ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๘

รายการที่ ๑๓
บูชาเป็นคู่ ของสำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม
รายการแรก พระผงสมเด็จองค์ปฐม พิมพ์ห้าเหลี่ยม(พิมพ์พระขุนแผน) รุ่นวิมานแก้วพระนิพพาน ของ สำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม ปี 2559 ด้านหน้าจะเป็นสมเด็จองค์ปฐมบรมครูทรงเครื่องจักรพรรดิ์ ด้านหลังจะเป็นยันต์มหาเศรษฐีของหลวงพ่อฤาษี (หรือเรียกอีกชื่อว่ายันต์เงินไม่ขาดบ้าน ซึงเป็นวิชาของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ซึ่งท่านให้ลงไว้ที่ขื่อบ้าน หรือคานบ้าน เวลาคนรอดไปมาก็จะโชคดีมีลาภ การเงินการทองจะดีมาก)
สำหรับรุ่นนี้มีข้อมูลดังนี้ครับ
รุ่นนี้สร้างอยู่ 5 เนื้อครับ เนื้อสีแดงจะนิยมสุดเนื่องจากรวมผงทุกชนิดครับ(จะมีผงพระเก่าจะมีสมเด็จบางขุนพรมปี 09 พระผงเจ้าคุณนรฯ พระกรุบางกระทิง มีว่านเถาวัลย์หลง ผงพรายกุมาร ผงว่านดอกทองเป็นต้น) จะมีแบบฝังตะกรุดและไม่ฝังตะกรุด
รายชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ที่อธิษฐานจิต พุทธาภิเษกในงานนี้
๑) ท่านพ่อมนัส มันตชาโต สำนักฝึกกรรมฐานฟื้นฟูจิตเขาแหลม จ.จันทบุรี
๒) พระครูสังฆรักษ์อดิศรไชย กันตสาโร วัดบางละมุง
๓) พระครูพิพิธศาสนการ (หลวงพ่อเหลือ) วัดเขาช่องลม
๔) พระครูสังฆรักษ์บุญส่ง อุปสโม วัดเขาแร่ ในพระสังฆราชูปถัมภ์ จ.สุโขทัย
๕) ตุ๊พ่อมหาสิงห์ วิสุทโธ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ จ.ลำพูน
๖) พระครูภาวนาพิลาศ (หลวงตาวัชรชัย) วัดเขาวงถ้ำนารายณ์ จ.สระบุรี
๗) พระครูวิลาศกาญจนธรรม(พระอาจารย์เล็ก) วัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
๘) พระอาจารย์เอกลักษณ์ วัดปากน้ำโจ้โล้ จ.ฉะเชิงเทรา
เด่นทางเมตตา มหาลาภ อย่างอื่นก็ครบทุกด้านเช่นกันครับ ต้องบอกว่าเป็นของดีราคาเบา
ราคาวัดให้บูชาที่ 399
รายการที่ 2 เหรียญเศรษฐีเงินล้านเนื้อกะไหล่ทอง(เงินไม่หมด) ของ สำนักสงฆ์อนันต์บูรพาราม ปี 63
สำหรับข้อมูลของเหรียญรุ่นนี้มีดังนี้
สร้างตามแบบเหรียญเศรษฐีวัดท่าซุงแต่อาราธนาพระสมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิมาเป็นประธานด้านหลังเป็นถุงเงินพร้อมด้วยยันต์มหาลาภ มีกินไม่มีอด ของหลวงปู่ปาน และยันต์พระคาถาเงินล้านล้อมรอบ ถุงเงินรัดด้วยนาคบาศ หลวงพ่อพระครูวิราชกาญจนธรรม(หลวงพ่อเล็ก) ให้ตั้งชื่อว่าเหรียญเศรษฐีเงินล้าน
พุทธาภิเษกในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2563 นี้
มีพระเถระ พระเกจิอาจารย์ร่วมอธิษฐานจิต ๙ รูป
๑.ท่านพ่อมนัส มันตชาโต ---สำนักฝึกกัมมัฏฐานฟื้นฟูจิตบ้านคลองโป่ง จันทบุรี
๒.หลวงพ่อวิชัย วัฑฒโน ---วัดแม่สลาบ เชียงใหม่ ศิษย์หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
๓.หลวงพ่อพระครูวินัยธรอดิศรไชย กันตสาโร ---วัดพรประพานิมิต (เขาดิน) ชลบุรี
๔.หลวงพ่อพระครูสังฆรักษ์บุญส่ง อุปสโม ---วัดเขาแร่ในพระสังฆราชูปถัมภ์ สุโขทัย
๕.พระครูวิชัยสารคุณ หลวงพ่อหนุน สุวิชโย ---วัดพุทธโมกพลาราม สกลนคร
๖.พระครูไพโรจน์ภัทรคุณ ---วัดสระพัง นครปฐม
๗.พระครูวิลาศกาญจนธรรม หลวงพ่อเล็ก ---วัดท่าขนุน กาญจนบุรี
๘.ท่านเจ้าคุณพระภาวนาประชานุกูล วัดวีระโชติธรรมาราม จ.ฉะเชิงเทรา
๙.พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปัญญาคโม ---วัดพุทธพรหมยาน ฉะเชิงเทรา
สร้างจำนวน สองเนื้อคือกระไหล่เงินและทอง รวมกัน 3000 เหรียญเท่านั้นครับ
สองรายการให้บูชาราคา 400 จัดส่ง 40 จองได้สามวัน

 

รายการที่ ๑๔
ให้บูชาเหรียญหลวงพ่อธุดงค์ เนื้อทองแดงของเจ้าคุณหลวงตาวัชรชัย วัดเขาวงถ้ำนารายณ์ จ.สระบุรี ตอกโค้ด
สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้
สำหรับเหรียญหลวงพ่อธุดงค์นี้ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง หลวงพ่อฤาษีอีก 2 องค์(ที่เป็นสหธรรมิกและบวชรุ่นเดียวกันกับหลวงหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
เข้าพิธีพุทธาภิเษก 2 พิธีดังนี้
พิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี ในวันที่ 6 ก.ค. ๒๕๖๖ โดยมีครูบาอาจารย์นั่งอธิษฐานจิต 14 รูปดังนี้
นำโดย พระราชภาวนาพัชรญาณ วัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) พระอาจารย์มนัส มนฺตชาโต สำนักฟื้นฟูจิตเขาแหลม พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร วัดจันทาราม (ท่าซุง) พระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ วัดพระพุทะบาทถ้ำป่าไผ่ พระราชสุวรรณเวที วัดสุวรรณคีรี กรุงเทพฯ พระครูสาครสิทธิวิมล วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ พระครูวิลาศกาญจธรรม วัดท่าขุนน พระครูปลัดสมนึก สุมธมฺมถิรสทฺโธ วัดจันทาราม (ท่าซุง) พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม วัดโพธิ์ลังกา พระครูปลัดสุริยัณ จนฺทวณฺโณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี พระครูสุวัจจริยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดบางนมโค พระวิสิฐคณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี พระครูศรีวรกิจจารักษ์ รองเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี พระมหาสมหมาย ธมฺมเสวี รองเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี
และเข้าพิธีพุทธาภิเษกเสาร์ ๕ วัดท่าซุง ในวันที่ 22 ก.ค. 2566
พุทธคุณป้องกันภัยทุกอย่างครอบจักรวาลของคนดีมีศีลธรรม พรหมเทวดาทุกชั้นฟ้า สัตว์ใหญ่สัตว์น้อยเมตตาไม่ทำร้าย ป้องกันภัยทั้งที่เป็นและมองไม่เห็น ประดุจหลวงปู่หลวงพ่ออยู่กับเราตลอดเวลา ท่านมีอานุภาพเยี่ยงไร ก็เปรียบเสมือนอนุภาพนั้นคุ้มครองเราด้วย อธิษฐานเองเถิด
- หลวงตา(วัชรชัย) -

