><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323


    $$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$




    714.พิธีสุดบรรยาย พระพุทธสิหิงค์ใบมะขาม "ภ.ป.ร."

    50ปีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในหลวงเสด็จมาเป็นประธานในพิธี มหาพิธี 2วาระอันยิ่งใหญ่

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    image-6885_57b559ca-jpg-3777077-jpg-4151113-jpg-4158119-jpg-jpg.jpg image-180b_57b559ca-jpg-3777078-jpg-4151114-jpg-4158120-jpg-jpg.jpg
    พระพุทธสิหิงค์ใบมะขาม "ภ.ป.ร." มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กทม. เนื้อทองแดง ตอก 1 โค้ด ตัว(นะ) ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2527 ซึ่งเป็นพระใบมะขามเล็กที่ได้รับพระราชทาน"ภปร."เป็นครั้งแรก และเป็นรุ่นเดียวในกลุ่มพระใบมะขาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมาเป็นประธานในพิธี และทรงพระสุหร่าย

    พุทธลักษณะ
    ด้านหน้า : เป็นรูปพระพุทธสิหิงค์
    ด้านหลัง : มีตราพระนามาภิไธย ย่อ ภปร.มีตอกโค๊ต1ตัว และ 2ตัว


    จำนวนการสร้าง
    - เนื้อทองคำ 1,005 องค์
    - เนื้อเงิน 5,012 องค์
    - เนื้อทองแดง 50,034 องค์


    มหาพิธีพุทธาภิเษกแผ่เมตตาอธิษฐานจิต 2วาระ
    วาระที่ 1 :
    วันที่ 14-19 ตุลาคม พ.ศ.2527 พิธีใหญ่ ณ.หอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ พร้อมกับกริ่งธรรมศาสตร์ 50 ปีรุ่นแรก พระชุดนี้ยังไม่ได้นำออกให้เช่าบูชาทั่วไปและผู้ที่สั่งจองไว้ จากนั้นก็นำไปเข้าพิธีในวาระที่ 2อีกครั้ง
    รายนามพระคณาจารย์ที่นั่งปรกแผ่เมตตา
    - สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย
    - พระธรรมปัญญาจารย์(ทิม) วัดราชประดิษฐ์
    - พระญาณโพธิ(เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม
    - หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา
    - หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    - พระปรมาจารย์ผ่อง วัดจักรวรรดิราชาวาส
    - พระอาจารย์ทองใบ วัดสายไหม
    - พระปริยัติมุนี(ชูศักดิ์) วัดหงส์รัตนาราม
    - หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธินิมิต
    - หลวงพ่อพล วัดหนองคณฑี
    - หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
    - หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม
    - หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน
    - หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    - หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด
    - หลวงพ่อแช่ม วัดบ่อพุ
    - หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ
    - หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    - หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    - หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง เป็นต้น

    วาระที่ 2 :
    วันที่ 1 ธันวาคม 2528 พิธีใหญ่ ณ.หอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ โดยแบ่งเป็น 3ช่วงเวลา
    รายนามพระคณาจารย์ที่นั่งปรกแผ่เมตตา

    - พระพุทธพจนวราภรณ์(ทองเจือ) วัดราชบพิธ
    - พระพรหมุนี(สนั่น) วัดนรนาถสุนทวีการาม
    - พระธรรมปิฏก(นิยม) วัดชนะสงคราม
    - พระธรรมปัญญาจารย์(ทิม) วัดราชประดิษฐ์
    - พระราชสุมนต์มุนี(แบน) วัดบวรนิเวศวิหาร
    - สมเด็จพระญาณสังวร(เจริญ) วัดบวรนิเวศวิหาร
    - พระญาณโพธิ(เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม
    - หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธินิมิต
    - พระครูมงคลญาณสุนทร(ผ่อง) วัดจักรวรรดิราชาวาส
    - หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง
    - หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา
    - หลวงพ่อภู วัดช้าง
    - หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
    - หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ
    - หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม
    - หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน
    - หลวงพ่อช่ม วัดดอนยายหอม
    - หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    - หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา
    - หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    - หลวงพ่อนนท์ วัดเหนือวน
    - หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก
    - หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง
    - หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกะเฌอ
    - หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า
    - หลวงพ่อรัตน์ วัดหนองกระบอก
    - หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    - หลวงปู่ศรี วัดประชาคมวนาราม
    - หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาป่อง
    - ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    - หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
    - หลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า
    - หลวงพ่อทองดี วัดพระรูป
    - หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม
    - พระอาจารย์ทองใบ วัดสายไหม
    - หลวงพ่อโอน วัดโคกเดื่อ
    - หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ
    - พระปลัดเงิน วัดดอนศาลา
    - หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด
    - พระปริยัติมุนี(ชูศักดิ์) วัดหงส์รัตนาราม เป็นต้น

    *** หมายเหตุ *** มีพระคณาจารย์หลายๆท่านที่ได้รับนิมนต์มาร่วมนั่งปรกครบทั้ง 3 วาระ.

    ข้อมูลโค๊ตเบื้องต้น
    - เหรียญพระปรกใบมะขาม ภ.ป.ร. ธรรมศาสตร์ 50 ปี จะมีตอกโค๊ต 1 โค๊ต และ ตอกโค๊ต 2 โค๊ต
    - ตอกโค๊ต 1 โค๊ต (โค๊ตนะ) คือ เหรียญที่เข้าพิธี 50ปี ธรรมศาสตร์
    - ตอกโค๊ต 2 โค๊ต (โค๊ตนะ และ โค๊ตธรรมจักร) คือ เหรียญที่เหลือจากพิธี 50ปี ธรรมศาสตร์ และได้นำมาเข้าพิธี 60ปี ธรรมศาสตร์ โดยได้ตอกโค๊ต ธรรมจักร เพิ่มเข้ามาอีก 1 โค๊ต
    ขอขอบพระคุณเจ้าของสูจิบัตรของพิธีนีเด้วยนะครับ คลิ้กชมตามลิ้งค์เลยนะครับ : ���������й����� : ��С����+��Ъ���Ѳ�� 50 �� ����Է����¸�����ʵ��


    *** หมายเหตุ *** : ขอขอบพระคุณแหล่งข้อมูลด้วยนะครับ ข้อมูลที่ผมได้รวบรวมมานี้ทั้งจากเอกสารของพิธี และข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต ได้ผ่านการพิจารณาความเป็นไปได้ของข้อมูลแล้วได้เรียบเรียงออกมาอีกครั้งอย่างสุดความสามารถ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

    สภาพสวยผิวไฟแดงเดิม ผิวหน้าเขม่าผิวหลัง ผิวด้านหลังผิวไฟแดงๆ ของดีมีหมุนเวียนน้อย พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พระไม่ช้ำเก่าเก็บไม่ได้ใช้ครับ พุทธคุณหายห่วง เมตตาคลาดแคล้วดีนักแล วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่อีกรุ่นหนึ่งที่พ่อแม่ครูอาจารย์สายพระกรรมฐาน ได้เมตตามาร่วมอธิษฐานจิตกันอย่างเต็มที่ แบ่งให้บูชา 999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
    *** โอนถูกๆผ่าน Promptpay(พร้อมเพย์) รหัส0860441367 ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2017
  2. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,903
    ค่าพลัง:
    +6,825
    ปิดรายการนี้ครับ
     
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323


    $$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$



    715.เมตตามหาลาภ (๑) พระพุทธนฤมิตโชค หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน

    ธรรมทายาท ลพ.เดิม,ลพ.จง,ท่านพ่อลี อธิษฐานจิตเพื่อการกุศล

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-E921_59CCB473.jpg

    [​IMG]
    พระพุทธนฤมิตโชค พิมพ์กวางเล็กไม่เคลือบผิว หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ออก ณ วัดบางพาน ตำบลเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ( วัดในอุปถัมป์ ของหลวงพ่อจรัญ ) เนื้อดินผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2550 - 2551

    จัดสร้างขึ้นในคราวบรรจุพระเครื่องลงในเจดีย์ วัดบางพาน จำนวนการสร้าง อย่างละ 10,000 องค์ ร่วม 20,000 องค์ บรรจุเข้าเจดีย์ อย่างละ 5,000 องค์ร่วม 10,000 องค์ ที่เหลือแจกให้ลูกศิษย์และจำหน่ายหารายได้เข้าวัด

    มวลสาร : ผสมที่สำคัญ 16 อย่าง ซึ่งหลวงพ่อจรัญ ได้บันทึกไว้ดังนี้
    1.แร่เศรษฐีป้อมเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
    2.แร่ทรหด จากถ้ำเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    3.แร่เม็ดมะขาม จากเจดีย์หัก วัดประสาท จังหวัดสิงห์บุรี
    4.แร่ขวานฟ้า จากอาจารย์หล่ำ บ้านเตาอิฐ จังหวัดสิงห์บุรี
    5.แร่ข้าวตอกพระร่วง จากจังหวัดสุโขทัย
    6.ขี้เหล็กไหล เขาหลวง จังหวัดนครสวรรค์
    7.แร่สังขวานร จากอำเภอพิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร
    8.อิฐดอกจันทร์ จากวัดไม้แดง ค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
    9.คดปลวก ใต้โคกดิน วัดพระปางค์มุนี จังหวัดสิงห์บุรี
    10.คดไม้สัก จากดงพญาเย็น
    11.ขี้ปรอท จากจังหวัดเพชรบูรณ์
    12.ผงจากกรุพระวัดบรมธาตุ จังหวัดชัยนาท
    13.ผงพระหลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จังหวัดปราจีนบุรี
    14.ผงวิเศษ ๑๐๘ อาจารย์ วัดพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
    15.ผงวิเศษของพระครูวินิตสุตคุณ วัดเสาธงทอง จังหวัดอ่างทอง
    16.ผงกรุพระวัดสามเปลื้ม พระครูเปลี่ยนมอบให้

    จาก " กฎแห่งกรรม ธรรมปฎิบัติ พระธรรมสิงหบูราจารย์ เล่มที่ ๒๔ "


