เรื่องเด่น วิธีถอดกายทิพย์ที่คุณก็ทำได้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ปฐมฌาณ, 21 กรกฎาคม 2012.

  1. audchukiat

    audchukiat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +665
    ขอบคุณครับ
     
  2. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    487
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,872
    การไม่ส่งจิตออกนอกเลย..นับเป็นสิ่งที่ประเสริฐ..ที่สุด...

    การสื่อจิต.......ระวังจะเป็น..ความนึกคิด..ปรุงแต่งขึ้นเอง

    ..หรือหากแม้น..ไม่ได้ปรุงแต่งขึ้นเอง...ก็ระวังเสียงที่ตอบเป็นเสียงของจิตดวงอื่น.......
    การถอดจิต...บางสถานที่.ที่จิตไป.ก็มีความน่ากลัว....หวาดเสียว......
    ..การสวดมนต์..และแผ่เมตตา...ไปยังสถานที่ที่จะไป..ย่อมได้รับการต้อนรับด้วยดี..ขอรับ

    เกล้าฯ..เคยบวชเณร..สามปี..บวชพระครั้งแรกหนึ่งเดือน 7 วัน
    เกล้าฯบวชครั้งที่สาม.ได้สิกขาลาเพศ..แล้วเพราะบวชครบสามเดือนตามที่ตั้งจิตตั้งใจ..ขออนิสงค์ส่วนใดหากเกิดมีจากการสร้างกุศลทุกๆอย่าง..จงบังเกิดแด่ทุกๆท่านที่ได้มาอ่านพบประสบเจอ......ด้วยเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2015
  3. moonoiija

    moonoiija เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2014
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +198
    :z2
     
  4. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    การจับพองยุบก็เป็นส่วนหนึ่งของสติปัฐฐาน4 อันมีพระสูตรว่าด้วยเจริญ7วันไม่เกิน7ปี สามารถบรรลุได้ และระหว่างนั้นอภิญญาต่างๆก็จะเกิดขึ้นได้ ผมเห็นอดีตชาติ และเห็นโลกวิญญาน ผี เปรต เทวดา และธรรมกายของคนอื่น รวมทั้งมองทะลุเห็นที่ไกลได้ รวมถึงเห็นความคิดของคนอื่น(ถอดกายเคยครั้งเดียวที่วัดเจอเปรตมาขอส่วนบุญพอเลย) ด้วยการจับพองยุบรู้ลมเข้าออกยาวสั้น และนำอสุภกรรมฐานมาพิจารณา(อันผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนให้ระลึกถึงความตายทุกลมหายใจ) ไม่เกินเดือนก็ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็น รุ้สิ่งที่ไม่เคยรู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2015
  5. นครถม

    นครถม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2015
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +6
    เจ้าของกระทู้หายไปที8เดือน ผมสนใจสิ่งลี้ลับ และการปฎิบัติ เรื่องราวน่าสนใจครับ
     
  6. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    อันตรายที่น่ากลัวที่สุดของการถอดจิตคือ
    การถอดจิตไปนานหลายๆวัน จนคนทางบ้านเข้าใจผิด
    คิดว่าคงตายไปแล้ว จึงนำศพไปทำพิธีบำเพ็ญกุศล
    โดยเฉพาะสมัยนี้ มีการฉีดสารฟอร์มาลีนเข้าไปในศพเพื่อกันศพเน่า
    จะทำให้ผู้ถอดจิตหมดโอกาสฟื้นชีวิต ๑๐๐%

    ในประวัติของโป๊ยเซียน ก็มีเซียนคนหนึ่ง ชื่อ หลีทิก๊วย
    ที่ถอดจิตไปหลายวัน ก่อนถอดจิตก็ได้สั่งลูกศิษย์ไว้แล้วว่า
    ถ้าเห็นอาจารย์แน่นิ่งไม่ฟื้นก็ให้ปล่อยไว้อย่างนั้นก็อย่่าได้ตกใจ
    แต่ลูกศิษย์พอเห็นว่ารอหลายวันแล้วอาจารย์ยังไม่กลับมาซะที
    ก็คิดว่าคงจะตายแล้วจริงๆ ผลสุดท้ายก็นำศพไปทำพิธีทางศาสนาและเผา
    ทำให้วิญญาณของหลีทิก๊วย ต้องไปหาร่างของขอทานพิการที่ตายคนหนึ่ง
    และต้องอยู่ในร่างนั้น มีนามว่า หลีทิก๊วย หรือ ทิกวยลี่
    เซียนคนแรกสุดในแปดเซียน

    จะเห็นได้ว่า การถอดจิตนี้ หากถอดไปนานหลายวัน
    และคนทางบ้านปลุกแล้วยังไม่ฟื้น อาจเกิดการเข้าใจผิดคิดว่าผู้ถอดจิตตายไปแล้ว
    จึงนำร่างไปทำพิธีทางศาสนา นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง
     
