สติปัฏฐานสี่ตามแนววิชชาธรรมกาย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 21 สิงหาคม 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    [​IMG]


    บางส่วนจากการตอบปัญหาธรรม “การเข้าวัด ต้องปฏิบัติให้ถึงธรรมกายหรือ"
    โดย พระเทพญาณมงคล

    การเข้าวัด ต้องปฏิบัติให้ถึงธรรมกายหรือไม่ สังคมภายนอกยังต้องแก่งแย่งกัน | วัดหลวงพ่อส
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    [​IMG]







    วิปัสสนากัมมัฏฐาน

    ปัญญาที่เห็นแจ้งชัดในอารมณ์ ชื่อว่า วิปัสสนา
    เจตนาที่ทำให้ปัญญานั้นเกิดมีขึ้นในจิต ชื่อว่า วิปัสสนาภาวนา
    สาธุชนผู้จะเจริญวิปัสสนาภาวนา พึงรู้จักธรรม ๓ อย่าง คือ
    ๑. ธรรมที่เป็นภูมิเป็นอารมณ์ของวิปัสสนา
    ๒. ธรรมที่เป็นรากเหง้าเป็นเหตุเกิดขึ้นตั้งอยู่ของวิปัสนา
    ๓ ตัววิปัสสนา

    สังขารทั้งที่เป็นอุปาทินนกะและอนุปาทินนกะ จำแนกออกโดยประการต่าง ๆ มีขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ เป็นต้น เป็นภูมิ เป็นอารมณ์ของวิปัสสนานั้น

    สีลวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ของศีล
    จิตตวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ของจิตคืออุปจารสมาธิและอัปปนาสมาธิ เป็นรากเหง้า เป็นเหตุเกิดขึ้นตั้งอยู่ของวิปัสสนานั้น

    วิสุทธิ ๕ คือ
    1 ทิฏฐิวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ของความเห็น
    2 กังขาวิตรณวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ของปัญญาที่เห็นชัดข้ามล่วงกังขาเสียได้
    3มัคคามัคคญาณทัสสนวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ของความรู้จริงเห็นจริงว่า นี้เป็นทางและมิใช่ทาง
    4 ปฏิปทาญาณทัสสนวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ของความรู้
    ความเห็นเป็นข้อปฏิบัติจะให้อริยมรรคเกิดขึ้น
    5 ญาณทัสสนวิสุทธิ ความบริสุทธิ์แห่งความรู้ความเห็นซึ่งเป็นโลกุตตระ คือรู้เห็นในมรรคทั้ง ๔ รวมวิสุทธิมรรคทั้ง ๕ นี้เป็นตัววิปัสสนา
    อนึ่ง ปัญญาที่รู้จริง เห็นจริงในสภาวะอันเป็นเองของสังขาร คือไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จนถึงนิพพิทา เบื่อหน่าย วิราคะไม่กำหนัดยินดี วิมุตติ หลุดพ้นจากอาสวกิเลส หลุดพ้นจากอาสวกิเลส นี่เป็นตัววิปัสสนาเหมือนกัน.

    พระเทพญาณมงคล (หลวงป๋า)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    การเจริญวิปัสสนาแบบโบราณ


    การเจริญวิปัสสนาแบบโบราณมี 3 วิธี

    วิธีแรก เมื่อได้รูปฌาน และ อรูปฌานแล้ว ก็ถอย
    มาเจริญวิปัสสนาตามแบบไตรลักษณ์ วิปัสสนาแบบ
    โบราณ กำหนดญาณไว้เพียง 10 ญาณ มีสัมมสน
    ญาณเป็นเบื้องต้น และมี อนุโลมญาณเป็นญาณสุดท้าย วิธีนี้
    จะได้มรรคผลทางปัญญา แต่เมื่อได้มรรคผลแล้ว อาจย้อน
    มาเดินสมาบัติ เพื่อให้ได้ เจโตสมาธิ อีกได้

    วิธีที่สอง ได้แก่ การแบ่งวิปัสสนาญาณทั้ง
    สิบออกเป็น 5 คู่ แล้วเดินฌานสมาบัติ น้อมจิตเข้าหา
    วิปัสสนาญาณทีละคู่ เป็นอนุโลมปฏิโลมจนบรรลุมรรคผล
    วิธีนี้อาจได้มรรคผลทั้งทางปัญญาและเจโตสมาธิ