    พุทธานุภาพของพระพุทธนฤมิตโชค
    กาลเวลาผ่านไปเป็นอดีต มวลชีวิตย่อมร่วงโรยล่วงลับไม่กลับหลัง มัจจุราชช่างโหดร้ายทารุณอะไรเช่นนั้น ช่างไร้ความปราณีสงสาร แต่เราก็หลีกเลี่ยงไม่พ้น จะต้องประสบชะตากรรมในสภาพที่แตกต่างกัน เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ เราจะมีหนทางใดเล่าเป็นการตั้งตัวให้มีสติ ไม่โศกเศร้าเสียใจจนเกิดขอบเขต หรือช่วยต่ออายุให้ยืนยาวต่อไปอีกสักหน่อย เพื่อจะได้มีเวลาโอกาสสั่งลาทายาท มิตร สร้างกุศล และอโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรกันเสียก่อน เห็นจะมีทางเดียวเท่านั้นก็คือ ศึกษา ปฏิบัติ และยึดมั่นในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ย่อมจะนำชีวิตไปสู่แดนสุขาวดีตามวาระนั้น ตราบใดยังมีลมหายใจอยู่จงประกอบกรรมดีทั้งทางโลกและทางธรรมตามฐานะที่พึงจะกระทำได้ การสร้างกุศลในปัจจุบันย่อมเพิ่มพูนปัญญาบารมี อาจพิชิตมารผจญทั้งภายในและภายนอกลงได้บ้าง อีกอย่างหนึ่ง การยึดมั่นในองค์พระปฏิมากรย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดพลังงานจิตอันสูงส่ง อาจปกป้องคุ้มครองรักษาให้คลาดแคล้วจากภัยพาล ทำให้ชีวิตรอดพ้นห้วงมรณะมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ย่อมเป็นการยืดดวงชะตาดูโลกอันโสภี
    ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีผู้นิยมเช่าพระเครื่องจำนวนมากกว่าสมัยก่อน บางองค์มีราคาเรือนหมื่นเรือนแสนก็ยังหาเช่าไม่ได้ บางครั้งโชคร้ายเสียเงินแต่ได้ของปลอมมาคล้องคอก็มี บางองค์เก่าจริงแต่ไร้รังสี ไม่มีพุทธานุภาพพระเครื่องที่ได้สร้างขึ้นใหม่ และได้ทำพิธีปลุกเสกโดยมีพระเกจิอาจารย์ที่ทรงคุณวุฒิย่อมมีพุทธานุภาพ น่าอัศจรรย์ เข้าขึ้นบรมครูน่าดูทีเดียว
    ในคราวทำพิธีวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถวัดอัมพวัน เมื่อ ๑๔-๑๕ มี.ค. ๑๒ ท่านพระครูภาวนาวิสุทธิ์ ได้แจกพระเครื่องมีนามว่า “พระพุทธนฤมิตโชค” ให้กับผู้มีจิตศรัทธาไว้สักการบูชา หลังจากนั้นไม่นานนัก ได้มีผู้ประสบอภินิหารจากพระเครื่องด้วยตนเองจำนวนมากมาย ได้มาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลาย ๆ อย่าง จึงขอให้ท่านผู้มีเกียรติได้อ่านพิจารณาดู จะเป็นไปได้หรือไม่ หรือท่านผู้ประสบมาได้แต่งเรื่องขึ้นเอง เพื่อเชิดชูอาจารย์ให้โด่งดัง และขอส่วนแห่งจากการจำหน่ายพระเครื่องก็เหลือเดา ขอให้ท่านผู้รู้สอบถาม ตรวจสอบจากผู้ประสบด้วยตนเองเถิด จะได้รู้แจ้งเห็นจริงในเรื่องต่อไปนี้
    ๑. ๑. ความเหนียวคง
    ๑.๑ ครูสมพงษ์ โพธิ์ศรี อยู่บ้านแป้ง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ได้เล่าว่า วันหนึ่งเดินทางไปธุระแถวข้างบ้าน ได้ถูกสุนัขกัด ปรากฏว่าไม่เข้าเป็นรอยบุ๋มฟกช้ำดำเขียวเท่านั้น และมีพระองค์นี้เท่านั้น
    ๑.๒ ร.อ. เสถียร สถานพล อยู่ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จ.ลพบุรี ได้เล่าว่า เมื่อ ๘ พ.ย. ๑๒ ได้จูงลูกสาววัย ๓ ขวบไปบ้านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เมื่อเข้าไปในบ้าน มีสุนัขกระโดดเข้ากัดแขนลูกสาวเต็มแรง ตนเองรู้สึกเสียใจมากที่พาลูกสาวมาให้สุนัขกัด จะเอาไม้ไล่ตีสุนัขก็ไม่ได้ เพราะเป็นของเจ้านาย เมื่อได้ดูแขนลูกสาวแล้วรู้สึกแปลกใจ เห็นแต่เป็นรอยฟกช้ำดำเขียว มีรอยลึก ๕ แห่ง เลือดไม่ออกเลย ก็นึกอัศจรรย์ในในเมื่อมีพระองค์นี้เพียงองค์เดียวและใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตนเอง ทำไมพุทธานุภาพจึงแผ่ไปถึงลูกด้วย ช่างน่าแปลกประหลาดใจจริง
    ๒. ๒. ความคลาดแคล้ว
    ๒.๑ นายประวิทย์ เจ้าของโรงงานทำประตูและหน้าต่าง บ้านอยู่ จ.กำแพงเพชร ได้พาเพื่อนไปธุระที่ จ.ระยอง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้เกิดอุปัทวเหตุ รถแลนด์โรเวอร์ที่ขับไปพลิกคว่ำหลายทอด ปรากฏว่าคนในรถไม่เป็นอะไรเลย รถชำรุดไม่มากนัก จึงได้ขับรถมาหาอาจารย์ และขอพระเครื่องนำไปแจกญาติที่กำแพงเพชรเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว
    ๒.๒ ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม บ้านอยู่ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ ท่านผู้นี้ไม่เคยมาที่วัด ได้เสาะแสดงหามาถึงวัดอัมพวันเพื่อมาขอพระเครื่องไปบูชา ได้เล่าเหตุการณ์ของตนที่ได้ประสบมาว่า เพื่อนของเขาได้ดักยิงคู่อริคนหนึ่งในระยะเผาขน แต่กระสุนมิได้ถูกคู่อรินั้นเลย จึงเกิดสงสัยว่าคู่อริคนนี้เขามีอะไรดีอยู่ในตัวเขา ได้ติดตามไปถามดู จึงพบว่ามีห่อกระดาษสี่เหลี่ยมหุ้มพลาสติกอยู่ในกระเป๋าเสื้อ เมื่อได้แกะเปิดออกดูก็รู้ว่าเป็นพระเครื่องสีน้ำตาล ด้านหลังจารึกชื่อ วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เขาจึงได้เดินทางมายังวัดนี้ เพื่อขอพระเครื่องไปสักการบูชา
    ๒.๓ นายสายันต์ กาญจนะ ผู้จัดการ ร.ร.วรนารีวิทยา อ.เมือง จ.ลพบุรี ท่านผู้จัดการฯ ได้เล่าว่าได้ประสบอุบัติเหตุขับรถส่วนตัวหลายครั้ง เป็นต้นว่า ขับรถยนต์ชนกันบ้าง ขับรถไปชนเสาไฟบ้างเป็นประจำ แต่ตนเองปลอดภัยทุกครั้ง เมื่อเพื่อนฝูงมาเยี่ยมก็งัดพระเครื่องออกมาอวดว่าได้ช่วยชีวิตตนไว้ เมื่อเพื่อนออกปากขอก็มอบให้ไป แล้วผู้จัดการก็มาขอท่านพระครูเอาไว้ติดตัวอีก คุณสายันต์ ได้เล่าว่าได้เกิดอุบัติเหตุ ๒ ครั้ง แต่ปลอดภัยทุกครั้ง
    ครั้งที่ ๑ (เมื่อ ๕ พ.ค. ๑๒ เวลา ๑๘.๐๐ น.)
    คุณสายันต์ขับรถยนต์ส่วนตัวมุ่งหน้าไปประตูน้ำพระอินทร์พร้อมกับเพื่อน ๔ คน ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันเสียหายมาก พรรคพวกบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนตัวคุณสายันต์ไม่เป็นอะไรเลย
    ครั้งที่ ๒ (เมื่อ ๙ ต.ค. ๑๒ เวลา ๑๙.๓๐ น.)
    คุณสายันต์พร้อมด้วยพรรคพวกรวม ๑๑ คน ขับรถไปเที่ยว จ.สิงห์บุรี ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ที่ขับไป ชนกับรถบรรทุกที่สวนทางมาพลิก ๓ ทอด รถเสียหายมาก คนในรถบาดเจ็บเล็กน้อย แต่คุณสายันต์ไม่ได้รับอันตรายเลย
    ๓. ๓. ป้องกันภูติผีปีศาจ
    ๓.๑ ส.ต.ประจวบ ศริโมรา บ้านอยู่ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อรับพระไปจากท่านผู้การฯ จึงนำไปเลี่ยมแขวนคอ ในบ่ายวันหนึ่งไล่ควายไปเลี้ยงในบริเวณป่าช้าวัดข้างบ้าน ซึ่งบรรดาพรรคพวกไม่กล้าเอาควายไปเลี้ยงเลย พวกนั้นบอกว่ามีผีดุมาหลอกพวกเขาทุกครั้งเมื่อเขาไปถิ่นนั้น เนื่องจากที่อื่นไม่มีหญ้าเพียงพอให้ควายกิน มีแต่ในป่าช้าเท่านั้นที่มีหญ้าอุดมสมบูรณ์ ส.ต.ประจวบ จำต้องนำความไปเลี้ยงในป่าช้าดังกล่าว เมื่อตะวันจะตกดิน จึงต้อนควายกลับบ้าน ไม่ปรากฏว่ามีผีหลอกก็น่าอัศจรรย์จริง ๆ
    ๔. ๔. เสียงกระซิบเตือนภัย
    ๔.๑ ร.อ.เสถียร สถานพล บ้านอยู่ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จ.ลพบุรี ท่านผู้นี้ได้บันทึกเรื่องราวไว้โดยละเอียด โปรดอ่านเรื่องวิญญาณเพื่อนรักได้พิมพ์ไว้ท้ายเล่ม พอจะสรุปสาระสำคัญได้ว่า วิญญาณของ ร.อ.ชาญ ไปหา ร.อ.เสถียร ในคืนเดียวกันถึง ๔ ครั้ง ก่อนจะมาถึงครั้งที่ ๔ ได้มีเสียงกระซิบสั่งว่า “ให้เอาพระเครื่อง (พระพุทธนฤมิตโชค) ไปไว้ใต้หมอนประเดี๋ยวเขาจะมาอีก เมื่อเขามาก็บอกเขาด้วยว่าจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้” ในบัดดลนั้นเอง วิญญาณของ ร.อ.ชาญ ก็มาปรากฏภาพให้เห็น แต่ ร.อ.เสถียร พูดอะไรไม่ออก แต่ได้ยินเสียงกระซิบข้างหูอีก เตือนซ้ำ ๆ กัน ๓-๔ ครั้งว่า “พูดกับเขาซิ จะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้” เมื่อ ร.อ.เสถียร ได้สติจึงได้พูดตามเสียงผู้กระซิบนั้น ปรากฏว่าภาพของ ร.อ.ชาญ ได้หายไปและไม่ปรากฏให้เห็นอีกเลย
    ๔.๒ เจ้าของโรงสี (ไม่ประสงค์ออกนาม) อยู่ จ.นครสวรรค์ ได้มาเล่าเรื่องการถูกโจรปล้นให้เพื่อนบ้านฟังว่า เขารู้ตัวก่อนถูกปล้น ๒-๓ วันแล้ว ซึ่งทราบได้จากเสียงกระซิบของพระองค์นี้ได้บอกว่า “ให้ระวังตัวจะมีโจรมาปล้น แต่ไม่เป็นไร” เขารู้สึกดีใจเพราะเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นตามเสียงกระซิบนั้น เขาได้ทำการเตรียมการต่อสู้ไว้ล่วงหน้า เมื่อพวกโจรเข้ามายิงต่อสู้กัน พวกโจรเอาอะไรไปไม่ได้เลย และคนในบ้านก็ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลย
    ๔.๓ คนขับรถของคุณสมเจตน์ วัฒนสินธุ์ เขาได้ขับรถเก๋งพาคุณสมเจตน์ วัฒนสินธุ์ กับเพื่อนไปธุระที่จังหวัดสุพรรณบุรี และได้ค้างคืนที่นั่น ตกกลางคืนได้นอนฝันประหลาด ได้เห็นคนแก่มีหนวดเครารุงรัง เดินเข้ามาหาและหยิบพระในสร้อยคอเขาดูแล้วพูดว่า “กูอยู่ที่วัดมานานยังไม่ได้สักองค์เลย” เขาได้ยินและตื่นตกใจรุ่งเช้าได้เล่าให้คุณสมเจตน์ฟัง เลยรีบบึ่งรถจากสุพรรณบุรีตรงมายังวัดขอพระไว้สักการะคนละองค์


    วิธีบูชาพระ
    ตั้งนะโม 3จบ
    หลับตานึกถึงองค์พระแล้วภาวนา "อรหัง พุทโธ อิติปิโส ภควา นะมามิหัง" 9จบ อธิษฐานจิตตามปรารถนา

    สภาพสวยเดิม ผงเก่ามวลสารศักดิ์สิทธิ์ พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณเน้นเมตตามหาลาภและคลาดเเคล้ว แบ่งให้บูชา 250 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณอาณัติ จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
    *** โอนถูกๆผ่าน Promptpay(พร้อมเพย์) รหัส0860441367 ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  5. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,078
    ค่าพลัง:
    +22,261
    715.เมตตามหาลาภ (๑) พระพุทธนฤมิตโชค หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    ธรรมทายาท ลพ.เดิม,ลพ.จง,ท่านพ่อลี อธิษฐานจิตเพื่อการกุศล
    สภาพสวยเดิม ผงเก่ามวลสารศักดิ์สิทธิ์ พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณเน้นเมตตามหาลาภและคลาดเเคล้ว แบ่งให้บูชา 250 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    ขอจองครับ......
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323


    $$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$



    716.หายากซองเดิมๆ ยอดมวลสารพระอรหันต์ พระผงพระธรรมจักร พระอาจารย์จวน วัดภูทอก
    ลป.ขาว,ลป.เทสก์,ลป.อ่อน ร่วมเมตตาอธิษฐานจิตมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-E5A8_59CCB473.jpg

    พระผงพระธรรมจักร พระอาจารย์จวน วัดเจติยาคิรีวิหาร(ภูทอก) จังหวัดหนองคาย เนื้อผงมหาพุทธคุณ สีแดง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2519 โดย คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต ศิษย์ก้นกุฏิของท่านพระอาจารย์จวน และบรรดาคณะศิษย์ เพื่อเป็นที่ระลึกสมทบทุนทอดกฐินและผ้าป่า ในการบูรณะเสริมสร้างสะพานลอยรอบเขา “ภูทอก” ให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น

    จำนวนการสร้าง ทั้งหมดรวม 93,409 องค์
    - เนื้อพิเศษสุดขึ้น 9 องค์ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จ
    - เนื้อพิเศษอีก 1,000 องค์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพารที่ใกล้ชิด
    - เนื้อพิเศษ “นอกวัง” จัดทำเป็น 4 สี สีละ 2,100 องค์ รวม 8,400องค์
    - เนื้อแดง 84,000องค์