ให้บูชา เหรียญละ 300 บาท จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๑๕
เชือกทองมงคล จักรพรรดิ ของพระอาจารย์เอ บ้านสุมโน
สำหรับข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้ (จากเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ)
มาถึงวัตถุมงคลพิธีจักรพรรดิ ที่ต่อคิวรอมานานหลายเดือน ตอนนี้ถึงเวลาที่เเอดได้รับคำสั่งให้เปิดบูชาเสียที ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ วัตถุมงคลประเภทเชือก ที่หลวงพ่อบ้านสุมโนจัดสร้างขึ้น จะมีมาเเล้วถึงสองรุ่น ไม่ว่าจะเป็น เชือกเเดงจาตุเทวะ หรือ เชือกเขียวหายโศกก็ตาม ซึ่งเเต่ละรุ่นนั้นเรียกได้ว่ามีประสบการณ์ให้เห็นมาเเล้วทั้งสิ้น โดยเฉพาะเชือกเเดงจาตุเทวะ ที่จัดสร้างขึ้นในช่วงโรคระบาดรุนแรงพอดี โดยหลวงพ่อบ้านสุมโนเอง ยังโดนสั่งให้พกเชือกเเดงติดตัวไว้ตลอด เพื่อป้องกันอันตรายจากโรคติดต่อที่รุนแรงอยู่ในขณะนั้น ซึ่งท่านเองได้พูดว่า ตั้งแต่พกเชือกแดงที่ตัวทำเอง ก็รู้สึกไม่ติดไข้ง่ายเหมือนแต่ก่อน
ส่วนเชือกเขียวหายโศกนั้น ใครที่ได้พกใช้ต่างค่อยๆ เเก้ปัญหาชีวิตที่เคยติดขัด อับจนหนทางได้อย่างลงตัว มีทางออกใหม่ๆ คลายทุกข์คลายโศกอย่างคาดไม่ถึง ชีวิตจึงคล่องตัวกันมากขึ้น…
สำหรับเชือกรุ่นนี้ มีความพิเศษกว่ารุ่นก่อนๆตรงที่ เป็นเชือกแห่งจักรพรรดิโดยตรง ความเป็นจักรพรรดิจะศักดิ์สิทธิ์เช่นใด เชือกนี้ก็เช่นนั้น ย่อมคล้องความเป็นจักรพรรดิ และความเป็นมงคลทุกประการเข้าด้วยกัน พร้อมผลักดันสิ่งเลวร้ายให้ไกลออกไป
จะผูกห้อยวัตถุมงคลก็ดี ของมงคลต่างๆก็ดี ย่ิงเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้วัตถุเหล่านั้น เป็นมงคลยิ่งๆขึ้นโดยอัตโนมัติ จะไว้ในรถ ในบ้าน ในที่เก็บของมีค่า หรือจะนำไปผูกข้อมือ ทำเป็นสร้อยคอ หรือทำเป็นสายสิญจน์สู่ขวัญ ขจัดปัดเป่าเภทภัย และสิ่งอัปมงคลทั้งหลายก็ได้ ผูกข้อมือเด็กๆไว้เพื่อความสบายใจของผู้ปกครองก็ดี เพราะในปัจจุบันนี้ทั้งภัยมืดและภัยสว่าง ต่างถาโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง จนเราแทบตั้งสติไม่ทัน โดยเฉพาะภัยที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับฉับพลันไม่ทันตั้งตัว...
เนื่องจากในพิธีนี้ หลวงพ่อเอได้นำลูกแก้วที่เป็นสื่อตรงหลวงปู่ทวดเข้าประสิทธิ์เชือกนี้ด้วยเช่นกัน ก็คงไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆอีกแล้วล่ะครับ
ด้วยเหตุนานาประการ สีของเชือกจึงถูกกำหนดลงมาให้เป็นสีทอง เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นมงคลสูงสุด ดั่งสมญานามแห่งเชือกทองมงคลจักรพรรดินี้
แม้นำเชือกทองมงคลจักรพรรดิ ผูกไว้บริเวณหน้าบ้าน ก็สามารถดึงดูดความเป็นมงคล มั่งมี ศรีสุข คลายทุกข์ คลายโศก ปรับสมดุลพลังงานด้านลบให้กลายเป็นบวก ยิ่งบ้านไหนมีการสวดมนต์ เจริญจิตภาวนาเป็นปกติ ยิ่งเห็นผลได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน
ถ้าผูกไว้ในรถ จะเดินทางไปไหนก็แคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาหากินก็คล่องตัว เจริญรุ่งเรืองดี
มีความบังเอิญอีกเรื่องหนึ่งคือ วันที่หลวงพ่อบ้านสุมโน ท่านสั่งให้เเอดนำเชือกทองมงคลจักรพรรดิออกให้บูชาในคราวต่อไป ช่วงค่ำๆวันเดียวกันนั้น มีลูกศิษย์กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า เชือกที่ผูกกระดิ่งลมรัตนะขาดแล้ว เลยยังไม่รู้จะใช้เชือกอะไรมาผูกแทนดี...
จะเรียกว่าพอดีก็คงไม่ผิด อย่างน้อยก็เป็นนิมิตเล็กๆเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่า ถึงเวลาและวาระอันเหมาะสมเเล้วจริงๆ กับการออกให้ร่วมบุญบูชา เชือกทองมงคลจักรพรรดิ
และเท่าที่เเอดสังเกตมาโดยตลอด หากมีนิมิตเชื่อมโยงที่พอดีลักษณะนี้ ก็มักจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่สนับสนุนกันเกิดขึ้น โดยที่วัตถุมงคลที่ได้รับคำสั่งให้เปิดบูชาขณะนั้น จะสงเคราะห์ในด้านนั้นๆพอดี…
มีให้บูชาเพียง 1 ซอง บูชา 300 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ (ปิดรายการ)

 

รายการที่ ๑๖
บูชาเป็นคู่ (วัดเดียวกัน)
รายการแรกศิลาน้ำอธิษฐาน (ก้อนหินแม่น้ำโขง มีจารครับ ขนาดใหญ่กว่าเหรียญ 5 บาทตามภาพ) หินแม่น้ำโขงมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว) รุ่นย้อนยุค ของวัดอาวุธ หลวงปู่มหาศิลา จ.กาฬสินธิ์อธิษฐานจิตเดี่ยววันที่ 22 พฤษภาคม 2567
รายละเอียดมีดังนี้
ศิลา น้ำอธิษฐาน นี้ ตั้งแต่ คุณแม่บุญเรือน ปลงสรีรสังขาร ไม่ได้จัดสร้างอีกเลย
มาวาระมงคลพิเศษ ที่มีพระเถระผู้ทรงวิทยาคุณที่มีเมตตาแผ่ไพศาลปรากฏทั่วประเทศ คือ หลวงปู่ศิลา (พระราชวัชรธรรมโสภณ) จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งนามของท่านเป็นมงคลยิ่งและตรงกันกับนามมงคลวัตถุของคุณแม่บุญเรือน คือ ศิลา (น้ำอธิษฐาน)
ในวาระวันวิสาขบูชา 2567 และ เป็นวาระรำลึกครบ 130 ปี แห่งชาตกาล (และ ครบ 60 ปี แห่งการปลงสรีรสังขาร) คุณแม่บุญเรือน ทางวัดอาวุธฯ จึงจัดสร้าง ศิลาน้ำอธิษฐาน คุณแม่บุญเรือนเป็นพิเศษขึ้น ในจำนวน 9,999 ก้อน โดยมียันต์ พุทโธ ประทับกำกับทุกก้อน
ในการนี้ ได้รับประกอบพิธีอธิษฐานจิต โดย หลวงปู่ศิลา ณ วัดอาวุธฯ ในวันวิสาขบูชา ตรงกับวันพุธ ที่ 22 พฤษภาคม 2567 เวลา 19.09 น.
หมายเหตุ ศิลา ที่นำมาอธิษฐานนี้ เป็นศิลากรวดแม่น้ำโขง และ ศิลาบาหลี อินโด ประด้วยสี ขาว สี ดำ และ เหลืองน้ำผึ้ง
ประชาชนไปร่วมงานเพื่อบูชาศิลาน้ำนี้ในวันงานเป็นจำนวนหลักพันครับเพื่อบูชาศิลาน้ำ อีกหน่อยน่าจะต้องการกันครับ
รายการที่ 2 ภาพคุณแม่อุบาสิกาบุญเรือน โตงบุญเติม เลี่ยมกรอบเดิม ด้านหลังจาร พุทโธ พิธีเสก2 กันยายน 2566 ออกวัดอาวุธ(สำหรับภาพคุณแม่อุบาสิกาบุญเรือนท่านให้พรไว้ว่าจะอัดออกมากี่ครั้งก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิมทุกประการ)
ผมมีให้บูชาแค่ 1 ชุดเท่านั้น บูชาชุดละ 500 บาทครับ จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๑๗
ให้บูชาพระผงรูปเหมือนเกศาครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ.ลำพูน ปี 24 (มีใบฝอยเดิม)
มวลสารการสร้าง
เกศาท่านครูบา ผงธูปจากวัดที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ 70 จังหวัด อาทิ พระธาตุดอยสุเทพ วัดพระแก้ว พระธาตุพนม พระปฐมเจดีย์ ฯลฯ ครั่ง ชัน แผ่นทองคำเปลว ว่านสเน่ห์จันทร์ขาว ว่านพญานางกวัก ว่านสามพันตำลึง ว่านนาคบ่วงบาศ ว่านมหานิลดำ ว่านทรหด ว่านงาช้าง ว่านหางช้าง ดอกบัวสัตตบงกช ดอกมะลิ ดอกหอมไกล ดอกราตรี ดอกแก้ว ดอกจำปา ดอกจำปี ดอกบุญนาค ดอกสารภี ส้มป่อย และดินอีก 7 มหานคร
องค์เกศาท่านครูบาได้จัดสร้างตามศาสตร์โบราณเมืองเหนือไว้ถูกต้องทุกขั้นตอน คงความศักดิ์สิทธิ์ ความเข้มขลัง แบบฉบับล้านนาครับ
องค์หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา และองค์หลวงปู่ครูบาธรรมชัย ทำพิธีพุทธาภิเษก ท่านครูบาทั้งสอง นั่งปลุกเสกในอุโบสถวัดพระพุทธบาทตากผ้าทั้งวัน พระมหาสมจิตร โชติมนฺโต เป็นผู้สร้าง
ให้บูชา 260 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๑๘
ให้บูชาพระเนื้อดินเผา ของหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว พระอริยะเจ้าแห่งสุพรรณบุรี ปี 05 เสกในวันเสาร์ 5 ทางโบราณถือว่าเป็นวันแรง เหมาะกับการเสกวัตถุมงคลเป็นอย่างยิ่ง ว่ากันว่าหลวงปู่กวยได้รับการนิมนต์ให้มาร่วมเสกพระช่วงในปี 2500 และ 2505 และท่านได้รับพระของหลวงพ่อขอมกลับไปแจกที่วัดด้วย
หลวงพ่อขอมท่านมรณภาพแล้วสรีระสังขารไม่เน่าเปื่อยครับ พระเครื่องของท่านสร้างไว้มีจำนวนถือว่าเป็นพระดีราคาเบาประสบการณ์สูง เคยมีคนนำไปลองยิงแล้วมีผลเป็น มหาอุตม์ ด้วย
ให้บูชา 200 จัดส่ง 40 จองได้สามวัน

 

รายการที่ ๑๙
ให้บูชาพระเนื้อดินเผา พิมพ์พระพุทธโคดม ของหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว พระอริยะเจ้าแห่งสุพรรณบุรี ปี 05 เสกในวันเสาร์ 5 ทางโบราณถือว่าเป็นวันแรง เหมาะกับการเสกวัตถุมงคลเป็นอย่างยิ่ง ว่ากันว่าหลวงปู่กวยได้รับการนิมนต์ให้มาร่วมเสกพระช่วงในปี 2500 และ 2505 และท่านได้รับพระของหลวงพ่อขอมกลับไปแจกที่วัดด้วย หลวงปู่กวยท่านยังนำพิมพ์นี้มาทำเป็นพระเครื่องของท่านด้วยครับ
หลวงพ่อขอมท่านมรณภาพแล้วสรีระสังขารไม่เน่าเปื่อยครับ พระเครื่องของท่านสร้างไว้มีจำนวนถือว่าเป็นพระดีราคาเบาประสบการณ์สูง เคยมีคนนำไปลองยิงแล้วมีผลเป็น มหาอุตม์ ด้วย
ให้บูชา 230 จัดส่ง 40 จองได้สามวัน(ปิดรายการ)

 

