พระยอดธงหลวงพ่อหวล วัดพุทธไทสวรรค์ จ.อยุธยา หลวงพ่อปลุกเสกเดี่ยว ปี พ.ศ.2557 บูชาองค์ละ 99 บาท

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ดาวดวง1, 27 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ลูกอมทั้งรักทั้งรบของท่านนั้นมีประสบการณ์ด้านเมตตาหาเสน่ห์ ไว้จะเอามาเล่าสู่กันอ่านนะคะ

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z9wNqHJscw8Jf8As" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e7d/M5um6l.jpg" /></a>
     
  2. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ก่อนครบบวชท่านได้บวชเป็นสามเณรอยู่ 2 ปี จนอายุ 20 ปีบริบูรณ์ โยมบิดา- มารดาทั้งสองได้นำสามเณรยิ้มไปบวชที่วัดทุ่งสมอ เขตบ้านทวน จ.กาญจนบุรี (ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ท่านเอง )ใน ปีพ.ศ.2408 โดยเจ้าอาวาสวัดทุ่งสมอเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า จันทโชติ บวชแล้วอยู่เรียนวิชาและรับใช้พระอุปัชฌาย์ อยู่2พรรษา จนสามารถสวดปาฎิโมกข์ได้ จึงถูกส่งไปศึกษาวิชาภาษาบาลีกับหลวงปู่พวง ซึ่งเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ของท่าน ที่สำนักวัดลิงขบ จังหวัดธนบุรี ศึกษาอยู่ได้ 1พรรษา จึงเดินทางกลับวัดทุ่งสมอ พระอุปัชฌาย์วัดทุ่งสมอจึงชี้แนะให้ไปศึกษาวิชาไสยเวทย์ต่อที่จังหวัดสมุทรสงคราม ดังนี้

    1 วิชาอาบน้ำมนต์แก้จน จากหลวงพ่อปลัดทิม วัดบางลี่น้อย
    2 วิชาทำธงกับอสุนิบาตสายฟ้าและพายุ จากหลวงปู่พ่วง วัดปากสมุทร
    3 วิชามหาอุด และลงผ้าเช็ดหน้าทางมหานิยม จากหลวงพ่อกลัด วัดบางพรหม
    4 วิชาแพทย์แผนโบราณ มีดหมอปราบภูตผีปีศาจ จากหลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่
     
  3. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    เมื่อหลวงปู่หนูเห็นหลวงปู่ชื้นมีความตั้งใจและมีพื้นฐานทางกรรมฐานและวิชาอาคมมาดีแล้ว จึงได้ตัดสินใจถ่ายทอดพุทธาคมสายหลวงปู่เฒ่ายิ้มให้ โดยหลวงปู่ชื้นท่านใช้เวลาเรียน โดยเดินทางไปๆมาๆอยุ่ถึง ๓ ปี สำเร็จแล้วจึงย้ายมาจำพรรษา ณ วัดป้อม จ.เพชรบุรี กับหลวงพ่อเสนาะ กมโล เจ้าอาวาสวัดป้อมและเป็นพระน้องชายของท่าน จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 24 ปีแล้ว
     
  4. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ช่วงที่ย้ายมาจำพรรษา ณ วัดป้อมนี้หลวงปู่ท่านได้สนิทสนมกับหลวงปู่อินเทวดา ซึ่งท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมากในการนั่งทางใน ดูดวง สักยันต์ และประสิทธิของอันเป็นมงคล โดยเฉพาะปลัดขิกของหลวงปู่อินนั้นเก่งมาก เรื่องค้าขายนี่สุดๆ หลวงปู่ชื้นท่านจึงขอเรียนกับหลวงปู่อินเทวดาเอาไว้ทั้งหมด หลวงปู่อินเทวดานี้เดิมอยู่วัดพลิบพลี เก่งมาก ดูทางในได้อย่างกับตาเห็น ขณะนั้นกำลังโด่งดังอยู่ทีเดียว เจ้าอาวาสวัดพลิบพลีที่ท่านอยู่ด้วยก็มรณภาพลง คณะสงฆ์จะตั้งท่านเป็นเจ้าอาวาสแทน แต่ท่านไม่อยากเป็น จึงสึกหนีมาเป็นฆราวาสขมังเวทย์ จนบั้นปลายชีวิตได้กลับมาบวชเป็นพระอีกครั้ง
     
