ลดราคาพิเศษ ระดมทุน /พระผงอ.สง่า วิหารเซียน เกศาเยอะ/หลวงพ่อมนัส/แม่ชีปทุมฯลฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย gaara99, 21 กุมภาพันธ์ 2016.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    จัดส่งให้เรียบร้อบแล้วคับ
    เดี๋ยวบ่ายๆแจ้งเลขที่จัดส่งให้ทราบครับ
     
  2. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    แจ้งเลขที่จัดส่งครับ

    chirawatsu EQ752810895TH
    naron EQ752810918TH
    nattawat8899 EQ752810855TH
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2016
  3. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รายการที่ 18 บุเรงนองปรกมะขาม หลวงพ่ออุตตมะ


    1ชุดมี 2องค์
    ร่วมบุญ 250บาท จัดส่งฟรี

    มีทั้งหมด 5ชุดครับ
    เหลือ 4ชุดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2016
  4. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ***ปิดรายการให้คุณ Nattawut8899 แล้วครับ***
    รายการที่ 19 ยันต์ครุฑมหาลาภ หลวงพ่ออุตตมะ

    หายาก นานๆจะเจอซักทีครับ

    ยันต์ครุฑมหาลาภนี้ จากการสอบถามอาจารย์สุวัฒน์ พบร่มเย็น (อ.เบิ้ม) ทราบมาว่าได้นำเข้าพิธีปลุกเสกสำคัญๆ ของหลวงพ่อมาตลอด แทบทุกพิธี พุทธคุณทั้งโชคลาภ ป้องกัน และปรับฮวงจุ้ย ดีทุกทางครับ


    ขนาด 20.5 x 43.5 ซม. พิมพ์ลงบนกระดาษอาร์ตมัน
    ด้านหลังปั๊มตรายางวัดไว้ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ร่วมบุญ 1,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2016
  5. Nattawut8899

    Nattawut8899 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,413
    ค่าพลัง:
    +7,058
    ขอบูชารายการที่ 19 ครับ
     
  6. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รับทราบการจองครับ
    :cool:
     
  7. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    รับ 1 ชุดครับ
     
  8. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รับทราบการจองครับ:cool:
     
  9. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    *** ปิดรายการให้คุณรักจันทร์ครับ ***
    รายการที่ 20 "พระอรหันต์จี้กง" เนื้อว่าน รุ่น3 สมาคมจีจินเกาะ

    ออกแบบโดย อ.อำพล เจน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ขอยกเรื่องราวของ "พระอาจารย์จี้กง" ที่เสกโดยสมาคมจีจินเกาะ
    งานเขียนอ.อำพลเจน

    [​IMG]

    ผมรู้จักนับถือกันกับคุณธำรง ปัทมภาส มานานพอสมควร แต่ไม่เคยรู้ว่าคุณธำรง มีชื่อเล่นว่า มิ้งค์

    "คนเข้าทรงที่มีคุณภาพที่สุดในเวลานี้คือเฮียมิ้งค์" ท่านเมี่ยง วรมันว่า

    "ไม่จริ๊ง ไม่จริง" ผมเถียง "คนเข้าทรงที่ผมเห็นว่าพอจะเชื่อถือได้คือคุณธำรง"

    "สู้เฮียมิ้งค์ของผมไม่ได้หรอก"ท่านเมี่ยงไม่ยอม

    "เฮียมิ้ง เฮียเม้งอะไรผมไม่รู้จัก ถ้าจะต้องสู้กันเป็นอันเสร็จคุณธำรงแน่" ผมไม่ยอม

    เรื่องของเรื่องก็คือ ท่านเมี่ยง วรมัน ก็ไม่เคยรู้จักว่าเฮียมิ้งค์มีชื่อจริงว่า ธำรง

    ทีหลังความจริงปรากฏ ทั้งผม ทั้งท่านเมี่ยงหัวเราะเกือบตาย

    คุณธำรง ปัทมภาส หรือเฮียมิ้งค์ เป็นร่างทรงของท่านอาจารย์จี้กง อยู่ที่สมาคมเผยแพร่คุณธรรม "เต็กก่า" จีจินเกาะ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ซอยวัดทองนพคุณ ถนนสมเด็จเจ้าพระยา คลองสาน

    ใครไม่รู้จักว่าอยู่ที่ไหน ให้หาโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาฯ ปากคลองสานให้เจอ ก็จะหาซอยวัดทองนพคุณได้ไม่ยาก

    คุณธำรงจะเริ่มเป็นร่างทรงมาแต่ไหนไม่ทราบ คงทราบแต่ว่า แม้วิหารเซียนของอาจารย์สง่า ที่ชลบุรี ก็ได้เชิญคุณธำรงไปเข้าทรงท่านลื่อโจ๊ว และเซียนต่างๆอีกหลายองค์เป็นประจำ

    ข้อที่น่าสังเกตุก็คือว่า เมื่อเวลาคุณธำรงเข้าทรงท่านอาจารย์จี้กงจะกินเหล้า ไม่เลือกว่าจะต้องเป็นเหล้าชนิดไหน แล้วแต่ลูกศิษย์จะหามาถวาย ไม่ได้กินแต่น้อยหรือแค่จิบ เรียกว่าตลอดเวลาที่เข้าทรงครั้งละหลายชั่วโมง กินเหล้าทุกระยะ กระทั่งคอแข็งๆเห็นแล้วยังต้องส่ายหน้าบอกว่า ถ้าตนกินเหล้าขนาดนั้นมีหวังหงายท้อง แต่แปลกที่เมื่อออกจากเข้าทรงแล้ว คุณธำรงดูปกติดี ไม่มีอาการเมามาย หรือได้ผ่านการกินเหล้ามาก่อนแต่อย่างใด

    ท่านอาจารย์จี้กง เป็นภิกษุที่อายุอยู่เมื่อ 800 กว่าปีมาแล้ว เกิดอยู่ที่ตำบลเทียนไท้ อำเภอไตโจว จังหวัดเชอเจียง ประเทศจีน เข้าใจว่าทุกวันนี้จะเป็นเมืองหังโจวหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะว่าวัดหลงหยิ่น ที่ท่านบวชและพำนักอยู่แต่เบื้องต้นกับวัดจิ้งฉือ ที่ท่านมรณภาพก็อยู่ในเมืงหังโจว ทั้ง 2 วัดนี้ผมเคยไปมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน เสียแต่ว่าขณะที่ไปนั้น ผมไม่รู้ว่าเป็นวัดของท่านอาจารย์จี้กง