รายการที่ ๒๐
ให้บูชาล็อกเก็ตท่านปู่ท่านย่า ด้านหลังติดมวลสาร ของพระอาจารย์เอ บ้านสุมโน
ผมขอนำรายละเอียดจากเกษมธรรมบำเพ็ญบุญ ได้นำข้อความบางช่วงบางตอนมาครับ
วันเสาร์ที่ ๔ มิถุนายน ๖๕ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ
หลวงพ่อเอได้จัดพิธีบวงสรวง พุทธาภิเษกวัตถุมงคล ซึ่งท่านได้อัญเชิญลูกเเก้วจักรพรรดิองค์ครู เเละจุยเจียเยลโล่ มาเป็นองค์ประธานในการเสก จึงเปรียบเสมือนมีขุมพลังอันมหาศาลแผ่ลงไปยังกองวัตถุมงคล เเละเพิ่มความพิเศษเข้าไปอีกคือ ลูกเเก้วหลวงปู่ทวด ก็ได้ถูกอัญเชิญมาเข้าพิธีด้วย เเอดสังเกตมาตลอด เมื่อใดที่ลูกเเก้วหลวงปู่ทวดได้มาอยู่ในพิธีพุทธาภิเษก งานนั้นจะเป็นการรวมพลของพระโพธิสัตว์ เเละวัตถุมงคลในพิธีก็จะออกเเนวฝืนกรรมอยู่เเทบทุกครั้ง เเอดได้ยินหลวงพ่อเอท่านเล่าว่า ไม่คิดว่า พระ พรหมเทพ เทวดา โดยเฉพาะ ท่านปู่ ท่านย่า เเละ ท่านเเม่ จะสงเคราะห์ลูกหลานมากถึงเพียงนี้..
พระอาจารย์เอได้ลงบันทึกไว้ว่า
๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๕ (เสาร์ ๕ พุทธาภิเษก)
พิธีวันนี้ ถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ตามสายครูบาอาจารย์ ซึ่งสามารถทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลได้ ดังนั้น ก่อนงานไม่นาน อาตมาจึงได้รับคำสั่งแบบเร่งด่วน ให้รีบสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาโดยเร็ว เพื่อให้ทันงานเสาร์ ๕ ที่จะถึงนี้ หนึ่งในนั้น ก็คือล็อคเก็ตท่านปู่ท่านย่า ที่ทุกคนเพิ่งร่วมบุญกันไป...โดยก่อนถึงวันงาน ได้มีการขึ้นกราบพระ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหมด เพื่อขอบารมีท่านเมตตามาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลให้ ตามวันเวลาที่กำหนดไว้
แต่สิ่งที่อาตมารู้สึกตื่นเต้นขึ้นอีก คือ การปรากฏตัวของท่านพี่ทั้ง ๔ องค์ ท่านทั้งหมดคือลูกของหลวงพ่อ ท่านแม่ มาทุกยุคสมัย ท่านมีความเก่งกล้าสามารถทุกด้าน มาถึงตอนนี้บารมีเต็มแล้ว ท่านจึงอยู่ในเขตอันสูงสุด และได้เมตตามาช่วยเสกวัตถุมงคลชุดนี้ ทำให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์พิเศษแบบเกินคาด ถือเป็นบุญของลูกหลานอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมบุญกัน
เมื่อถึงเวลาที่กำหนด จึงเริ่มทำพิธีบวงสรวงชุมนุมเทวดา จากนั้นจึงเริ่มเข้าสมาธิหลับตาเพื่อเข้าสู่ช่วงเวลาพุทธาภิเษก ทันทีที่หลับตาลง ภาพท่านปู่ท่านย่าปรากฏข้างหน้าแบบชัดเจน เห็นผิวกายเป็นแก้วใส ฉาบทาไว้ด้วยประกายสีทองเจิดจ้าที่มาจากเครื่องประดับ ระยิบระยับ งามตางามใจอะไรเช่นนี้ ท่านปู่ท่านย่า เปล่งรัศมีแบบไม่มีประมาณ ทำให้สว่างไปทั่วจักรวาลอันเป็นอนันต์ ได้แต่คิดว่า ปู่กับย่าของเราทำไมช่างยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ และแล้วลำแสงหนาทึบสีทอง ได้พุ่งลงไปที่กองวัตถุมงคล อาตมามองเห็นวัตถุมงคลแต่ละชิ้นปลิวลอยขึ้นหมุนรอบตัวเอง แตกกระจายกลายเป็นผงละเอียดเล็กๆ พร้อมกับแสงแห่งรัศมีอันหนาทึบนั้น เข้าผนึกกลืนผงละเอียดของวัตถุมงคลที่ล่องลอยอยู่ ให้เกิดเป็นประกายสีสันสวยงาม จากนั้นไม่นานผงละเอียดเหล่านั้นก็กลับวิ่งเข้ามารวมตัวกันใหม่ กลายเป็นวัตถุมงคลแต่ละชิ้นอย่างเดิม เพิ่มเติมคือมีประกายแห่งแสงสีต่างๆเข้มข้น นี่เรียกได้ว่า เป็นการเสกทุกอณูจริงๆ
ความเป็นท่านทั้งหมด ปรากฏเป็นนิมิตรูปแบบต่างๆ พุ่งตรงกระแทกเข้าสู่กองวัตถุมงคลอย่างไร้ขีดจำกัด อาตมานั่งดูด้วยความเพลิดเพลินใจในนิมิตต่างๆที่ปรากฏ ท่านให้หมดหน้าตักตามที่ท่านบอกไว้จริงๆ ทั้งปัญญาความเฉลียวฉลาด ทั้งเมตตา มหาอำนาจ ทั้งโปรด ปราบ ลาภ ผล ต่างวิ่งเข้าสู่กองวัตถุมงคลแบบไม่เกรงใจ ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน นิมิตแห่งอาวุธรูปแบบต่างๆ ทั้งของท่านปู่และท่านย่า ก็ทยอยปรากฏขึ้นมา เพื่อพุ่งลงไปยังกองวัตถุมงคลแบบไม่ลังเล...(ถ้าว่างจะมาต่อให้จบ)
เบื้องต้นวัตถุมงคลทุกชิ้น ได้รับพลังงานที่ส่งผ่านมาจากท่านปู่ท่านย่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้กองวัตถุมงคลส่องประกายสวยสดงดงามเป็นลำดับๆไป ลูกแก้วจักรพรรดิทั้งหมดที่ท่านสั่งให้เตรียมไว้ ต่างหมุนรวมกลายเป็นหนึ่งเดียวกัน เจิดจ้าราวกับพระอาทิตย์ทรงกลดตอนเที่ยงวัน เข้าปกคลุมหุ้มห่อวัตถุมงคลทั้งหลาย แสงแห่งแก้วจักรพรรดิเข้าแทรกซึมทุกอณูของวัตถุมงคลทุกชิ้น พร้อมกับนิมิตที่ท่านปู่ท่านย่า ทรงใช้แก้วจักรพรรดิองค์จริงของท่าน ส่งพลังงานลงมาพร้อมกัน แม้ท่านท้าวมหาราชต่างยืนประจำทิศ ทรงฤทธานุภาพมากล้น ควบคุมพิธีกรรมอันเป็นมงคล เพื่อให้งานมีความราบรื่น บริสุทธิ์บริบูรณ์ เกิดความศักดิ์สิทธิ์เหลือประมาณ อีกทั้งยังช่วยเข้าสำทับเสกเป็นระยะๆ เพิ่มความเข้มขลังจนเกินคาด
จากนั้นท่านปู่จึงแยกเสกวัตถุมงคลเฉพาะของท่าน ส่วนท่านย่าและท่านแม่ ก็แยกเสกวัตถุมงคลเฉพาะในส่วนที่ท่านสั่งไว้ (รายละเอียดจะมีให้อ่านช่วงที่วัตถุมงคลแต่ละชิ้นออกให้บูชาหน้าเพจ ซึ่งมากมายเกินกว่าจะอธิบายได้ในตอนนี้) เมื่อเสกเสร็จ ท่านได้ตั้งชื่อวัตถุมงคลและอธิบายรายละเอียดการใช้งานไว้ทั้งหมด ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ช่างน่าทึ่งเหลือเกิน
เมื่อท่านปู่ท่านย่า และท่านแม่เสกเสร็จ ต่อไปจึงได้เห็นท่านพี่ทั้ง ๔ องค์ ส่งรัศมีสีเหมือนแก้วใสๆ พุ่งเข้าที่กองวัตถุมงคล เพิ่มกำลังเต็มอัตรา แม้แสงนั้นจะมีความสวยงาม แต่พลังงานที่แฝงอยู่ ชวนขนพองสยองเกล้าเสียนี่กระไร โดยเฉพาะท่านพี่ พรสวรรค์ ผีสางหรืออสุรกายที่ว่าดุร้าย เมื่อได้ยินนามท่านพี่เท่านั้น จะเกรงกริ่งถอยกรูดไปในทันที บารมีของท่านจะมากมายเพียงใด ท่านก็ใส่ลงไปในวัตถุมงคลเพียงนั้น ต้องถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นท่านพี่ทั้ง ๔ องค์ เมตตามาสงเคราะห์ให้ในการนี้...มหัศจรรย์
ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้น คือความเมตตา ของหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์(นวม) วัดอนงคารามวรวิหาร คือ ก่อนเวลาบวงสรวง ได้มีการสนทนาพูดคุยกับญาติโยมร่วมชั่วโมง ซึ่งตอนหนึ่ง ได้เล่าถึงเรื่องราวความชำนาญในวิชากระสุนคดของท่าน แต่ไม่คาดฝันเลยว่า ท่านจะเมตตามาสงเคราะห์ให้ถึงเพียงนี้ วิชากระสุนคดนั้น ถ้าหยิบวัตถุชิ้นใดขว้างออกไป ต่อให้เป้าหมายนั้นจะอยู่ไกลแค่ไหน วัตถุที่ขว้างออกไปจะวิ่งตรงเข้าปะทะเป้าหมายได้อย่างแม่นยำทันทีไม่มีพลาด ที่แน่ยิ่งกว่านั้น ต่อให้มีหลายเป้า ก็สามารถเข้าปะทะเป้าทั้งหมดได้ในเวลาเดียวกัน...
ท่านพูดว่าไหนๆเธอก็พูดถึงฉัน ฉันจึงแวะมาสักหน่อย ไม่รู้จะให้อะไร...เธอพูดเรื่องอะไร ฉันก็ให้อันนั้นแล้วกัน เท่ากับว่า หลวงปู่สมเด็จเมตตามาเติมวิชากระสุนคดเข้าไว้ในวัตถุมงคลชุดนี้ด้วย เอ้า...! เฮงไปกันใหญ่ แต่สิ่งที่โง่เกินใคร คืออาตมานี่แหละ ที่ดันสงสัยว่า วิชากระสุนคดนั้น ใช้สำหรับการดังกล่าวที่เล่ามา แต่เมื่อท่านเสกให้ในวัตถุมงคลชุดนี้ ผลจะเป็นอย่างไร จะใช้อย่างไร เราคงไม่สามารถเอาวัตถุมงคลขว้างออกไปได้แน่ๆ เพราะทำไม่เป็น แทนที่วัตถุจะเข้าปะทะเป้าหมาย กลับกลายเป็นหายไปต่อหน้าต่อตา โธ่..! สภาพ
ทันทีที่คิด ได้ยินเสียงหลวงปู่พูดสวนออกมาว่า ทุด...(คงด่าแหละ แต่ไม่เข้าใจศัพท์แสง) ท่านว่าอย่าโง่สิ วิชานี้ถึงจะไม่ได้ใช้ตามรูปแบบที่บอกโดยตรง แต่จงใช้ใจ ตั้งเป้าหมายในสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าเป้าหมายจะอยู่ไกลแค่ไหน เราจะไปถึงจุดนั้นได้ในทุกช่องทาง เอาเคล็ดอย่างนี้ไปใช้ก็แล้วกัน (อัญชลี วันทา อภิวาท)
นี่เท่ากับว่า ท่านมาสงเคราะห์เรื่องความสำเร็จทุกประการให้ นั่นคือ เมื่อเรามีความมุ่งมั่นและปรารถนาสิ่งใดไว้ ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ขอรับพรสมเด็จปู่...สาธุครับ
อย่างไรก็ตาม การเสกวัตถุมงคลของแต่ละองค์นั้น จะอยู่ในพระเนตร พระกรรณของพระพุทธเจ้ามาตั้งแต่ต้น
ที่สุดแห่งเวลา ฉัพพรรณรังสี รัศมี ๖ ประการ ขององค์สมเด็จพระพิชิตมารสมเด็จองค์ปัจจุบัน ได้พวยพุ่งขึ้นรอบพระพุทธวรกาย สว่างเจิดจ้าไปทั่วอนันตจักรวาล หมื่นโลกธาตุ ทั้งสวรรค์จรดพระนิพพาน ไม่มีจุดใดมืดเลย รัศมีนั้นเข้าอบรมวัตถุมงคลทั้งหมด ตลอดทั้งคนที่มาร่วมงาน และบ้านสุมโนทั้งหลังสว่างไปทั่ว หน้าต่างไม่มี ประตูไม่มี กำแพงไม่มี เบื้องหน้าองค์สมเด็จพระมหามุนี คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีฯ ของเรานั่นเอง นั่งอยู่ด้านหน้าองค์สมเด็จพระบรมศาสดา รัศมีจึงหนักหน่วงเข้มข้น เหมือนขนมปังที่ถูกอบอยู่ในตู้ สลับสีสลับแสง เข้มแข็ง ร้อนแรงไม่มีแผ่ว ตอนนั้นอาตมารู้สึกว่าตัวจะแตกแหลกละเอียดเป็นผุยผง ได้แต่นั่งทรงอารมณ์ให้พอดีที่สุด แล้วดูต่อไป
ลำแสงทั้งหมดนั้น บีบอัดเข้าสู่กองวัตถุมงคลจนครบทุกสี เห็นกองวัตถุมงคลนั้นดูดกลืนแสงสีต่างๆไปจนหมดสิ้น คงเหลือไว้เพียงพลังงานสีขาวนวลตา รู้สึกเย็นกายเย็นใจขึ้นมาทันที แสงสีขาวนั้นอบอวลอยู่นานพอสมควร แล้วเริ่มขยายออกจนหนาทึบ ขาวสว่างไปทั้งบ้าน มองเห็นคนที่มาลางๆ เพราะความหนาแน่นแห่งแสงขาวที่ปกคลุม ได้ยินเสียงบอกว่า เป็นพลังงานที่หนุนส่งพระกรรมฐาน และให้เกิดความเมตตาร่มเย็น จากนั้น แสงสีขาวเหล่านั้นเริ่มจำกัดขอบเขตแคบลง โดยเข้าปกคลุมเฉพาะกองวัตถุมงคลเท่านั้น จังหวะนี้ อาตมาเห็นหลวงปู่ทวด นั่งทับอยู่บนกองวัตถุมงคลอย่างเด่นชัด ก่อนที่ท่านจะใช้ลูกแก้วของท่าน เข้าห่อหุ้มวัตถุมงคลทั้งกอง ดังนั้น วัตถุมงคลชุดนี้นอกจากจะได้วิชากระสุนคดแล้ว เชื่อเหลือเกินว่า จะต้องคลาดแคล้วปลอดภัยอย่างแน่นอน...
เมื่อทุกอย่างสงบลง อาตมากราบขอพร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ขอให้วัตถุมงคลชุดนี้ ช่วยสงเคราะห์ให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ โรคและภัย รวมถึงความเลวร้ายจากภาวะสงครามในปัจจุบันด้วยเถิด พระองค์ท่านจึงให้มองดูที่กองวัตถุมงคล ทันใดนั้น กองวัตถุมงคลที่ดูเหมือนสงบแต่แอบซ่อนความครุกรุ่นอยู่ภายใน ได้ระเบิดออกมาอย่างน่าตื่นตะลึง เป็นแสงรัศมี ๖ สี ๖ ประการ เหมือนดั่งฉัพพรรณรังสี ขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์ไม่มีผิด แสงสีอันงดงามเหล่านั้น เจิดจรัสแจ่มจ้าไปทั่วอาณาบริเวณ มีเสียงบอกว่า วัตถุมงคลทั้งหมดมีแสงออกจากตัวเองแล้ว สมบูรณ์แล้ว ใช้งานได้แล้ว...
เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเข้าใจได้ว่า วัตถุมงคลได้ผ่านการพุทธาภิเษก และทรงอนุญาตให้มีผลตามนั้น
อาตมาเข้ากราบขอบพระคุณ พระมหาเมตตา พระมหากรุณา ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ มีท่านปู่ท่านย่าเป็นที่สุด ก่อนที่จะลืมตาออกจากสมาธิ
นับเป็นบุญของลูกศิษย์ลูกหลาน ที่ได้มีโอกาสร่วมบุญสร้างวัดด้วยกัน พร้อมกับได้ของขวัญสุดพิเศษไปใช้ในชีวิตประจำวัน การที่ท่านเมตตาขนาดนี้ ก็เพียงเพื่อต้องการให้เรามีความสุข มีความคล่องตัวในการดำเนินชีวิต เมื่อมีความสุขกายสบายใจดีแล้ว จิตจะได้มีความพร้อมในการประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อมรรค เพื่อผล ของเราในอนาคตข้างหน้านั่นเอง