    วิธีที่สาม ได้แก่ เดินทางสมาบัติ จนบรรลุปุพเพนิ
    วาสานุสสติญาณ ในระหว่างการเดินทางสมาบัติ ให้อธิษฐาน
    จิตขอให้บรรลุเมืองแก้ว เมื่อได้บรรลุเมืองแก้ว ก็ขอประทาน
    กำแพงแก้ว 7 ชั้น จากพระบรมศาสดา เมื่อได้กำแพงแก้ว 7
    ชั้นแล้ว ก็จะสามารถบรรลุจุตูปปาตญาณได้โดยง่าย ต่อมา
    เมื่อมีความสลดใจในความเวียนว่ายตายเกิดขึ้น ก็จะมีปัญญา
    สามารถประหารตัณหาให้หมดไป แล้วจะมีอาสวัก
    ขยญาณ แจ้งให้ทราบว่ากิเลสได้สิ้นไปแล้ว ไม่ต้องไปเกิดใน
    ภพใหม่อีกต่อไป แต่ถ้าหากยังมีอุปาทานเหลืออยู่ จะบรรลุ
    เพียงอนาคามิผล การบรรลุความหลุดพ้นทำนองนี้ เรียก
    ว่า เจโตวิมุตติ



    --------------------------------------------------------

    มรรค ผล

    เมื่อบุคคลใดได้เจริญวิปัสสนากรรมฐานมากขึ้นเรื่อย ๆ
    แล้ว ก็จะเกิดปัญญามองเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของสิ่งต่าง ๆ
    มากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เรียกว่าญาณขั้นต่าง ๆ (คำว่าญาณนี้เป็นชื่อ
    ของปัญญาในวิปัสสนา ต่างจากฌานซึ่งเป็นขั้นต่าง ๆ ของ
    สมาธิ) จนกระทั่งปัญญาญาณนั้นแก่กล้าจนสามารถทำลาย
    ความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่าง ๆ อย่างถาวร อันเป็นผลให้กิเลสที่
    เกิดจากความยึดมั่นในขั้นนั้นถูกทำลายลงไปอย่างสิ้นเชิง จิต
    ในขณะที่เห็นแจ้งในความที่ไม่สามารถยึดมั่นในสรรพสิ่งทั้งปวง
    ได้อย่างชัดเจน จนสามารถทำลายกิเลสได้นี้เรียกว่ามรรคจิต
    ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียงแค่ขณะจิตเดียว คือเกิดอาการปิ๊งขึ้นมาแว๊ป
    เดียว กิเลสและความยึดมั่นในขั้นนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นอีกเลย

    บุคคลในขณะที่มรรคจิตเกิดขึ้นนี้เรียกว่ามรรคบุคคล
    ซึ่งนับเป็นอริยบุคคลประเภทหนึ่ง


    บุคคลจะเป็นมรรคบุคคลแค่เพียงชั่วขณะจิตเดียวเท่านั้น
    หลังจากนั้นก็จะได้ชื่อว่าผลบุคคล คือบุคคลผู้เสวยผลจากมรรค
    นั้นอยู่ ไปจนกว่ามรรคจิตในขั้นที่สูงขึ้นไปจะเกิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อ
    ทำลายความยึดมั่นและกิเลสที่ประณีตขึ้นไปอีก

    มรรคจิตแต่ละขั้นนั้นจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
    แล้วจะไม่เกิดขึ้นในขั้นเดิมซ้ำอีกเลย จะเกิดก็แต่ขั้นที่สูงขึ้นไป
    เท่านั้น เพราะความยึดมั่นในขั้นที่ถูกทำลายไปแล้ว จะไม่มี
    โอกาสกลับมาให้ทำลายได้อีกเลย


    อริยบุคคล 8 ประเภทนั้นประกอบด้วยมรรคบุคคล
    4 ประเภท และผลบุคคล 4 ประเภท ดังนี้คือ1.) โสดาปัตติมรรคบุคคล คือบุคคลในขณะที่มรรคจิตเกิดขึ้น
    เป็นครั้งแรก ที่เรียกว่าโสดาปัตติมรรคจิต โสดาปัตติมรรค
    บุคคลนี้นับเป็นอริยบุคคลขั้นแรก และได้ชื่อว่าเป็นผู้หยั่งลงสู่
    กระแสพระนิพพานแล้ว มรรคจิตในขั้นนี้จะทำลายกิเลสได้ดังนี้
    คือ(ในที่นี้จะใช้สัญโยชน์ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการแบ่ง
    ประเภทของกิเลส เป็นหลักในการอธิบาย - ดูเรื่องสัญโยชน์
    10 ประกอบ)