    สมัยที่ท่านอาจารย์จี้กงยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านมีชื่อเสียงระบือไกลแล้ว คนเชื่อถือว่าท่านมีความสามารถหลายแนว ทั้งเจ้าปัญญา เจ้าบทเจ้ากลอน และมีอภินิหารแบบที่ชาวสวนขลังชอบนักชอบหนา จึงเป็นที่เคารพทั่วไป แต่ว่าท่านก็เป็นคนที่มีอารมณ์ผันแปรไม่แน่นอน ใช้ชีวิตแบบอิสระเต็มที่ ไม่อยู่ในระเบียบหรือวินัย กินทั้งเนื้อสัตว์และเหล้า วันๆเดินท่อมๆพร้อมกับโบกพัดขาดๆเก่าๆ คนเขาจึงเห็นว่าท่านเป็นพระบ้า แต่เห็นเช่นนั้นแล้วก็ให้ความนับถือท่านด้วยเพราะว่า ท่านเป็นผู้มีเมตตากรุณาธิคุณไม่มีประมาณ ชอบช่วยเหลือคนทุกข์ทั้งหลาย คนยากคนจน คนเจ็บป่วย ผู้ถูกกดขี่

    ตลอดชีวิตของท่านก็ทำแต่เรื่องแก้ทุกข์ให้มวลชน จนแม้ทุกวันนี้ท่านกลายเป็นเสมือนเทพอีกองค์หนึ่งที่คนยุคปัจจุบันยังเคารพกราบไหว้ ท่านยังช่วยสงเคราะห์ผู้คน โดยผ่านร่างทรงของคุณธำรงอยู่แทบทุกวัน

    เพราะเหตุที่ท่านอาจารย์จี้กงชอบกินเหล้า และเจ้าบทเจ้ากลอน ดังนั้นเวลาเข้าทรงบุคลิกนี้จึงเห็นได้เด่นชัด คือลูกศิษย์ถวายเหล้าเมื่อไหร่ก็จะรับ และซดรวดเดียวหมดจอก และโต้ตอบผู้คนด้วยบทกลอน ทั้งภาษาจีนและภาษาไทย

    เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2544 ผมได้พบคุณธำรงที่วัดหลวง จังหวัดอุบลฯ และได้เห็นการเข้าทรงของคุณธำรงเป็นครั้งแรก ก็มีความประทับใจเกิดขึ้น คือท่านอาจารย์จี้กงได้เขียนกลอนกระทู้ผ่านร่างทรงของคุณธำรงให้ผมโดยเฉพาะ กลอนนั้นว่าอย่างนี้

    อำ นาจธรรมเข้มขลังกว่าอำนาจใด

    พล กำลังอันยิ่งใหญ่จากใจหนอ

    เจน จบระบบรู้ยังไม่พอ

    จง ขวนขวายอย่ารีรอเร่งบำเพ็ญ

    เห็น เป็นเพียงมายาภาพฉาบสมมุติ

    จริง กับเท็จ คือจุดร่วมควรชัดเห็น

    ทุก ทุกอย่างล้วนว่างเปล่าดังเงาเพ็ญ

    สรรพ ชีวิตจึงอยู่เป็นเช่นธรรมดา

    สิ่ง ทั้งหลายคล้ายหมอกควันพลันจางหาย

    ทิ้ง การเกิดละการตายไร้กังขา

    ผ่าน ชีวิตพึงตั้งจิตพิจารณา

    ไป ให้พ้นอวิชชาพาเบิกบาน

    ***************

    กลอนที่เห็นนี้เป็นกลอนสดช่จะแอบแต่งเอาไว้ก่อนก็หาไม่ เพราะถ้าจะแอบแต่งเอาไว้ล่วงหน้า เห็นจะจำกันไม่หวาดไหว เพราะว่ามากมายเหลือคณา ใครถามอะไรก็ตอบเป็นกลอนทุกคราวไป จะรู้ล่วงหน้าหรือว่าใครจะถามอะไร นี่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกใจอีกข้อหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกนับถือจริงๆ

    ผมเคยถามคุณธำรงว่า เวลาเข้าทรงนั้น คุณธำรงรู้สึกอย่างไร คุณธำรงบอกว่า คล้ายๆกับเข้าสมาธิ ซึ่งผมคิดไม่ออกว่าเป็นสมาธิแบบใด คุณธำรงก็กรุณาอธิบายเรื่องการเข้าทรงให้ผมทราบพอประมาณดังนี้

    การเข้าทรงมี 2 แบบ

    แชกี ร่างทรงยังจะพอรู้ตัวอยู่บ้าง สามารถเคลื่อนไหวแต่บังคับตัวเองไม่ได้ แล้วแต่ว่าไม้หลิวที่ร่างทรงจับไว้ในมือจะพาไป

    จุ้ยกี ร่างทรงจะเหมือนหลับไปเลย ไม่รู้ตัวว่าได้ทำอะไรไปบ้าง

    การเข้าทรงของจีนนั้น จะต้องมีไม้หลิวศักดิ์สิทธิ์เป็นอุปกรณ์สำคัญ ลักษณะไม้หลิวก็เป็นง่ามจับ 2 อัน คนเข้าทรงจับด้ามหนึ่ง ผู้ช่วยจับอีกด้ามหนึ่ง ใครเคยไปร่วมงานพิธีล้างป่าช้า จะรู้จักไม้หลิว ที่ร่างทรง 2 คนวิ่งถือไม้ไปชี้จุดที่มีศพฝังเป็นอย่างดี ใครไม่รู้จักก็เห็นจะต้องหาโอกาสไปดูที่สมาคมฯจีจินเกาะด้วยตัวเองจะเข้าใจ

    นอกจากไม้หลิวเป็นอุปกรณ์สำคัญแล้ว ในกรณีของคูณธำรงจะมีกระบะไม้ ที่พื้นกระบะเป็นแผ่นทองเหลือง เอาไว้สำหรับให้ไม้หลิววิ่งเป็นตัวหนังสือ สมัยก่อนใช้กระบะทราย ทุกวันนี้พัฒนามาให้สะดวกขึ้น คือกลายเป็นกระบะทองเหลือง