  5. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    หลวงปู่ชื้นนี้ท่านเป็นคนที่รักและสนใจในพระเวทย์วิทยาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมฐาน วิชาอาคม สักเสกเลขยันต์ หรือ แม้กระทั่งยาแผนโบราณ ไม่ว่าท่านจะไปอยู่ที่ไหน คราวใดก็ตาม หากมีโอกาส ท่านมักจะเสาะหาวิชาใส่ตัวอยู่เสมอ และเมื่อเรียนแล้ว ท่านจะหมั่นฝึกปฏิบัติ จนเกิดความอัศจรรย์อยู่บ่อยครั้ง ทำให้สามารถนำมาช่วยเหลือตนเองและญาติโยมได้เป็นอย่างดี ดังหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวท่านและลูกศิษย์อีกหลายๆคน
     
  6. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่หลวงปู่ชื้นท่านสงเคราะห์ญาติโยม ทำให้ผู้ที่ทราบข่าวก็มักจะมาขอให้ท่านช่วยเป่าของให้บ้าง ทำน้ำมนต์ให้บ้าง ท่านมักจะบอกว่า ฉันไม่มีวิชาอะไร ที่แคล้วคลาดพ้นเคราะห์นั้นเป็นเพราะบารมีของพระพุทธองค์ท่านช่วยไว้ แม้ท่านจะกล่าวเช่นนั้นแต่ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดท่านนั่นล่ะเห็นกันโดยถ้วนหน้าว่าท่านศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน การันตีด้วยเหตุการณ์นี้ คือชาวบ้านละแวกวัดคนหนึ่ง ประกอบอาชีพทำสวนตาล คุณลุงคนนี้เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ชื้น ด้วยความคุ้นเคยกัน ทำให้คุณลุงทราบดีว่าหลวงปู่มีวิชาอะไรบ้าง แกมีอาชีพเกษตรกรรมต้องเดินไปมาอยู่ในสวนเลยกลัวงูกัด จึงขอให้หลวงปู่ชื้นเขียนคาถากันงูให้ หลวงปู่ท่านก็ทำให้โดยเขียนคาถาลงบนหน้าผาก พร้อมกับบริกรรมคาถา และอธิษฐานจิต เสร็จแล้วเป่าพ่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า ลุงบอกว่าขนลุกตั้งชันไปทั้งตัว ตัวร้อนๆรุมๆเหมือนจะเป็นไข้ เสร็จแล้วท่านก็ให้คาถาบทหนึ่ง ท่านบอกว่าบทนี้ดี คือ“ปะถะมังพันธุ กังชาตัง ทุติยังทัณฑะ เมวะจะตะติยังเภทะกัญเจวะ จะตุตถังอังกุ สัมภะวังปัญจะมังสิระสังชาตัง นะงู นะกาโร โหติสัมภะโว” โดยให้บริกรรมก่อนเข้าสวนเข้านาจะปลอดภัยจากสัตว์มีพิษทุกประการ และทุกวันก่อนจะเข้าสวน ลุงแกก็ท่องคาถาตามที่หลวงปู่ชื้นสอนเสมอ วันหนึ่งเหมือนจะเป็นการทดสอบคาถาหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ลุงแกเดินไปเหยียบเอางูกะปะที่ขดอยู่บนกอหญ้าแห้ง
    มันพันขาแกอย่างเร็ว ตั้งท่าจะกัด แต่กลับอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น ลุงแกก็มองตาค้างอยู่อย่างนั้นเช่นกัน จนได้สติแกจึงภาวนาคาถาที่หลวงปู่สอนพร้อมกับแผ่เมตตาให้ ปรากฎว่าปากงูกะปะหุบลง แล้วเลื้อยออกจากขาลุงไป ตอนนั้นลุงแกบอกว่าทั้งตกใจและประหลาดใจไปพร้อมๆกัน แต่ที่ทึ่งมากไปกว่านั้นก็คือ คาถากันงูของหลวงปู่ใช้กันงูได้จริงๆ! เพรางูได้แต่อ้าปากค้าง แต่กัดไม่ได้!!!
     