อีกข้อความหนึ่งกล่าวถึงล็อกเก็ตนี้ว่า
ล็อคเก็ตท่านปู่ ท่านย่า
ก่อนอื่น แอดต้องขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน ที่ได้ร่วมบูชารูปเคารพท่านปู่ ท่านย่า ซึ่งออกเป็นบุญกฐิน วัดท่ามะขาม ประจำปี ๒๕๖๕ ส่งผลให้มีการจองบูชาเข้ามาในระดับเกินความคาดหมาย ได้แต่คิดว่า สภาวะเศรษฐกิจเเบบนี้ จะต้องใช้กำลังใจขนาดไหนในการทำบุญ...แอดจึงขอน้อมคารวะทุกกำลังใจ จากใจจริงครับ
แต่ยังมีลูกศิษย์ลูกหลานอีกจำนวนมาก ที่ไม่พร้อมบูชารูปเคารพด้วยเหตุนานาประการ ซึ่งหลวงพ่อเอท่านเข้าใจดี ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงขออนุญาตท่านปู่ ท่านย่า เพื่อจัดทำวัตถุมงคลที่เป็นเสมือนตัวแทนของท่านขึ้นมาใหม่ ให้มีขนาดเล็ก พกพาง่าย และบูชาได้ในราคาย่อมเยา
โดยจะทำเป็นล็อคเก็ตรูปแบบพิเศษ ขนาดสูง ๓.๕ ซม. กว้าง ๓ ซม. ด้านหลังบรรจุสุดยอดมวลสารต่างๆ อาทิเช่น
๑.ผงว่าน ๑๑๑ ชนิด เข้าพิธีชาตรี ปี ๓๕ ปลุกเสก ณ วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร วัดท่าซุง มีหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นองค์ประธานในการเสก
๒.คำหมากหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง
๓.คำหมากหลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่
๔.คำหมากหลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกด จ.ศรีสะเกษ
๕.ผงยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่ทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร
๖.แผ่นทองคำเปลว ซึ่งปิดทับซ้อนจนล้น ที่รูปปั้นหลวงปู่สด วัดปากน้ำภาษีเจริญ
๗.ผงพุทธคุณ พระยอดขุนพลกาญจนบุรี วัดท่าขนุน
๘.มวลสารดอกไม้ยอดบายศรี ที่ผ่านพิธีบวงสรวงพุทธาภิเษก งานสำคัญๆ ของบ้านสุมโนทุกพิธี
๙.ตะกรุดฉุดเงินล้าน ที่เคยสร้างปรากฏการณ์เงินล้านมาแล้วภายในพริบตา
หลวงพ่อเอท่านปรารภว่า นี่ถือเป็นงานล็อคเก็ตรุ่นเเรก ในนามของหลวงพ่อเเละบ้านสุมโนโดยตรง ถ้าจะทำออกมาให้ลูกหลานได้ใช้ ก็ต้องทำให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะสามารถทำให้เขาได้ แอดแค่เห็นบรรดามวลสารที่ใส่ลงไป ใจได้แต่ตะโกนร้องว่า... ไม่มีไม่ได้แล้วโว้ยยยย
หลวงพ่อเอเสริมอีกว่า ถ้าต้องการให้ล็อคเก็ตมีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ทุกทาง ก็ต้องใส่ของๆหลวงพ่อฤๅษีฯ ซึ่งเป็นบรมครูของพวกเราลงไป อีกทั้งอยากให้ผู้ใช้ดวงดี ให้เกลี้ยงทุกข์สุขนิรันดร์ ให้ไร้โรคาพยาธิ ให้มีสมบัติจักรพรรดิตัดไม่พร่อง เงินทองเพิ่มพูน ทับแล้วทับอีก ซ้อนแล้วซ้อนอีก ฉุดเงินล้านแล้ว ฉุดเงินล้านอีก ใครจะนิยมเทพเทวาองค์ใดก็ตาม แต่ปู่กับย่าของเรา ก็เป็นราชาแห่งเทพอยู่ดี(เพียงเเค่ได้ยินประโยคนี้ เเอดรู้สึกซาบซึ้ง เเละภาคภูมิใจเหลือเกินที่ได้เป็นลูกหลานท่านปู่ ท่านย่า อีกทั้งโดยปกติ ปู่และย่า มักจะตามใจลูกหลานมากกว่าพ่อแม่เสียอีก ดังนั้น การขออะไรจากปู่และย่า น่าจะง่ายมากๆ ลูกหลานทั้งหลายคงรู้ดี
และเมื่อเวลาเสก ท่านปู่ท่านย่าต้องลงมาเสกเอง เชื่อมั่นว่า อานิสงส์อันสมบูรณ์พร้อมทุกประการ ทั้งปัญญาและบริวาร ทั้งโปรด ปราบ ลาภ ผลของท่าน ท่านต้องเมตตาประทานลงมาให้ลูกหลาน ภายในล็อคเก็ตนี้จนหมดสิ้นอย่างแน่นอน