    ท่านอาจารย์จี้กงเมื่อเข้าทรงจะไม่พูดโต้ตอบกับคนด้วยวาจา แต่จะโต้ตอบด้วยการเขียนหนังสือ ซึ่งต้องอาศัยล่าม หรือคนอ่านตัวหนังสือที่คุณธำรงเขียนคนหนึ่ง และต้องมีคนจดข้อความอีกคนหนึ่ง

    นัยว่าการเข้าทรงแบบที่มีไม้หลิวนี้จะน่าศรัทธากว่าแบบอื่น

    หลังจากได้พบคุณธำรงเป็นครั้งแรกแล้ว ไม่นานเดือนต่อมา ดูเหมือนจะเป็นวันที่ 19 มกราคม 2545 ก็ได้พบกับคุณธำรงอีกเป็นครั้งที่ 2 ที่วัดแก่งตอย อ.ดอนมดแดง จ.อุบลฯ การเข้าทรงที่นี่มีเรื่องแปลกซึ่งจะได้เล่ากันต่อไป

    คุณธำรงกับคณะญาติธรรมของสมาคมฯจีจินเกาะ และจีตัมเกาะ (อุบลฯ) รวมทั้งชมรมศิษย์พระอรหันต์จี้กง(อุบลฯ) ก็มาร่วมกันเพื่อบริจาคทานแก่คนยากไร้ ในละแวกนั้นหลายคน ซึ่งถือว่าเป็นการบำเพ็ญบุญทานตามปกติของสมาคมที่จัดขึ้นบ่อยๆตลอดปี

    ในการเข้าทรงที่วัดแก่งตอย ท่านอาจารย์จี้กงได้เล่าเรื่องวัดแก่งตอยในรูปแบบของกลอนแปดซึ่งค่อนข้างยาว ผมจึงไม่นำมาลง แต่จะจับเอาเนื้อหาใจความสำคัญ 2 - 3 แง่มาให้พิจารณาดู

    อย่างแรกท่านอาจารย์จี้กงบอกว่า เดิมวัดแก่งตอยเป็นสถานที่ซึ่งกษัตริย์ขอมโบราณ ใช้เป็นที่พักทัพระหว่างเดินทาง

    อย่างที่ 2 บอกว่าเคยมีเจดีย์สีทององค์หนึ่งกลางวัดแก่งตอย

    อย่างที่ 3 บอกว่าในอดีตที่นี่มีมโหรีเภรีกลอง

    ท่านอาจารย์เวท เจ้าอาวาสวัดแก่งตอย ในขณะนั้นรับว่าจริงทุกประการ โดยเฉพาะเรื่องเสียงกลองในวัดแก่งตอย คุณธำรงไม่น่าจะทราบว่ามี คนแก่ 80 - 90 ปีเท่านั้นจึงจะพอรู้เรื่องนี้

    เสียงกลองนี่จะดังระงมเป็นประเพณี ที่เกิดจากการแข่งตีกลอง คนอีสานเรียกว่า "เส็งกลอง" เพื่อถวายเทพเทวดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัด ที่เขาลือว่าชอบเสียงกลองเป็นพิเศษ แม้ว่าทุกวันนี้จะไม่มีเสงกลองแล้ว แต่คำเล่าขานยังพอมีให้ได้ยิน

    คุณธำรงคงไม่มีเวลาแอบมาสืบสาวราวเรื่องล่วงหน้าเป็นแน่แท้ เพราะว่าแม้ผมเอง หรือชาวบ้านละแวกวัดยังหาตัวผู้รู้ได้ยากมาก

    ระหว่างการเข้าทรงซึ่งใช้เวลานานชั่วโมงนั้น ท่านอาจารย์ได้ลุกออกไปนอกศาลาที่กำลังเข้าทรง เพื่อไปดูการก่อสร้างกุฏิถวายหลวงปู่คำพันธ์

    ลูกศิษย์ที่อยู่ตรงบริเวณก่อสร้างก็ปรารภว่า "ร่างทรงกินเหล้าไปด้วย มันยังไงอยู่นา ไม่รู้ว่าร่างทรงอยากจะกินเหล้าเอง หรือท่านอาจารย์จี้กงกินเองก็ไม่ทราบ"

    เมื่อท่านอาจารย์เวทกลับเข้ามาในศาลา คุณธำรงก็ถามท่านอาจารย์เวทเป็นบทกลอนทันที

    พระ จี้กงกินเหล้าผิดศีลไหม

    เวทย์ มนต์ไซร้ล้วนจากใจใช่อื่นหนอ

    จง มีธรรมเพียงคืบใจเท่านั้นพอ

    จำ ไว้เถิดรู้เล่นล้อกับโลกธรรม

    นับว่าแปลกมากที่ท่านทำเหมือนรู้ว่าใครจะแอบนินทาเป็นไม่ได้

    โปรดสังเกตุตรงบาทสี่ "จำไว้เถิดรู้เล่นล้อกับโลกธรรม" นับว่าลึกซึ้งมาก


    โลกธรรมทั้ง 8 ซึ่งก็คือ มีสรรเสริญ ย่อมมีนินทารวมอยู่ด้วย

    ต่อจากนั้นท่านก็เขียนกลอนให้ผมอีกเป็นครั้งที่ 2 กลอนนั้นมี 2 บทดังนี้

    อำ นวยชัยให้ประสบพบวิถี

    พล กำลังจงมากมีอย่าเฉไฉ

    ศิษย์ ตระหนักชัดแจ้งเห็นแทงใจ

    ข้า จี้กงบ้าใบ้ใช่แท้จริง

    เริง รื่นไปกับความไม่เที่ยง

    ร่า อารมณ์เป็นแต่เพียงเล่นสุงสิง

    ใน วิถีสู่ความเห็นแจ้งจริง

    ธรรม ทุกสิ่งไม่เที่ยงแท้แค่ผ่านเลย

    ถึงตรงนี้ผมเข้าใจในทันใดว่า ท่านอาจารย์จี้กงท่านรับผมเป็นศิษย์ หรือจะเห็นผมเป็นศิษย์อยู่แล้วนั่นเอง จึงเมตตากรุณาให้ข้อคิดทางธรรมไว้พอประมาณ

    จะว่าไปแล้วผมชักอยากแต่งกลอนซะแล้วซี

    มีครูเป็นอาจารย์กลอนขนาดนี้ใครบ้างจะไม่อยากหัด

    เมื่อจะทึกทักเอาตัวเองเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์จี้กง ก็จะต้องพูดถึงงานชิ้นหนึ่งที่ได้ทำเอาไว้นั่นคือ รูปเหมือนท่านอาจารย์จี้กง เนื้อผงลอยองค์ ขนาดแขวนสร้อยคอได้