  7. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    หลวงปู่ยิ้ม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    เรื่องราวเหล่านี้แม้จะพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แต่ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา เรื่องของพระคาถาป้องกันงู กันสัตว์มีพิษนั้นมีมาตั้งแต่สมัยที่พระพุทธองค์ ทรงประทับอยู่ใน เชตะวันมหาวิหาร อารามของท่าน อนาถบิณฑิกะ ซึ่งได้กล่าวถึงความเป็นมาของ ขันธปริตร (พระปริตรป้องกันพญางู)ว่า มีพระภิกษุรูปหนึ่งกำลังผ่าฟืนอยู่ใกล้ประตูเรือนไฟบริเวณพระอาราม ขณะนั้นมีงูเลื้อยออกมาจากต้นไม้ผุ ฉกกัดพระภิกษุที่นิ้วเท้า พระภิกษุนั้นทนพิษไม่ได้ก็มรณภาพ ทำให้ข่าวเรื่องงูกัดพระภิกษุตายนี้แพร่ไปทั่วพระอาราม พวกพระภิกษุก็ตั้งเรื่องขึ้นสนทนากันในที่ประชุมสนทนาธรรม เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบ จึงได้ตรัสเกี่ยวกับเรื่อง ขันธปริตร พระพุทธองค์ได้ตรัสเล่าเรื่องราว เมื่อครั้งพระองค์เสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์ดาบสหัวหน้าของเหล่าฤาษีทั้งหลาย ตั้งอาศรมอยู่ตรงคุ้งแม่น้ำคงคาในบริเวณป่าหิมพานต์ เคยสอนให้พวกฤาษีผู้เป็นศิษย์แผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางูทั้ง ๔ ตระกูล เมื่อบรรดาฤาษีผู้เป็นศิษย์แผ่เมตตาจิตและระลึกถึงพระพุทธเจ้าตามคำสอนของพระโพธิสัตว์ในครั้งนั้น บรรดางูและสัตว์มีพิษทั้งหลายก็พากันหลบหลีกไปหมด ไม่มาทำร้าย ตระกูลพญางูทั้ง ๔ นั้นคือ ๑.ตระกูลพญางูชื่อวิรูปักข์ ๒.ตระกูลพญางูชื่อเอราบถ ๓.ตระกูลพญางูชื่อฉัพยาบุตร ๔.ตระกูลพญางูชื่อกัณหาโคตมะ และในคัมภีร์อรรถกถานั้น กล่าวไว้ว่า พวกสัตว์มีพิษทั้งหมดเป็นสัตว์อยู่ภายใน(อำนาจ)ตระกูลพญางูทั้ง ๔ นี้ เมื่อแผ่เมตตาจิตไปถึงตระกูลพญางูทั้ง ๔ แล้วก็เป็นอันรวมไปถึงทั่วกันหมด...
     
  9. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    นอกจากคาถากันงูอันศักดิ์สิทธิ์นี้แล้ว หลวงปู่ชื้นท่านยังเรียนวิชาคาถาอาคมกับโยมลุงของท่าน ซึ่งโยมลุงเป็นศิษย์ของหลวงพ่อปลอด วัดในปากทะเล คาถาอาคมใดที่หลวงพ่อปลอดถ่ายทอดให้โยมลุงก็ตกทอดมาสู่หลวงปู่ชื้นทั้งสิ้น ทั้งคาถาพระเจ้า ๑๖ พระองค์แบบพิศดารและตำรับการสร้างลูกอมเครื่องรางที่สร้างชื่อให้กับหลวงพ่อปลอด จนเป็นที่จดจำมาจนทุกวันนี้ ซึ่งลูกอมหลวงพ่อปลอดแท้ๆนั้น ขณะนี้เช่าหากันในราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียว หลวงพ่อปลอดท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เจ้าของพระปิดตาราคาสูงลิบ ลูกอมของหลวงพ่อปลอดก็เช่นกันเป็นสุดยอดวัตถุมงคลเนื้อผงพุทธคุณ สร้างตามวิชาของหลวงพ่อแก้ว พุทธคุณโดดเด่นด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์
    ถึงแม้จะปลุกเสกไปในทางเมตตาแต่ก็มีประสบการณ์เล่าขานกันมาว่าใช้ในทางแคล้วคลาด คงกระพันได้ด้วย และหากเก็บไว้บูชาที่บ้านจะช่วยป้องกันไฟไหม้ ป้องกันโจรผู้ร้ายได้อีก ถือว่าเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณรอบด้านจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2016
  10. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    กลับมาที่เรื่องราวของหลวงปู่ชื้น ท่านได้ร่ำเรียนวิชาการทำลูกอมและฝึกฝนจนสามารถทำได้ตามตำรับหลวงพ่อปลอดแล้ว หลวงปู่ชื้นท่านก็เริ่มนำผงว่านที่มีพุทธคุณทางเมตตามาผสมรวมกันจากนั้นปั้นเป็นแท่งๆไว้สำหรับลบผง ท่านทำเก็บไว้ทุกวันๆเป็นระยะเวลานานหลายปี จนกระทั่งมีจำนวนมากพอที่จะนำมาทำลูกอมได้ ลูกอมที่ท่านทำขึ้นเมื่อหลายปีก่อนนั้น จัดสร้างถูกต้องตามตำราของหลวงพ่อปลอดที่โยมลุงถ่ายทอดให้ทั้งหมด การปลุกเสกท่านเน้นทางเมตตามหานิยมและมหาเสน่ห์ พกพาติดตัวจะเป็นเสน่ห์แก่ตัวเอง ใครพบปะสนทนาด้วยก็รักใคร่เอ็นดู เจรจาค้าขายสัมฤทธิ์ผลทุกประการ หรือหากบูชาไว้กับร้านค้า จะทำให้กิจการรุ่งเรือง ค้าขายร่ำรวย มีโชคลาภไม่ขัดสน เรียกว่าพุทธคุณเยี่ยมไม่ต่างจากของหลวงพ่อปลอดและหลวงพ่อแก้วเลยทีเดียว ส่วนในด้านประสบการณ์ของผู้ใช้ลูกอมนั้นไม่เพียงแต่เกิดขึ้นเฉพาะทางเมตตาเท่านั้น ยังใช้ทางแคล้วคลาดคงกระพันได้ด้วย ซึ่งแรกๆลูกศิษย์ก็งง เพราะท่านบอกว่า เอาทางเมตตาก็พอละ...แสดงให้เห็นว่าจิตของท่านในการอัดพลังปลุกเสกนั้นนิ่งจริง พลังแทรกเข้าไปหมด!
     