  7. นครถม

    นครถม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2015
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +6
    การถอดจิตออกจากกายหยาบ ต้องได้ชานไหนครับ หรือต้องใช้กสิณกองใดครับ เจ้าของกระทู้มีเวลากรุณาแนะนำผมด้วยครับ
     
  8. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    487
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,872
    โดยความเคารพ..นะขอรับ.....เวลาจิตถอดออกจากร่าง...ตอนที่..จิตของเกล้าฯกระผม..เป็น....มหาสติ.......
    ......อ่านไม่ผิดหรอก..ขอรับ...เป็นมหาสติ...คือยิ่งกว่าสติโดยธรรมดา......
    อุปมาเหมือน....นายขมังธนูผู้เล็งศร...ย่อมเห็นทิศทางแห่งลูกศรที่วิ่งไป......
    ตอนที่....จิตออกจากร่าง....ก็รู้กาย..ในกาย.....เพ่งอยู่ในกาย....

    .......เมื่อจิตสงบเต็มฐาน....กายทิพย์ก็ดิ้น.ขยับ..หาหนทางท่องราตรี...เมื่อมันออกด้านหลังไม่ได้.....ก็พุ่งทะยานออกกลางกระหม่อม......

    ........จิตไม่สนใจด้วยซ้ำ..ว่า..ขณะจิตนี้..เราอยู่ในฌาน..อะไรหนอ...
    ..ขณิกสมาธิ....อุปจารสมาธิ.....อัปปณาสมาธิ..หรือไรหนอ.....
    ....หรือฌาน4....หรือ 8หรือ9......

    ........การเห็นทุกขั้นตอน...ของจิต....ทำให้สูญเสียพลังส่ง....จิตก็จะไม่ไปไหนไกล......แม้ออกได้..ก็เหาะพุ่งทะยานเหินหาวไม่ได้........

    ...........การที่จิตจะพุ่งทะยานไปได้...สำหรับเกล้ากระผม....ฝึกมายาวนานขอรับ...นั่งสมาธินี้แหละขอรับ.....วันละเล็กละน้อย....สะสมหน่วยจิต......

    .........มีครั้งหนึ่งเผลอลงไปนรก..แต่ก่อนจะเผลอก็ตั้งใจไว้นานแล้ว.....ไปเดินอยู่ใกล้ๆกับขุมนรกที่เป็นทะเลน้ำกรดที่มีความเยือกเย็น.........เวิ้งว้าง..เงียบสงบ...ไม่ได้ยิน..เสียงร้องโหยหวนจากการ..ลงโทษใดๆทั้งสิ้น..เพราะสัตว์นรกไม่มีโอกาสที่จะส่งเสียงร้องใดๆ..เลย

    ..............เนื่องจากสัตว์นรกทั้งหลายในขุมนี้...ล้วนจมอยู่ในมหานรก.......
    .....เหตุที่ไป....ไปช่วยพี่ชาย.....อนิจจาแม้เราจะดึงแขนขึ้น..ก็ขึ้นได้ครึ่งตัว..สุดท้าย..เขาก็ดิ่งจมลง..กัมมุนา วัตตติ โลโก....สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม......เมื่อช่วยไม่ได้...จึงเดินขึ้นจากนรกแห่งนั้น....ไปเจอท่านท้าวเวสสุวรรณ.....ยืนกอดอก..และวิ่งมาหาด้วยท่าทางอันดุดัน.....

    .พร้อมกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า...มาเห็นกันแล้ว...ไม่เห็นทักกันบ้างเลย...ทำเหมือนไม่รู้จักกัน

    เกล้าฯใจหายวาบ..ตกใจ...จึงท่องคาถา...นะเมตตา โมกรุณา.ฯ...แล้วเดินหนีอย่างเดียวด้วยความกลัว....

    เดินมาสักพัก..เห็นกลุ่มคนในที่แห่งหนึ่ง..จึงหลงเดินเข้าไปต่อแถวตรวจรายชื่อรอการลงโทษ...เหมือนนักโทษรายอื่น....ผู้ตรวจบัญชีทั้งสอง..ซึ่งทำหน้าที่ตรวจบัญชีบาป..บุญ.มนุษย์...ได้ชี้บอกเกล้าฯ..ว่า...ให้ไปด้านโน้น...เกล้าฯมองตาม...เห็นเป็นศาลาหลังใหญ่..ตั้งอยู่ในความมืดสลัว....
    ..........ขณะที่เกล้าฯกำลังจะไป.ท่านผู้คุมทั้งสอง...ก็แผดร้องเสียงหลง..หน้าตื่นตกใจ....พร้อมกล่าวว่า...ท่านเข้าไปไม่ได้...ท่านปรารถนาพุทธภูมิ

    ....เกล้าฯ..ก็เลยถามเขาว่าท่าน...รู้ได้อย่างไร...ว่าปรารถนาพุทธภูมิ.