    เรื่องของเรื่องนั้น เกิดจากคุณธำรงได้ว่าจ้างให้ผมทำขึ้นเป็นจำนวน 60 องค์ ด้วยผงสำคัญที่ได้รวบรวมมาทั่วโลก โดยเฉพาะผงธูปจากเมืองจีนในวัดของท่านอาจารย์จี้กงเอง

    ไหนๆก็ไหนๆจะขอโอกาสบันทึกเอาไว้เป็นพระอีกรุ่นที่หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ ได้อธิฐานจิตปลุกเสกไว้อีกรุ่น ที่ใช่แต่จะเป็นของน่าสนใจในหมู่ลูกศิษย์ผู้นิยมการสะสม ก็ยังเป็นของที่ทั้งคุณธำรงและผมภูมิใจอีกด้วย

    รูปท่านอาจารย์จี้กงนี้สร้างและเสกตั้งแต่ราวๆปี2540คงจะกลายเป็นของหายากไปแล้ว

    เมื่อได้พูดถึงรูปเหมือนท่านอาจารย์จี้กงแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองหมดภาระ โล่งใจเบาตัวบอกไม่ถก

    ตบท้ายด้วยบทกลอนอำลาของท่านอาจารย์จี้กงสักบท เผื่อเอาไว้คราวหน้า จะได้กลับมาคุยเรื่องของท่านกันอีก

    เต๋า คือทางย่ำย่างหว่างวิถี

    จี้ มนุษย์ให้ทำดีมีกุศล

    ไป สู่ทางสงบเย็นเห็นกมล

    แล้ว จะพ้นวงวัฏฏ์ไปไม่กลับมา



    ร่วมบุญ 1,000 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2016
  10. รักจันทร์

    รักจันทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +311

    จองครับ
     
  11. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รับทราบการจองรายการที่ 20 ครับ
     
  12. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ***ปิดรายการแล้วครับ***
    รายการที่ 21 "พระชัยตะละกุน" หลวงพ่ออุตตมะ


    [​IMG]

    [​IMG]

    พระชัยวัฒน์ "จักรพรรดิ" รุ่นนี้ สร้างหลังพระกริ่งจักรพรรดิ จึงมีส่วนผสมที่สำคัญคือ
    ช่อชนวนพระกริ่งจักรพรรดิ ซึ่งถือเป็นพระกริ่งรุ่นสำคัญที่ได้รวบรวมชนวนมวลสารและแผ่นยันต์ศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วน
    ทั้งยังเททองหล่อโดยหลวงพ่ออุตตมะอีกด้วย

    ที่พิเศษในพิธีนี้ หลวงพ่อท่านอธิษฐานจิตเจริญพุทธมนต์พอได้ 1ชม.เศษ จู่ๆ ท่านก็ได้สวดบท "อาการ32" เป็นกรณีพิเศษถึง 3รอบใหญ่ด้วยกัน


    ***ขอนำบทความเกี่ยวกับหลวงพ่ออุตตมะ ที่เขียนโดยคุณเนาว์สถิตย์ มาลงประกอบไว้ ณ ที่นี้ครับ***

    [​IMG]
    "หน่อพุทธวงศ์"ผู้เป็นพระมหาโพธิสัตว์อันประเสริฐที่จะได้ตรัสรู้พระปรมาภิเษกเป็นองค์สมเด็จพระสรรเพชญ์สัมมาสัมพุทธเจ้าแน่แท้มิแปรผัน ตามที่"หลวงพ่อพุธ ฐานิโย"มีความเคารพนับถืออย่างยิ่งในเบื้องหน้า แท้จริงแล้วก็คือ พระเดชพระคุณพระราชอุดมมงคล หรือ หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรีนั่นเอง..!!!!!!

    [​IMG]
    "ช่างเป็นบุญเหลือเกิน....ช่างเป็นบุญเหลือเกิน..."
    "หลวงพ่ออย่าทิ้งลูกหลานน๊ะ...หลวงพ่ออย่าทิ้งลูกหลานเน้อ...!?!?"
    หลวงพ่ออุตตมะ กับ หลวงปู่บุญมี โชติปาโล พระอริยเจ้าชั้นสูงแห่งวัดสระประสานสุข อุบลราชธานี
    ภาพชุดนี้ "พุทธวงศ์"เป็นผู้บันทึกไว้ด้วยตัวเองเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เมื่อครั้งตามหลวงพ่ออุตตมะไปพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระแก้วครั้งหนึ่ง


    [​IMG]
    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย พระอรหันตเจ้าผู้ยิ่งด้วยปัญญาแห่งวัดป่าสาลวัน นครราชสีมายังเคยกล่าวรับรองถึงพระผู้เที่ยงแท้ต่อพระโพธิญาณองค์นี้ไว้กับศิษย์หลวงปู่มา วัดสันติวิเวกอย่างน่าตื่นใจเป็นที่สุดว่า "ได้รับพยากรณ์แล้ว และเป็นหนึ่งในอนาคตวงศ์อีกด้วยน๊ะ..!!!???" ซึ่งความลับแห่งฟ้าดินอันสำคัญยิ่งนี้ "พระครูแสวง" ศิษย์เอกหลวงปู่มา วัดสันติวิเวก ร้อยเอ็ด ซึ่งเคยได้เรียนกรรมฐานเพิ่มเติมกับหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้ยินเรื่องนี้จากปากของหลวงพ่อพุธโดยตรงเลยทีเดียว....

    [​IMG]
    ”ทำเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้ามากกว่าในปัจจุบัน...”