  11. chukit1967

    chukit1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +218
    ลูกอมหลวงปู่ชื้นกันงูได้มั้ยครับ บูชาลูกกี่บาทครับ
     
  12. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ลูกอมลูกละ 200 บาทคะ ต้องเสือโดดคะ
     
  13. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    เมื่อไม่นานนี้ผู้เขียนเดินทางไปทำธุระที่ประจวบฯ ขากลับจึงมีโอกาสได้เข้าไปกราบหลวงปู่ ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่ได้สนทนากับเด็กหนุ่มคนหนึ่งอยู่ คุยกันไปคุยกันมาก็ทราบว่าเด็กคนนี้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ ชื่อเล่นว่า แบงค์ ชื่อจริงบดินทร์ ยังเป็นนักศึกษาอยู่ ครั้นสนทนาไปได้สักพักก็พากันลากลับเพื่อให้หลวงปู่พักผ่อน ออกจากกุฏิหลวงปู่มาก็ยังคุยกับเด็กหนุ่มคนนั้นไปเรื่อย จนกระทั่งเขาบอกว่า พี่ มีลูกอมของหลวงปู่ไหม ถ้ายังไม่มีรีบหาเลยนะพี่ ผมเจอมาแล้ว ทีนี้ก็ขอให้เขาเล่าให้ฟัง พอจะสรุปเรื่องราวได้ว่า...
     