    - บรรจุกรุเข้าในพระเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของท่านอาจารย์ จำนวน 40,000 องค์

    พระผงที่จัดสร้างนี้ ด้านหน้า : สร้างเป็นรูปปางปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ส่วนด้านหลัง : เป็นรูปเจดีย์ทั้งสามแสดงถึงวาระแห่งการประสูติ ตรัสรู้และนิพพาน

    ข้อมูลประวัติการจัดสร้าง
    คณะกรรมการได้จัดสร้างพระธรรมจักรทั้งหมดรวม 93,409 องค์

    โดยทำเนื้อพิเศษสุดขึ้น 9 องค์ เพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ครบทุกพระองค์ และได้จัดทำเนื้อพิเศษอีก 1,000 องค์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพารที่ใกล้ชิด นั่นเป็นเนื้อพิเศษ “ในวัง” ทีนี้ก็เป็นเนื้อพิเศษ “นอกวัง” จัดทำเป็น 4 สี สีละ 2,100 องค์ เรียกว่าชุด “จตุรงค์ 4 สี” ประกอบด้วย
    1. สีเขียว แทนวาระประสูติ หมายถึง ความรื่นเริงของ 3 แดนโลกธาตุ ที่ทราบถึงการอุบัติของพระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า

    2. สีขาว แทนวาระตรัสรู้ หมายถึง ความสว่างเจิดจ้าของ “ธรรม” ที่ทรงรู้ทรงเห็น จนสามารถเด็ด “อวิชชา” ออกจากพระทัยได้

    3. สีชมพู แทนวาระปฐมเทศนา หมายถึงอาทิตย์อุทัย เปรียบได้กับการเริ่มต้นของพระพุทธศาสนา

    4. สีดำ แทนวาระปรินิพพาน หมายถึงความโศกสลดของหมู่มนุษย์ และทวยเทพ ที่อาลัยรักในพระพุทธองค์

    ทุกสีที่ว่ามามีมวลสารอย่างเดียวกันหมดในเนื้อพระ แต่สีที่ต่างกันก็ด้วยเน้นหนักของมงคลบางอย่างลงเป็นพิเศษ คือ

    สีเขียว เน้นด้วยกระเบื้องสีเขียวหลังคาวัดบวรนิเวศวิหาร, วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม, จันทน์หอมจากภูทอก และที่สำคัญ เตยหอมภูทอก ซึ่งท่านพระอาจารย์จวนได้อธิษฐานจิตให้ว่า “จะแตกไปกี่กอ ทุกต้นทุกกอคือเราเสกไว้แล้ว”

    สีขาว เน้นด้วยเกสรดอกไม้, ผงงาช้าง, กระเบื้องขาววัดบวรนิเวศ และวัดราชบพิธ

    สีชมพู เน้นด้วยชานหมากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสุปฏิบัติทั้งสิ้น, หินแดงจากภูทอก และที่สำคัญสุดยอด โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหล ซึ่งเทพที่รักษามาขอให้ท่านอาจารย์นำออกจากถ้ำบูชาภูวัว ไปแจกจ่ายแก่ประชาชน เทพเหล่านั้นจะได้ได้บุญด้วย

    สีดำ เน้นด้วยพระผงงิ้วดำ, เบ้าหล่อพระพุทธรูป ภปร. และข้าวสารดำที่มีอายุถึง 3,000 ปี นี่เป็นมวลสารที่เป็นตัวหลัก ซึ่งใช้เฉพาะเจาะจงลงไปที่พระชุดพิเศษ 4 สี เท่านั้น

    ต่อไปจะเป็นมวลสารทั้งหมดทั้งปวง ที่ใช้ผสมในพระพิเศษ 4 สีด้วย และพระธรรมดาสีแดงที่มีจำนวนจัดสร้างเท่าพระธรรมขันธ์ คือ 84,000 องค์ ด้วย ดังต่อไปนี้

    1. ดิน ใช้ดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง คือ ประสูติ, ตรัสรู้, ปฐมเทศนา และปรินิพพาน ดินจากที่ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์, ดินเชตวันมหาวิหาร, ดินรอบสถูปพระสารีบุตร, ดินสถูปพระโมคคัลลาน์, ดินสถูปพระอานนท์, ดินสถูปพระมหากัสสาปะ, ดินสถูปพระอนุรุทธ, ดินสถูปพระราหุล, ดินสถูปพระกัจจายนะ, ดินสถูปพระองคุลีมาล, ดินในถ้ำสุกรขาตา, ดินจากเขาคิชฌกูฏ และดินในพระคันธกุฏีที่ประทับของพระพุทธองค์เมื่อครั้งยังทรงพระชนม์อยู่

    มีเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับดินที่พระคันธกุฏีนี้ กล่าวคือ ครั้งหนึ่งคุณสุรีพันธุ์เป็นหัวหน้าทีมนำคณะพระกรรมฐานอันประกอบด้วยหลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ, หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส, ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม, ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร และคณะศิษย์ไปนมัสการสังเวชนียสถาน 4 แห่ง ในอินเดีย

    ขณะที่เดินขึ้นยอดเขาคิชฌกูฏนั้น ครั้นใกล้ถึงพระคันธกุฎี ท่านพระอาจารย์วันกับท่านพระอาจารย์จวนก็ออกวิ่งเหยาะๆนำไป คุณสุรีพันธุ์ประหลาดใจนัก เพราะปกติพระจะไม่วิ่ง ยิ่งเป็นท่านอาจารย์ทั้งสองแล้ว นับแต่เป็นศิษย์เป็นอาจารย์กันมา ท่านเรียบร้อยที่สุด ลงถ้าท่านวิ่ง ถึงจะช้าๆ แต่เหตุต้องไม่ใช่เรื่อง “ธรรมดา” คุณสุรีพันธุ์จึงตัดสินใจวิ่งตาม

    เมื่อถึงคันธกุฎีก็ทันเห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์พันลึก ด้วยดินใกล้ๆกับที่ท่านอาจารย์ยืนอยู่เกิดการเต้นกระโดดน้อยๆ ชวนขนลุกขนพอง

    ขณะที่ตะลึงพรึงเพริดอยู่นั่นเอง ท่านอาจารย์ทั้งสองก็ก้มลงเก็บดินเหล่านั้นขึ้นมาจำนวนหนึ่ง และเก็บอยู่กับท่านเป็นแรมปี จวบจนมีการสร้างพระธรรมจักร ท่านอาจารย์ทั้งสองจึงได้มอบดินอัศจรรย์นั้นมาให้ผสมเนื้อ

    ไม่ขลังคราวนี้จะไปขลังคราวไหน !!

    2. ใบไม้มงคล ใบโพธิ์ที่ประสูติ ลุมพินีวัน, ใบโพธิ์ตรัสรู้ พุทธคยา, ใบสาละที่ปรินิพพาน กุสินารา, ใบโพธิ์ที่หลังพระคันธกุฎี และใบโพธิ์พระอานนท์ ณ เชตวันมหาวิหาร

    3. เส้นเกศา หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม, ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร

    มีเรื่องแปลกอีกเกี่ยวกับเส้นเกศา กล่าวคือ เมื่อคณะกรรมการกำลังรวบรวมเส้นเกศาอยู่นั้น จู่ๆก็มีพระรูปหนึ่งมาหานำเส้นเกศากับชานหมากจำนวนหนึ่งมาให้ พร้อมแจ้งว่า “หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ สั่งให้เอามาให้ เพราะทราบว่าคุณสุรีพันธุ์จะสร้างพระ” คุณสุรีพันธุ์บอกว่าน่าประหลาดนัก การสร้างพระธรรมจักร ดูจะเป็นงานใหญ่ก็จริง แต่ก็ทำกันเงียบๆ รู้กันเฉพาะคนในเท่านั้น หลวงปู่คำดีทราบได้อย่างไร เพราะในเวลานั้น

    คุณสุรีพันธุ์ไม่เคยรู้จักท่านเลย !!

    เมื่อสืบเสาะภายหลังจึงทราบความว่า หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ จ.เลย เป็นศิษย์องค์สำคัญของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเมื่อพระราชทานเพลิงศพท่านแล้ว อัฐิหลวงปู่คำดี ก็แปรสภาพเป็นธาตุดุจเดียวกับองค์อาจารย์

    4. ดอกไม้ ผงธูป ทองคำเปลว จากพระบรมธาตุ จ.นครศรีธรรมราช, พระธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี, พระธาตุพนม จ.นครพนม, พระธาตุเชิงชุม จ.สกลนคร, พระร่วงโรจนฤทธิ์ จ.นครปฐม, หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา, พระมงคลบพิตร จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดบวรนิเวศ, วัดราชบพิธ, จากที่บูชาพระรูปสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม, จากที่บูชาพระรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม

    5. ดอกไม้ ผงธูป จากที่บูชาพระ-สวดมนต์ของสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฒฑโน), หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, พระนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี), หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, พระครูญาณทัสสี (คำดี ปภาโส), พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (วัน อุตตโม), ท่านอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร, พระครูปลัดสัมพิพัฒเมธาจารย์ (ไพบูลย์ สุมังคโล)

    6. ชานหมาก ข้าวก้นบาตร ก้นบุหรี่ ของหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, ท่านพระวัน อุตตโม,ท่านอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ, ท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร

    7. พระชำรุดนำมาบด ได้แก่ พระพุทธรูปอายุ 1,000 กว่าปี ที่ท่านพระอาจารย์จวนธุดงค์ไปพบในถ้ำแถบภูสิงห์ ภูวัว, พระสมเด็จวัดระฆัง และบางขุนพรหม, พระดินเผาสมัยสุโขทัย, พระผงกรุวัดสามปลื้ม, พระผงงิ้วดำ, พระพิมพ์วังหน้า

    8. มวลสารมงคลอื่นๆ ได้แก่ โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหลจากถ้ำบูชา, ผงงาช้าง, เขากวางคุด, แก่นจันทน์หอม นำมาจากถ้ำจันทน์ดินแดนอาถรรพณ์, ไม้มะขามจากถ้ำขาม ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร, กระเบื้องไม้หลังคากุฏิของหลวงปู่ขาว อนาลโย, หินแดงบนภูทอก, ไม้กลายเป็นหิน ซึ่งหลวงปู่ฝั้นเมตตาสกัดให้ด้วยองค์ท่านเอง, ข้าวตอกพระร่วง จ.สุโขทัย

    โคตรเหล็กไหล และขี้เหล็กไหล ที่ท่านพระอาจารย์จวนมอบให้นั้น คุณสุรีพันธุ์ได้ให้กองกษาปณ์ป่นเหล็กไหลทั้งหมดให้เป็นผงด้วยเครื่องบดพิเศษ เป็นเหล็กเหนียว ชื่อว่า “ไททาเนี่ยม” ว่ากันว่าเป็นเหล็กที่แข็งที่สุด ดีที่สุดในโลก ปรากฏว่า กว่าจะหมด 1 กะละมัง เครื่องสึกไปจนใช้อีกแทบไม่ได้ เลยไม่รู้ว่าใคร “เหล็ก” กว่าใคร

    เมื่อบดมวลสารทุกชนิดพร้อมสรรพ ก็ทำการกดพิมพ์เป็นองค์พระ โดยใช้ระบบอัดแรงสูง นั่นคือความประสงค์ของคณะกรรมการ เพราะไม่ต้องการผสมเนื้อปูน หรือกาวอะไรๆ ลงในพระ ดังนั้นพระทั้งหมดจึงมีแต่มวลสารล้วนๆ

    มาถึงการอธิษฐานจิต คุณสุรีพันธุ์บอกว่า ส่วนใหญ่จะอธิษฐานองค์ละ 1 คืน ทั้งสิ้นมีรายนามดังต่อไปนี้
    1. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี
    2. หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    3. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี
    4. หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
    ***
    5. ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
    6. ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    7. พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วบ้านชุมพล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร


    ***หมายเหตุ: เรื่องรายนามพระเถระที่อธิษฐานจิตพระผงธรรมจักรนี้ คุณ im ได้โพสท์ไว้ในเวบ www.udon108.com เมื่อ: 18 เมษายน 2552 หัวข้อ: พระผงธรรมจักร ระบุว่า "ได้สอบถามไปยังผู้สร้างแล้วยืนยัน หลวงตามหาบัวไม่ได้อธิษฐานด้วยครับ"

    พระมหาเถระผู้ประเสริฐทุกองค์ที่อธิษฐานจิตให้ดังกล่าว เป็นพระที่ผมกล้าออกปากได้โดยไม่เคอะเขินว่า ท่านถึงพร้อมด้วย “วิชชา” และ “วิมุตติ” อย่างแท้จริง ไม่ใช่จะพูดเอาโก้เก๋ประการใด

