวกันว่าเมื่อ "หลวงปู่มั่น" ไปอยู่หมู่บ้านใด ที่แห่งไหน อย่าว่าแต่ผู้คนจะสงบสุขแม้แต่สัตว์ป่าก็มีชีวิตที่ปราศจากผู้ล่า หากหลวงปู่เห็นว่าหมู่บ้านนั้นมีคนใจบาปหยาบช้าล่าสัตว์ตัดชีวิตมาก สอนยาก ท่านก็จะธุดงค์ ไปสร้างสำนักสงฆ์ สร้างวัด สร้างความเจริญหมู่บ้านอื่น

และเป็นที่รู้กันในหมู่นายพรานว่า หากวันใดออกล่าสัตว์ เผลอนำวัตถุมงคลหลวงปู่ติดตัวไป ก็จะ "แห้ว" รับประทานทันที ต่อให้เก่งกาจแค่ไหนก็มือเปล่ากลับบ้าน ด้วยเหตุฉะนี้ หลวงปู่จึงมีฉายาในหมู่ชาวบ้านดังนั้นอีกประการ

"เทพเจ้าภูหมากจอง"...เป็นการนำอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อุบลราชธานี มาเป็นชื่อในคำขวัญของอ.นาจะหลวยว่า...

"นาจะหลวยรวยน้ำใจ ถิ่นวัฒนธรรมไทยสี่เผ่า เทพเจ้าภูหมากจอง เนืองนองน้ำตก ถ้ำบักเตว"

เป็นที่รู้กันดีว่า หลวงปู่มั่น ทัตโต คือเทพเจ้าแห่งภูจองนายอย เป็นที่ยอมรับกันในหมู่ชาวบ้านแถบถิ่นนั้นมานาน การที่ทางราชการยกเอา"หลวงปู่มั่น" ขึ้นมาเป็นคำขวัญ คือการให้ความสำคัญสูงสุดกับหลวงปู่อย่างแท้จริง!!!

ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับหลวงปู่อีกมากมหาศาล โดยเฉพาะเรื่องปาฏิหาริย์ ประสบการณ์ที่บันทึกกันไว้ รวมทั้งวัตถุมงคลอันลือชื่อ

กระทู้นี้ นำวัตถุมงคลชั้นยอด "หลวงปู่มั่น ทัตโต" มอบให้สมาชิกร่วมบุญบูชามาเป็นเวลานาน ล้วนเป็นสุดยอดที่สุดของ เทพเจ้าแห่งดินแดนสามเหลี่ยมมรกต ผู้ได้ครอบครองพึงระลึกไว้เถิดว่า นี่คือ "เทพ" องค์จริงที่ไม่ได้ปั้นแต่ง ยกย่องขึ้นเอง แต่เป็นที่ยอมรับทั้งทางโลกและทางธรรม

มีท่านอยู่กับตัวและกับบ้าน อย่าลืมอาราธนาบารมี จะเห็นผลอันเป็น "ปัจจัตตัง" ในไม่ช้า !

จัด..."แม่นางกวัก เนื้อดิน7 ป่าช้า" พิมพ์ซุ้มกอ มอบให้เป็นกำลังใจต่อสู้เศรษฐกิจสักองค์...

=======900=======

ปิดทองเดิมด้วยมือหลวงปู่ สุดสวยอลังการ ทองเก่าดั้งเดิมฝังในเนื้อ ไม่เคยผ่านมือใครเลย อยู่ในกล่องเก่าตั้งแต่ปี 2521

คาถามหาลาภ บาลีผสมตัวธรรมโบราณของหลวงปู่ พุทธคุณครอบคลุม โดยเฉพาะด้านโชคลาภชัดเจน

กล่องเก่ายุคก่อนกับ
ขนาด-หญิงบูชาได้
ผู้ชายก็อาราธนาดี

 

วันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปวัดกลางชูศรีเจริญสุข นำวัตถุมงคลเก่าที่ทัน หลวงปู่บุดดา ถาวโร อธิฐานจิตปลุกเสกไว้เมื่อท่านยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ จำนวน ๑,๐๓๘ องค์