  14. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ชื่อเล่นว่า แบงค์ ชื่อจริงบดินทร์ ยังเป็นนักศึกษาอยู่ ครั้นสนทนาไปได้สักพักก็พากันลากลับเพื่อให้หลวงปู่พักผ่อน ออกจากกุฏิหลวงปู่มาก็ยังคุยกับเด็กหนุ่มคนนั้นไปเรื่อย จนกระทั่งเขาบอกว่า พี่ มีลูกอมของหลวงปู่ไหม ถ้ายังไม่มีรีบหาเลยนะพี่ ผมเจอมาแล้ว ทีนี้ก็ขอให้เขาเล่าให้ฟัง พอจะสรุปเรื่องราวได้ว่า เขามีแฟนเรียนอยู่ที่เดียวกัน ตอนจีบกันใหม่ๆเขาก็ดูแลเอาใจใส่แฟนเป็นอย่างดี แต่หลังจากคบกันไปพักหนึ่งก็เริ่มเอาแต่ใจตัวเองตลอด ติดเพื่อน จากที่เคยโทรหา ๓ เวลาหลังอาหาร ก็โทรน้อยลง จากที่เคยไปมาหาสู่ ก็เริ่มห่างหายไม่รับโทรศัพท์บ้าง เวลาทะเลาะกันก็ปิดเครื่องหนีไปเลย บางครั้งหงุดหงิดมากๆก็พาลบอกเลิกเธอไปก็หลายครั้ง เพราะคิดว่าอย่างไรเธอก็เลิกกับเขาไม่ได้แน่ และแฟนก็จะเป็นฝ่ายง้อทุกครั้งจนเสียนิสัย วันหยุดวันหนึ่งแฟนชวนไปเยี่ยมแม่ที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล แต่เขาไม่ไปด้วยเพราะนัดกับเพื่อนไว้ก่อนแล้ว แฟนก็ไม่ได้ตื๊อและไม่ได้มีท่าทีน้อยใจอะไรทั้งสิ้น กลับไปเยี่ยมแม่เพียงลำพัง ตัวเขาก็ไม่คิดอะไร หลังจากนั้นไม่นานเขาเริ่มสังเกตว่าแฟนเริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยโทรหาตลอด ก็ไม่ค่อยโทร เคยส่งข้อความก็ไม่ส่ง ตอนอยู่ด้วยกันก็จะแชทในโทรศัพท์มือถือตลอด เขาก็ประชดแฟนด้วยการขึ้นสถานะเฟสบุ๊คว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ เราห่างกันสักพักไหม” เพื่อลองดูว่าแฟนจะมาง้อหรือไม่ ปรากฎว่าแฟนก็โทรหา แต่ไม่ได้โทรมาง้อ กลับโทรมาบอกว่าถ้าจะห่างกันก็เลิกกันเลยดีกว่า เพราะเก็บความรู้สึกแย่ๆมานานมากแล้ว สะสมมาจนเกินจะทน คำพูดของเธอพรั่งพรูออกมาจนหมด และยื่นคำขาดว่าเลิก! เขาถึงกับเข่าอ่อน เพราะไม่เคยคิดว่าจะเลิกกับแฟนเลยจริงๆ หลังจากเลิกกันไปก็กลับมาทบทวนตัวเอง พบว่าตัวเขาเองทำเกินไปหลายอย่างจริงๆ คิดโทษตัวเองต่างๆนานา จนต้องสวดมนต์ทุกคืนเพื่อให้เลิกฟุ้งซ่าน เวลาผ่านไปไม่นานเขาทราบข่าวจากเพื่อนที่มหาวิทยาลัยว่าแฟนของเขามีคนใหม่แล้ว หน้าที่การงานดีกว่านักศึกษาอย่างเขา เขาบอกว่าลึกๆแล้วในใจก็หมดหวัง แต่ก็จะลองสู้ดูอีกครั้ง เขานำเรื่องนี้ไปปรึกษาญาติผู้พี่ ซึ่งค่อนข้างจะรอบรู้ พี่ชายได้ฟังเรื่องราวก็ให้ลูกอมของหลวงปู่ชื้นที่บูชาไว้หลายลูก พร้อมบอกว่า พี่พกติดตัวไว้ตลอด เคยเห็นพี่ห่างสาวๆไหมล่ะ... แล้วบอกวิธีการอธิษฐานจิต ให้ขอในสิ่งที่อยากให้เป็นไป หลังจากกลับไปนายแบงค์ก็จัดการนำดอกไม้ธูปเทียนใส่พาน แล้วอาราธนาลูกอมของหลวงปู่วางไว้บนพาน ยกพานขึ้นจรดหน้าผากพร้อมกับกล่าวว่า “ถ้าแฟนเก่าผมยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนและเรายังมีบุญร่วมกันอยู่ก็ขอให้กลับมาคบ มารักกันเหมือนเดิม กลับมาสร้างความดีด้วยกัน ถ้ามารักกันอีกครั้งผมจะชวนกันมาถือศีลกินเจถวายหลวงปู่” เขากล่าวขอพรเช่นนี้อยู่เรื่อย ปรา กฎว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา เขาไปเดินตลาดคลองถมกับเพื่อน ได้เจอแฟนเก่าที่เลิกกันไปโดยบังเอิญ คือแฟนเก่ามาเดินกับเพื่อน แต่เพื่อนที่มาด้วยถูกแฟนของเธอโทรตามให้กลับ จึงต้องหาทางกลับบ้านเอง นายแบงค์จึงอาสามาส่งที่บ้าน ระหว่างทางก็มีการพูดคุยกัน ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วต่างคนต่างก็อยากกลับมาหากัน แต่ไม่กล้าโทรหา แล้วก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน จนไปสะดุดตรงที่แฟนเล่าว่าก่อนหน้านี้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง เธอฝันว่ามีคนมาชวนกินเจ ชวนเข้าวัด ซึ่งในฝันเธอแต่งชุดขาวเหมือนคนถือศีลเลย พอตื่นมาก็อยากไปทำบุญ อยากกราบพระ ซึ่งแปลกมากเพราะปกติเธอจะไม่ค่อยเข้าวัดเข้าวาเท่าไร นายแบงค์ได้ยินดังนั้นก็ขนลุกทันที!!! เพราะเป็นคำที่เขาอธิษฐานกับหลวงปู่ไว้ว่า ถ้าแฟนกลับมาจะชวนกันมาถือศีลกินเจ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้บอกแฟน จนทั้งสองกลับมาคบกันอีกครั้ง นายแบงค์ก็ปฏิบัติตามที่อธิษฐานไว้ เมื่อมีเวลาว่างก็พากันไปกราบหลวงปู่ ตอนไปกราบครั้งแรกหลังจากที่กลับมาคบกันนั้น นายแบงค์เล่าว่า ผมสัมผัสได้ว่าหลวงปู่มองผมกับแฟนแล้วยิ้มแบบ
    มีเลศนัย เหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง
    ผมว่าท่านรู้ เขายืนยันอย่างมั่นใจ...บรรดา
    ลูกศิษย์จึงขนานนามลูกอมของหลวงปู่ชื้นว่า
    “ลูกอมทั้งรักทั้งรบ”
     