ให้บูชา 1000 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ (ปิดรายการ)

 

-ขอจองครับ

 

รายการที่ ๒๑

รับทราบการจองรายการที่ ๒๐ ล็อกเก็ตท่านปู่ท่านย่าครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รายการที่ ๒๑
ให้บูชาเป็นชุด (1ชุดมี 2เล่ม)
รายการแรก เทียนนพคราสทั้ง ๙ น้ำหนัก ๓ บาท ของวัดอุทยาน องค์หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน เป็นประธานพุทธาภิเษก
วิชาเทียนนพคราสทั้งเก้า คือการบูชาเทพดาวนพเคราะห์ อันส่งผลต่อเรือนชะตามนุษย์โดยตรง ด้วยการปรับแก้ดาวเสีย ให้กลับดี หนุนดาวดีให้ดียิ่งขึ้น
วิชานพคราสทั้งเก้า เป็นวิชาหนึ่งที่ทรงอิทธิคุณในการปรับเคราะห์ เคลื่อนเคราะห์ ปัดเสนียดจัญไรได้เอนกประการ
ให้บูชาเป็นชุด 3 เล่ม มีทั้งหมด 3 ชุด บูชาชุดละ 300 จัดส่ง 60 จองได้สามวันครับ
ปล.ให้จุดทีละเล่ม เขียนชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิด ปีนักกษัตรลงบนเทียน และเวลา(หากทราบไม่ทราบก็ไม่ต้องเขียน) จุดธูปบูชาพระรัตนตรัยตามปกติ ให้สวดอิติปิโสฯ ทั้งสามห้อง สามจบ ตามด้วยพระคาถาเงินล้าน 9 จบ เทียนเล่มนึงเท่าที่ผมจุดและสังเกตุจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงครับ ห้ามดับเทียนเอง ต้องปล่อยให้เทียนหมดเองครับ
เหมาะกับช่วงเวลาดวงดาวเปลี่ยนทั้งดีและร้าย เป็นการสะเดาะเคราะห์ที่เกิดจากดวงดาวได้ครับ
รายการที่ 2 เทียนพระสีวลี ๓ องค์ (พระสีวลีมหาลาภ)เสริมโชคลาภ วาสนา บารมี ทำมาค้าขายดี องค์หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุนเป็นประธานพุทธาภิเษก
ด้วยอำนาจแห่งพระสิวลีเถระ ผู้ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นเลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย เป็นผู้มีทรัพย์มาก
ช่วยดลบันดาลให้มีโชคมีลาภ เมตตามหานิยม สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง ทำมาค้าขายดี การงานคล่องตัว และอยู่ร่มเย็นเป็นสุข
ตามตำราโบราณล้านนาลงยันต์ในกระดาษสา ทำเป็นไส้เทียน ฝั่นด้วยขี้ผึ้งแท้บริสุทธิ์
เทียนพระสีวลี ๓ องค์ (หนึ่งองค์ว่าดีเลิศแล้ว ๓ องค์ยิ่งพูนเท่าทวี)
วิธีจุดบูชา
เขียนชื่อ นามสกุล ลงบนเล่มเทียน ( ตั้งจิตให้สงบนิ่ง คิดระลึกถึงสิ่งที่อธิษฐาน )
เตรียมเหรียญบาท ๑ เหรียญ ลนไฟที่เหรียญให้พอร้อนอุ่นๆ แล้วปักเทียนที่เขียนชื่อ สกุล อธิษฐานจิตเรียบร้อยแล้วลงบนเหรียญ ( จะไม่ลนไฟตรงๆที่ก้นเทียน พระอาจารย์ท่านถือเคล็ดว่า จะทำอะไรเหมือนไฟลนก้น )
วางเหรียญที่ปักเทียนในแก้วเตี้ยๆ และหล่อน้ำสะอาดไว้พอปริ่มๆ เหรียญ ( จะซ้อนกี่เหรียญก็ได้ และเหรียญทั้งหมดนี้เมื่อจุดบูชาเทียนสำเร็จแล้ว ให้ท่านนำไปทำบุญ ทำทาน ห้ามนำมาใช้เด็ดขาด )
จุดเทียน ตั้งนะโม ๓ จบ และบริกรรมพระคาถาสีวลี ๙ จบ หรือบริกรรมจนเทียนดับสนิทได้ยิ่งดี
จุดครั้งละ 1 เล่ม
มีอยู่ 3 ชุด บูชาชุดละ 220 (ถ้าบูชาทั้งสามชุดคิด 550 บาท)จัดส่ง 60 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๒๒
ให้บูชาเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เนื้ออัลปาก้า ลงยาจีวรแดง รุ่นซื้อที่ดิน ออกที่ วัดถ้ำสิงโตทอง จ.ราชบุรี หมายเลข ๗๖
เหรียญรุ่นนี้หลายคนเรียกว่ารุ่นเหรียญมีชีวิต
รุ่นนี้พระอจารย์เล็ก วัดท่าขนุนได้ร่วมพิธีเสก
ข้อมูลที่พระอาจารย์เล็กได้พูดถึงมีดังนี้
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปยังวัดถ้ำสิงห์โตทอง หมู่ที่ ๑๑ ตำบลปากช่อง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ตามคำนิมนต์ของพระครูภาวนาโชติคุณ (กุ้ยไฮ้ ชตินฺธโร), ดร. ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนปริญญาเอกมาด้วยกัน แต่ชาวบ้านเขาเรียกท่านว่า หลวงพ่อดำวัดถ้ำสิงห์โตทองนั้นเป็นวัดที่พระเดชพระคุณหลวงปู่พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือว่าหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณุโณ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านได้ธุดงค์ไปวิเวกที่นั่น จนกระทั่งกลายเป็นสถานที่ซึ่งมีความผูกพันกันอยู่ เมื่อสร้างเป็นวัดถ้ำสิงห์โตทองขึ้นมา หลวงพ่อกุ้ยไฮ้ท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาสสืบมาการสร้างรูปหลวงปู่โต๊ะในครั้งนี้ ก็คือการหล่อรูปหลวงปู่โต๊ะองค์ใหญ่ ถ้าถามว่าใหญ่ขนาดไหน ? ก็แค่ช่วงฝ่ามือ ๒ ข้างรวมกัน น้ำหนัก ๓ ตัน..! กระผม/อาตมภาพเอง เมื่อได้รับนิมนต์จากเพื่อนฝูงก็เกิดความรู้สึกอยากจะร่วมหล่อรูปหลวงปู่ในครั้งนี้มาก จึงไปค้นเอาทองคำและเม็ดเงินที่มีญาติโยมทยอยถวายกันมา แม้จะหลังจากการหล่อพระพุทธรูปทองคำไปเรียบร้อยแล้ว ได้ทองต่าง ๆ มารวมแล้วประมาณ ๓ บาท และเม็ดเงินอีก ๓๕ บาท จึงได้นำไปร่วมหล่อ
ในครั้งนี้ ถึงได้ทราบว่าเป็นการหล่อในช่วงเศียรของหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งถ้าหากว่าหล่อเสร็จแล้ว แต่ละชิ้นส่วนก็จะนำมาประกอบกันเป็นองค์คราวนี้หลวงพ่อดำของชาวบ้านนั้น ท่านเป็นพระที่ค่อนข้างจะสมถะแล้วยังเป็นคนที่จริงจังกับงานเป็นอย่างมาก ในความสู้งานของท่านนั้นไม่ต้องพูดถึง แค่การที่มีผู้คนบุกรุกพื้นที่ของวัดถ้ำสิงห์โตทอง จนกระทั่งท่านต้องไปต่อสู้เพื่อให้ได้ที่ดินของวัดคืนมา มีคดีความกันอยู่กัน ๙ ราย ต้องขึ้นศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา จนชนะทั้ง๙ ราย ท่านบอกว่ารวมแล้วขึ้นไป ๒๗ ศาลแล้ว ซึ่งยังมีรายอื่นที่ฟ้องร้องกันอยู่อีก ก็ต้องรอดูกันต่อไปแต่ว่าในส่วนของบุคคลที่สูญเสียประโยชน์ก็พยายามข่มขู่ ตลอดจนกระทั่งทำร้ายด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา เพียงแต่หลวงพ่อดำ ท่านก็มีดีในฐานะลูกศิษย์ของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่กระผม/อาตมภาพค่อนข้างจะคุ้นเคยมาก ด้วยสาเหตุที่ว่าบ้านของคุณยายนั้นอยู่หลังไปรษณีย์บางกอกน้อย (สามแยกไฟฉาย) และคุณยายก็ทำบุญอยู่ ๒ วัด ก็คือวัดประดู่ฉิมพลีและวัดปากน้ำภาษีเจริญ เมื่อถึงเวลาก็นำหลาน ๆ ให้ทำบุญที่วัดทั้ง ๒ แห่งนี้ด้วย