    ..เขาก็ชี้..ไปที่มือ...ขวาของเกล้าฯกระผม....ชึ้งถือขวดโปร่งใส..ยาวขนาดหนึ่งช่วงศอก..
    .ที่บรรจุพระพุทธรูปองค์เล็กๆ.สีขาวใส...อัดแน่น..
    ไม่แน่ใจว่าเต็มขวดหรือยัง...มองไม่เห็นปากคอขวด....แต่ส่วนที่นอกเหนือที่มือจับ.นั้นเต็มหมดแล้ว.....จะว่าเป็นร้อยหรือเท่าไหร่ก็มิอาจประมาณได้.....

    ...เมื่อได้มองเห็นก็รู้สึกประหลาดใจ...จิตหรือกายทิพย์..ก็กลับเข้าร่างเมื่อฟ้าเริ่มสาง...ขอรับ.....

    ..............

    .....ช่วงที่เกล้าฯดื้อถอด..จิต..ออกท่องเที่ยวบ่อยๆ..จะว่าชำนาญขั้นวสี...ก็ได้นะ..เพราะไม่ได้นั่งสมาธิหรอกขอรับ...เพียงแต่สวดมนต์เสร็จ..

    .....แผ่เมตตา..อฐิษฐานในทิศที่จะ.ไป...แล้วล้มตัวลงนอน.....ในขณะที่นอนจิตมันเหมือนคนนอนหลับอย่างสงบมากกว่า..ขอรับ..

    .......สัก..พัก..มันก็ไปปรากฎที่สถานที่แห่งนั้นเลย..ขอรับ
    .....ไปหลายครั้งขอรับ...

    ...แม้จะไม่ได้..นั่งสมาธิ...แต่ด้วยอำนาจของสมาธิที่มีอยู่แล้วจิตนั้นจึงมีความสงบ..
    มีอารมณ์เดียวคืออุเบกขา..มีเอกัคคตารมณ์..ไม่กี่อึดใจ..ทุกสิ่งอย่างก็ดับพรึบลง...ไม่รับรู้สิ่งภายนอก..

    ..พอรู้ตัวอีกที...ก็ได้เห็น
    ......บางครั้งเหาะไป....ไม่เรียบร้อย....บางครั้งก็เห็นเหาะไปแบบเรียบร้อย..ท่าสมาธิ.....ไม่รู้เป็นไปได้อย่างไรขอรับ....(เพราะแท้จริงแล้วคนนั้นได้วางสังขารธาตุอยู่ท่านอนหงาย...ขอรับ)

    ......อนึ่ง.ที่ไปท่านอนหงาย...ก็มีครั้งหนึ่งขอรับ....พุ่งลอยไปอย่างรวดเร็วแหวกอากาศ...ครั้งนั้น...กายทิพย์ออกโดยไม่ได้ตั้งใจ......

    .........กองกสิน..มโนมยิทธิ...ก็ทำบ้าง..แต่ที่เยอะสุดคือกายานุปัสนาสติปัฏฐาน...พิจารณากายเป็นอสุภะ...

    .....เห็นกายในกาย..ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2016
  9. นครถม

    นครถม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2015
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบคุณที่ช่วยตอบคำถามครับ ฟังจากคำตอบแล้วผมคงอีกนานกว่าจะถึงจุดนั้น ยังไงก็ขอบคุณครับ
     
  10. น้ำเกลี้ยง

    น้ำเกลี้ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +505
    การวางใจ นี่ยากที่สุดเลยครับ เคยบังเอิญ หลุดออก ไป ลอยๆๆ เคว้งคว้าง อยู่ซักพัก ไม่ค่อยได้เรื่องราวอะไรครับ >:D สมาธิสะสมก็ ไม่ค่อยจะมี :mad: แต่อ่านกระทู้ ที่เพื่อนๆถามแล้ว ก็จะจำไว้ ครับ แล้วทำให้มีกำลังใจฝึกต่อไปคับ
     
  11. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ขนลุกค่ะ
     
  12. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    เราเคยไปนรกมาค่ะ. มันจะมีแต่ไฟค่ะ. ไม่มีกลางวันมีแต่กลางคืนค่ะ. ตอนแรกเราลงไปนะค่ะยังไม่เท่าไหร่ เห็นแต่ไฟค่ะ. น่าจะเป็นไฟทิพย์. พอลงไปลึกๆอีก จากที่นรกมีแต่ไฟก็เป็นนรกที่หนาวๆค่ะแบบมันจะหนาวมากๆ ค่ะเหมือนกับว่ามันมีสองโซนค่ะ. ขุมร้อน--ร้อนมากกับขุมหนาว--หนาวมาก. เรางงมากค่ะตอนเราไปเรามองไม่เห็นร่างตัวเองค่ะ ไม่รู้ว่าถอดจิตหรือนิมิตนะค่ะ. มันมีภาพมาเหมือนเราดูภาพยนต์ก็ไม่เชิง เหมือนเราไปเองก็ไม่ใช่ ขนลุกค่ะ. มีคนหัวเป็นสัตว์ฆ่ากันเองด้วยนะค่ะ. น่ากลัวค่ะ. ตอนเราจะตื่นสมาธิเราได้ยินเสียงสวดมนต์รัวๆด้วยค่ะ