ได้ตั้งจิตน้อมถวายแด่องค์หลวงปู่ โดยรักษาการเจ้าอาวาสหลวงพ่อมหาเนตรท่านมารับ เพื่อให้ทางวัดออกให้บูชาร่วมทำบุญทุกอย่างกับทางวัดครับ

อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะโรง
ใส่บาตรพระเช้าวันนี้
อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

น้องเปาหายไปนานครัน กลับมาด้วยบุญใหญ่ให้ร่วมอนุโมทนา

บุญแห่ง "วัตถุทาน" ของอริยสงฆ์องค์แท้อีกรูป หลวงปู่บุดดา ถาวโร น้องๆธรรมทาน กราบกรานถวายเป็นเนื้อนาบุญของพระศาสนาด้วย ยิ่งดีหลายยกกำลัง อนุโมทนาครับ

 

ต่อด้วยบุญใส่บาตรยามเช้า ร่วมอนุโมทนาให้มีความสุขอีกรายการ

 

"หลวงปู่มั่น ทัตโต"
"แหวกม่านจัมโบ้"
เนื้อดิน 7 ป่าช้า!!!
=============

มีหลายท่านคงสงสัยตะหงิดว่า เนื้อดิน 7 ป่าช้า ประกอบด้วยมวลสารอันใดบ้าง?

อาจจะเคยเขียนนานมาแล้ว ไม่เป็นไร "ข้อมูล" ยังอยู่ เขียนใหม่ให้ความรู้ ความเข้าใจในศาสตร์และไสยเวทย์ด้านนี้อีกสักหน...!

พระเครื่องที่สร้างด้วย ดิน 7 ป่าช้า ความจริงมีมวลสารพิเศษของแม่พระธรณีหรือ ปฐวีธาตุล้ำค่าอีก 6 ประการ...

--"ดิน 7 โป่ง" โป่งก็คือสถานที่เหล่าส่ำสัตว์มาชุมนุมกินในป่า เพราะมี"แร่ธาตุ" เช่น "เกลือแร่" ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดินโป่งเป็นตัวแทน "พลังงาน" ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บตามหลักไสยขาว ต้องเก็บให้ครบทั้ง 7โป่ง บางที่ต้องดั้นด้นไปเอาในป่าลึก

--"ดินขุยปู" ส่วนใหญ่เป็นปูทุ่งนา หรือบางทีเป็นปูบกตามป่าเขาที่มีน้ำตก หนอง บึง ดินเหล่านี้นวลเนียนสวย เป็นองค์ประกอบผสมแล้วเนื้อหาของวัตถุมงคลงดงาม

ส่วนความหมายในด้านมนตราและความสัมฤทธิ์ผล นักเลงศาสตร์ด้านนี้ ยกให้เป็นตัวแทนมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยมส่งผลแห่งความร่ำรวย!

--"ดิน 7 ท่า" จะเป็นท่าน้ำ ท่ารถ จุดสัญจรของผู้คน ดินบริเวณนี้พลังงานหลากหลายทั้งด้านดี ด้านร้าย แต่ความที่มีพลังงานมากเหลือเฟือ เอามาปรับใช้กับวัตถุมงคลยิ่งส่งพลังแรงแล้วแต่จะอธิษฐานฤทธิ์ด้านใด ส่วนใหญ่จะเป็นด้านแคล้วคลาด กำบังกาย อยู่คนหมู่มากก็ไม่มีใครมองเห็น สังเกตพบถ้าตั้งจิตไว้เช่นนั้น

--"ดิน 7 สวน" หรือเป็นดิน 7 นาก็ได้ ความหมายชัดเจน เป็นดินที่ส่งผลอุดมสมบูรณ์ ด้านโภคผลพูนสุข อิ่มหนำสำราญ มีกิน มีใช้ ไม่มีคำว่าอดอยากปากแห้ง