เมื่อเข้าไปก็เจอพระเกจิอาจารย์หลายต่อหลายรูปที่รู้จักคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว กราบทักทายกันเสร็จกระผม/อาตมภาพก็เข้าสู่ที่นั่ง ทำพิธีปลุกเสกกันต่อไป ระหว่างที่พระมหานาคเจริญบทพุทธาภิเษกนั้นกระผม/อาตมภาพก็ยังแปลกใจ เพราะว่าปกติแล้วถ้าเข้าสมาธิก็จะไม่ได้ยินอะไร แต่ว่างานนี้ได้ยินเสียงพระมหานาคสวด แม้ว่าเสียงจะเบา แต่ว่าไพเราะมากกระผม/ อาตมภาพจึงตั้งใจส่งใจตามคำสวดไปด้วย กำหนดใจขอบารมีองค์สมเด็จสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย โดยมีหลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณุโณ วัดประดู่ฉิมพลีเป็นที่สุดไปด้วย ได้โปรดเมตตาอนุเคราะห์สงเคราะห์ในวัตถุมงคล
รุ่นนี้ เมื่อพระท่านอนุญาตแล้ว หลวงปู่โต๊ะท่านก็มาทำพิธีให้ด้วยตนเอง

ทั้งหมด เพราะว่ากำลังใจของผู้ทำไม่บริสุทธิ์พอ จึงสามารถทำได้แค่การย่อวัตถุใหญ่ให้เล็กลงเหมือนกับฝุ่นผง แล้วก็ปล่อยให้ลอยไปตามลมตามอากาศ เคลื่อนที่ไป ผู้ใดเคราะห์ร้าย มีเวรมีกรรมเนื่อง
กันมา หรือว่าวาระกรรมส่งผลพอดี ผู้นั้นก็จะรับไป
เมื่อคลายสงสัยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ดูหลวงปู่ท่านทำการเสกวัตถุมงคล ซึ่งก็คือการใช้พลังงานสอดแทรกเข้าไปในใจกลางของวัตถุ จนกระทั่งพลังงานทุกอย่างประสานกลมกลืนกันหมดแล้ว ถ้าดูด้วยทิพจักขุญาณ ก็จะเห็นความสว่างไสวเสมอกันหมด หลวงปู่ท่าน
ก็บอกว่า "เสร็จเรียบร้อยแล้ว" กระผม/อาตมภาพจึงทำน้ำมนต์พรมรอบบริเวณพิธีแล้วโปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชาในส่วนที่ลืมไม่ได้ก็คือเทียนน้ำมนต์หรือเทียนชัยนั้น แต่ละงานกระผม/อาตมภาพจะปั้นเป็นลูกอมเทียนชัย ๑ ลูก ความตั้งใจของตนก็คือว่า จะทำเป็นประคำลูกอมเทียนชัย ถ้าหากว่าครบ ๑๐๘ ลูก
ก็แปลว่าตนเองได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกหรือว่าปลุกเสกวัตถุมงคลมา๑๐๘ ครั้งแล้ว แต่ว่าไม่สามารถที่จะเก็บได้ครบสักครา เพราะว่าได้แค่ไม่กี่ลูกก็จะโดนเจ้าตัวเล็กล้วงย่ามเอาไปลงกระทู้เสียก่อนเสมอสำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าว
แก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖

ให้บูชา 450 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ (ปิดรายการ)
ปล. ถ้าหาใช้พุทธคุณไม่ใช่เพื่อราคา เหรียญรุ่นนี้ตอบโจทย์ครับ เพราะหลวงปู่โต๊ะมาเสกด้วยกายทิพย์ครับ ใบหน้าแกะได้สวยงามมากเหมือนมีชีวิต คนถึงเรียกรุ่นนี้ว่าเหรียญมีชีวิต รุ่นนี้ราคาเริ่มขยับแล้วครับ

 

รายการที่ ๒๓
ให้บูชาพระขุนแผนยอดขุนพลพลายกุมารวัดศรีจันต์ ปี 2547 จุ่มผงปถมังขรัวปู่คงอาจารย์ขุนแผน สุพรรณบุรี (แท้ๆ)(ที่เห็นเป็นสีขาวทั้งหน้าองค์พระและด้านหลังนั่นคือผงปัถมัง)
ซึ่งผงนี้ปถมัังนี้เป็นของหลวงปู่คง ท่านเป็นพระอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการต่างๆ ให้กับพ่อขุนแผน ซึ่งหลวงปู่คงได้อธิษฐานจิตผงปถมังไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อน มวลสารเดียวกับพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง ทางวัดศรีจันทร์ได้จัดสร้างพระขุแผนขึ้นมาใหม่เนื่อกจากพระขุนแผนที่ทางหลวงปู่กล้าย วัดหงส์รัตนาราม ที่เคยจัดสร้างเมื่อปี 2498 หมดจากวัดไปเป็นสิบปี(มีประสบการณ์มาก)
พระขุนแผนรุ่นปี 2547 นี้ทางวัดได้ประกอบพิธีเสกพิธีใหญ่ มีหลวงปู่ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นมา เช่น หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม หลวงปู่ทิม วัดพระขาว หลวงพ่อพล วัดวังยายหุ่น เป็นต้น
" ผงปถมังขรัวปู่คง " มีความศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน ขนาดว่าห้ามพระปลุกเสก มีอาถรรพ์แรงมาก ผงนี้เกิดจากที่ท่านขรัวปู่คง อาจารย์ขุนแผนได้ประทับทรงอาจารย์ชุม ให้ขุดขึ้นมาเพื่อนำมาทำพระยอดขุนพลขึ้นเมื่อปี 2498 มีประสบการณ์ด้านเมตตาค้าขายมากมาย หลังจากพระขุนแผนรุ่นนี้ได้หมดลงทางวัดไดจัดสร้างขึ้นมาใหม่ แล้วนำผงปัถมังล้วนๆที่ขุดขึ้นมาได้มาละลายกับน้ำมนต์แล้วเอาพระขุนแผนรุ่นปี 47 นี้จุ่มลงไปทุกองค์แล้วเข้าพิธีเสกใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
พระขุนแผนรุ่นนี้ใช้แทนรุ่นปี 2498 ได้สบายเลยครับราคาเบากว่ากันเยอะครับ
ผมมี 1 องค์ให้บูชา 220 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ (ปิดรายการ)

 

รายการที่ ๒๔
รายการแรก พระผงพระนั่งเมือง รุ่นกฐิน ๖๖ของพระอาจารย์สุริยันต์ โฆษปัญโญ มีโค้ดและหมายเลข ๖๓๕๕๘
สำหรับรุ่นนี้มีพระอาจารย์จำนวน 71 องค์ร่วมพุทธาภิเษก มีหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุนร่วมด้วย
ผมขอยกข้อความบางช่วงบางตอนของเสียงธรรมแห่งวัดท่าขนุนประจำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 มาให้อ่านกันครับ
ท่านใดถ้าหากว่าต้องการพระด้านลาภผลโดยตรงอีกรุ่นหนึ่ง ก็ให้มาหาพระกริ่งนั่งเมือง รุ่นมหาเศรษฐีสมปรารถนา ของวัดป่าวังน้ำเย็นนี้ไปใช้งาน ถ้าไม่รู้ว่าจะภาวนาอย่างไร ก็ภาวนาควบกับพระคาถาเงินล้านไปเลย
กระผม/อาตมภาพเองนั่งอยู่จนกระทั่ง "พระ" ท่านบอกว่าทำน้ำมนต์ได้ ก็จัดแจงทำน้ำมนต์ พอดีกับพระมหานาคสวดพุทธาภิเษกจบลงพอดี จึงเป็นพระเกจิอาจารย์รูปเดียวที่ลุกไปพรมน้ำมนต์ได้ตรงเวลาทุกประการ ทำให้กลายเป็นเป้าหมายของกล้องทีวีทุกกล้อง ที่หันมาจับอยู่คนเดียว
ระหว่างที่พรมน้ำมนต์ก็มองเห็นบรรดาครูบาอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์มาร่วมงาน อย่างเช่นท่านอาจารย์ติ๋ว (พระครูวิมลญาณอุดม) วัดมณีชลขัณฑ์ ท่านอาจารย์อ๊อด (พระครูโสภณภัทรเวทย์) วัดสายไหม ท่านอาจารย์แป๊ะ (พระครูยติธรรมานุยุต) วัดสว่างอารมณ์ เป็นต้น รุ่นใหญ่อย่างหลวงพ่ออวยพร (พระครูปฐมวราจารย์) วัดดอนยายหอมก็มาด้วย หรือแม้กระทั่งหลวงพ่อขวัญชัย (พระครูวิจิตรธรรมรัตน์) วัดนามะตูมก็มาเช่นกัน บรรดาพระเถรานุเถระสายภาคอีสานก็มาด้วยกันหลายต่อหลายรูป รวมแล้วถ้าจำไม่ผิดก็คือ ๗๑ รูปด้วยกัน ถือว่าเป็นงานพุทธาภิเษกที่ใช้พระเกจิอาจารย์ได้เปลืองมาก ๆ ทีเดียว..!
หลังจากพรมน้ำมนต์ รับไทยธรรมแล้ว กระผม/อาตมภาพออกจากศาลามาก็ต้องรับการทำบุญจากญาติโยม FC วัดท่าขนุน ที่มาดักรออยู่หลายราย กว่าที่จะหารองเท้าของตนเองพบว่าไปซุกอยู่ที่ไหน หลังจากนั้นก็หลบออกประตูข้างของวัดป่าวังน้ำเย็นมา ขณะที่ท่านอื่นไม่ทราบเหมือนกันว่าทำน้ำมนต์เสร็จแล้วหรือยัง ? โดยเฉพาะหลวงพ่อหนุน (พระครูวิชัยสารคุณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร เพิ่งจะเดินทางมาถึง แล้วยังถามกระผม/อาตมภาพอีกว่า "จะกลับแล้วหรือ ?" โดยที่ไม่ได้นึกเลยว่าตัวเองมาช้าอะไรได้ขนาดนั้น..!
ในงานพุทธาภิเษกลักษณะแบบนี้ ถ้าหากว่าไม่ติดขัดอยู่ที่การจัดกระแสต่าง ๆ แล้ว ต้องถือว่าเป็นงานที่ค่อนข้างจะสบาย เพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาสงเคราะห์ด้วยพระองค์เอง เมื่อพระองค์ท่านประทับนั่งลงในพิธีเต็มองค์แล้ว ก็บอกว่าเสร็จเรียบร้อย ให้กระผม/อาตมภาพทำน้ำมนต์ได้ ก็ไม่คิดว่าจะตรงกับที่บรรดาพระมหานาคสวดพุทธาภิเษกเสร็จพอดี