  15. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ชื่อเล่นว่า แบงค์ ชื่อจริงบดินทร์ ยังเป็นนักศึกษาอยู่ ครั้นสนทนาไปได้สักพักก็พากันลากลับเพื่อให้หลวงปู่พักผ่อน ออกจากกุฏิหลวงปู่มาก็ยังคุยกับเด็กหนุ่มคนนั้นไปเรื่อย จนกระทั่งเขาบอกว่า พี่ มีลูกอมของหลวงปู่ไหม ถ้ายังไม่มีรีบหาเลยนะพี่ ผมเจอมาแล้ว ทีนี้ก็ขอให้เขาเล่าให้ฟัง พอจะสรุปเรื่องราวได้ว่า เขามีแฟนเรียนอยู่ที่เดียวกัน ตอนจีบกันใหม่ๆเขาก็ดูแลเอาใจใส่แฟนเป็นอย่างดี แต่หลังจากคบกันไปพักหนึ่งก็เริ่มเอาแต่ใจตัวเองตลอด ติดเพื่อน จากที่เคยโทรหา ๓ เวลาหลังอาหาร ก็โทรน้อยลง จากที่เคยไปมาหาสู่ ก็เริ่มห่างหายไม่รับโทรศัพท์บ้าง เวลาทะเลาะกันก็ปิดเครื่องหนีไปเลย บางครั้งหงุดหงิดมากๆก็พาลบอกเลิกเธอไปก็หลายครั้ง เพราะคิดว่าอย่างไรเธอก็เลิกกับเขาไม่ได้แน่ และแฟนก็จะเป็นฝ่ายง้อทุกครั้งจนเสียนิสัย วันหยุดวันหนึ่งแฟนชวนไปเยี่ยมแม่ที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล แต่เขาไม่ไปด้วยเพราะนัดกับเพื่อนไว้ก่อนแล้ว แฟนก็ไม่ได้ตื๊อและไม่ได้มีท่าทีน้อยใจอะไรทั้งสิ้น กลับไปเยี่ยมแม่เพียงลำพัง ตัวเขาก็ไม่คิดอะไร หลังจากนั้นไม่นานเขาเริ่มสังเกตว่าแฟนเริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยโทรหาตลอด ก็ไม่ค่อยโทร เคยส่งข้อความก็ไม่ส่ง ตอนอยู่ด้วยกันก็จะแชทในโทรศัพท์มือถือตลอด เขาก็ประชดแฟนด้วยการขึ้นสถานะเฟสบุ๊คว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ เราห่างกันสักพักไหม” เพื่อลองดูว่าแฟนจะมาง้อหรือไม่ ปรากฎว่าแฟนก็โทรหา แต่ไม่ได้โทรมาง้อ กลับโทรมาบอกว่าถ้าจะห่างกันก็เลิกกันเลยดีกว่า เพราะเก็บความรู้สึกแย่ๆมานานมากแล้ว สะสมมาจนเกินจะทน คำพูดของเธอพรั่งพรูออกมาจนหมด และยื่นคำขาดว่าเลิก! เขาถึงกับเข่าอ่อน เพราะไม่เคยคิดว่าจะเลิกกับแฟนเลยจริงๆ หลังจากเลิกกันไปก็กลับมาทบทวนตัวเอง พบว่าตัวเขาเองทำเกินไปหลายอย่างจริงๆ คิดโทษตัวเองต่างๆนานา จนต้องสวดมนต์ทุกคืนเพื่อให้เลิกฟุ้งซ่าน เวลาผ่านไปไม่นานเขาทราบข่าวจากเพื่อนที่มหาวิทยาลัยว่าแฟนของเขามีคนใหม่แล้ว หน้าที่การงานดีกว่านักศึกษาอย่างเขา เขาบอกว่าลึกๆแล้วในใจก็หมดหวัง แต่ก็จะลองสู้ดูอีกครั้ง เขานำเรื่องนี้ไปปรึกษาญาติผู้พี่ ซึ่งค่อนข้างจะรอบรู้ พี่ชายได้ฟังเรื่องราวก็ให้ลูกอมของหลวงปู่ชื้นที่บูชาไว้หลายลูก พร้อมบอกว่า พี่พกติดตัวไว้ตลอด เคยเห็นพี่ห่างสาวๆไหมล่ะ... แล้วบอกวิธีการอธิษฐานจิต ให้ขอในสิ่งที่อยากให้เป็นไป หลังจากกลับไปนายแบงค์ก็จัดการนำดอกไม้ธูปเทียนใส่พาน แล้วอาราธนาลูกอมของหลวงปู่วางไว้บนพาน ยกพานขึ้นจรดหน้าผากพร้อมกับกล่าวว่า “ถ้าแฟนเก่าผมยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนและเรายังมีบุญร่วมกันอยู่ก็ขอให้กลับมาคบ มารักกันเหมือนเดิม กลับมาสร้างความดีด้วยกัน ถ้ามารักกันอีกครั้งผมจะชวนกันมาถือศีลกินเจถวายหลวงปู่” เขากล่าวขอพรเช่นนี้อยู่เรื่อย ปรา กฎว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา เขาไปเดินตลาดคลองถมกับเพื่อน ได้เจอแฟนเก่าที่เลิกกันไปโดยบังเอิญ คือแฟนเก่ามาเดินกับเพื่อน แต่เพื่อนที่มาด้วยถูกแฟนของเธอโทรตามให้กลับ จึงต้องหาทางกลับบ้านเอง นายแบงค์จึงอาสามาส่งที่บ้าน ระหว่างทางก็มีการพูดคุยกัน ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วต่างคนต่างก็อยากกลับมาหากัน แต่ไม่กล้าโทรหา แล้วก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกัน จนไปสะดุดตรงที่แฟนเล่าว่าก่อนหน้านี้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง เธอฝันว่ามีคนมาชวนกินเจ ชวนเข้าวัด ซึ่งในฝันเธอแต่งชุดขาวเหมือนคนถือศีลเลย พอตื่นมาก็อยากไปทำบุญ อยากกราบพระ ซึ่งแปลกมากเพราะปกติเธอจะไม่ค่อยเข้าวัดเข้าวาเท่าไร นายแบงค์ได้ยินดังนั้นก็ขนลุกทันที!!! เพราะเป็นคำที่เขาอธิษฐานกับหลวงปู่ไว้ว่า ถ้าแฟนกลับมาจะชวนกันมาถือศีลกินเจ แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้บอกแฟน จนทั้งสองกลับมาคบกันอีกครั้ง นายแบงค์ก็ปฏิบัติตามที่อธิษฐานไว้ เมื่อมีเวลาว่างก็พากันไปกราบหลวงปู่ ตอนไปกราบครั้งแรกหลังจากที่กลับมาคบกันนั้น นายแบงค์เล่าว่า ผมสัมผัสได้ว่าหลวงปู่มองผมกับแฟนแล้วยิ้มแบบ
    มีเลศนัย เหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง
    ผมว่าท่านรู้ เขายืนยันอย่างมั่นใจ...บรรดา
    ลูกศิษย์จึงขนานนามลูกอมของหลวงปู่ชื้นว่า
    “ลูกอมทั้งรักทั้งรบ”
     
