นั่งสมาธิเหมือนจะเข้าถึงณานได้แต่ก็เด้งออก

ไปถามไอ้นิวรณ์สิ หนอนกินขี้อร่อยไหม

 

สติรู้ที่ท่านกล่าวถึง และ ทำอยู่ เรียกอีกอย่างว่า "ทรงอารมณ์นิพพาน"

ท่านไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แล้ววันนึงท่านจะเข้าใจเอง..

 

"เมื่อพ้น ก็รู้ว่า ตนพ้นแล้ว"

ทราบชัดที่ใจตนนี้แหละ ไม่ต้องให้ใครบอกกล่าว หรือ ไปถามใคร อีกต่อไป..

 

ท่านยังเข้าไม่ถึง ท่านยังไม่เข้าใจ

เมื่อท่านเข้าถึง ท่านก็เข้าใจ

ปกติ ตามสมมุติบัญญัติ สติมีเกิด ดับ

เมื่อพ้นสมมุติแล้ว ย่อมทราบชัดแก่ใจตน..

วันนี้ เราต้องขออนุญาตสนทนาแต่เพียง เท่านี้ก่อน

 

ขออีกโพสต์ ละกัน..

เมื่อโอกาสมาถึง ถ้า ไม่รีบคว้าไว้ จะเสียโอกาสนั้น

เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง จะรู้ว่าตน หลง วนอยู่กับ สิ่งนี้ ตั้งนาน..

"ถ้าไม่วางรู้ ก็ไม่พบสิ่งที่ดีกว่า"

**รู้เหนือรู้**

 

สติที่ไหนค้างเติ่ง เหนือไตรลักษณ์ แม้ธรรมพระพุทธเจ้ายังอยุ่ใต้กฎนี้ ที่อิปังบอกก้อถูกแล้ว ไม่เกี่ยวกะฌาน ธรรมมารมณ์อะไรเลย กำหนดแบบฟุ้งๆ ยังได้ สติจะดึงจิตให้อยุ่ปัจจุบัน ได้ปัจจุบันขณะถือว่าถูกต้อง ไม่ใช่ต้องสงบฌาน4 อะไรเลย

ความตั้งใจในการเอาสติกำหนดการปรุงแต่งนั้น ก้อดับพร้อมการปรุงนั้นเช่นเดียวกัน จิตได้ปัจจุบันขณะ ขณะนั้นๆ ถือเป็นผลงานของสติทั้งสิ้น

 

เนื้อสัมปชัญญะคือไร เนื้อไก่ เนื้อหมู ไรงี้
ก้อบอกแล้วไม่เกี่ยวกะชาน อะไร สติดึงจิตเป็นปัจจุบันขณะได้ ในขณะนั้นๆ คือถูกต้อง เอาปัจจุบันขณะ

มีสติ อินทรีย์ 22 พละ 5อายตนะนอกใน ธาตุ 18ครบถ้วน

 

แล้วอันไหนคือรู้ อันไหนคือเห็น ยก ตย

 

ชื่อ คนญี่ปุ่น

ขำ จัง จัง..

สติ + สัมปชัญญะ = สติรู้

 

นิพพาน มี หนึ่ง

ไม่มีสอง..

 

ถ้ายังมีสองอยู่..

ไม่พ้นภพ แน่นอน..

ไม่พ้นสังสารวัฏ แน่นอน..

 

เข้าใจผิดมากมาย

ตาคุณเห็นรูปช้าง เกิดจิตที่ตา อะไรเป็นรุปนาม ตาเป็นรุป เห็นเป็นนาม กำหนดสติบริกรรมพุทโธหรือบริกรรมเห็นอะไรก้อว่าไปไม่ออกจากขันธุ์ 5 คุณ ให้เป็นปัจจุบันขณะ ถือว่าถูกต้อง การเห็นกับสติคุณก้อดับไปพร้อมกันหมด

มองกลับไปที่ช้างอีกครั้ง ภาพเดิม แต่วิถีจิตดวงใหม่ขึ้นมารับอารมณ์ เอาสติตามรุ้การเห็นช้างนั้น ทุกอย่างก็ดับไปเหมือนเดิม

บางทีคุณต้องลองเรียนรุ้พวกสายดูจิตบ้างนะ ลพ.ปราโมทย์ (ดิฉันไม่ใช่สายท่านนะ) จะได้เข้าใจสติรู้ของคุณซะใหม่

 

ทั้งหมดไม่มีอะไรเหนือไตรลักษณ์ รวมทั้งสติด้วย

 

แนะนำคุณ ลพ.ปราโมทย์นะ ท่านอธิบายละเอียด หมายถึงถ้าคุณจะไปด้านวิปัสสนา หลายๆ สายรวมทั้งสายคุณก็หมุนเวียนเข้าไปเรียนหรือฟังท่าน ที่ให้ฟังจะได้เข้าใจว่าที่เราทำอยุ่นี้เข้าใจอยุ่นี้ถูกต้องมั้ย จะได้ไม่เสียเวลา

คงไม่ต่อแล้วนะ จะไปเล่นเกมส์ ขอบคุณที่ร่วมแลกเปลี่ยน

 

เขาบ่ฟังดอก
สรณะเขาอยู่กะกลุ่มฝึก

ขนาดยกคำพุทธเจ้ามายังบอกเดี๋ยวสัญญาทับจิตเลย
ประสาอะไรกะธรรมะหลวงพ่อศรีราชา

 

หลอนอย่างเรา คนชอบนักแล..


อะจ๊าก!!!

 

ปล่อยวางรู้ ฝั่ง สัญญา สังขาร ก็จบเรื่อง..

รู้มาก รู้ละเอียด อยู่ฝั่งหนึ่ง

รู้แจ้ง อยู่อีกฝั่งหนึ่ง..

 

ขอแนะนำให้ฟัง อันนี้

จะให้ดี ต้องปฏิบัติ ไปพร้อมกับการฟัง..

ถ้าบุญ วาสนา พอ อาจเข้าถึงแบบฉับพลัน..

ปล. ฟังบ่อยๆ ฟังทุกวัน จะดีมาก

 

โอกาสอยู่ในมือท่าน รีบคว้าไว้ หรือ ปล่อยหลุดมือไป..

เราขออนุญาตแนะนำ

...ให้ท่านเร่งความเพียรขึ้นอีก นิพพานอยู่ตรงหน้าท่านแล้ว..

 

ถ้าพิจารณา "คำ" หาความหมายทีละคำ แล้วค่อยอ่านรวมกันเป็นประโยค ก็จะทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งขึ้น


ถ้าแยกประโยค ออกเป็นคำๆแล้วอ่าน รวมกันไป ทีละคำ ก็จะทำให้ได้ความหมายเพิ่มมากขึ้น

ถ้าลองเว้นวรรคของประโยคนั้นๆใหม่ ไปเรื่อยๆ จะทำให้ได้ความหมายเพิ่มมากขึ้น

นี้เป็นแนวทางพิจารณาโดยแยบคาย..