รายการที่ 2ตะกรุดสามกษัตริย์ หนุนดวง ขนาด 2 นิ้ว พร้อมเชือกห้อยคอ ของ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญฺโญ วัดป่าวังน้ำเย็น อ.เมือง จ.มหาสารคาม สำหรับตะกรุดหนุนดวงสามกษัตริย์นั้น พระอาจารย์สุริยันต์ท่านว่าตะกรุดหนุนดวงแบบนี้จะต้องลงเป็นสามกษัตริย์เท่านั้น ประกอบด้วยยันต์มีเงินมาก ยันต์มีทองคำมาก ยันต์ดับทุกข์ ยันต์มหาโภคทรัพย์ ยันต์มหาสมปราถนา ที่สำคัญห้ามห้อยที่เอว ให้ห้อยที่คอหรือเหน็บที่เสื้อได้ ท่านว่าวิชายันต์ทั้ง 5 นี้เป็นตำราของหลวงปู่คำพันธ์ ใครมีติดตัวไว้จะไม่ดวงตก ใครที่ดวงตกพกไว้จะบรรเทาและดีขึ้นได้ เป็นของดีจริงๆ
สำหรับประวัติของท่านมีดังนี้
พระครูภาวนาชยานุสิฐ หรือพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญฺโญ ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม หรือ วัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม ท่านเป็นศิษย์สายพุทธาคมหลวงปู่คำพันธ์ วัดพระธาตุมหาชัย
"วัดพุทธวนาราม" หรือ วัดป่าวังน้ำเย็น บ้านวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม พื้นที่กว่า 30 ไร่ ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นวัดที่ถูกต้องเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2555 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันมี พระครูภาวนาชยานุสิฐหรือ"พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน อายุ 42 ปี พรรษา 22 ดำรงตำแหน่งประธานคณะสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง จ.มหาสารคาม
ท่านเป็นศิษย์สืบสายธรรมจากหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง จ.นครพนม เกิดเมื่อปี พ.ศ.2522 ที่บ้านเหล่าโคกพระ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม อายุ 15 ปี บรรพชาเป็นสามเณร เข้าพิธีอุปสมบทที่อุโบสถ วัดสามัคคีธรรม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จากนั้นได้จำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดบูรพาเทพนิมิต อ.กุฉินารายณ์ ด้วยความที่ท่านต้องการแสวงหาความหลุดพ้นตามรอย พระตถาคตจึงได้ออกเดินธุดงควัตรไปจำพรรษาอยู่ตามป่าเขาหลายแห่งในภาคอีสาน ต่อมาเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษา วิทยาคมจากหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดนครพนม และภาคอีสาน โดยหลวงปู่คำพันธ์ถ่ายทอดวิชาให้จนหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นหัวใจคาถา 108 วิธีการตั้งธาตุหนุนธาตุเสริมธาตุ พระคาถาปฐวีธาตุ และเคล็ดปฏิบัติกัมมัฏฐาน เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเดินทางไปศึกษาเพิ่มเติมกับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกหลายท่าน อาทิ หลวงปู่พรหม วัดเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และศึกษาวิชาตะกรุดกับหลวงปู่สิงห์ คัมภีโร วัดศรีสุข จ.มหาสารคาม เป็นต้น
หลังกลับมาจำพรรษาอยู่วัดบูรพาเทพนิมิต จ.กาฬสินธุ์ จนถึงปี พ.ศ.2549 ด้วยความที่ท่านเป็นพระปฏิบัติดี ญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธาในจังหวัดมหาสารคาม ร่วมบริจาคที่ดินบริเวณบ้านวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหา สารคาม พื้นที่กว่า 11 ไร่ คือบริเวณที่ตั้งวัดป่าวังน้ำเย็นในปัจจุบันมอบให้ท่านสร้างวัด
พระอาจารย์สุริยันต์ก็รับนิมนต์ และร่วมแรงร่วมใจกับญาติโยมและคณะศิษย์ พัฒนาที่รกร้างว่างเปล่าผืนนี้จนกลายสภาพเป็นวัดป่าวังน้ำเย็นในปัจจุบัน การพัฒนาถาวรวัตถุภายในวัดลุล่วงในเวลารวดเร็ว อาทิ หอระฆัง ศาลาปฏิบัติธรรมไม้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างจากไม้เนื้อแข็งประกอบด้วยไม้แดง ไม้ประดู่ และตกแต่งด้วยไม้สักทอง พระมหาเจดีย์ศรีมหาสารคาม และอุโบสถไม้ซุงใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญคู่วัดป่าวังน้ำเย็น ที่พุทธศาสนิกชนที่มาเยือนไม่ควรพลาดชมและกราบนมัสการขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคล คือ พระพุทธรูปทรงเครื่อง หน้าตักขนาด 5 นิ้ว 3 องค์ สร้างจากทองคำบริสุทธิ์ น้ำหนักรวมกว่า 12 กิโลกรัม พระพุทธรูปทองคำทั้ง 3 องค์
ปัจจุบันวัดป่าวังน้ำเย็นนอกจากจะเป็นพุทธสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งแล้ว ยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาที่สำคัญของจังหวัดมหาสารคาม ด้วยฝีมือช่างด้วยความวิจิตรบรรจง จึงเป็นวัดที่มีความสวยงามอลังการ ในแต่ละวันโดยเฉพาะช่วงวันหยุดจะมีพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศ เดินทางเข้ามาเที่ยวชมถ่ายรูปถาวรวัตถุและรับฟังพระธรรมเทศนา
ขอบคุณข้อมูล/ หนังสือพิมพ์คัมภีร์นิวส์
สำหรับพระอาจารย์สุริยันต์นั้นหลวงปู่มหาศิลาเองก็ให้การยอมรับครับ
มีอยู่คู่เดียว บูชา 500 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ (ปิดรายการ)

 

รายการที่ ๒๕
ให้บูชาลูกอมผสมชามหมาก (ลูกอมชานหมากหิน ของหลวงปู่สุภา กันตสีโล วัดสีลสุภาราม ภูเก็ต
ชานหมากของหลวงปู่สุภาเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์มาก ท่านเรียนวิชาเสกชานหมากมาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่สุภาท่านบอกว่า

“ลูกอมชานหมากที่หลวงปู่ศุขปั้นแล้วเสกเพี้ยง แทนที่จะมีสภาพเป็นชานหมากนุ่มๆ กลับเปลี่ยนสภาพเป็นชานหมากที่แข็งมาก บีบดูเหมือนบีบลูกหิน หากไม่ได้ลูบ ก็ต้องบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันเป็นไปแล้ว หลวงปู่ศุขเปลี่ยนสภาพจากชานหมากนุ่มๆ ให้เป็นชานหมากหินไปได้ในเวลาเพียงหนึ่งอึดใจเท่านั้น”
แต่ของท่านเองนั้น“เสกได้จริง แต่ไม่เหมือนกับหลวงปู่เสก คือของหลวงปู่ศุขเป็นหินจริงๆ แต่ของท่านเสกให้แข็งได้แต่ภายนอก แต่ภายในยังไม่แข็ง เรียกว่า บีบแรงๆ กระแทกๆ ก็จะแตกเห็นเป็นชานหมากธรรมดาที่แห้ง ไม่แข็งเป็นหินทั้งหมด ด้วยบารมีท่านไม่อาจสู้หลวงปู่ศุขได้ เหมือนคำโบราณ ศิษย์ไม่อาจคิดสู้ครูได้” แต่ลูกศิษย์ย่อมรู้ว่าชานหมากของท่านมีอานุภาพเพียงไรเป็นที่ต้องการกันมากครับ ชานหมากของท่านเป็นที่หวงแหนยิ่งกว่าพระเครื่องอีกครับ
ทางวัดเลยนำชานหมากของท่านมาผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์และทำพิมพ์ขึ้นมาเป็นรูปใบหน้าท่าน แล้วหลวงปู่เมตตาเสกเดี่ยว เนื่องใน
ท่านมรณภาพแล้วสรีระของท่านไม่เน่าเปื่อยครับ เสียกายภายหลังทางวัดได้เผาสรีระท่านไป แต่กระดูกของเท่านเปลี่ยนเป็นพระธาตุครับ
ให้บูชา 280 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๒๖
ให้บูชาเหรียญ พิมพ์ หลวงปู่แหวน จัดสร้างเมื่อปี 2522 ออกที่วัดมกุฎกษัตริยาราม - เข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับสมเด็จนางพญา สก. รุ่นพระราชทาน ซึ่งรุ่นนี้องค์หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงได้ไปเสกด้วยนะครับ ได้นิมนต์พระอริยะที่มีชื่อเสียงมาร่วมเสกด้วย พิธีแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆแล้ว ครับ รายละเอียดวันเสกมีดังนี้ครับ
กำหนดการ
ประกอบพิธีพุทธภิเษกสมเด็จนางพญา ณ พระอุโบสถ คณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร วันที่๙ - ๑๒ เมษายน พ.ศ ๒๕๒๒
วันที่๙ เมษายน ๒๕๒๒ เวลา ๑๘.๐๐ น สมเด็จพระญาณสังวร คณะกรรมการการจัดพิธีเเละเจ้าหน้าที่พร้อม ณพระอุโบสถเวลา ๑๘.๓๐
สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเข้าสู่ พระอุโบสถทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธปฏิมาพระประธาน-ทรงเจิมเทียนชัย ทรงจุดเทียนชัย พระสงฆ์เจริญคาถาจุดเทียนชัย เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์องค์ประธานให้ศีล สาธุชนรับศีล เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริต พระสงฆ์๑๐รูป เจริญพระพุทธมนต์จบเเล้วถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา สมเด็จพระสังฆราช ทรงจุดเทียนที่กระบะมุกข์ พระสงฆ์สวดพุทธภิเษก พระอาจารย์๙รูป นั่งบริกรรม ภาวนาจนกระทั่งเวลา ๒๒.๓๐ น .เเล้วประพรมน้ำพระพุทธมนต์
วันที่๑๐ เมษายน พ.ศ ๒๕๒๒
เวลา ๑๖.๐๐ น. พระสงฆ์ ๔ รูป สวดภารวาร พระอาจารย์ ๑ รูป นั่งบริกรรมภาวนา เวลา ๑๙.๐๐ น พระสงฆ์ ๔ รูป สวดภารวาร พระอาจารย์ ๙ รูป นั่งบริกรรมภาวนาจนกระทั่งเวลา ๒๒.๓๐ น. เเล้วประพรมน้ำพระพุทธมนต์
วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๒๒
เวลา ๑๖.๐๐ น พระสงฆ์ ๔ รูป สวดภารวาร เวลา ๑๙.๐๐ น พระอาจารย์ ๙ รูปนั่งบริกรรม ภาวนาจนกระทั่งเวลา ๒๒.๓๐ น.
สมเด็จพระญาณสังวร ดับเทียนชัย พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญคาถาดับเทียนชัย จบเเล้วประพรมน้ำพระพุทธมนต์
วันที่๑๒ เมษายน ๒๕๒๒
เวลา ๑๕.๐๐ น คณะกรรมการเเละเจ้าหน้าที่พร้อม ณ.ห้องประชุมตึกสภาการศึกษา มหามกุฎราชวิทยาลัย วัดบวร เวลา ๑๕ ๓๐ น สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่ห้องประชุมสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย ทรงจุดธูปเครื่องนมัสการพระรัตนตรัย ประทับพระราชอาสน์ สมเด็จพระราชาคณะทรงศีล ประธานกรรมการจัดงานกราบบังคมทูลรายงาน ทรงพระสุหร่ายพระเครื่อง
มีองค์หลวงปู่หลวงพ่อที่มีชื่อเสียงมาร่วมพุทธาภิเษก(รายละเอียดรายชื่อตามใบแนบครับ)
ให้บูชา 250 จัดส่ง 40 จองได้สามวัน(ปิดรายการ)