  16. pom1967

    pom1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +317
    เสือกระโดดองค์กี่บาทครับ
     
  17. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    แจ้งทาง pm นะคะ
     
  18. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ที่สุดแห่งวิชามหากระดอน...หนึ่งเดียวที่ได้วิชาเต็มโดยไม่มีการบัง
    เพราะเป็นลูกบุญธรรมที่หลวงปู่เกตุ วัดศรีเมือง เลี้ยงมากับมือ
    หลวงปู่ดำ กตนาโถ วัดหนองแฝก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2016
  19. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    ถ้าหากเราย้อนกลับไปอ่านประวัติของหลวงปู่เกตุ จะพบว่าเรื่องราวของท่านได้ถูกถ่ายทอดออกมามากมายจากหลวงปู่รูปหนึ่งซึ่งคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันน้อยคนนักที่จะรู้ว่าท่านเป็นบุตรบุญธรรมของหลวงปู่เกตุ เพราะ หลวงปู่รูปนี้ท่านปลีกตัวมาอยู่วัดหนองแฝก อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก อย่างเงียบๆโดยไม่มีใครรู้นานแล้ว แถมวันๆท่านเอาแต่นั่งวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ข้างเมรุในป่าช้าของวัดเพียงรูปเดียวอยู่ตลอด ไม่อยากโด่งดังอะไร จึงมีน้อยคนนักที่จะรู้เรื่องราวของท่าน นี่ถ้าอาจารย์ก้อม แตงโม อดีตพระผู้ช่วยในการสักยันต์ของหลวงปู่เกตุไม่บอกให้ ผู้เขียนก็คงไม่สามารถรู้เรื่องราวและตามหาหลวงปู่รูปนี้ได้เหมือนกัน หลวงปู่รูปนี้ท่านมีชื่อเต็มๆว่าดำรง แต่บรรดาลูกศิษย์มักจะเรียกท่านว่า “ หลวงปู่ดำ มหากระดอน ” เหตุที่เรียกท่านกันเช่นนั้นก็เพราะว่าท่านคือหนึ่งเดียวที่ได้วิชามหากระดอนจากหลวงปู่เกตุครบถ้วนมากกว่าใคร โดยไม่มีการปิดบัง และการทำปลัดขิกหรือตะกรุดมหากระดอนของท่านนั้น มีประสบการณ์และอานุภาพสูงสุด เพราะท่านเป็นเพียงลูกรักผู้เดียวที่จะอัญเชิญหลวงปู่เกตุลงประสิทธิวัตถุมงคลได้ และในบางครั้ง บางคราว ท่านยังนำตะกรุดมหากระดอนดอกครูของหลวงปู่เกตุที่มีประสบการณ์ปืน ๗ กระบอกยิงไม่ออก ซึ่งปัจจุบันตะกรุดดอกครูนี้อยู่กับคุณเอิบ มีเงิน ( บุตรบุญธรรมของหลวงปู่ดำ ) มาเป็นประธานแผ่อานุภาพสู่วัตถุมงคลที่ท่านสร้างอีกด้วย
     