    - สักกายทิฏฐิ
    - วิจิกิจฉา
    - สีลพตปรามาส

    รวมทั้งโลภะ(ความโลภ) โทสะ(ความโกรธ, ขัดเคืองใจ,
    กังวลใจ, เครียด, กลัว) โมหะ(ความหลง คือไม่รู้ธรรมชาติที่
    แท้จริงของสรรพสิ่ง) ในขั้นหยาบอื่น ๆ อันจะเป็นผลให้ต้องไป
    เกิดในอบายภูมิ (เดรัจฉาน, เปรต, อสุรกาย, นรก) ด้วย

    2.) โสดาปัตติผลบุคคล หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโสดาบัน
    คือผู้ที่ผ่านโสดาปัตติมรรคมาแล้ว

    คุณสมบัติที่สำคัญของโสดาบันก็คือ

    - พ้นจากอบายภูมิตลอดไป คือจะไม่ไปเกิดในอบายภูมิอีกเลย
    เพราะจิตใจมีความประณีตเกินกว่าที่จะไปเกิดในภูมิเหล่านั้นได้
    (ใครจะไปเกิดในภูมิใดนั้น ขึ้นกับสภาพจิตตอนใกล้ตายที่เรียก
    ว่ามรณาสันนวิถี ถ้าขณะนั้นจิตมีสภาพเป็นอย่างไร ก็จะส่งผล
    ให้ไปเกิดใหม่ในภูมิที่มีสภาพใกล้เคียงกับสภาพจิตนั้นมากที่สุด)

    - อีกไม่เกิน 7 ชาติจะบรรลุเป็นพระอรหันต์

    - มีศรัทธาในพระรัตนตรัยอย่างมั่นคง ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน
    จะไม่คิดเปลี่ยนศาสนาอีกเลย

    - มีศีล 5 บริบูรณ์ (ไม่ใช่แค่บริสุทธิ์) คือความบริสุทธิ์ของศีล
    นั้นเกิดจากความบริสุทธ์/ความประณีต ของจิตใจจริง ๆ
    ไม่ใช่ใจอยากทำผิดศีลแต่สามารถข่มใจไว้ได้ คือใจสะอาด
    จนเกินกว่าจะทำผิดศีลห้าได้

    3.) สกทาคามีมรรคบุคคล หรือสกิทาคามีมรรคบุคคล
    คือบุคคลที่เจริญวิปัสสนาต่อไปอีกจนกระทั่ง มรรคจิตเกิดขึ้น
    เป็นครั้งที่ 2 ที่เรียกว่าสกทาคามีมรรคจิต มรรคจิตในขั้นนี้ ไม่
    สามารถทำลายกิเลสตัวใหม่ให้หมดไปได้อย่างสิ้นเชิงเหมือน
    มรรคจิตขั้นอื่น ๆ เป็นแต่เพียงทำให้ โลภะ โทสะเบาบางลงเท่า
    นั้น โดยเฉพาะกามฉันทะ และปฏิฆะ ถึงแม้ว่าความยึดมั่นที่มี
    อยู่จะน้อยลงไปก็ตาม ทั้งนี้เพราะกามฉันทะและปฏิฆะนั้นมี
    กำลังแรงเกินกว่า จะถูกทำลายไปได้ง่าย ๆ

    4.) สกทาคามีผลบุคคล หรือสกิทาคามีผลบุคคล คือผู้ที่ผ่าน
    สกทาคามีมรรคมาแล้ว

    คุณสมบัติสำคัญของสกทาคามีผลบุคคลก็คือ ถ้ายังไม่
    สามารถบรรลุธรรมที่สูงขึ้นไปได้ในชาตินี้ ก็จะกลับมาเกิดใน
    กามภูมิอีกเพียงครั้งเดียวก็จะบรรลุธรรมที่สูงขึ้นไปได้ แล้วจะ
    พ้นจากกามภูมิตลอดไป เพราะอริยบุคคลขั้นนี้เป็นขั้นสุดท้าย
    ที่จะเกิดในกามภูมิได้อีก

    คำว่ากามภูมินั้นได้แก่ สวรรค์ 6 ชั้น มนุษยภูมิ เดรัจฉาน
    เปรต อสุรกาย นรก แต่สกทาคามีบุคคลนั้นพ้นจากอบายภูมิไป
    แล้วตั้งแต่เป็นโสดาบัน จึงเกิดได้เพียงในสวรรค์ และมนุษย์เท่านั้น