--"ดิน 7 วัด" หรือการขูดไคลเจดีย์ให้ครบ 7 แห่ง 7 สถานที่ ลองคิดดูว่าวัดแต่ละแห่ง พระสงฆ์องค์เจ้าท่านทำวัตรเช้า-เย็น สวดมนต์คร่ำเคร่ง และพิธีกรรมมงคลมากมาย ดินนี้จึงเป็นองค์แทนมหามงคลครอบจักรวาล อธิษฐานเอาตามใจชอบเถิด ยิ่งเจอครูบาอาจารย์ผู้ประเสริฐยิ่งส่งผลแรงโลด เกินคาดคิด

--"ดิน 7 ถ้ำ" หากทราบว่าถ้ำที่เก็บดินมานั้น เคยเป็นที่พำนักปฏิบัติธรรมปลีกวิเวกของพระภิกษุสงฆ์ทรงคุณ หรือเป็นถ้ำที่ "องค์ปู่ฤาษี" ตนใดก็ตามเคยใช้บำเพ็ญเพียรสร้างตบะบารมี

ดินนี้ก็แทบจะเป็นดินที่ไม่ต้องปลุกเสกหรือผสมมวลสารอื่นเลย ก็ศักดิ์สิทธิ์ในตนเกินพรรณนา แต่อย่าลืมการเก็บจากสถานที่เหล่านั้น ต้อง "พลีเจ้าถ้ำ" ให้ถูกวิธี หาไม่แล้วก็จักเป็นโทษแก่ผู้เก็บภายหลัง

--"ดิน 7 ป่าช้า" เป็นดินมากอาถรรพ์ สั่งสมพลังงาน 2 โลก 2 ภพไว้มากเกินคาดถึง ยิ่งเป็นป่าช้าเก่าอายุเป็นร้อยปี อย่าเที่ยวทำล้อเล่น ถ้าวิชาบารมีไม่ถึง "ของเข้าตัว" เป็นบ้าเสียสติ ตายศพไม่สวยมานักต่อนัก แล้วต้องเก็บให้ครบ 7 ป่าช้า คิดเอาเองว่าควร "คูณ" พลังงานความแรงเข้าไปกี่ร้อยแรงผี...เอ้ย กี่ร้อย-พันเท่า?!?

ดิน 7 ป่าช้า จึงไม่ใช่ของที่จะเอามาทำเล่นๆ พูดเล่นพูดหัวสนุกปาก ต้องเป็นครูอาจารย์ที่สามารถ "กำกับ" ได้อีกมิติจริงๆ จึงจะเอาอยู่ สามารถอธิษฐานใช้ได้ทุกด้าน...อยู่ยงคงกระพันชาตรี เตือนภัยล่วงหน้า แคล้วคลาดอันตราย ปัดเป่าลมเพลมพัด ภูติผีปิศาจแค่ได้กลิ่นดินก็หนีกระเจิง ไม่ทันได้เห็นองค์พระองค์ครู !!!

นี่คือ "ความหมาย" ของพระเครื่องที่ประกอบด้วย "ดิน 7 ป่าช้า" และดินอีก 6 แห่ง 6 สถานที่มงคล+อาถรรพ์ เพื่อพลีมาสร้างวัตถุมงคลสืบทอดพระพุทธศาสนา

สำหรับภาคอีสาน ครูที่ทำถึงมีมาก แต่ผู้ทำจริง เสียสละเวลาทำให้ลูกศิษย์มีน้อย เพราะสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล

ส่วน หลวงปู่มั่น ทัตโต ไม่ต้องพูดถึงความมีวิชาสุดขั้ว เพราะเพราะชั่วชีวิตท่านคือ เถระผู้คลุกคลีกับผืนดิน ผืนป่า ถือธุดงค์รุกขมูลอาจิณต์ ในวัยที่ผ่านร้อน หนาว ฝน หลักร้อย หลวงปู่คือผู้รู้กาล ผ่านแจ้ง ผจญวิญญาณภูติผีปิศาจ นางไม้ นางโกง อาถรรพ์ป่านับไม่ถ้วน การนำ "ดิน 7 ป่าช้า" แรงสุด เฮี้ยนสุด สร้างวัตถุมงคลสำหรับท่านแล้วไม่ยุ่งยากเท่ากับการจะหารูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม

หลวงปู่มั่น ทัตโต เทพเจ้าแห่งดินแดนสามเหลี่ยมมรกต จึงสร้างพระเครื่องชุด "ดิน 7 ป่าช้า" ไว้ให้เหล่าศิษย์ผู้ใฝ่ของแรง และผู้เคารพบูชาไว้สืบทอดพระพุทธศาสนา

เป็น "ตำนาน" แห่งแดนดินที่ราบสูง และเมืองดอกบัวงามสืบไปสำหรับพระชุดนี้

โดยเฉพาะ องค์ที่จะมอบร่วมบุญวันนี้ ขอบอกว่า เป็น 1 ใน 100 "หลวงปู่มั่น" ท่านสร้างพิเศษไว้แค่ ๑๐๑ องค์เท่าอายุ 101ปี ของท่านในปี 2521

เรียกว่า..."พระสมเด็จแหวกม่านจัมโบ้" นอกจากดิน 7 ป่าช้า 7 ท่า 7 โป่งฯ แล้ว หลวงปู่ยังใส่ "เส้นเกศา" ให้ไม่อั้น มีทั้งปฐวีธาตุ+แร่เหล็กไหล ฯ

การปลุกเสกก็ได้ หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง ซึ่งท่านไม่ค่อยข้องแวะด้านนี้นักนอกจากปฏิบัติธรรมเข้มข้นอย่างเดียว แต่ท่านเคารพนับถือหลวงปู่มั่นมาก ช่วยบรรจุพลังกำกับให้อีกแรง

พระหลักหมื่นแดนอีสาน หรือหลักพันปลายแล้วแต่ความงาม มอบร่วมบุญบูชาพร้อมกล่องเดิมๆ มีเพียงองค์เดียวที่ทำบุญมาเมื่อ 40 กว่าปีก่อน หลวงปู่ไม่ให้ใครเกิน1 องค์...มอบหนึ่งในร้อยนี้เพียง...

=======4,500=======

แหวกม่าน แหวกอุปสรรค น้ำทะเล 7 ม้วน 7 คาบสมุทรก็ผ่านฉลุย

เปิดฝากล่องถ่ายภาพให้เห็นความงามสมบูรณ์ที่สุด สวยอย่างแชมป์ แจ่มอย่างไม่เคยโดนมือใคร

เส้นเกศาหลวงปู่ด้านหน้ามีเพียบ บางเส้นเห็นตาเปล่า แต่ถ้าลงกล้องจะเห็นเส้นยาว-สั้นนับสิบ โดยเฉพาะด้านซ้ายมือเรา ส่วนมวลสารมงคลหายากที่สุดอย่างอื่นก็มีให้เห็นทั่วทั้งองค์รวมทั้ง "เนื้อว่าน" 108 ที่บดใส่ไว้เพียบ

พระชุดนี้อีกไม่นานก็จะเป็นประวัติศาสตร์เมืองอุบลฯ อาจต้องหาซื้อกันด้วยราคาเกิน 5 หลัก เมื่อเวลาผ่านไปและสภาพเศรษฐกิจกระเตื้อง เพราะเป็นชุดแห่ง "ตำนาน" 1 เดียวไม่แค่เมืองอุบลฯ ยังเป็นทั้งของภาคอีสานด้วย!!!

ด้านหลัง วงให้ชมเส้นเกศาหลวงปู่บางส่วน และทุกองค์จะมีลายมือหลวงปู่จารให้แผ่วๆแบบ "จารแห้ง" อยู่ด้านบนมุมขวามือเรา แต่องค์นี้วางทับอยู่ในกล่องนานมาก รอยจารจึงเลือนลบไป

เกศาอริยเจ้า
ด้านข้างซึ่งมี
ครบทั้ง4ด้าน
นับบน-ล่างด้วย
แค่ได้เส้นเกศา
หลวงปู่เกินคุ้ม

จัมโบ้เทียบด้วยพญานาค
กล่องเก่าอายุเกือบ 50 ปี
งามท้ากินตัวองค์ไหนก็ได้
เชื่อว่าหาองค์ที่ 2ทาบยาก