  20. ดาวดวง1

    ดาวดวง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    958
    ค่าพลัง:
    +716
    หลวงปู่ดำ กตนาโถ ปัจจุบันอายุ ๗๙ ปี เป็นชาวจังหวัดสุโขทัย เกิดวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ปีชวด ที่ เดิมชื่อจำนง ลิ้มรส เป็นบุตรโยมพ่อ สว่าง ลิ้มรส และโยมแม่ ทองมี ลิ้มรส มีพี่น้องทั้งหมด ๖ คน เมื่ออายุประมาณ .....ปี โยมพ่อและโยมแม่ได้พาไปยกตัวให้เป็นลูกบุญธรรมของหลวงปู่เกตุ ขณะที่หลวงปู่เกตุท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดเกตุวนาราม ต.กกแรด อ.กงไกรลาส จ.สุโขทัย เมื่อหลวงปู่เกตุรับท่านเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว ก็ดูแลอบรมสั่งสอนตั้งแต่หัดเรียนเขียนอ่านภาษาไทยภาษาขอม และเรียนรู้วิชาต่างๆ ดังพ่อสอนลูกทุกประการ และไม่ว่าหลวงปู่เกตุ ท่านจะไปยังแห่งหนตำบลใด ท่านก็ต้องนำเด็กชายดำเป็นผู้สะพายย่ามติดตัวท่านไปด้วยตลอด ทำให้เด็กชายดำได้รู้ได้เห็น ได้ยินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธาคมมากมาย อาทิ มีอยู่ครั้งหนึ่งก่อนที่หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์จะมรณภาพ หลวงปู่เกตุท่านจะไปต่อวิชาบางอย่างกับหลวงพ่อเดิม ก็ได้พาเด็กชายดำไปด้วย โดยหลวงปู่เกตุถามกับเด็กชายดำว่าจะพาไปดูช้างห้างด้วนเอาไหม? เด็กชายดำฟังแล้วก็อยากเห็น เลยตอบหลวงปู่ว่าไป “อยากไปครับ” หลวงปู่เกตุท่านก็เลยพาเด็กชายดำไปวัดหนองโพธิ์ จังหวัดนครสวรรค์เพื่อดูช้างหางด้วนและตัวท่านเองก็ไปร่ำเรียนวิชาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อเดิม และมีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่เด็กชายดำได้ติดตามหลวงปู่เกตุไปจนได้พบกับหลวงพ่อมาก วัดบางแก้ว จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อทัพ อินทโชติ หรือพระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี วัดทอง (วัดสุวรรณาราม) ธนบุรี เจ้าของพระปิดตาอันโด่งดัง หลวงพ่อมากท่านเกิดเอ็นดูเด็กชายดำจึงหยอกล้อโดยการนำมีดโกนหนวดเหน็บรักแร้ แล้วกระชากออกมาแรงๆให้เด็กชายดำดูหลายครั้ง แต่ปรากฏว่าคมมีดไม่สามารถบาดรักแร้สักนิด เหตุการณ์นี้ทำเอาเด็กชายดำเกิดความสนใจในวิชาคาถาอาคมขึ้นมาทันที เลยแอบลักจำมนต์ต่างๆจากหลวงปู่เกตุเรื่อยมา

     

แชร์หน้านี้

Loading...