    5.) อนาคามีมรรคบุคคล คือบุคคลที่เจริญวิปัสสนาต่อไป
    อีกจนกระทั่ง มรรคจิตเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ที่เรียกว่าอนาคามี
    มรรคจิต ทำลายกิเลสได้เด็ดขาดเพิ่มขึ้นอีก 2 ตัวคือ

    - กามฉันทะ
    - ปฏิฆะ


    6.) อนาคามีผลบุคคล คือผู้ที่ผ่านอนาคามีมรรคมาแล้ว

    คุณสมบัติที่สำคัญของอนาคามีผลบุคคลคือ ถึงจะยังไม่บรรลุ
    เป็นพระอรหันต์ ก็จะไม่กลับมาเกิดในกามภูมิอีกเลย แต่จะไป
    เกิดในภูมิที่พ้นจากเรื่องของกามคือรูปภูมิ หรืออรูปภูมิเท่านั้น
    (ดูหัวข้อรูปราคะ และอรูปราคะในเรื่องสัญโยชน์ 10 ประกอบ)
    ในรูปภูมิ 16 ชั้นนั้น จะมีอยู่ 5 ชั้นที่เป็นที่เกิดของอนาคามีผล
    บุคคลโดยเฉพาะ ซึ่งรวมเรียกว่าสุทธาวาสภูมิ ดังนั้น ใน
    สุทธาวาสภูมิทั้ง 5 ชั้นนี้ จึงมีเฉพาะอนาคามีผลบุคคล อรหัต
    ตมรรคบุคคล และพระอรหันต์ (ที่บรรลุเป็นพระอรหันต์ในภูมินี้
    แล้วยังมีชีวิตอยู่) เท่านั้น

    สุทธาวาสภูมิ 5 ชั้นประกอบด้วย

    - อวิหาภูมิ
    - อตัปปาภูมิ
    - สุทัสสาภูมิ
    - สุทัสสีภูมิ
    - อกนิฏฐาภูมิ

    7.) อรหัตตมรรคบุคคล คือบุคคลที่เจริญวิปัสสนาต่อไป
    อีกจนกระทั่ง มรรคจิตเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ที่เรียกว่าอรหัตต
    มรรคจิต ทำลายกิเลสที่เหลือทุกตัวได้อย่างหมดสิ้น จนไม่มี
    กิเลสใด ๆ เหลืออีกเลย สัญโยชน์ที่มรรคจิตขั้นนี้ทำลายไป
    ได้แก่

    - รูปราคะ
    - อรูปราคะ
    - มานะ
    - อุทธัจจะ
    - อวิชชา

    8.) อรหัตตผลบุคคล หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าพระอรหันต์
    คือผู้ที่ปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิงแล้ว เพราะกิเลสตัวสุดท้าย
    ถูกทำลายไปในขณะแห่งอรหัตตมรรคจิตที่ผ่านมาแล้ว เป็นผู้ที่
    พ้นจากทุกข์ทางใจทั้งปวง เพราะไม่ยึดมั่นในสิ่งใดเลย แต่ยังคง
    ต้องทนกับทุกข์ทางกายต่อไป จนกว่าจะปรินิพพาน เพราะตราบ
    ใดที่ยังมีร่างกายอยู่ก็ไม่อาจพ้นจากทุกข์ทางกายไปได้


    นิพพานนั้นมี 2 ชนิด คือ

    - สอุปาทิเสสนิพพาน หรือนิพพานเป็น หมายถึงนิพพาน
    ที่ยังมีส่วนเหลือ คือกิเลสทั้งหลายดับไปหมดแล้ว พ้นจากทุกข์
    ทางใจทั้งปวงแล้ว แต่ยังมีร่างกายอยู่ ได้แก่พระอรหันต์ที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นเอง

    - อนุปาทิเสสนิพพาน หรือนิพพานตาย หมายถึงนิพพาน
    โดยไม่มีส่วนเหลือ คือพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ทั้งทางกาย และทาง
    ใจอย่างสิ้นเชิง ได้แก่พระอรหันต์ที่ตายแล้วนั่นเอง ซึ่งเรียกได้
    อีกอย่างว่าปรินิพพาน (ปริ = โดยรอบ, ปรินิพพาน = นิพพาน
    โดยรอบทุกส่วน คือทั้งร่างกายและจิตใจ คือนิพพานจากทุกข์
    ทั้งปวงนั่นเอง)




    พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบชีวิตในวัฏสงสารว่า
    ปุถุชนทั้งหลายเหมือนผู้คนที่ผุด ๆ โผล่ ๆ อยู่กลางน้ำลึก
    ต้องทนทุกข์ทรมาน สำลักน้ำอยู่อย่างไม่รู้อนาคต
    ต้องเสี่ยงภัยจากปลาร้ายทั้งหลาย

    โสดาบันเปรียบเหมือนผู้ที่พยุงตัวพ้นจากผิวน้ำขึ้นมาได้
    จนสามารถมองเห็นฝั่ง(แห่งพระนิพพาน)
    แล้วเตรียมตัวว่ายเข้าหาฝั่งนั้น

    สกทาคามีบุคคลเปรียบเหมือนผู้ที่กำลังว่ายเข้าหาฝั่ง

    อนาคามีบุคคลเปรียบเหมือนผู้ที่เข้าใกล้ชายฝั่งมาก
    คือถึงจุดที่น้ำตื้นพอที่จะหยั่งเท้าถึงพื้นดินได้
    แล้วเดินลุยน้ำเข้าหาฝั่ง จึงพ้นจากการสำลักน้ำแล้ว

    พระอรหันต์เปรียบเหมือนผู้ที่เดินขึ้นฝั่งได้เรียบร้อยแล้ว
    พ้นจากอันตรายทั้งปวงแล้ว รอวันปรินิพพานอยู่
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    มั่นใจได้ว่า ถ้าเจริญภาวนาสมาธิ
    โดยรวมใจให้หยุดในหยุด
    ลงไปที่กลางของหยุดในหยุด
    หรือที่เรียกว่า เข้ากลางของกลางๆๆๆ
    ไปเรื่อยไม่ถอยหลังกลับได้อย่างนี้ละก็
    ไม่มีทางที่จะเห็นนิมิตหลอก
    หรือนิมิตลวงที่น่าเกลียดน่ากลัวแต่ประการใดทั้งสิ้น
    แต่ถ้าปฏิบัติภาวนาโดยเอาใจไปจรดไว้ที่อื่นแล้ว อาตมาไม่รับรอง...


    #พระราชพรหมเถร(วีระ คณุตฺตโม)วัดปากน้ำภาษีเจริญ



    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของวิปัสสนาธุระ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ ระหว่างวันที่ 15-28 ธันวาคม พ.ศ. 2559 รวมระยะเวลาดำเนินการ 14 วัน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ภิกษุบริษัท ได้ศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เป็นประโยชน์ทางการปฏิบัติส่วนตัวและเป็นที่ศรัทธานำพาพุทธบริษัทประพฤติ ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง สมดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ในทีฆนิกาย มหาวรรค ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเที่ยวจาริกไปเพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก อันจะส่งผลถึงความสถิตมั่นสถาพรแห่งบวรพระพุทธศาสนาสืบต่อไป




    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    ธรรมเอก ผุดขึ้น

    พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๔
    สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
    หน้าที่ ๑๘๖ ข้อที่ ๓๔๗ (คัดลอกบางส่วน)



    [๓๔๗] ดูกรอานนท์ ก็ภิกษุจะดำรงจิตภายใน ให้จิตภายในสงบ ทำจิตภายในให้เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งจิตภายในมั่นได้อย่างไร
    ดูกรอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
    (๑) สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม เข้าปฐมฌานมีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุข เกิดแต่วิเวกอยู่ ฯ
    (๒) เข้าทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งใจภายใน มีความเป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะสงบ วิตกและวิจาร ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่ ฯ
    (๓) เป็นผู้วางเฉยเพราะหน่ายปีติ มีสติสัมปชัญญะอยู่ และเสวยสุขด้วยนามกาย เข้าตติยฌาน ที่พระอริยะเรียกเธอได้ว่าผู้วางเฉย มีสติอยู่เป็นสุข อยู่ ฯ
    (๔) เข้าจตุตถฌาน อันไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัส โทมนัสก่อน ๆ ได้ มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่ ฯ
    ดูกรอานนท์ อย่างนี้แล ภิกษุชื่อว่าย่อมดำรงจิตภายใน ให้จิตภายในสงบ ทำจิตภายในให้เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ตั้งจิตภายในมั่น ฯ



    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,220
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,106
    ค่าพลัง:
    +70,443
    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...