 

รายการที่ ๒๗
ให้บูชาพระผงพิมพ์พระพุทธสิหิงค์ ปี 2522 ออกที่วัดมกุฎกษัตริยาราม - เข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับสมเด็จนางพญา สก. รุ่นพระราชทาน - ใช้มวลสารเดียวกับสมเด็จนางพญา สก. รุ่นพระราชทานปี 2522 ซึ่งรุ่นนี้องค์หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงได้ไปเสกด้วยนะครับ และที่สำคัญมีมวลสารว่านต่าง ๆ มากมาย ซึ่งมวลสารไ้ด้เข้าพิธีเสกเมื่อปี 19 ตอนที่เสกพระผงพิมพ์จิตรลดาอุณาโลมด้วย(ซึ่งพิมพ์นี้เป็นพิมพ์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงดำริไว้) และยังมาเสกซ้ำเมื่อปี 22อีก ซึ่งถือว่าเสกทั้งสองครั้งเลยครับ และยังได้นิมนต์พระอริยะที่มีชื่อเสียงมาร่วมเสกด้วย รายละเอียดวันเสกมีดังนี้ครับ
กำหนดการ
ประกอบพิธีพุทธภิเษกสมเด็จนางพญา ณ พระอุโบสถ คณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร วันที่๙ - ๑๒ เมษายน พ.ศ ๒๕๒๒
วันที่๙ เมษายน ๒๕๒๒ เวลา ๑๘.๐๐ น สมเด็จพระญาณสังวร คณะกรรมการการจัดพิธีเเละเจ้าหน้าที่พร้อม ณพระอุโบสถเวลา ๑๘.๓๐
สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเข้าสู่ พระอุโบสถทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธปฏิมาพระประธาน-ทรงเจิมเทียนชัย ทรงจุดเทียนชัย พระสงฆ์เจริญคาถาจุดเทียนชัย เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์องค์ประธานให้ศีล สาธุชนรับศีล เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริต พระสงฆ์๑๐รูป เจริญพระพุทธมนต์จบเเล้วถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์อนุโมทนา สมเด็จพระสังฆราช ทรงจุดเทียนที่กระบะมุกข์ พระสงฆ์สวดพุทธภิเษก พระอาจารย์๙รูป นั่งบริกรรม ภาวนาจนกระทั่งเวลา ๒๒.๓๐ น .เเล้วประพรมน้ำพระพุทธมนต์
วันที่๑๐ เมษายน พ.ศ ๒๕๒๒
เวลา ๑๖.๐๐ น. พระสงฆ์ ๔ รูป สวดภารวาร พระอาจารย์ ๑ รูป นั่งบริกรรมภาวนา เวลา ๑๙.๐๐ น พระสงฆ์ ๔ รูป สวดภารวาร พระอาจารย์ ๙ รูป นั่งบริกรรมภาวนาจนกระทั่งเวลา ๒๒.๓๐ น. เเล้วประพรมน้ำพระพุทธมนต์
วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๒๒
เวลา ๑๖.๐๐ น พระสงฆ์ ๔ รูป สวดภารวาร เวลา ๑๙.๐๐ น พระอาจารย์ ๙ รูปนั่งบริกรรม ภาวนาจนกระทั่งเวลา ๒๒.๓๐ น.
สมเด็จพระญาณสังวร ดับเทียนชัย พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญคาถาดับเทียนชัย จบเเล้วประพรมน้ำพระพุทธมนต์
วันที่๑๒ เมษายน ๒๕๒๒
เวลา ๑๕.๐๐ น คณะกรรมการเเละเจ้าหน้าที่พร้อม ณ.ห้องประชุมตึกสภาการศึกษา มหามกุฎราชวิทยาลัย วัดบวร เวลา ๑๕ ๓๐ น สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเข้าสู่ห้องประชุมสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย ทรงจุดธูปเครื่องนมัสการพระรัตนตรัย ประทับพระราชอาสน์ สมเด็จพระราชาคณะทรงศีล ประธานกรรมการจัดงานกราบบังคมทูลรายงาน ทรงพระสุหร่ายพระสมเด็จนางพญา
มีองค์หลวงปู่หลวงพ่อที่มีชื่อเสียงมาร่วมพุทธาภิเษก(รายละเอียดรายชื่อตามใบแนบครับ)

**ที่สำคัญซองนี้ลุงเจ้าหน้าที่ของวัดได้เล่าว่ามีนายทหารได้พกซองไปแล้วโดนยิงไม่เข้าด้วยนะครับ**
พระอยู่ในซองเดิมเลยครับ ซองเก่า
ให้บูชาองค์ละ 300 ค่าจัดส่ง 40 (ปิดรายการ)

 

รายการที่ ๒๘
ให้บูชาเหรียญเจ้าสัว เนื้อทองแดง (ฝูงคนถามหา ฝูงกาถามข่าว) ของหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม รุ่นมหาเศรษฐี ปี 36 ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่ท่านเสก สำหรับรุ่นนี้สร้างเนื่องในฉลองครบรอบอายุ 79 ปี พอหลังจากเสกรุ่นนี้ได้ไม่นาน ท่านก็มรณภาพ เหมือนเป็นรุ่นทิ้งทวน จริง ๆ สำหรับพระเครื่องของรุ่นนี้มีประสบการณ์กันมากครับ คนแถววัดเจอกันบ่อยโดยเฉพาะมหาอุตม์ มีข่าวเล่าให้ฟังที่วัดเสมอว่า มีคนห้อยพระรุ่นนี้แล้วโดยยิงปืนไม่ลั่นบ้าง ถึงยิงออกแต่ไม่เข้าเป็นเรื่องปกติ ถ้าไปวัดหนองสุ่ม ลองสอบถามดูได้ครับ
สำหรับภาพนี้ทันท่านปลุกเสกแน่นอนครับ เป็นมหามงคลอย่างยิ่งมีบูชาไว้ติดบ้าน
สำหรับหลวงพ่อจวน นั้น ท่านเป็นสหธรรมิกและศิษย์ร่วมสำนักที่สนิทที่สุดองค์นึง ของหลวงพ่อกวย วัดบ้านแค และยังเป็นองค์เดียวกันกับที่องค์หลวงพ่อฤๅษีเจอบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ด้วยกายเนื้อไม่ใช่กายทิพย์ และยังบอกอีกว่า หลวงพ่อจวนนั้น ท่านเป็นพระอรหันต์
ตอนที่ท่านมรณภาพก่อนที่จะทำการหลายปี ได้ตั้งสรีระของท่านไว้ปรากฏว่า สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย ตอนหลังได้มีการเผาสรีระของท่าน แต่มีเรื่องเล่าว่า ตอนที่เผาสรีระของท่านนั้นใช้เวลาเผาหลายชั่วโมงมาก แต่ปรากฏว่า ไหม้แค่ช่วงศรีษะของท่านและช่วงขาเท่านั้น ช่วงลำตัวเผาอย่างไรก็ไม่ไหม้ไฟ ตอนหลังทางวัดทางวัดได้นำสรีระที่เผาไม่ไหม้ไฟบรรจุไว้ใต้รูปหล่อของท่านในมณฑป ณ ปัจจุบัน ถ้าใครไปวัดหนองสุ่ม ไปไหว้รูปหล่อของท่าน จะเห็นว่าจะมีฐานสูง ๆ ขึ้นมา นั่นแหละครับ สรีระสังขารที่ไม่ไหม้ไฟ และยังมีเรื่องเล่าอีกว่าประชาชนได้แย่งกันเก็บเศษเถ้ากระดูกของท่าน สุดท้ายต้องนำใส่พานมาถวายคืนวัดทุกคน และทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เอาไปแล้วรู้สึกร้อนรุ่มมาก อยู่ไม่ได้ต้องนำมาถวายคืนวัน ถึงจะสงบ พระเครื่องของท่านราคาไม่แรง เนื่องจากเซียนพระไม่ปั่น ทำให้เก็บกันได้สบายครับ ห้อยเดี่ยวก็ได้ พระอรหันต์ท่านเสกไว้ดีแน่ ๆ ครับ
รุ่นนี้เด่นในทุกๆด้าน หรือว่าจะได้เมตตาค้าขายคงกระพันแคล้วคลาด สมกับชื่อรุ่นเจ้าสัวมหาเศรษฐี(ฝูงคนถามหา ฝูงกาถามข่าว)
ให้บูชา 300 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ (ปิดรายการ)

 

-ขอจองครับ

 

รับทราบการจองรายการที่ ๒๗ พระพุทธสิหิงค์ปี 22 ขอบพระคุณมากครับ