    ปล.เราไม่เห็นกระทะทองแดงหรือต้นงิ้วสักต้นค่ะ. เห็นแต่ขุมร้อนไฟ กับขุมเย็นยะเยือกค่ะ. ไม่รู้เราอยู่ส่วนไหนของนรกนะค่ะ. ขนลุกค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2016
  13. Tanakorn

    Tanakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,537
    ไปโดยบังเอิญ

    สมัยบวชพระในพรรษา ราวปี พ.ศ. 2546 เคยหลุดออกไปจากกายเนื้อแบบไม่รู้ตัว มองเห็นร่างตนเองนอนอยู่ในกุฏิ พอสงสัย จิตจึงคลายตัว ตอนนั้นผมใช้คำภาวนา ยุบหนอ พองหนอ นอนไป ภาวนาไปครับ

    ก่อนจิตจะออกจากร่าง รู้สึกเหมือนสปริงที่บีบรัดเข้ามาตรงกลางอก จากนั้นตัวหายวับ
     
  14. ิboomme1998

    ิboomme1998 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2016
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมนอนถอดกายทิพย์ได้โดยบังเอิญ ทำได้เพราะแค่ไปเปิดคลิปยูทูบลดความถี่ของสมอง ทำให้กล้ามเนื้อสบายตัวเวลานอน ผมนึกถึงว่าผมกำลังอยุ่ในอวกาศ ที่มืดสนิด ตัวเราลอยอยุ่ แล้วสักพักก็นึกอีกว่า ตอนนี้ตัวเรากำลังเหยียบหญ้าเล็กๆ มีเสียงน้ำหยดตอนพระอาทิตย์ตกดิน แล้วก็รุ้สึกว่าเหมือนตัวเองกำลังพยายามขึ้นขึ้น แบบไม่ได้ใช้มือ ไม่ได้ใช้เท้าเลย พอพยายามจะยืนได้แล้วขั้นตอนสุดท้าย ผมนึกถึงพระพุทธองค์สีทองคำรอยอยู่ท่ามกลางแสงไฟสีขาว พยายามจะเดินเข้าไปหา พอถึงก็ถอดกายทิพย์ได้ ทำได้ครั้งแรก ตอนนั้นช่วงประมาณ1ทุ่ม (ผมเป็นคนกลัวผีมาก) แน่นอนต้องเจอวิญญาณ อยู่ในห้องก็เลยลงไปชั้นล่าง แล้วก็เจอวิญญาณผญวิ่งเข้าหา ผมตกใจเพราะกลัวด้วยก้ได้กลับเข้าสู่ร่าง แต่ครั้งต่อไปไม่กลัวแล้ว จนปัจจุบัน ก่อนครั้งล่าสุด ครั้งที่ 6 ผมจะถอดกายทิพย์ แต่ครั้งนี้ผมไม่รุุ้เกิดอะไรขึ้นผมทำทุกอย่างตามขั้นตอนเดิม แต่ผมถอดกายทิพย์ไม่ได้ ผมเลยคิดว่า เราควรปล่อยตัวตามสบาย ไปๆมาๆ ก็เห็นภาพตาและน้ำตาสีฟ้าหลังจากนั้น ผมก็เห็นแบบว่า วิวทิวทัดสวยๆ แล้วผมก็คิดว่า ผมอยากเห็นหน้าแฟนผม แล้วผมก็ได้เห็น ทั้งๆที่ผมไม่เคยเจอมาเลยสักครั้ง (ครั้งนี้ เขาเรียกว่าอะไรหรอครับ ผมงงมากกกก แบบ เคยเป็นแบบนี้มา 2 ครั้ง พยายามถอดกายทิพย์มา 7 ครั้ง)/มีคนบอกว่าเป็นเพราะจิตปรุงแต่ง แล้วมันเป็นจิตปรุงแต่งเองหรอคับ ช่วยตอบหน่อยสงสัยมากก ว่ามันเรียกว่าอะไร แล้วเป็นจิตปรุงแต่งจริงๆหรอ
    แล้วก็มีอีกกรณี พอเวลาจิตอ่อนๆ เคยหยี่ตามองแล้วแบบว่า เวลาหยี่ตา มันจะเห็นหนังตาชั้นบน ภาพที่เห้นจะดำครึ่ง ภาพจริงครึ่งใช่มะ แต่ภาพส่วนที่เห็นหนังตา มันเห็นเป็นภาพอะไรก็ได้ ใครก้ได้ที่อยากเห็น อันนี้เรียกมโนรึเปล่าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2016
  15. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    อยากทราบลายละเอียดอาการ ก่อนที่ จิตจะเเยกจากร่าง ครับ แบบละเอียด เช่น หูไม่ได้ยินเสียง จริงหรือไม่ เเละตอนจิตออก บังคับออกได้หรือไม่ ออกเองหรือต้องกำหนดเเล้วไม่ออกได้หรือไม่ ขอบคุณครับ
     
  16. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    487
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,872
    Io
    ถ้าสนใจสิ่งลี้ลับ..เกล้าฯขอบอกว่ามีอยู่จริง..แม้จะมีอยู่จริง..ก็อย่าพึงเชื่อ..จนกว่าจะได้เห็นกับตาตัวเอง

    ......เรื่องมิติพิศวง....มิติซ่อนมิติ....ผู้มีอำนาจทิพย์ทำร่าง..ให้เหมือนมี..ธาตุ4.ขันธ์5...อันนี้..เกล้าฯ..ก็งงอยู่นะ.........