    เรื่องที่เกี่ยวกับ”มโนปรารถนา”บนเส้นทางแห่ง”พุทธภูมิ” ของหลวงพ่ออุตตมะนั้น
    ท่านได้เคยบอก”เป็นนัย”ไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว (อยู่ที่ว่าใครจะ”ตีความ”ออกหรือไม่เท่านั้น)
    ตอนที่ท่านไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ถึงวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่
    ก่อนที่หลวงปู่แหวนจะ ”นิพพาน” ได้ไม่นาน ซึ่งหลวงปู่แหวนก็ได้ถามหลวงพ่ออุตตมะถึงการ”ปฏิบัติ”ว่าเป็นเช่นไร
    หลวงพ่ออุตตมะก็ได้แต่กราบเรียนหลวงปู่แหวนไปอย่าง”ตรงๆ” ว่า
    ”ปฏิบัติ”อัตหิต”น้อย ปรหิตมาก”
    แปลความแบบง่ายก็คือ ”ทำเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้ามากกว่าในปัจจุบัน...”
    หรือหากจะให้เข้าใจง่ายที่สุด ก็ต้องว่า ”ไม่ได้เอามรรคผลนิพพานส่วนตัวในชาตินี้หรอก
    แต่หวังไปสำเร็จพุทธภูมิเพื่อส่วนรวมในอนาคตมากกว่า” ก็ว่าได้นั่นแล

    ช่างสมกับที่ท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีฯ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
    ก็ยังเคยเดินทางไปเยี่ยมเยียนหลวงพ่ออุตตมะถึงวัดวังก์วิเวการาม
    เมื่อสามสิบกว่าปีก่อนพร้อมกับกล่าวสรรเสริญไว้อย่างสูงยิ่งครั้งหนึ่งเสียจริงๆที่ว่า
    หลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ มีบารมีมากล้น
    แม้ชาตินี้ หากท่านต้องการ.... ท่านก็สามารถถอยจิตมาเจริญกรรมฐาน
    สำเร็จพระอรหันต์ได้ในทันทีเลยทีเดียว.....”
    แต่......”หลวงพ่ออุตตมะท่านยังไม่เอาหรอกนะ...!?!!”


    และเมื่อเรื่องนี้ได้แพร่งพรายไปถึงหูเพื่อนธรรม บางคนอดรนทนเก็บความสงสัยไว้มิได้
    ถึงกับบุกไปถามหลวงพ่อท่านตรงๆเลยทีเดียวว่า ”หลวงพ่อปรารถนาพุทธภูมิหรือครับ...??”

    ”อือ..อือ..” หลวงพ่ออุตตมะตอบเรียบเฉยที่สุดเหมือนไม่อยากจะอวดอ้างใดๆ

    ”แล้วหลวงพ่อบำเพ็ญแนวไหน ปัญญา ,ศรัทธาหรือวิริยะขอรับ....”


    ”วิริยะ..วิริยะ....”
    หลวงพ่ออุตตมะ วิสัชนา

    หมายเหตุ, คงจะต้องขออธิบายความเพิ่มเติมสักเล็กน้อยว่า ในการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ เพื่อการได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระโพธิสัตว์แต่ละองค์จะต้องบำเพ็ญบารมี 30 ทัศ ใน 3 ระดับชั้น ตาม”จริต”และ”อุปนิสสัย”แห่งตนดังนี้คือ
    1. พระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งด้วยปัญญา(ความเฉลียวฉลาด) บำเพ็ญบารมีไวที่สุด ด้วยระยะเวลาเพียง 20 อสงไขย กำไรแสนมหากัป ก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(พระปัญญาธิกะพุทธเจ้า)ได้ อย่างเช่น พระสมณโคดมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันของเราพระองค์นี้เป็นต้น
    2.พระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งด้วยศรัทธา(ความเชื่อความเลื่อมใส) บำเพ็ญบารมีปานกลาง ใช้ระยะเวลารวม 40 อสงไขยกำไรแสนมหากัป ก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(พระสัทธาธิกะพุทธเจ้า)ได้ อาทิเช่น พระกกุสันธะพุทธเจ้า,พระโกนาคมพุทธเจ้า,พระกัสสปพุทธเจ้า เป็นต้น
    3.พระโพธิสัตว์ผู้ยิ่งด้วยความวิริยะ(ความพากเพียร) บำเพ็ญบารมีนานที่สุด มากที่สุด ถึง 80 อสงไขย แสนมหากัป จึงจะสามารถตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า(พระวิริยาธิกะพุทธเจ้า)ได้ มีพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้าในอนาคตกาลเป็นต้น

    [​IMG]
    ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่รู้แน่ได้อย่างหมดข้อสงสัยว่า หลวงพ่ออุตตมะนั้น
    ท่านก็บำเพ็ญ”โพธิสัตว์บารมี”ในระดับเดียวกับ”พระศรีอริยเมตไตรย”
    คือเป็นแบบ”วิริยาธิกะ” อันยิ่งด้วย”ความพากเพียร”นั่นเอง


    ช่างน่าอนุโมทนาสาธุการอย่างที่สุดโดยแท้แล้ว....และหนึ่งในคำถามยอดนิยมของวงการพุทธศาสนิกชน เกี่ยวกับผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิก็คือ
    "ได้รับพุทธพยากรณ์แล้วหรือยัง..??"

    ถ้าคำตอบมีว่า "ยัง" ก็เรียกได้ว่า "ยังไม่แน่นอน"
    อาจถอนความปรารถนา ถอยมาเป็น"สาวกภูมิ" เข้านิพพานเฉพาะตัวได้ทุกเมื่อ
    แต่ถ้าคำตอบมีว่า "ได้รับพุทธยากรณ์"แล้ว ก็มั่นใจได้เต็มร้อยว่า "ต้องได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแน่ๆ.."
    ไม่มีการถอนคืนหรือเปลี่ยนแปรเป็นอื่นได้อย่างเด็ดขาดและสิ้นเชิง
    เพราะคำพูดของพระพุทธเจ้า"เป็นหนึ่งไม่มีสอง"ดังนี้ฯ

    และสำหรับหลวงพ่ออุตตมะ จะเป็นพระโพธิสัตว์ระดับใดนั้น "การันตี"ที่ฟันธงไหน
    ก็ไม่เท่ากับที่หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน นครราชสีมาเคยตอบตรงแบบไม่มีอ้อมไว้ก่อนมรณภาพไม่นานว่า
    "หลวงพ่ออุตตมะนั้น ท่านได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว...!!!"
    และที่น่าตื่นใจที่สุดก็คือ
    "หลวงพ่ออุตตมะเป็นหนึ่งในสิบแห่งอนาคตวงศ์อีกด้วย..!!!!????!!!!"