    อย่างนี้สิถึงเรียกว่า “จักรพรรดิแห่งพระเครื่อง” ได้เต็มคำ

    ค่าบูชาในตอนนั้นกำหนดว่า 20 บาท จะได้รับพระธรรมจักรแบบธรรมดา 1 องค์ และ 100 บาท จะได้รับพระธรรมจักรชุดพิเศษ จตุรงค์ 4 สี จำนวน 1 ชุด

    จำนวนพระแม้จะดูค่อนข้างมาก แต่หาในสนามไม่เคยพบ เพราะคนที่ได้ไว้ต่างก็หวงแหนสุดแสนจะเอ่ย และก่อนท่านอาจารย์จวนมรณภาพ ท่านเคยปรารภว่าอยากให้สร้างเจดีย์เพื่อบรรจุพระธรรมจักรจำนวนครึ่งหนึ่งเอาไว้เพื่อสืบพระศาสนา

    ในปัจจุบัน คุณหญิงสุรีพันธุ์ หรือ “เส” ของพระอาจารย์จวนได้สนองดำริของท่าน โดยบรรจุพระธรรมจักรจำนวน 40,000 องค์ เข้าในพระเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของท่านอาจารย์ ณ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ใครว่าง ใครมีโอกาสขอเชิญไปชมทัศนียภาพที่สุดจะงาม อากาศที่แสนบริสุทธิ์สดชื่นแท้ๆ ที่ภูทอก ไปเดินรอบภูด้วยสะพานอัศจรรย์ อันเกิดจากแนวความคิดและฝีมือขององค์ท่านอาจารย์เอง ไปภาวนาให้เกิดความสงบเย็นใจสักครั้งในชีวิตก็ยังดี เผื่อจะได้พบทางคลี่คลายอุปสรรคบ้าง

    และถ้าอยากได้พระธรรมจักรอันทรงฤทธิ์ ลองไปอธิษฐานดูที่นั่

    จากหนังสือศักดิ์สิทธิ์ ฉบับวันที่ 1 มกราคม 2540

    รายละเอียดทั้งหมดตามลิงค์เลยครับ ขอขอบคุณเจ้าของข้อมูลด้วยนะครับ
    http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-juan/lp-juan-hist-11.htm

    สภาพสวยแป้งลองพิมพ์เดิม หายากซองเดิมๆ ไม่เคยแกะออกมา ท่านคือคนแรกที่สัมผัส เนื้อหาสุดเข้มขลังพร้อมคราบไขว่านของดีสุดยอดพิธี เอาไว้เลี่ยมกรอบกันน้ำติดตัวได้สบายเลย ถ้าสภาพสวยๆหลายตังค์ครับ พุทธคุณครอบจักรวาล แบ่งให้บูชา 2,800 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณjaru จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  7. jaru

    jaru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +710
    ขอจองบูชาครับ
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323

    $$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$



    717.เหรียญดีน่าใช้(๑) เหรียญราหูจันทรประภา วัดบ้านคลอง
    พระสังฆราช,ลพ.คูณ,ลป.ฟู,ลพ.ศิริ,ลพ.พูน ร่วมเสกพิธีมหามงคล

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-AC31_59CD15A4.jpg

    image-94da_589de136-jpg.jpg

    เหรียญราหูจันทรประภา รุ่นไตรมาส วัดบ้านคลอง(วัดสายวารี) อ.พนัสนิคม(เกาะจันทร์) จ.ชลบุรี เนื้อทองแดง จำนวนการสร้าง 10,000องค์ ดำเนินการจัดสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 - 2538 จัดสร้างพร้อมกับพระปิดตามหาลาภรุ่นไตรมาส

    จำนวนการจัดสร้าง
    - เนื้อเงินสร้างพิมพ์เดียว จำนวน 219 เหรียญ
    - เนื้อทองแดง พิมพ์สุริยะประภา และพิมพ์จันทะประภา พิมพ์ละ 10,000 เหรียญ


    วาระพุทธาภิเษก
    - พระเดชพระคุณหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ เมตตาทำพิธีอธิษฐานจิตพระปรกใบมะขามและตะกรุด เพื่อให้นำมาบรรจุในพระปิดตาทุกองค์

    - วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2536 ได้ประกอบพิธีปริตตาภิเษก มวลสาร และกดพิมพ์เป็นปฐมฤกษ์โดยได้รับความเมตตาจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุค คือ
    1.หลวงพ่อสิริ วัดตาล
    2.หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดเม้าสุขา

    3.หลวงพ่อมงคล วัดเนินหลังเต่า โดยมีเจ้าคณะสังฆาธิการ 9 รูป เจริญชัยมงคลคาถา เจริญพระพุทธมนต์ และ ทักษิณานุประทานถวายบูรพาจารย์ โดยพระที่จัดสร้างทุกองค์ได้ทำการกดพิมพ์ภายในวัดทั้งหมด สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2538 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 111,515 องค์

    - หลังจากกดพิมพ์แล้วเสร็จ เหล่าคณะสงฆ์วัดบ้านคลอง ได้ร่วมเจริญพุทธมนต์ตลอดไตรมาส 3 เดือน (รวม 99 วัน) ขณะในพรรษาทางวัดได้นำพระปิดตานี้เข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกที่พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศฯ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2538 โดยมี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัยและอธิษฐานจิต

    - เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พศ.2539 เวลา 24.09 น.หลังจากไตรมาสได้นำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกอีกครั้ง ณ วัดบ้านคลอง โดยมีพระภาวนาจารย์อันมีนามมงคล 9 รูปนั่งอธิษฐานจิต ได้แก่
    1.หลวงพ่อประเสริฐ วัดหนองเกตุ
    2.หลวงพ่อสะอาด วัดหนองเสม็ด
    3.หลวงพ่อสิริ วัดตาล (จุดเทียนชัย)
    4.หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดเม้าสุขา (ดับเทียนชัย)
    5.หลวงพ่อมงคล วัดเนินหลังเต่า
    6.หลวงพ่อวิบูลย์ วัดลำต้อยติ่ง
    7.หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
    8.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    9.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร


    ด้านพุทธคุณราหูอมจันทร์
    - ดีทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุด และป้องกันภูตผีปีศาจ

    คาถาจันทรประภา
    ยะธาตัง มะมะ ตังถายะ ตังวะตัง มะมะ ตังวะตัง ตังเสถา มะมะ ถาเสตัง ถาติยะ มะมะ ยะติกา คาถาบทนี้สำหรับลงในยันต์จันทรประภาและใช้เสกยันต์จันทรประภาด้วย 108 แล

    สภาพสวยเดิมผิวรุ้งเดิมๆ และมีคราบจากการเก็บเก่า พระชุดนี้ใครๆก็รู้ว่าดีแค่ไหน ทั้งเจตานาการจัดสร้างอันบริสุทธิ์,พิธีที่ดีรวมถึงฤกษ์ยามต่างๆ และพระคณาจารย์ที่ปรกล้วนไม่เป็นรองใคร ไม่มีเสริมไม่เก๊ ปลอดภัยหายห่วงครับ แบ่งให้บูชา 250 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)



    (คุณnatacom จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323

    $$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$



    718.ยอดผงพรายกุมาร พระสมเด็จพิมพ์พระประธาน วัดหนองกาน้ำ
    เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เสกเดี่ยวไตรมาส

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-9B79_59CD1E32.jpg
    พระสมเด็จ พิมพ์พระประธานหลังยันต์ วัดหนองกาน้ำ จังหวัดชลบุรี เนื้อผงพรายกุมารและผงวิเศษของหลวงปู่ทิมและหลวงตาบางที่ท่านได้เก็บสะสมไว้ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2515-2516 ปลุกเสกโดย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จัดสร้างโดยหลวงตาบาง แห่งวัดหนองกาน้ำ(ลูกศิษย์ผู้ติดตามหลวงปู่ทิม) พระสมเด็จรุ่นนี้จัดสร้างพร้อมกับ พระสมเด็จหลังยันต์ห้า,พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ทิม, พระปิดตายันต์ยุ่ง และพระปิดตา ของวัดหนองกาน้ำ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสกให้ตลอดไตรมาส

    ผงวิเศษที่หลวงปู่ทิมเมตตามอบให้ หลวงตาบาง
    1.ผงพรายกุมาร
    2.ผงปถมัง (มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี เป็นมหาจังงัง กำบังกายได้ ถ้านำผงนี้ติดตัว คนอื่นจะไม่เห็นเราได้)
    3.ผงมหาราช (เด่นทางเสน่ห์ ใช้ได้สารพัด 108)
    4.ผงพุทธคุณ (มีอุปเท่ห์คล้ายกับผงมหาราช มีอานุภาพสูงในทางป้องกันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร ฯลฯ)
    5.ผงตรีนิสิงเห (ซึ่งผงวิเศษที่ลบขึ้นนี้ มีคุณวิเศษและประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อนำมาผสมสร้างวัตถุมงคล ก็ทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีพลานุภาพสูงยิ่งๆขึ้น และยิ่งได้รับการประจุกระแสจิตจากพระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ก็ยิ่งทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆขึ้นไปอีก สามารถนำมาอธิษฐานได้ดั่งใจต้องการ...")
    6.ผงอิทธิเจ (มีอานุภาพสูงทางเมตตา มหานิยม หากนำไปให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงจะลุ่มหลงและระลึกนึกถึงผู้ที่เอาผงนี้ให้กินอยู่เสมอจนทนไม่ได้ จนต้องมาอยู่กินกับชายผู้นั้นในที่สุด ซึ่งหลวงปู่ทิมได้สาปแช่งเอาไว้ หากใครเอาผงไปใช้ในทางที่ผิด)
    ข้อมูลจาก : นิตยสารร่มโพธิ์ เล่มที่93 โดยคุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ

    ประวัติการจัดสร้าง
    หลวงตาบาง ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองกาน้ำ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้เดินทางไปหาหลวงตารอด ที่วัดละหารไร่ เพื่อปรึกษาจะสร้างพระสมเด็จ และพระปิดตา เพื่อหาทุนสร้างศาลาและโบสถ์ที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านทั้งสองได้ขออนุญาตหลวงปู่ทิมเพื่อจัดสร้าง หลวงปู่ทิมให้ก็ให้สร้างตามคำขอ พร้อมทั้งได้มอบผงพุทธคุณนำไปผสม เพื่อจัดสร้างพระจำนวนหนึ่ง หลวงตาบางท่านได้เดินทางไปถวายให้ หลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสกเดี่ยว ไตรมาส 3เดือน เมื่อถึงกำหนดเวลา หลวงตาบางก็ได้เดินทางมารับพระสมเด็จและพระปิดตาจากหลวงปู่ทิม เนื้อองค์พระรุ่นนี้ที่พบเห็นจะพบเป็น เนื้อออกสีน้ำตาล สีเหลืองอ่อน เหลือเข้ม(ว่านเหลือง) สีดำ (ว่านไพรดำ) บางองค์พบว่ามีพลอยเสกอยู่ด้วย

    ข้อมูลเพิ่มเติม :
    - http://www3.g-pra.com/auctionc/view.php?aid=12717280

    - https://www.web-pra.com/Shop/boonto/Show/1026346


    สภาพสวยเดิมเก่าเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมชัดลึก เตือนกันไว้ตอนนี้มีของปลอมออกมาแล้วเกลื่อนเลยจะเช่าบูชาควรศึกษาก่อนนะครับ "ไม่แท้ไม่ทัน คืนเต็มครับ" พุทธศิลป์เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ไม่หักไม่ซ่อมผิวเดิมเก่าเก็บไม่ได้ใช้ พระรุ่นนี้เล่นหากันเป็นหลวงปู่ทิม อย่างเป็นทางการเเล้วครับ เนื้อหามวลสารเข้มข้นถึงใจ เมื่อก่อนอาจจะพบเห็นบ่อยๆ แต่ตอนนี้คิดหนักครับหายากใช้ได้เลย แบ่งให้บูชา 4,200 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)



    (คุณวิทยา จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  10. natacom

    natacom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +54
    จอง 717.เหรียญดีน่าใช้(๑) เหรียญราหูจันทรประภา
     
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323

    $$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$



    719.สวยแชมป์ซองเดิมๆ(๑) เหรียญรุ่นสร้างเสริมบารมี
    หลวงปู่พระมหาโส วัดป่าคำแคนเหนือ พระเถรจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-2B81_59CDC219.jpg
    เหรียญรุ่นสร้างเสริมบารมี หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ จังหวัดขอนแก่น เนื้อกะไหล่เงินตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2537 เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในงานวางศิลาฤกษ์พระรัตนเจดีย์

    ประวัติปู่พระมหาโส กัสสโป
    **หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป นามสกุลเดิม ดีเลิศ เกิดเมื่อวันที่ วันจันทร์ ที่ 8 พ.ย.2458 เวลาตี 2 (ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12 ปีเถาะ) ปัจจุบันสิริอายุ 99 ปี