    .........ถ้าหาก....มนุษย์สามารถ..ถอดกายทิพย์ได้....เป็นไปได้ไหม...สิ่งที่สิ่งเป็นทิพย์........ก็สามารถถอดกายเนื้อ....ที่มีธาตุขันธ์ได้....ในสมัยที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ได้ไม่นาน..ได้ไปเสวยวิมุติสุขที่ร่มไม้จิก.(มุจลินทร์).แล้วเกิดมีลมฝน..จนท่านจอมพระญานาคานาคราช...ต้องขนดกายแผ่พังพาน..เพื่อบังฝน..ให้กับพระจอมมุณี...อยู่เจ็ดวัน..เมื่อฝนหยุดจึงแปลงกายเป็นมาณพ..น้อมวันทาอภิวาท...กาลต่อมาก็มีพญานาค..มาขอบวชในพระพุทธศาสนา....

    นับแต่พระพุทธองค์ดับขันธ์ปรินิพพาน...

    พระอรหันต์ขีณาสพ..ผู้เป็นพระบูรพาจารย์อย่างหลวงปู่มั่น. ภูริทัตตเถระ...ตลอดจนศิษยานุศิษย์..อย่างหลวงปู่ตื้อ..อจลธัมโม..,หลวงปู่สิม พุทธาจาโร,..หลวงหลุย จันทสาโร,หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, ..หลวงปูชอบ ฐานสโม..เป็นอาทิ
    ก็เคยมีเรื่องมีราว..เกี่ยวพันกับพญานาค...

    ..แต่ผู้ที่ลงไปเยือนถึงเมืองบาดาลเลย..ไปสภาพกายเนื้อ.ไม่ใช่กายทิพย์...ตามประวัติของพระเถระมีนามว่า..หลวงปู่คำคนิง..จุลมณี..แห่งถ้ำวัดคูหาสวรรค์...จังหวัดอุบลราชธานี...

    .....เกล้าฯเองก็มีโอกาสได้เจอ.ท่านพญานาค..ตอน.ไปปฏิบัติธรรมริมน้ำ.ติดเชิงภูเก้า.ภูพานคำ..
    ขอลำดับเหตุการณ์โดยสังเขป..

    อาทิตย์อัสดง..เกล้าฯรีบเข้ามุ้งกลด...สวดมนต์ไหว้พระ..สวดมนต์หลายบท...แต่ไม่มั่นใจในสถานที่อันเปลี่ยวหลีกเร้น...สงัด..สงบ....จึงสวดกำแพงมนต์..อฐิษฐานจิตว่า...หากดวงจิตใดหวังประสงค์ร้าย..ก็อย่าฝ่าแนวกั้น..ของกำแพงมนต์..แต่ถ้าหากมีไมตรีก็จงเข้ามาเถิด..เข้ามาได้..

    ........ข่มตาให้หลับก็ไม่หลับ...เพราะเมื่อตอนกลางวันมองเห็นพญานาคสองตัว..ตัวหนึ่งสีดำอีกตัวสีเขียว..เห็นในสถานที่ที่พัก

    ..ประมาณสองทุ่ม..เจ้าป่ามากรีดเสียงขับไล่....อย่างเยือกเย็น....
    ..ครั้งแรกที่ได้ยิน..หัวเราะ..อดขำไม่ได้...แต่ต่อมาขำไม่ออก...เพราะรู้สึกหนาวสั่น..ในพลังน้ำเสียง..ฟันกระทบกันกักๆ..จะตายเอา..
    ...เกล้าฯไม่มีประสบการณ์ในการรับมือ..จึงใช้เตโชกระสิน...ทำเป็นไฟไหม้ป่าไป.....
    ......เงียบไปสักพัก..........
    ...........จึงมีเสียงกรีดร้องอีก........
    ...แต่สติยังดี...จึงภาวนา..คาถา..หลายบท
    ...ตอนนั้นรู้สึกว่าชีวิตของเราจะเหลือรอดไหมหนอคืนนี้........หรือเราจะตายในคืนนี้..

    ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีหลงเหลืออยู่...คือ..ก่อนที่จะมีเสียงแหวกอากาศ..ห้าวินาที..จะมีสัญญาณเสียงจากจิ้งจก...ร้องมาให้สัญญาณก่อน....เกล้าฯ..ต้องรีบเข้าฌานในระดับ...หายใจหนึ่งครั้ง..จิตนั้นก็สามารถดิ่งสู่เอกัคตาได้....คือจิตนั้นไม่หวั่นในความตาย....มีอารมณ์เดียว..ทำจิตดิ่งที่กลางกาย..มีสติ...ว่าได้รับแรงปะทะ...เหมือนกายนั้นจะทานไม่ไหวแน่ๆ..ถ้าไม่มีสมาธิ..สมถะภาวนาช่วย

    .....อีกประการหนึ่ง...ถ้าหากจิ้งจกไม่ส่งสัญญาณ..ก็จะมีสัญญาณ..จากปลาขนาดใหญ่เอาหางฟาดน้ำ....สลับเสียงจิ้งจก

    ...อีกประการหนึ่ง....ช่วงที่ตั้งสติเปลี่ยนจากสมาธิเป็นคุกเข่า....พลันมองเห็นภิกษุรูปหนึ่ง..นั่งสมาธิเจริญเป็นเตโชกระสิน..ช่วย..เห็นเป็นแสงเพลิงรอบตัวพระ.สว่างโพรง...

    ......สติที่คอยระวัง....ทำความรู้สึกตัวทั่วพร้อม...พอเนิ่นนาน..กลายเป็นมหาสติ..ครั้งนี้กายทิพย์ไม่ออกจากร่าง..แต่..เกิดระลึกชาติ.แบบสายฟ้าแลบ.ว่าผู้เป็นอสุรกาย.ที่มุ่งหมายชีวิตของเราคือแม่ภาณุมาศ...ที่เคยเลี้ยงดูเกล้าฯในตระกูลอันยากไร้แต่สมัยพระพุทธเจ้า.ผู้มีพระนามว่าพระ.กัสโป.....เกล้าฯจึงน้ำตาพังเป็นสายน้ำ..
    ....ก็เลยแผ่เมตตา...วิญญาณที่ประสงค์ร้ายจึงสงบ...
    .....พอจิตรู้สึกสบาย..จิตนั้นย่อมไม่หวาดกลัว..หวั่นไหว..และจิตนั้นย่อมสงบ.พอจิตสงบ..สักพักจิตก็เข้าสู่ภวังค์...พอจิตเข้าสู่ภวังค์ได้ปรากฎ...หลวงปู่มั่น..ภูริทัตตเถระ..มาเตือน..ว่าอย่าเห็นแก่หลับแก่นอน....หลวงปู่ขาว อนาลโยฺ..หลวงปู่หลุย .จันทสาโร .มาให้สติ....หลังจากพระเถระทั้งสาม..จากไป..พระอินทร์มายืนมาปรากฎ.เบื้องหน้า.

    พูดด้วยน้ำเสียงดุดัน..


    ว่าตั้งสติให้ดี.ระวังตัว..ยังไม่หมดนะ...ยังมีอีกสาม.......
    ..พอสิ้นเสียงพระอินทร์จิตก็ถอน...พอจิตถอนก็เตรียมรับมือ..จากสมาธิเป็นตั้งสติท่าคุกเข่า.....
    ..........................เมื่อพ้น..สามที่พระอินทร์ว่า....จึงมีเสียงของพญานาค.มาไถ่ถาม.หลายตน..ล่องลอยมาตามสายลม.......แผ่วๆเบาๆ..........ผู้ไถ่ถาม...
    มี1.ท่านสิงขรพญานาค
    2พญานาคผู้ปรารถนาพระพุทธภูมิ..ท่านแสนสะท้านพญานาค
    .3.ท่านเสขพญานาค.....,
    4.ท่านอุทุมมาหรือ..ปทุมมาพญานาค.......
    และ..
    5.ท่านพ่อพญาศรีสุทโธนาคราช....
    ....ในการไถ่ถามแต่ละครั้ง..จะเอาหางฟาดน้ำแสดงตนก่อน...
    .
    ....ขอเล่าย่อแต่พอสังเขป.......

    ที่เล่าเรื่องลี้ลับ.สักแต่เล็กน้อย.เพียงแต่ยืนยันว่า..เรื่องลึกลับมีจริง.... เกล้าฯเป็นเพียงอุบาสก..ผู้อ่อนหัดในการอยู่ป่า...ใช้คาถาสับสนไปหมด..ไม่รู้จะใช้บทไหนดี..ครั้นจะไปหาพระคูบาท่านก็อยู่บนภูเขา..คนละฝังน้ำ.วันนั้น..ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์..เทพ.และพระภิกษุลึกลับมาช่วยกั้นกระแสอำนาจแห่งป่า..

    .เกล้าฯมีหรือจะเหลือรอด......แต่ให้ฟังไว้เฉยๆ..ไม่ให้เชื่อ....ต่อภายหน้า..หากได้เจอเหมือนกัน..จึงค่อยเชื่อ.....
    ....
    วันที่1 สิงหาคม 2559
    **คาถากำแพงมนต์.ที่สวด.ในวันนั้น..คือ.คาถามงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ..บทนี้..สวดมาตั้งแต่เด็กเลย...มีวันหนึ่งหลังสวดมนต์..เกิดนิมิต..ว่ามีแก้วสีโปร่งใส..มาครอบไว้..จึงมั่นใจบทนี้เป็นพิเศษ.....