    องค์นี้เนื้อปัญจโลหะ ผิวสวยๆ สว่างๆ เหลือบม่วงนิดๆ
    สวยๆแบบนี้หายากแล้วครับ
    ร่วมบุญ 2,100 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2016
  13. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ปิดรายการที่ 21แล้วครับ
     
  14. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    รายการที่ 18 พรุ่งนี้ผมโอนให้นะครับ พอดีไม่ได้เข้าหลายวัน เลยหากระทู้ไม่เจอครับผม ขอบคุณครับ
     
  15. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ไม่มีปัญหาครับ:cool:
     
  16. rang551

    rang551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    1,363
    ค่าพลัง:
    +3,131
    วันนี้โอนให้เรียบร้อยแล้วครับตามSMSที่แจ้งไปครับผม ที่อยู่ P.m.ครับ
     
  17. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ***ปิดรายการแล้วครับ***
    รายการที่ 22 "พระปิดตาสาริกาเนื้อผงยาจินดาวาสนา" หลวงพ่ออุตตมะ


    [​IMG]

    [​IMG]

    พระพิมพ์ขนาดเล็กประมาณปลายนิ้วก้อย ที่ อ.เบิ้ม (สุวัฒน์ พบร่มเย็น) สร้างถวายพระราชอุดมมงคล(หลวงปู่ อุตตมะ) วัดวังวิเวการาม เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๒ เพื่อแจกแก่ศิษยานุศิษย์ จำนวนสร้างประมาณ ๔๐๐ องค์

    มวลสารสำคัญที่นำมาเป็นส่วนผสมของพระปิดตาสาริกาพิมพ์นี้คือ เม็ดยาจินดาวาสนาของหลวงปู่บุญ และหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว, หลวงปู่ทองอยู่ วัดท่าเสา ผสมกับผงว่านมงคล ๑๐๘ และผงจักรพรรดิ ที่หลวงปู่อุตตมะ ได้อธิษฐานจิตให้อย่างยาวนานถึง ๑๒ ปี

    อีกหนึ่งวัตถุมงคลคุณภาพคับแก้วที่ขอแนะนำ ประเภท "ของจริงนิ่งเป็นใบ้" และ "สร้างให้ดีไม่ใช่สร้างให้ดัง"

    ร่วมบุญเบาๆ 500 บาท พร้อมส่งEMS
    มวลสารเยอะมากจะมีการระเบิดของเนื้อเป็นปรกตินะครับ
    ด้านหลังเป็นยันต์นะมอญ ขนาดจะเล็กประมาณ1x1ซม.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2016
  18. Livelight

    Livelight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +258
    จองรายการที่22ค่ะ
     
  19. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    รับทราบการจองครับ
     
  20. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    946
    ค่าพลัง:
    +6,245
    ***ปิดรายการให้คุณอั่งฮวย***
    รายการที่ 23 พระมหาฤษีแก้วสารพัดนึก เนื้อสัมฤทธิ์พิเศษ


    [​IMG][​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG][​IMG]

    ------------------------------------------------------

    ขอนำบทความ "มหาฤษีแก้วสารพัดนึก" โดย รณธรรม ธาราพันธุ์ มาให้ได้อ่านกันครับ

    [​IMG]
    พระราชสังวราภิมณฑ์ หรือ หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ แห่งวัดประดู่ฉิมพลี ฝั่งธนบุรี ถือได้ว่าท่านคือสุดยอดภิกษุดีในสยามประเทศอีกรูปหนึ่ง เป็นพระมหาเถระที่ครองหัวใจธรรมอันบริสุทธิ์ไว้เต็มดวง ไม่สงสัย

    ประวัติชีวิตแห่งท่านที่คนใฝ่ขลังศึกษาคือเรียนวิชากับยอดพระเถระผู้เรืองอาคมมากรายด้วยกัน ส่งผลให้หลวงปู่โต๊ะเป็นพระ ‘นักเสก’ เต็มภูมิ ทำอะไรก็ขึ้น ทำอะไรก็ขลัง ตะกรุด ผ้ายันต์ เบี้ยแก้ พระผง พระเหรียญ และจบที่...

    หลวงปู่โต๊ะเล่าว่า สมัยหนึ่งได้จาริกธุดงค์ไปกราบนมัสการพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ตามชื่อเสียงที่ระบือลั่นไปในหมู่นักปฏิบัติว่า ท่านพระอาจารย์มั่นคือที่สุดแล้วของนักปฏิบัติที่มุ่งต่อความหลุดพ้นโดยแท้จริง และลือต่ออีกว่า...ท่านครองความหลุดพ้นนั้นแล้วเต็มภูมิ

    [​IMG]
    หลวงปู่แลเห็นท่านพระอาจารย์มั่นนั่งคอยอยู่โดยอาการอันสงบแต่งามสง่า ดูน่าเกรงขามสมคำลือ เมื่อคลานเข่าเข้าไปใกล้เพื่อทำคารวะ ปรากฏจิตท่านสัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นที่โอภาสสว่างคลุมบริเวณนั้นไว้ทั้งหมดอย่างน่าอัศจรรย์ และรู้สึกถึงความอบอุ่นปลอดภัยทันทีที่อยู่ใกล้ท่าน หลวงปู่เปรียบให้ฟังว่าดุจเดินเข้าไปในร่มไม้ใหญ่ใบหนาในยามเที่ยงวัน

    โดยเหตุการณ์นี้และโดยเทศนาแห่งท่านพระอาจารย์ใหญ่ ส่งผลให้หลวงปู่โต๊ะประกอบความเพียร เพื่อบรรลุธรรมอันวิเศษเช่นองค์อาจารย์ ผมเชื่ออยู่ในใจว่าหลวงปู่โต๊ะได้สมปรารถนา ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของหลวงปู่... ภพใหม่ต่อไปอีกไม่มีแล้วสำหรับท่าน

    ก่อนหลวงปู่โต๊ะมรณภาพ มีชายหนุ่มหน้าตาหมดจดคอยตามรับใช้ใกล้ชิด ใช่เพียงอุปัฎฐากครูบาอาจารย์อย่างเดียว หากขอรับการถ่ายทอดวิทยาการด้านขลังสืบต่อจากหลวงปู่มากมายหลายหมวดวิชา แต่จบลงที่หลวงปู่สอนถึงการทำจิตอย่างเดียว จิตนี้เท่านั้นที่เป็นใหญ่ เป็นประธานสำเร็จได้ด้วยใจ ถ้าใจไม่ปรากฏสมาธิธรรม ท่องบ่นคาถาร้อยจบ พันจบ หมื่นจบ มันก็ไม่ขลัง ให้น่าเชื่อว่าหนุ่มคนนี้ ‘ผ่าน’ จริง หลวงปู่จึงมอบเหล็กจารคู่บารมีที่ท่านใช้มาตลอดชีวิตให้ถึง 2 ด้าม นับเป็นมรดกที่ใคร ๆ ก็ไม่อาจได้ถ้าไม่แน่จริง