    **สถานที่เกิด : เกิดที่ บ้านก่อ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี โยมบิดาชื่อ เคน โยมมาดาชื่อ ค้ำ มีอาชีพทำนา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดา 9 คน

    บรรพชา
    **ในปี พ.ศ.2477 เมื่อมีอายุ 19 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรกับหลวงปู่อุปัฌชาย์อ่อน ที่วัดบ้านก่อ(บ้านเกิดท่าน) เป็นการบวชหน้าไฟให้โยมมารดาซึ่งถึงแก่กรรมลง ตั้งใจจะบวชเพียง 3 พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ครบกำหนดแล้ว ก็ธรรมทำความรู้ในพระธรรมวินัยด้านปริยัติแตกฉาก จนสอบได้ นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอก ติดต่อกันมาทุกปี จนทำให้มีศรัทธาบวชต่อ

    อุปสมบท
    **ถึงปี พ.ศ.2478 อายุครบ 20 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยมีพระอุปัฌชาอ่อน เป็นพระอุปัฌชาย์ที่วัดบ้านเกิดนั่นเอง และได้จำพรรษาอยู่ที่นั่น

    ญัตติเป็นธรรมยุติ
    **ล่วงเข้าปี พ.ศ.2480 ท่านได้กราบลาพระอุปัฌชาย์อ่อนออกเดินทางติดตามพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน (ซึ่งเป็นญาติกันด้วย) โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.อุดรธานี เมื่อเดินทางถึง จ.อุดรธานี หลวงปู่พระมหาสีทนได้นำท่านไปเปลี่ยนยัตติเป็นพระธรรมยุต ในวันที่ 17 ก.ค.2480 ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี ท่านเจ้าคุณพระเทพกวี (จูม พนฺธุโล) ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมเจดีย์ เป็นพระอุปัฌชาย์ มีพระครูสาสนูปกรณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อยัตติแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์

    เป็นมหาเปรียญ
    **หลวงปู่พระมหาโส เป็นพระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยปฏิบัติตามคำสอนขององค์ศาสดามาโดยตลอด ท่านแสวงธรรมทั้งในด้าน ปฏิยัติ(แสวงหาความรู้) ปฏิบัติ(แสวงธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า) ปฏิเวธ(แสวงหาธรรมด้วยปัญญาของตนเองเพื่อแสวงหาวิโมกติสุข) ถึงเวลาต่อมาในพรรษาที่ 12 ท่านก็ได้แตกฉากบาลี จนสอบเปรียญธรรมสนามหลวงเป็น "พระมหา" ได้สำเร็จ และในปีเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีหมากหญ้า อ.เมือง จ.อุดรฯ ด้วย
    **แต่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้เพียง 4 ปี หลวงปู่มหาโส ก็สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และออกธุดงค์ต่อเพื่อแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า"พ้นจากวัฏสงสาร"อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาต่อไป


    ประวัติอื่นๆ
    **หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป เป็นศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต (ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าท่านเป็นศิษย์หรือสหธรรมิกของหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต แต่ที่จริงไม่ใช่เพราะถ้านับพรรษาหลวงปู่มหาโสพรรษามากกว่าหลวงปู่ผางถึง 20 ปี เพราะหลวงปู่ผางท่านอุปสมบทตอนอายุ 40 ปีครับ) ในขณะที่ผู้คนรู้จักชื่อเสียงของหลวงปู่ผาง หลวงปู่มหาโสยังคงธุดงธ์แสวงวิเวกอยู่ในป่าอยู่

    **ท่านนับเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูปหนึ่งชึ่งผู้คนยังไม่ค่อยรู้จักท่านเท่าใด เพราะปฏิปทาท่านชอบบำเพ็ญหาความสงบทางจิตในป่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นับตั้งแต่อายุ 70 ปี หลวงปู่พระมหาโสก็ไม่เคยออกจากวัดป่าคำแคนเหนือสู่งสังคมทางโลกอีกเลยจนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนท่านธุดงค์บำเพ็ญเพียรที่หุบเขาต่างๆ เช่น ภูพาน ภูผาแดง ภูเม็งฯลฯ และตั้งสำนักสงฆ์ที่หุบเขาภูเม็ง แต่ด้วยอุบาสกอุบาสิกาที่ไปถือศีลเป็นไข้ป่า ต่อมาเมื่อท่านจึงตัดสินใจย้ายลงมาอยู่ที่เชิงเขาภูเม็งจนถึงปัจจุบันท่านก็ได้มาปักหลักสร้างวัดวัดป่าคีรีวันอรัญเขต (วัดป่าคำแคนเหนือ) ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

    **หลวงปู่มหาโส กัสสโป แห่งวัดคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ไม่เคยพบกับหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ก็มีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม) วัดป่าโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน และเป็นพระอุปัฌชาย์ผู้ญัติเป็นธรรมยุติให้หลวงปู่ด้วย และท่านก็ยังมีท่านพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน พระวิปัสสนากรรมฐานผู้เป็นเสาหลักใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นในขณะนั้น คอยสอนกรรมฐานให้หลวงปู่มหาโส เมื่อครั้งพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พาหมู่คณะพระกรรมฐานมาจำพรรษาเพื่อเผยแผ่ธรรมะในจังหวัดขอนแก่น ระยะประมาณ พ.ศ.2472 -2475 พระอาจารย์มหาสีทน ก็ได้ฝากหลวงปู่มหาโส และ หลวงปู่สิงห์ สุขปัญโญ (พระวิจิตรธรรมภาณี) อดีตเจ้าคณะ จ.อุบลฯ เป็นศิษย์พระอาจารย์สิงห์ด้วย

    **หลวงปู่มหาโส ขณะนี้อายุได้ 99 กว่าปีแล้ว นับเป็นพระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่น มีพระฝากตัวเป็นศิษย์ผู้สืบทอดปฏิปทาจากท่านมากมาย เช่น หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม จซ.ขอนแก่น , เจ้าคุณพระธรรมดิลก (หลวงพ่อสมาน สุเมโธ) เจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุติ วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น , หลวงปู่เขี่ยม โสรโย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าถ้ำขาม จ.สกลนคร , หลวงพ่อนงค์ ปคุโณ วัดอุดมคงคาคีรีเขต(หลวงปู่ผาง) จ.ขอนแก่น , หลวงปู่สมาน ถาวโร เจ้าคณะ อ.มัญจาคีรี(ธรรมยุต) วัดป่าโนนสำนัก จ.ขอนแก่น ฯลฯ หลวงปู่มหาโสชราภาพมาก ๆ แต่สุขภาพแข็งแรงดี ความจำดีอยู่ และท่านยังปฏิบัติศาสนกิจของท่านอยู่เสมอต้นเสมอปลาย ทั้งการอบรมธรรมะแก่พระเณร อุบาสก อุบาสิกา การพัฒนาวัด การต้อนรับศรัทธาญาติโยมที่มากราบเยี่ยมที่วัด ซึ่งมีมาไม่เคยขาดสายเลยแม้แต่วันเดียว ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหนก็มา ด้วยบารมีแห่งแสงธรรมขององคืหลวงปู่เอง

    วัตถุมงคล
    **ที่จริงแล้วหลวงปู่ไม่เคยดำริให้สร้างวัตถุมงคลเลย แต่จะมีศิษยานุศิษย์ขออนุญาติจัดสร้างเพื่อหาทุนทรัพย์สร้างสาธารณะกุศล หลวงปู่ก็มีเมตตาให้จัดสร้างและอธิฐานจิตให้ โดยวัตถุมงคลที่หลวงปู่อธิฐานจิตให้ล้วนมีพุทธคุณวิเศษ มีประสบการณ์แก่ผู้บูชาทั้งสิ้น

    ปัจจุบัน :
    หลวงปู่ได้ละสังขารแล้วที่กุฏิวัดป่าคำแคนเหนือ หมู่ 2 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ด้วยอาการชราภาพ เมื่อเวลา 12.20 น.ของวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา สิริอายุ 100 ปี 3 เดือน 8 วัน


    สภาพสวยซองเดิมผิวๆกะไหล่เต็ม พิมพ์คมโค้ดชัดลึก เก่าเก็บไม่ผ่านการใช้งาน พุทธคุณเมตตา แลโภคทรพัย์อย่างสูงสุด และศิริมงคลเป็นที่ประจักษ์ พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 199 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณDRAKOY จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2018
  12. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,580
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  13. พื้นทราย

    พื้นทราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2015
    โพสต์:
    752
    ค่าพลัง:
    +638
    โอนเงิน 3,126 บาท ให้แล้วครับ วันที่ 29/9/17 เวลา 19.52 รายละเอียดแจ้งทางpmครับ
     
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323

    $$$$$ ปิดรายการแล้วครับผม $$$$$




    720.สภาพขลังเก่าถึงยุคตัวจริง พระนางพญาฐานบัว หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง
    สุดยอดพระเกจิยุคกึ่งพุทธกาล ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่สามารถพิสูจน์ได้

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระนางพญาฐานบัว พิมพ์ใหญ่ หลวงพ่อยี ปญญภาโร วัดดงตาก้อนทอง(วัดอภัยสุพรรณภูมิ) ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก เนื้อดินผสมผงวิเศษ ดำเนินการจัดสร้างประมาณปี พ.ศ.2500 จำนวนการสร้างน้อยมาก !!!! เป็นอีกหนึ่่งพิมพ์พระเนื้อดินที่หลวงพ่อยีท่านใช้อิทธิฤทธิ์ เรียกขึ้นมาจากดินเพื่อแจกแก่ลูกศิษย์ !!!!

    ประวัติโดยย่อหลวงพ่อยี
    หลวงพ่อยี ปญญภาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดอภัยสุพรรณภูมิ (ดงตาก้อนทอง) ซึ่งตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 10 ต.ไผ่ล้อม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้อุทิศที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนให้กับชุมชน ให้ลูกหลานชาวบ้านดงตาก้อนทอง และบ้านใกล้เคียงได้เล่าเรียน มาจนปัจจุบัน นับได้ว่าท่านเป็นคนดีศรีอภัยสุพรรณภูมิอย่างแท้จริง
    จากคำบอกเล่าต่างๆนั้น ทำให้ได้ทราบว่า หลวงพ่อยี เป็นชาวจังหวัดลพบุรี เมื่อเด็กๆ อายุได้ 8 ขวบ ท่านได้อาศัยอยู่กับพระภิกษุรูปหนึ่ง ไม่ทราบชื่อแน่นอน แต่หลวงพ่อยี เรียกว่า “หลวงพ่อใหญ่” ได้ธุดงค์ออกป่าหลายแห่งจนอายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระ ได้ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆตามป่าเขา ทั้งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ เคยไปถึงพม่า เวียงจันทน์ และมาลายู หลวงพ่อยีท่านเล่าว่า ท่านได้เดินธุดงค์หาความวิเวกจนมองเห็น นรก สวรรค์ ยามที่ท่านออกโปรดสัตว์ในตอนเช้า จะมีเทวดา นางฟ้ามาตักบาตรให้ตลอดเวลา ได้บวชเป็นพระถึง 28 พรรษา อายุได้ประมาณ 50 ปี เมื่อเล็งเห็นว่าตนยังมีกรรมอยู่จำเป็นต้องลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาส หลังจากนั้นก็ออกท่องเที่ยวไปหลายจังหวัด ใช้ชีวิตแบบฆราวาสเต็มที่ จนครั้งสุดท้ายได้มาหักร้างถางพง ณ บริเวณที่เป็นวัดดงตาก้อนทองนี้ สมัยนั้นยังเป็นป่ารกชัฎอยู่ มีที่ดินทั้งหมด 565 ไร่ เคยประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สัก อยู่ยงคงกระพันชาตรี ให้กับลูกศิษย์ลูกหาอยู่พักหนึ่ง ต่อมาได้ออกบวชอีกเป็นครั้งที่ 2 หลวงพ่อยีได้ตกลงใจยกที่ดินถวายเป็นของสงฆ์เสียส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ให้คนเช่าต่อไป


    สิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดของวัดดงตาก้อนทอง คือพระอุโบสถ ใช้เวลาในการสร้างจริงๆ เพียง 1 ปี 6เดือน เท่านั้นแต่ในการรวบรวมปัจจัยมาเป็นค่าวัสดุและแรงงานใช้เวลานานพอสมควรที เดียว งบประมาณในการก่อสร้างสูงถึง 6-7 ล้านบาท การขนส่งวัสดุอุปกรณ์ต้องใช้ทางเกวียน เพราะสถานที่ในการก่อสร้างนั้นอยู่ไกลมาก อย่างไรก็ตาม ด้วยบารมีของหลวงพ่อยี งานก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ และ ยังเป็นถาวรวัตถุที่งดงามอยู่มาตราบจนทุกวันนี้ ตัวโบสถ์กว้าง10 วา ยาว 20 วา สูง 12 วาชั้นบนเป็นโบสถ์ ชั้นล่างใช้ทำกิจกรรมทางศาสนาแทนศาลาการเปรียญได้ นับว่าเป็นโบสถ์อเนกประสงค์หลังหนึ่ง สิ่งก่อสร้างอื่นๆภายในวัดนั้นมีปริศนาธรรมอยู่หน้าโบสถ์ คือมีรูปปั้นพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ 1องค์นั่งบังพระพุทธรูปขนาดเล็กไว้ ปริศนาธรรมนี้ผู้พบเห็นก็ขบคิดกันเอาเอง อีกด้านหนึ่งมีรูปปั้นคนขี่ช้าง ถัดมาด้านซ้ายมือเป็นป่ามะม่วงหนาทึบมีพระพุทธรูปในอริยาบทต่างๆ ตั้งเรียงรายเป็นระยะๆ มีรูปเคารพของศาสนาพราหมอยู่หน้ากุฏิพระ มีโรงครัวขนาดใหญ่โต แสดงถึงจำนวนญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดนี้ซึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีต

    ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงพ่อยี เช่นคุณสมหมาย - คุณณรงค์ศักดิ์ ตะละภัฏ คุณบรรยง ณ บางช้าง และลูกศิษย์อื่นๆอีกมากมาย ก็สามารถที่จะยืนยันได้เป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อยีท่านมีอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์สูงส่งมากเพียงใด

    ในระยะที่ผู้คนฮือฮากันถึงเรื่องความมหัศจรรย์ที่หลวงพ่อยีท่านได้กระทำนั้นพระราชมุนี(โฮม โสภโณ)แห่งวัดประทุมวนารามก็เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่ต้องมาพิสูจน์ถึงความเท็จจริงนี้ให้ประจักษ์ หลวงพ่อถาวร ซึ่งในขณะนั้นเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพระราชมุนีโฮม ก็ได้ติดตามมาด้วย และภายหลังก็ได้มาที่วัดดงตาก้อนทองอีกหลายครั้งเพื่อศึกษาเรื่องอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์กับหลวงพ่อยี จนกระทั่งได้ประจักษ์แจ้ง ได้รู้ได้เห็นเป็นที่ยอมรับว่า ทุกสิ่งเป็นจริงทุกประการไม่มีสิ่งใดเคลือบแคลงสงสัยอีกเลย

    การแสดงอิทธิปาฎิหาริย์ของท่าน ช่วง 2500 - 2512
    ถูกนักเขียน นสพ.โจมตีอย่างหนัก หาว่าท่านเล่นกล หลอกลวงประชาชน แต่ท่านเหล่านั้นต่างก็ประสบเหตุมีอันเป็นไป ต่างๆ นาๆ ตายก็มี ไม่ตายแต่ป่วย ทนทุกข์ทรมานก็มี
    ผลจากการโจมตีในหน้าหนังสือพิมพ์ ทำให้หลวงพ่อยีต้องอธิกรณ์ ถูกบังคับข่มขู่ให้ถึงแก่ความตาย ท่านจึงนุ่งห่มขาว สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ส่งหลวงพ่อโฮมไปสอบ แต่ไม่มีข้อที่จะต้องอธิกรณ์ และได้บวชกลับคืน แปรญัตติเป็นพระภิกษุในคณะธรรมยุติกาย
    นับเป็นเรี่องน่าสังเวชที่เราท่านทั้งหลาย ควรถือเป็นคติว่า ถ้าฆราวาสไม่รู้จริง อย่าพึ่งไปกล่าวโทษให้ร้ายพระสงฆ์ ถึงอย่างไรท่านก็ถือศีล ปฎิบัติดีกว่าฆราวาส


    คุณวิเศษของหลวงพ่อยี ที่เห็นเป็นที่ประจักษ์
    - ยืดเหรียญบาทได้ยาวเป็นฟุตกลายเป็นคำบริสุทธิ์
    - เสกกระดาษให้เป็นธนบัตรใลละร้อยแจกญาติโยม นำไปเป็นขวัญถุง หรือใช้ซื้ออะไรก็ได้
    - เสกข้าวสาร ในขันให้เป็นเม็ดทองคำ แจกจ่ายให้ลูกศิษย์ไว้เป็นของศักดิ์ิทธิ์-เมตตา
    - เสกใบไม้ให้เป็น ธนบัตรสีเขียว เป็น กบ ปลา แกงกินได้ กินไม่หมดจะกลับกลายเป็นใบไม้เหมือนเดิม
    - ตกเบ็ดบนต้นไม้ มีปลามาดิ้นกระแดวๆ มากมาย
    - บิณฑบาตจากเทวดา ได้ข้าวทิพย์ร้อนๆ หอมฟุ้งเต็มบาตร มีข้าวสวย ข้าวผสมงา ข้าวผสมถั่ว
    - ปลูกข้าวหน้าโบสถ์ วันเดียวเก็บเกี่ยวได้
    - เรียกตะกรุดทองคำ 3-5 บาท มาแจกจ่ายลูกศิษย์
    - เรียกพระเครื่องจากอากาศแจกจ่ายญาติโยม
    - มีหูทิพย์ ตาทิพย์ รู้ที่ฝังสมบัติ
    - แยกร่างไปปรากฎหลายที่ ไกลแสนไกล ขณะที่ท่านนั่งอยู่กับที่
    - สามารถย่นระยะทางที่ไกลแสนไกล ให้ไกล้ได้
    - ล่องหนหายตัวได้ในพริบตา โดยไม่ต้องใช้กำบังหรือความมืด
    - ทำผ้าสีต่างๆ ให้กลายเป็นผ้ายันต์ได้นับพัน นับหมื่นผืน
    - ข้ามห้วย-แม่น้ำ โดยไม่ใช้เรือข้ามฟาก
    - รักษาโรคร้ายแรงให้หายขาดได้ในพริบตา
    - เอาปลาช่อนที่ตากแห้งเป็นริ้วๆ โยนลงแม่น้ำกลายเป็นปลาช่อนหลายตัวแหวกว่ายมีชีวิตชีวา
    - ใช้หม้อใบเล็กๆ 2ใบ หุงข้าว และแกง เลี้ยงคนได้นับร้อย โดยข้าว และแกงไม่หมดสักที
    - มีวาจาศักดิ์สิทธิ์สั่งให้โชคลาภ ได้เลื่อนยศ ตำแหน่ง หรือรอดพ้นากภัยพิบัติต่างๆ จากร้ายกลายป็นดี
    - บันดาลให้รูปปั้นแม่พระธรณี ที่อยู่หน้าวัดดงตาก้อนทอง มีน้ำไหลพวยพุ่งออกมาจากมวยผม ทั้งๆที่มวยผมไม่มีท่อน้ำ น้ำเย็น จืดสนิท มีกลิ่นหอมๆ ดื่มได้ และมีรสชาดดี
    - วัตถุที่เสกให้เป็นทองคำ อยู่ได้ 600ปี ครบแล้วจะกลับดืนสู่สภาพเดิม



    เรื่องเล่าจากปากคำผู้ประสบเหตุ
    - จากคำให้สัมภาษณ์ของอธิบดีกรมการศาสนา
    คือพันเอกปิ่น มุทุกันต์ เมื่อปี ๒๕๐๘ หลังจากไปสอบสวนกรณีหลวงตายีถูกหนังสือพิมพ์โจมตี ว่า "หลวงพ่อยีได้นำบาตรมาให้ตนดู และตนได้เป็นคนเช็ดบาตรด้วยตนเองทีเดียว หลวงพ่อยี อุ้มบาตรออกไปยืนที่นอกชานกุฏิห่างจากผู้สังเกตการณ์ ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนนิ่ง หันหน้าไปแต่ละทิศ แล้วเปิดฝาบาตร ทำนองรับบาตรจากผู้ใส่เหมือนกับที่เราใส่บาตรทุกอย่าง"
    แล้วหลวงพ่อยีก็เรียกอธิบดีกรมการศาสนาเข้าไปหา ท่านส่งบาตรให้ พอยื่นมือไปรับมารู้สึกว่าบาตรหนักอึ้ง เปิดฝาบาตรดูปรากฏว่ามีข้าวสุกร้อนๆ เต็มบาตร มีกลิ่นหอมอบอวล เป็นข้าวชนิดมันปู กันบาตรมีลูกประคำทองอยู่ 2 ก้อน ขนาดโตกว่าเม็ดข้าวโพด ซึ่งภายหลังเมื่อได้นำเข้ากรุงเทพฯ ให้ช่างทองบ้านหม้อดูก็เป็นทองคำบริสุทธิ์
    นอกจากจะพิสูจน์เรื่องนี้แล้วหลวงพ่อยียังเสกเหรียญเงินให้เป็นทองก็ได้ด้วย หลวงพ่อท่านแบ่งให้อธิบดีกรมการศาสนาครึ่งหนึ่ง ให้ประธานศาลฎีกาครึ่งหนึ่ง ครั้งเมื่อนำไปพิสูจน์ที่ร้านทองก็ปรากฏว่าเป็นทองคำบริสุทธิ์ เช่นเดียวกัน
    จากการที่ท่านสร้างอุโบสถ์นี้ทำให้ท่านต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ บ่อยๆ สถานที่พักของท่านก็คือที่โรงเรียนตะละภัฎศึกษา การแสดงฤทธิ์อภิญญาของท่านก็กระทำเป็นประจำจนถึงบั้นปลายชีวิต หลวงพ่อถูพวกมิจฉาทิฎฐิ กล่าวหาว่าท่านหลอกลวง แต่ด้วยสัจจะบารมีของท่าน อิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ ที่ท่านแสดงให้ปรากฏก็เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่บุคคลสำคัญๆ ระดับประเทศในขณะนั้น เช่น จอมพลถนอม กิตติขจร รองนายกรัฐมนตรี นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ประธานศาลฎีกา พันเอกปิ่น มุทุกันต์ อธิบดีกรมการศาสนาและนายประกอบ หุตะสิงห์ อธิบดีศาลอุทธรณ์ เป็นต้น


    - โยม ผวน โตมา ศิษย์ผู้หนึ่งของหลวงพ่อยีได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาเป็นโบสถ์หลังนี้หลวงพ่อยีได้ปัจจัยในการสร้างโบสถ์มาจากการสร้าง อิทธิฤทธิ์ต่างๆ ช่วยให้ลูกศิษย์มีฐานะร่ำรวยขึ้นแล้วบรรดาลูกศิษย์เหล่านั้นก็นำเงินไปช่วย ท่าน ภายหลัง ท่านสามารถเสกกระดาษให้เป็นใบละร้อย เสกดินเป็นทองคำ เสกใบไม้ให้เป็นเงิน หรือแม้แต่เสกใบไม้ให้ เป็นกบนำมาทำอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อยก็เคยปรากฏมาแล้วหรือเรื่องการบิณฑบาตร ข้าวทิพย์จากเทวดาก็ตามหลวงพ่อท่านออกเดินห่างจากครัว ไม่ถึง 10 เมตร ท่านยืนทำสมาธิที่ต้นมะม่วงใหญ่ ไม่นานนักก็กลับมาพร้อมด้วยข้าวสวยร้อนๆ เต็มบาตร ข้าวทิพย์นี้มีกลิ่นหอมแรงทิ้งไว้ก็ไม่บูดแต่จะแห้งไปเองเหมือนข้าวตาก

    - พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้นเกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่ และจะทำให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมนุมชน
    โยมผวนขนลุกซู่ด้วยความยินดี ยกมือท่วมหัวว่าลูกรอดตายแล้ว หลวงพ่อมาโปรดลูกแล้ว ด้วยปฏิปทาที่แน่วแน่มั่นคง และจริยวัตรที่งดงามของหลวงพ่อถาวร ทำให้เกิดศรัทธาปสาทะแก่โยมผวนเป็นล้นพ้น ดังนั้นสมบัติต่างๆ ของหลวงพ่อยีที่เกิดจากอิทธิฤทธิ์ บุญฤทธิ์ของท่าน มีเก็บรักษาไว้มากมายเพียงใด โยมผวนนำมาน้อมถวายให้แก่หลวงพ่อถาวร จนหมอสิ้น แม้กระทั่งข้าวทิพย์แห้ง ที่นางได้เก็บรวบรวมไว้นับสิบปี
    ก็นำมาถวายด้วย วันหนึ่งหลวงพ่อถาวร ท่านได้ทดลองอะไรบางอย่าง ด้วยการนำข้าวทิพย์มาหุงผสมกับข้าวธรรมดาวันนั้นปรากฏว่า กุฏิสุวรรณเนตรหอมตระลบอบอวลไปทั้งกุฏิ เพราะกลิ่นข้าวทิพย์โชยขจรขจายไปทั่ว ทำความแปลกประหลาดมหัสจรรย์แก่ผู้ได้พบเห็นเป็นยิ่งนัก หลวงพ่อถาวรย้ำว่า “ของแท้ ของจริง พิสูจน์ได้ตลอดเวลา”