    ผู้ท่อง..ควรกำหนดจิตให้..คุ้มกัน..จนมิอาจหาที่สุดหาที่ประมาณมิได้..และควรจะกล่าวว่า..ขอให้ที่อยู่จงเป็นอากาศธาตุ..สิ่งใดอย่าได้มองเห็น..ก็จะดี.มิน้อย.(เกล้าฯเองวันนั้น.กำหนดจิต..อาณาเขต.ระยะห่าง.ประมาณ 10 เมตร..เท่านั้น)



    ......คำว่าแผ่เมตตา..แท้จริงแล้ว..วันนั้น..ภาวนาคำว่า..

    นะ เมตตา
    โม กรุณา
    พุท ปราณี
    ธา..ยินดี.
    ยะ...เอ็นดู..

    เป็นคาถา..หลวงปู่ศุข วัดปากคลอง มะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
    ......

    ................ตอนรุ้งสางท่านพญาศรีสุทโธ.ผู้เป็นจอมคำชะโนด.บาดาล.พิภพ
    ..ได้แสดงตน..ด้วยอำนาจทิพย์ของท่าน.

    ..ท่านมีลักษณะเช่นใด?

    ..พญานาคปรากฎให้เห็นอย่างชัดเจนมีด้วยหรือ?.
    .
    ....ให้..คลิ๊กดูที่.ข้อความในวงเล็บ(.เรือนธรรมแสงทางส่องปัญญา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2016
  17. พามมะวดี

    พามมะวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,857
    มีความอันตราย !!
     
  18. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    487
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,872
    พระอุปปัจฌาย์ผู้..ไม่บอก.ปัญจกกัมมัฏฐาน..ให้แก่กุลบุตร..ได้ชื่อว่า..ตัดเส้นทางแห่ง..มรรคผลและนิพพาน.ของกุลบุตรผู้บวช..นั้นๆ..ฉันใด

    ผู้บอกแนะวิธีถอด...กายทิพย์..เช่นเกล้ากระผม...แต่ไม่บอกเล่า...อันตราย.และเหตุการณ์.อันน่าหวาดเสียว..ขนหัวลุก...แก่ผู้ศึกษาการถอดกายทิพย์
    ได้ชื่อว่า...นำพาผู้อื่น..ไปสู่ห่วงแห่ง..หายนะ..

    ....."ธรรมที่ลึกลับ..ไม่ควรพูดให้คนอื่นรู้...เพราะถ้าคนอื่นไม่เห็นตาม..ธรรมจะเสีย....ต้องพูดต่อผู้ปฏิบัติเหมือนกัน."...(หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต).

    เกล้าฯพิจารณาว่า..สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้.แก่ควรเล่า..จึงขอเล่าเหตุการณ์..และบทธรรมคาถาที่ผุดขึ้นมา.ช่วยในคราวคับขันดังนี้

    1.ครั้งหนึ่ง..กายทิพย์ออกร่าง..แต่ถูกยักษ์..จับและกำบีบ..เกือบตาย..ขณะที่กำลังจะตาย..จิตได้..ภาวนาคำว่า...อิติปิโส วิเสสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ ฯ..พอสิ้นประโยคนี้..ปรากฎว่ากายทิพย์มีพลังมหาศาล..ทุบท่านพระยายักษ์..จนจมดิน

    2.ถัดมาคืนที่ 2 จากข้อหนึ่ง..กำลังนอน..เคลิ้มจะหลับ..ยักษ์มาแก้แค้น..โดยพลักกายทิพย์..ลากไปในห้องนอน..จิตได้ภาวนา.คำว่า..นะเมตตา โม กรุณาฯ..ด้วยอำนาจแห่งคาถาเมตตา..เขาจึงเลิกมากวน

    3.ครั้งหนึ่ง..กายทิพย์ออกไป..ถูกอมนุษย์..ตัวดำ.ผมหยิก..ฟันคมเหมือนใบเลื่อย..4 ท่านจะมาเอาชีวิต.ได้ต่อสู้สุดความสามารถ..ในวินาทีแห่งความตาย..จิตได้ผุด..ขึ้นว่า..

    ออแอ อออา เมตตา พุทโธ..(คาถาเมตตา)
    พอสิ้น..คาถา...อมนุษย์ร่างระเบิด..เหมือนมีส่ายฟ้าผ่าลงมา.