    [​IMG]
    อาจารย์สุวัฒน์ พบร่มเย็น
    คือชื่อของหนุ่มน้อยคนนั้น ชายที่วันนี้ก้าวผ่านประสบการณ์อย่างคนวัดมาเต็มภาคภูมิ ผ่านวัยหนุ่มที่โลดโผนกับคาถาอาคมสรรพอักขระเลขยันต์ มาสู่ความเป็นอาจารย์ที่สงบและร่มเย็นสมนามสกุล ผองเราพอใจเรียกท่านว่า ‘อาจารย์เบิ้ม’ เห็นสนิทใจมากกว่า

    ถนนชีวิตของอาจารย์เบิ้มพบเจอเหตุการณ์ทั้งดีร้ายมามากโข ในทางโลกที่เป็นนักกีตาร์มือหนึ่งของผับใหญ่ และทางธรรมก็วางกีตาร์ มาจับย่ามหลวงปู่โต๊ะสะพายตามไปในทุกแห่งหนที่คนนิมนต์ไป ในทางโลกที่พบคนทั้งสกุลต่ำกระทั่งโจรและสูงโลดถึงท่านผู้มีเชื้อสาย และในทางธรรมที่พบเจอพระเกจิอาจารย์เจ้าทั้งบวชใหม่ และบวชเก่า ทั้งคราวลูกและคราวเพื่อนของหลวงปู่โต๊ะ หล่อหลอมให้มีอาจารย์เบิ้มในวันนี้

    อาจารย์เบิ้มไม่เคยอวดว่าเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่โต๊ะ แต่เราพอใจจะกล่าวเอง แม้ไม่ยกตนว่าเชี่ยวชาญในเรื่องเวทย์ แต่เราก็พบเอง พิสูจน์จากพุทธาภิเษกของหลวงพ่ออุตตมะทุกคราว ท่านผูกขาดอาจารย์เบิ้มเพียงผู้เดียว ทั้งคำนวณฤกษ์และบวงสรวงครูบาอาจารย์ ฤษี โยคี เทพ พรหม ทุกชั้นฟ้า ขาดอาจารย์เบิ้มไม่ได้เด็ดขาด คล้ายขาดอาจารย์แล้วจะเสกไม่ขลัง ถามหลวงพ่อ ท่านก็ตอบเรียบ ๆ

    “อาจารย์เบิ้มเชิญแล้วมาจริงๆ”

    [​IMG]
    คำประกาศของหลวงพ่ออุตตมะมหาเถระ วัย 93 ปี จะใช่คำยอหรือไม่ ผมไม่สน สนแต่เนื้อความที่พระระดับนี้ยังต้องชมเชย ฆราวาสผู้ไม่ห่มเหลือง แถมไม่ห่มขาวอีกต่างหาก
    ครั้นแซวอาจารย์เบิ้มหนักเข้า ท่านก็ตอบผมยิ้มๆ ว่า “ใจขาวก็พอ!!”

    [​IMG]
    ปี พ.ศ. 2534 เป็นปีที่หลวงปู่พรหมา เขมจาโร วัดสวนหินฯ ภูกระเจียว เริ่มอุ่นเครื่องเรื่องชื่อเสียง ข่าวขลังของท่านแพร่กระจายไปในหมู่ผู้นิยมพระ ดังไฟลามทุ่งบนวัดที่แสนกันดารปราศจากไฟฟ้า และน้ำประปา แทบไม่มีแม้ศาลาให้สานุศิษย์อาศัยนอนพักหลบแดดฝนใด ๆ เมื่อยามบากบั่นขึ้นไปหาท่านประสาศิษย์ที่ดีมีกตเวทิตา อาจารย์เบิ้มจึงคิดทำพระถวายหลวงปู่พรหมา เพื่อสร้างเสนาสนะอย่างเป็นทางการ

    อาศัยที่อยู่กับหลวงปู่โต๊ะมานาน และเรียนรู้วิทยาคุณกับท่านอาจารย์รอด สุขเจริญ ฆราวาสผู้ขลังสุดขีดในไสยเวทพุทธาคม ด้วยอาจารย์รอด เป็นศิษย์แท้ๆ ของพระครูวิมลคุณากร หรือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ทว่าท่านบวชอยู่กับหลวงปู่ศุขได้เพียง 30 พรรษา ก็จำต้องลาสิกขามาครองขาว หากยังเป็นพระอยู่คงไม่แคล้วดังสนั่น

    เมื่อมีครูดี การทำของก็ต้องทำให้ดี อาจารย์เบิ้มจึงเน้นเรื่องชนวนมวลสารมาก และไม่ต้องไปหาไกลเท่าใดนัก ค้น ๆ เอาในบ้านก็มากมาย เพราะเก็บสะสมไว้แต่หนุ่มแต่น้อย อาจารย์เคยบอกผมว่าไม่จดเรื่องชนวน เกรงคนจะหาว่าโม้ เชื่อก็เอา ไม่เชื่อก็อย่าเอาไป หากสุดท้ายอาจารย์ก็ใจอ่อน ยอมปรารภให้ฟังถึง ‘บางส่วน’ ของมวลสารดังนี้

    1. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ) วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี กรุงเทพฯ

    2. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระราชวุฒาจารย์ (หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์

    3. แผ่นเงินบริสุทธิ์ ลงพระยันต์โดยมือของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    และจะไม่กล่าวถึงแผ่นยันต์ต่าง ๆ มากมายหลายร้อยแผ่นที่พระเถรานุเถระในสายอีสานอันเป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์มั่นได้เมตตาลงให้ไว้แต่นานเน ทั้งยังพระยันต์เก่าเก็บจากพระคณาจารย์ทั่วประเทศอีกเป็นกุรุสโกดัง ถึงขนาดอาจารย์ออกปากว่า “เสร็จงานนี้บ้านโล่งไปเยอะ”

    ที่สำคัญยิ่งคือ แผ่นทองแดงลงอักขระยันต์ และคาถาต่างๆ นับพันบท ซึ่งจารโดยมือของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร อิสีขลังผู้ชาญพระเวทย์แห่งลุ่มน้ำโขง ได้ลงไว้มีจำนวนทั้งสิ้น 1 ปิ๊บเต็ม ๆ ทองแดงบางอย่างกระดาษวางลงในปีบจนเต็ม

    มันจะมีกี่แผ่น?