    กาลมรณภาพ
    หลวงพ่อยี มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ. 2515 เก็บศพใส่โลงทองไว้ในกุฏิทางด้านจังหวัดพิจิตร ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ ได้สั่งเสียไว้กับศิษย์ใกล้ชิดคือ โยมผวน โตมา ถึงเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับวัดดงตาก้อนทองให้โยมผวน เป็นผู้ดูแลรักษาโบสถ์นี้ไว้อย่าไปอยู่ที่อื่นรอจนกว่าหลวงพ่อที่ 2 จะมารับช่วงต่อ พอต้นปี 2531 หลวงพ่อถาวร ก็มาที่วัดดงตาก้อนทองประกาศว่าจะทะนุบำรุงวัดดงตาก้อนทองซึ่งในขณะนั้น เกือบจะเป็นวัดร้างด้วยการนำพระภิกษุ สามเณรมาจำพรรษาที่นี่


    ต่อมาเมื่อวัดดงตาก้อนทอง มีพระภิกษุสงฆ์มาจำพรรษา วัดอภัยสุพรรณภูมิ หรือ วัดดงตาก้อนทอง ได้พัฒนาขึ้นในทุกๆด้าน โดยการนำของพระพิสาลพัฒนาทร หรือหลวงพ่อถาวร จากวัดประทุมวนาราม กรุงเทพมหานครได้ทำการพัฒนาขึ้นมามากอย่างเห็นได้ชัด ในขณะนี้วัดอภัยสุพรรณภูมิมี พระสายันต์ สญญโม เป็นเจ้าอาวาส ในปัจจุบันท่านเจ้าอาวาสได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูอภัยธรรมโสภณ


    พระคาถาหลวงพ่อยี (ควรสวดภาวนาก่อนนอน)
    จุดธูป 9 ดอก
    ตั้งนะโม 3จบ


    บทที่ 1.
    มหาปัญโญ มหาเตโช อุกาสะวันทามิ
    ภันเต อาจาริโย ปุณนะยีติ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 2.
    นะภันทะลัง กัมมัง อะโหสิภุมิมาเต
    นะภันเต จะตุนะ ปัจจะ นะมามิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    บทที่ 3.
    โอมพระเจ้าอยู่เบื้องตา พระธรรมเจ้าอยู่เบื้องปาก
    ตัวกูขอฝากไว้ในดวงจิต เอหิมามะ กะรินิติ พรหมมัสสามิ
    จิตกูนิ่งอยู่ที่พุทธัง ตัวกูอยู่ที่พระอรหัง เอหิมามะ
    {ภาวนา 108 จบ}


    บทที่ 4.
    มะธะนะ ภันธะนัง นิมิตตัง เตมหาภันธะนัง
    นะนิมิต ตัสสะ ปุณนะมิ นังกะโรมิ
    { ภาวนา 3 จบ}


    ขอขอบพระคุณ : เจ้าของข้อมูล และไฟล์ภาพด้วยนะครับ


    สภาพสวยเดิมเก่าเก็บผิวหิ้ง เก่าแท้ขลังแน่นอน ปัจจุบันหายากแล้วเพราะมีแต่คนเก็บของเริ่มหมดไปทุกวัน เอาไว้ใช้ติดตัวอุ่นใจแน่นอน เก่าเก็บเนื้อหาเก่าถึงยุค พิมพ์คมชัดลึก พุทธคุณเหนือคำบรรยาย ประจุด้วยอิทธิ์ที่ยอดยิ่งเหนือสิ่งใด ไม่แท้ไม่ทันหรือยัดวัดคืนเต็มเหมือนเดิมครับผม แบ่งให้บูชา 2,222 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2017
  15. DRAKOY

    DRAKOY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +1,133
    จอง719ครับ
     
  16. DRAKOY

    DRAKOY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    797
    ค่าพลัง:
    +1,133
    โอนแล้วครับ
    ที่อยู่นายพิสิษฐ์ จำรัสเจริญวานิช
    ห้องยา รพ อุทัยธานี 56. ม2 ถ รักการดี ต อุทัยใหม่ อ เมือง จ อุทัยธานี 61000
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpeg
      image.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      116.9 KB
      เปิดดู:
      114
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323



    - รับทราบการจอง,การแจ้งโอน,การแจ้งการได้รับของ และการเข้ามาเยี่ยมชมครับผม



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจองและการเช่าบูชาครับ

    พระเครื่องที่ผมนำมาลงผ่านการคัดกรองมาแล้วอย่างดี หากท่านสมาชิกท่านใดที่จะทำการจองหรือเช่าบูชา ไม่เชื่อมั่นในตัวผม หรือ ยังไม่มีรายละเอียดในพระที่ต้องการเช่าบูชา ขอความกรุณาทำการศึกษาให้ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ หรือจะนำภาพที่ผมลงไว้ไปให้คนที่คุณไว้ใจตรวจสอบก่อนก็ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ครับ เพราะการตัดสินว่าพระไหนดีไหนไม่ดี มันต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์บวกกับการพิจารณความเป็นไปได้ด้วย คน10คนดูพระองค์เดียวกัน ผลที่ออกมาแทบไม่เหมือนกันเลย

    ถ้าท่านยังไม่ผ่านกระบวนการดังที่ผมกล่าวไว้นี้ และบวกกับยังไม่เชื่อมั่นในตัวผม ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งบูชาไปนะครับ เพราะถ้าเกิดความกังขาขึ้นในตัวองค์พระแล้วพุทธคุณไม่เกิดครับ ชี้แจงจากกรณีที่มีผู้ให้ผมตรวจสอบพระที่บูชามาจากที่อื่นให้ครับ คือบูชามาแล้วไม่สบายใจ บอกได้เลยว่ากรณีนี้ไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้นครับ ทางที่ดีควร ศึกษา เรียนรู้ ไตร่ตรอง พิจารณาให้รอบคอบก่อนเช่าบูชานะครับ

    :););):);):):)



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจัดส่ง

    เพื่อความสะดวกในการได้รับของครับผม เนื่องจากผมติดภารกิจ การจัดส่งของจะสะดวกในช่วงวัน วันพฤหัสบดี - วันศุกร์ นะครับพี่ๆ หากล่าช้าอย่างไรไปบ้างผมต้องขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ



    เข้ารับชมสรุปรายการที่ หน้า 1
    ได้เลยครับผม ตามลิ้งค์เลยครับ

    []
    []
    \/



    http://palungjit.org/threads/กระทู้ใหม่-4-วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย-หลากหลายสายราคาเบา-สรุปรายการ-น-1.573785/#post-10209663


    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif

    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
    และอุดหนุนผมนะครับ
     
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323



    $$$$ ปิดรายการแล้วครับ $$$$




    721.ประจุธาตุอภิญญาทั้ง4 หนุนด้วยรังสีประจำธาตุ
    พระสังกัจจายน์ หลวงปู่จ่าง วัดเขื่อนเพชร มวลสารศักดิ์สิทธิ์ ปลุกเสก2เดือน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    image-93E8_59CFBC27.jpg

    พระผงรูปเหมือนพระสังกัจจายน์ หลวงปู่จ่าง วัดเขื่อนเพชร อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เนื้อชานหมาก ผสมผงวิเศษนะปัดตลอด และเส้นเกศาหลวงปู่ ใต้ฐานฝั่งพลอยเสก ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2541 ผลงานการออกแบบของ คุณอำพล เจน โดยหลวงปู่ทำการปลุกเสกยาวนาน ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2541 - วันที่ 6 ตุลาคม 2541 ที่สำคัญ พระเครื่องของท่านทุกอย่าง มีการลงธาตุอภิญญาทั้ง4 หนุนด้วยรังสีประจำธาตุ พุทธคุณจึงสุดยอดครบเครื่องทุกๆด้าน แล้วแต่จะอธิฐาน สร้างพร้อมพระผงรูปเหมือน พิมพ์เพชรกลับ ( “การกลับร้ายให้กลายดี สิ่งดียิ่งทวีนิรันดร์” )


    รูปลักษณะ
    - เป็นรูปจำลองรูปองค์พระสังกัจจายน์ ขนาดหน้าตักกว้าง 2 ซ.ม. สูงประมาณ 2.5 ซ.ม.


    วัตถุประสงค์
    - เพื่อเป็นสังฆานุสติ หนึ่งในกรรมฐาน 40 กอง ตามพุทธฎีกาและเป็นมหากุศลสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา
    - เพื่อเป็นเครื่องอนุสรณ์รำลึกถึงคุณธรรมสัมมาปฏิบัติของพระคุณเจ้า พระครูสุนทรวชิรเวช (หลวงพ่อจ่าง อเชยฺโย) วัดเขื่อนเพชร จังหวัดเพชรบุรี
    - เพื่อเป็นของขวัญสมนาคุณผู้ร่วมสร้างซุ้มประตูวัดเขื่อนเพชร จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งต้องใช้เงินประมาณ 1,000,000 บาท


    มวลสารศักดิ์สิทธิ์
    การดำเนินการสร้าง รูปเหมือนหลวงพ่อจ่าง เพชรกลับนี้ สร้างจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ผงวิเศษ ชานหมาก และเส้นเกศาของหลวงพ่อฯ รวม 9 รายการได้แก่

    1. ผงชันเพชร จากองค์มหาบุษบกทองคำ ที่ประทับองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ

    2. ผงอิฐ ปูน โมเสส และกระเบื้องพระอุโบสถ และพระมหาเจดีย์องค์สำคัญ ภายในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ

    3. พวงมาลัย ดอกไม้ และผงธูป ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ และพระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ

    4. เทียนชัย ข้าวตอก ดอกไม้ ถั่วและงา ที่ทรงโปรยในพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ และวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ

    5. น้ำพระสุคนธสาคร ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯสรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ในพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงประจำฤดู

    6. น้ำพระปริต 1 ทศวรรษจากหอพระปริต พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ

    7. น้ำพระพุทธมนต์ ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์มงคลแผ่นดิน ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ

    8. ผงพระพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์
    - ผงพระสมเด็จจิตรลดา
    - ผงพระสมเด็จวัดระฆัง
    - ผงพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม
    - ผงพระสมเด็จเกศไชโย
    - ผงพระวัดพลับ
    - ผงพระวัดท้ายตลาด
    - ผงพระวัดสามปลื้ม

    9. มวลสารศักดิ์สิทธิ์ ของพระครูสุนทรวชิรเวช (หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร)
    - ดอกไม้ พวงมาลัย ผงธูปจากที่บูชา
    - ชานหมาก
    - เส้นเกศา
    - ตะกรุดเงิน นะปัดตลอด
    - ผงไม้คูณปัดตลอด


    วาระการปลุกเสกและอธิษฐานจิต
    - หลวงพ่อจ่าง ได้ทำพิธีอัญเชิญรังสีแห่งพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และปลุกเสกด้วยฌานอภิญญา โดยการลงธาตุทั้ง 4 หมุนด้วยรังสีประจำธาตุ ที่ท่านเชี่ยวชาญและเป็นเลิศ ณ โต๊ะบูชาบริเวณข้างหัวเตียงที่จำวัด ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2541 - วันที่ 6 ตุลาคม 2541


    พุทธคุณ
    “การกลับร้ายให้กลายดี สิ่งดียิ่งทวีนิรันดร์”, คงกระพันชาตรี มหาอุด, แคล้วคลาด, เมตตา โชคลาภ เป็นต้น


    สำหรับประวัติหลวงพ่อจ่างนั้น
    ท่านมีสมณศักดิ์ที่ “พระครูสุนทรวชิรเวช” ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอท่ายาง
    หลวงปู่ท่านเป็นพระรัตตัญญู เป็นพระสุปฏิปันโณผู้บริบูรณ์ด้วยวิชชาและวิมุติที่อาวุโสที่สุดของจังหวัดเพชรบุรี
    หลวงพ่อจ่าง ท่านเป็นได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมและกรรมฐานจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นกันหลายรูป ดังนี้
    1. หลวงพ่อฉิม วัดท่าคอย ( พระอุปัชฌาย์ ) ได้ถ่ายทอดวิปัสสนากรรมฐานรวมทั้งวิชาอาคมทางด้านคงกระพันชาตรี ตะกรุดสาริกา ลูกอม และตะกรุดโทน
    2. หลวงปู่ทองสุข วัดโตนดหลวง ได้ถ่ายทอดวิทยาคมทางด้านคงกระพันชาตรี มหาอุด ยันต์นะปัดตลอดและวิปัสสนากรรมฐาน
    3. หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ได้ถ่ายทอดวิชาตะกรุดพิสมร และวิชาคงพันชาตรี
    4. หลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ ได้ถ่ายทอดวิชาคงกระพันชาตรี
    5. หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ได้ถ่ายทอดวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคม
    6 .หลวงพ่อโต๊ะ วัดท่อเจริญธรรม ( พระกรรมวาจารจารย์ ) ไ้ด้ถ่ายทอดวิชาทางด้านเมตตามหานิยม
    7. หลวงพ่อเจิม วัดกุฎิทอง ได้ถ่ายทอดวิชาทางด้านเมตตามหานิยม
    นอกจากครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์แล้ว ท่านยังได้เรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากอาจารย์ที่เป็นคฤัสถ์ อีกหลายท่าน อาทิเช่น อาจารย์ต่อ อาจารย์นิยม เป็นต้น