    4.ครั้งหนึ่งกายทิพย์..ออกมาเดินจงกรมในห้องนอน..ถูกอำนาจลึกลับ..ซัดด้วยพายุใหญ่..ตกตึก..ขณะร่างลอยออกจากตึก..จิตได้ภาวนา..บทอิติปิโส..พุทธคุณฯ...ก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวแต่อย่างใด

    .5.ครั้งหนึ่ง..กายทิพย์เหาะไป..ท่านั่งสมาธิ..ขณะสำรวจบริเวณบ้าน.ของ.สหธรรมิก.ผู้หนึ่ง..ได้ปรากฎ..หญิงชราหน้าเหี่ยวย่น...มีผ้าคลุมตั้งแต่หัวจดปลายเท้า..นั่งกระเช้าผลไม้สำหรับเยี่ยมไข้..ในโรงพญาบาล..ลอยสวนกัน..ในป่าบ้านสวน..เกล้าฯตกใจสุดขีด..หวาดเสียวสุด.จึงเร่งรุดเหาะไปให้ไว...แต่เธอก็ไม่ทำให้กลัวมากกว่านั้น..

    การที่คาถาใด...คาถาหนึ่ง..จะผุด..หรือ..จิตจะภาวนา..ขึ้นเองโดยอัตโนมัติ....ก็ต้อง..หว่านเพาะ..ปลูก..ภาวนาเป็นอารมณ์..ใช้บ่อยมาก่อน....

    บางคาถา..ก็เป็นบทเจริญเมตตา..ภาวนา..แต่ถ้าหากผล..จะเกิดแบบอื่น..ก็เป็น..กตัตตากรรม...กรรมสักว่าทำ..เรามิต้องการผล..คือความวิบัติแห่ง.หรือหายนะของดวงจิตอื่น...


    แต่..เมื่ออยากลบอารมณ์..การถอดจิต..ก็ให้แก้..ด้วยการ..เดินจงกรม..มีจิตและสติ..อยู่ที่กาย...อยู่ที่จิต..อยู่ที่เวทนา...อยู่ที่ธรรมารมณ์...
    รู้การเดิน..คู้เข้าเหยียดแขน..ก็รู้..

    ...เมื่อจิต..ของท่านไม่ส่งออกนอก.จิตก็เหมือน..กับเต่าหดหัวเข้าในกระดอง..

    .เมื่อนั้นจิตท่านก็จะไม่เผลอ...ออกท่องเที่ยว..ตอนหลับ..หรือตอนจิตเข้าภวังค์..

    เมื่อจิตไม่ส่งออกนอก..จิตของท่านก็จะสงบ..ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2016
  19. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    487
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,872
    วิธีถอด..กายทิพย์ ปฐมบท
    เราก็งด..กินดื่ม..สักครู่ไหม
    ถัดจากนั้น..กายจิตเรา..ก็เบาใจ
    แล้วจึงให้อารมณ์...ข่มความกลัว

    ถัดจากนั้น...กันกาย..ก็ลายทั่ว
    หูตามัว..มืดมนต์..คนน่าหัว
    ถัดจากนั้น...จิตกับกาย..ก็อนอัว
    ซัดซ่าย..ทั่ว...หาที่ไป.ให้สำราญ

    อนอัว..ภาษากรีกไหม..ถ้าไม่ใช่.ก็จงยั้งใว้
    ภาษาชาวบึงกาฬ..เรือนธรรมแสงทางส่องปัญาเถิด
    แปลว่า..วุ่นวาย..ขอรับ
     
  20. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    487
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,872
    อันตัวเราเรียน..วิชา..คาถาปอบ
    ก็นึกชอบ..ท่องบ่น..ให้คนขาม
    แต่เหตุไร..จึงอุบัติ...ให้เสื่อมทราม
    ไม่ลือนาม...แต่ร่างเหิน...ลอยเมฆา

    ในวันที่21 เดือนพฤษศก...
    เราก็ตก..ใจหาย...ขวัญผวา
    เสียงแหวกม่าน....แทรกลมบน..ละลิ่วมา
    แหวกเมฆา...โดนวิหก....ตกลงดิน

    แล้วไปเจอฝูงหมาป่า....เพชฌฆาต

    เขียน...ใหม่

    แล้วเดินไป...ในป่าช้า..มีโลงศพ
    มิได้พบ...สิ่งใด....ให้ด้าวดิ้น
    แม้นเราเพียก...เรียกหา....มิยลยิน
    เราก็สิ้น..เหลืออด....รันทดคำ

    เมื่อไม่มี..ผีป่า....มาให้ปราบ...
    เราก็ทราบ..ความนัย...ไร้สิ้นขำ
    แต่เราหละ..ร้อนวิชา...มาประจำ
    จึงร้องร่ำ..ขอกำหราบ...ปราบหนึ่งที

    พอสิ้นกล่าว...คำขอ..รอนาน..เนิ่น
    ก็เผอิญ..ผีคาบไก่...ไต่รีบหนี
    จึงร้องถาม...พี่ท่าน..ไม่ปราณี
    ขอน้องนี้.ตีนิดหน่อย...อย่าน้อยใจ

    ธรรมของครูบาอาจารย์..ทางเหนือ
    อย่าหลงสื่อเสียงข้างนอก....อย่าหลงสื่อเสียงข้างใน
    ให้อยู่กับปัจจุบัน....พิจารณาตามสภาพแห่งความเป็นจริง.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2021

แชร์หน้านี้

Loading...