    หลวงปู่พรหมาเสกปี๊บยันต์บน ‘คาย’ ในถ้ำอยู่นานมาก แล้วมอบให้ประสมกับชนวนพระกริ่งปวเรศ (ปี 2530) ซึ่งในหลวงเสด็จพระราชดำเนินเททองโดยพระหัตถ์เอง สมเด็จพระญาณสังวรฯ เป็นประธานพิธี, ชนวนพระกริ่งหลายรุ่นของสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่มีจำนวนพอสมควร มิใช่นิดหน่อยแล้วเขียนเอา , ชนวนพระกริ่งนเรศวร วังจันทน์, ชนวนพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ จ.ระยอง, ชนวนพระกริ่งปรโม ของหลวงปู่เริ่ม ปรโม วัดจุกเฌอ จ.ชลบุรี ชนวนพระกริ่งอรหัง ของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่, ชนวนพระกริ่งพุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่ , ชนวนพระกริ่งรุ่นต่าง ๆ ของหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ, ชนวนพระพุทธรูปเททองโดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.เชียงราย, ชนวนพระพุทธรูปเททองโดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา

    เรื่องชนวนถ้าต้องเขียนจริง ๆ อาจต้อง 5 เล่มจบ จึงขอจบตรงนี้พอ

    นอกจากนี้ยังมีเหรียญหลวงปู่แหวน สุจิณโณ, เหรียญหลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ, เหรียญหลวงปู่สิม พุทธาจาโร, เหรียญหลวงปู่เกษม เขมโก, เหรียญหลวงพ่อแช่ม ฐานุสสโก แต่ละองค์นับร้อยเหรียญ ถ้ารวมพระคณาจารย์ต่าง ๆ ก็นับพันเหรียญ

    ยังปรากฏชนวนศักดิ์สิทธิ์อาถรรพณ์ต่าง ๆ ที่ไม่อาจเปิดเผยที่มาได้ อาทิ พระเกศ และนิ้วพระหัตถ์ชำรุดของพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งองค์หนึ่งในประเทศไทย ตะกรุดชินตะกั่วโบราณ อายุ 200 ปี ตะปูสังขวานร เหล็กยอดเจดีย์ เหล็กยอดปราสาท โลหะธาตุวิเศษนานาที่เป็นทนสิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ในตัวเองถูกเชิญมาสู่เบ้าหลอมสร้างเป็นพระทั้ง 3 พิมพ์

    ที่สำคัญสุดยอดคือ พระยันต์บังคับทั้ง 108 ดวงและนะปถมัง 14 นะ อันเป็นสูตรโบราณในการเทพระสำคัญ ถูกจารลงในแผ่นทองคำบริสุทธิ์แท้จนครบตำรา มีน้ำหนักทั้งสิ้นถึง 50 บาท

    อาจารย์เบิ้มได้นำพระทั้ง 3 พิมพ์ เข้าพุทธาภิเษกในวาระต่าง ๆ ไม่เคยหยุด ไม่ว่าจะเป็น
    วัดพระแก้วฯ, วัดสุทัศน์ฯ, วัดราชบพิตรฯ, วัดบวรนิเวศน์ฯ, วัดอินทารามฯ, เป็นต้น
    เฉพาะวัดที่กล่าวนามมาก็ไม่ต่ำกว่าวัดละ 5 พิธีเสก และพระทั้งหมดได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกมาทั่วประเทศ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 พิธี [/B]

    หากจะนับคณาจารย์ที่ปลุกเสกก็ไม่ต่ำกว่า 300 พระอาจารย์ และการนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว อาจารย์เบิ้มนำไปด้วยตนเอง จนคร้านจะไป เหตุที่พระนี้สร้างในปี พ.ศ. 2534 ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษยังปรากฏอยู่มากมาย การนำเสกจึงเป็นไปอย่างสนุกใจคนทำ
    หลวงปู่เกษม เขมโก, หลวงปู่แช่ม ฐานุสโก, หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ, หลวงปู่พรหมา เขมจาโร, หลวงปู่คำพัน โฆษะปัญโญ ดูจะเป็นองค์เสกชุดนี้อย่างบ่อยที่สุด เฉพาะวัดที่กล่าวนามมาก็ไม่ต่ำกว่าวัดละ 5 พิธีเสก และพระทั้งหมดได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกมาทั่วประเทศ นอกนั้นทั่วประเทศอาจารย์บอกผมอย่างเหนื่อยใจจะอธิบายว่า ในช่วงปี พ.ศ. 2534-2538 ชอบใจหลวงพ่ออะไร นับถือใครเอ่ยชื่อมาเลย...เอ่ยมาเถอะ... เสกแล้วทั้งนั้น![/COLOR][/B]

    ให้บอกว่าใครบ้างที่เสกมันเหนื่อย พูดชื่อออกมาแล้วให้บอกว่าองค์นี้ไม่ได้เสกมันง่ายกว่า อหังการดีไหม?

    ผมเชื่ออาจารย์เบิ้ม เพราะพระนี้เคยแสดงอภินิหารให้คนใกล้ตัวผมได้ประจักษ์มาแล้วมากราย ผมเองก็ทำตลับใส่ปู่ฤษีแก้วสารพัดนึก แขวนคออยู่เป็นประจำ ด้วยท่านเป็นพรหมาฤษีที่ทรงฤทธานุภาพสูงสุดในหมู่ฤษีทั้งปวง การครองผ้าขาวอย่างโยคีแสดงถึงพรตแห่งพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ ไม่อาจครองหนังเสือเยี่ยงฤษีทั่วไป และโดยบุญบารมีที่ไพศาล จึงปรากฏดวงแก้วสารพัดนึกเป็นของคู่บารมีเฉกเช่นหลวงปู่ทวด วัดช้างให้
    ------------------------------------------------------

    องค์นี้ได้รับจากมืออาจารย์เบิ้มครับ
    พิเศษ!! จะไม่มีการตอกโค๊ด(เหมือนชุดช่อนำฤกษ์) แต่ใต้ฐานปิดก้นด้วยฝาครอบของรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง ปี ๒๕๑๕ ซึ่งเหลือตกค้างอยู่ที่โรงงาน (แบบนี้อาจารย์เก็บไว้แจกลูกศิษย์ใกล้ชิดครับ)

    ร่วมบุญ 3,500 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2016
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...