    หลวงพ่อจ่าง ท่านมีสหธรรมมิกและได้แลกเปลี่ยนวิชาอาคม ความรู้ ไปมาหาสู่กันหลายรูป อาทิเช่นหลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง หลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ หลวงพ่อพาน วัดโป่งกระสังข์ หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง เป็นต้น ดังนั้นในด้านวิทยาคม หลวงพ่อจ่าง ถือว่ามีดีไม่แพ้ใคร
    หลวงพ่อจ่าง มรณภาพเมื่ออายุได้ 94 ปี พ.ศ.2545 ปัจจุบันทางวัดยังเก็บสังขารของท่านอยู่เพราะไม่เน่าเปื่อย


    หลวงปู่ท่านเป็นพระหมอที่มีชื่อเสียงมากในอดีต วัดเขื่อนเพชรนี้ประชาชนแถบท่ายาง ชะอำ และบ้ายลาด ขณะนั้นยังไม่มีโรงพยาบาล จึงนิยมมาหาท่าน ประกอบกับการเดินทางเข้าเมืองเพชรบุรีไม่สะดวก ทำให้วัดเขื่อนเพชรเป็นโรงพยาบาลย่อยๆ โดยเฉพาะการรักษาโรคกระดูกหัก กระดูกแตก ท่านเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ

    สภาพสวยเดิมๆใหม่กริ๊บ พิมพ์คมชัดลึก ไม่หักไม่ซ่อม หายากสร้างน้อย เกศาเยอะ ฝังพลอยเสก พุทธคุณครอบครบ ลงธาตุอภิญญาทั้ง4 หนุนด้วยรังสีประจำธาตุธาตุ แล้วแต่อธิษฐานจิตเอาเถิดสมปรารถนาดีนักแล แบ่งให้บูชา 999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
    *** โอนถูกๆผ่าน Promptpay(พร้อมเพย์) รหัส0860441367 ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2018
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323
    722.สวยแชมป์ซองเดิมๆ(๒) เหรียญรุ่นสร้างเสริมบารมี
    หลวงปู่พระมหาโส วัดป่าคำแคนเหนือ พระเถรจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    image-DE7B_59D098B1.jpg
    เหรียญรุ่นสร้างเสริมบารมี หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป วัดป่าคำแคนเหนือ จังหวัดขอนแก่น เนื้อกะไหล่เงินตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2537 เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในงานวางศิลาฤกษ์พระรัตนเจดีย์

    ประวัติปู่พระมหาโส กัสสโป
    **หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป นามสกุลเดิม ดีเลิศ เกิดเมื่อวันที่ วันจันทร์ ที่ 8 พ.ย.2458 เวลาตี 2 (ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12 ปีเถาะ) ปัจจุบันสิริอายุ 99 ปี

    **สถานที่เกิด : เกิดที่ บ้านก่อ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี โยมบิดาชื่อ เคน โยมมาดาชื่อ ค้ำ มีอาชีพทำนา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดา 9 คน

    บรรพชา
    **ในปี พ.ศ.2477 เมื่อมีอายุ 19 ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรกับหลวงปู่อุปัฌชาย์อ่อน ที่วัดบ้านก่อ(บ้านเกิดท่าน) เป็นการบวชหน้าไฟให้โยมมารดาซึ่งถึงแก่กรรมลง ตั้งใจจะบวชเพียง 3 พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ครบกำหนดแล้ว ก็ธรรมทำความรู้ในพระธรรมวินัยด้านปริยัติแตกฉาก จนสอบได้ นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอก ติดต่อกันมาทุกปี จนทำให้มีศรัทธาบวชต่อ

    อุปสมบท
    **ถึงปี พ.ศ.2478 อายุครบ 20 ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยมีพระอุปัฌชาอ่อน เป็นพระอุปัฌชาย์ที่วัดบ้านเกิดนั่นเอง และได้จำพรรษาอยู่ที่นั่น

    ญัตติเป็นธรรมยุติ
    **ล่วงเข้าปี พ.ศ.2480 ท่านได้กราบลาพระอุปัฌชาย์อ่อนออกเดินทางติดตามพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน (ซึ่งเป็นญาติกันด้วย) โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.อุดรธานี เมื่อเดินทางถึง จ.อุดรธานี หลวงปู่พระมหาสีทนได้นำท่านไปเปลี่ยนยัตติเป็นพระธรรมยุต ในวันที่ 17 ก.ค.2480 ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี ท่านเจ้าคุณพระเทพกวี (จูม พนฺธุโล) ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมเจดีย์ เป็นพระอุปัฌชาย์ มีพระครูสาสนูปกรณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อยัตติแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์

    เป็นมหาเปรียญ
    **หลวงปู่พระมหาโส เป็นพระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยปฏิบัติตามคำสอนขององค์ศาสดามาโดยตลอด ท่านแสวงธรรมทั้งในด้าน ปฏิยัติ(แสวงหาความรู้) ปฏิบัติ(แสวงธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า) ปฏิเวธ(แสวงหาธรรมด้วยปัญญาของตนเองเพื่อแสวงหาวิโมกติสุข) ถึงเวลาต่อมาในพรรษาที่ 12 ท่านก็ได้แตกฉากบาลี จนสอบเปรียญธรรมสนามหลวงเป็น "พระมหา" ได้สำเร็จ และในปีเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีหมากหญ้า อ.เมือง จ.อุดรฯ ด้วย
    **แต่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้เพียง 4 ปี หลวงปู่มหาโส ก็สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และออกธุดงค์ต่อเพื่อแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า"พ้นจากวัฏสงสาร"อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาต่อไป


    ประวัติอื่นๆ
    **หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป เป็นศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต (ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าท่านเป็นศิษย์หรือสหธรรมิกของหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต แต่ที่จริงไม่ใช่เพราะถ้านับพรรษาหลวงปู่มหาโสพรรษามากกว่าหลวงปู่ผางถึง 20 ปี เพราะหลวงปู่ผางท่านอุปสมบทตอนอายุ 40 ปีครับ) ในขณะที่ผู้คนรู้จักชื่อเสียงของหลวงปู่ผาง หลวงปู่มหาโสยังคงธุดงธ์แสวงวิเวกอยู่ในป่าอยู่

    **ท่านนับเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูปหนึ่งชึ่งผู้คนยังไม่ค่อยรู้จักท่านเท่าใด เพราะปฏิปทาท่านชอบบำเพ็ญหาความสงบทางจิตในป่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นับตั้งแต่อายุ 70 ปี หลวงปู่พระมหาโสก็ไม่เคยออกจากวัดป่าคำแคนเหนือสู่งสังคมทางโลกอีกเลยจนถึงปัจจุบัน สมัยก่อนท่านธุดงค์บำเพ็ญเพียรที่หุบเขาต่างๆ เช่น ภูพาน ภูผาแดง ภูเม็งฯลฯ และตั้งสำนักสงฆ์ที่หุบเขาภูเม็ง แต่ด้วยอุบาสกอุบาสิกาที่ไปถือศีลเป็นไข้ป่า ต่อมาเมื่อท่านจึงตัดสินใจย้ายลงมาอยู่ที่เชิงเขาภูเม็งจนถึงปัจจุบันท่านก็ได้มาปักหลักสร้างวัดวัดป่าคีรีวันอรัญเขต (วัดป่าคำแคนเหนือ) ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

    **หลวงปู่มหาโส กัสสโป แห่งวัดคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ไม่เคยพบกับหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ก็มีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์(จูม) วัดป่าโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน และเป็นพระอุปัฌชาย์ผู้ญัติเป็นธรรมยุติให้หลวงปู่ด้วย และท่านก็ยังมีท่านพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน พระวิปัสสนากรรมฐานผู้เป็นเสาหลักใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นในขณะนั้น คอยสอนกรรมฐานให้หลวงปู่มหาโส เมื่อครั้งพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พาหมู่คณะพระกรรมฐานมาจำพรรษาเพื่อเผยแผ่ธรรมะในจังหวัดขอนแก่น ระยะประมาณ พ.ศ.2472 -2475 พระอาจารย์มหาสีทน ก็ได้ฝากหลวงปู่มหาโส และ หลวงปู่สิงห์ สุขปัญโญ (พระวิจิตรธรรมภาณี) อดีตเจ้าคณะ จ.อุบลฯ เป็นศิษย์พระอาจารย์สิงห์ด้วย

    **หลวงปู่มหาโส ขณะนี้อายุได้ 99 กว่าปีแล้ว นับเป็นพระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่น มีพระฝากตัวเป็นศิษย์ผู้สืบทอดปฏิปทาจากท่านมากมาย เช่น หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม จซ.ขอนแก่น , เจ้าคุณพระธรรมดิลก (หลวงพ่อสมาน สุเมโธ) เจ้าคณะภาค 9 ธรรมยุติ วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น , หลวงปู่เขี่ยม โสรโย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าถ้ำขาม จ.สกลนคร , หลวงพ่อนงค์ ปคุโณ วัดอุดมคงคาคีรีเขต(หลวงปู่ผาง) จ.ขอนแก่น , หลวงปู่สมาน ถาวโร เจ้าคณะ อ.มัญจาคีรี(ธรรมยุต) วัดป่าโนนสำนัก จ.ขอนแก่น ฯลฯ หลวงปู่มหาโสชราภาพมาก ๆ แต่สุขภาพแข็งแรงดี ความจำดีอยู่ และท่านยังปฏิบัติศาสนกิจของท่านอยู่เสมอต้นเสมอปลาย ทั้งการอบรมธรรมะแก่พระเณร อุบาสก อุบาสิกา การพัฒนาวัด การต้อนรับศรัทธาญาติโยมที่มากราบเยี่ยมที่วัด ซึ่งมีมาไม่เคยขาดสายเลยแม้แต่วันเดียว ไม่ว่าจะอยู่ไกลขนาดไหนก็มา ด้วยบารมีแห่งแสงธรรมขององคืหลวงปู่เอง

    วัตถุมงคล
    **ที่จริงแล้วหลวงปู่ไม่เคยดำริให้สร้างวัตถุมงคลเลย แต่จะมีศิษยานุศิษย์ขออนุญาติจัดสร้างเพื่อหาทุนทรัพย์สร้างสาธารณะกุศล หลวงปู่ก็มีเมตตาให้จัดสร้างและอธิฐานจิตให้ โดยวัตถุมงคลที่หลวงปู่อธิฐานจิตให้ล้วนมีพุทธคุณวิเศษ มีประสบการณ์แก่ผู้บูชาทั้งสิ้น

    ปัจจุบัน :
    หลวงปู่ได้ละสังขารแล้วที่กุฏิวัดป่าคำแคนเหนือ หมู่ 2 ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ด้วยอาการชราภาพ เมื่อเวลา 12.20 น.ของวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา สิริอายุ 100 ปี 3 เดือน 8 วัน


    สภาพสวยซองเดิมผิวๆกะไหล่เต็ม พิมพ์คมโค้ดชัดลึก เก่าเก็บไม่ผ่านการใช้งาน พุทธคุณเมตตา แลโภคทรพัย์อย่างสูงสุด และศิริมงคลเป็นที่ประจักษ์ พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 199 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,193
    ค่าพลัง:
    +14,323
    รายการจัดส่งพัสดุครับผม
    01/10/2560



    กดที่รูปภาพที่แนบไฟล์ไว้
    ด้านล่างได้เลยครับ
    [ ]
    [ ]
    [ ]
    \/



    ***อย่าลืมชม สรุปรายการที่ หน้า1 นะครับผม***
    ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

    และอุดหนุนผมนะครับ
    Tel: 086-0441367, engineer0206nu@gmail.com



    image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif image-5600_587330d6-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif



    ==>> ตรวจสอบเลขEMS : http://track.thailandpost.co.th/tracking/default.aspx
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_8389.JPG
      IMG_8389.JPG
      ขนาดไฟล์:
      128.4 KB
      เปิดดู:
      88

แชร์หน้านี้

Loading...